หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 21

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 21

แม้บุญทันจะพยายามสะบัดหน้าฝืนความง่วง แต่ก็ยังหาวไม่หยุด
“ทำไมตาจะปิด นอนก่อนดีกว่า”
บุญทันล้มตัวลงนอนในชุดที่สวมอยู่
บุญทันยังนั่งอยู่ที่เดิมและพยายามทบทวนเหตุการณ์
“จากนั้นเราก็หลับสนิท”

ภาพของมณทกานต์ตบหน้าบุญทันผ่านเข้ามา
“แกนี่มันเลวจริง ๆ”
บุญทันกุมขมับคิดได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่ตกว่า เกิดเหตุการณ์เมื่อคืนได้อย่างไร
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมคุณเมย์ถึงมานอนห้องเราหรือว่าเธอจะเมาไม่รู้ตัว”

ภายในครัวบ้านของบ้าน ปารมียืนเหม่อจิบกาแฟ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
ปารมีเห็นว่า ธาวินอุ้มญาดาออกมาจากบ้านพักของบุญทัน
“บ้าจริง ไอ้ภูบดีดันมาช่วยมัน”
ปารมีเดินไปเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก เห็นบุญทันที่ยังหลับสนิทอยู่ ปารมีมองคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นกด
“ชั้นมีงานสำคัญให้แกทำ มาหาชั้นที่บ้านตอนนี้เลย”
ปารมีพูดกับคนปลายสายหลังจากนั้นก็วางสายไปทันที

ประตูบ้านของมณทกานต์ถูกเปิดออกในค่ำคืนที่เอนกกับอนุทินอยู่ที่งานเลี้ยง ชายชุดดำสองคนย่องเข้ามาขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องมณทกานต์ทันที ภายในห้อง มณทกานต์ยังหลับสติ ชายชุดดำคนหนึ่งเดินเข้าไปที่เตียงแล้วอุ้มมณทกานต์ออกไป

ปารมีนึกถึงเหตุการณ์แล้วก็ยิ้มอย่างสะใจ แม้จะผิดแผนที่วางไว้ แต่ก็ไม่ถือว่าล้มเหลวเสียทีเดียว
“เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับชั้น”
ปารมียกกาแฟขึ้นจิบ ปารมีรู้สึกเหมือนมีใครข้างหลังจึงหันขวับกลับไป ที่แท้คือ อนุทิน
“อ้าว พี่เอ เข้ามาทำไมเดี๋ยวใครก็เห็นหรอก” ปารมีพูด
“พี่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” อนุทินบอก
“เรื่องอะไรคะ” ปารมีพูดพลางตีหน้าซื่อ
“นี่ปายังไม่รู้อีกหรือว่า ผู้หญิงที่อยู่ในห้องไอ้บุญทันคือยัยเมย์ไม่ใช่เมียไอ้ภู”
ปารมีแกล้งทำเป็นตกใจ
“จริงหรือคะ ไหนพี่เอบอกว่าพี่เอเป็นคนอุ้มนังตาลไปที่ห้องไอ้บุญทันไงคะ”
“ก็ใช่สิ พี่อุ้มไปกับมือแต่ทำไมอยู่ๆตอนเช้ากลับกลายเป็นยัยเมย์”
“หรือว่ามีใครไปช่วยนังตาลออกมา”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่พี่ไม่เข้าใจก็คือยัยเมย์ไปอยู่ในห้องไอ้บุญทันได้ยังไง”
“ปาก็ไม่รู้สิคะ หรือว่าน้องสาวพี่เอไปหาบุญทันเอง”
คำพูดของปารมีทำให้อนุทินชะงักไป
“ปาก็ไม่อยากพูดหรอกนะคะ แต่ปาเคยเห็นเค้าสองคนท่าทางเหมือนสนิทกัน”
ยังไม่ทันจะคุยกันรู้เรื่อง เสียงนภาก็ดังแว่วเข้ามา
“ปา ...”
“ขาแม่”
ปารมีรับคำแล้วรีบหันไปบอกอนุทิน
“พี่เอออกไปก่อนเร็ว”
อนุทินรีบเดินออกไป นภาก้าวเดินลงมาจากบันได
“นี่มันกี่โมงแล้วลูก” นภาถามขึ้น
“จะเที่ยงแล้วค่ะ”
“จริงหรือ แย่จังทำไมวันนี้แม่ตื่นสายขนาดนี้”
“จะไม่สายได้ไงคะ เมื่อวานแม่แอบกินพันช์ที่ปาผสมเหล้าลงไป คงเมาน่ะสิคะเลยหลับสบาย”
“แต่แม่กินไปนิดเดียวเองนะไม่ถึงครึ่งแก้วด้วยซ้ำ ทำไมหลับได้ยาวขนาดนี้ยังกะกินยานอนหลับ” นภายืนยัน
“แม่เอากาแฟมั้ยคะ ปาชงให้”
“ไม่ล่ะจ้ะ แม่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะขึ้นไปตึกใหญ่ซะหน่อย”
นภากำลังจะเดินออกไปก็คิดได้แล้วถามปารมี
“เออ เมื่อกี้แม่ได้ยินเสียงเหมือนลูกคุยกับใคร”
“ไม่มีหรอกค่ะ หนูพูดโทรศัพท์น่ะ”
“แต่แม่ได้ยินเหมือนเสียงลูกคุยกับผู้ชายนะ”
“ไม่มีจริงๆค่ะ แม่คงหูแว่วมากกว่า”
นภาพยักหน้ารับรู้แล้วเดินกลับขึ้นไปข้างบน ปารมียกกาแฟขึ้นจิบด้วยแววตาอำมหิต

ธาวินนั่งอยู่ภายในห้องตรวจคนไข้ของโรงพยาบาลเมื่อตอนกลางวันก่อนที่หมอจะเปิดประตูเข้ามา
“ขอโทษทีครับคุณภูที่ให้รอ พอดีผมขึ้นไปดูคนไข้ที่วอร์ด” หมอพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ” ธาวินว่า
หมอเดินลงมานั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามธาวิน แฟ้มประวัติคนไข้ของธาวินวางอยู่ตรงหน้า
“เป็นไงบ้างครับ หลังจากไปดินเนอร์แล้วจำอะไรได้บ้างมั้ยครับ” หมอถามขึ้น
“จำได้นิดเดียวครับ”
“เรื่องอะไรครับ เล่าให้หมอฟังซิ”
“ผมเหมือนเห็นหน้าตาลที่ไหนซักแห่ง แต่เห็นแค่แว่บเดียวแล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย”
“จำได้นิดนึงก็ยังดีครับ แสดงว่าสมองส่วนความจำที่หายไปกำลังฟื้นตัว”
“หมายความว่าผมมีโอกาสกลับมาจำทุกอย่างได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่มั้ยครับ”
“หมอคิดว่าอย่างงั้นนะ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะครับ”
“เรื่องนี้หมอตอบไม่ได้ เพราะคนไข้บางคนก็ใช้เวลาเป็นปีหรือสองปี บางคนก็สามปี แต่มีบางคนอยู่ๆก็จำอะไรได้ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ”
“จริงหรือครับ ผมนึกว่าต้องถูกตีซ้ำหรือว่าช็อตสมองซะอีกถึงจะจำอะไรได้”
“นั่นมันในหนังครับ ถ้าเป็นเรื่องจริงหากถูกตีซ้ำสมองมันจะยิ่งบอบช้ำ”
“เฮ้อ ได้ยินหมอพูดแบบนี้ผมค่อยมีกำลังใจหน่อย”
“เรื่องแบบนี้ต้องใจเย็นครับ บทมันจะจำอะไรได้ขึ้นมามันก็ปิ๊งขึ้นมาครับ”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะครับ” ธาวินบอก
หมอนึกบางอย่างได้แล้วบอกกับธาวิน
“อ้อ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่คุณภูมาหาหมอ มีผู้ชายคนนึงมาถามหมอเรื่องคุณ”
“ใครหรือครับ”
“เค้าบอกว่าเค้าเป็นเพื่อนคุณอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ”
“เพื่อนผม”
“ใช่ แต่หมอไม่ได้บอกอะไรเค้าเพราะคุณปรารภสั่งไว้”
“ครับ”
ธาวินมีสีหน้าแปลกใจ

ญาดากำลังพูดโทรศัพท์อยู่มุมนึงบริเวณหน้าห้องคนไข้ของโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเครียด
“มีตำรวจไปหาเราที่บ้านหรือ”
ภายในบ่อน เจ๊อ้อยกำลังพูดโทรศัพท์กับญาดา
“ใช่ แม่โทรไปหาคุณพรร้านข้าวแกงปากซอย เค้าบอกว่าผัวเค้าไปเจอตำรวจที่มาบ้านเรา”
“แล้วมันมาทำไม”
“เค้าบอกว่าไม่รู้ มันมาถามหาเอ็งกับแม่ แม่ก็เลยรีบโทรบอกเอ็งให้ระวังตัว”
“จ้ะ แม่เองก็เหมือนกันนะ”
“เอ็งไม่ต้องห่วงแม่หรอก ไอ้เสกมันไม่ให้แม่ออกไปไหนอยู่แล้ว”
ญาดาเห็นธาวินเดินออกมาจากห้องหมอพอดี ญาดาจึงต้องพูดรีบตัดบทกับเจ๊อ้อยทันที
“แค่นี้ก่อนนะแม่ แล้วว่างๆหนูจะโทรไปหาใหม่”
ญาดาวางสายแล้วเดินเข้ามาหาธาวิน
“คุยกับใครอยู่”
“แม่น่ะค่ะ แกคิดถึงตาลก็เลยโทรมาหา เสร็จแล้วหรือคะ”
“จ้ะ”
“หมอว่าไงบ้างคะ”
“หมอบอกว่าผมมีโอกาสกลับมาจำทุกอย่างได้เหมือนเดิม”
ญาดามีสีหน้าผิดหวัง
“จริงหรือคะ”
ธาวินเห็นสีหน้าของญาดา
“ใช่จ้ะ ทำไมตาลทำหน้าเหมือนผิดหวัง”
ญาดานึกได้แล้วรีบปรับสีหน้าเป็นปกติ
“ เปล่าค่ะ ตาลจะผิดหวังได้ไง ตาลอยากให้คุณภูจำอะไรได้เร็วๆจะตาย แล้วหมอบอกรึเปล่าคะว่าจะจำได้เมื่อไหร่”
“หมอบอกว่าตอบไม่ได้ อาจจะปีสองปีหรือสามปีหรือไม่ก็พรุ่งนี้”
ญาดาตกใจแล้วโพล่งขึ้น
“พรุ่งนี้หรือคะ”
“ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นผมพูดเล่นหรอกน่ะ ถ้าผมจำได้พรุ่งนี้ล่ะก็ผมจะเลี้ยงฉลองให้ใหญ่เลยดีมั้ย”
“ค่ะ” ญาดาฝืนยิ้ม ธาวินจับมือมากุมไว้
“ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ผมหิวแล้ว ตาลอยากกินอะไร”
“แล้วแต่คุณภูสิคะ ตาลกินอะไรก็ได้”
ทั้งธาวินและญาดากำลังจะเดินออกไป

บริเวณทางเดินของโรงพยาบาล สารวัตรสมยศเดินเลี้ยวมาเจอกับธาวินและญาดาพอดี ญาดาสะดุ้งเฮือกด้วยความระแวง
“สวัสดีครับคุณภูบดี”
“สวัสดีครับสารวัตร”
“สวัสดีครับคุณตาล”
สารวัตรสมยศจงใจทัก ญาดาฝืนยิ้มอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ
“หวัดดีค่ะ”
“มาหาหมอหรือครับ” สารวัตรสมยศถามขึ้น
“ครับ”
“ใครเป็นอะไรไม่ทราบครับ” สารวัตรสมยศซัก
ธาวินเริ่มไม่ชอบใจที่ถูกสารวัตรสมยศสอดรู้สอดเห็น
“ทำไมหรือครับ”
“ผมก็ถามด้วยความเป็นห่วงน่ะครับ”
“ขอบคุณครับ เรามาตรวจสุขภาพ” ธาวินบอก
“นี่เรียบร้อยแล้วหรือครับ”
“ครับ”
“งั้นผมไม่กวนแล้วครับ พอดีผมนัดมาสอบปากคำเจ้าทุกข์”
ธาวินกับญาดาฝืนยิ้มแล้วขยับจะเดินออกไป สารวัตรสมยศเรียกไว้อีก
“อ้อ คุณตาลครับ”
ญาดาสะดุ้ง
“ คะ”
“ผมดูจากแฟ้มคดีที่คุณตาลให้ปากคำไว้ทราบว่า คุณแม่คุณตาลทำงานอยู่ไต้หวันหรือครับ”
“ค่ะ มีอะไรหรือคะ”
“ไม่มีอะไรครับ พอดีช่วงนี้ผมกำลังตามคดีเรื่องคนถูกหลอกไปทำงานที่ไต้หวัน บางทีผมอาจจะขอคุยกับคุณแม่คุณตาลหน่อยนะครับ เผื่อผมอาจจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม”
“ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“ไป”
ธาวินจูงมือญาดาเดินออกไป สารวัตรสมยศมองตามแล้วยิ้ม
“ให้ชั้นได้หลักฐานมากกว่านี้ก่อนเถอะ ชั้นจะกระชากหน้ากากเธอออกมา แม่น้ำตาลเชื่อม”

ในเวลาต่อมา ญาดากับธาวินนั่งกินอาหารอยู่ในร้าน ญาดานั่งเขี่ยอาหารในจานเพราะกำลังนึกถึงเรื่องสมยศอย่างกังวล ธาวินมองอย่างสังเกต
“ไม่อร่อยหรือ”
“เปล่าค่ะ พอดีตาลยังอิ่มๆอยู่”
“ผมรู้สึกไม่ถูกชะตากับสารวัตรสมยศเลย”
“ทำไมคะ”
“ผมไม่ชอบสายตาที่เค้ามองตาล เหมือนเค้าพยายามจะจับผิดอะไรตาล”
“เอ่อ คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ เค้าเป็นตำรวจก็คงติดนิสัยชอบมองคนไปในทางที่ไม่ดีไว้ก่อน”
“แต่ตาลเป็นเมียผมนะจะมีอะไรที่ไม่ดี เอาไว้ คราวหน้าผมเจอเค้าผมจะบอกเค้าเองว่าอย่ามาดูถูกตาลแบบนี้”
ญาดามองธาวินด้วยความรู้สึกประทับใจ เคลิ้มอินไปกับความรักที่ธาวินมีให้
“ขอบคุณนะคะที่คุณภูบดีกับตาลขนาดนี้”
“ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ตาลเป็นเมียผมผมก็ต้องปกป้องตาลสิ”
ญาดามองธาวินอย่างรู้สึกละอายใจ
“ถ้าสมมติวันนึงคุณภูรู้ว่าตาลเคยทำเรื่องไม่ดีไว้ คุณภูจะโกรธหรือเกลียดตาลมั้ย”
“เช่นเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็ เรื่องอะไรก็ได้ที่มันไม่ดี”
“ไม่หรอก ผมจะโกรธหรือเกลียดตาลได้ยังไงขนาดผมเป็นเกย์ ตาลยังไม่ทิ้งผมไป ฉะนั้นจะไม่มีอะไรมาทำให้ผมเปลี่ยนใจเลิกรักตาลได้หรอก”
ธาวินยิ้มให้อย่างจริงใจ ญาดารู้สึกแย่มากกว่าเดิมแต่ยังฝืนยิ้มให้ ธาวินยกแก้วขึ้นชน

สมยศขับรถเข้ามาจอดในที่เปลี่ยว ไอ้ปื๊ดสายตำรวจวัย30 เดินเข้ามาหาแล้วเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งคู่
“หวัดดีครับ สารวัตร”
“เออ เป็นไง ได้เรื่องมั้ย”
“มีคนเห็นผู้หญิงชื่อเจ๊อ้อยอยู่ในบ่อนแถวบางนนท์”
“บ่อนใคร”
“ของใครไม่รู้ครับรู้แต่ว่าคนคุมชื่อเฮียเสก”
“ข้าไปได้มั้ย”
“ผมน่ะเข้าได้ แต่ถ้าสารวัตรจะเข้าไปจับคงยากครับ เพราะเท่าที่รู้บ่อนนี้มันมีแบล็คใหญ่”
“ชั้นไม่ได้เข้าไปจับ ชั้นแค่ต้องการตัวเจ๊อ้อย”
“งั้นก็ไม่น่ามีปัญหาครับ”

ภายในบ่อย เสกนั่งดูปฏิทิน ส่วนลูกน้องนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“ไอ้หมู”
“ครับเฮียเสก”
“ไอ้แป๊ะมันนัดจะใช้หนี้เราเมื่อไหร่นะ”
“อาทิตย์หน้าครับ”
เสกดูปฎิทินแล้วเอาปากกาแดงวงกลมไปบนวันที่ 25 เจ๊อ้อยเดินมาเคาะประตูก่อนจะเดินเข้ามา
“เอานี่ เฮียเสกโอเลี้ยงของเฮีย”
“นี่เจ๊อ้อย ลูกสาวส่งข่าวบ้างรึเปล่าว่าจะเอาเงินมาใช้หนี้ได้เมื่อไหร่”
“เห็นว่าไม่เกินเดือนหน้านี้แหละ” เจ๊อ้อยว่า
“อย่าให้เกินนะ ถ้าเกินล่ะก็ชั้นจะตัดนิ้วเจ๊อ้อยวันล่ะนิ้ว”
เสกพูดแล้วก็เอามีดทำท่าหั่นนิ้วข่มขู่ เจ๊อ้อยสะดุ้ง
“รู้แล้วน่ะ”
เจ๊อ้อยรีบหันเดินออกแต่แอบด่าพึมพำ
“ไอ้โหด”
“บ่นอะไร”
“เปล่า ชั้นบอกว่าไม่โกรธ”
เจ๊อ้อยเปิดประตูออกไป หมูหันมาถามเสก
“ถ้าลูกสาวเจ๊อ้อยแกหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ล่ะเฮีย”
“ถ้าไม่ได้ กูก็ต้องเอามาทำงานขัดดอกทั้งลูกทั้งแม่ คนลูกก็ส่งให้นาย ส่วนนังแม่ก็ส่งไปชายแดน”

สารวัตรสมยศกับปื๊ดในชุดนอกเครื่องแบบเข้าบ่อนมาในฐานะนักเล่นการพนัน

“อยู่แถวนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปแลกชิฟก่อน” ปื้ดบอก
“อืมม์”
ปื๊ดเดินออกไปแลกชิฟ ขณะที่สมยศมองอย่างสังเกตไปรอบๆบริเวณบ่อนที่มีคนเล่นพนันอยู่ตามโต๊ะ สมยศมองไปที่เคาน์เตอร์ก็ชะงักไป เมื่อเห็นเจ๊อ้อยยืนเช็ดเคาน์เตอร์อยู่ สมยศหยิบรูปเจ๊อ้อยขึ้นมาแอบดู
“ใช่จริงๆด้วย”
สมยศไม่รอช้าเดินเข้าไปหาเจ๊อ้อยที่ยืนหันหลังให้อยู่ในทันที
“เจ๊อ้อย”
“จะดื่มอะไรคะ สั่งได้เลยค่ะ”
เจ๊อ้อยพูดขณะที่ยังไม่ได้หันหน้ามา
“ชั้นมีเรื่องอยากคุยด้วย”
เจ๊อ้อยหันหน้ากลับมามอง เห็นสมยศยืนอยู่
“มีอะไรคะ”
“ออกไปคุยกันข้างนอกได้มั้ย” สารวัตรสมยศถาม
“นี่คุณ ชั้นไม่ได้ขายบริการทางเพศนะคะ ถ้าจะซื้อบริการต้องขึ้นลิฟต์ไปชั้นสี่ค่ะ เค้ามีห้องพร้อม”

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 21

ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th