หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 11

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 11

“เปล่า ปู่ว่าบุญทันมันก็ปกติดี ไป กินข้าวกันเถอะ”
พิพัฒน์เดินกอดมณทกานต์เข้าไปในห้องอาหารของบ้าน

บนโต๊ะอาหารเช้า พิพัฒน์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ธาวินกับญาดานั่งคู่ติดพิพัฒน์ ปารมีกับนภานั่งถัดมา ส่วนมณทกานต์นั่งอีกฝั่งติดพิพัฒน์ ส่วนเอนกและอนุทินนั่งลำดับถัดไป



“บ้านวริทธิวรนันท์ขอต้อนรับพี่ภูกับพี่ตาลค่ะ” มณทกานต์พูดขึ้น
“ขอบใจจ้ะ” ธาวินบอก
“ดีใจด้วยนะคะพี่ตาลที่มีสามีหล่อๆอย่างพี่ภู”
“ที่พูดเนี่ยออกมาจากใจจริงรึเปล่ายัยเมย์” นภาถามขึ้น
“ทำไมคะ”
“อ้าว ป้าคิดว่าเธอควรจะเสียใจมากกว่านะที่คุณภูแต่งงานแล้ว”
ญาดากับธาวินมองหน้ากันอย่างงงๆ
“ชั้นว่าเธออย่าพูดแทนลูกสาวเลยนภา คนที่เสียใจน่าจะเป็นยัยปามากกว่าเพราะยัยเมย์ก็บอกแล้วว่าไม่อยากแต่งกับนายภู” เอนกพูดขัด
“ทำไมคุณลุงเอนกพูดอย่างนี้ล่ะคะ ปาไม่ได้คิดอะไรนะคะคุณปู่” ปารมีบอก
“เอาล่ะพอได้แล้ว จะพูดอะไรก็เกรงใจหลานชายกับหลานสะใภ้ชั้นบ้าง” พิพัฒน์พูดตัดบท
“ขอโทษนะครับคุณปู่พูดเรื่องอะไรกันหรือครับ ขอผมรู้ด้วยคน” ธาวินถามขึ้น
“ตอนแรกคุณปู่เค้าตั้งใจจะจับให้นายแต่งงานกับยัยเมย์หรือไม่ก็ยัยปา แต่นายดันมีเมียมาด้วย เลยผิดแผน” อนุทินพูดขึ้น
“จริงหรือคะคุณปู่ ตาลขอโทษด้วยตาลไม่ทราบ” ญาดาบอก
“จะมาขอโทษทำไม มันเป็นเรื่องที่ปู่คิดเล่น ๆ ขึ้นมา อย่าไปซีเรียส ถ้าเจ้าภูมันรักหนู ปู่จะไปห้ามมันได้ยังไงจริงมั้ยภู” พิพัฒน์บอก
“ใช่ครับ คุณปู่”
“พี่ภูกับพี่ตาลนี่น่ารักจังเลย ขอถ่ายรูปไปลงเฟซบุ๊กหน่อยนะคะ”
มณทกานต์หยิบมือถือขึ้นมากดถ่ายรูปธาวินกับญาดาที่กำลังยิ้มให้กล้อง ปารมีมองอย่างไม่พอใจ

หลังอาหารเช้า ญาดากับธาวินเดินกลับเข้ามาในห้อง ญาดาพูดขึ้น
“ท่าทางคุณป้านภากับคุณอาเอนกจะไม่ถูกกันนะคะ”
“นั่นสิ เห็นพูดอะไรก็ไม่ถูกหูกันซักเรื่อง”
“แล้วเค้าเป็นญาติสายไหนของคุณภูคะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตาลลืมไปแล้วหรือว่าผมสมองเสื่อม”
“เออ ใช่ ตาลลืมไป แต่น้องเมย์กับคุณปาก็น่ารักดีนะคะ ถ้าคุณปู่ให้เลือกระหว่างสองคนนี้ คุณภูจะเลือกใคร”
“ไม่เลือกเลย”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“ผมจะเลือกทำไม ผมมีตาลอยู่แล้วทั้งคน”
ธาวินเข้ามาโอบหลังญาดาไว้ ญาดาพยายามแกะมือตามเคย
“ปล่อยค่ะ ตาลบอกแล้วไงว่าห้ามมาแตะต้องตัวตาล”
“แต่ผมคิดว่าผมรักตาลจริงๆนะ เมื่อคืนผมนอนคิดทั้งคืน ผมว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชายแล้วล่ะ” ธาวินจะหอมแก้ม ญาดารีบหลบทันที
“แต่ตาลยังทำใจไม่ได้ค่ะ”
ญาดาดันอกธาวินออกไปทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น ญาดากับธาวินชะงักไป
“เข้ามา”
ต้นหอมเดินเข้ามาแล้วบอกว่า
“มีตำรวจมาขอพบคุณภูค่ะ”
“พบชั้น เรื่องอะไร”
“เค้าบอกว่าจะมาสอบปากคำเรื่องที่คุณภูโดนจี้น่ะค่ะ”
“อืมม์ เดี๋ยวชั้นลงไป”
เมื่อต้นหอมเดินออกจากห้องไป ธาวินหันมองหน้าญาดาด้วยแววกังวล
“บอกเค้าไปเหมือนที่ตาลเล่าให้คุณฟัง”
ธาวินพยักหน้า

ภายในห้องรับแขกที่ชั้นล่าง สารวัตรสมยศพูดคุยอยู่กับพิพัฒน์

“ผมได้รับมอบหมายให้มาตามคดีที่คุณภูบดีถูกจี้น่ะครับ”
“ดี ฝากคุณช่วยตามหาคนร้ายด้วยนะ”
“ครับ ส่วนคดีของท่านผมกำลังให้สายออกตามหาข่าวมือปืนอยู่นะครับ”
“ขอบใจมาก”
ธาวินกับญาดาเดินลงมาจากชั้นบน
“เจ้าภูหนูตาลนี่สารวัตรสมยศ เค้าจะมาช่วยตามคดีที่แกถูกจี้” พิพัฒน์แนะนำ
“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”
ธาวินกับญาดาลงนั่งที่เก้าอี้
“งั้นก็คุยกันตามสบาย ชั้นขอตัวล่ะสารวัตร” พิพัฒน์บอก
“ครับท่าน”
พิพัฒน์เดินออกจากห้องรับแขกไป สารวัตรสมยศหันมามองหน้าญาดาอย่างสำรวจ
“คุณผู้หญิงคงเป็นภรรยาคุณภูบดี”
“ใช่ค่ะ”
“เท่าที่ผมได้สำนวนมาคุณผู้หญิงให้ปากคำว่าเพิ่งแต่งงานกับคุณภูบดีได้ไม่กี่วันก็ถูกจี้”
“ใช่ค่ะ”
“ที่จริงผมมีสำนวนที่คุณผู้หญิงให้ปากคำไว้แล้ว แต่ผมอยากขอถามอะไรคุณภูซักสองสามคำครับ”
“เชิญเลยค่ะ”
“ต้องขอประทานโทษด้วยครับ เชิญคุณผู้หญิงรอข้างนอกซักครู่”
“แต่เธอเป็นภรรยาผมนะ ผมอยากให้เธออยู่ฟังด้วย” ธาวินบอก
“แต่นี่เป็นความลับของราชการครับ ผมต้องคุยกับคุณภูสองคน”
สารวัตรสมยศผายมือให้ ญาดาจำใจต้องเดินออกไป
“เชิญครับ”

ญาดาออกมาที่หน้าห้องรับแขก รีบกดโทรศัพท์ทันที
“คุณปรารภอยู่ไหนคะ”
ปรารภกำลังขับรถอยู่และพูดคุยกับญาดาที่โทร. เข้ามา
“ผมกำลังจะไปหาคุณภูกับคุณตาลครับ”
“รีบมาด่วนเลยนะคะ มีตำรวจมาสอบปากคำคุณภู ตาลกลัวว่าเค้าจะจับได้ว่าคุณภูสมองเสื่อม”
“ได้ครับ ผมจะรีบไป”
หลังวางโทรศัพท์ ญาดาชะเง้อมองเข้าไปในห้องอย่างกระวนกระวายใจ

ในห้องรับแขก สารวัตรสมยศกำลังซักถามธาวิน
“ผมทราบว่าคุณภูบดีเพิ่งพบกับคุณตาลได้ไม่นานก็แต่งงาน”
“ใช่ครับ”
“ทำไมถึงตัดสินใจเร็วนักล่ะครับ”
“ก็ผมรักเธอ”
“แล้วตอนที่รักกันคุณตาลทราบมาก่อนมั้ยครับว่าคุณเป็นทายาทของตระกูลวริทธิวรนันท์”
“เดี๋ยวนะครับ ผมว่าคำถามของคุณมันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผมโดนจี้นะครับ”
“มันเป็นข้อมูลที่ผมต้องเอาไปวิเคราะห์ครับ เพราะคุณเป็นทายาทมรดกพันล้าน บางทีการโดนจี้ของคุณอาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
“คุณหมายถึงมีคนคิดฆ่าผมเพื่อชิงมรดกงั้นหรือ”
“มันก็เป็นไปได้หมดล่ะครับ คุณยังไม่ได้ตอบผมเลยว่าคุณตาลทราบรึเปล่าว่าคุณเป็นทายาทพันล้าน”
“ตาลเค้าไม่รู้หรอกครับ หรือถึงเค้าจะรู้ผมก็เชื่อว่าเค้าไม่สนใจเงินทองของผมหรอก”
“ดูคุณภูจะรักและเชื่อใจคุณตาลมากนะครับ”
ธาวินชักไม่พอใจสารวัตรสมยศ
“คุณมีอะไรจะถามอีกมั้ยครับ ถ้าไม่มีผมต้องขอพักผ่อน ผมปวดหัว” ธาวินตัดบท
“ขอถามอีกสองสามข้อครับ”

ญาดาชะเง้อมองเข้าไปในห้องยังเห็นสารวัตรสมยศซักถามธาวินอยู่ สีหน้าของญาดามีแววกังวล ปรารภเดินเข้ามาพอดี
“เค้าสอบปากคำไปถึงไหนแล้ว”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เค้าไม่ยอมให้ตาลอยู่ด้วย”
“ไม่เป็นไรเข้าไปกับผม”
ปรารภเดินตามญาดาเข้าไปในห้อง

“แล้วคุณภูพอจะจำหน้าคนร้ายได้บ้างมั้ยครับ” สารวัตรสมยศซักต่อ
“จำไม่ได้เลยครับ รู้แต่ว่ามันมากันหลายคนแล้วตรงนั้นมันก็ค่อนข้างมืดด้วย”
ปรารภเดินนำญาดาเข้ามา สารวัตรสมยศหันไปมอง ปรารภทักทาย
“สวัสดีครับสารวัตร”
“สวัสดีครับ คุณปรารภ”
“ถ้าครั้งต่อไปสารวัตรต้องการสอบปากคำคุณภูรบกวนโทรบอกผมก่อนนะครับ เพราะคุณภูไม่ค่อยสบาย อาจจะยังไม่สะดวกในการพูดคุย”
“ครับ ขอโทษด้วย บังเอิญผมจะรีบตามคดีให้”
“แล้วเป็นไงครับเรียบร้อยมั้ย”
“เรียบร้อยแล้วครับ คุณภูให้การตรงกับคุณตาลทุกอย่าง งั้นผมลาล่ะครับคุณภู”
สารวัตรสมยศลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องรับแขก
“เค้าถามอะไรคุณบ้าง”
“ถามเรื่องเลอะเทอะ”
“เลอะเทอะยังไงครับ” ปรารภถาม
“ก็ถามว่าทำไมผมถึงรักตาล ทำไมรีบแต่งงานเหมือนเค้าไม่เชื่อว่าเรารักกัน”
ญาดาสะดุ้งทันที
“ตำรวจก็อย่างนี้แหละครับชอบสอดเรื่องชาวบ้าน” ปรารภบอก
ทั้งปรารภกับธาวินหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ญาดาต้องฝืนหัวเราะไปด้วย แต่ในใจเริ่มหวั่นกลัว

บุญทันเดินเลี้ยวมาเห็นปารมียืนลับๆล่อๆอยู่ที่หน้าบ้าน เมื่อสารวัตรสมยศเดินออกมา ปารมีก็รีบเดินเข้าไปหาทันที บุญทันชะงัก เอะใจที่เห็นสารวัตรสมยศพูดอะไรกับปารมี ปารมีพยักหน้ารับฟัง จากนั้นสารวัตรสมยศก็ขอตัวเดินแยกไป บุญทันมองตามสารวัตรสมยศและปารมีอย่างฉงนสงสัย ดูเหมือนทั้งสองเหมือนมีลับลมคมในกันอยู่
ทันทีที่บุญทันหันกลับมาก็เจอกับสายตาของมณทกานต์ยืนมองอยู่
“ทำอะไร ดูลับๆล่อๆ”
“เปล่าครับ”
“เปล่าอะไร ก็ชั้นเห็นอยู่ว่านายแอบดูยัยปากับสารวัตรสมยศ”
“คุณเมย์คงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะครับ ผมไม่ได้แอบดู บังเอิญผมจะเดินไปด้านนั้นแต่เห็นคุณปารมีคุยกับตำรวจผมก็เลยไม่อยากเดินไป” บุญทันพูดแก้ตัว
“งั้นก็แสดงว่านายมีความผิดอะไรปกปิดอยู่ ถึงไม่กล้าเจอตำรวจ”
“เปล่าครับ ไม่มี”
“ชั้นไม่เชื่อ”
“ก็ตามใจครับเรื่องของคุณเมย์”
บุญทันจะเดินหนีไป
“เดี๋ยว”
“มีอะไรครับ”
“รถชั้นสตาร์ทไม่ติด นายซ่อมรถเป็นรึเปล่า”
“ก็พอได้ครับ”
“งั้นก็ไปดูให้หน่อย”
บุญทันเดินตามมณทกานต์แล้วส่ายหน้าอย่างระอากับนิสัยลูกคุณหนู

บริเวณหน้าบ้าน มณทกานต์ยื่นส่งกุญแจรถให้ บุญทันลองสตาร์ทดูแต่ไม่ติด บุญทันเดินไปเปิดฝากระโปรงรถดู ลองขยับสายต่างๆ มณทกานต์ยืนมอง บุญทันลองสตาร์ทอีกทีก็ไม่ติดอีกตามเคย
“ว่าไง”
“สงสัยไดสตาร์ทจะเสียน่ะครับ เรียกให้ช่างมาดูดีกว่าครับ”
มณทกานต์อารมณ์เสียทันที
“ฮึ่ย ทำไม่ได้ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก เสียเวลา”
“อ้าว ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะครับ”
“ก็มันจริงนี่ ถ้านายบอกชั้นตั้งแต่แรกว่าซ่อมไม่เป็น ชั้นก็โทรเรียกช่างแล้ว ไม่ต้องมาเสียเวลารอ ดูซิชั้นมีธุระสำคัญด้วย”
“ให้ผมขับรถไปส่งมั้ยครับ”
มณทกานต์มองหน้าบุญทัน
“วันนี้คุณท่านไม่ใช้รถ ผมไปส่งคุณเมย์ได้”
“ก็ดีเหมือนกัน รอเดี๋ยว”
มณทกานต์เดินเข้าบ้านไปเอากระเป๋า บุญทันมองตามแล้วนึกขำ

ภายในรถ บุญทันมองผ่านกระจก เห็นมณทกานต์นั่งสวยอยู่ที่เบาะหลัง บุญทันมองยิ้ม มณทกานต์เห็นเข้าพอดี
“มองอะไร”
“อ๋อ ผมจะถามว่าคุณเมย์จะไปธุระที่ไหนครับ ผมจะได้ขับไปถูก”
บุญทันยิ้มให้แต่มณทกานต์ทำเมินซะอย่างนั้น

ที่ร้านเสื้อผ้าภายในห้างสรรพสินค้า มณทกานต์เดินออกมาพร้อมถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ ขณะที่บุญทันซึ่งยืนรออยู่นั้นหิ้วถุงชอปปิ้งพะรุงพะรังอยู่ 3-4 ใบ มณทกานต์เดินมาส่งถุงเสื้อให้อีกใบ
“เอา”
“นี่หรือครับธุระของคุณเมย์ที่บอกว่าสำคัญมาก”
“ก็ใช่สิ ทำไม”
“แต่นี่คุณมาชอปปิ้งนะครับ ผมนึกว่าคุณจะไปพบใครหรือทำอะไรที่มันมีสาระกว่านี้”
“ก็นี่แหละสาระของชั้น ชั้นมาซื้อเสื้อผ้าก็เพื่อจะเตรียมตัวไปทำงานที่บริษัทคุณปู่”
“ผมว่าถ้าแต่งตัวสวยแต่ไม่มีสมอง มันก็ไม่มีประโยชน์นะครับ”
“นี่นายด่าชั้นหรือ”
“ผมไม่ได้ด่าครับ ผมแค่จะบอกว่าถ้าคุณเมย์ตั้งใจทำงานจริงเหมือนคุณปารมี ไม่ต้องสวยมากก็มีคุณค่าแล้วนะครับ”
มณทกานต์โกรธจี๊ดขึ้นทันทีที่ถูกยกไปเปรียบเทียบกับปารมี
“หุบปากไปเลยนะ นายเป็นแค่คนขับรถ อย่ามาออกความเห็นเรื่องของชั้น แล้วจำไว้อย่ามาเปรียบชั้นกับยัยปารมี”
บุญทันได้แต่ถอนใจแล้วเดินตามไปมณทกานต์ที่สะบัดก้นเดินนำไปล่วงหน้า
บุญทันได้แต่เดินตามมองมณทกานต์ที่สีหน้าบึ้งตึงอยู่ในห้าง

“คุณเมย์โกรธผมหรือครับ”
มณทกานต์มองหน้านิ่ง
“สำคัญตัวผิดรึเปล่า นายเป็นแค่คนขับรถ ชั้นไม่สนใจคำพูดนายหรอก อ้อ แล้วนายก็กลับบ้านไปได้เลยเดี๋ยวชั้นกลับเอง”
“เอ่อ คุณเมย์ครับ”
“ชั้นบอกว่าเดี๋ยวชั้นกลับเอง”
“ผมจะบอกว่าถ้าอย่างงั้นคุณเมย์ก็เอาของของคุณเมย์ไปด้วยครับ”
บุญทันส่งถุงของให้ มณทานต์ยิ่งชักสีหน้าโกรธขึ้ง
“เอาไปสิครับ”
มณทกานต์กระชากดึงของมาจากบุญทัน บุญทันหันหลังเดินไป มณทกานต์มองตามแล้วตัดสินใจเดินตาม
“บุญทัน”
“ครับ”
“นายเอาของพวกนี้กลับไปให้ชั้นที่บ้าน”
มณทกานต์โยนถุงชอปปิ้งที่ถืออยู่ลงจนเกลื่อนพื้นแล้วกำลังเดินออกไปอย่างไม่สนใจ บุญทันมองด้วยสายตาโกรธ
“คุณเมย์ผมว่าคุณชักจะมากไปแล้วนะ”
“มากอะไร นายเป็นคนขับรถเป็นคนรับใช้ ชั้นสั่งอะไรนายก็ต้องทำ ถ้าไม่อยากทำก็ออกไป”
บุญทันพยายามกลั้นอารมณ์โกรธอย่างเต็มที่
“ว่าไง ถ้าไม่ทำก็ออกไป”
บุญทันก้มลงเก็บถุงด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย มณทกานต์ยิ้มเยาะ
“ให้มันรู้บ้างว่าเล่นกับใคร”

ภายในห้องพักแบบรายวันของโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งไม่ใช่โรงแรมม่านรูด ปารมีเดินออกมาจากลิฟต์อย่างระมัดระวัง มองซ้ายขวาแล้วเดินไปหยุดที่ห้องห้องหนึ่ง ปารมีเคาะประตู แล้วประตูก็ถูกเปิดออก ปารมีก้าวเข้าไปทันที

อนุทินเข้าไปกอดหอมฟัดปารมีทันที
“คิดถึงจังเลย”
“หืมม์ อะไรคะพี่เอทำเหมือนไม่เคยเจอกัน”
“เจอแต่หน้าไม่ได้จูบไม่ได้กอดจะมีประโยชน์อะไร”
อนุทินจะเข้ามาจูบอีก แต่ปารมีดันหน้าไว้
“เดี๋ยวค่ะ ปามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วย”
“เดี๋ยวค่อยคุยได้มั้ยให้พี่ชื่นใจปาก่อน”
“ไม่ได้ค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องพี่ภูกับเมียเค้าน่ะค่ะ ปาว่าท่าทางท่าทางคุณปู่จะรักแล้วก็หลงพี่ภูกับหลานสะใภ้มาก”
อนุทินสะกิดใจขึ้นทันที
“ก็ใช่สิ ไอ้ภูมันเป็นหลานโดยสายเลือดนี่”
“แต่ปาว่าคุณปู่ทำไม่ถูก พี่เอคิดดูนะคะ พี่เออยู่ใกล้ชิดคุณปู่มาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งรับใช้ดูแลทำงานให้คุณปู่เยอะแยะ พอหลานชายมาคุณปู่ก็ลืมพี่เอเลย”
อนุทินคล้อยตามคำพูดของปารมีแต่พยายามไม่แสดงความรู้สึก
“ถ้าเป็นแบบนี้ปาว่าพี่เอต้องไม่ได้อะไรจากมรดกคุณปู่ซักสลึง” ปารมีพูดแทงใจดำทันที
“คุณปู่คงไม่ทำอย่างงั้นหรอก อย่างน้อยท่านก็ต้องแบ่งบางส่วนให้พี่บ้าง”
“แต่พี่เออย่าลืมนะคะ บางส่วนที่พี่เอว่ามันเทียบไม่ได้กับมรดกทั้งหมดของคุณปู่”
อนุทินชะงักไปแล้วมองหน้าปารมี
“มรดกเป็นพันล้านนะคะ แล้วปาก็คิดว่ามันควรจะเป็นของพี่เอแต่เพียงผู้เดียว” ปารมีพูดต่อ
“แต่ถ้าคุณปู่ไม่ให้พี่ พี่จะไปทำอะไรได้”
“ได้สิคะ ถ้าเราร่วมมือกัน”
“ร่วมมือยังไง”
“เราก็ต้องหาทางกำจัดพี่ภูกับเมียออกไป”
อนุทินมองหน้าปารมีอย่างลังเล ปารมีเข้ามาแกะกระดุมเสื้อของอนุทินออก ส่งสายตาเชิญชวน อนุทินดึงปารมีลงบนเตียง

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 11
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th