หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 3

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 3

ภายในบ้านเช่าของญาดา ขณะที่เจ๊อ้อยนั่งกินข้าวอยู่ ญาดาก็เดินเข้ามาพอดี
“แม่เดี๋ยววันนี้หนูจะเอาของไปขายแล้วหนูจะพาแม่ไปดูตึกแถวที่จองไว้นะ”
“ตึกแถวอะไร”
“อ้าว ก็ตึกแถวที่เราจะทำร้านเบเกอรี่กันไง หลังจากที่เราเอาเงินไปใช้หนี้แล้ว หนูก็จะเอาส่วนที่เหลือไปมัดจำตึกเค้า ฝันของเราใกล้จะเป็นจริงแล้วนะแม่”


“ฝันของเอ็งคนเดียวล่ะสิ”
“แต่แม่สัญญากับหนูแล้วนะว่าเราจะเลิกอาชีพต้มตุ๋นแบบนี้”
“ข้ามาคิดๆดู ข้าว่างานแบบนี้มันก็ได้เงินง่าย ๆ นะ”
“แต่มันบาปนะแม่ ที่หนูยอมร่วมมือกับแม่เพราะหนูแค่อยากหาเงินมาใช้หนี้ให้หมดเท่านั้น แล้ว
ตอนนี้เราก็มีเงินมากพอที่จะเคลียร์หนี้ได้แล้ว เราจะได้ทำมาหากินสุจริตซะที”
“แต่ข้าไม่อยาก..”
“ไม่มีแต่ เพราะหนูจะไม่ร่วมมือกับแม่อีกแล้ว ถ้าแม่อยากทำแม่ก็ทำคนเดียว”
ญาดาพูดแล้วก็เดินออกไปปล่อยให้ เจ๊อ้อยมองค้อนตามหลัง
“นังลูกคนนี้ งานง่ายๆเบาๆไม่อยากทำ อยากทำงานหนัก”

เวลากลางวัน ธาวินนั่งจิบกาแฟอยู่ในโรงแรมที่พัก พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่ญาดามานั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม ...
“นี่คุณตาบอดหรือ ถึงเห็นผมเป็นพนักงานเสิร์ฟ”
“เอ่อ ชั้น ชั้นขอโทษค่ะ”
“รู้มั้ยครับว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
ธาวินวินถอดแว่นตาของตาลออก ตาลทำเป็นตาบอดมองนิ่งไปเบื้องหน้า
“คุณอย่าหลอกให้ชั้นดีใจเลยค่ะ”
“ผมพูดจริงนะครับ ตาคุณสวยมาก จมูก ปากคุณก็สวย คุณสวยจนผม ...”
ธาวินเคลื่อนใบหน้าเข้ามาหาเหมือนจะจูบ ญาดาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของธาวินช้าๆ ลูบไล้จากตาผ่านจมูกจนถึงริมฝีปาก ธาวินจะเคลื่อนไปจูบแล้วสลบไป

ธาวินจิบกาแฟด้วยความแค้นใจในตัวเอง
“เราจะไปตามหายัยแสบนี่ได้ที่ไหนวะ”
ธาวินวินยกกาแฟดื่มอย่างครุ่นคิด

ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ญาดาเดินขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเดินเลี้ยวทางแผนกซื้อขายมือถือ
ญาดาเดินเข้ามาที่ร้านรับซื้อโทรศัพท์มือถือ ญาดาหยิบโทรศัพท์กับไอแพดออกมาจากกระเป๋า
“พี่ ถ้าจะขายไอโฟนกับไอแพดนี่ให้เท่าไหร่”
ญาดาส่งของให้เจ้าของร้านดู
“ขโมยมารึเปล่า” เจ้าของร้านถามขึ้น
“เปล่า ของชั้นเอง”
“สองอย่างให้สองหมื่นห้าแล้วกัน”
“สามหมื่นไม่ได้หรือ”
“ได้แค่สองหมื่นห้า”
“ก็ได้”
เจ้าของร้านส่งเงินให้ตามที่ตกลงกันไว้ ญาดารีบเดินออกไป
ขณะนั้น ธาวินเดินมาหยุดที่หน้าร้านที่ญาดาเอาของมาปล่อย พลางพึมพำว่า
“ขอให้ยัยแสบเอาของมาปล่อยที่นี่เถอะ”
ธาวินเหลียวซ้ายแลขวาก็ชะงักทันที่เห็นญาดากำลังเดินดูของอย่างเพลิดเพลิน วินเดินแสยะยิ้มเข้าไปหาทันที

ธาวินเดินจนถึงตัวของญาดาที่เลือกดูของอยู่ ธาวินคว้ามือของญาดาจากด้านหลัง ญาดากันไปมองก็ตะลึงด้วยความตกใจ
“คุณ ...”
“วันนี้ตาไม่บอดแล้วหรือ” ธาวินใส่ทันที
“คุณพูดอะไร ปล่อยชั้นนะ ชั้นไม่รู้จักคุณ”
“เอาของของชั้นคืนมาให้หมด”
“ของอะไร อย่ามามั่วนะ”
ญาดาอาศัยความฉับไวด้วยการเอานิ้วจิ้มลูกตาธาวินทันที
“โอ๊ย ..” ธาวินร้อง ญาดารีบสะบัดมือที่ธาวินจับอยู่จนหลุดและวิ่งหนีออกไปทันที
“อย่าหนีนะ”
ธาวินร้องเสียงดังแล้วรีบวิ่งตามไปทันที

ญาดาวิ่งเลี้ยวลงบันไดเลื่อนของห้างสรรพสินค้า โดยมีธาวินวิ่งตามไปติดๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ชั้นบอกให้หยุด”
บรรดาผู้คนภายในห้าง มองตามอย่างงๆ ญาดาวิ่งเลี้ยวมาเจอรปภ. 2 คนที่วิ่งออกมาขวางทางไว้
“มีเรื่องอะไรกันครับ”
ญาดารีบแก้สถานการณ์ทันที
“ช่วยด้วยค่ะ ผู้ชายคนนั้นเค้าจะปล้ำชั้น”
“ปล้ำหรือครับ”
“ใช่ค่ะ มันเป็นโรคจิต มันเอาไอ้นั่นออกมาโชว์ด้วย”
ธาวินวิ่งเข้ามา รปภ.วิ่งถือกระบองวิ่งเข้าไปขวางธาวินไว้ ญาดาสบโอกาสหันวิ่งหนีไปในทันที
“หยุดนะไอ้โรคจิต” รปภ. บอก
“จับผู้หญิงคนนั้นก่อน อย่าให้หนีไปได้” ธาวินบอก
ธาวินจะวิ่งสวนไป แต่รปภ. 2 คนเข้าไปรุมฟาดทันที
“โอ๊ย นี่ตีผมทำไม”
“หนอย ไอ้โรคจิตยังกล้าถามอีกหรือว่าตีทำไม ไป ไป เอาตัวมันไปโรงพัก”
รปภ. พยายามเข้ามาล็อกตัวธาวินไว้
“เฮ้ย ผมไม่ได้เป็นโรคจิตนะ ฟังผมก่อน ผู้หญิงคนนั้นขโมยของของผมไป”
“ว่าอะไรนะ”
“ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นสิบแปดมงกุฎ มันมอมยาผมแล้วก็รูดทรัพย์ไป”
“จริงหรือ”
“ก็จริงสิ ผมจะโกหกทำไม”
“ผมขอโทษด้วยครับ”
รปภ. รีบปล่อยตัวธาวินพลางยกมือไหว้
“พวกคุณนี่บ้าจริงๆเลย หน้าตาอย่างผมเนี่ยหรือจะเป็นโรคจิต ดูซิ มันเลยหนีรอดไปได้”
ธาวินทั้งหงุดหงิดและหัวเสีย

ในเวลาต่อมา มอเตอร์ไซค์รับจ้างขี่เข้ามาจอดหน้าบ้านเช่า ญาดากระโดดลงแล้วจ่ายเงินให้หนึ่งร้อยบาททันทีโดยไม่รอเงินทอน ญาดาวิ่งเข้าบ้านทันที
ภายในบ้าน เจ๊อ้อยกำลังนอนหลับพักสายตา ญาดาเปิดประตูพรวดเข้ามาแล้วส่งเสียงเรียก
“แม่”
เจ๊อ้อยสะดุ้งตื่นทันที
“ไอ้ตาล ทำไมเสียงดังนักวะ แม่กำลังฝันถึงเลขเด็ดตกใจหมด”
“แม่รู้มั้ยว่าชั้นไปเจอใครมา”
“ใคร อย่าบอกนะว่าเจอพ่อเอ็ง”
“แม่ก็พูดเข้า ชั้นไปเจอไอ้ผู้ชายที่เรารูดทรัพย์มันเมื่อวาน”
“หา.. ที่ไหนวะ”
“ที่ห้างน่ะสิ ชั้นเอาของไปปล่อย”
“แล้วเอ็งรอดมาได้ไง”
“ถามได้ ชั้นก็วิ่งหนีมาน่ะสิ เกือบไม่รอด”
“แล้วมันตามมาบ้านเรารึเปล่า”
“เปล่า แม่ชั้นว่าเราหนีไปอยู่ต่างจังหวัดดีมั้ย เกิดมันเจอเราขึ้นมาติดคุกหัวโตเลยนะ”
“เอ็งอย่าทำปอดไปหน่อยเลย แม่ว่ามันไม่มีทางเจอเราแล้ว”
“แต่วันนี้ชั้นยังเจอเลยนะ”
“แม่ว่ามันฟลุกมากกว่า เชื่อแม่ เราทำมาตั้งหลายหนยังไม่เคยถูกจับได้ ครั้งนี้มันแค่จิ๊บ ๆ”
เจ๊อ้อยลุกเดินออกไป ขณะที่ญาดายกมือไหว้พระท่วมหัว
“เจ้าประคู้น ขออย่าให้ลูกถูกจับเลย ลูกสัญญาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ลูกตุ๋นคน”

ภายในสนามกอล์ฟเวลาต่อมา พิพัฒน์กำลังตีกอล์ฟอยู่ในสนาม ส่วนบุญทันอยู่บนล็อบบี้กำลังพูดโทรศัพท์กับธาวินซึ่งกลับมาอยู่ภายในห้องพักที่โรงแรม

“อะไรวะไอ้วิน แค่ผู้หญิงคนเดียวแกยังจับไม่ได้หรือ”
“ไม่ใช่จับไม่ได้ ชั้นจับได้แล้ว แต่หล่อนหนีไป”
“ก็นั่นแหละ เรียกว่าจับไม่ได้”
“แต่ชั้นยังไม่หมดหวังนะ วันนี้ชั้นติดต่อให้นักสืบออกตามหาตัวยัยแสบนี่แล้ว ชั้นสัญญาว่าจะต้องเอาแหวนของแกกลับคืนมาให้ได้”
“ถ้างั้นแกควรจะบอกทนายปรารภขอเลื่อนเวลาที่จะเข้ามาพบคุณปู่นะ”
“ชั้นจะโทรบอกเค้าเย็นนี้ แล้วแกเป็นไงบ้าง เจอใครที่น่าสงสัยว่าจะเป็นฆาตกรรึยัง”
“ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ ชั้นยังเจอคนในบ้านไม่ครบเลย”
“ยังไงแกก็ระวังตัวด้วยนะ” ธาวินบอก
“อืมม์ แกก็เหมือนกัน”
บุญทันปิดโทรศัพท์ แล้วถอนหายใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์...

ภายในร้านอาหารไทยที่อเมริกาในเวลากลางวัน บุญทันสวมชุดสูทเดินเข้ามาในร้าน พนักงานสาวรีบยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะคุณภูบดี”
“หวัดดีพี่นิด วันนี้ลูกค้าเยอะมั้ย”
“เยอะค่ะ โต๊ะสุดท้ายเพิ่งเช็กบิลออกไป”
“มีอะไรที่ผมต้องเซ็นรึเปล่า”
“มีเช็คสั่งจ่ายค่าของสดค่ะ”
“โอเค เดี๋ยวเอามาได้เลยนะ”
บุญทันเดินแยกไปที่โต๊ะทางด้านใน เสียงมือถือดังขึ้น
“ฮัลโหล ... สวัสดีครับคุณลุง”
ที่เมืองไทย ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน ภายในห้องทำงานของภาคิน ลุงของภูบดี ลูกชายคนโตของพิพัฒน์ในวัย 50 กว่า กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“เป็นไงบ้างหลานชาย ตกลงจะกลับเมืองไทยวันไหน”
“อีกสองอาทิตย์ครับ ผมจองตั๋วไว้แล้วตั้งใจว่าจะกลับไปให้ทันวันเกิดคุณปู่”
“ดีลูก คุณปู่ต้องดีใจมากที่จะได้เจอหลาน”
“เสียดายที่คุณพ่อกับคุณแม่ผมไม่มีโอกาสได้กลับไปกราบคุณปู่ด้วย”
“เอาน่ะ คิดซะว่าพ่อกับแม่เราเค้าไปสบายแล้ว แค่หลานกลับมาคุณปู่ก็มีความสุขแล้ว...อย่างน้อยภูก็ยังมีลุงกับคุณปู่เหลืออยู่เป็นครอบครัวนะ”
“ผมตื่นเต้นมากเลยนะครับที่จะได้เจอคุณลุงกับคุณปู่”
“ลุงกับปู่ก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอหลาน”
ประตูห้องของภาคินถูกแง้มออก ภาคินหันหลังกลับไปก็ชะงัก ตกใจทันที
“แกเข้ามาทำไม ต้องการอะไร”
เสียงนั้น ดังลอดเข้าไปยังโทรศัพท์ของบุญทัน
“มีอะไรรึเปล่าครับคุณลุง”
บุญทันส่งเสียงมาตามสาย
“อ๊าก!”
คนร้ายปริศนาฟาดไม้กอล์ฟเข้าที่แสกหน้าภาคิน บุญทันได้ยินเสียงการต่อสู้ดังออกมาจากโทรศัพท์ ตกใจได้แต่ร้องเรียกสุดเสียง
“คุณลุง! คุณลุงครับ”
“ถึงแกฆ่าฉันก็ปิดความผิดของแกไม่ได้หรอก” เสียงภาคินลอดผ่านเข้ามาในมือถือของบุญทัน พร้อมๆกับเสียงหวดจากไม้กอล์ฟอีกหลายที
“ อ๊าก!”
“คุณลุงเกิดอะไรขึ้นครับ คุณลุง!”
ภาคินล้มลงจมกองเลือดพยายามพูดโทรศัพท์
“ระ..วัง ตัว...ปกป้อง..ปู่ด้วย...”
“คุณลุง ใครทำอะไรคุณลุง บอกผมสิครับ คุณลุง”
คนร้ายคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาพูด
“ถ้าไม่อยากตาย อย่ากลับมาเมืองไทย”
“แกเป็นใคร! แกทำอะไรลุงฉัน”
คนร้ายปิดโทรศัพท์ทันที
“ฮัลโหล ๆ ๆ”
บุญทันพยายามต่อโทรศัพท์อีกแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ

เช้าวันใหม่ ที่ร้านอาหารไทยในอเมริกา ข่าวจากเว็บไซด์ ลงภาพนิ่งของภาคิน วริทธิวรนันท์ พร้อมข่าวพาดหัวว่า “CEO บริษัทในเครือวรารมย์ โดดตึกตายหนีเครียด” บุญทันกับธาวินนั่งคุยกันอยู่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“ไม่จริง ลุงฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย ลุงฉันถูกฆาตกรรม ฉันจะกลับไปบอกทุกคนที่เมืองไทย” บุญทัน
บอก
“ตำรวจเค้าคงเชื่อแกหรอกนะ ที่อยู่ๆก็มีพยานจากอีกซีกโลกนึงโผล่ขึ้นมา และที่สำคัญแกไม่มี
หลักฐานอะไรเลย” ธาวินพูดขึ้น
“โทรศัพท์ไง ลุงภาคินโทรหาฉันเป็นคนสุดท้าย”
“แกคิดว่าคนร้ายมันจะเก็บโทรศัพท์ลุงแกไว้หรือ ป่านนี้มันโยนให้ฉลามกินแล้ว”
“แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องกลับไปเมืองไทยนะวิน ปู่ฉันอยู่ในอันตราย”
“ชั้นรู้ แต่ถ้าแกกลับไป แกก็มีอันตรายเหมือนกันนะ”
“ชั้นไม่กลัว ชั้นจะต้องลากคอไอ้คนที่มันฆ่าลุงภาคินมาให้ได้”
“แล้วแกสงสัยใคร”
“ชั้นเชื่อว่ามันต้องเป็นคนที่ลุงภาคินรู้จักดี”
“แต่มันจะฆ่าลุงแกเพื่ออะไร”
“นั่นคือเรื่องที่ชั้นต้องไปสืบ แล้วหาให้เจอว่าไอ้ฆาตกรนั่นมันคือใคร”
“เอาอย่างนี้ ถ้าแกคิดจะกลับไปจริงๆ เราก็ต้องมีแผนนะ ไม่ใช่เดินดุ่มๆเข้าไปให้มันฆ่า”
“แผนอะไร” บุญทันสนใจขึ้นมาทันที
“ในเมื่อแกบอกว่าไม่มีใครในครอบครัวแก เคยเจอแกตั้งแต่เกิด ฉะนั้น ชั้นจะปลอมตัวเป็นแก ส่วนแกก็ปลอมตัวเข้าไปเป็นคนงานในบ้านเพื่อสืบหาคนร้ายที่ฆ่าลุงภาคิน”
“แต่ชั้นไม่อยากลากให้แกมาเดือดร้อนด้วย”
“ไอ้ภู เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนะ เรื่องของแกก็เหมือนเรื่องของชั้น ถ้าแกมีทุกข์ชั้นคงไม่มีความสุขหรอก”
บุญทันโผเข้ากอดธาวิน
“ขอบใจแกมากวิน แกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น”
ทั้งบุญทันและธาวินยิ้มให้กัน

บุญทันถอนหายใจหลังจากวางสายจากธาวินไปแล้ว ขณะนั้น...พิพัฒน์เดินเข้ามาเรียกพอดี
“บุญทัน”
“ครับท่าน”
“ไป ชั้นจะกลับบ้านแล้ว”
“ครับ”
บุญทันเดินนำพิพัฒน์ไปที่หน้าประตูทางเข้าล็อบบี้
“ท่านรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมไปเอารถมารับ”
พิพัฒน์พยักหน้ารับ บุญทันเดินออกไปที่ลานจอดรถ พิพัฒน์มองตามแล้วหันกลับอย่างไม่ได้สนใจนัก
เมื่อบุญทันเดินมาที่ลานจอดรถ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับสวนขึ้นไป บุญทันมองตามและรู้สึกสะดุดใจจึงหันหลังมองตามไปและเห็นคนซ้อนกระชากปืนที่เหน็บหลังออกมา บุญทันตะลึงและร้องขึ้นทันที
“ เฮ้ย!”
คนซ้อนลุกขึ้นยืนแล้วยกปืนเล็งไปที่พิพัฒน์ทันที
“คุณปู่ ... ระวัง” บุญทันตะโกนร้องสุดเสียง
พิพัฒน์ได้ยินเสียงบุญทันก็หันมาในจังหวะที่คนร้ายยกปืนขึ้นยิงพอดี พิพัฒน์รีบหลบที่ข้างเสา คนร้ายยิงซ้ำ พิพัฒน์หมุนหลบอีก
มอเตอร์ไซค์ขับพุ่งหนีออกไป บุญทันวิ่งเข้ามาหาพิพัฒน์
“คุณปู่ เป็นยังไงบ้างครับ”
“ชั้นไม่เป็นไร” พิพัฒน์บอก
รปภ.ในสยามกอล์ฟวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์
“มีเรื่องอะไรกันครับ”
“มีคนร้ายซ้อนมอเตอร์ไซค์บุกมายิงคุณพิพัฒน์” บุญทันบอก
รปภ. ยกวิทยุสื่อสารบอก
“สกัดจับคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์”
“บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ” บุญทันถาม
“ไม่มี ชั้นปลอดภัย”

ในเวลาต่อมา ที่หน้าตึกใหญ่ของบ้านวริทธิวรนันท์ สารวัตรสมยศกับตำรวจติดตามอีกสองนายเดินขึ้นตึกเข้ามาสอบปากคำบุญทัน โดยมีพิพัฒน์นั่งฟังอยู่ด้วย
“คนซ้อนเป็นคนยิงครับรูปร่างผอม ส่วนคนขี่มอเตอร์ไซค์ ตัวใหญ่กว่านิดหน่อย ผิวดำแดงทั้งคู่”
“แล้วนายเห็นหน้ามั้ย” สารวัตรสมยศถาม
“ไม่เห็นครับมันใส่หมวกกันน็อกทั้งคู่”
สารวัตรสมยศหันไปถามพิพัฒน์
“แล้วท่านพอจะนึกออกมั้ยครับว่า คนร้ายมีลักษณะยังไง”
“ใครจะไปจำได้สารวัตร ตอนนั้นแค่หลบหนีกระสุนก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว” พิพัฒน์พูดอย่างไม่พอใจ
“ผมหมายถึงว่าท่านอาจจะพอจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับคนร้ายน่ะครับ”
“ผมจำไม่ได้หรอก”
“แล้วท่านมีปัญหาขัดแย้งอะไรกับใครบ้างมั้ยครับ โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจ”
“ทำธุรกิจมันก็ต้องมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งอยู่แล้ว แต่จะให้ระบุเป็นรายบุคคล ผมระบุไม่ได้
หรอกมันเยอะแยะ แล้วผมเองก็มีธุรกิจอยู่หลายอย่าง ทั้งโรงแรม ตลาด สนามกอล์ฟ บ้านจัดสรร คอนโด”
“ถ้าเป็นแบบนี้จะหาตัวคนร้ายยากนะครับ”
“อ้าว ถ้าสารวัตรพูดแบบนี้ก็จบกันล่ะสิ ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนนะ สารวัตรต้องไปตามหา
มาให้เจอว่าใครที่มันคิดจะฆ่าผม”
“เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เอาล่ะครับ ผมไม่รบกวนเวลาท่านแล้ว ผมลานะครับ”
พิพัฒน์พยักหน้าสารวัตรสมยศลุกเดินออกไป บุญทันจะเดินออกตามไป แต่พิพัฒน์เรียกไว้
“เดี๋ยว บุญทัน”
“ครับท่าน”
“แกใช้ปืนเป็นมั้ย”
“พอได้ครับ”
“ชั้นจะเอาปืนพกให้แกติดตัว ต่อไปนี้ถ้าชั้นไปไหนแกเอาปืนไปด้วย”
“ครับ เอ่อ ท่านครับ”
“หืมม์”
“มีใครที่ท่านสงสัยบ้างมั้ยครับ”
“นึกไม่ออก ชั้นแก่ป่านนี้ไม่น่ามีศัตรูที่ไหนเหลืออยู่แล้ว”
บุญทันพยักหน้ารับรู้
“ขอบใจแกอีกครั้งนะ ที่ช่วยชีวิตชั้นไว้ ถ้าไม่ได้แกเรียกเตือนล่ะก็ ป่านนี้ชั้นคงไปนอนวัดแล้ว”
“ไม่หรอกครับ ผมจะไม่ยอมให้ท่านเป็นอะไรไปง่ายๆ”
“เออ ขอบใจ”
- บุญทันเดินออกไป เอนกกับอนุทินเดินสวนเข้ามาพอดี ทั้งสองคนเดินไปหาพิพัฒน์
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ” เอนกถามขึ้น
“ตำรวจจับตัวคนร้ายได้มั้ยครับ” อนุทินถามบ้าง
“มันหนีไปได้” พิพัฒน์บอก

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th