หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 5

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 5

ธาวินลากญาดาหนีออกมาทางประตูด้านหลังบ่อน
“มาทางนี้เร็ว”
“แม่ชั้นล่ะ ... แม่ .. ชั้นต้องเข้าไปช่วยแม่ก่อน”
“เธออยากตายหรือไง”

“แต่แม่ชั้นอยู่ในนั้นนะ”


เฮียเสกและสมุนอีก 2คนวิ่งตามมาเจอญาดากับธาวินพอดี
“หยุดนะมึง เข้ามาขโมยของแล้วคิดจะหนีหรือ”
เฮียเสกหันไปพูดกับสมุน
“เอาตัวมันกลับไป”
สมุนเฮียเสกสองคนเข้ามาหาญาดากับธาวินทันที ธาวินฉวยโอกาสคว้าท่อนไม้ใกล้ๆบริเวณนั้นขึ้นมาต่อสู้
“หลบอยู่หลังผม”
ธาวินสั่ง ญาดาหลบไปอยู่ด้านหลังของธาวิน
“เข้ามาเลย”
ธาวินใช้ไม้ฟาดใส่สมุนคนหนึ่งจนตีเซไป สมุนอีกคนเข้ามารับไม้ไว้ได้ แล้วถีบธาวินกระเด็นหงายไป ธาวินรีบลุกขึ้น สมุนเฮียเสกเงื้อไม้เข้ามาตีแสกหน้าของธาวินจนเลือดอาบ เต็มหน้า ธาวินผงะไป ญาดาหวีดร้องขึ้นทันที ธาวินถูกฟาดซ้ำเข้าที่หน้าและท้ายทอย จนโงนเงนร่างร่วงล้มลง
“คุณ”
ญาดามองเหตุการณ์อย่างอย่างตะลึง เสกหันไปทางญาดาแล้วสั่งลูกสมุน
“คราวนี้ไม่มีใครช่วยแกแล้ว ไปลากตัวมันมา”
เสียงไซเรนตำรวจดังเข้ามาพอดี รถตำรวจพุ่งเข้ามาใกล้สถานที่เกิดเหตุ เสกและลูกน้องชะงักไปทันที ญาดาตะโกนร้องสุดเสียง
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย มีคนทำร้ายแฟนชั้น ช่วยด้วย”
ตำรวจสามนายพร้อมอาวุธวิ่งไปตามเสียงของญาดา
“เฮ้ย เผ่นก่อน” เสกบอก
เฮียเสกและลูกสมุนวิ่งหนีไปทันที ตำรวจวิ่งเข้ากรูเข้ามาหาญาดา
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ตำรวจถาม
“แฟนชั้นถูกทำร้ายค่ะ”
“แฟนคุณหรือครับ” ตำรวจถามย้ำ
ญาดาชะงักไปแล้วรีบตอบรับ
“ เอ่อ .. ค่ะ”
สารวัตรคนหนึ่งรีบสั่งตำรวจสองนายที่ติดตาม
“ตามคนร้ายไปเร็ว”
ตำรวจทั้งสองนายรีบวิ่งออกไป ขณะที่ตำรวจคนหนึ่งส่งเสียงผ่านวิทยุสื่อสารทันที
“วอสอง ขอรถพยาบาลมารับคนเจ็บ ด่วน”
ญาดาได้แต่มองธาวินที่นอนเลือดอาบอยู่บนพื้นด้วยสายตาลังเล ไม่รู้ว่าทำอย่างไรต่อไปดี

ภายในห้องพักคนงานในเวลาเดียวกัน บุญทันพยายามกดโทรศัพท์หาธาวิน แต่ไม่มีคนรับสายจนบ่นกับตัวเองพึมพำ
“ไอ้วินมันไปไหน ดึกแล้วไม่อยู่ห้อง”

ที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเวลาเดียวกัน ญาดากำลังพูดโทรศัพท์กับเจ๊อ้อยซึ่งกระวนกระวายใจอยู่ที่บ้าน
“หนูอยู่โรงบาลแม่ ไอ้ผู้ชายนั่นมันถูกตีจนสลบไม่รู้จะตายรึเปล่าเนี่ย”
“แล้วเอ็งไปอยู่ทำไมเดี๋ยวก็ซวยหรอก รีบหนีมาเร็ว”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ แค่เป็นห่วงกลัวมันตาย”
“ช่างหัวมันเถอะรีบมาเร็ว เดี๋ยวตำรวจมาก็ซวยหรอก ข้าอยู่บ้านแล้ว”
“จ้ะ”
ญาดาปิดโทรศัพท์ทันทีแล้วชะเง้อมองเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ ครั้นจะกลับบ้านใจหนึ่งก็อดห่วงธาวินไม่ได้
“ขอให้นายปลอดภัยแล้วกัน”
นางพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาหาญาดาแล้วถามขึ้น
“ขอโทษนะคะ คุณเป็นญาติคนไข้ใช่มั้ยคะ”
“เอ่อ...” ญาดาอึกอัก
“ขอชื่อคนไข้ด้วยค่ะ”
“ชื่อหรือคะ” ญาดาถามย้ำ
“ใช่ค่ะ เราต้องทำประวัติ ขอชื่ออายุแล้วก็ที่อยู่ค่ะ”
ญาดารีบแก้สถานการณ์ด้วยการโวยวายใส่นางพยาบาลทันที
“ นี่คุณ สามีชั้นกำลังจะตายนะ คุณจะมาเอาชื่ออะไรตอนนี้ หา ... ให้เค้าปลอดภัยก่อนได้มั้ย”
พยาบาลอึ้งไป
“แต่เราต้อง ...”
ญาดารีบพูดแทรกขึ้นทันที
“ไม่ต้องกลัวหรอก ชั้นมีเงินจ่ายค่ารักษาเค้าแน่ ขอให้รักษาให้หายเถอะ”
“เอ่อ ค่ะ งั้นเดี๋ยวถ้าคุณพอมีเวลารบกวนกรอกประวัติให้หน่อยนะคะ ..”
นางพยาบาลส่งกระดาษกรอกประวัติให้ ญาดาแกล้งทำเป็นกระชากกระดาษมา
“เอามา”
“ขอบคุณค่ะ”
พยาบาลเดินไปแล้ว ญาดาได้แต่มองเอกสารในมืออย่างครุ่นคิด
“จะกรอกได้ไงวะ เราไม่รู้จักชื่อเค้าซะหน่อย เอาไงดีวะเรา เผ่นก่อนดีกว่า”
ญาดาขยับตัวเตรียมจะซิ่งออกจากโรงพยาบาลไป หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพอดี แล้วร้องเรียก
“ขอโทษครับ คุณเป็นญาติคนไข้รึเปล่าครับ”
ญาดาเมื่อได้ยินเสียงถึงกับสะดุ้งก่อนจะปั้นสีหน้า ฝืนยิ้มแล้วหันหลังกลับ
“เอ่อ ค่ะ เค้าเป็นไงบ้างคะหมอ ตายรึเปล่าคะ”
“ปลอดภัยแล้วครับ หมอเอ็กซเรย์ดูแล้ว มีกะโหลกชั้นนอกร้าวเล็กน้อย โชคดีที่ไม่มีเลือดคั่งใน
สมอง”
ญาดาถึงกับโล่งอก
“แล้วเค้าจะฟื้นเมื่อไหร่คะ”
“ตอนนี้หมอยังตอบไม่ได้นะครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะปลอดภัยแล้ว แต่คงต้องติดตามดูอาการอีกซัก
ระยะ”
“ค่ะ”
“ขอตัวก่อนนะครับ”
หมอเดินออกไปแล้ว ขณะที่นางพยาบาลอีกคนหนึ่งเอาซองเอกสารยื่นให้ญาดา
“คุณเป็นภรรยาคนไข้ใช่มั้ยคะ ของใช้ส่วนตัวของคนไข้อยู่ในซองนี้ คุณตรวจดูแล้วเก็บไว้นะคะ”
“ค่ะ”
นางพยาบาลส่งซองให้แล้วเดินจากไป ตาลหยิบของในซองออกมาดูเห็นกระเป๋าสตางค์
ญาดาเปิดกระเป๋าสตางค์ออกมาดูไม่เห็นมีอะไร นอกจากเงินสดนิดหน่อยและการ์ดเข้าห้องโรงแรม นามบัตร เครดิตการ์ดชื่อ P.VARITTIVORANUNTA
“ชื่ออะไรวะ มีแต่นามสกุล” ญาดาพึมพำอยู่คนเดียว แล้วหยิบนามบัตรอื่นๆในกระเป๋าขึ้นมาดู ส่วนใหญ่มีแต่นามบัตรฝรั่ง
“มีแต่นามบัตรฝรั่งแล้วจะโทรไปบอกใครได้วะ”
แล้วญาดาก็พบนามบัตรภาษาไทยอยู่ใบหนึ่งชื่อปรารภ ญาดาตัดสินใจโทร.หาทันที
ขณะนั้น ปรารภกำลังขับรถอยู่บนถนนสายหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปรารภกดรับทันที
“ฮัลโหล”
“คุณปรารภรึเปล่าคะ”
“ใช่ครับ ไม่ทราบว่านั่นใครครับ”
“เอ่อ คือ ดิชั้นพบนามบัตรคุณในกระเป๋าสตางค์แฟนน่ะค่ะ บังเอิญตอนนี้เค้าได้รับอุบัติเหตุอยู่ที่โรงพยาบาล... อยากให้คุณมาดูเค้าหน่อยค่ะ”
“แล้วแฟนคุณชื่ออะไรครับ” ปรารภถาม
ญาดามองไปที่เครดิตการ์ดและพยายามสะกด
“เค้านามสกุล...วะ ริท ธิ วร ระ นันค่ะ แค่นี้นะคะ”
พูดแล้วญาดาก็ปิดโทรศัพท์ไปทันที ปรารภตกใจทันที
“วริทธิวรนันท์หรือ อย่าบอกนะว่าเป็นคุณภู ...”

ภายในห้องคนไข้ ธาวินนอนหลับให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง ใบหน้ามีรอยช้ำ ที่พัวหันผ้าพันแผลอยู่ ญาดาเปิดประตูห้องเข้ามาและเดินไปหยุดมองธาวินที่หลับอยู่บนเตียง ญาดา แตะแขนธาวินเบาๆแล้วมองอย่างเห็นใจ
“ชั้นขอโทษด้วยนะที่ทำให้นายได้รับบาดเจ็บ...แล้วก็ขอบใจนะที่นายช่วยชีวิตชั้น”
ธาวินยังหลับไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ
“แต่ชั้นก็ตอบแทนบุญคุณด้วยการพานายมาส่งโรงพยาบาลนะ เราไม่ติดหนี้กันแล้ว เข้าใจป่ะ … เอาล่ะ ชั้นต้องไปก่อนนะ เดี๋ยวญาตินายก็จะมาแล้ว หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะ ...”
ตาลขยับตัวกำลังจะเดินออกจากห้องแล้วนึกได้ … ญาดามองแหวนซึ่งสวมอยู่ที่นิ้ว
“อ้อ... ส่วนแหวนวงนี้ถือว่า ชั้นขอเอาไปตั้งตัวแล้วกันนะ”
ญาดาตบมือธาวินเบา ๆที่ยังไม่ได้สติแล้วเดินออกจากห้องทันที

ญาดาเปิดประตูห้องพลางเหลียวมองซ้าย - ขวา เห็นว่าปลอดคนจึงเดินลิ่วไปตามทางเดินจนมาถึงบริเวณเคาน์เตอร์พยาบาล ญาดาเห็นนางพยาบาลเวรดึกประจำชั้นหันหลังเคลียร์เอกสารอยู่ จึงรีบก้มตัวต่ำมุดหลบพผ่านเคาน์เตอร์ไปเพื่อจะตรงไปที่ลิฟท์ เมื่อประตูลิฟท์ก็เปิดออก ตำรวจสองนายก็เดินเข้ามา ญาดารีบหันหลังกลับเลี้ยวหลบที่หลังเสา ตำรวจเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์สอบถามนางพยาบาล
“ผมจะมาสอบปากคำคนเจ็บที่ถูกรุมทำร้ายเมื่อหัวค่ำนี้ครับ”
“คนเจ็บยังไม่ฟื้นเลยค่ะ”
“แล้วภรรยาล่ะครับ เห็นว่าภรรยาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย”
ญาดาซึ่งยืนหลบอยู่สะดุ้งเฮือก
“ใช่ค่ะ ภรรยาคนเจ็บน่าจะอยู่ในห้อง เชิญทางนี้ค่ะ”
นางพยาบาลเดินออกจากเคาน์เตอร์นำตำรวจไปทางห้องพักฟื้นคนไข้ ญาดาฉวยโอกาสย่องออกจากหลังเสาแล้ววิ่งตรงไปที่ลิฟท์ทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่นางพยาบาลหันหน้ามาเห็นเข้าพอดี
“อ้าวคุณ! อยู่นั่นเอง”
ญาดาชะงัก หยุดทันที
“นั่นไงคะ ภรรยาคนเจ็บ คุณคะ …”
ตำรวจทั้งสองนายมองตามไปที่ญาดาที่จำใจหันหน้ามา
“จะไปไหนเหรอคะ”
ญาดารีบยกโทรศัพท์มือถือให้ดูแล้วแก้ตัว
“ฉันออกมาหาสัญญาณโทรศัพท์น่ะค่ะ พอดีในห้องไม่ค่อยมีสัญญาณ”
“ตำรวจจะขอสอบปากคำคุณค่ะ” นางพยาบาลบอก
“ยินดีค่ะ” ตาลพูดพลางฝืนยิ้ม
ภายในห้องรับแขกซึ่งอยู่ติดกับห้องพักคนไข้ ญาดานั่งให้ปากคำกับตำรวจ

“เกิดเหตุตอนกี่โมงครับ”
“ประมาณสามทุ่มค่ะ ชั้นกับสามีเดินเล่นอยู่แถวนั้น อยู่ๆพวกมันมาจากไหนไม่รู้เข้ามาปล้นเราสองคน สามีไม่ยอมเลยถูกมันทำร้าย”
“พอจะจำหน้าคนร้ายได้มั้ยครับ”
“จำไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนั้นชั้นกลัวมากไม่ได้มองหน้าพวกมันหรอก”
“แล้วสามีคุณชื่ออะไรครับ ผมจะได้ลงในบันทึก”
ญาดาอึกอักชะงักไปทันที ตำรวจมองอย่างรอคำตอบอยู่
“เอ่อ ... “
“ว่าไงครับ สามีคุณชื่ออะไร” ตำรวจถามย้ำ
ปรารภเปิดประตูเข้ามาพอดีแล้วถาม
“คุณภูเป็นยังไงบ้างครับ”
ทุกคนในห้องชะงักแล้วหันกลับไปมองที่ปรารภ
“ขอโทษครับ ผมปรารภเป็นทนายประจำตระกูลของคุณภูบดีครับ”
ญาดามองไปที่ปรารภ ขณะที่ตำรวจหันมามองหน้าญาดาราวกับจะรอคำตอบ ญาดาสบโอกาสทันที
“ใช่ค่ะ สามีชั้นชื่อภูบดี วริทธิวรนันท์” ญาดาทำเป็นเปล่งเสียงข่ม
ปรารภส่งสายตามามองญาดาอย่างงงๆ
“คุณคือ ...”
“ชั้นเป็นภรรยาคุณภูบดีค่ะ”
“ภรรยาคุณภูหรือครับ”
ปรารภมองจ้องหน้าญาดาอย่างแปลกใจ ญาดาฝืนยิ้มใส่
“ค่ะ ชั้นเป็นภรรยาคุณภู”
“ท่าทางคุณทนายกับภรรยาคุณภูบดีจะยังไม่เคยเจอกันมาก่อนนะครับ” ตำรวจว่า
- ปรารภมองจ้องญาดาอย่างไม่แน่ใจอีกครั้งจนญาดาเริ่มยิ้มไม่ออก ทำอะไรไม่ถูกพลางยกมือที่สวมแหวนของภูบดีขึ้นเสยผมอย่างไม่ตั้งใจ
ปรารภชะงักไปทันทีที่เห็นแหวนที่สวมอยู่แล้วยิ้มให้
“ใช่ครับ คุณภูกับภรรยาเพิ่งมาจากต่างประเทศ เราเลยยังไม่เคยเจอกัน”
ญาดาชะงักไปและอดแปลกใจที่ปรารภเข้ามาช่วยเธอเธอไว้
“งั้นหรือครับ มิน่าคุณสองคนดูแปลก ๆ เอาล่ะครับ ผมคงหมดธุระแค่นี้ ไว้คุณภูบดีฟื้นเมื่อไหร่ผมจะมาสอบปากคำใหม่ ลาล่ะครับ”
ตำรวจเดินออกจากห้องไปแล้ว ญาดามองตามอย่างโล่งอกแต่เมื่อหันกลับมาก็เจอเข้ากับสายตาของปรารภที่จ้องมองเธออย่างสงสัย ตาลฝืนยิ้มสู้อีกครั้ง
ธาวินยังหลับใหลหมดสติอยู่
“ผมต้องขออภัยที่เสียมารยาท แต่ผมสงสัยว่าคุณแต่งงานกับคุณภูตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมเจอคุณภูวันก่อนไม่เห็นเค้าพูดถึง” ปรารภถามขึ้น
“พูดไปแล้วมันก็เป็นเรื่องน่าอายนะคะ ตาลกับคุณภูเจอกันบนเครื่องบินตอนที่คุณภูกลับมานี่แหละค่ะ หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกันมาตลอด”
ปรารภรับฟังอยู่
“ไม่น่าเชื่อนะคะเราเจอกันแค่ไม่กี่วัน แต่เหมือนเราคุ้นเคยกันมาแรมปี คุณปรารภเชื่อเรื่องรักแรกพบมั้ยคะ ตาลคิดว่าคงเป็นบุพเพจากชาติปางก่อนที่ทำให้เราทั้งสองคนไม่อาจหักห้ามใจต่อกันได้”
ญาดาทำหน้าเขินอาย ปรารภมองนิ่ง
“ผมพอจะเข้าใจความรักของคนหนุ่มสาวครับและอีกอย่างถ้าคุณไม่ใช่คนสำคัญ คุณภูคงไม่มอบแหวนประจำตระกูลให้คุณแน่ๆ”
ญาดามองแหวนที่นิ้วมือ พอจะเข้าใจประติดประต่อเรื่องราวได้บ้างจึงรีบพูดเสริมขึ้นทันที
“ใช่ค่ะ คุณภูบอกว่าแหวนวงนี้สำคัญมาก ถึงได้มอบให้ตาลไว้ บอกว่าแทนหัวใจทั้งดวงของคุณภูค่ะ”
ปรารภสีหน้าเครียดแล้วบอกว่า
“พรุ่งนี้ผมคงต้องรีบไปเรียนคุณท่านเรื่องที่คุณภูเข้าโรงพยาบาล”
“คุณท่าน? ใครเหรอคะ”
“คุณปู่ของคุณภูไงครับ นี่คุณภูยังไม่ได้บอกคุณหรือครับว่ากลับมาเมืองไทยทำไม”
“เอ่อ ก็บอกแค่ว่ากลับมาหาครอบครัวน่ะค่ะ ส่วนใหญ่เราจะคุยกันแค่เรื่องความรักของเราสองคน
มากกว่า”
“คุณภูเป็นทายาทโดยสายเลือดเพียงคนเดียวของตระกูลวริทธิวรนันท์ เจ้าของบริษัทในเครือวรา
รมย์ครับ” ปรารภว่า
สีหน้าของญาดาอึ้งตะลึงในทันที
“คุณปรารภหมายความว่าคุณภูเป็นทายาทเศรษฐีร้อยล้านเหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ ต้องบอกว่าเศรษฐีพันล้านถึงจะถูก”
ญาดาตื่นเต้นสุดๆแต่พยายามควบคุมไว้ทำสีหน้าให้เป็นปกติ
“เอาล่ะครับ ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า คุณจะได้พักผ่อนแล้วผมจะมาเยี่ยมใหม่ ส่วนเรื่องดูแลคุณภู เดี๋ยวผมจะจ้างพยาบาลพิเศษให้คอยเฝ้าคุณภู คุณจะได้ไม่เหนื่อย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวตาลอยู่ดูคุณภูเองดีกว่า”
“ก็ได้ครับ แต่ถ้ามีอะไรคุณก็เรียกพยาบาลเลยนะครับ”
ปรารภเดินออกไปทิ้งความงุนงงให้กับญาดาเพียงคนเดียว ญาดาหัยกลับไปมองธาวินที่หลับอยู่
“อะไรกันเนี่ย นายเป็นทายาทเศรษฐีพันล้านงั้นหรือ ถ้านายฟื้นขึ้นมาแล้วบอกความจริงกับตำรวจ ฉันต้องติดคุกหัวโตแน่อยู่ไม่ได้แล้วไอ้ตาล”
ญาดาค่อยๆแง้มประตูออกมา เห็นปรารภกำลังคุยอยู่กับนางพยาบาล ญาดามองชะเง้อและได้ยิน
ที่ปรารภบอกกับนางพยาบาล
“ขอให้คุณเฝ้าคนไข้ห้องเป็นพิเศษนะครับ ถ้าคุณผู้หญิงในห้องต้องการอะไร รบกวนคุณจัดหาให้ด้วย อย่าให้เธอออกไปไหนเพราะผมกลัวว่าจะมีอันตรายกับเธอ”
“ค่ะ งั้นดิชั้นจะเฝ้าเธอ 24 ชั่วโมงเลย”
“ขอบคุณครับ”
ญาดามองอย่างเซ็งพร้อมกับพึมพำบ่นกับตัวเอง
“อะไรกันวะ มาเฝ้าเราทำไม”
ขณะนั้น เสียงมือถือญาดาดังขึ้น ปรารภหันกลับมามอง ญาดายิ้มให้พลางโบกมือบ๊ายบายแล้วปิดประตูห้องทันที
ภายในห้องคนไข้ ญาดากดรับโทรศัพท์ทันที
“ฮัลโหลแม่”
“ทำไมเอ็งยังไม่กลับมาอีก ถูกตำรวจจับรึเปล่า”
“เปล่าแม่”
“แล้วทำไมไม่กลับมาซะที”
“มีเรื่องนิดหน่อย แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูเอาตัวรอดได้”
“เออ เออ ระวังตัวนะลูก”
หลังวางสายไปแล้ว เจ๊อ้อยพึมพำกับตัวเองว่า
“มีเรื่องอะไรอีกวะ”
ฝ่ายญาดาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาภายในห้องพักคนไข้ด้วยความอ่อนเพลีย
“เอาวะ รอให้ใกล้สว่างเราค่อยหนีออกไป”
ญาดาบอกกับตัวเอง และเมื่อเริ่มหาวก็สะบัดหน้าเพื่อให้หายง่วงนอน
“เฮ้อ...เฮ้ย หลับไม่ได้ ห้ามหลับ”
ญาดานั่งสัปหงก พยายามฝืนไม่ให้หลับ แต่สุดท้ายก้ไม่ไหว ดวงตาค่อยๆหรี่ปิดลงนอนหลับสนิทบนโซฟา

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 5
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th