อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 46
ตำรวจพิมพ์ตามคำบอก ญาดาน้ำตายังคงไหลรินอาบแก้ม ธาวินมองครุ่นคิดถึงสาเหตุการตายของเจ๊อ้อยบริเวณทางเดินในสถาบันนิติเวช ตำรวจเดินมาส่งญาดากับธาวิน
“พรุ่งนี้ผมจะขอเข้าไปสอบปากคำคนที่อยู่ในบ้านคุณนะครับ”
“ครับ ผมจะได้บอกให้คนที่บ้านทราบ” ธาวินบอก
“ไม่ต้องบอกหรอกครับเพราะถ้าคนร้ายอยู่ในบ้านคุณจริง ผมไม่อยากให้คนร้ายไหวตัวก่อน”
“ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ตำรวจพยักหน้า ญาดากับธาวินเดินออกไป
ภายในรถ ธาวินเอื้อมมือมาจับมือญาดาที่ยังร้องไห้อยู่ ญาดามองหน้าธาวิน แล้วนึกถึงคำพูดสุดท้ายที่ญาดาบอกแม่
“หนูจะไม่อยู่สามสี่วันแม่อย่าก่อเรื่องนะ”
“ไปไหน”
“หัวหิน”
“ไปทำไม แม่บอกแล้วไงว่าให้หนีไปกับแม่”
“ก็บอกแล้วว่าขอเวลาหน่อย”
“แม่ว่าเอ็งจะหลงผู้ชายมากไปแล้วนะ”
“หนูไม่ได้หลง หนูบอกแล้วไงว่าหนูรักเค้า”
ภายในห้องนอนของภูบดี ญาดานั่งเหม่อมองไปไกลน้ำตาไหลริน ธาวินถือน้ำเย็นเข้ามาให้
“ดื่มอะไรเย็นๆซะหน่อย”
ญาดาส่ายหน้า
“เป็นเพราะตาล ตาลเป็นต้นเหตุทำให้แม่ตาย”
“ไม่เอาน่ะตาล ทำไมโทษตัวเองแบบนี้”
“แต่ถ้าตาลเชื่อแม่ หนีไปกับแม่ แม่ก็คงไม่ตาย เป็นเพราะตาล ... เป็นเพราะตาล”
ธาวินดึงญาดาเข้ามากอด
“ไม่นะตาล ถึงยังไงผมก็ไม่ให้ตาลหนีผมไป มันไม่ใช่ความผิดของตาล เชื่อผม ตำรวจเค้าจะต้องหาตัวคนร้ายได้”
ญาดายังร้องไห้สะอื้นอยู่ในอ้อมกอดธาวิน
คืนนั้น ญาดายังคงนอนน้ำตาไหลรินซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดธาวินที่มองด้วยความห่วงใย
ภายในห้องนอนคนไข้ในโรงพยาบาล ปารมีนั่งเหม่อลอยครุ่นคิด นภาลืมตาตื่นขยับหน้ามองปารมี
“แม่ ... แม่เป็นไงบ้างคะ”
นภามองปารมีด้วยสายตาเกลียดชัง
“แกไม่ใช่ลูกชั้น .. แกออกไป”
“ปาขอโทษ ปาไม่ได้ตั้งใจทำให้แม่เป็นแบบนี้”
“แกมันเป็นฆาตกร แกฆ่านังอ้อย ฆ่าไอ้สมยศแล้วแกก็จะฆ่าชั้น แกมันใจคอโหดเหี้ยม แกไม่ใช่ลูกชั้นออกไป”
“แม่”
“ชั้นบอกให้แกออกไป ...ออกไป”
นภากลั้นใจกระตุกมือที่เสียบสายน้ำเกลือเต็มแรงจนเสาแขวนน้ำเกลือล้มดัง โครม
ปารมีสะดุ้งตื่นจากหลับมองไปที่เตียงอย่างตกใจ ทุกอย่างเงียบสงัด นภายังหลับอยู่บนเตียง
ปารมีถอนหายใจ
“ที่แท้เราก็ฝันไป”
ปารมีนั่งพิงตัวสายตาเหม่อมองไกล ออกไป
เช้าวันใหม่ พิพัฒน์ ธาวิน บุญทันและปรารภนั่งคุยกันอยู่ในห้อง
“ยัยอ้อยที่เป็นแม่บ้านมาใหม่น่ะหรือเป็นแม่หนูตาล” พิพัฒน์ถามขึ้น
“ใช่ครับ” ธาวินบอก
“แล้วไปตายได้ยังไง”
“ตำรวจกำลังสืบอยู่ครับ วันนี้จะเข้ามาสอบปากคำทุกคนที่นี่”
“หมายความว่าบ้านเรามีฆาตกรงั้นหรือ” พิพัฒน์ถาม
ปารมีเดินเข้ามาทุกคนชะงักหันไปมอง
“อ้าว ยัยปาเห็นว่าแม่เข้าโรงพยาบาล เป็นยังไงบ้าง” พิพัฒน์ถามด้วยความห่วงใย
“ปากำลังจะมาเรียนให้คุณปู่ทราบว่า แม่เส้นเลือดในสมองแตกค่ะ”
ทุกคนตกใจ ปรารภถามขึ้น
“จริงหรือครับคุณปารมี”
“ค่ะ หมอบอกว่าแม่จะเป็นอัมพาตไปทั้งตัว”
“อะไรร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ” พิพัฒน์ถาม
ปารมีบีบน้ำตาไหลริน
“หมอบอกว่าแม่อาจจะไม่สามารถเดินหรือขยับตัวได้อีกต่อไปค่ะ”
“แล้วทำไมคุณป้านภาถึงตกบันได” ธาวินถาม
“แม่เป็นลมน่ะค่ะ เลยหน้ามืดล้มลงมา” ปารมีบอก
“ยัยปา แกคุยกับหมอนะบอกให้เค้ารักษาเต็มที่ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า ขอให้เค้ารักษาให้หาย” พิพัฒน์บอก
“ค่ะ ปากราบขอบพระคุณคุณปู่มากนะคะ”
ปารมีก้มลงกราบ บุญทันกับธาวินมองปารมีด้วยแววตาเห็นใจ
“ปาขอตัวไปเยี่ยมคุณแม่ก่อนนะคะ”
ปารมีลุกเดินออกไป สายตาทุกคนมองตาม
“สงสัยชั้นคงต้องทำบุญบ้านครั้งใหญ่แล้วมั้ง ทำไมมีแต่เรื่องไม่หยุดหย่อน หวังว่าจะไม่มีใครตายเป็นรายต่อไปนะ” พิพัฒน์พูดแล้วถอนใจ
ธาวินกับบุญทันมองหน้ากัน เสียงโทรศัพท์มือถือปรารภดังขึ้น
“ผมปรารภครับ... ได้ตัวเด็กแล้วหรือครับ”
ธาวิน บุญทันและพิพัฒน์มองหน้าปรารภด้วยความอยากรู้
“ครับ ... ครับ ... ขอบคุณมากครับ”
ปรารภปิดโทรศัพท์ แล้วหันมาบอกทุกคนว่า
“ตำรวจบอกว่าได้ตัวเด็กที่เอาอาหารมาส่งให้สมยศแล้วครับ”
“แล้วเด็กมันว่าไง” พิพัฒน์บอก
“เด็กบอกว่ามีผู้หญิงจ้างให้เอาอาหารไปให้สมยศครับ”
“ผู้หญิงหรือครับ” ธาวินถาม
“ใช่ครับ ผู้หญิง” ปรารภบอก
ธาวินกับบุญทันมองหน้ากันอย่างครุ่นคิด พิพัฒน์มองหน้าปรารภด้วยแววตาสงสัยว่าใครกันนะที่ไปไหว้วานเด็กคนนั้น
ภายในบ้านพิพัฒน์เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามคำต้นหอม
“น้าอ้อยแกเข้ามาทำงานได้เกือบเดือนแล้วค่ะ”
ต้นหอมมีสีหน้าครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วยืนยันว่า
“ใช่ค่ะ อีกสามวันก็จะครบเดือน”
“แล้วคุณอ้อยเค้ามีปัญหาหรือเคยทะเลาะกับใครในบ้านหลังนี้บ้างรึเปล่า” ตำรวจถาม
“เท่าที่หนูเห็นก็ไม่มีนะคะ”
บริเวณระเบียงนอกบ้าน ญาดา ธาวิน มณทกานต์ บุญทันยืนมองอยู่
“แล้วตำรวจเค้าต้องสอบปากคำพวกเราด้วยรึเปล่าคะพี่ภู” มณทกานต์ถาม
“ก็คงต้องสอบ” ธาวินบอก
“ขอโทษด้วยนะคะน้องเมย์ที่ทำให้เดือดร้อน” ญาดาบอก
มณทกานต์จับมือญาดา
“อย่าพูดอย่างงั้นสิคะพี่ตาล เดือดร้อนอะไรกันเราเป็นญาติกันนะคะ เมย์ว่าพี่ตาลไปนั่งดีกว่าค่ะ ท่าทางจะอีกนานกว่าตำรวจจะสอบปากคำคนหมดทั้งบ้าน”
ญาดาเดินตามมณทกานต์ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียงซึ่งมีเครื่องดื่ม ของว่างวางรับรองอยู่ บุญทันมองไปที่ตำรวจแล้วหันมาบอกธาวิน
“หวังว่าตำรวจจะหาตัวฆาตกรเจอนะ”
“ก็ขอให้เป็นอย่างงั้นเถอะ”
ภายในห้อง ต้นหอมเดินลุกออกไปหลังให้ปากคำแล้ว มะยมเข้ามานั่งคุยกับตำรวจเป็นคนต่อไปธาวินมองด้วยสีหน้าเครียด
ภายในห้องคนไข้ นภานอนลืมตานิ่ง หมอเข้ามาตรวจดูอาการ พยาบาลจดค่าความดันและการเต้น ของหัวใจ ปารมีเปิดประตูเข้ามาพอดี หมอหันมามอง
“สวัสดีค่ะคุณหมอ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ”
“รู้สึกตัวแล้วครับ แต่ว่าแขนขาขยับอะไรไม่ได้ ร่างกายทั้งหมดตั้งแต่คอลงมาไม่ตอบสนองความรู้สึกอะไรเลย”
“แล้วแม่จะมีโอกาสหายเป็นปกติมั้ยคะ”
หมอส่ายหน้าถอนใจ
“มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากครับ แต่นับว่าแกโชคดีมากนะครับที่ยังฟื้นขึ้นมาได้”
“ฝากคุณแม่ด้วยนะคะคุณหมอ ถ้ามีอะไรที่จะทำให้คุณแม่หายขอให้บอกนะคะ”
“ครับ ผมขอตัวก่อนนะ”
หมอเดินออกไป ปารมีเข้ามาจับมือแม่
“แม่ .. แม่เป็นไงบ้างคะ”
ปารมีก้มลงกราบที่อกแล้วบอก
“ปาขอโทษนะคะแม่ ปาเป็นคนทำให้แม่ต้องเป็นแบบนี้ แม่ยกโทษให้ปานะคะ”
นภาน้ำตาคลอมองลูกสาว
“นะคะแม่ ยกโทษให้ปานะ”
นภาพยักหน้าอย่างอ่อนแรง
“จริงนะคะแม่ แม่ไม่โกรธปาจริงๆนะ”
นภาพยักหน้าซ้ำ ปารมีโผกอดร้องไห้
“ขอบคุณนะคะแม่ ปารักแม่นะ ปาอยากให้แม่รู้ว่าปารักแม่”
ปารมีกอดนภาที่น้ำตาไหลรินมองลูกสาวด้วยความรัก
ตำรวจเดินออกมาหน้าบ้านพิพัฒน์เมื่อเวลาเย็น ญาดากับธาวินเดินตามมาส่ง
“เหลือคุณนภากับคุณปารมีที่ผมยังไม่ได้สอบปากคำ เดี๋ยวผมจะโทรนัดกับเค้าอีกที” ตำรวจบอก
“ครับ”
“แล้วที่วันนี้สอบปากคำไป มีใครน่าสงสัยบ้างมั้ยคะ” ญาดาถามด้วยความอยากรู้
“ยังไม่มีนะครับ เพราะเท่าที่ผมซักถาม คุณแม่คุณก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกับใคร นอกจากติดเงินพวกคนงานด้วยกันเล็กๆน้อยๆ ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น”
“หรือว่าคนร้ายจะไม่ได้อยู่ที่นี่คะ” ญาดาถาม
“ผมก็ยังตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ๆทุกคนพูดตรงกันว่า วันที่คุณแม่คุณหายตัวไปเธอไม่ได้ออกไปไหน เอาล่ะครับผมขอตัวกลับก่อนถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบ”
“ขอบคุณนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
บุญทันกับมณทกานต์เดินคุยกันอยู่ในสวน
“สงสารพี่ตาลจังเลยนะอยู่ๆแม่ก็ตายโดยไม่รู้ตัว”
“นับว่าคุณตาลยังโชคดีที่มีคุณภูอยู่ด้วย”
“ใช่ ชั้นเข้าใจเลยว่าพี่ตาลเค้ารู้สึกยังไง ถ้าตอนที่พ่อกับพี่เอตาย ชั้นไม่มีนายอยู่ด้วย ชั้นคงไม่รู้จะทำ
ยังไงเหมือนกัน ขอบคุณนะบุญทันที่อยู่เคียงข้างชั้นตลอดมา”
บุญทันยิ้มให้ มณทกานต์เคลื่อนหน้าเข้ามาหอมแก้ม บุญทันชะงัก
“เดี๋ยวใครมาเห็นนะครับ”
“เห็นก็ช่างสิ เราจะแต่งงานกันแล้วนี่”
มณทกานต์คว้ามือบุญทันแกว่งพร้อมกับเดินคุยกันไปที่ริมน้ำ
“ชั้นจะกลับไปเรียนหนังสือให้จบแล้วมาช่วยคุณปู่ทำงาน”
“ดีครับ”
“ส่วนนาย คุณปู่บอกว่าจะให้นายไปทำงานเป็นเลขาพี่ภู แต่ชั้นคิดว่านายควรจะไปเรียนภาษาเพิ่ม
นะ”
บุญทันอมยิ้มบอก
“ครับ”
“เอ๊ะ แต่ที่จริงชั้นเก่งภาษาชั้นสอนให้นายเองดีกว่า ต่อไปนี้ นายจะต้องมาเรียนภาษาอังกฤษกับชั้น
ทุกวัน เข้าใจมั้ย”
“ครับ”
มณทกานต์หยอกล้อดึงจมูกบุญทันเล่น
“ดีมาก”
พิพัฒน์ยืนมองบุญทันกับมณทกานต์จากระเบียงบ้านด้านบน ปรารภเดินเข้ามาแล้วมองตามสายตาพิพัฒน์
“ไม่น่าเชื่อนะครับว่าในที่สุดคุณเมย์กับคุณภูก็จะได้แต่งงานกันสมความปรารถนาของท่าน”
พิพัฒน์ยิ้มแล้วบอก
“ ถ้าเจ้าภูไม่ปลอมตัวมาบางทียัยเมย์อาจจะไม่รักก็ได้”
“อย่างน้อยในเรื่องร้ายๆมียังเรื่องดีๆซักเรื่องนะครับ” ปรารภว่า
“ใช่”
พิพัฒน์ยิ้มมองกลับไปเห็นบุญทันกับมณทกานต์ยืนคุยหยอกล้อกันอยู่
ภายในห้องคนไข้ ปารมีเดินพูดโทรศัพท์อยู่
“ได้ค่ะ ... ยินดีค่ะ ... ค่ะ สวัสดีค่ะ”
ปารมีปิดโทรศัพท์ นภามองปารมีเหมือนจะถามว่าใคร
“ตำรวจค่ะ เค้าเจอศพนังอ้อย”
นภาตะลึงตกใจ ปารมีจับมือแม่แล้วก้มลงไปกระซิบ
“แม่ไม่ต้องกลัวค่ะ ตำรวจมันไม่มีทางรู้หรอกว่าเป็นเรา”
นภาส่ายหน้าด้วยความกลัว
“เชื่อหนูสิคะ ตำรวจไม่มีวันรู้”
ปารมีบอกแม่อย่างมั่นใจ แต่แววตาของนภากลับหวาดกลัวว่าลูกจะถูกจับ
ภายในบ้านนภาในวันรุ่งขึ้น ตอนกลางวัน ปารมีกำลังนั่งคุยอยู่กับตำรวจ ส่วนต้นหอมกำลังเช็ดทำความสะอาดของตั้งโชว์อยู่ที่มุมหนึ่งซึ่งห่างออกไป
“ปาก็ไม่เคยคุยอะไรส่วนตัวกับเค้านะคะ ปกติเค้าก็จะมาทำงานบ้านตอนสายๆใช่มั้ยต้นหอม ประมาณกี่โมงนะ”
“ปกติน้าอ้อยจะมาทำตอนสิบโมงเช้าน่ะค่ะ” ต้นหอมบอก
ตำรวจจดรายละเอียด
“ครั้งสุดท้ายที่คุณปารมีเจอคุณอ้อยเมื่อไหร่ครับ”
“อืมม์ ไม่แน่ใจนะคะ รู้สึกว่าวันจันทร์หรือวันอังคารนี่แหละค่ะ ปากำลังจะออกไปข้างนอกแล้วสวนกับเค้าหน้าบ้าน”
“ช่วงที่เค้ามาทำงานในบ้าน คุณปารมีเคยได้ยินเค้าพูดโทรศัพท์กับใครหรือบ่นอะไรบ้างมั้ยครับ”
“ต้องขอโทษจริงๆค่ะ ปาไม่เคยสังเกตเลย”
“โอเคครับ ขอบคุณคุณปารมีมากนะครับ”
“ปาต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่คุณแม่ให้ปากคำไม่ได้”
“ไม่เป็นไรครับ เอาไว้ให้ท่านดีขึ้นผมอาจจะมาคุยกับท่านอีกที”
“ยินดีค่ะ”
“ผมลาล่ะครับ”
ตำรวจลุกเดินออกไป ปารมีมองตามด้วยแววตาเยือกเย็น
ญาดาในชุดดำกำลังนั่งคุยกับมณทกานต์ในบ้านพิพัฒน์
“ตำรวจว่าไงบ้างคะพี่ตาล” มณทกานต์ถาม
“ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยค่ะ นี่ตำรวจก็สอบปากคำหมดทุกคนแล้ว เหลือแค่คุณป้านภา” ญาดาบอก
“แล้วพี่ตาลสงสัยใคร”
ญาดาถอนหายใจน้ำตาซึม
“ตาลไม่รู้หรอกค่ะ แต่ถ้าตาลรู้ตาลจะถามว่า ทำไมมันถึงอำมหิตโหดเหี้ยมขนาดนี้ หัวใจมันทำด้วยอะไรมันถึงฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น”
ญาดาพูดถึงแม่แล้วก็อดน้ำตาไหลรินไม่ได้ มณทกานต์จับมือปลอบใจ
“พี่ตาลอย่าคิดมากเลยนะคะ เมย์เชื่อว่าตำรวจจะต้องหาตัวฆาตกรที่ฆ่าแม่พี่ตาลได้แน่”
ปารมีก้าวเข้ามาหยุดมองญาดาและมณทกานต์ที่ด้านหลังด้วยแววตาเกลียดชัง
“เดี๋ยวเมย์ว่าเมย์ไปหาอะไรมาให้พี่ตาลดื่มดีกว่านะคะ”
ญาดานั่งอยู่ตามลำพัง เมื่อมณทกานต์เดินลุกออกไป
มโนภาพของปารมีจินตนาการว่า กำลังเดินเข้ามาหาญาดาในแววตาเกลียดชัง ญาดานั่งเหม่อลอยคิดเรื่องเจ๊อ้อย ปารมีนำเชือกที่เตรียมมาขึ้นม้วนกระชับฝ่ามือทั้งสองข้างก่อนจะเดินเข้ามาหาญาดาทางด้านหลัง ปารมีแสยะยิ้มตวัดเชือกเข้ารัดคอญาดาแน่นจนดิ้นตาเหลือกลานแน่นิ่งหมดลมไป
มณทกานต์เดินเข้ามาเรียก
“พี่ตาล”
ปารมีสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์หันไป มณทกานต์มองจ้องปารมี ญาดามองตาม
“เมย์จะถามว่าพี่ตาลจะเอาน้ำมะนาวหรือกาแฟเย็นดีคะ” มณทกานต์ถาม
“มะนาวก็ได้ค่ะ” ญาดาตอบ
มณทกานต์มองหน้าปารมีอย่างไม่ค่อยไว้ใจแล้วเดินออกไปทำเครื่องดื่ม ปารมียิ้มให้ญาดาก่อนนั่งลงข้างๆ
“ปาเสียใจด้วยนะคะ ปาเพิ่งทราบว่าน้าอ้อยเป็นคุณแม่พี่ตาล”
ญาดาฝืนยิ้มแล้วบอก
“ค่ะ”
“เมื่อเช้าตำรวจมาสอบปากคำปา ปายังบอกเลยว่าปาแทบจะไม่เคยคุยกับน้าอ้อยด้วยซ้ำ”
ปารมีแสร้งถอนใจแล้วพูดต่อ
“เฮ้อ ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจะมีเรื่องน่ากลัวแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านเรา”
ญาดาน้ำตาซึมอีก ปารมีจับมือปลอบใจ
“มีอะไรที่ปาทำให้ได้ ขอให้บอกนะคะพี่ตาลไม่ต้องเกรงใจ”
ญาดาซาบซึ้งในน้ำใจ
“ขอบคุณคุณปามากค่ะ คุณปาดีกับตาลจริง ๆ ตาลซะอีกที่ต้องขอโทษคุณที่ไม่ได้ไปเยี่ยมคุณป้านภาเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะปาเข้าใจ เรื่องของพี่ตาลก็หนักพออยู่แล้วแล้วปาจะบอกคุณแม่ให้ว่า พี่ตาลเป็นห่วง”
“ขอบคุณนะคะคุณปา”
ญาดาจับมือปารมี ปารมีดึงญาดามากอดปลอบใจ
“ปาอยากให้พี่ตาลรู้ว่าปาเป็นห่วงพี่ตาลนะคะ”
ญาดาน้ำตาไหลอย่างซาบซึ้งใจ ที่ใบหน้าของปารมีอีกด้านทอดมองไปข้างหน้าด้วยแววตาเกลียดชัง
ห้องผู้กำกับภายในสถานีตำรววจในเวลาต่อมา ธาวินกับบุญทันและปรารภคุยกับตำรวจผู้กำกับอยู่
“แล้วเด็กที่เอาอาหารมาให้จำหน้าผู้หญิงที่มาจ้างไม่ได้หรือครับ” บุญทันถาม
“เด็กบอกว่าผู้หญิงใส่แว่นดำแล้วก็คลุมผ้าปิดหน้าจนไม่เห็นอะไร”
“อย่างนี้ก็เท่ากับว่าเราไม่มีโอกาสรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ธาวินบอก
“เท่าที่คนของผมไปสืบมา สมยศมีผู้หญิงมาติดพันหลายคนและหนึ่งในนั้นมีคุณปารมีอยู่ด้วย”
“คุณปารมีน่ะหรือครับ” ปรารภถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ใช่ครับ แล้วเราพบว่าคุณปารมีอาจจะมีความสัมพันธ์ลับๆอยู่กับสมยศ”
ปรารภ ธาวินกับบุญทันมองหน้ากันอย่างไม่คาดคิด
อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 46
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิมละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th