หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 14 วันที่ 23 ต.ค. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 14 วันที่ 23 ต.ค. 56

ทำพิธีช่วยญาณินไม่สำเร็จ สุคนธรสเสียใจมาก เดินดุ่มๆ ไป ไตรรัตน์ตามไปปลอบใจ ให้กำลังใจ ให้ตั้งสติค่อยๆคิดพลางช่วยนวดขมับให้ผ่อนคลาย ทำให้สุคนธรสงบขึ้น นั่งคิดครู่หนึ่งจึงร้องออกมา อย่างดีใจสุดๆ

“คิดออกแล้ว!!” พลางวิ่งกลับไปบอกเพื่อนๆที่กำลังช่วยญาณินอย่างตื่นเต้น “ฉันหาทางช่วยยัยเจ๊ได้แล้ว... ลูกอม...ลูกอม...จำได้ว่าเก็บไว้ในกล่อง แต่ไม่รู้อยู่ไหน”

ทุกคนกระจายกันออกค้นหาลูกอม ใครหาเจอลูกอมก็เอามาให้ดูว่าใช่ไหม ส่วนหมอวรวรรธก็ช่วยดูแลญาณินประคองให้รอคอยเวลาที่จะเจอลูกอม


“เจอแล้ว! ลูกอมผงพรายกุมารมหาภูติ หลวงปู่ทิม!” สุคนธรสร้องบอกเพื่อนๆ เมื่อหาเจออยู่ในพานที่มี พวงมาลัยแห้งๆบูชาไว้ ไตรรัตน์พรวดไปดู ถามว่ามันคืออะไร

“เครื่องรางของขลังประเภทเครื่องอม สร้างจากเนื้อชานหมากที่พระเกจิอาจารย์เคี้ยวจนจืด นำมาปั้นผสมกับผงกะโหลกเด็กชาย ผีตายทั้งกลม แล้วนำมาปลุกเสก มีอิทธิฤทธิ์แรง เมตตามหานิยมและแคล้วคลาด สมัยโบราณนิยมอมไว้ในปากยามออกศึกสงครามมี อานุภาพมหาอุดคงกระพันชาตรี ช่วยกำบังตาล่องหนหายตัว และที่สำคัญลูกอมจะช่วยเหลือคุ้มครองรับคาถาอาคมสิ่งชั่วร้ายแทนเรา”

ลูกอมผงพรายกุมารมหาภูติ หลวงปู่ทิมวางอยู่ในพาน สุคนธรสหยิบพานท่องคาถาแล้วส่งต่อให้ไตรรัตน์ ไตรรัตน์ส่งต่อให้ณัฐเดช ณัฐเดชหยิบลูกอมขึ้นพยายามบีบปากญาณินเพื่อเอาลูกอมใส่ปากให้ทันทีที่ลูกอมเข้าปาก ญาณินก็เบิกตากว้างตัวสั่นอย่างแรงจนต้องช่วยกันจับไว้
สี่สาวอยู่ในสมาธิเพ่งจิตส่งพลังพิเศษออกมา ปรากฏเป็นพลังไหลจากตัวสี่สาวเป็นประกายไปตามสายสิญจน์เข้าสู่ตัวญาณินที่ตัวสั่นเทิ้มจนเตียงลั่น

อาคมไสยดำออกจากญาณินทางหัวลอยไป เป็นสาย ใบหน้าญาณินค่อยๆมีสีเลือด ทุกคนดีใจมาก จ้องมองจนกระทั่งไสยดำไหลออกไปหมด ญาณินเริ่มรู้สึกตัว ไอแล้วพ่นลูกอมผงพรายพรวดออกมาตกบนที่นอน ญาณินหายใจหอบแล้วค่อยๆ ลืมตามอง...

“เกิดอะไรขึ้นคะป้า” ญาณินถามป้าออ

สี่สาวถอนตัวออกจากสมาธิ ลืมตาเห็นญาณินกลับมาเป็นปกตินั่งอยู่บนเตียง ทุกคนโผเข้ากอดด้วยความดีใจ

“พวกแกทั้งสี่คนช่วยฉันไว้ใช่ไหม ขอบใจมากนะเพื่อน ที่ไม่ยอมปล่อยให้ฉันตาย”

ooooooo

ที่ห้องน้ำบ้านพักของเบญจา...เบญจานั่งในท่าประสานมือเพียรภาวนาแช่อยู่ในอ่างน้ำ หมอสมคิดถือคัมภีร์คาถาภูติด้วยมือข้างเดียว อ่านนำ
คาถาภูติอยู่ข้างอ่าง มีกรกฎยืนเฝ้าอยู่ที่ประตู

สมคิดอ่านคาถาแล้วภาวนา “ด้วยเวทมนตร์คาถาที่เจ้ามีกับคัมภีร์ภูติเล่มนี้ จงใช้น้ำเป็นสื่อนำ วิญญาณสูบเอาพลังผีป่า โหงพราย วิญญาณร้ายทุกดวงที่อยู่ที่นี่มายังร่างของเจ้า สูบเอาความชั่วร้ายของมัน มาต่อต้านมนต์คาถาของนังสุคนธรสออกไป!”

สิ้นเสียงสมคิด ดวงตาของเบญจาแข็งกร้าว ขึ้นปากท่องคาถาขมุบขมิบ

มิรันตีกับติณห์เฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ ต่างใจจดจ่อรอผลการรักษาของสมคิด พลันก็มีลมแรงปะทะหน้าต่างประตูโครมคราม สองแม่ลูกตกใจ ติณห์โผกอดแม่ไว้อย่างปกป้อง มองไปที่ประตูห้องน้ำ เขาผงะเมื่อเห็นเหล่าวิญญาณผีต่างๆจากภายนอกถูกดูดเข้าไปใต้ช่องใต้ประตู ห้องน้ำเป็นสาย เสียงวิญญาณร้องโหยหวนน่าเวทนา

“เป็นอะไรไปติณห์ ลูกตกใจอะไร” มิรันตีถาม เพราะตัวเองไม่เห็นวิญญาณอย่างที่ติณห์เห็น ติณห์ไม่อยากให้แม่ตกใจ บอกว่า ไม่มีอะไร
ระหว่างที่สมคิดทำพิธีนั้น เบญจาที่ขาวซีดก็มีสีเลือด มีแรงขึ้น เพราะดูดวิญญาณเข้าไปเป็นพลัง ทันใดนั้นเองวิญญาณคุณหลวงก็ถูกดูดเข้าไปด้วย คุณหลวงต้านสุดแรง ไม่ยอมให้วิญญาณตัวเองถูกดูดเข้าไป

“ไม่มีวันเสียล่ะ ที่ฉันจะยอมให้แกใช้พลังวิญญาณของฉัน อึ๊บบบบบ” คุณหลวงยันตัวเองไว้เต็มกำลัง

สมคิดหัวเราะเยาะว่า เพราะคุณหลวงหวงสมบัติ ถึงไม่ได้ไปผุดไปเกิดเสียที

คุณหลวงด่าสมคิดว่าไม่ต้องมาสามหาวไอ้ผีไร้วิชาที่คิดจะหลอกใช้อาคมของเบญจามาแก้แค้นหลานชายตน

สมคิดหัวเราะเยาะว่า ทำไมตนต้องหลอก ในเมื่อเบญจาเป็นคนที่ตนถ่ายทอดวิชาให้กับมือ คุณหลวงจึงรู้ว่าเบญจาเป็นลูกศิษย์ของสมคิด ประกาศจะไม่ยอมให้สมคิดทำพิธีสำเร็จเด็ดขาด

เมื่อเห็นเบญจาใกล้จะรักษาตัวเองหายจากอาคมของสุคนธรส คุณหลวงเงื้อไม้เท้าตีอ่าง สมคิดรู้ทันตะโกนบอกกรกฎ

“มันจะเล่นงานเบญจา!กรกฎ”

กรกฎถลาเข้าเอาตัวรับไม้เท้าของคุณหลวงเลยถูกตีเข้าที่ตัว อิทธิฤทธิ์ยันต์ที่กรกฎสักไว้กับตัวแผ่รัศมี ออกมาเป็นหางจระเข้ อ้าปากขู่เหมือนจระเข้ คุณหลวงสงสัยว่ากรกฎสักยันต์อะไร

“สักยันต์จระเข้นารายณ์อวตารเว้ยไอ้ผีแก่ ส่วนนี่..ยันต์หมูทองแดงเหลียวหลัง”

กรกฎพุ่งเข้าชนคุณหลวง ตามซ้ำจนวิญญาณ คุณหลวงถูกเหวี่ยงกระเด็นไปรอบห้อง คุณหลวงถูกเล่นงาน สะบักสะบอมจนต้องหนีทะลุกำแพงออกไป กรกฎจะตาม แต่สมคิดห้ามไว้

เบญจาแข็งแรงจนลุกก้าวออกจากอ่าง มองสมคิดที่ยืนถือไม้เท้าอยู่ด้วยสีหน้ากระหยิ่ม

“เป็นยังไง ตอนนี้พลังวิญญาณที่แกได้รับ เข้าไปในร่าง ไม่ได้แค่ช่วยชีวิตแกเท่านั้น แต่ยังทำให้แกแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม”

“ขอบคุณมากค่ะพ่อ ที่ช่วยชีวิตหนู”

“ฮ่าๆๆ”สมคิดหัวเราะอย่างลำพองใจ

ooooooo

ประตูห้องน้ำเปิดออก ติณห์กับมิรันตีมองขวับ เห็นเบญจาเดินออกจากห้องน้ำยืนตัวเปียกโชก แต่สีหน้าหายเป็นปกติดีแล้ว

“โอ้ว...เบญจาหายแล้ว แท้งก็อด ไม่ใช่สิ ต้องขอบคุณมิสเตอร์รอบบี้ ยูจีเนียส ยูเหมือนพระเจ้าที่ช่วยชีวิตเบญจาได้”

สมคิดที่เดินออกมากับกรกฎยิ้มเต็มหน้า มิรันตีหันมาเร่งติณห์อย่างตื่นเต้นว่า

“เอ๊า! อึ้งอะไรอยู่ติณห์ หยิบผ้านั่นมาห่ม ให้หนูเบญจาสิ ดูซิตัวเปียกหนาวสั่นไปหมดแล้ว”

ติณห์ที่แอบผิดหวังแต่จำต้องทำเป็นดีใจ เดินไป หยิบผ้าคลุมของเบญจาที่วางอยู่ เดินไปโอบคลุมให้ พูดอย่างยิ้มแย้มอ่อนหวาน

“ผมดีใจที่คุณปลอดภัย ทีหลังอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกนะ ผมไม่อยากเสียคุณไป”

“ไม่มีวันที่หนูจะเสียพี่ไปเหมือนกัน พี่เป็นของ หนู...พี่ติณห์”เบญจาโผเข้ากอดติณห์แน่น กระซิบย้ำ ที่ข้างหูเขา“ได้ยินไหม! พี่ต้องเป็นของหนูคนเดียว!!! หนูไม่มีวันยอมให้นังญาณินแย่งพี่ไปจากหนู หนูจะฆ่ามันให้ได้!!”

ติณห์ฟังแล้วสยองจนสะท้าน แต่จำต้องกอดตอบ เบญจา มองไปเห็นสมคิดกับกรกฎจับตาดูอยู่อย่างเคลือบแคลงสงสัยในตัวเขา

ooooooo

ปาร์คจุนจีที่เป็นห่วงกรรัมภา อยากไปหาเธอแต่ ติดถ่ายละคร พอดีผู้กำกับมาบอกว่าเดี๋ยวเขาต้องถ่ายฉาก ขี่มอเตอร์ไซค์บ๊ิกไบค์ จุนจีคิดแผนบางอย่างในใจทันที

พอเข้าฉากขี่มอเตอร์ไซค์บ๊ิกไบค์ เขาขี่เตลิดออกจากกองถ่ายบ่ายหน้าไปหากรรัมภา เป็นเวลาที่พวกเธอกำลังเป็นทุกข์ใจกันว่าจะช่วยญาณินอย่างไร แต่พอเห็นหน้าจุนจีเธอก็มีกำลังใจขึ้นมา จุนจีมีแก่ใจถามว่ามีอะไรจะให้ตนช่วยไหม เมื่อไม่มีเขาจึงกลับ

ที่กองถ่าย ทุกคนรอจุนจีอยู่ถึงครึ่งวัน ผู้กำกับโมโห เรียกผู้ช่วยผู้กำกับไปสั่งว่า

“เอ็งไปบอกไอ้ผู้จัดการกุ๊กนะ ว่าถ้าวันนี้ฉันต้องยกกอง ถ่ายไม่ได้ เรื่องนี้จะต้องถึงหูสรยุทธ”

ผู้กำกับชี้แจงว่าที่ไม่ไปฟ้องต้นสังกัดเพราะถ้าได้ออกสื่อรับรองว่าจุนจีจะ ต้องรีบไปชี้แจง ทันใดนั้น เสียงมอเตอร์ไซค์บ๊ิกไบค์กระหึ่มเข้ามา ลีจองกุ๊กดีใจบอกว่าจุนจีกลับมาแล้ว พลางก็รีบไปหาจุนจีบอกว่า รู้ไหมว่าวันนี้ทุกคนเดือดร้อนไปหมดตนไม่รู้จะแก้ตัวให้เขาอย่างไร

จุนจีตอบอย่างลูกผู้ชายว่าไม่จำเป็นต้องแก้ตัวแทนตน แล้วเดินอย่างผ่าเผยเข้าไปโค้งผู้กำกับและทีมงานทุกคน

“ผม ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ทุกคนต้องเสียงานเสียการ” ผู้กำกับถามว่าหายไปไหน อยู่ๆก็ซิ่งรถหายไปแบบนั้น “ผมไปทำธุระอย่างหนึ่ง ที่สำคัญมากน่ะครับแต่อย่าถามผมเลยครับว่าอะไร เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะเทคิวให้คุณ”

จุนจีเรียกลีจองกุ๊กมาถามว่าวันนี้ให้ คิวละครถึงกี่โมง พอรู้ว่า 5 โมง จุนจีบอกว่า ตนให้ถึงเช้าเลย ลีจองกุ๊กตกใจติงว่าพรุ่งนี้มีนัดให้สัมภาษณ์ที่คลื่นวิทยุแต่เช้าเดี๋ยว ตื่นไม่ทัน

“ให้คิวเขาไป ถ่ายดึกแค่ไหนก็ได้ ผมยินดีครับ”จุนจียืนยัน ผู้จัดการจึงยิ้มออก หันสั่งทีมงาน

“เอ้า...ลุกๆ พระเอกให้คิวแล้ว ลุยเลย!!”

เรื่องนี้กลายเป็นเหยื่อให้ซองซูตำหนิติเตียนจุนจีให้เพื่อนนักแสดงฟังอย่างสนุกปาก

“จุน จีก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เอะอะก็แกล้งป่วยเดี๋ยวก็โวยวายว่าผีหลอก วันนี้ก็หนีออกจากกองไปซะเฉยๆ ไม่รับผิดชอบ” นักข่าวถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนคุณจุนจีจริงๆหรือเปล่า ซองซูถล่มจุนจีว่าเป็นคนชอบสาวๆสวยๆมาก ภาษาไทยเรียกว่าเจ้าชู้ และพูดออกตัวว่า “เขาไม่ได้มาทำอะไรให้เราเห็นต่อหน้า ผมก็คอนเฟิร์มไม่ได้ แต่รู้ว่าสนิทกันมากๆ”

นักข่าวถามย้ำว่าแล้วสองคนเป็นแฟนกันหรือเปล่า ลีจองกุ๊กพยายามดึงจุนจีออกไป แต่เขาไม่ยอมไปร้องบอกนักข่าวว่า

“อยากรู้เรื่องแก้ม...ถามผม ผมอยู่นี่ ว่าไงครับนักข่าว ผมพร้อมจะบอกความจริงแล้ว”

บรรดานักข่าวกรูมาหาจุนจี ลีจองกุ๊กยืนฟังใจไม่ดีว่าจุนจีจะตอบนักข่าวว่าอย่างไร

จุนจีตอบนักข่าวอย่างผ่าเผยว่า

“หวัด ดีครับ ผมปาร์คจุนจี ข่าวที่ว่าผมกับคุณแก้มแอบคบกันลับๆ ผมขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเกาหลีว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงครับ! คุณแก้มเธอเป็นกุลสตรีไทย มีน้ำใจ ช่วยเหลือผมมาตลอดเวลาที่ผมมาถ่ายละครที่เมืองไทย”

ลีจองกุ๊กโล่งใจที่จุนจีตอบแบบนั้น จุนจียังชี้แจงต่อว่า

“คุณ พ่อของคุณแก้มเป็นเจ้าของเครื่องสำอางชื่อดังที่เมืองไทย เร็วๆนี้เราจะมีโปรเจกต์ร่วมกันเพราะฉะนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นตนไป คุณแก้มจะมาทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้จัดการคอยดูแลผมที่เมืองไทยร่วมกับคุณลี จองกุ๊ก”

“หา!” ลีจองกุ๊กอุทาน อ้าปากค้าง...

ooooooo

ขณะอติเทพดูข่าวที่ถูกปล่อยออกมาเผยแพร่จากแท็บเล็ตอย่างเร็วนั้น เจอข่าวจุนจีกล่าวกับแฟนคลับว่า

“ขอ ความกรุณาแฟนคลับของผม ถ้าเห็นคุณแก้มไปไหนมาไหนกับผมติดตามผม ช่วยให้เกียรติเธอด้วยเหมือนกับที่ให้เกียรติปาร์คจุนจี” แล้วทำมือชนกันเป็นรูปหัวใจ “ซารางเฮโย...ขอบคุณครับ” จุนจียกมือไหว้ปิดท้าย

“ไอ้บ้าเอ๊ย...มันออกมาออดอ้อนข่าวยกมือไหว้แค่ นี้ คนเข้ามาตอบกระทู้เป็นพันๆคน ตอบออฟฟิเชียลไลน์อีกเป็นหมื่น ไอ้พวกหลงดาราเกาหลี ไอ้พวกติ่งไร้สมอง โง่งมงาย ไปเชื่อมันได้ยังไงวะ”

อติเทพจะขว้างแท็บเล็ตทิ้ง อรวีถือถ้วยกาแฟจะมารีบร้องห้าม วางถ้วยกาแฟจับแขนอติเทพที่เงื้อจะขว้างแท็บเล็ตไว้เตือนสติว่า

“อย่า ค่ะ...ทำลายข้าวของไป คุณก็ไม่ชนะปาร์คจุนจีหรอกค่ะ” อติเทพคำรามว่าตนเหนื่อยเครียด เดี๋ยวก็ฆ่าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปหรอก “อย่านะคะ อย่าให้มีคนต้องตายอีกเลย” อรวีห้ามตัวสั่นอย่างตระหนก

ขณะนั้นเอง กุมาริกามาถึงหน้าห้อง พอรู้ว่าอติเทพอยู่ในห้องกับอรวีก็ไม่พอใจ เดินผ่านประตูเข้าไป ทันใด

นั้นที่มุมทางเดินวิญญาณพิมพิลาสก็โผล่จากเงามืด เธอตามกุมาริกามาถึงคอนโดฯของอรวี มายืนอยู่ตรงประตูแล้ว

อติเทพพล่ามอย่างสับสนกับอรวีว่าคนอย่างตนไม่ใช่โง่ กว่าจะมีวันนี้...เป็นนายอติเทพผัวเศรษฐีนีพันล้านต้องอดทนลำบากกล้ำกลืนแค่ ไหน ระบายอารมณ์อย่างคับแค้นใจว่า

“ฉันต้องลงทุนทำให้นังแก่นั่นตายใจ ต้องตามใจมันทุกอย่าง ทนปรนเปรอความหวานให้กับมัน ทั้งๆที่ฉันรักเธอคนเดียว”

“ถึง ไม่ได้มรดกของคุณพิมพิลาส แต่ก็ยังมีสมบัติอื่นในบ้านอีกเยอะแยะ ทำไมเราไม่เอาสมบัติพวกนั้นไปขาย แล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันล่ะคะอติเทพ ตอนนี้ปาร์คจุนจีก็กลายเป็นศัตรูเราแบบเปิดเผยแล้ว มันไม่มีทางแบ่งอะไรให้คุณหรอก”

แต่อติเทพไม่ยอมแพ้ บอกว่าถ้าจุนจีเซ็นยอมรับเมื่อไรตนก็จะเป็นผู้ชายที่รวยเละ หมดหนี้หมดสิน อ้อนอรวีว่า

“เธอ ต้องอย่ายอมแพ้สิ เราต้องอดทนไปด้วยกัน เธอต้องไม่ทิ้งฉันเข้าใจไหม” พูดพลางกอดลูบไล้ให้ใหลหลง อ่อยว่า “แล้วเราจะแต่งงานกัน เรื่องต่างประเทศน่ะเรื่องสิวๆฉันจะพาเธอไปฮันนีมูนให้ทั่ว ฉันไปมาแล้วกับยัยแก่แร้งทึ้งทุกๆเมืองที่ว่าหรู ทุกๆโรงแรมดังห้าดาวในโลก”

“คุณพูดจริงๆนะอติเทพ” อรวีหลงคำหวานตามเคย

กุมาริกาเอามือปิดหน้าอย่างรับไม่ได้เฝ้าบอกอรวีว่าอย่าไปเชื่อมั่น มันหลอกใช้เธอ แต่อรวีไม่รับรู้

พิมพิลาสที่ฟังอยู่ตรงประตู ลอยผ่านเข้ามาในห้องยืนมองทั้งสองอย่างโกรธแค้นจนเส้นเลือดที่ขมับปูดโปนพึมพำ

“อรวี...ฉันเคยนึกว่า เธอน่ะน่าสงสาร ใสๆ แต่ที่แท้เธอมันเนรคุณ เธอเป็นงูพิษอีกตัวที่ลอบกัดฉันข้างหลัง”

วิญญาณ พิมพิลาสอาละวาดเข้าผลักอติเทพแล้วบีบคออรวียกขึ้นสูง อรวีดิ้นกระแด่วๆกลางอากาศพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่พูดไม่ออก อติเทพตกใจตาเหลือก ส่วนกุมาริกาแผดเสียงกรี๊ดตะโกน

“อย่าทำน้องหนู...ปล่อยน้องสาวหนูเดี๋ยวนี้นะคุณย่า อย่าฆ่าน้องสาวหนู อย่า!”

“น้องสาวแกมันร่าน มันแย่งผัวฉัน แกตายซะเถอะ ตายยยย!”

กุมาริกาพยายามช่วยอรวีแต่ทำอะไรไม่ได้ วิญญาณพิมพิลาสโกรธจนเลือดไหลออกจากตา ทำให้อติเทพ

เห็นเป็นครั้งแรก เขาตาเหลือกกระถดหนีจนหลังชนฝา ในขณะที่กุมาริกายังพยายามแก้ต่างให้อรวีว่า

“น้องสาวหนูถูกหลอกใช้ ก็เหมือนกับคุณย่านั่น

แหละ หลงไอ้เทพบุตรจากนรกตัวนี้จนหูหนวกตาบอด ไม่เคยรู้ว่ามันอยากได้สมบัติแต่ไม่เคยรักคุณย่าเลย คุณย่าถูกหลอกจนตาย!”

“ฉัน ถูกหลอก...ฮือๆๆ” พิมพิลาสร้องไห้คร่ำครวญอย่างอ่อนแอ ทำให้พลังอ่อนลงไปด้วย มือปล่อยจากคออรวี ร่างอรวีร่วงลงมา หายใจเฮือกอย่างหมดแรง

พิมพิลาสหันมองอติเทพน้ำตาเป็นสายเลือด ถามอย่างเจ็บปวดว่าทำไมทำกับตนอย่างนี้ ทำไมทรยศตน อติเทพแผดเสียงร้องโหยหวนขอให้พิมพิลาสไปผุดไปเกิดเถิด อย่ามาหลอกหลอนกันอยู่เลย...

ooooooo

อติเทพขับรถพาอรวีไปที่สำนักอาจารย์คง อาจารย์ถามทันทีว่าสองคนโดนวิญญาณตามมาล่ะสิ พออติเทพยอมรับ อาจารย์คงพูดราวกับเห็นว่า

“วิญญาณ เมียเก่าเมียแก่ก็เป็นแบบนี้ ธรรมดา อยากมีเมียใหม่เต็มทีแล้วล่ะสิ” อาจารย์คงชี้ไปที่อรวี อติเทพชมว่าอาจารย์แม่นจริงๆ

“อ้าว...ไอ้นี่ ไม่แม่นได้ไง เพื่อนเอ็งโทร.มาบอกตะกี๊” อติเทพถามว่าตกลงอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่า อาจารย์คงคุยโวว่า ถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ป่านนี้วิญญาณพิมพิลาสตามมาบีบคอเขาแล้ว ย้ำว่า

“อีนี่มันเฮี้ยนมาก พวกเอ็งสองคนไปจองเวรจองกรรมมันไว้ วิญญาณตายโหง ถูกคนฆ่าตาย มันเลยจะเอาคืน”

อติเทพติงว่าอาจารย์พูดเหมือนตนสองคนฆ่าเขา อาจารย์คงบอกว่าตนไม่พูดไปหรอก ตนแค่คุยตกลงกับผีเท่านั้น รับรองว่าไม่มีอะไรที่ต่อรองกันไม่ได้ถ้าเงินถึง อติเทพถามว่าอาจารย์ต้องการเท่าไร

อาจารย์คงบอกว่ามี 3 ราคา แล้วแต่ระดับความเฮี้ยน แต่เฮี้ยนระดับสุดโค่ยอย่างพิมพิลาสต้องหนึ่งแสน เดี๋ยวจะจับถ่วงน้ำให้เลย อติเทพถามว่าแล้วตนต้องทำอย่างไรบ้าง

“แค่มีข้าวของเครื่องใช้เมียเก่าเอ็งมาสักชิ้นก็พอแล้ว” อาจารย์คงบอก

ooooooo

เพราะใช้พลังในการช่วยญาณินไปมาก ทำให้กรรณาร่างกายอ่อนแอถึงกับอ้วก แต่ก็ได้พงอินทร์ดูแลเย้าแหย่ให้ผ่อนคลาย

เนตร สิตางศุ์ก็อ่อนเพลีย ดีที่ได้หมอวรวรรธดูแลวัดชีพจรเต้นปกติ แต่ต้องวัดความดันเพื่อความแน่ใจ ณัฐเดชเป็นห่วงน้องแต่ก็เบาใจที่ได้หมอดูแล

ส่วนอติเทพกลับไปเอาผ้าพันคอ ของพิมพิลาสมาให้อาจารย์คงทำพิธี อาจารย์คงเรียกวิญญาณพิมพิลาสมาหน้าสำนัก แล้วเรียกวิญญาณโหงพรายมาสองตัวให้ไปจับพิมพิลาส แต่โหงพรายถูกพิมพิลาสเล่นงานร่างกายเหวอะหวะซมซานกลับมา

อรวีถามว่าเกิดอะไรขึ้น อาจารย์เจ้าเล่ห์บอกว่าวิญญาณพิมพิลาสสุดโค่ยจริงๆ อติเทพตกใจถามว่าต้องทำอย่างไรต่อไป อาจารย์คงให้คำมั่นว่า

“เอาอยู่ๆๆ คนอย่างข้าเอาอยู่อยู่แล้ว แต่...แบบนี้ต้องขอขึ้นราคา” อติเทพถามว่าเท่าไร “2 แสน!”

พอ อติเทพโวยวาย ก็ถูกอาจารย์คงขู่ว่าถ้าไม่ยอมจ่ายตนก็คงต้องถอนตัว เพราะเสี่ยงมาก เสี่ยงถึงชีวิต ถามว่าจะจ่ายไม่จ่าย ถ้าไม่ตกลงสองแสนจะได้หยุดทำพิธี

“ให้เขาไปเถอะค่ะคุณอติเทพ เงินสองแสนเราหาใหม่ได้ ถ้าวิญญาณคุณพิมพิลาสหลุดเข้ามา เราคงไม่มีชีวิตไปหาเงินได้อีกแม้แต่บาทเดียวนะคะ”

“ก็ได้ๆสองแสนก็สองแสน” อติเทพยอมอย่างเจ็บใจ อาจารย์คงหัวเราะพอใจ พอเริ่มทำพิธีต่อก็ตะโกน

“นังผีเมียหลวง เก่งจริงแกเข้ามาในสำนักซิมาสู้กับฉันตัวต่อตัว”

ได้ผล! อึดใจเดียววิญญาณพิมพิลาสก็เข้ามายืนกลางห้องชี้หน้าด่าอาจารย์คงอย่างโกรธเกรี้ยว

“ไอ้คนหยาบช้า หลอกหากินบนความเดือดร้อนของชาวบ้าน แกกล้ามาลามปรามปีนเกลียวกับฉันงั้นรึ!”

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 14 วันที่ 23 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ