อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 11/1
“เก็บภาพรถ ขั้นตอนการประกอบรถ และส่งข่าวประชาสัมพันธ์ในวันพรุ่งนี้ จะทันหรือเปล่า”
“ทันค่ะ” อรุณศรีรับคำโดยไม่อิดออด
“ดีมาก คืนนี้อาจจะอยู่ดึกหน่อย ไม่มีปัญหานะ”
เบญลี่ตอบแทนอย่างลืมตัว
“ไม่มีค่ะ”
กริชชัยกับอรุณศรีหันมาทางเบญลี่ เบญลี่ยิ้มกลบเกลื่อน
“ก็..ตอบแทนแอ๊วไงคะ แอ๊วเค้าเป็นคนขยัน ใช้อะไรทำได้ไม่บ่น แอ๊วไม่ต้องตอบ เบญลี่ก็รู้อยู่แล้วว่า... ไม่มีปัญหา”
เบญลี่ซึ่งนั่งติดกับอรุณศรีรีบสะกิด
“จริงมั้ยแอ๊ว”
“ค่ะ..ไม่มีปัญหา ดิฉันจะให้ช่างภาพมาแสตนบาย รถมาเมื่อไหร่ เริ่มถ่ายได้ทันที”
อรุณศรีตอบด้วยความมั่นใจ
รถขนของเคลื่อนเข้ามาจอด บนรถมีกล่องสินค้า ที่บรรจุรถมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านใน พนักงานฝ่าย ช่างเตรียมช่วยกันขนลงจากรถ
กริชชัยยืนคุมอยู่ไม่ห่าง อรุณศรียืนอยู่ใกล้ๆ กริชชัยแอบปรายตามามองอรุณศรีและอมยิ้มอย่างมีความสุข
อรุณศรีแอบมองกริชชัยอยู่เหมือนกัน แต่รักษาท่าที คำพูดของสุพรรณิการ์ดังเข้ามาในความคิด
“ฉันรู้ว่าแกเป็นคนรักเดียวใจเดียว แกไม่อยากทำผิดกับไอ้ปรานต์ แต่การยอมรับความจริงมันไม่ใช่ความผิด และความจริงก็คือ คุณกริชเค้าสนใจแก”
อรุณศรีหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเพราะแอบตื่นเต้นอยู่ในใจ กริชชัยหันมาเห็นพอดี
“เป็นอะไร..หน้าแดงๆ ไม่สบายหรือเปล่า”
อรุณศรีเผลอจับหน้าตัวเอง
“เปล่านี่ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร เอ่อ...ดิฉันไปดูช่างภาพถ่ายรูปก่อนนะคะ”
อรุณศรีกลบเกลื่อน และรีบเดินหนีไปในทันที กริชชัยมองตามด้วยความแปลกใจ
พนักงานเริ่มแกะลังที่บรรจุรถออกมาทีละคัน แต่ละคันเต็มไปด้วยการออกแบบที่แปลกและไม่เหมือนใคร กริชชัยยืนคุมอยู่อย่างใกล้ชิด อรุณศรีคอยจดรายละเอียด เพื่อเตรียมเขียนข่าว ช่างภาพถ่ายภาพรถอย่างขะมักเขม้น กริชชัยเข้ามาช่วยพนักงานประกอบรถอย่างไม่ถือตัว อรุณศรียืนมองด้วยความชื่นชม
กริชชัยปาดเหงื่อและหันมาทางอรุณศรี สองคนสบตากัน อรุณศรีชะงักนิดๆ และรีบเฉไฉทำเป็นก้มหน้าจดรายละเอียด ท่ามกลางการทำงานที่จริงจังจากช่วงเย็นถึงดึกดื่นในคืนนี้ มีกลิ่นอายของความรักและความรู้สึกดีๆ แพร่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ
หน้าบ้านอรุณศรีตอนกลางคืนบรรยากาศเงียบสงัด รถกริชชัยเข้ามาจอดเทียบ ภายในรถเห็นอรุณศรีนั่งอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง ที่จริงฉันกลับเองก็ได้ ไม่ต้องลำบาก”
“คุณเป็นพนักงานที่มีคุณภาพ ผมไม่อยากสูญเสียบุคลากร ถ้าคุณนั่งรถเมล์ หรือรถแท๊กซี่มาแล้วเกิดอะไรขึ้นกับคุณ บริษัทผมจะเสียหาย” กริชชัยสีหน้าจริงจัง อรุณศรีอึ้ง
“โอเค..ค่ะ ... ฉันจะตั้งใจทำงานให้คุ้มกับที่คุณอุตส่าห์ขับรถมาส่งนะคะ บริษัทคุณจะได้ไม่เสียหาย ฉันไปก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ”
อรุณศรีก้าวลงจากรถในทันที กริชชัยผงะนิดๆ เรียกอรุณศรีไว้ไม่ทัน เพราะอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กริชชัยตัดสินใจลงจากรถทันที
อรุณศรีกำลังจะเดินเข้าบ้าน กริชชัยลงจากรถ แล้วรีบเรียกขึ้น
“อรุณศรี..เดี๋ยวก่อน”
กริชชัยเดินมาหา แล้วก็พูดตรงๆ
“ผมว่าคุณกำลังมีปัญหา”
“อะไรนะคะ” อรุณศรีเลิกคิ้ว..งง
“คุณกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างในชีวิต คุณไม่เหมือนเดิม... คุณรู้ตัวหรือเปล่า”
“เอ่อ” อรุณศรีเริ่มทำตัวไม่ถูก
“มีปัญหาอะไรบอกผมได้นะ .. ผมยินดีรับฟัง”
“ในฐานะของบริษัทที่ไม่อยากให้ฉันทำงานเสียหายเหรอคะ”
กริชชัยมองหน้าแล้วก็ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ในฐานะเพื่อนได้มั้ย”
“ฉันคงไม่อาจเอื้อมหรอกค่ะ คุณเป็นเจ้าของบริษัท ฉันต้องวางไว้บนหิ้งค่ะ จะดึงมาเป็นเพื่อนคงไม่เหมาะ”
“อย่าวางผมไว้บนหิ้งเลย วางผมไว้ข้างๆ เป็นเพื่อนคุณก็พอ .. ผมขอแค่นี้ คุณให้ผมได้หรือเปล่า”
กริชชัยพูดด้วยความจริงใจ อรุณศรีมองหน้ากริชชัย แล้วก็อะไรพูดไม่ออก ต่างคนต่างเงียบกันไปหนึ่งอึดใจ แล้วอรุณศรีก็ตัดสินใจตอบออกมาว่า
“เอ่อ...ก็.. ได้ค่ะ”
“ขอบคุณ ผมเป็นคนเต็มที่กับเพื่อน เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีปัญหาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ปรึกษาผมได้ทันที ผมยินดีช่วยทุกอย่าง” กริชชัยพูดพลางยิ้มอย่างโล่งอก
“ค่ะ”
กริชชัยยิ้มรับ และหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถ อรุณศรีมองตาม หลังกริชชัยขับรถออกไป อรุณศรีพึมพำกับตัวเอง
“คนอะไร..ใฝ่ต่ำจริงๆ ให้อยู่บนหิ้งดีๆ อยากลดตัวลงมาอยู่ข้างๆ”
แม้อรุณศรีจะทำเป็นกระแหนะกระแหน แต่ในใจก็แอบชอบ กริชชัยอยู่เหมือนกัน
รถกริชชัยแล่นออกไปแล้ว ที่มุมหนึ่งของหน้าบ้าน รถของปรานต์จอดแอบอยู่ ปรานต์มองตามรถกริชชัยด้วยความไม่พอใจอย่างแรง ปรานต์สตาร์ทรถและขับพุ่งมาหาอรุณศรีที่เดินมาถึงรั้วบ้านพอดี
รถปรานต์ปราดเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน อรุณศรีมองด้วยความแปลกใจ ปรานต์ลงจากรถด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ปรานต์”
“ทำไมแอ๊วทำแบบนี้กับปรานต์ แอ๊วนอกใจปรานต์ได้ยังไง”
“นอกใจอะไร” อรุณศรีขมวดคิ้วถาม
“ไม่ต้องมาทำเป็นแบ๊วไปหน่อยเลย ปรานต์ไม่ได้โง่ ปรานต์เห็นหมดแล้ว ไอ้เจ้านายขี้เก๊กมันมาเทียวรับ เทียวส่งแบบนี้ เพราะมีอะไรกันแล้วใช่มั้ย”
“ปรานต์” น้ำเสียงอรุณศรีโกรธสุดๆ
“ถึงว่า แฟนตัวเองหายไปสองสามวันไม่โทร.ตามสักแอะ ที่แท้ก็แอบมีชู้นี่เอง”
อรุณศรีเหลืออด กำหมัดแน่น เกือบจะเหวี่ยงไปตบ แต่ด้วยสติที่ดียังยั้งเอาไว้ได้ อรุณศรีตอกกลับด้วย
ความโกรธ
“อย่ามาพูดจาสุนัขๆ แบบนี้ เราสองคนเป็นแค่แฟนกัน .. ยังไม่เคยมีอะไรกัน สามีภรรยาก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นถ้าแอ๊วจะมีใครอีกสักคนเค้าไม่ใช่ชู้”
“ไม่ใช่ชู้ แล้วเป็นอะไร เป็นกิ๊ก งั้นเหรอ” ปรานต์สวน
“คนอย่างแอ๊วไม่จำเป็นต้องมีกิ๊ก ไม่ชอบแอบคบ หลบๆ ซ่อนๆ เสียเวลา ถ้าจะมี...มี “แฟนใหม่” ไปเลย สะใจกว่า”
อรุณศรีพูดน้ำเสียงจริงจัง ปรานต์ถึงกับอึ้งจุกเพราะอรุณศรีไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
โอบบุญเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพสะลึมสะลือ เพื่อออกมาดูสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง
“ทะเลาะกันอีกแล้วคู่นี้”
อรุณศรีสบัดหน้าใส่ปรานต์และหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“แอ๊ว!! ไม่ได้นะ ปรานต์ไม่ยอม ปรานต์ไม่ยอมเสียแอ๊วให้คนอื่น แอ๊วจะเลิกกับปรานต์ไปหาใครไม่ได้ทั้งนั้น” ปรานต์เสียงอ่อนลง
อรุณศรีไม่สนใจ ปรานต์วิ่งพุ่งเข้ามาแล้วก็กอดอรุณศรีไว้จากข้างหลัง อรุณศรีตกใจ รีบสบัดตัวออก
“ปรานต์ทำอะไร ปล่อยนะ ปรานต์อย่ามาทำน่าเกลียดแบบนี้นะ ปล่อย”
ปรานต์แสร้งทำสำออย อย่างคนสำนึกผิด และบีบเสียงเครือทำเป็นจะร้องไห้
“ขอโทษที่พูดไม่ดี ปรานต์ผิดไปแล้ว ปรานต์ขอโทษ แอ๊วอย่าโกรธปรานต์นะ เรา...ดีกันนะ
อรุณศรีไม่ตอบ แววตาและใบหน้าของอรุณศรีเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
โอบบุญแอบมองอรุณศรีกับปรานต์มาทางหน้าต่าง แล้วก็ส่ายหน้า พลางคิดว่าน้องสาวจะรอดจากเงิ้อมมือของผู้ชายกระล่อน ปลิ้นปล้อนคนนี้หรือเปล่า
ปรานต์ยังเล่นละคร ออดอ้อนต่อไป
“ปรานต์รักแอ๊วนะ รักมาก...รักจนไม่อยากเสียแอ๊วให้คนอื่น... ขอโทษนะ ต่อไปจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว ปรานต์รักแอ๊วจริงๆ นะ” ปรานต์พูดพลางจับมืออรุณศรี
ปรานต์ยังคงพรั่งพรูออกมาวาจาด้วยแม่น้ำทั้งห้า และมารยาร้อยเล่มเกวียน อรุณศรีฟังด้วยสายตาและความรู้สึกที่แสนจะสับสน ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเชื่อผู้ชายคนนี้ดีหรือไม่
ภายในห้องพักของสุพรรณิการ์ บนชั้นสองของร้านสาดสุรา อรุณศรีเล่าเรื่องปรานต์ให้ฟัง สุพรรณิการ์พูดตอบอย่างไม่เกรงใจอรุณศรี
“รักเนี่ยนะ... ถุย”
อรุณศรีสะดุ้งเล็กน้อย ในมือสองสาวต่างถือเครื่องดื่มคอกเทลคนละแก้ว แล้วสนทนาคุยกันไป
“อย่าบอกนะว่าแกเชื่อ” สุพรรณิการ์ดักคอ
“มันไม่สำคัญว่าฉันจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่มันคบกันมานาน ฉันเข้าใจมากกว่า”
“เข้าใจว่าอะไรวะ”
“เข้าใจว่าเค้าหึงฉัน ก็เลยพูดออกมาด้วยความโกรธ”
“แล้ว”
“ฉันก็เลย...ให้อภัยเค้า”
“กูล่ะกลุ้ม” สุพรรณิการ์ยกเครื่องดื่มซดด้วยความเซ็ง อรุณศรียกดื่มด้วยขึ้นดื่มตามด้วยความเครียด
“ฉันอยากรู้ ทำไมแกไม่เลิกกับไอ้ปรานต์ แฟนห่วยๆ แบบนี้มีไว้ถ่วงชีวิตทำไมวะ” สุพรรณิการ์ถาม
อรุณศรีคิด...แล้วก็ตอบจากใจ
“มันเป็นความเคยชิน .. ฉันคบกับปรานต์มาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พอพ่อแม่เสีย พี่โอบเริ่มทำงาน แกก็ต้องทำงาน ฉันไม่มีใครนอกจากปรานต์... ถ้าฉันเลิกกับเค้า ฉัน...กลัวเหงา” สุพรรณิการ์ฟังพลางเลิกคิ้วกับตรรกะของอรุณศรี
“เหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ ทุเรศที่สุด ทำไมแกไม่คิด “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ไม่มีมันแกก็ต้องอยู่ให้ได้”
“ถ้าทำง่ายเหมือนพูด ฉันทำไปนานแล้ว”
สุพรรณิการ์ส่ายหน้าและฟังอรุณศรีอธิบายต่อ
“ฉันว่า...ที่ปรานต์เป็นแบบนี้ เพราะเค้ามีปัญหาเรื่องเงิน ถ้าเค้าแก้ปัญหานี้ได้ มันน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม” อรุณศรีประเมินเหตุการณ์
สุพรรณิการ์ส่ายหน้าด้วยความไม่เห็นด้วย จังหวะหนึ่งอรุณศรีก็หันมาทางสุพรรณิการ์ พูดเสียงเครียด
“ฝ้าย...มีอีกเรื่อง ที่ฉันจะยังไม่ได้บอกแก”
สุพรรณิการ์มองหน้าอรุณศณีด้วยความอยากรู้ อรุณศรีพูดด้วยความเกรงใจ
“ปรานต์เค้าบอกฉัน...ว่าเค้าอยากยืมเงินแก”
สุพรรณิการ์ฟังแล้วของขึ้นวางแก้วคอกเทลลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วก็พูดออกมาอย่างนักเลงๆ
“ฉันรอประโยคนี้มานานแล้ว วันที่ไอ้ปรานต์มันต้องมาขอความช่วยเหลือฉัน บอกมันฉันให้ยืม แต่มันต้องมาเซ็นสัญญาเงินกู้กับฉันด้วยตัวเอง”
สุพรรณิการ์พูดด้วยน้ำเสียงแววตาจริงจัง และเย้ยหยันอยู่ในที อรุณศรีอึดอัดใจแทนปรานต์
อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 11/1
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์