หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 13/2

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 13/2
วัชระรีบเดินมาเปิดประตู คิดว่าเป็นอรุณศรีเต็มที่

“มาแล้วค้าบ”
แต่ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก วัชระถึงกับตะลึงกับสุพรรณิการ์ในลุคใหม่เต็มรูปแบบ ทั้งแสนสวยและเซ็กซี่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม เป๊ะรับกันไปหมด ผิดจากสุพรรณิการ์คนเดิมโดยสิ้นเชิง สุพรรณิการ์ยืนยิ้มเล็กน้อยอย่างมั่นใจ เล่นเอาวัชระถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง
สุพรรณิการ์ยิ้มพอใจที่เห็นอาการของผู้ชายที่ไม่เคยเห็นความเป็นหญิงของเธอ แล้วก็หยิบทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าถือส่งให้วัชระที่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น วัชระรับไว้แบบงงๆ
“เอาไว้เช็ดน้ำลาย”

สุพรรณิการ์พูดจบก็เดินเชิดเข้าไปในห้องด้วยความสะใจ ขณะที่วัชระยังยืนถือทิชชู่อ้าปากค้างอยู่
“สวัสดีค่า...ทุกคน” สุพรรณิการ์ทักทายเสียงระรื่น
“นี่มัน...คนเดียวกันจริงๆเหรอวะ”
วัชระเหมือนจะเพิ่งคิดได้ รีบปากระดาษทิชชู่ในมือลงถังขยะข้างๆ เพราะกลัวเสียฟอร์ม

กริชชัยเป็นคนแนะนำสุพรรณิการ์ให้รู้จักกับลำเภา เพราะยังไม่เคยเจอกันมาก่อน
“คุณฝ้ายเป็นเพื่อนบ้านของพี่ แล้วก็เป็นเพื่อนกับอรุณศรี”
ลำเภาพยักหน้ารับ กริชชัย ลำเภา สุพรรณิการ์ คุยกันอยู่กลางห้อง ส่วนกรกนกและธีธัชอยู่ที่เคาท์เตอร์เครื่องดื่ม วัชระเดินตามมาสมทบ
“สวัสดีค่ะ เภาเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่กริชค่ะ แล้ว...คุณอรุณศรีจะมาหรือเปล่าคะ พี่กริชรอตั้งแต่เช้าแล้วนะคะเนี่ย” ลำเภาพูดอย่างรู้ดี
“นี่…น้องคุณกริชก็รู้เรื่องแอ๊วกับ...” สุพรรณิการ์พูดพลางชี้ไปที่ตัวกริชชัย
กริชชัยและลำเภาต่างพร้อมใจพยักหน้ายืนยัน
สุพรรณิการ์หันมามองหน้าธีธัช กรกนก และวัชระ ทุกคนก็พยักหน้ารับ..ว่ารู้แล้วเช่นกัน
“สรุปว่า... มียัยแอ๊วคนเดียวที่ไม่ยอมรับรู้ว่าคุณกริชแอบชอบ”
กริชชัยได้แต่ก้มหน้าหลบด้วยความอาย
“น่าเห็นใจมากเลยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ฝ้ายบอกมันไปแล้ว ถ้ามันยังทำมึนๆ ไม่สนใจคุณกริช…ฝ้ายเสียบเองค่ะ”
วัชระหันขวับมาทางสุพรรณิการ์ทันที
กริชชัยหน้าตาเลิ่กลั่กเพราะคิดว่าสุพรรณิการ์จะเอาจริง สุพรรณิการ์หัวเราะร่า
“ฮ่าๆๆ ฝ้ายล้อเล่นค่ะ”
กริชชัยค่อยโล่งอกยิ้มนิดๆ
วัชระส่ายหน้า...แล้วก็เปรยประชด
“ทำเป็นพูดเล่นๆ ในใจอาจจะคิดจริงๆ ก็ได้ ใครจะไปรู้”
สุพรรณิการ์ปรายตามาจิกมาทางวัชระ
“ไอ้กริชแกระวังตัวให้ดีแล้วกัน อาจจะโดนปล้ำไม่รู้ตัว”
วัชระยักคิ้วกวนๆ แล้วเดินถือแก้วน้ำออกไปหาเนตรนภัสที่นั่งรออยู่ที่ระเบียง สุพรรณิการ์มองตามนิดๆ...ด้วยความหมั่นไส้...ลำเภาพูดเปรยๆขึ้น
“ปาร์ตี้พี่กริช สนุกจริงๆ...หึหึ” แล้วหัวเราะอย่างกวนๆ

วัชระส่งแก้วน้ำผลไม้ปั่นสูตรพิเศษให้เนตรนภัส
“คุณกรเค้าทำให้ ลองดูว่าชอบหรือเปล่า”
เนตรนภัสรับมา ยังไม่ได้ลองดื่ม ทว่าสายตาจ้องมองเข้าไปในคอนโด มองสุพรรณิการ์ด้วยความ
แปลกใจ
“ผู้หญิงที่เพิ่งมาเป็นใคร” เนตรนภัสถามด้วยความสงสัย
“เป็นเพื่อนบ้านของไอ้กริช แล้วก็เป็นเจ้าของร้านที่คุณกรทำงานอยู่ ชื่อฝ้าย”
“งั้นอาจจะเคยเห็นที่ร้าน ถึงว่าหน้าคุ้นๆ”
วัชระหันมามองสุพรรณิการ์
“เมื่อก่อนไม่ได้สวยแบบนี้” วัชระพูด
“สวย...นี่วัชชมว่ามันสวยงั้นเหรอ” เนตรนภัสเริ่มอารมณ์บูดทันทีที่ได้ยินวัชระชมหญิงอื่นต่อหน้า
“แหนม…ทำไมเรียกเค้าว่า “มัน” เค้ามีชื่อ เรียกชื่อก็ได้”
“ปกป้อง!! นี่ถึงกับปกป้องกันขนาดนี้ กิ๊กกันอยู่ใช่มั้ย”
“โอ้ย แหนมไปกันใหญ่แล้ว ไม่ได้ปกป้องอะไรเลย แค่พูดไปตามหลักมารยาท และที่บอกว่าสวย เพราะเมื่อก่อนมันแย่มาก ตอนนี้แค่ดูดีขึ้น มันก็เท่านั้นเอง... เท่านั้นเองจริงๆ เฮ่อ”
“ไม่รู้ละ...แหนมไม่ชอบหน้ามัน…หน้าตา ท่าทางก็แปลกๆ แต่งตัวก็โป๊ ยังกะจ้องจะมาจับผู้ชาย”
วัชระแอบมองชุดเนตรนภัส ซึ่งก็เป็นเสื้อผ้าในแนวเดียวกับที่สุพรรณิการ์ใส่อยู่ ทั้งโป๊และเปรี้ยวพอกัน แล้วก็ส่ายหน้า
“หรือว่า...มันจะมาจับผู้ชายจริงๆ” เนตรนภัสหันหน้ามาถามวัชระ
“เฮ่อ...ไม่ช่าย ที่ไอ้กริชมันชวนเค้ามา เพราะเค้าเป็นเพื่อนกับผู้หญิงที่มันแอบชอบอยู่ แล้วเค้าก็ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้”
เนตรนภัสฟังแล้วด้วยความอยากรู้
“ผู้หญิงที่คุณกริชแอบชอบ.... ใคร”

อรุณศรียังนั่งอยู่ในบ้าน...ยังครุ่นคิดและตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะไปร่วมงานปาร์ตี้ของกริชชัยดีหรือไม่ ระหว่างนั้นก็มีเสียงสัญญาณข้อความเข้าที่โทรศัพท์มือถือ อรุณศรีหยิบโทรศัพท์มาเปิดข้อความที่สุพรรณิการ์ส่งมา
“ถ้าแกไม่มา...ฉันจะแฉความเลวของไอ้ปรานต์ให้คุณกริชฟังทุกอย่าง… เพราะฉะนั้นถีบตัวเองออกมาจากบ้านได้แล้ว!!”
อรุณศรีคิดหนัก

กริชชัยย้ายตัวเองมานั่งรออยู่ในจุดที่ใกล้กับประตูห้องมากที่สุด ทั้งยังคอยมองประตูและลุ้นอยู่ในใจตลอดเวลา
ลำเภาเดินมาหา พร้อมกับยื่นถาดขนมให้ตรงหน้า กริชชัยหยิบมากินอย่างไปอย่างนั้น
“ตกลงเค้าจะมาหรือเปล่า” ลำเภาถามขึ้น
“ไม่รู้”
“มีเบอร์โทรศัพท์หรือเปล่า”
“มี”
“โทร.ตามสิ”
กริชชัยส่ายหน้าพลางพูดว่า
“ไม่เอา น่าเกลียด เหมือนโทร.ไปเร่ง เผื่อเค้าอาจจะติดธุระ หรือไม่..เค้าก็อาจจะไม่อยากมา”
“แล้วทำไง”
“ก็รอต่อไป”
ลำเภาส่ายหน้า แล้วก็วางถาดขนมไว้ตรงหน้า พร้อมกับหันไปหยิบถุงขนมมาวางไว้ให้อีกสี่ห้าถุง กริชชัย
มองหน้าลำเภาอย่างไม่เข้าใจความหมาย
“เอาไว้กินระหว่างรอ..เพราะคงต้องรออีกนาน”
ลำเภาพูดประชดกริชชัยเสร็จแล้วก็เดินจากไป กริชชัยมองตามนิดๆ แล้วก็มองดูถุงขนมตรงหน้า..ถอนใจเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ หันไปที่ประตูห้องที่ยังปิดสนิท ไม่มีวี่แววของแขกคนสุดท้าย

กรกนกเทน้ำปั่นใส่แก้ว สุพรรณิการ์หันมาเห็นก็ถามขึ้น
“คุณกร...แก้วนี้ของใคร”
“ของคุณแหนมค่ะ “
สุพรรณิการ์ เดินมาหยิบแก้วไปจากมือกรกนก
“ฝ้ายเอาไปเสิร์ฟให้เอง คุณกรไปนั่งพักได้แล้ว คุณมาเป็นแขกเหมือนพวกเรา แต่ฝ้ายยังไม่เห็นคุณได้พักเลย ของแฟนนายหน้าหนวด...ฝ้ายจัดการเอง”
สุพรรณิการ์มองขวับไปที่วัชระและเนตรนภัสที่ยังนั่งปลีกวิเวกกันอยู่ที่ระเบียง

เนตรนภัสนั่งกำลังนั่งเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ โดยมีวัชระนั่งหน้าเซ็งอยู่ข้างๆ มองเนตรนภัสที่ไม่ยอมออกไปสุงสิงกับใครด้วยความเบื่อหน่าย
สุพรรณิการ์เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำปั้นในมือ หยุดและสะบัดผมไปมา เพื่อบริหารความเซ็กซี่ ประหนึ่งจะเรียกองค์ดาวยั่วมาประทับร่าง ขยับนมให้เข้าที่ แล้วก็เดินสะบัดเสน่ห์เข้าไปหาวัชระ และเนตรนภัสทันที
สุพรรณิการ์เดินเข้ามาพร้อมกับส่งเสียง
“น้ำผลไม้ปั่นมาแล้วค๊า”
วัชระหันขวับไปตามเสียง สุพรรณิการ์เดินยิ้มพราว แววตายั่วยวนอย่างจงใจ วัชระไม่ค่อยแน่ใจว่า สุพรรณิการ์จะมามุกไหน เนตรนภัสสัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่างของสุพรรณฺการ์ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาช้าๆ
สุพรรณิการ์จงใจค่อยๆ ก้มต่ำเกินความจำเป็นเพื่อวางแก้วน้ำ วัชระเผลอตัวมองมาที่ร่องอกของสุพรรณิการ์ โดยไม่รู้ตัว
เนตรนภัสหันขวับมาที่วัชระ แล้วก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างแรง เสียงดังปัง! วัชระสะดุ้งโหยง รีบดึงสายตาหลบจากร่องอกไปโดยอัตโนมัติ
สุพรรณิการ์ยิ้มกริ่มด้วยความสะใจ แล้วก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับสะบัดผมอย่างตั้งใจ ปลายผมไปปะทะกับใบหน้าวัชระ…จนวัชระหลับตาปี๋..เนตรนภัสหันไปเห็นพอดี และเปิดฉากใส่สุพรรณิการ์ทันควัน
“นี่...สะบัดผมให้มันห่างๆ จากหน้าแฟนฉันหน่อยได้มั้ย”
สุพรรณิการ์ทำเป็นตกใจ
“อุ้ย ขอโทษนะคะคุณผู้กอง พอดีช่วงนี้ตาไม่ค่อยดี เลยไม่ค่อยเห็นหัวคนอื่นน่ะค่ะ” สุพรรณิการ์ยิ้มกวน พร้อมกับขยับเป็นยืนด้วยท่าทางแสนเซ็กซี่
เนตรนภัสมองสุพรรณิการ์แล้วเริ่มกอดอก อย่างเอาเรื่อง
“คุณกริชบอกว่าคุณผู้กองกำลังจะย้ายมาอยู่ที่นี่อาทิตย์หน้า ฝ้ายดีใจมากอ่ะค่ะ ตอนนี้ฝ้ายอยู่เดียวเหง๊า..เหงา ห้องอื่นก็ไม่รู้จัก รู้จักแต่ห้องนี้ห้องเดียว ถ้าคุณผู้กองมาอยู่ ฝ้ายจะได้แวะมาหาบ่อยๆ”
เนตรนภัสของขึ้น ชักสีหน้ากำลังจะด่ากลับ สุพรรณิการ์ทำเป็นรู้ตัวแล้วก็หันมาขอโทษอย่างเสแสร้งมายาสุดขีด
“อุ้ยตาย...ขอโทษนะคะ ฝ้ายพูดเล่น ฝ้ายขอตัวไปก่อนนะคะ พอดีต้องไปดูแลผู้ชายคนอื่นต่อ” สุพรรณิการ์พูดจบก็แกล้งเดินบิดก้นลีลาอย่างนางแบบ ออกจากระเบียงเข้าไปในห้องทันที
วัชระเผลอมองตามก้นสุพรรณิการ์ เป็นจังหวะโยกของแก้มก้น ซ้าย ขวา ซ้าย เนตรนภัสหันมาเห็น จึงตวาดเสียงสูงขึ้นทันที
“วัช”
วัชระสะดุ้งหันมาทางเนตรนภัสพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ แล้วก็หยิบแก้วน้ำมาดื่มแก้เก้อ เนตรนภัสมอง
ด้วยความไม่พอใจ
พอสุพรรณิการ์เดินพ้นจากกรอบสายตาเนตรนภัสและวัชระมาได้ ก็แอบหัวเราะคิกคักด้วยความสะใจ

ธีธัชมองเนตรนภัสกับวัชระที่นั่งอยู่ที่ระเบียง ด้วยความเห็นใจในชะตากรรมของเพื่อน พลางเดินมาหากรกนกที่นั่งอยู่บนโซฟา
“น่าสงสารไอ้วัชจริงๆ แหนมคุมมันยิ่งกว่าแม่อีก ถ้าจะมาแล้วทำตัวแบบนี้ กลับไปเลยดีกว่า”
“ธี..แรงไปเปล่า”
“ก็จริงนี่...วันนี้แหนมทำตัวแปลกๆ ไม่ยอมมาร่วมวง เอาแต่นั่งหน้าหงิก ไอ้วัชอยู่ด้วยมันถึงจิตตก สมควรแล้วที่ไอ้วัชมันจ้องจะทิ้ง”
“ธีนี่ ปากจัดใหญ่แล้ว ถ้ายังพูดแบบนี้อีก เดี๋ยวจะหาอะไรมาตบปาก”
ทันใดนั้นเสียงลำเภาก็ดังขึ้น
“อย่าเดี๋ยวสิคะ ตบเลย ปากแบบนี้ ต้องใช้รองเท้าค่ะ...ทีเดียวอยู่”
ธีธัชหันขวับไป ลำเภาโผล่เข้ามาแล้วก็หย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาด้วยตรงที่ข้างๆ ธีธัชซึ่งว่างอยู่ ตอนนี้ธีธัชจึง โดนประกบด้วยลำเภาและกรกนก
“จริงๆ นะคะคุณกร เวลาหมาที่บ้านเภาเห่าไม่รู้เรื่อง บอกเท่าไหร่ก็ไม่หยุด เภาใช้รองเท้าตบปากทีเดียว เงียบกริบ หลังจากนั้นไม่กล้าเห่าไร้สาระอีกเลยค่ะ” ลำเภาพูดจบก็ดูดน้ำจากแก้วรวดเดียวหมดแก้ว
“ถ้ามันดีจริง เธอเองก็ปากเสีย ตบปากตัวเองให้ดูก่อนสิ” ธีธัชย้อน
“โอ้ย ตบบ่อย”
“นี่ตบแล้วเหรอ”
“ใช่ ไม่งั้นยิ่งกว่านี้ ปากเสียแบบพื้นฐานอย่างนายเนี่ยนะ แค่ทีเดียว รับรองหยุดเห่าหอนไปอีกนาน”
ลำเภาชะโงกหน้ามาทางกรกนก
“อยากลองมั้ยคะคุณกร รองเท้าเภายังใหม่ ส้นตึกด้วย รับรองว่าทีเดียวนิ่ง” ลำเภาพูดต่อ
กรกนกงง ตามมุกของลำเภาไม่ค่อยทันจึงไม่รู้จะตอบยังไง
“งั้น ลองเลยนะคะ” ลำเภาพูดพลางทำท่าจะถอด
ธีธัชรีบแทรกขึ้น
“จะบ้าเหรอยัยหนูตะเภา …ฉันเป็นเพื่อนพี่เธอนะ สัมมาคารวะน่ะมีหน่อย”
“ฉันก็เป็นน้องสาวของเพื่อนนะ แถมยังเป็นแฟนอีกต่างหาก เมตตากรุณาน่ะ มีให้หรือเปล่า”
ลำเภาพูดจบก็ยักคิ้วกวนๆ ใส่ ธีธัชสุดจะแค้น
กรกนกรู้สึกเหมือนสองคนทะเลาะเข้าขากันได้ดี ส่วนตัวเองรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นคนนอกยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก
“ฮึ่ม...เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ เตะเด็กสักทีสองทีมันจะผิดกฎหมายมั้ยวะเนี่ย”
ธีธัชพูดด้วยความหงุดหงิด ทันใดนั้นลำเภาก็ลุกพรวดขึ้น
“เดี๋ยวก็รู้ว่า…ผิดกฎหมายหรือเปล่า”
ลำเภาเดินดิ่งไปหาวัชระ ธีธัชตกใจ กรกนกมองตามไปอย่างงงๆ

ลำเภายืนอยู่ที่ระเบียง ต่อหน้าวัชระและเนตรนภัส
เนตรนภัสถามลำเภาเสียงแข็ง
“เธอจะเอาตัววัชไปไหน”
“เอาไปตัดสินคดีค่ะ”
“วัชเนี่ยนะ จะไปตัดสินอะไรได้” เนตรนภัสพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ
วัชระเบือนหน้าหนี ลำเภามองวัชระด้วยความเห็นใจและเข้าใจ
“แต่คุณวัชเป็นตำรวจ ถึงตัดสินไม่ได้ อย่างน้อยนายธีก็ต้องเกรงใจ ไปค่ะคุณวัช เข้าไปจัดการนายธีให้เภาหน่อย” ลำเภาพูดพลางแกล้งคว้าแขนวัชระไป
วัชระลุกขึ้น เนตรนภัสไม่ยอม รีบลุกขึ้น กระชากแขนลำเภาออกจากแขนของวัชระ
“แต่แหนมไม่ให้ไป”
เนตรนภัสแผดเสียงดัง บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมาคุขึ้นอีกครั้ง

กรกนก และธีธัชยืนอยู่ด้านในห้อง มองมาที่ลำเภาที่ยืนอยู่กับวัชระตรงระเบียงด้วยความเป็นห่วง
“ยัยหนูตะเภา เล่นไม่รู้เรื่อง” ธีธัชส่ายหน้า
ธีธัชหันไปเรียกกริชชัย
“ไอ้กริช...น้องแกก่อเรื่องอีกแล้ว”
กริชชัยรีบเดินมาสมทบ
“เภาทำอะไร”
“มีอะไรเหรอคะ” สุพรรณิการ์เดินมาร่วมวงอีกคน

วัชระพยายามควบคุมสถานการณ์ของเนตรนภัสกับลำเภา
“แหนม...ผมไปเคลียร์ให้เภาเค้านิดเดียว ไม่ได้จะไปนานสักหน่อย”
“แต่แหนมไม่ให้ไป วัชมากับแหนม แล้วอยู่ๆ จะทิ้งให้นั่งอยู่คนเดียวตรงนี้เนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า”
“คุณนั่นแหละ นั่งคนเดียวก็ไม่ได้...บ้าหรือเปล่า”
“นังเด็กบ้า” เนตรนภัสกรี๊ดเสียงดัง
“ก็จริงนี่ คนอื่นเค้าคุยกันอยู่ข้างใน มีแต่คุณที่ลากคุณวัชมาซุกไว้ตรงนี้ ที่นี่...ปาร์ตี้นะคะ ไม่ใช่สถานปฎิบัติธรรม”
เนตรนภัสโกรธจนหน้าตาแดงก่ำ วัชระพยายามจะกลั้นหัวเราะในคำพูดของลำเภา แต่อดไม่ไหวจนต้องหลุดขำออกมาจนได้
เนตรนภัสยิ่งโกรธหนักที่ได้ยินเสียงหัวเราะของวัชระ
“วัช หัวเราะอะไร นังเด็กนี่มันประชดแหนม คุณต้องจัดการมันเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าวัชไม่จัดการ แหนมจะจัดการเอง”
เนตรนภัสหันขวับมาทางลำเภา พร้อมกับเดินกราดเข้ามาทำท่าเหมือนจะใช้กำลัง
กริชชัยมองเหตุการณ์อยู่รีบพุ่งเข้ามาขวางไว้ทันท่วงที
“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”
นตรนภัสชะงักไป กริชชัยหันมาทางลำเภา
“เภา...มานี่”
กริชชัยลากลำเภาจากระเบียงเข้าไปในห้องปาร์ตี้ ลำเภาเดินตามไป.
วัชระยังอมยิ้มกับคำพูดของลำเภา เนตรนภัสเห็นก็แว๊ดใส่ทันที
“วัช!! ถ้ายังไม่หยุดขำ..แหนมจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
วัชระหยุดขำกะทันหัน และกลับมานั่งที่เดิม..พยายามกลั้นหัวเราะไว้เต็มที่
เนตรนภัสกอดอกมองเข้าไปในห้องกริชชัยด้วยความไม่พอใจ
“ฉันเกลียดอีนังพวกนี้”

กริชชัยลากลำเภามาที่บริเวณหน้าประตู ซึ่งเป็นมุมเงียบและดูเป็นส่วนตัว
“เภาไปยั่วแหนมทำไม รู้ทั้งรู้ว่าแรงขนาดไหน เดี๋ยวก็วงแตกกันหมด”
“ก็เภาสงสารคุณวัชนี่ นั่งจ๋อยเป็นหมามองกระป๋อง อยากจะเข้ามาร่วมวงกับพวกเราก็มาไม่ได้”
“เภาเลิกเลย ไม่ต้องไปสงสารมัน สงสารไปก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะยิ่งยุ่ง แล้วเรื่องไอ้ธีก็อีก”
“หมาใหญ่แฟนเภาน่ะเหรอ” ลำเภายังไม่มีทีท่าว่าจะสลด
“เลิกเล่นมุกนี้ซะทีได้มั้ย . คุณกรเค้าทำหน้าไม่ถูกแล้ว”
“เภาไม่ได้เล่นนะ เภาพูดจริง และถ้าพี่กริชอยากให้เภาเลิก ก็ให้นายธีมาขอโทษเภาก่อน เภาถึงจะยอมเลิก”
กริชชัยมองหน้าลำเภาอย่างเหนื่อยใจ
“สรุปว่าทั้งเรื่องไอ้วัช เรื่องไอ้ธี เภาจะไม่รับผิดเลยใช่มั้ย”
“เภาไม่ใช่แพะนะ จะมาให้รับผิดทั้งที่ตัวเองไม่ผิดได้ยังไง”
“เฮ่อ..ทำไมน้องฉันถึงได้เถียงเก่งแบบนี้เนี่ย”
“เภาไม่ได้เถียงนะ เภาแค่ชี้แจงความจริง”
กริชชัยได้แต่ส่ายหน้า
“ยัง..ยังจะเถียงอีก”
ทันใดนั้นเสียงออดก็ดังขึ้น กริชชัยลืมนึกถึงอรุณศรีไปชั่วขณะ เพราะมัวแต่หงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ใครมาอีกเนี่ย”
กริชชัยหันเดินไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิดในอารมณ์ อรุณศรียืนอยู่เบื้องหน้ากริชชัย
กริชชัยรีบสลัดทิ้งความหงุดหงิดทั้งปวง เปลี่ยนสีหน้าทันที ทั้งกริชชัยกับอรุณศรียืนประชันหน้ากัน
“อรุณศรี” กริชชัยทักทาย
“สวัสดีค่ะ”

อรุณศรียิ้มงงๆ กับท่าทีของกริชชัย
จบตอนที่ 13
อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 13/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์