หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 14

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 14
สุพรรณิการ์โผล่หน้าไปดูที่ประตูแล้วก็ยิ้มออกมา หันมาบอกกรกนก

“แอ๊วมาแล้วค่ะ”
กรกนกหันมาทางธีธัชที่ยืนห่างออกไปเล็กน้อย
“คุณแอ๊วมาแล้วค่ะ”
ธีธัชยิ้มรับแล้วก็รีบวิ่งไปบุ้ยใบ้ บอกวัชระที่นั่งอยู่ตรงระเบียง
“มาแล้วๆๆ”

วัชระหันไปเห็นก็ยิ้มตื่นเต้นไปด้วย
“อ่ะจริงดิ มาแล้วเหรอ”
เนตรนภัสหันขวับมาทางวัชระ
“ใครมา”

อรุณศรียืนเขินๆ อยู่ที่ประตู กริชชัยยังทำตัวไม่ถูก จนลำเภาต้องโผล่หน้าออกมา
“สวัสดีค่ะคุณอรุณศรี”
อรุณศรีมองหน้าลำเภาแล้วนึกแปลกใจ คุ้นๆ แต่ไม่แน่ใจเคยพบกันที่ไหน
“ไม่ต้องงงค่ะ .. เราเคยเจอกันมาแล้วค่ะ”
อรุณศรีคิดและนึกได้..แล้วมองอีกทีด้วยความแปลกใจ
กริชชัยรีบแนะนำทันที
“ลำเภาเป็นลูกสาวของป้าผมเอง”
“จริงๆ มีศักดิ์เป็นพี่ แต่พี่กริชอายุมากกว่า เภาเลยเป็นน้องค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” อรุณศรียิ้มกระจ่าง
“เช่นกันค่ะ..เภานึกว่าคุณแอ๊วจะไม่มาซะแล้ว..เข้ามาข้างในเลยค่ะ เดี๋ยวเภาพาชมห้องเอง”
ลำเภาจับมืออรุณศรีแล้วก็ดึงเข้ามาในห้อง อรุณศรีเดินตาม ไม่นึกว่าลำเภาจะแสดงความสนิทสนมอย่างรวดเร็วกับเธอเร็วขนาดนี้
อรุณศรีเดินผ่านกริชชัยที่ยังยืนนิ่งตื่นเต้นอยู่ที่เดิม พ้นหลังอรุณศรีกริชชัยค่อยๆปิดประตู..แล้วก็ยิ้มออกมา จากนั้นก็หุบยิ้มเก๊กต่อเดินตามอรุณศรีและลำเภาไป

นตรนภัสมองเข้ามาในห้อง ด้วยความอยากรู้ เนตรนภัสเห็นลำเภาพาอรุณศรีเดินดูมุมโน้นมุมนี้ ในขณะที่สุพรรณิการ์ และกรกนกอยู่ประจำมุมเค้าน์เตอร์บาร์พร้อมกับเตรียมเครื่องดื่มตลอดเวลา กริชชัย และธีธัชยืนอยู่ไม่ไกล
เนตรนภัสมองดูแล้วก็หันมาเบ้หน้าคุยกับวัชระด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ
“เนี่ยเหรอผู้หญิงที่คุณกริชชอบ หน้าตาก็งั้นๆ เป็นใคร”
วัชระเบื่อที่เนตรนภัสดูถูกคนอื่น
“คุณแอ๊วเป็นพีอาร์เอ็มกรุ๊ป”
“เป็นพนักงานในบริษัทเนี่ยนะ มีไฮโซตั้งเยอะแยะจ้องจะจับคุณกริช ทั้งสวย ทั้งรวย คุณกริชจะเลือกใครก็ได้ ทำไมมาเลือกเด็กในบริษัท ตาต่ำจริงๆ”
วัชระสะอึก แล้วก็สวนทันที
“ถ้าไอ้กริชตาต่ำ แหนมก็ตาต่ำเหมือนกัน”
“วัช” เนตรนภัสเสียงสูง
“ก็แหนมมีผู้ชายมาให้เลือกตั้งเยอะแยะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย แต่แหนมก็มาคบกับผม ทั้งจน ทั้งซกมก หนวดเครารุงรัง คนอื่นเค้ามอง เค้าก็คงจะคิดว่าแหนมตาต่ำเหมือนกัน”
เนตรนภัสแทบกรี๊ด
“นี่...วัชกล้าด่าแหนมเหรอ อ๋อ..หรือว่า..จะหาเรื่องเลิก คิดว่าพูดแบบนี้แล้วแหนมจะทนไม่ได้ ยอมเลิกให้งั้นเหรอ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ ไม่ว่าวัชจะร้ายกับแหนมแค่ไหน..แหนมก็ไม่เลิก”
วัชระไม่อยากจะเถียงได้แต่ส่ายหน้า
เนตรนภัสหันไปหยิบกระเป๋าถือที่วางอยู่แล้วก็หันมาพูดเสียงสะบัด
“แหนมจะกลับบ้าน ไม่อยากอยู่แล้ว ปาร์ตี้บ้าๆ มีแต่คนสติไม่ดี”
“กลับ ตอนนี้เนี่ยนะ”
“ใช่ แล้ววัชก็ต้องกลับกับแหนมด้วย”
วัชระเบือนหน้าหนีด้วยความเซ็งแบบสุดๆ

สุพรรณิการ์ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ แอบลอบมองพฤติกรรมของวัชระกับเนตรนภัสที่ระเบียงอยู่
“คุณฝ้ายคะ” กรกนกเรียก
สุพรรณิการ์หันมา กรกนกส่งแก้วน้ำผลไม้ปั่นให้
“ของคุณแอ๊วค่ะ”
“อ้อ..ขอบคุณค่ะ”
สุพรรณิการ์กำลังจะเดินเอาเครื่องดื่มไปให้อรุณศณี พลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ สุพรรรฺการ์หันไปมองกริชชัยที่ยืนตื่นเต้นอยู่ข้างๆ ธีธัช สุพรรณิการ์ยิ้มเจ้าเล่ห์

ลำเภาพาอรุณศรีเดินชมห้อง อรุณศรีเห็นรูปโมเดลมอเตอร์ไซด์ แล้วก็รูปวาดเป็นรูปวิว ติดผนังอยู่ติดกันอยู่ใกล้กัน
“เภากับพี่กริชสนิทกันมากนะคะ เราถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เหมือนเป็นพี่น้องกันแท้ๆ พี่กริชเค้าเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ ไม่ค่อยชอบแสดงความรู้สึก”
ลำเภาเดินไปเรื่อยๆ เดินไปพูดไป แล้วก็พาอรุณศรีมาหยุดอยู่ที่ภาพโมเดลรถกรอบหนึ่ง
“ตั้งแต่เภาจำความได้ มีอยู่แค่ ๓ อย่างที่พี่กริชชอบมาก...มากจนแสดงความรู้สึกออกมา”
อรุณศรีตั้งใจฟัง
“อย่างแรกก็คือ รถมอเตอร์ไซค์ อย่างที่สองก็คือ การวาดรูป และสุดท้ายก็คือ ...” ลำเภาหันไปมองหน้าอรุณศรี
ขณะที่อรุณศรีรอฟังสิ่งชอบอันดับสาม ทันใดนั้น..เสียงกริชชัยก็ดังขึ้น
“อรุณศรี”
อรุณศรีหันไปตามเสียงเรียก กริชชัยยืนอยู่พร้อมกับเครื่องดื่ม แอบปรายตาดุๆลำเภา ลำเภาทำเป็นลอยหน้า..ไม่รับรู้ และไม่รับผิด ลำเภาหันมาทางอรุณศรี
“พี่กริชมารับหน้าที่ต่อแล้ว...เภาขอแยกตัวไปก่อนนะคะ ไม่อยากอยู่เป็นพยัญชนะ 3 ตัวแรกของภาษาไทย”
อรุณศรีกับกริชชัยขมวดคิ้วพร้อมกันเพราะตามลำเภาไม่ทัน
“กอ ขอ คอ ไงคะ” ลำเภาเฉลย
อรุณศรีขำอย่างฮา แต่กริชชัยส่ายหน้ากับมุกเสี่ยวของลำเภา ลำเภายิ้มดีใจที่เห็นอรุณศรีหัวเราะ
“ตามสบายนะคะ .. คุณแอ๊ว”
ลำเภาเรียกชื่ออรุณศรีอย่างเป็นมิตร และสนิทสนม ก่อนจะเดินจากไป

ลำเภาเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นตรงกลางห้อง สุพรรณิการ์เห็นลำเภาเดินมา ก็รีบเดินมาถามทันทีเพราะอยากรู้
“สถานการณ์เป็นไงบ้างคะ”
“เภาชงไว้เรียบร้อยค่ะ ต้องรอดูว่าพี่กริชจะทำคะแนนต่อหรือเปล่า”
สุพรรณิการ์พยักหน้ารับรู้ ได้แต่ชะเง้อๆ ลุ้นๆ แทนเพื่อนอยู่ตลอดเวลา

กริชชัยยังยืนเขินถือแก้วน้ำอยู่ในมือจนอรุณศรีเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน เพราะว่านึกได้ว่า ยังสนทนากับลำเภาค้างอยู่
“เออ..เมื่อกี๊คุณลำเภาบอกว่า มีอยู่ 3 อย่างที่คุณชอบ แต่บอกมาแค่ 2 อย่าง ฉันยังไม่รู้อย่างสุดท้ายเลยค่ะ”
“อย่าไปรู้เลย .. มันไร้สาระน่ะ นี่..ครับ.. น้ำผลไม้ปั่น” กริชชัยเฉไฉแก้เก้อด้วยการส่งน้ำผลไม้ให้
“ขอบคุณค่ะ”
อรุณศรีรับมาดื่มอย่างสุภาพ กริชชัยมองตามอย่างเพลิน..อรุณศรีเงยหน้ามาเห็นว่ากริชชัยแอบมองอยู่ กริชชัยรู้ตัวจึงรีบดึงสายตาออกชวนคุย
“ผมนึกว่า คุณจะไม่มาซะอีก”
“ก็... พอดีว่างๆ น่ะค่ะ แต่ก็คงอยู่ไม่นาน”
“ไม่เป็นไร... แค่คุณมาผมก็ดีใจแล้ว” กริชชัยตอบประสาซื่อ
อรุณศรีเงยหน้ามองกริชชัย แววตาของกริชชัยที่มองมายังอรุณศรีแบบไม่วางตานั้น เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกมากมายที่อยู่ในดวงตาคู่นั้น อรุณศรีถึงกับใจเต้นแรงโดยไม่รู้สาเหตุ
อรุณศรีค่อยๆเบนสายตาหลบ และก้มหน้าก้มตาดูน้ำในแก้ว... ก้มลงดูดน้ำผลไม้จนหมดแก้วด้วยความเขิน
“เอาอีกแก้วมั้ย”
“ไม่แล้วค่ะ..ขอบคุณ..ฉัน..ขอไปห้องน้ำดีกว่าค่ะ”
“เดี๋ยว” เสียงกริชชัยทักขึ้น
“คะ” อรุณศรีหันมา
“ห้องน้ำอยู่ทางนี้”
อรุณศรีชะงักพลางยิ้มแก้เก้อ
“ขอบคุณค่ะ”
อรุณศรีก้มหน้าก้มตาเดินไปห้องน้ำด้วยความอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กริชชัยมองตามด้วยความเอ็นดู
ความเขินทำให้อรุณศรีเดินถือแก้วน้ำเข้าไปในห้องน้ำด้วย แต่ทันทีที่นึกได้จึงเดินกลับออกมา แล้ววางแก้วน้ำไว้ที่โต๊ะหน้าห้องน้ำ ก่อนจะยิ้มเขินๆ ให้กริชชัยและเดินเข้าห้องน้ำไปอีกที
ทันทีที่ประตูห้องน้ำปิดลง กริชชัยถึงกับยิ้มอย่างมีความสุข
อรุณศรีเดินไปมาอยู่ในห้องน้ำระงับความตื่นเต้น ด้วยการทำสมาธิให้จิตใจเป็นปกติ
“ตื่นเต้นทำไมเนี่ย..ในน้ำนั่นต้องมีเหล้าแน่ๆ..ไม่จริงๆ..เราต้องไม่ตื่นเต้น” อรุณศรีพูดอยู่คนเดียว เดินไปมาพลางสูดลมหายใจเข้า พุท ลมหายใจออก โธ พุท..โธ...พุท...โธ

วัชระเดินออกมาบอกเพื่อนด้วยความเซ็ง
“ฉันจะกลับแล้วนะ”
ธีธัชมองหน้าวัชระที่ยืนอยู่กับเนตรนภัส เห็นหน้าตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่มีวี่แววของความสุขเลยแม้สักนิด
“ทั้งสองคน”
“อื้อ ฝากบอกไอ้กริชด้วย” วัชระตอบเนือยๆ
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันบอกให้”
เนตรนภัสปรายตามาทางสุพรรณิการ์กับลำเภาที่นั่งอยู่ไม่ห่าง ลำเภากำลังกินขนม พร้อมอ่านหนังสือไม่สนใจ ส่วนสุพรรณิการ์แกล้งทำเป็นนั่งตบแป้ง เติมปาก นั่งไขว่ห้างอย่างเซ็กซี่อยู่ที่โซฟา เนตรนภัสมองสองคนด้วยความหมั่นไส้ แล้วก็หันมาทางธีธัช
“แล้วก็ฝากธีบอกผู้หญิงแถวนี้ด้วยว่า... วัชเป็นแฟนแหนม และเรากำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ !! แล้วก็ฝากเตือนด้วยว่าแหนมไม่ใช่คนใจดี...เวลาแหนมเอาจริง แหนมเอาถึงตาย”
ลำเภาและสุพรรณิการ์เงยหน้าขึ้นมองเนตรนภัสด้วยสายตาท้าทายขึ้นพร้อมกัน ธีธัชรีบแทรกเข้ามาตรงกลางอย่างรู้ทัน
“โอเค!! เดี๋ยวผมจะบอกให้นะ…กรจ้ะ” ธีธัชตัดบทเฉไฉ
กรกนกยืนอยู่ที่เคาท์เตอร์ หันมาอย่างงงๆ ธีธัชขยิบตาให้กรกนกบอกเป็นนัยๆ
“ส่งแขก”
“เอ่อ...ค่ะ”
กรกนกหันมาทางวัชระและเนตรนภัสแล้วก็รับมุกของธีธัช
“เชิญค่ะ”
กรกนกเดินนำไปที่ประตู เนตรนภัสหันมามองลำเภากับสุพรรณิการ์อย่างไม่เป็นมิตร ธีธัชกระโดดเอาตัวบังไว้พร้อมกับยิ้มหวานใส่ วัชระดึงแขนเนตรนภัสให้เดินออกไป เธอสะบัดแขนจากมือวัชระ แล้วก็สะบัดหน้าใส่
สองสาว พร้อมกับเดินเชิดออกไป
วัชระส่ายหน้าเดินตามเนตรนภัสไปด้วยความเหนื่อยหน่าย สุพรรณิการ์มองตามวัชระด้วยความเวทนา แต่ก็จนปัญญาจะช่วยเหลือ

ทันทีที่ออกจากห้องกริชชัย
“แหนม..ไปพูดแบบนั้นทำไม มันน่าเกลียดนะ”
เนตรนภัสหยุดเดินทันทีและหันมาตอบ
“ก็แหนมไม่ชอบนังสองคนนั้น ทั้งยัยฝ้ายแล้วก็นังเด็กลำเภา”
“ไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องพูดแบบนั้นก็ได้ มันทำให้ผมดูเป็นตัวตลก”
“ดี ยิ่งวัชดูแย่ในสายตาคนอื่น แหนมยิ่งสบายใจ จะได้ไม่มีใครมาชอบ”
หลังพูดจบ เนตรนภัสพูดจบก็สะบัดหน้าเดินนำไป วัชระได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
“ควรจะดีใจหรือเสียใจวะเนี่ย” วัชระพึมพำกับตัวเองเบาๆ

เมื่อกริชชัยเดินออกมายังห้องนั่งเล่น สายตาที่มองไปยังบริเวณระเบียง ก็เกิดความแปลกใจที่ไม่เห็นวัชระและเนตรนภัส
“ไอ้วัชล่ะ”
“กลับไปแล้ว แหนมงอแง ก็เลยต้องรีบพาไปส่งบ้าน” ธีธัชหันมาตอบ
กรกนกหันไปหยิบกระเป๋า
“กรก็ต้องขอตัวเหมือนกันค่ะ ได้เวลาเปิดร้านแล้ว”
สุพรรณิการ์ถือโอกาสลุกขึ้น
“ฝ้ายไปด้วยค่ะ วันนี้ต้องเข้าไปจ่ายเงินเดือนลูกน้องพอดี งั้นเราไปพร้อมกันเลยนะคะ”
กรกนกยิ้มรับ สุพรรณิการ์ตามไปติดๆ
“ฝ้ายฝากแอ๊วด้วยนะคะ ถ้าไม่ลำบากฝากไปส่งที่บ้านด้วยก็ดี เพราะแอ๊วไม่รถ ทางเข้าก็เปลี่ยว ฝากคุณกริชดูแลเพื่อนฝ้ายด้วยนะคะ” สุพรรณิการ์หยอดทิ้งท้ายให้กับกริชชัยไว้
ด้วยความยินดีครับ กริชชัยยิ้มตื่นเต้น
เห็ฯทุกคนทยอยกันไปเหมือนจะเปิดโอกาสให้กริชชัยได้อยู่กับอรุณศรีตามลำพัง ธีธัชคิดแล้วก็ตัดสินใจอีกคน
“งั้นฉันไปด้วย”
ลำเภาละสายตาจากถุงขนมแล้วโพล่งขึ้นทันที
“จะไปไหน”
ลำเภามองธีธัชด้วยความเขม่นในแววตา

“ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน ถามทำไม” ธีธัชตอบกวนๆ ลำเภาลุกพรวดขึ้นทันที
“จะไปด้วย”
“ เฮ้ย” ธีธัชผงะ
“ไปด้วยไง เป็นแฟนกัน ไปไหนก็ต้องไปกันสิ”
“จะให้ฉันย้ำอีกกี่ครั้ง...ฉันไม่ได้เป็นแฟนเธอ”
กรกนกทนไม่ได้กับท่าทางของธีธัช และลำเภา
“กรขอตัวไปก่อนนะคะคุณกริช” หลังพูดจบ กรกนกเดินออกจากห้องไปทันที
“ครับ”
กริชชัยได้แต่มองตามกรกนกด้วยความรู้สึกผิดแทนลำเภา
“งั้นฝ้ายก็ไปด้วยเลยนะคะ บ๊ายบายค่ะ”
สุพรรณิการ์ถือโอกาสหลบออกไปอีกคน
“อ้าว กร...เดี๋ยวก่อนสิกร..รอผมด้วย ... น้องแก..จัดการด้วย” ธีธัชพูดจบก็รีบคว้ากุญแจรถวิ่งตามกรกนกและสุพรรณิการ์ไปทันที
ฝ่ายลำเภาหันไปหยิบกระเป๋าสะพายกำลังจะเดินตามติดๆไป กริชชัยรีบคว้าตัวลำเภาไว้
“เภา !!! ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น คืนนี้นอนนี่ พี่บอกกับคุณป้าไว้ว่าเภาจะนอนนี่ เภาจะออกไปไหนไม่ได้” กริชชัยออกคำสั่งเสียงเข้มเล่นเอาลำเภาชะงักไปทันที

ลำเภาพยายามสะบัดแขนออกจากมือของกริชชัย
“แต่เภาอยากไปกับนายธีนี่ เภาต้องไปเฝ้า แกล้งให้อึดอัดเล่น สนุกดี”
“แต่พี่ไม่ให้ไป เภาต้องอยู่พี่ แล้วก็เลิกเล่นบ้าๆได้แล้ว พี่พูดน่ะ ฟังกันหน่อยได้มั้ย”
“ฟัง แต่ถ้าเภายอมถอย ก็เท่ากับยอมแพ้ เภาไม่ยอมแพ้คนปากเสียแบบนายหมาใหญ่หรอกนะ”
“เหลวไหลนะเภา”
“มันอาจจะเป็นเรื่องเหลวไหลของพี่กริช แต่มันเป็นศักดิ์ศรีของเภา ถ้าเภายอม นายธีคงจะหัวเราะเยาะไปตลอดชีวิต”
“แต่เภาก็เห็นว่าไอ้ธีกับคุณกรเค้าเป็นแฟนกัน แล้วเค้าก็รักกันดี เภาจะแทรกตัวเข้าไปทำไม คุณกรเค้าก็ไม่ใช่คนเลวร้าย เภาทำแบบนี้เท่ากับทำร้ายเค้านะ”
แม้ว่าลำเภาฟังแล้วจะรู้สึกแอบรู้สึกผิด อยู่ลึกๆในใจ แต่ด้วยทิฐิที่มีอยู่จึงไม่ยอมรับในสิ่งที่กริชชัยพูด
“ถ้าวันหนึ่งไอ้ธีมันเลิกกับคุณกร มาหาเภาจริงๆ เภาจะภูมิใจกับการได้แฟนเพราะแย่งคนอื่นมางั้นเหรอ”

กรกนกเดินออกมาจากห้องพักของกริชชัยด้วยความรู้สึกวังเวง นัยน์ตาหม่นเศร้า สุพรรณิการ์รีบเดินตามออกมาจนทัน
“คุณกรคะ.. เดี๋ยวไปรถฝ้ายก็ได้นะคะ เดี๋ยวฝ้ายไปเอารถมารับที่หน้าตึก”
“ค่ะ”
สุพรรณิการ์ยิ้มรับก่อนที่จะเดินนำไป กรกนกเดินตามไปได้ไม่กี่เท้าก็ได้ยินเสียงประตูห้องกริชชัยเปิดออก กรกนกหันไปดู
ธีธัชเดินออกมาจากห้องกริชชัย..ไม่มีลำเภาตามมา
กรกนกจับตามองไปยังธีธัช ในขณะที่ธีธัชไม่รู้ตัว แล้วกรกนกก็พบว่า ขณะที่ธีธัชเดินมาตามทางเดินบริเวณหน้าห้องกริชชัยได้ไม่กี่ก้าวก็หันกลับไปมองที่ประตูห้องกริชชัยอีกครั้ง เกิดอาการลังเลเหมือนว่าจะรอลำเภา ธีธัชหารู้ไม่ว่า กรกนกแอบมองอยู่
กรกนกใจหายวาบ เบือนหน้าหนี แล้วก็เดินตามสุพรรณิการ์ไปด้วยความเศร้าที่กินใจอยู่ลึกๆ

อรุณศรีแอบฟังกริชชัยพูดกับลำเภาอยู่ในห้องน้ำ ทำให้อรุณศรีแอบคิดถึงตัวเอง เสียงสนทนาจากด้านนอกดังเข้ามาในห้องน้ำ
“ถ้าไอ้ธีไม่มีแฟน พี่จะไม่ว่า แต่แฟนเค้าก็ควงกันออกหน้าออกตาแบบนี้ จะทำอะไรเห็นใจคนอื่นบ้าง”
“เภาไม่ใช่พี่กริชนะ ที่เห็นว่าเค้ามีแฟนแล้วก็จ๋อย ทำตัวเป็นหมามองปลากระป๋อง อยากจะกินแต่ก็ไม่มีปัญญาเปิด”
อรุณศรีสะดุ้งอดคิดไม่ได้ว่า ปลากระป๋องในความหมายของลำเภาคือตัวเอง

กริชชัยสะดุ้งกับคำเปรียบเปรยของลำเภา
“เภา...พี่พูดเรื่องเราอยู่นะ อย่ามาเฉไฉ”
“ก็จริงนี่ พี่กริชน่ะ เอาแต่ ว่า..ว่า..ว่า เภาไม่เคยเข้าใจเภาสักนิด ฟังก่อนนะ เภาเพียงแต่รับคำท้าของนายหมาใหญ่ เพื่อทำให้เค้าสำนึกว่าหยามเภาไม่ได้ แต่เภาไม่คิดจะเอาเขามาแฟนจริงๆ”
ริมฝีปากของลำเภามีรอยยิ้มเยาะ
“เภาไม่ได้จะพิศวาสเขาในเชิงคู่รักสักนิด เภาแค่ขอให้ได้แล้วก็จะเตะโด่งกลับคืนไป เภาก็ว่าเค้ากับคุณกรก็สมกันดี เภาไม่คิดจะแย่งมาจริงๆ สักหน่อย เภาแค่อยากทำให้เค้ารู้จักเสน่ห์ของเภาซะบ้าง”
“แค่นั้นเนี่ยนะ เหตุผลของเภา”
“ค่ะ”
“รู้สึกมั้ยว่ามันไม่พอ”
ลำเภาเชิดหน้า
“เหตุผลไม่พอ แต่เภาพอใจก็แล้วกัน”
กริชชัยส่ายหน้าอย่างระอา
“ให้มันได้อย่างนี้สิ น้องฉัน”
“พี่กริชไม่ต้องห่วงเรื่องเภาหรอก ระดับเภาไม่ยอมพลาดท่าเสียที เสียตัวให้เพื่อนพี่กริชเป็นอันขาด”
กริชชัยสะดุ้งเฮือก
“เฮ้ย..นี่เป็นผู้หญิงพูดจาให้มันดีๆหน่อย”
“ก็จริงนี่..คนอย่างเภาถ้าไม่รัก ไม่แต่ง ถ้าไม่แต่งก็อย่าหวังว่าจะได้แอ้ม มือชั้นนี้ ไม่ยอมเสียตัวให้ใครฟรีๆ”
ลำเภายื่นหน้าเข้ามาหากริชชัย แล้วหรี่เสียงพูดลง
“ห่วงแต่ตัวเองเหอะ มีโอกาสอยู่กันสองต่อสองแล้ว จะทำอะไรก็รีบทำ น้องพูดน่ะหัดฟังกันหน่อย”
ลำเภาพูดประชดกริชชัยแล้วเดินไปคว้าถุงขนมเดินกระแทกเท้าเข้าห้องไปด้วยความไม่พอใจนัก
กริชชัยยืนอยู่คนเดียวกลางห้อง บรรยากาศเงียบกริบ เริ่มกังวลว่า ในห้องที่เขาจะต้องอยู่กับอรุณศรี เพียงสองคนจะเริ่มต้นอย่างไรดี

จังหวะเต้นของหัวใจกริชชัยเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 14
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์