หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 2

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 2
รุ้งระวีรีบหยิบหมอนมาปิดหน้าที่อกตัวเอง เมื่ออิทธิเข้ามาในห้อง ขณะเดียวกันที่ด้านนอก จี่หอยและมะปรางพากันแอบฟังเหตุการณ์อยู่ที่หน้าประตูอย่างระทึก อิทธิเดินมานั่งคู่ที่ปลายเตียง กอบกุมมือของรุ้งระวีเอาไว้

“รุ้ง พรุ่งนี้จะเปิดตัวรุ้งแล้ว ผมว่ารุ้งจะต้องดังระดับตัวแม่ของวงการแน่ๆ ถ้ารุ้งดังแล้วต้องตกลงตามสัญญานะ”
“สัญญาที่ว่า...”
“เราจะแต่งงานกันไง”

“แต่รุ้งบอกคุณอิทแล้วนี่คะ ว่าขอเวลารุ้งให้รู้จักคุณอิทมากกว่านี้ แล้วรุ้งถึงจะให้คำตอบ”
“ผมไม่ชอบรอน่ะ รุ้ง....คืนนี้ผมค้างที่นี่นะ”
อิทธิดึงรุ้งระวีมากอดไว้ แล้วจูบไซร้ที่ซอกคอ แล้วผลักร่างเธอลงนอนบนเตียงแล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเอง
“คะ...คุณจะทำอะไรคะ”
“คืนนี้เป็นของผมเถอะนะรุ้ง”
อิทธิถอดเสื้อ แล้วโถมร่างทาบทับร่างของรุ้งระวี พยายามจะปลดเสื้อนอนของเธอออก
“ผมคลั่งรุ้งจะแย่แล้ว เป็นของผมเถอะ”
รุ้งระวีกลั้นใจ แล้วมองไปที่หัวเตียง คิดอุบายขึ้นได้ เธอร้องไห้โฮขึ้นทันที อิทธิตกใจ
“รุ้ง...รุ้งเป็นอะไร”
“แม่รุ้ง...แม่รุ้งมองอยู่ค่ะคุณอิท”
“ไหน...แม่รุ้งไหน”
“นั่นไงคะ...แม่รุ้งในรูปกำลังมองมา แม่กำลังตำหนิรุ้ง ที่รุ้งไม่รักนวล สงวนตัว”
“โธ่...รุ้งคิดไปเอง นั่นแค่รูป แม่รุ้งตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหนแล้ว เขาทิ้งรุ้งนะอย่าลืม ตอนนี้คนที่ดูแลรุ้งมีผมคนเดียว นะ...เป็นของผมเถอะนะ”
อิทธิเอื้อมมือไปคว่ำรูปลงเสีย แล้วหันมาจู่โจม ปล้ำจูบที่ซอกคอเธออีกครั้ง รุ้งระวีตัวเกร็งแล้วตัดสินใจยกเข่าขึ้นถองกลางลำตัว อิทธิร้องลั่น
“อ๊าก...”
จี่หอยและมะปรางอยู่หน้าห้อง สะดุ้งตกใจ
“เสียงคุณอิทคราง พี่รุ้งเสร็จคุณอิทแล้วเหรอคะ” มะปรางถามอย่างสงสสัย
“ถ้าเสร็จมันต้องเป็นเสียงยายรุ้งร้องซี ไม่ใช่เสียงคุณอิท” จี่หอยแย้ง
มะปรางจ๋อยๆ
“ไม่เคยนี่คะ...ไม่รู้”
“แล้วถ้าเสร็จจริง ทำไมมันเร็วอย่างนี้ละ นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ”
ทั้งสองฟังต่อ...อิทธิกุมเป้านอนหงายแผ่ ครางกระเส่า รุ้งระวีหน้าเสีย
“คุณอิท...รุ้งขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ”
“โอย...ระวังหน่อยซีรุ้ง นี่มันจุดอ่อนผู้ชายนะ”
“คุณอิทคะ เจ็บมากไหมคะ” รุ้งระวีตะโกน “พี่จี่หอย...ช่วยด้วย”
“ขา...”
จี่หอยวิ่งมาเปิดประตู เข้าใจเหตุการณ์ได้ทันที รุ้งระวีรีบบอก
“ช่วยคุณอิทด้วยค่ะ เขาเจ็บ”
“เจ็บไรคะ...เจ็บตรงไหน...คุณอิท”
จี่หอยถลาเข้ามาดูอิทธิ แยกขาเขาออกจากกัน ทำท่าจะจับเป้า อิทธิร้องลั่น
“โอ๊ย...อย่า...อย่าจับ...มันจุก...มันเจ็บ”
จี่หอยหันไปหารุ้งระวี
“น้องรุ้ง ออกไปก่อน เดี๋ยวพี่ดูแลคุณอิทเอง”
รุ้งระวีรีบออกมานอกห้อง มะปรางถามทันที
“พี่รุ้ง...ไม่บุบสลายตรงไหนนะคะ”
รุ้งระวีถอนใจเฮือก
“เกือบไป”
ในห้อง...อิทธิครางอย่างเจ็บปวด จี่หอยตกใจ
“ตายแล้ว...บวมค่ะ บวมอลึ่งฉึ่งเลย ต้องนวดค่ะ นวดแล้วคลึงๆ คุณอิทน่ะ ยกขาขึ้นลง ขึ้นลงค่ะ อย่างเกร็งค่ะ อย่าเกร็ง”
มะปรางและรุ้งมองเข้ามาหัวเราะคิกคัก

วันรุ่งขึ้น...ในโถงผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินสุวรรณภูมิ มีกลุ่มนักข่าวรอกันอยู่หลายสิบชีวิตมีตากล้องทั้งทีวี และภาพนิ่ง เตรียมอุปกรณ์ กลุ่มแฟนคลับรวมตัวกันอยู่ พูดคุยกันสนุกสนาน ถือโปสเตอร์รูปรุ้งระวีจากหน้าปกซีดี
ทูนอินทร์ กับอินทรติดหนวด ใส่แว่น ปลอมตัวไม่ให้รุ้งระวีจำได้ เข้ามารวมกลุ่มอยู่ด้วย
“คนเยอะแฮะ” ทูนอินทร์มองไปรอบๆ
อินทรพยักหน้า แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ
“ครับ...หนวดนี่ก็เยอะ ทำไมเราต้องปลอมตัวมาด้วยละพี่”
“ตอนเข้าไปขอลายเซ็น ยายรุ้งจะได้จำไม่ได้ไง พี่จะถามลองใจดูว่าตกลงบินมาจากแอลเอ หรือร้อยเอ็ดกันแน่”
“แล้วถ้าโกหกจริง”
“ก็เป็นแต้มต่อของเรา ถ้าเราขู่ว่าจะเปิดโปง เธออาจจะรับฟังข้อเสนอของพี่ก็ได้”
“ข้อเสนออะไรครับ”
“เอาน่า...เดี๋ยวรู้เอง”
ทันใดเสียงบรรดาแฟนคลับ กรี๊ดลั่นเมื่ออาชาในชุดผ้าสีสดแบบอีสานลูกทุ่ง ผมหวีเรียบกริบ เดินควงมากับ ขวัญข้าวในชุดซิ่นสั้นอีสานเช่นกัน ตามมาด้วยอิทธิและจุ๊บแจง ที่ใส่ชุดลำซิ่งควงมาด้วยกัน อิทธิเดินขากะเผลกนิดหน่อย จวงใจเดินตามมา คอยกันนักข่าว กลุ่มนักข่าวช่างภาพถ่ายรูปกันวุ่นวาย อาชา ขวัญข้าวและจุ๊บแจง หมุนตัวให้ถ่ายรูปอย่างเฉิดฉายนักข่าวรุมสัมภาษณ์นักร้องทั้งสาม

รุ้งระวีอยู่ในชุดลำซิ่งเต็มยศ โดยมีมะปรางและจี่หอยกำลังช่วยแต่งหน้า แต่งตัวให้ในห้องวีไอพีชั้นสอง
“อย่าลืมนะ ต้องพูดสำเนียงฝรั่ง ๆ หน่อย คนเขาจะได้เชื่อว่าเราคือแหม่มของจริง” จี่หอยกำชับ
รุ้งระวีพูดเสียงแปร่งๆ ขึ้นจมูก
“สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้อง รุ้งดีใจเหลือเกินที่รุ้ง ได้กลับมาแผ่นดินเกิดของรุ้งอีกครั้ง...แบบนี้ใช้ได้ไหมพี่”
จี่หอยยิ้ม
“นี่แหละ ต้องแบบนี้เลย แล้วตอนไหว้ก็ต้องกระชดกระช้อยหน่อยนะ”
จี่หอยทำท่าไหว้ให้ดู แต่ดูจะเกินๆ ย่อเข่าเสียต่ำ รุ้งไหว้ตามแล้วย่อเข่าแล้วลุกขึ้น แต่จี่หอยกลับลุกไม่ขึ้น
“ยายปราง ช่วยดึงหน่อย”
มะปรางดึงจี่หอยขึ้น
“แล้วเราจะได้ฤกษ์ออกไปตอนไหนละคะพี่หอย” รุ้งระวีถามอย่างสงสัย
“คุณอิทจะนัดเวลามาเอง”
รุ้งระวีพยักหน้ารับรู้อย่างกังวล

อิทธิ อาชาและขวัญข้าว ให้สัมภาษณ์นักข่าวพร้อมๆกัน
“ยินดีมากเลยครับ จะได้ต้อนรับศิลปินน้องใหม่อย่างน้องรุ้ง น้องรุ้งสวยมากครับ” อาชายิ้มแย้มให้นักข่าว
“ค่ะ...สวยจริง ๆ เห็นจากในรูปก็สวยจะแย่แล้ว ตัวจริงเขาว่ายังกะนางฟ้า” ขวัญข้าวเสริม
“ไม่คิดว่าน้องรุ้งจะมาแย่งความดังจากพวกพี่ ๆ เหรอครับ” นักข่าวถามตรงๆ
“คิดอยู่ตลอด...เอ๊ย...ไม่เค้ย ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยค่ะ...เราอยู่ค่ายเดียวกัน เรารักกันจะตาย...” ขวัญข้าวหันไปหาอาชา “ใช่ไหมน้องม้า”
อาชารับมุข กัดขวัญข้าวเล็กๆ
“ช่ายครับ...รักกันจนเกือบตายหลายหนแล้ว”
ขวัญข้าวค้อนอาชา
“พูดเล่นเรื่อยเลย น้องม้าเนี่ย”
ขวัญข้าวและอาชาหยิกหยอกกันไปมา ทูนอินทร์และอินทรแอบมายืนหันหลังให้ ขณะที่จุ๊บแจงกับจวงใจมองผู้คนมากมาย
“เห็นพี่หอยไหมพี่” จุ๊บแจงถาม
“ไม่เห็น...มันต้องอยู่กับนังรุ้งแน่ๆ เดี๋ยวพี่ไปสืบก่อนว่ามันอยู่ตรงไหน แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของเรา”
“ค่ะ”
จวงใจแยกไป ทูนอินทร์กับอินทรได้ยินทั้งหมด
“แผนอะไรน่ะพี่” อินทรสงสัย
“ไม่รู้ว่ะ...แต่ตามยายหน้าเค็มนั่นไปดีกว่า”
ทูนอินทร์และอินทรตามจวงใจไปทันที

ชั้นบนของสนามบินไร้ผู้คน จวงใจตรงไปยังห้องด้านใน แล้วรีบหลบเพราะเห็นอิทธิกำลังเดินมาจากอีกทางตรงไปยังห้องแต่งตัวรุ้งระวี จากนั้นรีบตามไป ทูนอินทร์และอินทรตามมาห่างๆ
อิทธิเข้ามาในห้องวีไอพี เห็นรุ้งระวีหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกก็มองอย่างปลื้มๆ
“ใส่ชุดไทยแบบนี้ รุ้งยิ่งสวยไม่มีที่ติเลยจริงๆ”
รุ้งระวี ยิ้มบางๆ
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วจะออกไปตอนไหนคะ”จี่หอยถาม
“เครื่องแลนดิ้งแล้ว กว่าจะผ่านต.ม ก็อีกครึ่งชั่วโมง”
จวงใจมองผ่านกระจกห้อง เห็นอิทธิคลอเคลียกับรุ้งระวี
“นังรุ้ง...เป็นเรื่องแน่”
จวงใจหยิบมือถือขึ้นกดโทรทันที
“จุ๊บแจง...เจอตัวมันแล้ว”
“มันอยู่ที่ไหนพี่”
“ชั้นบน...มาที่ห้องวีไอพี เรียกนักข่าวมาด้วย เดี๋ยวนี้เลยนะ”
“จัดให้ค่ะ”
จุ๊บแจงกดเลิกสายยิ้มกริ่ม มองไปยังกลุ่มนักข่าว
“พี่แจ๊คกี้...พี่เต๋า...พี่นุ้ย มาคุยกันเร้ว แจงมีข่าวจะบอก”

ทูนอินทร์และอินทร ได้ยินทั้งหมด ขณะที่จวงใจรีบไปหาจุ๊บแจง อิทธิออกมาจากห้องแล้วแยกไปอีกทาง อินทรหันมาหาพี่ชาย
“เอาละซี ไม่ได้มีเราเจ้าเดียวที่จะเปิดโปงเรื่องแหม่มกำมะลอแล้วพี่...เอาไงดี”
“ไม่ได้ว่ะ...งานนี้ต้องมีเราเจ้าเดียวเท่านั้น”
ทูนอินทร์เหลือบไปเห็น ห้องเก็บของด้านหลัง เห็นชุดพนักงานของสนามบินและอุปกรณ์ทำความสะอาด เขาเกิดไอเดียขึ้นมาทันที
“ทร...แกอยากทำงานสนามบินไหมวะ”
อินทรงงที่พี่ชายถามอย่างนั้น

จุ๊บแจงเดินนำกลุ่มนักข่าวและช่างภาพสิบกว่าคนขึ้นบันไดมา โดยมีตาลเฉาะรวมอยู่ด้วย
“ทางนี้เลยค่ะ จุ๊บแจงอยากพาพี่ ๆ ไปพบนักร้องน้องใหม่อีกคนค่ะ”
“ใครคะ” นักข่าวถามอย่างแปลกใจ
จุ๊บแจยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เดี๋ยวรู้เองละค่ะ รับรองพี่ๆ จะต้องนึกไม่ถึง แล้วได้ข่าวเด็ดไปลงหน้าหนึ่งหนังสือกับรายการของพี่ๆ กันถ้วนหน้า รับรองข่าวนี้ เด็ดจริงๆ”
จุ๊บแจงเดินนำขึ้นไปชั้นบน พบจวงใจรออยู่
“ทางไหนคะพี่จวง”
“มาทางนี้เลยค่ะ”
ทั้งหมดกรูกันไปที่ห้องวีไอพี

รุ้งระวียืนอยู่หน้ากระจก โดยมีจี่หอยสอนท่าโบกมือ ท่าไหว้ มะปรางคอยช่วยอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นมะปรางได้ยินเสียงคนเดินมายังหน้าห้อง
“อุ๊ย...ใครน่ะ”
มะปรางรีบวิ่งไปที่ประตูเห็นนักข่าวกับ จวงใจและจุ๊แจงตรงมา
“พี่หอย...เจ๊จวงกับพี่แจงพานักข่าวมา”
จี่หอยตกใจ
“ว้าย....ลมชัก...เอาไง”
“หลบก่อนพี่”
รุ้งระวีตกใจ
“หลบทางไหนล่ะ ไม่มีที่หลบแล้ว”
ประตูเปิดผางเข้ามา จี่หอยดึงรุ้งระวีให้หันหลังให้ประตูและหลบให้พันกระจก จวงใจกับจุ๊บแจง ก้าวเข้ามาพร้อมนักข่าวที่ถ่ายรูปกันจ้าละหวั่น รุ้งระวีปิดหน้าตัวเอง จี่หอยยืนบังไว้
“พี่นักข่าวคะ นี่ละค่ะ รุ้งระวี ศรีแอลเอ” จุ๊บแจงชี้บอกนักข่าว
นักข่าวหน้าตื่น
“หา...อะไรนะ รุ้งระวีเหรอ”
จี่หอยไม่พอใจ
“เข้ามาได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ นังจวงแก...แกพานักข่าวมาเหรอ”
จวงใจถลึงตาใส่
“เออซีวะ ข้าเอง”
จี่หอยและมะปรางพยายามกันนักข่าว รุ้งระวีลงไปนั่งปิดหน้าตัวเอง ทันไดนั้นเสียงดังมาจากนอกห้อง ร่างของทูนอินทร์และอินทรในชุดหมี ถือเครื่องทำควันในมือทั้งคู่
“โทษนะครับ...เชิญพวกคุณออกไปก่อน ห้องนี้ต้องทำความสะอาด ต้องฆ่าเชื้อก่อนครับ” ทูนอินทร์พูดสำเนียงอีสาน
ทูนอินทร์และอินทรเปิดเครื่อง ควันสีขาวพุ่งเข้ามาคละคลุ้ง ทูนอินทร์วิ่งเข้ามาที่รุ้งระวีบังร่างไว้แล้วฉีดควันเข้าหากลุ่มนักข่าว จนคลุ้งไปทั้งห้อง นักข่าวไอสำลักกันทั่วหน้า
“คุณ...รีบหนีเร็ว มาทางนี้”
ทูนอินทร์ดึงรุ้งระวี ฝ่าควันขาวออกไปจากห้อง พร้อมกับจี่หอยและมะปราง

ทูนอินทร์และอินทรพารุ้งระวี มะปราง และจี่หอยมาหลบที่มุมเก็บของ จุ๊บแจงกับจวงใจวิ่งนำออกมาจากห้องวีไอพี ตามมาด้วยกลุ่มนักข่าว
“มันไปไหนแล้วพี่จวง”
“นั่นซี”
“เมื่อกี้น้องแจงบอกว่าจะให้เจอรุ้งระวี...รุ้งระวีที่กำลังเดินทางมาน่ะเหรอคะ” นักข่าวถาม
“ใช่ค่ะ” จุ๊บแจงบอก
“หมายความว่ารุ้งมาถึงแล้วเหรอครับ” นักข่าวอย่างสงสัย
“ไม่ได้มาถึงค่ะ ไม่ได้มาจากไหนทั้งนั้น อยู่เมืองไทยนี่แหละค่ะ แจงเห็นกับตา”
“เห็นที่ไหนคะ”
“ที่ตลาดดอนหวายค่ะ คนทั้งตลาดก็เห็น”
จวงใจเห็นจุ๊บแจ พูดมากไปแล้วจึงกระซิบเตือน
“พอแล้วแจง อย่าพูดมาก เดี๋ยวจะเข้าตัว”
กลุ่มรุ้งระวีแอบมองอยู่ในห้องเก็บของ กลุ่มจวงใจและจุ๊บแจงพานักข่าวแยกไป รุ้งระวีมองเขม้นไปที่จวงใจแล้วจำได้ทันที จี่หอยครุ่นคิด
“มันรู้ได้ไงว่ารุ้งไปที่ดอนหวาย”
“พี่หอย...ยายหน้าเค็มที่นำนักข่าวเข้ามาเป็นใครน่ะ” รุ้งระวีถาม
จี่หอยมองแค้นๆ
“นังเจ๊จวงใจ...นังตัวแสบ”
รุ้งระวี เข้าใจทันที
“งั้นก็แสบจริงๆ เพราะยายนี่แหละ มาเจอรุ้งที่หน้าบ้าน แล้วให้รุ้งติดรถไปลงที่ตลาดด้วยกัน”
จี่หอยเครียด
“ลมชัก...นังนี่นี่เอง”
มะปรางหน้าตื่น
“แสดงว่าเจ๊จวงกับพี่จุ๊บแจง ตามเราไปจนถึงบ้านแน่ๆ”
“อยากตาย”
จี่หอยสะอื้น แล้วหันไปซบไหล่อินทรแถมโอบไหล่เฉยเลย อินทรงงๆ
“อย่าเพิ่งตายพี่หอย สองคนนี่เป็นใครมาจากไหน เรายังไม่รู้จักเลย” รุ้งระวีเตือน
จี่หอยสะดุ้ง
“เออ...นั่นซี นายสองคนเป็นใคร เข้ามาฉีดยาจริงๆหรือ เข้ามาช่วยเรา แล้วอยู่ดีๆ มากอดฉันทำไม เห็นฉันสวยเหรอ”
ทูนอินทร์และอินทรมองหน้ากัน

กลุ่มนักข่าวตามจุ๊บแจงและจวงใจ ลงมาที่โถงล่างสนามบิน
“มันหายไปไหนของมัน หาไม่เจอเราซวยเลยนะน้องแจง” จวงใจกระซิบถาม
“ซวยยังไงล่ะพี่ นักข่าวเชื่อเราแล้วนะ”
“ไม่มีหลักฐาน จะเชื่อเราได้สักกี่น้ำ”
ตาลเฉาะเดินมาหาจุ๊บแจง
“แน่ใจนะคะว่านั่นคือรุ้งระวีจริงๆ”
“แน่ใจซีคะ”
“แสดงว่าทางคุณอิทธิหลอกพวกเราใช่ไหมคะ” นักข่าวถาม
“แน่นอนค่ะ” จุ๊บแจงตอบอย่างมั่นใจ
“งั้นเราจะถามคุณอิทธิให้เคลียร์เรื่องนี้เลย”
ตาลเฉาะจะเดินไป จวงใจรีบเรียกไว้
“เดี๋ยวค่ะ...คุณน้องขา เรื่องนี้พี่ขอ อย่าให้ถึงคุณอิทธิเลยนะคะ เรื่องนี้บางทีเราสองคนอาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้”
นักข่าวพากันอึ้งไป
“อ้าว”
จุ๊บแจงมองจวงใจอย่างไม่เข้าใจ
“เอาเป็นว่า...ใจเย็นๆก่อนนะคะ ถ้าเราเข้าใจผิดจริงๆ พวกน้องๆ ก็ถือเสียว่า ยกโทษให้พี่นะคะ แล้วก็...อย่าเอาข่าวที่พวกเราเข้าใจผิดไปออกสื่อนะค้า ขอร้องละนะค้า ไหว้ละ”
จวงใจยกมือไหว้ ตีแขนจุ๊แจงให้ไหว้ตาม นักข่าวรับไหว้ ทำหน้าเบื่อๆ

รุ้งระวี จี่หอยและมะปรางออกมาจากห้องเก็บของพร้อมทูนอินทร์และอินทรที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของตนแล้ว
“ผมบังเอิญได้ยินเจ๊คนนั้นเขา คิดจะแกล้งคุณรุ้งน่ะครับ ผมก็เลยมาช่วย” ทูนอินทร์อธิบาย
“รู้จักฉันเหรอ ถึงมาช่วยฉัน” รุ้งระวีถามอย่างสงสัย
“ก็...” ทูนอินทร์ทำท่าเอียงอาย “ผมเป็นแฟนเพลงคุณรุ้งนี่ครับ”
“ฉันออกเพลงมาแค่เพลงเดียวนะ”
“นั่นละครับ” ทูนอินทร์ร้องเพลง “ฝากจิ้มแจ่วไปแอ้ลเอ๋ แอ้ลเอ๋ แหม...เสียงเพราะยังกะหยวกกล้วย”
จี่หอยตาเหลือก
“ว้าย...นั่นมันผิวในร่มผ้าน้องรุ้ง ไม่ใช่เสียง คิดลามกรึเปล่า”
ทูนอินทร์รีบปฏิเสธ
“เปล่าครับ...ติดใจเสียงจริงๆ ยิ่งเห็นในมิวสิค อู๊ย...สวยคั่กๆ หลายเด้อ มาเจอตัวจริงเข้า ยิ่งสวยแซ่บอีหลีอีหลอเล้ย”
รุ้งระวีแอบยิ้ม มะปรางคิดได้
“พี่หอย...แสดงว่าพวกนี้รู้ความลับเรื่องพี่รุ้ง ไม่ได้มาจากแอลเอแล้วน่ะซี ทำไงล่ะ”
“ทำไง...ก็รูดซิบซะ”
ขาดคำของจี่หอย ทูนอินทร์และอินทรมองซิบกางเกงตัวเอง แล้วทำท่ารูดพร้อมกัน
“รูดแล้วนี่ครับ” อินทรบอก
จี่หอยค้อน
“ฉันหมายถึง รูดซิบปากย่ะ ห้ามพูดเด็ดขาด ทำได้ไหม”
ทูนอินทร์ยิ้ม
“ได้ครับ เราจะไม่พูดเพื่อให้คุณรุ้งลวงโลกต่อไปครับ”
รุ้งระวีมองอย่างสงสัย
“เอ๊ะ...ด่าฉันนี่”
ทูนอินทร์โบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“ปละ...เปล่าครับ ใครจะไปกล้าด่าคนที่ผมเทิดทูนละครับ”
รุ้งระวีเขินๆ
“ขอบใจ...พี่หอย ได้เวลาไป ลวงโลก กันแล้วละ”
“ไป...ไปลวงโลกกัน” จี่หอยนึกได้ “ต๊ายอย่าพูดอย่างนี้ซีคะ ติดปากเลย นี่...ยังไง ก็ขอบใจนะที่ช่วย แล้วพวกนายชื่ออะไรล่ะ”
“ผม...เคน พี่นายธีรเดช...คนนี้”
ทูลอินทร์ผายมือไปที่น้องชาย อินทรผามือไปที่พี่ชายบ้าง
“ผม ธีรเดช...น้องพี่เคน คนนี้ครับ”
จี่หอยถอนใจ
“แหม...งั้นฉันชื่อแอนทอง น้องพี่แอนเทย คนไหนก็ไม่รู้ละ ไปละนะ”
จี่หอย รุ้งระวีและมะปรางจะแยกไป ทูนอินทร์รีบบอก
“คุณรุ้งครับ...ผมว่าคุณรุ้งอย่าใส่ชุดนี้เลย ถอดออกดีกว่าครับ” ทูนอินทร์บอก
รุ้งระวีตกใจ
“ว้าย...ถอดชุด มันเรื่องอะไร”
“นักข่าวพวกนั้น เห็นชุดคุณรุ้งแล้วทั้งตัว ถึงจะเห็นแค่ด้านหลังก็เถอะ ผมว่าจะลวงโลก เอ๊ย...หลอกคนให้แนบเนียน คุณรุ้งเปลี่ยนชุดใหม่จะเหมาะกว่า” ทูนอินทร์แนะนำ
มะปรางเห็นด้วย
“จริงด้วยค่ะพี่”
รุ้งระวีมองท่าทีหยันๆ ของทูนอินทร์อย่างหมั่นไส้ ทูนอินทร์ทำไม่รู้ไม่ชี้

จวงใจและจุ๊บแจงเดินหน้าเสียกลับ มาที่บริเวณผู้โดยสารขาเข้า ตามมาด้วยกลุ่มนักข่าว อาชา อิทธิ และขวัญข้าว ยังจับกลุ่มคุยกันอยู่กับนักข่าวและแฟนเพลง
ขวัญข้าวเดินเข้าไปหาจวงใจ
“หายไปไหนมา พี่จวง ไม่มั่นใจเลย ชุดมันสว่างเกินไปรึเปล่า”
“สว่างน่ะดีแล้วเจ๊ อย่าให้มืด เดี๋ยวคนเขาจะนึกว่าของหวาน” อาชาแหย่
ขวัญข้าวค้อน
“จะว่าฉันดำใช่มะ ช็อคโกแล็ตใส่นม โกโก้ใส่ครีม”
“เฉาก๊วย” อาชาพูดขำๆ
ขวัญข้าวปี๊ดทันที
“อีม้า”
“เมื่อไหร่นังแหม่มมันจะมาถึงล่ะ” จวงใจถามขึ้น
อาชาบุ้ยหน้าไป
“โน่น...วงลำซิ่งเรามารอโน่นแล้ว”
ขวัญข้าวมองเหยียด
“อย่าบอกนะว่าจะโชว์ลำซิ่ง กันที่สนามบินแบบนี้ ตายละ ขายขี้หน้าเขา”
“นั่นซี อายฝรั่ง มองมากันใหญ่แล้ว” อาชาเห็นฝรั่งรูปหล่อคนหนึ่งก็ดี๊ด๊า “ยู้ฮู ฮาวอาร์ยู ทูเด้ย...หล่อจัง...อ้าวกะเทยนี่หว่า”
ทูนอินทร์และอินทรมาด้อมๆ มองๆ ทันใดนั้นมีเสียงฮือฮาดังขึ้น ทุกคนหันไปที่ประตูผู้โดยสารขาเข้า จี่หอยและมะปราง ช่วยเข็นรถใส่กระเป๋าเดินทางของรุ้งระวีนำเข้ามา พร้อมกับของรุ้งระวีที่อยู่ในชุดใหม่อีสานประยุกต์ ที่สวยสง่ากว่าเดิมหลายเท่า แฟนเพลงและนักข่าวกรูกันไปที่รั้วกั้น ปรบมือส่งเสียงเรียกรุ้งระวีกันเกรียวกราว
รุ้งระวี เดินมากลางทางเดิน แล้วไหว้แฟนเพลงด้วยท่วงท่างดงาม จวงใจกับจุ๊บแจง ตะลึง ขวัญข้าว อาชา มองอย่างเหยียดๆ อิทธิมองปลื้ม
รุ้งระวียิ้มให้แฟนเพลง ทูนอินทร์และอินทรมองอย่างปลื้ม วงดนตรีทั้งแคน ทั้งกลอง ขึ้นเพลง “ฝากจิ้มแจ่วไปแอลเอ” ประโคมขึ้นมาทันที จุ๊บแจงหันมากระซิบกับจวงใจ
“พี่จวง มันเปลี่ยนชุดด้วย”
รุ้งระวีผ่านรั้วกั้นออกมา นักข่าวเข้ามารุมถ่ายรูป อิทธิรออยู่ ส่งไมค์ให้รุ้งระวีทันที
“สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้อง แฟนเพลงของรุ้งทุกคน รุ้งดีใจเหลือเกินที่ได้กลับมาเมืองไทย ก่อนอื่นรุ้งขอกราบแผ่นดินเกิดของรุ้งก่อนนะคะ”
รุ้งระวีก้มลงกราบที่พื้นด้วยท่วงท่าอ่อนช้อย ทั้งโถงเงียบกริบ ทูนอินทร์มองอย่างชื่นชมในความฉลาดของรุ้งระวี จวงใจกับจุ๊บแจงตะลึงไปเช่นเดียวกับอาชาและขวัญข้าว รุ้งระวีเงยหน้าที่น้ำตานองหน้าขึ้นมา ผู้คนปรบมือเกรียวกราว จี่หอย มะปรางและอิทธิยิ้มปลื้ม อิทธิช่วยประคองรุ้งระวีลุกขึ้น
“รุ้งได้กลับมาเมืองไทยแล้ว รุ้งอยากบอกอะไรกับคนไทยบ้างครับ”
“รุ้งรักเมืองไทยค่ะ”
ผู้คนปรบมืออีกครั้ง
“และเพลงนี้ขอมอบให้มิตรรักแฟนเพลงทุกคน”
นักดนตรีและหางเครื่องบรรเลงทันที รุ้งระวีออกมาร้องเพลง “ฝากจิ้มแจ่วไปแอลเอ” อย่างสนุกสนาน เต้นไปพร้อมกับเหล่าหางเครื่องสาวๆ จี่หอยและมะปรางช่วยกันแจกพวงมาลัยให้คนที่มาดู พร้อมเต้นไปด้วย จวงใจกับจุ๊บแจง มองอย่างขยะแขยง
“ยี้...คนชอบมันกันใหญ่เลย รับไม่ได้”
จวงใจหน้าเหวอไป เมื่อเห็นขวัญข้าวกับอาชา เข้ามาร่วมเต้นกับหางเครื่องด้วย
“อ้าว...ยายขวัญ กับนังอาชา ไหนว่า ขายขี้หน้าเขาไง”
นักข่าวเข้ามาหาจุ๊บแจง
“น้องแจงคะ สับสนรึเปล่า ที่ว่ารุ้งระวีมาถึงเมืองไทยนานแล้วน่ะ มีเรื่องเกาเหลาอะไรกันรึเปล่าคะ พี่แจ็คกี้จะได้ไปเต้าข่าวต่อ”
จวงใจยิ้มให้นักข่าว
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นละค่ะ เข้าใจผิดเฉยๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
นักข่าวแยกไป จุ๊บแจงขัดใจ
“โธ่...พี่ ไปขอโทษนักข่าวทำไม”
“นักข่าวไม่เล่นข่าวเกาเหลานี่ก็บุญแล้ว”
“พี่...แต่เรายังมีก็อกสองไม่ใช่เหรอ เอารูปในมือถือที่เราถ่ายไว้มาประจานให้รู้กันไปเลย”
“แจง...สมองมีไว้ให้ฉลาดนะ ที่เราถ่ายไว้มันไม่ได้ถอดแว่น เอามาประจานก็ไม่มีใครเชื่อ”
ทูนอินทร์และอินทรชื่นชมกับการโชว์ของรุ้งระวี ร่วมเต้นไปกับทุกคนด้วย รุ้งระวีร้องจบเพลง ทุกคนปรบมือกราว
“เก่ง...เก่งมาก คนนี้ละใช่แน่” อินทร์ชื่นชม
“ตกลงบอกได้รึยังครับ...ว่าพี่มีข้อเสนออะไร” อินทรถามอย่างสงสัย
“คนนี้ละจะมาร้องเพลงของฉัน”
อินทรส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย ทั้งสองมองไปที่รุ้งระวีที่รับพวงมาลัยคล้องคอจนเต็มคอ

รุ้งระวีได้แถลงข่าว ในห้องที่ถูกจัดเตรียมไว้ โดยอิทธิและรุ้งระวีนั่งอยู่ด้วยกัน มีจุ๊บแจง ขวัญข้าว อาชานั่งอยู่รายรอบ ทูนอินทร์และอินทรหลบมุมอยู่หลังห้อง จี่หอยกับมะปรางนั่งกระหยิ่มอยู่ข้างๆจวงใจ
“ค่ะ...รุ้งอยู่เมืองไทยจนสามขวบค่ะ พอกำพร้าพ่อแม่ก็เลยถูกส่งไปอยู่ในอุปการะของคุณป้าที่แอลเอ ท่านเปิดร้านอาหารอยู่ที่นั่น” รุ้งระวีตอบคำถาม
“แล้วเรียนร้องเพลงลูกทุ่งจากใครคะ” นักข่าวถาม
“ก็เรียนกับพี่นักร้องที่นั่นน่ะค่ะ แล้วก็ฝึกร้องเองด้วย เพราะฟังเพลงลูกทุ่งไทย แล้วรุ้งชอบมาก รุ้งว่าเพลงไทย และภาษาไทยของเราเพราะที่สุดในโลกเลยค่ะ”
คนทั้งห้องปรบมือ ทูนอินทร์และอินทรปรบมือตาม จวงใจยืนอยู่ไม่ห่างจากจี่หอยและมะปราง จี่หอยหันไปหาจวงใจ
“ร้ายนักนะนังจวง แกคิดจะทำลายบริษัทเราเหรอวะ”
จวงใจทำไม่รู้ไม่ชี้
“พูดอะไร ไม่เข้าใจ”
“ก็ที่แกพานักข่าวบุกเข้าไปเมื่อกี้น่ะซี ฉันจะรายงานคุณอิทธิทั้งหมด งานนี้แกโดนเว้นวรรคแน่ ๆ”
“เว้นวรรคอะไร”
“ก็ตกงานไง”
“ถ้าคนอย่างนังจวงตกงาน คนอย่างแกก็ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เอาซี้ คุณอิทธิไม่มีวันไล่ฉันออกหรอก ถ้าฉันออก นักร้องดังอย่างจุ๊บแจงอย่างขวัญข้าว ก็ต้องออกตามฉันด้วย คุณอิทธิยอมไหมล่ะ”
จวงใจแยกไป จี่หอยด่าตามหลัง
“อีเลวระดับชาติ”
“พี่หอย คนนี้น่ะเหรอที่หลอกรุ้งไปที่ตลาด” ทูนอินทร์ถามอย่างสงสัย
จี่หอยมองตามหลังจวงใจแค้นๆ
“นังงูพิษนี่แหละคุณ นี่รุ้งยังไม่ได้เข้าบริษัท ยังโดนแกล้งขนาดนี้ ถ้าเข้าไปอยู่ร่วมกับพวกมัน ต้องไม่เหลือดีแน่ๆเลย หอยคนเดียวคงดูแลรุ้งไม่ได้เต็มที่หรอก คงต้องหาใครสักคน ที่จะมาช่วยหอยได้”
จี่หอยหันไปซบไหล่อินทร ขณะที่ทูนอินทร์มองรุ้งระวี อย่างเป็นห่วง

รุ้งระวีถ่ายภาพร่วมกับจุ๊บแจง ขวัญข้าว อาชา และอิทธิ ราวกับรักกันเหลือเกิน

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์