หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านมุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 1

อ่านมุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 1
กลางดึกของค่ำคืนหนึ่ง รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาในลานจอดรถโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ แล้วถอยหลังเข้าจอดด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็มีรถยนต์แต่งสีสันจัดจ้านตีวงเลี้ยวเข้ามาในลานจอดรถ ก่อนจะดริฟท์เสียงล้อบดขยี้ถนนดังบาดหู

อีกด้านหนึ่ง รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ซึ่งมีคนนั่งซ้อนท้ายมาด้วยหนึ่งคน ก็เร่งเครื่องพุ่งทะยานมา รถบิ๊กไบค์เร่งเครื่องอย่างรวดเร็วแล้วตีวงจอด

เจ้าของรถหรูคันแรกคือ ภูผา หนุ่มมาดเข้มก้าวลงจากฝั่งข้างคนขับ เขาแต่งตัวหรูและถือกระเป๋าใบใหญ่ หลังจากนั้น บลู สาวสวยเซ็กซี่ในชุดหนังรัดรูปก็ก้าวลงมาจากที่นั่งด้านข้าง
ส่วนคนขับรถบิ๊กไบค์เป็น แมงมุม สาวมาดเท่ดูเผินๆเหมือนผู้ชายเธอกำลังถอดหมวกออก คนซ้อนคือเนส เด็กหนุ่มหล่อสะอาดมีเป้สะพายอยู่ที่ด้านหลัง
รถยนต์แต่งเร่งเสียงเครื่องครางหึ่งก่อนจะดับลง ร่างของ ขุนพล หนุ่มหล่อแต่งตัวแนวสปอร์ตลงมาเป็นคนสุดท้าย ภูผา บลู ขุนพล แมงมุม และเนส ก้าวลงจากทางลาดของลานจอดรถ มาพร้อมๆ กัน

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่ทางเดินภายในโรงแรม มุกดาเดินเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง หลังจากนั้นไม่นานกระโปรงที่เธอใส่อยู่ก็ถูกกระชากออกอย่างแรง จนเผยให้เห็นขายาวขาวในชุดแนบเนื้อของเธอ

ที่ห้องแสดงเพชรอะดอเรลลาซึ่งเป็นห้องกระจกบนชั้นสูงของตึกที่มองเห็นวิวรอบกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา ธีรพัฒน์ ตำรวจหนุ่มก้าวเข้าห้องมา พร้อมลูกน้องทั้งในและนอกเครื่องแบบซึ่งมาตรวจดูความปลอดภัย
อะดอเรลลา เป็นสร้อยเพชรสีชมพู 20 กะรัต ล้อมวงด้วยเพชรเม็ดเล็กๆเรียงกัน ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ท่ามกลางเครื่องประดับชิ้นอื่นๆที่ใส่ตู้วางอยู่รอบๆ

ภายในอาคารสตาร์ไดมอนด์ เพชร ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของสตาร์ไดมอนด์ซึ่งอยู่ในชุดสูทที่ดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เพชรยืนอยู่ท่ามกลางเครื่องประดับราคาแพงมากมายภายในร้าน
“อะดอเรลลา สร้อยเพชรสีชมพูอาถรรพ์” เสียงเจนจบดังเข้ามา เพชรหันไปมองที่เจนจบ หนุ่มหล่อสะอาด ซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับพาที หนุ่มอารมณ์ดี และชนินทร หนุ่มหน้าตาเคร่งขรึม ทั้ง 3 เป็นเพื่อนสนิทของเขา
“คนอย่างเพชร พัชระ โสภณพันธ์ ไม่เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ อาถรรพ์ของอะดอเรลลา ก็แค่เรื่องบังเอิญ” เพชรบอกเพื่อนๆ
ทุกคนมองมาที่เพชร เจ้าของตึกและธุรกิจอัญมณีชั้นนำของเมืองไทยในชื่อ สตาร์ไดมอนด์ เป็นตาเดียว

ภายในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่กำลังดูในจอที่ฉายภาพมุมทางเดินต่างๆในโรงแรม ภูผาก้าวเข้ามาด้านหลัง
“งั้นลองฟังเรื่องบังเอิญของนายก่อน” เสียงของชนินทรที่พูดกับเพื่อนๆ เรื่องอะดอเรลลาอยู่ในร้านสตาร์ไดมอนด์ดังขึ้น
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปมองแล้วตกใจที่เห็นภูผา เขาทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ แต่ภูผาเอาเท้ายันอก จนท. ก่อนจะดันเก้าอี้จนติดผนังแล้วสะบัดมีดโค้งด้ามสลักไม้แทงเข้าปักอกจนท.คนนั้น แล้วหันกลับมาปาดคอ จนท.คนที่ 2 จนเลือดกระฉูด
“ราชินีองค์แรกที่ได้ อะดอเรลลา เป็นของขวัญแต่งงาน โดนกิโยตินตัดคอ...” เสียงของเพชรดังขึ้นในขณะที่ภายในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดได้รับการบุกรุกแล้ว

ณ ทางเดินภายในโรงแรม บลูในชุดรัดรูปสั้น กำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูลิฟต์กำลังจะปิดแต่มีมือมาแทรกไว้ บลูมองตามเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 คน ก้าวเข้ามาในลิฟต์ บลูยิ้มแล้วทิ้งสายตา เธอขยับปลดต่างหูรูปแท่งยาว ลิฟต์ปิดแล้วเลื่อนขึ้น
“ชั้นไหนครับ” ตำรวจถาม
“ชั้นอะดอเรลลาค่ะ” บลูตอบ
ได้ยินดังนั้น ตำรวจทั้ง 4 นายก็หันขวับมาทันที แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร บลูก็เอาต่างหูที่เป็นอาวุธเหล็กแหลมแทงเข้าที่คอของตำรวจคนแรกแล้วชักออก เลือดพุ่งกระฉูดจากคอ ตำรวจที่เหลือชักปืนแต่มือขวาบลูถือมีดบางเฉียบ ปาดฉับๆ ส่วนมือซ้ายก็แทงต่างหูแหลมเข้าที่คอตำรวจคนสุดท้าย หยดเลือดกระเซ็นไปทั้งลิฟต์ ตำรวจทั้ง 4 นายล้มลงเป็นศพที่ปลายเท้าของบลู
บลูยิ้ม เธอปาดเลือดที่กระเซ็นบนเนินอกขาวด้วยปลายนิ้ว แล้วใช้ลิ้นเลีย เธอเงยหน้ามองลิฟต์ที่กำลังไล่เลขขึ้นไปชั้นบน

ณ โถงทางเดินหน้าลิฟต์ หน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทพาทีพร้อมอาวุธครบมือยืนเฝ้าโถงทางเดินอยู่ ธีรพัฒน์เดินมากับลูกน้อง หน่วยรปภ. กดลิฟต์ให้เขา
“ผมจะลงไปตรวจด้านล่างอีกรอบ ห้ามใครผ่านขึ้นมาชั้นนี้เด็ดขาด” ธีรพัฒน์บอก รปภ.
ลิฟต์เปิดออก ภายในว่างเปล่า เพราะไม่ใช่ลิฟต์ตัวที่บลูขึ้น ธีรพัฒน์กับลูกน้องเดินเข้าไป

หน้าแผงควบคุมคอมพิวเตอร์ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เนสกำลังถือแมคบุ๊คต่อเชื่อมกับระบบภาพวงจรปิดทั้งโรงแรมและข้อมูลคอมพิวเตอร์ต่างๆ อยู่
เนสกดคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว เขาเข้าระบบไปทำลายข้อมูลต่างๆ ขั้นสุดท้าย เนสกด enter ทันใดนั้นเองแผงไฟก็กระตุก หน้าจอควบคุมวงจรหลายเครื่องดับลง เนสยิ้มที่ทำงานสำเร็จ

ภายในร้านสตาร์ไดมอนด์ เพชรกำลังจัดวางเครื่องประดับในตู้ใหม่ เจนจบเล่าเรื่องอาถรรพ์ให้ทุกคนฟังอย่างต่อเนื่อง
“เจ้าหญิงคนต่อมา ใส่อะดอเรลลาในงานหมั้น หลังพิธี .. รถตกเหว พระศพแหลกเหลว ไม่มีใครจำสภาพได้”
“พอเถอะ เจนจบ” เพชรขัด “ต่อให้นายเชื่อว่าอะดอเรลลามีอาถรรพ์ แต่ฉันก็ได้มันมาแล้วในราคาถูกๆแค่ 500 ล้าน”
“ถูกของแก 500 ล้าน” พาทีประชด
“ใช่ 500 ล้าน ไม่แพงเลยสำหรับชื่อเสียงสตาร์ไดมอนด์ของฉัน” เพชรหันไปทางพาที “บริษัทรักษาความปลอดภัยของแกน่ะ มีหน้าที่ดูแลอะดอเรลลาของฉันให้ดีที่สุด ก่อนเปิดแสดงพรุ่งนี้ .. ฉันสั่งแกแล้วนะ พาที มดสักตัว ฉันก็ไม่อนุญาตให้เดินเฉียดอะดอเรลลา”
เพชรพูดเสียงเข้มด้วยแววตาจริงจัง

ภายในห้องแสดงอะดอเรลลา อะดอเรลลาสะท้อนไฟแวววาวอยู่ ทั่วบริเวณโดยรอบมีแสงเลเซอร์สีเขียวพาดไว้โดยรอบอะดอเรลา มุกดาจับจ้องไปยังอะดอเรลลาอย่างใช้ความคิด

ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์อยู่กับลูกน้อง 2 คน อยู่ๆลิฟต์ก็ค้าง เกิดเสียงกระแทกดังตึ๊ง ธีรพัฒน์กับลูกน้องชักปืนออกมาเตรียมพร้อมทันที
ลูกน้องกดสัญญาณแจ้งลิฟต์ค้าง ธีรพัฒน์พูดใส่ไมค์โครโฟนที่ติดอยู่บนปกเสื้อเพื่อติดต่อลูกน้องด้านนอก
“ด้านล่างมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
ที่ปล่องลิฟต์ ภูผากำลังนั่งอยู่บนตู้ลิฟต์โดยสารของธีรพัฒน์อย่างใจเย็น
ธีรพัฒน์ถือปืน มองไปรอบๆ ตามสัญชาติญาณของตำรวจ เขาพูดย้ำกับทุกคน
“ล็อคลิฟต์ทุกตัว ย้ำ ..ล็อคลิฟต์ทุกตัว อย่าให้ใครผ่านขึ้นไปห้องแสดงอะดอเรลลา”
ภูผาที่นั่งฟังอยู่ยิ้มนิดๆ ด้วยท่าทีนิ่งๆ

หน่วยรปภ.ที่โถงทางเดินหน้าลิฟท์ถือปืนเตรียมพร้อม เมื่อลิฟต์เปิดออก ทุกคนเล็งปืนไปด้านในแต่ไม่มีคนอยู่ในลิฟต์ รปภ. ทุกคนจึงลดปืน
รปภ.คนที่หนึ่งพูดว. “แจ้งบริษัทสตาร์ไดมอนด์ กับคุณพาที ด่วนที่....”
ทันใดนั้นเอง ขุนพลที่ใส่หน้ากากยางปิดบังหน้าตาใช้สลิงยึดตัวอยู่กับเพดานลิฟต์ก็ห้อยตัวลงมา รปภ.2 คนเห็นก็ยกปืนขึ้นจะยิง แต่เจอขุนพลยิงเจาะอกทั้งสองคน
รปภ อีก 2 คนยิงปืนใส่ กระสุนเฉียดขุนพลที่ดึงตัวขึ้นไปหลบแนบเพดาน รปภ.ที่เหลือพุ่งเข้าไปจะยิงซ้ำ แต่ประตูลิฟต์ก็ปิดเสียก่อน

ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์พยายามติดต่อคนภายนอก ส่วนตำรวจลูกน้องทั้ง 2 คนกำลังช่วยกันงัดลิฟต์ด้วยมือเปล่า
“ทุกหน่วยคุ้มกันห้องอะดอเรลลา” ธีรพัฒน์สั่งเสียงเข้ม

อีกด้านหนึ่ง หน่วย รปภ.เตรียมพร้อมอยู่หน้าลิฟต์ มีเสียงลิฟต์หยุด รปภ. ทุกคนเล็งปืนไปที่ลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกันทั้งสองตัว
ขุนพลห้อยตัวลงมา ส่วนบลูใส่หน้ากากยางอีกแบบทั้งสองมือมีปืนถืออยู่ ทั้งขุนพลและบลูกราดยิงออกมาจากลิฟต์ ส่วน รปภ.ยิงสู้
ขุนพลม้วนตัวเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกับบลู ทั้งสองคนยิงถูกที่กลางอกของรปภ.ที่เหลือจนล้มลงตาย ขุนพลกับบลูมองศพ รปภ. ที่เกลื่อนหน้าลิฟต์ แล้วเดินเข้าไปในห้องแสดงอะดอเรลลาทันที

ภายในห้องแสดงอะดอเรลลา อะดอเรลลายังตั้งเด่นอยู่กลางห้อง บลูกับขุนพลเห็นมุกดากำลังเอื้อมมือจะหยิบอะดอเรลลา
“ห้ามแตะ นั่นมันอะดอเรลลาของเรา” บลูร้องบอก
“ของฉันต่างหาก”
มุกดายิ้ม และคว้าอะดอเรลลามาได้ เธอรีบหย่อนลงถุงที่ข้างเอวทันที
ขุนพลยิง มุกดาม้วนตัวหลบทำให้กระสุนโดนตู้เครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ตกลงมา มุกดาพุ่งตัวหลบไปจนสุดอีกด้านหนึ่ง เธอหันไปมองผ่านกระจกเห็นความสูงของตึกก็ถึงกับชะงัก พอหันหน้ากลับมาบลูกก็ระชากตัวมุกดามาและกำลังจะปักเหล็กแหลมลงที่คอของมุกดา
มุกดาชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าบลูทำให้เหล็กหล่นจากมือ ขุนพลยิง มุกดาก้มตัวหยิบเหล็กของบลูแล้วปาพุ่งเข้าน่องขุนพล
มุกดาวิ่งพุ่งไปทางประตู แต่บลูโดดขวางไว้ ทั้งมุกดาและบลูล้มกลิ้งกันไป บลูพยายามดึงถุงอะดอเรลลาที่เอวมุกดา มุกดาก็พยายามกระชากหน้ากากยางของบลูออก
บลูกัดมือมุกดา มุกดาตบเข้าที่ใบหน้าบลูเต็มแรง ขุนพลมองนาฬิกาแล้วตะโกนบอกบลู
“ต้องไปแล้ว บลู”
บลูกระแทกมุกดาเข้ากับผนังตั้งใจจะคว้าถุงให้ได้ แต่มุกดาเตะเข้าที่กลางตัวบลูแล้วกระชากหน้ากากออกทันที
สองคนต่างตกตะลึงจ้องหน้ากันอยู่นานหลายวินาที บลูชกเปรี้ยงเข้าที่หน้า แต่มุกดาบิดหน้าหลบทันอย่างฉิวเฉียด บลูดึงหน้ากากปิด ขุนพลยิงใส่จนมุกดาต้องกระโดดหนีแล้วพุ่งอย่างเร็วไปทางประตู

ที่ปล่องลิฟต์ ภูผามองนาฬิกาแล้วหยิบระเบิดวางลงบนลิฟต์ แล้วรีบไต่สลิงขึ้นไปด้านบน
ธีรพัฒน์ร้อนรนในขณะที่ตำรวจลูกน้องพยายามงัดลิฟต์อยู่
“ใครอยู่ที่ห้องแสดงอะดอเรลลา รายงานด้วย” ธีรพัฒน์พูดใส่ไมค์โครโฟนด้วยเสียงเข้ม

อีกด้านหนึ่ง มุกดาพุ่งออกมาจากในห้องแสดงอะดอเรลลา แต่เจอแมงมุมที่ใส่หน้ากากยางดักอยู่ แมงมุมก้าวมายิงใส่ มุกดาวิ่งหลบแล้วตัดสินใจพุ่งหนีไปทางบันไดหนีไฟ ส่วนบลูกับขุนพลวิ่งออกมา
“เอาไง” แมงมุมถาม
“แกกับฉันไปเอาเพชร .. บลู ทำตามแผนเดิม” ขุนพลบอก
“ต้องฆ่านังนั่นก่อน มันเห็นหน้าฉัน” บลูเสียงจริงจัง
“โอ๊ะ เด็กๆ..เดี๋ยวจัดการให้ คนสวย” แมงมุมพูดแล้วส่งจูบใส่บลู
ทุกคนมองไปที่ลิฟต์แล้วทำตามแผนที่ตกลงกันไว้

ภายในปล่องลิฟต์ ภูผาโหนสลิงซึ่งสูงกว่าตัวลิฟต์ เขากดระเบิดในมือจนระเบิดที่ติดอยู่ที่ลิฟต์ระเบิดขึ้น ภูผาหันหน้าหนีเปลวไฟที่พวยพุ่ง
เสียงระเบิดดังสนั่น สลิงขาด
ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์กับลูกน้องตำรวจถึงกับเซไปมา ลิฟต์ร่วงลงสู่พื้น ภูผาที่โหนตัวอยู่บนสลิงมองตู้ลิฟต์กำลังร่วงลงข้างล่าง
ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์และลูกน้องเอียงกะเท่เร่ตามแรงลิฟต์ที่พุ่งลงอย่างรวดเร็ว ธีรพัฒน์สั่งเสียงเข้ม
“กันคนด้านล่างออกไป ลิฟต์กำลังร่วง กันคนออกไป”

ที่ร้านสตาร์ไดมอนด์ เสียงมือถือของพาทีดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง พาทีกดรับสายแล้วนิ่งฟัง

บริเวณหน้าลิฟท์ภายในโรงแรม มีแขกกับพนักงานยืนอออยู่หน้าลิฟต์ ตำรวจนอกเครื่องแบบวิ่งเข้ามา
“ออกไปครับ ออกไป”
แขกเหรื่อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ก้าวห่างจากลิฟต์เพียงไม่กี่ก้าว เสียงลิฟต์ตกกระแทกอย่างแรง
ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์กับลูกน้องกลิ้งกระแทกพื้น ไฟในลิฟต์ดับพรึ่บ ควันมากมายพุ่งออกจากประตู
แขกบริเวณนั้นร้องกรี๊ดเสียงดัง บรรยากาศภายในโรงแรมอลหม่านชุลมุน ตำรวจ 2 คนวิ่งเข้าไปดูลิฟต์ เห็นลิฟต์แยก ทุกคนมองเข้าไปเห็นธีรพัฒน์ตะเกียกตะกายออกมาจากลิฟต์
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นรีบเข้ามาช่วยกันแยกลิฟต์ เอาคนที่ติดอยู่ด้านในออกมา

ที่ร้านสตาร์ไดมอนด์ พาทีทวนคำจากปลายสาย
“เพชรถูกขโมย”
ทุกคนตกใจ เพชรมองจ้องเพื่อน พาทีวางสายแล้วหันมาแต่ยังพูดไม่ออก
“ไม่ต้องพูดแล้ว ..ฉันได้ยิน ... อะดอเรลลาถูกขโมย..” เพชรพูดด้วยความตกใจแล้วเขาก็วิ่งออกไปเป็นคนแรก ทุกคนวิ่งตามออกไปทันที

ภูผาปีนสลิงมาที่ประตูลิฟต์ เขาเหวี่ยงตัวไปถีบลิฟต์เป็นสัญญาณ ภูผาโหนตัวขึ้นอีกที ลิฟต์เปิดออก ภูผาโดดออกมายืนที่โถงทางเดินหน้าลิฟต์
เนสซึ่งเป็นคนช่วยงัดลิฟต์ ยืนรออยู่บริเวณนั้น ภูผากับเนสดึงหน้ากากยางลงปิดหน้าแล้ววิ่งอย่างรวดเร็วไปที่บันไดหนีไฟ

มุกดาวิ่งอย่างรวดเร็วอยู่ที่ทางเดินในโรงแรม ขุนพลกับแมงมุมวิ่งไล่ยิง มุกดาโดดลงมายังชั้นที่มีห้องพัก แขกที่มาพักวิ่งหนีออกจากห้อง เครื่องจับควันไฟบนเพดานทำงานทุกตัว น้ำกระจายไปทั่วทางเดิน
มุกดาวิ่งพร้อมกับตะโกนบอกแขกที่กำลังจะออกจากห้องด้วยความตกใจ
“หลบไป หลบไป”
มุกดาวิ่งเลี้ยวไปทางบันไดหนีไฟอย่างรวดเร็ว

มุกดาวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟ โดยมีแมงมุมกับขุนพลวิ่งไล่ยิงมา มุกดาหลบกระสุนแล้ววิ่งต่อ เธอจะวิ่งขึ้นข้างบนแต่เจอภูผาโผล่มาจากด้านบนยิงสวนลงมา ทำให้มุกดาโดนยิงประกบจากทั้งข้างล่างและข้างบนทันที
ภูผามองเห็นถุงอะดอเรลลาอยู่ที่เอวมุกดา มุกดาก้มต่ำเพื่อหลบกระสุน เธอมองขึ้นไปเห็นเฮลิคอปเตอร์กำลังบินเข้ามาใกล้

ภายในเฮลิคอปเตอร์ สำนักข่าวครอบครัวข่าวกำลังบินรายงานอยู่
“ขณะนี้ผมกฤต เจนพานิชการ จาก Sky Report กำลังบินอยู่เหนือโรงแรมที่เกิดเหตุปล้นอะดอเรลลา เพชรสีชมพู มูลค่า 500 ล้าน”

มุกดาก้มหลบกระสุนของแมงมุมและขุนพล เมื่อมองไปด้านบนก็เห็นภูผากำลังเล็งปืนลงมาหาเธอ
“เรามาถึงที่เกิดเหตุเป็นสำนักข่าวแรก” เสียงของกฤตยังรายงานข่าวต่อเนื่อง “ทันทีที่ได้รับการประสานกับทางตำรวจ เดี๋ยวเราจะลงไปรายงานนะครับ ท่านผู้ชม ว่าเกิดอะไรขึ้นในเหตุปล้นสะเทือนขวัญกลางเมือง”
มุกดาแตะถุงอะดอเรลลาอย่างระมัดระวัง เธอคิดว่าทางรอดทางเดียวก็คือกระโดดหนี ภูผายิงสกัดไม่ให้เธอกระโดด มุกดาเห็นภูผากำลังไต่ลงมา เธอหลบกระสุนของแมงมุมกับขุนพลพร้อมกับเหวี่ยงตัวจะพุ่งลงไป
ภูผาพุ่งเข้ามากระชากถุงอะดอเรลลา มุกดาโหนบันไดแล้วห้อยตัวคว้าถุงอะดอเรลลาไว้ มุกดากับภูผาต่างก็ตะปบถุงอะดอเรลลาไว้ทั้งคู่ ต่างคนต่างดึงจนถุงอะดอเรลลาขาด อะดอเรลลาหล่นจากถุง
ภูผาพุ่งร่างตามโดยเอาขาเกี่ยวไว้กับบันไดก่อนจะร่วงหล่นไป มุกดาที่โหนมือเดียวรีบเอื้อมมือไปรับอะดอเรลลาที่กำลังจะร่วง แต่ภูผาคว้าอะดอเรลลาไว้ได้ก่อนที่จะหล่นลงในมือมุกดา
ขุนพลกับแมงมุมเห็นภูผาคว้าอะดอเรลลาไว้ได้ก็ยิงมุกดาทันที
มุกดาที่ห้อยอยู่เห็นภูผากำอะดอเรลลาอยู่กับหน้าอก ก็จะโหนตัวขึ้นแย่งแต่กระสุนของขุนพลยิงเฉียดมือเธอที่จับราวบันไดอยู่ แมงมุมรีบไต่ขึ้นมากระทืบมือมุกดาเต็มแรงแล้วจ่อปืนหมายจะยิงมือให้ทะลุ
มุกดาทนไม่ไหว จำต้องปล่อยมือ ทำให้เธอร่วงลงไป ภูผา ขุนพล และแมงมุมมองตาม
“ไม่เหลือ” แมงมุมรำพึงขึ้นมา

ที่บันไดหนีไฟ มุกดาวิ่งตามกลุ่มภูผาขึ้นไปชั้นบน มุกดาวิ่งมาตามทางเดิน อยู่ๆ มีมือมาคว้าแขนของเธอ มุกดาหันไปฟันสันมือใส่จนเกือบจะเข้าหน้าคมกฤช พี่ชายของมุกดาผู้เป็นเจ้าของธุรกิจรักษาความปลอดภัย แต่คมกฤชหลบได้อย่างว่องไวโดยที่มือของมุกดาอยู่ห่างหน้าแค่คืบ
“พี่กฤช” มุกดาลดมือ
คมกฤชพูดกับน้องสาวด้วยความร้อนใจ
“หลบไปก่อนมุก”
“ไม่ได้ อะดอเรลลาถูกขโมยไปแล้ว”
“ปล่อยให้พี่กับธีรพัฒน์จัดการเอง ตำรวจอยู่เต็มโรงแรม นักข่าวก็กำลังมา ถ้าพวกนั้นรู้ว่าพี่ใช้มุกมาทดสอบระบบความปลอดภัย มุกจะโดนข้อหาปล้นไปด้วย”
“เรื่องนั้นว่ากันทีหลัง... ยังไงตอนนี้เราต้องเอาอะดอเรลลากลับมาให้ได้ก่อนพวกมันขึ้นไปดาดฟ้า แผนหนีของมันต้องเริ่มจากบนนั้น” มุกดาบอก
“อันตรายมากนะมุก พี่ไม่ยอมให้แกไปเสี่ยงตายขนาดนั้น”
“มุกไม่กลัว หนักกว่านี้ มุกก็เคยเจอมาแล้ว”
“พี่บอกว่าไม่ได้ ก็ต้องไม่ได้!!!”

คมกฤชกระชากแขกลากตัวน้องสาวออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

ภายในเฮลิคอปเตอร์ทีมงานครอบครัวข่าวซึ่งกำลังจะบินลงไปจอดที่จุดจอดบนดาดฟ้าของโรงแรม
“ผมยังไม่ยืนยันนะครับ ดูเหมือนมีคนร่วงลงมาจากตึกของโรงแรมด้วย”

กฤต ซึ่งทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวรายงาน อย่างจริงจัง

ที่ประตูทางออกดาดฟ้าโรงแรม เนสยืนหลบอยู่ เขากำลังเอาเลือดราดที่ตัวให้ดูเหมือนบาดเจ็บ เนสส่งเลือดต่อให้บลู พอบลูเทใส่ตัวแล้วยังฉีกเสื้อผ้าให้ขาดวิ่น เธอปาดเลือดให้ไหลไปบนเนื้อขาวๆ
เฮลิคอปเตอร์ครอบครัวข่าวใกล้จะลงจอด เนสกับบลูวิ่งก้มต่ำออกมาจากที่ซ่อน
กฤตซึ่งนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์มองไปเห็นทั้งสองคนวิ่งออกมา
“ตอนนี้เราเห็นผู้บาดเจ็บสองคน มีผู้หญิงด้วยนะครับ ท่าทางบาดเจ็บสาหัส เดี๋ยวเราจะลงไปสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรด้านใน”
เฮลิคอปเตอร์บินต่ำลงมาเตรียมจอด
บลูวิ่งมาทำเป็นล้มหมดแรงลงกับพื้น ส่วนเนสทำเป็นทรุดลง ก้มตัวลงต่ำ เฮลิคอปเตอร์จอด กฤตกับช่างภาพกรูกันลงมา กฤตถึงตัวบลูก่อนจึงเข้าไปประคอง
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
บลูเงยขึ้นมาในขณะที่สวมหน้ากากอยู่ เธอเอาปืนจ่อ กฤตถึงกับผงะ แมงมุมโผล่จากที่ซ่อนพุ่งเข้าชาร์จช่างภาพแล้วเอาปืนจ่อ นักบินตกใจเตรียมจะเอาเครื่องขึ้น แต่ขุนพลพุ่งมาจากอีกด้านเอาปืนจ่อหัวก่อน
“พวกคุณเป็นโจร” กฤตละลักละล่ำ
กฤต ช่างภาพ และนักบินถูกมัดโดยมีกล้องวางอยู่กับพื้น
แก๊งภูผาทั้ง5 ซึ่งอยู่ในหน้ากากอำพรางใบหน้าวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ หลังจากนั้น เฮลิคอปเตอร์ก็บินขึ้นเหนือพื้น
ธีรพัฒน์ที่ยังบาดเจ็บอยู่โผล่ขึ้นมาที่ดาดฟ้าโดยมีลูกน้องติดตามมาด้วย ธีรพัฒน์ยิงสกัดไปที่กลุ่มภูผา เนสที่จะขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้ายโดนกระสุนล้มลง
“เนส” แมงมุมร้องลั่น
ภูผาเอาเครื่องขึ้นสูงแล้วบินออกไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มภูผาทั้ง 4 คนบนเฮลิคอปเตอร์เห็นตำรวจกรูเข้ามาล้อมศพเนส
ธีรพัฒน์มองตามเฮลิคอปเตอร์ที่บินขึ้นไปด้วยความโมโห
กฤตวิ่งถือไมค์เข้ามารายงาน “ท่านผู้ชมครับ ครอบครัวข่าว 3 ยังอยู่กับท่านวินาทีต่อวินาทีนะครับ เหตุการณ์สดๆตอนนี้ เครื่องบินของเราถูกแก๊งปล้นอะดอเรลลาจี้ไป หนึ่งในกลุ่มโจรถูกวิสามัญ หลังจากทำร้ายช่างภาพ นักบิน และ นักข่าว”
“แต่ท่านผู้ชมมั่นใจได้เลยครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกสถานการณ์ ครอบครัวข่าวสาม พร้อมจะรายงานให้ท่านผู้ชมทันข่าวก่อนใคร!!!”

อ่านมุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 1
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์