หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 2/2

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 2/2
อินทรดึงทูนอินทร์ พาเดินออกมาตามทางในสนามบิน

“กลับเถอะครับพี่”
“เดี๋ยวซีวะ...ฉันยังไม่ได้ให้คุณรุ้งเขาดูเพลงที่ฉันแต่งเลย”
“พี่เลิกฝันเถอะครับ เขาอยู่บริษัทใหญ่อย่างนี้ เขาไม่สนเพลงอินดี้ ของพี่หรอก”
ทูนอินทร์หน้าสลดไป จะเดินตามน้องชาย แต่ต้องเบรกกันทั้งคู่ เมื่อ รุ้งระวีและมะปรางเดินมาขวางหน้าไว้

“จะไปไหนคะ คุณเคน กับคุณธีรเดช” รุ้งระวีถามเสียงเข้ม
“ผมจะกลับบ้านแล้วละครับ...คุณรุ้ง” ทูนอินทร์บอก
“ยังกลับไม่ได้ คราวนี้ถึงทีนายต้องถอดบ้างแล้วละ”
ทูนอินทร์และอินทรสะดุ้ง ทูนอินทร์มองรุ้งระวีงงๆ
“ถอดอะไรครับคุณรุ้ง”
“อยู่เฉยๆ” รุ้งระวีหันไปส่งมะปราง “มะปรางจัดการกับนายคนน้อง”
“ได้ค่ะ”
รุ้งระวีและมะปราง เดินเข้ามาหาทูนอินทร์และอินทร แล้วดึงหนวดออกพร้อมกัน ทูนอินทร์กับอินทรร้องลั่น
“โอ๊ย...เจ๊บ...”
“เบาๆ ครับ กาวมันเหนียว” อินทรบอก
รุ้งระวีดึงเครา ทูนอินทร์สะดุ้ง
“อู๊ย... ชอบถอนขนก็ไม่บอก”
มะปรางดึงเครา อินทรบ่นอุบ
“ขนร่วงหมดปากเลย”
รุ้งระวี มองหน้าทูนอินทร์จำได้
“นี่ไง นายนักร้องลงตุ่มนั่นเอง”
มะปราง แปลกใจ
“พี่รุ้งจำแม่นจัง”
“นายไม่ใช่แฟนเพลงฉันสักหน่อย มาหลอกกันทำไม” รุ้งระวีต่อว่า
ทูนอินทร์จ๋อยๆ
“ก็อยากมาเห็นคุณรุ้งอีกครั้งว่าคุณน่ะ ใช่รุ้งระวี ตัวจริงรึเปล่า”
“นายเป็นนักสืบเหรอ” รุ้งระวีถามเสียงเข้ม
“เปล่าครับ...” ทูนอินทร์ส่งตาหวาน “เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนนึง ที่หลงรักคุณเข้าแล้ว”
รุ้งระวีขึงตาใส่
“อย่ามาทะลึ่งนะ”
“อย่าเข้าใจผิดซีครับ ผมหลงรักเสียงร้องคุณต่างหาก ตัวจริง...เฉยๆ”
“กวนที่สุดเลยนายเนี่ย ฉันไปละ แต่นาย...ห้ามพูดเรื่องฉันเด็ดขาด”
“ได้ครับ...แต่ยังสงสัยอยู่เรื่อง”
“อะไร”
ทูนอินทร์มองหน้า
“สวยเสียขนาดนี้ ร้องเพลงก็เก่งขนาดนี้ ทำไมต้องหลอกคนฟังละครับ”
รุ้งระวีมองทูนอินทร์หน้าสลดไป
“ฉันไม่ได้อยากทำหรอกนะ แต่มันจำเป็น”
รุ้งระวีและมะปรางแยกไป ทูนอินทร์และอินทรมองตาม
“แสดงว่าโดนบังคับมาแน่ๆ”
อินทรถอนใจ
“เขาพูดแค่นี้ก็เชื่อเขาแล้ว กลับพี่...กลับ เลิกเพ้อเสียที”
อินทรดึงทูนอินทร์ออกไป

ยามค่ำคืน...ที่ร้านอาหารต้มแซ่บ บริเวณร้านต้มแซ่บมีที่นั่งด้านนอก เป็นบรรยากาศสวนอันร่มรื่น และด้านในมีวงดนตรีแนวลูกทุ่งเพื่อชีวิต วงต้มแซ่บ กำลังร้องเล่นเพลงอย่างเมามันสนุกสนาน แขกในร้าน ทั้งร้อง ทั้งเต้นตาม
หนาน คูนและอินทร อยู่บนเวที ทูนอินทร์นั่งดื่มอยู่กับเมธ นักดนตรีรุ่นพี่ที่หุ้นกันทำร้านนี้ เมธดูแผ่นหน้าปกของรุ้งระวีไปด้วย ขณะเดียวกันนั้นส้มป่อยก็เดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารพร้อมเต้นตามจังหวะเพลงและร้องไปด้วย
“ลาบเป็ดมาแล้วค่านาย...อันนี้แจ่วฮ้อน อันนี้ซุปเปอร์”
เมธหันไปดุ
“ยายส้มป่อย บอกแล้วว่าตอนเสิร์ฟลูกค้า ห้ามร้อง ห้ามเต้น เดี๋ยวน้ำแกงมันจะหกพื้น น้ำลายแกมันจะหกลงชาม”
“แหม...แต่โต๊ะโน้นเขาเลิฟหนูมากนะคะ ให้หนูเต้นด้วย เสิร์ฟด้วย ให้ทิปหนูตั้งยี่สิบบาท”
“ฉันให้แกร้อยนึง แล้วเลิกเต้น”
ส้มป่อยดีใจ
“อุ๊ย...เลิฟมากค่ะ จัดให้”
ส้มป่อยแยกไป เมธมองดูภาพรุ้งระวีหน้าปก
“อะไรกันวะ ไอ้อิทธิ มันไม่มีปัญญาขายนักร้องแล้วรึไง ถึงต้องเอายายคนไทยมาชุบตัวเป็นแหม่มฝรั่ง”
“เป็นการสร้างจุดขายน่ะครับ”
เมธถอนใจ
“เฮ้อ...เดี๋ยวนี้สร้างจุดขายกันแปลก ๆ”
อินทรแยกจากเวที มาที่เมธและทูน
“พี่ครับ...ไอ้นกเล็กเบี้ยวแล้วครับ ไม่มาร้องคืนนี้”
“อีกแล้วเหรอ แล้วเอาไง นายร้องหรือหนานร้อง” เมธถาม
อินทรเครียด
“มาปรึกษานี่ละครับ เพราะเสียงผมหมดแล้ว พี่หนานก็เป็นหวัด”
เมธมองหน้า
“อย่าบอกนะว่าฉันร้องเอง”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นละครับ”
เมธสะสะดุ้ง
“เฮ้ย...ไม่เคยซ้อม เพลงแนวแร็บของไอ้นกเล็กน่ะ ฉันจับจังหวะไม่ได้หรอกว่ะ”
อินทรถอนใจ
“งั้นก็ไม่มีใครร้องได้แล้วนะครับ ยกเว้น...”
เมธแปลกใจ
“ใคร”
“พี่ทูนไง”
ทูนอินทร์หันมามองน้องชาย เมธมองทูนอินทร์อย่างสนใจ

รุ้งระวีให้มะปรางพอกหน้า จี่หอยกำลังเตรียมชุดให้รุ้งระวีในวันพรุ่งนี้อยู่ใกล้ๆ
“พรุ่งนี้ ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่บริษัทของเราเปิดตัวเพลงใหม่” จี่หอยบอก
รุ้งระวีหยิบรูปของแม่ที่หัวเตียงมาดู
“แล้วเมื่อไหร่รุ้งจะไปโคราช ไปหาแม่”
“ตอนนี้ยังไปไม่ได้หรอก รุ้งต้องทำงานก่อน” จี่หอยปลอบ
มะปราง มองรูป
“นี่รูปแม่พี่รุ้งเหรอคะ”
“ค่ะ”
มะปราง ชี้ที่รูป
“แล้วตัวเล็กนี่ อย่าบอกนะว่าพี่รุ้ง”
“พี่รุ้งเอง...ตอนห้าขวบได้มั้ง”
“แม่เขาเป็นคนสอนรุ้งร้องเพลงเหรอ” จี่หอยถาม
“ค่ะ...แม่เป็นนักร้องอยู่ในผับ แม่เป็นคนสอนรุ้งร้องเพลง แล้วก็พารุ้งเดินสายประกวดเกือบทุกเวทีเลย”
“แล้วได้รางวัลบ้างไหมคะ”
“ได้เกือบทุกที่เลยละ อย่างในรูปนี้ รุ้งจำแม่นเลย ประกวดที่ห้างแห่งนึง พอออกมาหน้าเวที คนดูตะโกนชื่อรุ้ง เพราะเขาจำได้”
รุ้งระวีนึกถึงอดีตในวัยเด็ก เมื่อครั้งที่เธอประกวดร้องเพลงที่จัดในห้างต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเธออยู่ในภาพ ดญ.แหม่มจ๋า ใส่วิกผมทอง ชุดระบายฟูยืนอยู่บนเวที คนดูตะโกนเรียก
“แหม่มจ๋า...แหม่มจ๋า”
ดนตรีขึ้น รุ้งระวีเริ่มร้องเพลง สะกดคนดูให้สงบเสียงลง เธอร้องเพลงสนุกสนาน ทั้งร้องทั้งเต้น แสงหล้าแอบมองอยู่ที่หลืบเวทีอย่างลุ้นเต็มที่ เพราะลูกสาวร้องเพลงอย่างได้อารมณ์เกินเด็ก เธอร้องจบเพลงด้วยท่าตลกๆ คนดูปรบมือ บางคนนำพวงมาลัยมาใส่ให้เต็มคอ แสงหล้าปรบมือสนั่น ดีใจที่ลูกร้องได้ชนะใจคนดู

ที่ร้านอาหารต้มแซ่บ...ทูนอินทร์เดินหนีออกมา เมธและอินทรตาม
“ไม่...ไม่ร้องเด็ดขาด ยังไงก็ไม่ร้อง แกก็รู้ว่าฉันร้องต่อหน้าคนเยอะๆไม่ได้”
“พี่ทูน...แล้วเมื่อวันซืน ทำไมยังร้องกลางตลาดได้ ไม่เห็นอายคน” อินทรแย้ง
เมธมองหน้า
“จริงเหรอวะ แกร้องเพลงกลางตลาดเลยเหรอ”
หนานและคูนตามมา หนานหันมาทามอินทร
“เอาไงครับพี่ชาย...ใครจะร้องแทนไอ้นกเล็ก แขกมารอฟังกันเต็มแล้ว”
“กำลังเกี้ยวพี่ทูนอยู่นี่แหละ”
“ฉันไม่ร้อง” ทูนอินทร์เสียงแข็ง
เมธยังสงสัยไม่หาย หันไปถามทูนอินทร์
“เดี๋ยว...แล้วแกไปร้องกลางตลาดได้ไง อะไรดลใจแก”
“ก็คงแม่รุ้งระวี ศรีแอลเอ นี่ละครับ เขามาเต้นเป็นหางเครื่องเข้าหน่อย พี่ทูนเราทั้งร้อง ทั้งโยก ทั้งคลึง” หนานแซว
แล้ว คูน หนาน อินทรก็ร้องเพลงออกมา
“รักน้องต้องลงตุ่ม น้องใส้ผ้าถุงแล้วกระโจมอก...ใจพี่หายวาบ เพราะเห็นน้องยืนอาบ แล้วผ้าถุงมันตก...พี่รีบเอาขันปิดตา กุมผ้าขาวม้า วิ่งหนีโทงเทง...”
ทูนอินทร์รีบห้าม
“พอๆ ไม่เกี่ยวกับยายรุ้งนั่นซักหน่อย ฉันใส่แว่นดำ แล้วฉันลงไปร้องในตุ่มหน้าด้านร้องไปได้โว้ย”
เมธมองทูลอินทร์อย่างเป็นห่วง
“แกมีปัญหาทางจิตแล้วละว่ะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่เด็กนั่นแหละครับ เรื่องยายเด็กแหม่มจ๋าน่ะ” อินทรบอก
ทูนอินทร์หันไปดุ
“ไอ้ทร...ไม่ต้องเล่า น่าอาย”
“เล่ามา เรื่องน่าอายนี่แหละ ฉันอยากฟัง” เมธบอกเสียงเข้ม

รุ้งระวีเล่าเรื่องในวัยเด็กของตัวเองแล้วยิ้มออกมา ยังมองดูรูปอยู่
“พี่รู้ไหม...วันที่ประกวดวันนี้ มีเรื่องสนุกอีกเรื่องนึง”
“อะไรเหรอ” จี่หอยถาม
“รุ้งได้ที่หนึ่ง...แต่ไม่ได้มาเพราะร้องเพราะที่สุดหรอกนะ”
จี่หอยงงๆ
“อ้าว...แล้วได้มายังไง”
“มีเด็กผู้ชายคนนึงร้องเพราะกว่ารุ้งอีก เขาต้องได้ที่หนึ่งแน่ ๆ เลย รุ้งก็เลยจัดการแกล้งซะเลย”
รุ้งระวีอมยิ้ม

ในอดีต...เด็กชายทูนอินทร์วัยเก้าขวบ กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที เสียงของเขาหวานใสเหมือนเสียงผู้หญิง แสงหล้าและรุ้งระวียืนฟังอยู่ด้วยกัน รุ้งระวีเบะหน้าทำท่าจะร้องไห้ แสงหล้าตกใจ
“เป็นอะไรลูก”
“เขาร้องเพราะน่ะซีแม่ เขาต้องได้ที่หนึ่งแน่ๆเลย”
“ไม่หรอกลูก...ลูกได้ที่หนึ่งมาทุกเวทีแล้ว งานนี้ยังไงลูกก็ต้องได้”
รุ้งระวีมองไปที่ทูนอินทร์ แสงหล้าแยกไป รุ้งระวีเริ่มคิดแผนร้าย
“ไม่มีทางหรอกที่นายจะชนะที่หนึ่ง เดี๋ยวคอยดู”

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 2/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์