หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 2/3

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 2/3
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มยิ่งทำให้ฮึกเหิม ทั้งสามคนขี่มาถึงถนนที่ค่อนข้างโล่ง ธีธัชแกล้งบิดเร่ง ทำเป็นท้าแข่ง วัชระไม่ยอม ไล่ตามมา กริชชัยรีบเร่งเครื่องสู้ ทั้งสามคนแข่งกันไปมาอย่างสนุกสนาน สุดท้ายวัชระนำหน้า วัชระหัวเราะอย่างมีความสุข
“ฮ่าๆๆๆ”

ภายในบ้านหลังใหญ่โต บรรยากาศเคร่งขรึม เนตรนภัสอยู่ในชุดอยู่กับบ้าน แต่เสื้อผ้า หน้า ผมของเนตรนภัสจัดจ้านประหนึ่งถอดแบบถอดออกมาจากไฮแมกกาซีน เนตรนภัสนั่งพลิกอ่านหนังสือแฟชั่นอยู่ที่โซฟา พร้อมกับถ่ายรูปเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่ตัวเองอยากซื้อเก็บไว้ แต่สิ่งที่เธออยากได้นั้น มากมายซะเหลือเกิน


นรีวรรณเดินเข้ามาพร้อมกับบีบีในมือ หยุดยืนไม่ห่างไปจากเนตรนภัส แล้วพูดขึ้นทั้งที่ตาก็ยังมองบีบีและมือก็ยังพิมพ์ข้อความอยู่
“พี่แหนมรู้หรือเปล่าว่าพี่มดเพื่อนพี่กำลังจะหมั้นอาทิตย์หน้า?” นรีวรรณพูดกับเนตรนภัส
เนตรนภัสปรายตามามองติดๆ แอบหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่รู้” เนตรนภัสตอบห้วนๆ พร้อมกับดูหนังสือแฟชั่นต่อ
นรีวรรณพูดต่อ สายตาและนิ้วมือยังคงจดจ่อกับการพิมพ์บีบี ไม่หยุด
“เพื่อนพี่อีกคน พี่แซนดี้จะแต่งเดือนหน้ารู้หรือยัง?”
เนตรนภัสกัดริมฝีปากนิดๆ
“ฉันไม่รู้!!” เนตรนภัสจากที่ค่อยๆเปิดหนังสือทีละหน้าอย่างแผ่วเบาหันมาพลิกหน้าหนังสือแรงขึ้น
“แล้วพี่เจ เพื่อนพี่เค้าคลอดลูกแล้วนะ พี่รู้บ้างหรือเปล่าเนี่ย? อ้อแล้วพี่ธัญญ่าที่เพิ่งหย่ากับสามีจะได้แต่งงานใหม่กับมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันนะ รู้หรือเปล่า?” นรีวรรณยังคงอัพเดตข่าวสารให้เนตรนภัสฟัง
เนตรนภัสหมดความอดทนปิดหนังสือผัวะ!
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ใครจะหมั้น ใครจะแต่ง จะมีลูกกี่คน ไม่ใช่ธุระของฉันสักหน่อย”
เนตรนภัสลุกขึ้นจากโซฟาอย่างเสียอารมณ์ในทันที
“ถ้าจะมาเยาะเย้ย เพราะฉันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังไม่ได้แต่งงานก็เสียใจด้วยย่ะ เพราะฉันกับวัชกำลังจะแต่งงานกัน!!” เนตรนภัสพูดชัดถ้อย ชัดคำ นรีวรรณถึงกับเงยหน้าขึ้นจากบีบีด้วยคิดไม่ถึง
“หะ? พี่แหนมว่าไงนะ?”
“เธอไปป่าวประกาศในทวิตเตอร์ เฟสบุค บีบี บ้าบอของเธอได้เลย บอกให้รู้โดยทั่วกันว่า ฉันกำลังจะแต่งงานกับวัช และงานแต่งงานของฉันจะต้องเริดที่สุด!!” เนตรนภัสพูดขึ้นอย่างเชิดๆ
เนตรนภัสเดินกระแทกไหล่นรีวรรณแล้วก็เดินออกไปเลยนรีวรรณเซเล็กน้อย พึงพำกับตัวเองด้วยความงง
“พี่แหนมเนี่ยนะจะแต่งงาน...?”

เวลาเดียวกันนั้นจู่ๆ วัชระก็จามออกมาอย่างแรง
“ฮัดเช้ย!!”
กริชชัยและธีธัชถอดหมวกกันน็อคแล้วหันมาถามวัชระด้วยความแปลกใจ
“แค่กรุงเทพ วังน้ำเขียว หวัดกินหรือไง” กริชชัยถาม
วัชระขยี้จมูกเล็กน้อย
“ไม่น่านะ คงจะแค่แพ้อากาศ” วัชระว่า
“ยัยแหนมคิดถึงหรือเปล่า? คอยดูดิ ไม่ถึงห้านาที โทร.ตามชัวร์” ธีธัชพูดดักคอ
วัชระลงจากรถมาสมทบกับเพื่อน
“อย่าพูดเป็นลางดิเว้ย เมื่อคืนกว่าจะเคลียร์กันจบก็เกือบเช้าได้เวลานัดพวกแกพอดี ยังไม่ได้นอนเลยเนี่ย ไอ้กริชแกก็ทำงานไปนะ ฉันขอไปนอนก่อน จะกลับเมื่อไหร่ก็ปลุกด้วยแล้วกัน”
วัชระพูดจบก็เดินไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม ธีธัชกับกริชชัยมองตามด้วยความเห็นใจ
“ท่าทางเมื่อคืนจะเคลียร์กัน ‘หนัก’ จริงๆ เล่นซะไอ้วัชเปลี้ยเลย” ธีธัชสันนิษฐานจากอาการของเพื่อน
“แล้วเมื่อคืนแกกับคุณกรเคลียร์กัน ‘ไม่หนัก’ หรือไง” กริชชัยหยอกธีธัช เขาหมายถึง กรกนก ที่ธีธัชกำลังคั่วอยู่
ธีธัชหันขวับมามองหน้ากริชชัยที่ยิ้มกวน ธีธัชหลิ่วตา
“โห.. เดี๋ยวนี้ท่านประธานยิงมุกเว้ย”
“อ่ะนะ..นิดนึง” กริชชัยยิ้มขำๆ
“แล้วกับคนนั้นหล่ะครับ เมื่อไหร่ท่านประธานจะได้เคลียร์กันสักที”
กริชชัยชะงักเมื่อเจอธีธัชสวนกลับ

ในชุดลำลองใส่สบายๆ แต่ดูเก๋ไก๋ อรุณศรีเดินมากับเบญลี่ กริชชัยมองไปที่อรุณศรีและจับจ้องเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น อรุณศรีเดินมองไปรอบๆ แล้วก็หันมาสบตากับกริชชัย
กริชชัยรีบหลบตา หน้าแดง อายขึ้นมาซะงั้น ธีธัชเข้ามากระซิบเพราะกลัวเพื่อนเสียฟอร์ม
“ท่านประธานเลิกหน้าแดงได้แล้วนะครับ มันไม่แมน!!”
กริชชัยยิ่งอาย จนต้องผลักไหล่ธีธัชแก้เขิน อรุณศรีเห็นแล้วก็แอบอมยิ้มนิดๆ นึกว่าทั้งคู่กำลังหยอกล้อกันตามประสาคนรัก
ธีธัชเข้ามากระซิบต่อ
“เชิญท่านประธานเต็มที่ ผมขอตัวก่อนนะครับ ไม่อยากอยู่เป็นกอขอคอ” ธีธัชกลั้วหัวเราะในลำคอ
ธีธัชหัวเราะคิกคัก กริชชัยยิ้มๆ พยายามรักษาฟอร์มไว้ อรุณศรีเห็นแล้วก็แอบอมยิ้ม เบญลี่เดินพุ่งเข้ามารีบรายงาน
“คุณกริชคะ ตอนนี้ผู้จัดการโรงแรมรออยู่ที่ห้องประชุมแล้วค่ะ คุณกริชต้องการให้ทางโรงแรมจัดการอะไรบอกได้เลยค่ะ ทางนี้ยินดีซัพพอร์ทเราทุกอย่าง อ้อ เบญลี่ชวนแอ๊วมาช่วยงานนี้ด้วยนะคะ”
“ดีครับ ผมก็อยากให้มาช่วยอยู่พอดี”
กริชชัยหันมาทางอรุณศรีแล้วกล่าวชม
“เมื่อคืนคุณทำได้ดีมาก”
“ขอบคุณค่ะ” อรุณศรียิ้มรับ
กริชชัยมองหน้าอรุณศรีแล้วพูดอะไรไม่ออก อรุณศรีอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมกริชชัยมองเธอนานจัง จังหวะนั้นเบญลี่พูดแทรกขึ้น
“ราไปประชุมกันเลยดีมั้ยคะ”
“เอ่อ...ครับ”
กริชชัยถอนสายตาจากอรุณศรีและเดินตามเบญลี่ไปที่ห้องประชุม อรุณศรีโล่งอกหายจากความอึดอัดที่กริชชัยมองเธอ และเดินตามทั้งคู่ไป

พลันสายตาดันไปสะดุดกับสายตาของธีธัชที่แอบมองอยู่ อรุณศรีถึงกับชะงักเล็กน้อย แต่เมื่ออรุณศรีสบสายตาเข้า ธีธัชกลับแกล้งทำเป็นหยิบหนังสือแถวนั้นมาอ่านกลบเกลื่อนในทันที
อรุณศรีขมวดคิ้วนิดๆ รู้สึกแปลกๆ แต่ก็รีบเดินตามเบญลี่ไป ธีธัชค่อยๆ ลดหนังสือลงแล้วก็ส่ายหน้า ในความไม่ได้ดั่งใจของเพื่อน

คุ้กกี้ในมือสีรุ้งหล่นกระทบชุดน้ำชาราคาแพง เมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากของลูกสาว
“แหนมพูดว่าอะไรนะลูก”
“แหนมจะแต่งงานกับวัชค่ะแม่” เนตรนภัสตอบเสียงดังฟังชัด
“แม่เห็นแหนมยังไปกับคนโน้นที คนนี้ที สับรางกันให้วุ่นไปหมด แม่ว่า..ไหนๆ แหนมยังเลือกได้ ลองเลือกดูอีกสักพักมั้ยลูก” สีรุ้งไม่มั่นใจในความรักของเนตรนภัส ผู้เป็นลูกสาวนัก
“ถึงแหนมจะคบหลายคน แต่คนที่แหนมไปไหนมาไหนมากที่สุดก็คือวัช แหนมชอบเค้ามากที่สุด แหนมจะแต่งกับเค้าค่ะ”
“แล้วเค้ารู้ตัวหรือยัง? เค้าอยากจะแต่งกับเราหรือเปล่า”
“ต้องอยากสิคะแม่ แหนมกับวัชทดลองอยู่กันมาพักนึงแล้วนะคะ”
สีรุ้งทรุดหลังพิงกับเก้าอี้ แทบเป็นลมทั้งที่นั่งอยู่
“ตายแล้ว ลูกสาวฉัน”
“ถึงวัชจะไม่รวย แต่ตอนนี้ก็เป็นร้อยตำรวจเอก อีกหน่อยก็สารวัตร แล้วก็ผู้กำกับ จากนั้นก็นายพล ตำรวจตงฉินไม่โกงไม่กิน พอเริ่มมีบารมี แหนมจะให้ลาออก มาเล่นการเมือง เลือกพรรคดีๆก็ได้เป็นรัฐบาล อยู่ไปนานๆ แหนมก็จะได้เป็นคุณหญิง” เนตรนภัสพูดต่อ
สีรุ้งฟังเนตรนภัสแล้วเริ่มเครียดในทันที
“บงการชีวิตเค้าแบบนี้ มันจะดีเหรอลูก ชีวิตคู่มันต้องเดินไปด้วยกันถึงจะถูก”
“แต่วัชเค้าไม่ใช่คนฉลาดขนาดจะคิดเองได้นะคะแม่ ถ้าเค้าไม่ได้เมียอย่างแหนมไม่มีทางเจริญหรอกค่ะ” สีรุ้งมือทาบที่หน้าอกจะเป็นลมอีกรอบ
“เค้าต้องดีใจที่แหนมอยากแต่งงานด้วย”
“และคุณแม่จะต้องบังคับให้เค้าแต่งงานกับแหนมให้ได้”
“หะ? แม่เนี่ยนะ”
สีรุ้งไม่คาดคิดว่า นอกจากเนตรนภัสจะบงการชีวิตของว่าที่สามีแล้ว ยังบังคับเพื่อให้เธอสมรู้ร่วมคิดที่จะเอาวัชระมาเป็นลูกเขยอีก

วัชระยังนอนหลับอยู่ที่โซฟาล็อบบี้โรงแรม หลับสนิทอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่า ความบรรลัยกำลังจะมาเยือนชีวิต ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างๆก็สั่นมีสายเรียกเข้า เป็นเบอร์พิเศษ
วัชระยังคงหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว เสียงเรียกเข้ายังสั่นอยู่ต่อไป

ที่แท้เป็นสุพรรณิการ์โทร.เข้ามา และกดวางสายด้วยความหงุดหงิด แล้วหันมามองนามบัตรของวัชระอย่างฉุนๆ
“ไงยะ คุณตำรวจ ไหนบอกว่าโทร.หาได้ตลอดเวลา ไม่หนี!! โทร.ไปทำไมไม่รับ !!”
สุพรรณิการ์วางนามบัตรลงบนโต๊ะอย่างแรง
“โอ้ย เจ็บมือ”
สุพรรณิการ์หงุดหงิด กระแทกตัวนั่งลงบนโซฟา
และเมื่อสุพรรณิการ์นึกถึงวันที่รถของเธอประสบอุบัติเหตุก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเป็นสองเท่า
“อีตาตำรวจบ้า ทำให้ฉันต้องเจ็บตัว คอยดูนะ ถ้าตามตัวเจอเมื่อไหร่ เจอชุดใหญ่แน่”
สุพรรณิการ์กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความไม่พอใจ

กริชชัยยืนมองจากหน้าต่างในห้องประชุมออกไปเห็นวิวข้างนอก คนอื่นๆ นั่งฟังอย่างตั้งใจ
“เดือนหน้าผมจะจัดทริปพิเศษพาลูกค้าวีไอพีมาลองรถใหม่ เมื่อเช้าผมลองเส้นทางจากกรุงเทพมาที่นี่แล้วพอใจมาก เราจะใช้เส้นทางนี้ และให้ลูกค้ามาพักที่นี่หนึ่งคืน ลูกค้าของเราชุดนี้เป็นระดับวีไอพี ผมขอการต้อนรับที่ดีที่สุดในทุกๆด้าน”
“ทางโรงแรมยินดีอำนวยความสะดวกทุกอย่างครับ”
“ขอบคุณครับ”
“ส่วนเรื่องกิจกรรมสันทนาการตอนกลางคืน คุณอรุณศรีจะเป็นฝ่ายประสานงานกับทางโรงแรมนะคะ” เบญลี่กล่าว
อรุณศรียิ้มให้ พนักงานคนอื่นๆ ยิ้มรับ
“หลังจากประชุมแล้ว แอ๊วจะขอสำรวจรอบโรงแรม ดูว่าเราจะทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง” อรุณศรีบอก
“ผมไปด้วย” กริชชัยพูดแทรกขึ้นด้วยความลืมตัว
ทุกคนหันมาทางกริชชัย กริชชัยชะงักนิดๆ มองทุกคนที่มองมาแล้วก็เขินๆ แต่พยายามเก๊กไว้
“คือ..ผมก็อยากสำรวจรอบๆโรงแรมอยู่พอดี จะได้ไปพร้อมกันทีเดียว”
“งั้นเบญลี่ไปด้วยนะคะ เผื่อคุณกริชต้องการอะไรจะได้คอยจดไว้ให้”
“เดี๋ยวให้อรุณศรีจดแทน ผม..ไปกับอรุณศรีแค่สองคนได้..ไม่เป็นไร”
“โอเคค่ะ งั้นถ้ามีอะไรแอ๊วจดแทนพี่หน่อยนะจ้ะ” เบญลี่บอก
“ค่ะ”
อรุณศรีตอบออกไปทั้งที่ใจจริงแล้ว ค่อนข้างจะอึดอัดใจ

กริชชัยมองอรุณศรีด้วยความพอใจ แล้วค่อยๆ หันหลังให้คนที่ประชุมทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่าง พอ
แน่ใจว่าพ้นสายตาคนอื่น กริชชัยค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น

ภายในบ้านลำเภา ประตูห้องนอนของกริชชัยถูกเปิดออก ลำเภาเดินนำเข้ามา ป้าเจียมเดินตามมาพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาด
“คุณกริชเริ่มมานอนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เดี๋ยวป้าเจียมก็เริ่มทำความสะอาดห้องให้คุณกริชตามที่ฉันบอกนะ เสื้อผ้าก็เก็บไปซักแล้วมาวางไว้เหมือนเดิม”
“ค่ะ” ป้าเจียมรับคำ และเดินแยกไปทำความสะอาด
ลำเภามองไปรอบๆห้อง เธอสะดุดสายตาเข้ากับรูปถ่ายของกริชชัยกับวัชระ และธีธัช ลำเภาขยับแว่นแล้วเพ่งดูใกล้ๆ
“นี่มันอีตาหมาใหญ่ใจเสาะที่มุดรั้วเข้ามาเมื่อเช้านี่นา”
ลำเภามองอย่างพิจารณา
“หน้าตาปกติก็ดูไม่เลวเหมือนกันนะเนี่ย แต่ใจเสาะเป็นบ้า ไม่รู้ป่านนี้ช็อคตายไปหรือยัง?”
ลำเภาละสายตาจากหน้าธีธัช กำลังจะหันเดินกลับออกไป แล้วก็หยุดชะงักกึก หันมามองเฟรมวาดรูปที่วางอยู่ข้างๆ ลำเภาค่อยๆ หันมาเพ่งมองรูปที่วางอยู่บนขาตั้งด้วยความแปลกใจ
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”
ลำเภานิ่ง ครุ่นคิดด้วยความอยากรู้

อรุณศรีเดินออกมาจากโรงแรมมาหยุดยืนอยู่มุมหนึ่งที่ร่มรื่น พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความสดชื่นโดยลืมไปว่า กริชชัยยืนอยู่ข้างๆ
“สดชื่นจังเลย”
กริชชัยเดินตามเข้ามาใกล้แล้วก็มองอรุณศรี เธอรีบเก็บอาการ
อรุณศรีรีบก้มหน้าทำเป็นหยิบแฟ้มงานมาจด
กริชชัยปรายตามามองอย่างรู้ทัน
“จดอะไร?”
อรุณศรี ชะงักและตอบด้วยไหวพริบ
“ก็..จดว่า..อากาศดีไงคะ ตอนนี้เกือบเที่ยง แต่ก็ยังไม่ร้อนมาก และบริเวณนี้ก็มีร่มไม้ อาจจะทำเป็นซุ้มเล็กๆ มีบาร์บีคิวมื้อกลางวัน”
กริชชัยพยักหน้ารับ
“อืมม์..น่าสนใจ ผมจะรับไว้พิจารณา”
“ขอบคุณค่ะ” อรุณศรีหันหลังให้กริชชัย พร้อมกับถอนหายใจโล่งอก
อรุณศรีเดินนำไปสำรวจต่อ กริชชัยอมยิ้มแล้วก็เดินสำรวจตาม อย่างมีความสุข

ในขณะที่อรุณศรีเดินไปตามมุมต่างๆ ของโรงแรม โดยมีกริชชัยเดินตาม อรุณศรีต้องทำเป็นจดโน่นนี่ด้วยความแข็งขันตลอดเวลา กริชชัยคอยปรายๆตาสังเกตว่าจดอะไร อรุณศรีคอยแอบๆจดไม่ให้กริชชัยเห็น เพราะอรุณศรีรู้สึกเหมือนโดนกริชชัยจับผิด

ธีธัชแอบมองอยู่ทั้งคู่อยู่ เมื่ออรุณศรีปรายตาไปเห็น พออรุณศรีหันไปมอง ธีธัชก็หลบสายตาในทันที อรุณศรีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
อรุณศรีและกริชชัยสำรวจโรงแรมอีกมุมหนึ่ง เป็นมุมสวยริมน้ำ อรุณศรีหันไปเห็นธีธัชแอบมองอยู่อีก อรุณศรีเริ่มไม่ไว้วางใจ
พออรุณศรีกับกริชชัยเดินมาอีกมุม อรุณศรีหันขวับไป ธีธัชยังยืนมองอยู่อีก ถึงจะทำเป็นชมนกชมไม้ แต่ก็ผิดสังเกต อรุณศรีคิดหนัก

อรุณศรีเดินนำมาอีกมุม กริชชัยยืนอยู่ไม่ห่าง อรุณศรีหันขวับไป ธีธัชหลบวูบแทบไม่ทัน กริชชัยเริ่มสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“ เอ่อ...ขอพูดพูดตรงๆนะคะ ฉันน่ะไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่ฉันว่าเพื่อนคุณมีแน่”
“เพื่อนผม?”
อรุณศรีเสียงเบาราวกระซิบ
“คุณธีธัช ฉัน..ว่าเค้าไม่พอใจที่ฉันอยู่ใกล้คุณมากเกินไป”
กริชชัยเลิกคิ้ว
“หะ?”
อรุณศรีทำเป็นหันหลังให้ธีธัช แล้วพูดกับกริชชัย
“คุณอย่าเพิ่งหันตอนนี้นะ รอให้ฉันพูดจบแล้วค่อยๆหันไปทางล็อบบี้ เพื่อนคุณแอบมองเราอยู่ แล้วเค้าก็แอบมองตลอดเวลาที่คุณเดินสำรวจพื้นที่กับฉัน”
กริชชัยขมวดคิ้ว แล้วค่อยๆ หันไปตามที่อรุณศรีบอก กริชชัยเห็นธีธัชยืนอยู่ที่หน้าต่างล็อบบี้จริงๆ ด้วย ธีธัชทำเป็นอ่านหนังสือ กริชชัยเม้มปาก
อรุณศรีพูดต่อทั้งที่กริชชัยหันหลังอยู่
“ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ฉันกลัวว่าเพื่อนคุณจะเข้าใจผิด คือ.. ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนะคะ ตรงๆ เลยแล้วกัน ฉันไม่อยากโดนตบ”
กริชชัยหันขวับมามาทันที
“โดนตบ?”
“ก็พวกคุณรักแรง หึงแรงนี่คะ”
กริชชัยออกจะงงกับคำพูดคำจาของอรุณศรี
“เอ่อ...ฉันรู้ว่าไม่สมควรพูด เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่ฉันก็ต้องปกป้องตัวเองไว้ก่อน แฟนคุณ ..” กริชชัยผงะร้องเสียงหลง “เฮ้ย!”
“เค้าคงไม่พอใจ... ฉันไม่อยากมีปัญหาน่ะค่ะ เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่ชวนเค้ามาสำรวจด้วยกัน คุณก็ปล่อยฉันสำรวจคนเดียวดีกว่านะคะ”
กริชชัยอึ้งไป หลังพูดจบ อรุณศรีค่อยๆ เดินเลี่ยงไป ทิ้งให้กริชชัยยืนเคืองอยู่ที่เดิม กริชชัยค่อยๆ หันมาทางธีธัช

“ไอ้ธี!!”

กริชชัยคำรามในลำคอ
จบตอน 2
อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 2/3
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์