หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 4

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 4
อิทธิรวบตัวกอดรุ้งระวีไว้ พลางยิ้มหยันออกมา

“อย่าหวงตัวนักเลยน่า ฝรั่งอย่างเธอน่ะ อย่าบอกนะว่าไม่เคยผ่านเรื่อง อย่างนี้มาแล้ว ใช่ไหม เสียตัวตั้งแต่ไฮสกุลกันแล้วทั้งนั้น”
รุ้งระวีหยุดดิ้น อิทธิถอนหน้าจากอกของเธอ แล้วยิ้มย่ามใจเห็นว่าสิ้นฤทธิ์
“เป็นของฉันเถอะนะรุ้ง รับรองรางวัลที่เธอจะได้มันคุ้มค่าเกินราคา”

“คุณจะไม่ทำกับฉัน เหมือนที่ทำกับจุ๊บแจงนะ ได้แล้วทิ้ง”
“อ้อ...ห่วงเรื่องนี้นี่เอง จุ๊บแจงน่ะ แค่นางบำเรอ ส่วนเธอ ฉันจะจดทะเบียนแต่งงาน”
“แล้วส่วนแบ่งรายได้”
อิทธิมองยิ้มๆ
“หัวหมอนะเนี่ย แยกสินสมรสก่อนแต่ง พอใจไหม”
รุ้งระวียิ้มยั่ว พอเขาขยับตัวออก เธอก็ปล่อยเสื้อที่ขาดให้เห็นเนินอก อิทธิมองตาเป็นมัน
“ถ้าตกลงกันได้แบบนี้ รุ้งก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ดื่มหน่อยดีกว่าค่ะ จะได้สร้าง บรรยากาศ”
“ได้”
อิทธิลุกไปที่มินิบาร์หยิบเครื่องดื่มออกมา รุ้งระวีเหลือบมองไปทางประตู

อินทรขับรถมาจอดรออยู่หน้าบริษัทอิทธิ ทูนอินทร์ชะเง้อมองอยู่ในรถหาวหวอด
“พี่ครับ...ยังจะตื๊อไม่เลิกเหรอครับ พี่เมธโทรหาอยู่เนี่ย ว่าคืนนี้จะไปนอนบ้านแกตอนกี่ทุ่ม”
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นละ ไม่ได้ ฉันต้องแก้ตัวกับรุ้งก่อนว่าฉันไม่ใช่โรคจิต...เฮ้ยนั่น เจ๊จี่หอยออกมาแล้ว”
ทูนอินทร์รีบลงจากรถ วิ่งไปดักหน้าทางเข้า จี่หอยและมะปรางออกมา
“จ๊ะเอ๊”
จี่หอยตกใจ ออกแมน
“ไอ้ห้าร้อยเดี๋ยวปั๊ดถีบ...อุ๊ย นายอีกแล้ว ตกใจหมดตามมาทำไมอีก นายโรคจิต จะเอาถุงยางมาแจกอีกเหรอ”
“ถ้ายังเข้าใจว่าผมเป็นโรคจิต ผมก็ยังตื๊ออยู่อย่างเนี้ย ผมอยากเจอรุ้งอีกที รุ้งไม่อยู่หรือครับ”
“ไม่อยู่แล้ว...คืนนี้เขาไปนอนคฤหาสน์ของคุณอิทธิ”
ทูนอินทร์ตกใจ
“หา...ไปนอนบ้านนายอิทธิ”

อิทธิเดินกลับมาส่งแก้วเครื่องดื่มให้ รุ้งระวีรับมาแล้วสาดเหล้าเข้าเต็มหน้าอิทธิ แล้ววิ่งทะยานไปที่ประตู รุ้งระวีกระชากประตูแต่เปิดไม่ออก อิทธิหัวเราะ
“ฉันล็อคไว้แล้ว เปิดไม่ออกหรอก แล้วก็ไม่ต้องร้องด้วยนะ เพราะไม่มีใครได้ยินเธอแน่ๆ”
“อย่าเข้ามานะ ถ้าทำอะไรฉัน ฉันจะกลับอเมริกา ฉันไม่สนหรอกเรื่องเป็นนักร้องค่ายคุณน่ะ”
“แต่เธอเซ็นสัญญากับฉันแล้ว ถ้าเธอเลิก ฉันจะฟ้องเธอให้หมดตัว แล้วจะแฉด้วยว่าเธอโกหกประวัติตัวเองทั้งหมดเอามาหลอกฉัน เอาซี้...ถ้ากล้านัก”
รุ้งระวียืนพิงประตู เริ่มวิงเวียน ภาพอิทธิที่เดินเข้ามาเริ่มพร่ามัว
“ฉันเป็นอะไร นี่....คุณวางยาฉันใช่ไหม”
อิทธิยิ้มเยาะ
“น้ำส้มที่เธอกินไปไง...มันออกฤทธิ์ช้าจริง ๆ”
รุ้งระวีเซจะล้ม อิทธิเข้ามาประคอง แล้วลูบไล้ไปทั่วร่าง รุ้งระวีตัดสินใจหยิบแจกันที่อยู่โต๊ะใกล้ๆ ฟาดโครมที่หัวอิทธิ
“โอ๊ย”
อิทธิล้มลง รุ้งระวีเซไปที่เตียง หยิบมือถือ แล้วโผเผเข้าห้องน้ำ อิทธิคลำหัว มีเลือดซึม ๆ ถลันไปที่ประตู รุ้งระวีล็อคไว้ทันที แล้วนั่งพิงประตูไว้ อิทธิโมโห
“รุ้ง เปิดประตู อย่าต้องให้ใช้กำลังนะ เปิด”
รุ้งระวี ร้องไห้ มองมือถือ พยายามกดแต่ภาพมือถือพร่ามัวไปหมด

ทูนอินทร์ยังต่อว่าจี่หอย
“เจ๊ปล่อยให้รุ้งไปนอนค้าง บ้านนายอิทธิได้ยังไงสองต่อสอง”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง คุณอิทธิเขาสั่งมา”
“แล้วถ้าเขาล่วงเกินรุ้ง”
“เขาปล้ำไปแล้ววันนั้น คงไม่ทำซ้ำหรอก...อุ๊ย” จี่หอยนึกได้รีบปิดปากตัวเอง
ทูนอินทร์ตะลึง
“อะไรนะ...เคยปล้ำมาแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ...เคยปล้ำมาแล้วครั้งนึง ดีที่พวกเราอยู่ด้วย” มะปรางบอก
ทันใดนั้นมือถือจี่หอยดังขึ้น
“รุ้งโทรมาแล้ว ว่าไงรุ้ง”
รุ้งระวีที่ร้องไห้ เสียงอิทธิทุบประตูยังดังต่อเนื่อง
“พี่หอย...ช่วยรุ้งด้วย”
จี่หอยตกใจ
“รุ้ง...รุ้งเป็นอะไร แล้วเสียงอะไรลั่นเลย”
“นายอิทธิปล้ำรุ้ง ช่วยด้วยพี่ มารับรุ้งที”
รุ้งระวีพูดได้เท่านั้น ก็ทำมือถือตก เธอพยายามจะลุก แต่แล้วก็ล้มไปอีก
“รุ้ง...รุ้ง พูดซีรุ้ง”
ทูนอินทร์ร้อนใจ
“เกิดอะไรขึ้นเจ๊”
จี่หอยจะร้องไห้
“นาย อิทธิกำลังปล้ำรุ้งน่ะ ทำไงดี เสียงเงียบไปเลย”
“พาผมไปบ้านนายอิทธิเดี๋ยวนี้”
ทูนอินทร์จะพาจี่หอยขึ้นรถ อินทรยึดไว้
“เดี๋ยวพี่...ตั้งสติก่อน จะบุกเข้าไปบ้านคนไม่ใช่เรื่องง่ายนะ เดี๋ยวโดนข้อหาบุกรุก”
“แต่ยังไงก็ต้องช่วยรุ้ง”
ขณะเดียวกัน จวงใจขับรถออกมาจากลานจอดรถ โดยจุ๊บแจงนั่งอยู่ข้างๆ บีบแตรลั่น อินทรรีบบอกพี่ชาย
“พี่...หลบก่อน ยายจวงมา”
อินทรดึงทูนอินทร์หลบไปหลังเงามืด จวงใจโผล่หน้าออกมาจากรถ
“เกะกะ ถอยไปนังขี้ข้าฝรั่ง ไม่งั้นชนนะโว้ย”
จี่หอยหลบ จวงใจมองหยัน
“ไง...คืนนี้นังฝรั่งมันหายหัวไปไหนล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของแก นังขี้ข้าคนไทย”
“นังฝรั่งมันออกเที่ยวละซี้ ดูหน้าก็รู้แล้ว เด็กใจแตกชัดๆ”
จวงใจและ จุ๊บแจง หัวเราะเยาะ จวงใจแล่นรถออกไป ทูนอินทร์และอินทรออกมา ทูนอินทร์มองตามรถไป แล้วคิดไรบางอย่างได้
“เจ๊หอย...รู้แล้วว่าจะทำยังไง โทรหายาย จุ๊บแจง เดี๋ยวนี้เลย แล้วพูดตามที่ผมบอก”
ทุกคนงง แต่จี่หอยรีบโทร

จุ๊บแจง รับสายขณะรถกำลังแล่นไป
“มีอะไร...เจ๊หอย”
จี่หอยพูดสาย โดยมีทูนอินทร์ อินทร มะปรางฟังอยู่
“นี่...แกจอดรถก่อนเถอะ แล้วถอยมารับฉันเดี๋ยวนี้”
“มันเรื่องอะไรฉันต้องไปรับเจ๊”
จวงใจสงสัย
“สงสัยไม่ใช่เหรอว่ารุ้งไปไหน จะบอกให้เอาบุญ คืนนี้รุ้งไปนอนบ้านคุณอิทธิ”
จุ๊บแจงตกใจ
“อะไรนะ ไปนอนบ้านคุณอิทธิ”
“ช่าย...เหมือนที่เขาเคยพาแกไปไง พรุ่งนี้แกตกอันดับเมียน้อยแล้ว ยายจุ๊บแจงเอ๋ย”
จุ๊บแจงปี๊ดขึ้นทันที
“พี่จวง หยุดรถ”
จวงใจเบรกรถจนหน้าคะมำรถหยุดจอดในทันที แล้วรถถอยกรูดกลับไปที่หน้าบริษัท...มะปรางมองอย่างดีใจ
“ได้ผลค่ะ เจ๊จวงถอยรถกลับมาแล้ว แล้วพวกคุณไม่หลบก่อนเหรอ”
อินทรนึกได้
“เออ...จริง หลบพี่”
ทูนอินทร์หันไปกำชับ จี่หอย
“ทำตามที่บอกทุกอย่างนะ”
“โอเคค่ะ”
ทูนอินทร์กับอินทรแยกไปที่รถ จวงใจถอยรถมาถึง
“ขึ้นรถเลยนังหอย”
จี่หอยและมะปรางขึ้นรถทันที จวงใจขับรถออกไป ทูนอินทร์และอินทรขับตาม

อิทธิกระแทกประตูห้องน้ำเข้าไป พบว่ารุ้งระวีนอนสลบอยู่ที่พื้นห้องน้ำ เขาอุ้มร่างเธอมา แล้วพามาที่เตียงหย่อนลง
“ฉันลงทุนกับเธอไปเยอะแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องขอคืนทุนบ้าง”
อิทธิกระชากเสื้อที่เหลือของเธอขาดติดมือ ร่างรุ้งระวีเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่เบื้องหน้า อิทธิมองแล้วเริ่มปลดกางเกง

เมื่ออยู่ในรถ จี่หอยใส่ไฟเต็มที่ จวงใจขับรถอย่างเร็ว
“งานนี้แกมาช่วยฉันทำไม นังหอย”
“ฉันถือว่าฉันช่วยรุ้ง เพราะรุ้งโดนปล้ำ ไม่ได้เต็มใจสักนิด”
จุ๊บแจงเหยียดปากดูถูก
“รู้ได้ยังไงว่ามันไม่ได้เต็มใจ”
“รุ้งเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้เอง ร้องไห้ใหญ่เลย”
จุ๊บแจงร้อนใจ
“พี่จวง ขับเร็วๆ”
จวงใจหน้าเครียด
“ไม่ได้การแล้ว แจง โทรหานักข่าวเลย งานนี้ต้องเป็นเรื่อง”
จุ๊บแจงหน้าเหวอ
“นักข่าวเลยเหรอพี่ เดี๋ยวคุณอิทธิจะ...”
“เธออยากตกอันดับเมียรึเปล่าล่ะ ถ้าอยากก็ไม่ต้องโทร”
“โทรเดี๋ยวนี้ละ”
จุ๊บแจงหยิบมือถือมาจะโทร จี่หอยมองหน้ามะปรางแล้วนึกแผนขึ้นได้
“ยายแจง...ไม่ต้องโทรหรอก ฉันมีนักข่าวของฉันเหมือนกัน ฉันโทรให้”
จุ๊บแจงยิ้มดีใจ
“ดีเลยเจ๊หอย เรื่องนักข่าวฉันไม่รับรู้อะไรด้วยนะ”
จี่หอยกดมือถือทันที
“คุณเคนเหรอคะ นี่พี่จี่หอยนะ มีเรื่องด่วน รีบมาที่บ้านคุณอิทธิเลยข่าวใหญ่มาก ลาดพร้าวร้อยหนึ่ง บ้านเลขที่ตามนี้นะ”
มะปรางอมยิ้ม ขณะที่ฟังจี่หอยพูด

อินทรขับรถตามมาห่างๆ ทูนอินทร์กำลังพูดสายกับจี่หอย
“ได้ครับ พี่จี่หอย”
ทูนอินทร์กดเลิกสาย อินทรถามทันที
“อะไรน่ะพี่”
“เจ๊หอยฉลาดมาก ให้เราไปร่วมทีมด้วย ในสภาพนักข่าว”
“ปลอมตัวกันอีกแล้วเหรอพี่”
“เออว่ะ...เร่งเครื่องเลย รู้จักบ้านแล้ว”
ทูนอินทร์หยิบอุปกรณ์แปลงโฉมจากคอนโซลหน้ารถ ทั้งวิกผมและหนวด

รุ้งระวีนอนสลบเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง อิทธิอยู่ในชุดเสื้อคลุมกำลังลูบไล้กลางหลังของเธอ จิบเครื่องดื่มไปด้วย ดึงผ้าคลุมร่างให้หลุดจากร่างของเธอ อิทธิมองร่างเปลือยอย่างพึงใจทันใดนั้นเสียงเอะอะดังมาจากหน้าบ้าน อิทธิรีบตรงไปที่หน้าต่าง มองลงไป เห็นจวงใจกับจุ๊บแจง ลงจากรถยามวิ่งตามมา อิทธิโมโห
“นังบ้าเอ๊ย”
จี่หอยและมะปรางตามลงมา ทูนอินทร์และอินทรขับรถตามเข้ามา ลงจากรถทั้งสองอยู่ในชุดนักข่าวชุดใหม่ ใส่ทั้งวิกทั้งหมวกปิดหน้าและหนวด จนจำไม่ได้ อินทรถือกล้องมาด้วย วิ่งตามมาติดๆ ยามพยายามห้าม
“คุณจุ๊บแจง ผมขอละครับ นายไม่ให้ใครรบกวน”
จุ๊บแจงหันไปแว๊ดใส่
“ไม่ต้องมายุ่งนะ นี่บ้านฉันเหมือนกัน ลองไม่ให้ฉันเข้าไปซี เป็นเรื่อง”
ยามไม่กล้าทำอะไร จวงใจหันมาหา ทูนอินทร์เข้าไปเลยค่ะนักข่าว
“ครับผม”
จุ๊บแจงนำเข้าไป ทูนอินทร์ และอินทรรีบตาม ยามตามไปอีกคน จี่หอยจะตามไป จวงใจดึงไว้
“นักข่าวจากที่ไหนเนี่ย ดูคุ้นๆ”
“ช่องมหาบันเทิงของเฮียจั๊ว เคเบิ้ลน่ะ”
จี่หอยกับมะปรางเข้าไป จวงใจยังติดใจเล็กๆ ก่อนตามเข้าไป

อิทธิ รีบกลับมาที่เตียงเอาผ้าคลุมร่างของรุ้งระวี เสียงทุบประตูลั่น พร้อมกับเสียงจุ๊บแจง ดังเข้ามา
“คุณอิทธิ...เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ คุณ อิทธิ”
อิทธิมาเปิดประตู ทูนอินทร์กระแทกเข้ามาทันที อิทธิตกใจ
“เฮ้ย”
อิทธิเซไป อินทรถ่ายกล้องไว้ทันที แล้วแพนสวิงไปที่เตียง อิทธิรีบห้าม
“เฮ้ย...อย่าถ่าย เอากล้องมานี่”
ทูนอินทร์ชกโครม อิทธิกระเด็นล้มไปที่พื้น ทูนอินทร์วิ่งไปที่เตียง ดูอาการรุ้งระวีที่หมดสติ จี่หอย จวงใจ มะปราง ยาม ตามเข้ามา จุ๊บแจงตะโกนสั่ง
“ถ่ายไปให้หมดเลย”
อิทธิโมโห
“นังบ้า...นี่แกทำอะไรของแก”
“ก็ทำหน้าที่คนเป็นเมียน่ะซี อย่าหวังเลยว่าจะเอานังฝรั่งมาแทนแจงได้”
อิทธิโกรธมาก
“ออกไปนะ พวกแกมีสิทธิ์อะไรบุกเข้ามาในบ้านฉัน...ออกไป”
ทูนอินทร์หันมาหาอิทธิ แล้วพูดสำเนียงอีสาน
“คุณรุ้งหมดสติแบบนี้ คุณวางยาเธอใช่ไหม”
“ไม่ใช่เรื่องของแก ไอ้ยาม มึงโทรเรียก รปภ หมู่บ้านมาซีวะ”
“ไม่ต้องหรอก เรียกตำรวจเลยดีกว่า จะได้ตั้งข้อหาคุณด้วยเลย วางยากักขังหน่วงเหนี่ยว ล่วงเกินทางเพศ”
อิทธิตกใจ
“เฮ้ย...อย่านะ นี่....นี่พวกแกร่วมมือกันทั้งหมดเลยเหรอวะ นังจวง นังหอย”
จุ๊บแจงสะใจ
“ใช่...เราร่วมมือกันทั้งหมดเนี่ยแหละ”
จี่หอยเข้าไปหาอิทธิ
“คุณอิทขา หอยว่าพารุ้งไปก่อนดีกว่าค่ะ ก่อนจะเป็นเรื่องมากกว่านี้”
ทูนอินทร์อุ้มรุ้งระวีขึ้น
“พารุ้งไปไม่ได้นะ”
อิทธิ จะเข้าหาทูนอินทร์ อินทรเข้ามาขวาง กำหมัดพร้อมชกทันที
“เข้ามาโดนอีกหมัดแน่”
อิทธิเบรค ไม่กล้าสู้
“ปล่อยรุ้ง...รุ้งเป็นเมียฉัน”
จุ๊บแจงกรี๊ด เข้ามาทุบหลังอิทธิ
“เมียเหรอ แล้วฉันล่ะ คุณมันเลวสุดๆ”
จุ๊บแจง ตบตี พัลวัน อิทธิร้องลั่น
“โอ๊ย...นังแจง พอ...ยามช่วยด้วยโว้ย”
ยามเข้ามาช่วยห้าม จวงใจเข้ามาเอากระเป๋าฟาดยาม
“ไม่ต้องช่วยเลยนะแก”
ทั้งสี่วุ่นวายกันอยู่ในห้อง ทูนอินทร์หันไปบอก อินทร จี่หอย มะปราง ให้รีบออกจากห้อง
“เผ่นเร็ว”

ทูนอินทร์วางร่างรุ้งระวีในรถ อินทรกระโดดขึ้นรถ ทูนอินทร์หันไปบอกจี่หอย
“ไปครับ”
จี่หอยงงๆ
“ไปไหนล่ะ”
“ไปบ้านผมก่อน”
จี่หอยและมะปรางขึ้นรถไป เสียงทะเลาะตบตีในบ้านยังดังลั่น อินทรเคลื่อนรถออกไป

จุ๊บแจงยังตบตีอิทธิไม่เลิก ยามเข้ามากันร่างของจวงใจ กลายเป็นสองคู่ที่นัวเนียกันอยู่
“อยากได้มันเป็นเมีย ก็ข้ามศพแจงไปก่อน”
“อ้อ...อยากเป็นศพนักใช่ไหม ได้...จัดให้”
อิทธิตบหน้า จุ๊บแจงร้องกรี๊ดกระเด็นล้มไปบนเตียง จวงใจเข้ามาหาอิทธิ
“คุณ อิทธิ...แจงเป็นเมียคุณ เป็นนักร้องตัวขายของบริษัทคุณ ทำอย่างนี้ได้ยังไง”
อิทธิมองหยัน
“ตัวขายเหรอ ดี...ฉันจะขายมันทิ้ง แล้วสำหรับแก ฉันถือว่าเป็นของเก่า ฉันจะขายเลหลังถูก ๆ แบบนี้”
อิทธิเงื้อมือจะตบ จวงใจยื่นหน้าให้
“จะตบเหรอ...กล้าเหรอ...กล้าเหรอ”
อิทธิชะงัก แล้วชกโครมเต็มหน้า จวงใจกระเด็นหวือไปนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงข้างจุ๊บแจง อิทธิหันไปสั่งยาม
“คุมอีสองคนนี่ไว้”
“ครับ”
อิทธิวิ่งออกจากห้อง จวงใจและจุ๊บแจงร้องไห้ลั่น กอดกันกลม
“มันตบน้อง...โฮ”
“มันชกพี่...โฮ”
ทั้งสองกอดกัน ร้องไห้ อิทธิวิ่งมาหน้าบ้าน แต่รถของทูนอินทร์แล่นออกไปไกลแล้ว
“รุ้ง...รุ้ง” อิทธิแค้นจัด “สมรู้ร่วมคิดกันดีนัก จะไล่มันออกทุกคนเลย”

อินทรขับรถมาจอดที่บ้านเมธ ทูนอินทร์อุ้มรุ้งระวีลงจากรถ เมธช่วยพาเข้าบ้าน จี่หอย มะปรางตามเข้ามา ทูนอินทร์วางรุ้งระวีลงที่โซฟากลางห้อง เมธมองอย่างรันทดใจ
“นี่ถึงขั้นวางยากันเลยเหรอ”
จี่หอยหน้าเศร้าสลด
“ไม่คิดเหมือนกันค่ะ ว่าคุณอิทธิเธอจะทำถึงขนาดนี้”
“ไอ้นี่ท่าทางจะบ้ากามน่ะพี่...อ้อ พี่เมธ...นี่พี่หอยกับมะปราง คนดูแลรุ้ง” ทูนอินทร์แนะนำ
จี่หอยกับมะปรางยกมือไหว้ เมธรับไหว้
“สวัสดีครับ งั้นหนูสองคนอยู่ที่นี่เลย ห้องพักด้านโน้น ตามสบายนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ขณะเดียวกันนั้น รุ้งระวีครางออกมาเบาๆ มีอาการตื่นกลัวตัวสั่น ทุกคนหันมามอง ทูนอินทร์มองอย่างสงสาร

เช้าวันรุ่งขึ้น...รุ้งระวีลืมตาตื่นขึ้นพบว่านอนอยู่ลำพังคนเดียวในห้อง เธอสะดุ้งมองไปรอบ ๆ อย่างงุนงง ดูเสื้อผ้าตัวเองเป็นชุดนอน รุ้งระวีลุกจากเตียง ใส่เสื้อคลุมแล้วออกจากห้องมาที่โถงกลาง ที่ไร้ผู้คน ได้ยินเสียงคนร้องเพลงเบาๆ ดังมาจากห้องด้านใน
รุ้งระวีเดินเข้ามาในห้อง เห็นทูนอินทร์อยู่ในชุดเสื้อคลุมนอน กำลังพรมนิ้วบนคีย์เปียโน ร้องเพลงรักหวาน บรรยายความรู้สึกที่ได้อยู่ใกล้คนรัก รุ้งระวีฟังอย่างปลื้มในความไพเราะ
ทูนอินทร์ร้องจบท่อน แล้วลุกขึ้นยืน เสื้อคลุมนอนนั้นคลุมไว้หลวมๆด้านในเปลือยเปล่า มีเพียงบ็อกเซ่อร์ตัวเดียวยืนหันหลังให้รุ้งระวี ทูนอินทร์บิดขี้เกียจไปมาแล้วหันมากางแขนขา รุ้งระวีเห็นบ็อกเซ่อร์ถนัดถนี่
“นาย... “ รุ้งระวีมองไปที่กลางลำตัวแล้ว ร้องลั่น “กรี๊ดด”
“เฮ้ย...”
ทูนอินทร์กระโดดเข้าปิดปาก เธอสะบัดหนี ออกมาที่โถงกลาง เขาวิ่งตามมา
“อย่าเข้ามานะ นายร่วมมือกับนาย อิทธิ ใช่ไหม จะปล้ำข่มขืนฉัน แล้วพาฉันมาไว้ที่เซฟเฮาส์ แล้วนายก็ร่วมหมู่กับนาย อิทธิ”
“ผมช่วยคุณนะรุ้ง...ฟังผมก่อน”
“อย่านึกว่าพาฉันมาขังแล้วฉันจะหนีไม่ได้นะ”
ทูนอินทร์ตะครุบร่างรุ้งระวีได้ ล้มไปบนโซฟาด้วยกัน ร่างของเขาทาบทับบนร่างของเธอ เขาปิดปากเธอไว้แน่น
“ถ้าโวยวายอีก จะประกบปาก แล้วจูบแบบแลกลิ้นเลยจริงๆนะ”
รุ้งระวีนิ่งไป จี่หอยและมะปรางออกมา
“ว้าย...นายเคน นายทำอะไรรุ้ง” จี่หอยโวยวายอย่างตกใจ
“พี่หอยช่วยด้วย”
รุ้งระวีผลักร่างทูนอินทร์ล้มไปกับพื้น รุ้งระวีวิ่งไปกอดกับมะปราง จี่หอยเอาหมอนฟาดทูนอินทร์ที่กำลังจะลุกขึ้น
“ทำเป็นช่วยรุ้ง ที่แท้ก็ปล้ำเสียเอง นี่...ถ้าหื่นนักละก็ ให้ฉันช่วยให้ก็ได้”
“ปัทโธ่ ฟังกันก่อนซีครับ”
ทูนอินทร์ลุกขึ้น เสื้อคลุมหลุดจากตัวเห็นบ็อกเซ่อร์ตัวเดียว มะปรางกับรุ้งระวีหวีดพร้อมกัน จี่หอยมองตะลึงแอบยิ้ม ทูนอินทร์รีบปิดของสงวน จังหวะนั้น อินทรวิ่งหน้าตางัวเงียลงมาจากชั้นบน เปลือยท่อนบน ใส่บ็อกเซ่อร์ตัวเดียวเหมือนกัน
“มีอะไรกันพี่”
รุ้งระวีและมะปรางหันมา มองกลางลำตัว แล้วกรี๊ดออกมาพร้อมกันอีกครั้ง อินทรรีบปิดของสงวนหันหลังให้ จี่หอยเข้ามาช่วยปิดตารุ้งระวีและมะปราง แต่ตัวเองจ้องเขม็งทั้งของพี่ของน้อง

ที่โต๊ะนั่งเล่น...รุ้งระวี จี่หอย ดูภาพในกล้องซึ่งเป็นภาพจากที่ ทูนอินทร์บุกเข้าชกอิทธิ แล้วอุ้มรุ้งระวี จากเตียง ทูนอินทร์กับเมธ นั่งดื่มกาแฟอยู่ตรงข้าม รุ้งระวีเงยหน้ามองทูนอิทร์จ๋อยๆ
“ขอโทษค่ะ ที่เข้าใจผิด”
จี่หอยยิ้มแหยๆ
“ขอโทษเหมือนกันค่ะ ก็เห็นคุณเคนล่อนจ้อน นอนทับยายรุ้งออกอย่างนั้นก็นึกว่า...รุ้งมันหนีเสือปะทะตอปิโด เอ๊ย...จระเข้”
“แล้วหนูจะทำยังไงต่อไป” เมธถามอย่างเป็นห่วง
“รุ้งคงขอเลิกสัญญาค่ะ ถ้ายืนยันคลิปที่ถ่ายไว้นี่ นายอิทธิคงไม่กล้ารังแกรุ้งอีกแล้ว”
“ระวังนะ คนอย่างนายอิทธิน่ะ ไม่เลิกกับหนูง่ายๆหรอก” เมธเตือน
รุ้งระวี แปลกใจ
“พี่รู้จักคุณอิทธิเหรอคะ”
“เคยร่วมงานกันเลยละ บริษัทพี่เคยทำมิวสิควิดีโอให้นายอิทธิอยู่หลายอัลบั้ม ถึงได้รู้ว่านายนี่เขี้ยวมาก”
ทันใดนั้นมือถือจี่หอยดังขึ้น จี่หอยและรุ้งระวี ลุกแยกไปคุยโทรศัพท์
“ว่าไงมะปราง ถึงบ้านแล้วเหรอ ระวังตัวนะ...เอ้า รุ้งจะคุยด้วย”
รุ้งระวีรับมือถือมาจากจี่หอย
“ของที่พี่อยากได้เพิ่มนะปราง...”
ทางด้านเมธหันไปถามทูนอินทร์ที่นั่งมองๆ รุ้งระวีอยู่
“เฮ้ย...ทำไมเขาเรียกแกว่า เคน แล้วเรียกเจ้าทรว่า ธีรเดชวะ”
“อ๋อ...เขายังไม่รู้จักชื่อจริงผมกับนายทรน่ะ เจอกันทีไรเราก็ปลอมตัวตลอดอีกอย่าง อยากเป็นพระเอกบ้างน่ะพี่”
ทูนอินทร์บอกยิ้มๆ

อินทรขับรถมาจอดหน้าบ้านรุ้งระวี อินทรปลอมตัวเป็นน้องกวางนักข่าวออกสาว มะปรางนั่งข้างๆ กำลังพูดสายกับจี่หอย
“ค่ะ...เท่านี้ค่ะ”
มะปรางเลิกสาย แล้วมองไปรอบๆบ้าน
“มาเอาเสื้อผ้าคุณรุ้ง ทำไมต้องให้ผมปลอมตัวด้วยละครับ” อินทรถามอย่างไม่เข้าใจ
“ถ้าเกิดคนของคุณอิทธิมาเห็นเข้า จะได้จำคุณไม่ได้ไง”
“แล้วทำไมต้องให้แต่งเป็นน้องกวางด้วยล่ะ นี่มันลุคกะเทยนะครับ”
“อ้าว...ไม่ได้เป็นหรอกเหรอคะ”
“โธ่...แซวผมอีกและ”
“เถอะน่า คุณแต่งแบบนี้น่ารักดี ฉันชอบ ไม่มีใครแล้วคุณ รีบไปดีกว่า”
มะปรางและอินทรลงจากรถ วิ่งเข้าบ้าน ขณะเดียวกันนั้นรถของจุ๊บแจงแล่นมา จุ๊บแจง และจวงใจ หน้าบวมกันทั้งคู่ ติดพลาสเตอร์อันใหญ่
“นั่นไง มันมาแล้ว บุกเลย จุ๊บแจง”
ทั้งสองลงจากรถทันที

มะปรางหยิบเสื้อผ้ารุ้งระวีใส่ถุง พร้อมของใช้ที่จำเป็น อินทรช่วยรับของมาใส่ถุง เขารับซิลิโคนที่เป็นรูปนมปลอมเอามาโยนเล่น มะปรางตีมือเผียะ
“เท่านี้พี่รุ้งคงอยู่ได้สองสามวันแล้วละ”
“งั้นไปเถอะครับ”
ทั้งสองจะออกจากห้องนอน พบจวงใจและ จุ๊บแจง ยืนขวางอยู่ หน้าเหี้ยมทั้งคู่
“นังปราง จะเอาเสื้อผ้าไปให้นังรุ้งมันใช่ไหม” จุ๊บแจงถามเสียงเข้ม
มะปราง มองหน้า
“ค่ะ...กรุณาถอยไป”
“บอกมา นังรุ้งมันอยู่ไหน แล้วไอ้นักข่าวเมื่อคืน มันหายหัวไปไหน”
มะปรางเบ้หน้าไม่สน
“ไม่จำเป็นต้องบอก”
จวงใจมองอินทร
“น้องแจง อีนังนี่ไง...นังนักข่าวกะเทยที่ฉกมือถือเราไปใช่ไหม”
จ๊บแจงจำได้
“กรี๊ดดด...อีนี่แหละค่ะพี่ อีนี่แหละ ชุดนี้เลย”
“นังมะปราง แกร่วมมือกับแกงค์อีกะเทยนี่มาตั้งแต่ต้นเลยใช่ไหม”
อินทรออกสาวทันที
“ใช่ย่ะ...ทำไมยะ นังชะนีหน้าโง่”
จวงใจโกรธจี๊ด
“กรี๊ด...อีเก้งสิบแปดมงกุฏ รุมมัน”
จวงใจและจุ๊บแจงเข้ารุมอินทร มะปรางพยายามช่วย
“โอ๊ย...เจ็บนะ ปล่อยผม ไม่อยากทำหรอกนะ แต่จำเป็น”
อินทรตบจุ๊บแจง กระเด็นหวือไปที่เตียง
“แกกล้ามาก ตบนักร้องขวัญใจคนไทย แกตาย”
จวงใจเข้าบีบคอ อินทรดึงมือจวงใจออกได้
“โทษนะเจ๊ ขออนุญาต”
อินทรชกโครมเข้าหน้า จวงใจกระเด็นไปนอนข้างจุ๊บแจง ท่าเดียวกับเมื่อคืนเป๊ะ
“ไปเร็วค่ะ”
มะปรางคว้าถุงแล้ววิ่งไปพร้อมอินทร จุ๊บแจงกับจวงใจคลำแผลแล้วหันมาสำรวจแผลของกันและกันพลาสเตอร์หลุดจากหน้า
“พี่จวง...แจงโดนตบที่เดิมอีกแล้ว ฮือ”
“พี่ก็โดนชกที่เดิม แผลเก่า โฮ”
ทั้งสองกอดกันร้องไห้โฮลั่น จวงใจเหลือบไปเห็นรูป แสงหล้าและรุ้งวัยเด็กที่หัวเตียง
“แจง...ดูนั่น”
จุ๊บแจงหันมอง
“รูปใครน่ะ”
“น่าจะนังรุ้งตอนเด็ก มันถ่ายกับใครน่ะ หรือแม่มัน อุ๊ย...ต้องถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานเลย”

จวงใจใช้มือถือถ่ายไว้ จุ๊บแจงยังคลำแผลร้องไห้สะอื้น

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 4
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์