หน้าบริษัท M Group ปรานต์ยืนรออรุณศรีอยู่ ในมือถือช่อดอกไม้สวยงดงาม อรุณศรีเดินออกมาเห็น
“มีดอกไม้มาซะด้วย..ลงทุนนะเนี่ย” อรุณศรีติดในใจ
เมื่ออรุณศรีเดินมาถึง ปรานต์รีบส่งดอกไม้ให้
“ดีกันนะ “
อรุณศรีรับช่อดอกไม้
“ไม่รู้..ขอคิดดูก่อน”
“โธ่..แอ๊ว อย่าโกรธเลยนะ ผมขอโทษ ต่อไปนี้ผมจะไม่มารับช้า ไม่ผิดเวลา ไม่ลืมสัญญา ไม่ทำให้แอ๊วต้องหงุดหงิด โอเคนะ”
อรุณศรีเห็นปรานต์ง้อก็ใจอ่อน พยักหน้า ปรานต์ยิ้มกว้าง
“ไปกินข้าวกัน ปรานต์เลี้ยงเอง”
ปรานต์เปิดประตูให้อรุณศรีพร้อมกับจูงมือให้ขึ้นรถอรุณศรีขึ้นไปนั่งในรถ ปรานต์เดินไปประจำที่คนขับ
อรุณศรีรู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง อรุณศรีหันไปตามสัญชาตญาณ พลันก็สบตากับกริชชัยที่ยืนแอบมองจากในออฟฟิศ อรุณศรีชะงักนิดๆ กริชชัยก็สะดุ้งเล็กน้อยและรีบหลบตาแล้วเดินหนีไป อรุณศรีขมวดคิ้ว
เย็นวันเดียวกัน รถของวัชระแล่นเข้ามาจอดภายในบ้านของเนตรนภัส เนตรนภัสยืนหน้าบูดบึ้ง วัชระลงจากรถอย่างเตรียมตัว เตรียมใจในการรับศึกที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“แหนมจะไม่ถามว่าวัชหายไปไหนมา และจะไม่เซ้าซี้อะไรทั้งนั้น”
วัชระมองแบบไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“แต่วัชจะต้องไปยืนยันกับคุณแม่เรื่องงานแต่งงานของเรา เพราะคุณแม่คิดว่าวัชไม่เต็มใจจะแต่งกับแหนม”
“ดี..ผมก็มีเรื่องจะคุยกับท่านเหมือนกัน”
เนตรนภัสชะงักนิดๆ ..
“วัชจะคุยเรื่องอะไร “
วัชระไม่ตอบ มองเนตรนภัสด้วยแววตาแน่วแน่...กับสิ่งที่จะพูด สายตาของเนตรนภัสเต็มไปด้วยความอยากรู้
“เรื่องสินสอด! .. ผมต้องเรียนตามตรงว่าผมไม่มีเงินมากนัก เพิ่งจะลงเงินตกแต่งคอนโดใหม่กับเพื่อน เงินก้อนหมดแล้ว เหลือแต่เงินเดือนกับเงินในธนาคารอีกไม่มาก”
เนตรนภัสชักสีหน้า สีรุ้งยังนั่งฟังนิ่งๆอยู่ข้างๆ
“วัชพูดเรื่องนี้ทำไม แหนมบอกกับคุณแม่คุณแล้วไงคะว่าเรื่องพวกนี้ แหนมจัดการเอง”
“แต่ผมไม่อยากทำแบบนั้น ผมอยากจะหาสินสอดมาด้วยตัวเอง ทำแบบนั้นมันไม่มีศักดิ์ศรี”
เนตรนภัสชักสีหน้า เอามือกอดอก เบือนหน้าหนีอย่างกระฟัดกระเฟียด
“ไร้สาระ”
วัชระหันมาสีรุ้ง
“คุณแม่..ลดราคาลงมาหน่อยได้มั้ยครับ ถ้าตามที่บอกมาผมสู้ไม่ไหว”
สีรุ้งเชิดหน้า
“นี่เธอคิดว่าฉันขายลูกสาวหรือไง ถึงได้มาต่อรองเหมือนผักเหมือนปลา”
วัชระหน้าเสียรีบบอกกับสายรุ้งว่า
“เปล่านะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น”
“งั้นก็เลิกพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว เพราะถ้าจะให้ฉันเรียกสินสอดในระดับที่เธอสู้ไหว คงได้อับอายคนในวงสังคมของฉัน”
เนตรนภัสพยักหน้าเห็นด้วย วัชระจุกอก
“ศักดิ์ศรีเธอไม่หายไปไหนหรอก ฉันจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ฉันก็ไม่อยากให้คนนอกรู้ เพราะฉันก็อายเค้าเหมือนกัน”
วัชระสุดทนกับประโยคสุดท้ายของสีรุ้ง
“ผมขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณท่านต้องอับอาย ผมหมดธุระที่จะพูดแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
วัชระยกมือไหว้และ ลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขก เนตรนภัสตกใจในเรื่องที่เกิดขึ้น
“อ้าว วัช วัช รอแหนมด้วยสิคะ วัช วัช”
เนตรนภัสรีบเดินตามไปทันที สีรุ้งมองตามแล้วกุมขมับด้วยความกลุ้มใจ
เนตรนภัสวิ่งตามออกมาอย่างเร็ว ขณะที่วัชระเดินลื่วออกมา แต่ยังอยู่ภายในบ้านหลังใหญ่โตของเนตรนภัส หน้าตาวัชระนิ่งขรึม แววตาฉายชัดว่าไม่มีความสุข!
“วัช” เนตรนภัสร้องเรียก
วัชระหยุดยืนหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ เนตรนภัสเดินมาประกบ
เนตรนภัสจับมือวัชระและพยายามปลอบใจ
“เรื่องสินสอด วัชอย่าคิดมากเลยนะ แหนมจัดการเอง หน้าที่ของวัชตอนนี้แค่เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวที่น่ารักของแหนมแค่นั้นก็พอ ตกลงนะ”
เนตรนภัสมองหน้าวัชระเหมือนจะรอให้ตอบรับ จนวัชระจำใจต้องพยักหน้ารับส่งไปอย่างนั้นเอง เนตรนภัสยิ้มพอใจ
“น่ารักมาก..งั้นก็เริ่มปฎิบัติการแรกกันได้เลย พรุ่งนี้เช้าแหนมนัดเวดดิ้งแพลนเนอร์ไว้แล้ว”
“เวดดิ้งแพลนเนอร์” วัชระทวนเบาๆ
“ใช่ เค้าจะเตรียมคอนเซ็ปท์งานมานำเสนอ แล้วก็มีทุกอย่างมาให้เราเลือก ทั้งการ์ด แหวน ของชำร่วย ดอกไม้ อาหาร แล้วก็ชุด แหนมบอกให้เค้าเลือกแบบที่เริ่ดที่สุด ชุดเจ้าสาวของแหนมจะต้องสวยและไม่เหมือนใคร” เนตรนภัสวาดฝันอย่างมีความสุข
วัชระเหนื่อยใจ
“วัชก็ทำตัวให้ว่างแล้วมารับแหนมตั้งแต่ 8 โมงเช้า”
“8 โมงเช้า” วัชระตกใจ
เนตรนภัสยักไหล่อย่างไม่แคร์ วัชระยืนอยู่ที่เดิม อึ้งและมึนกับชีวิตที่ต้องเริ่มต้นจัดเตรียมการแต่งงาน
ปรานต์เลือกพาอรุณศรีไปรับประทานอาหารเกาหลีสุดโปรด บนโต๊ะ เนื้อ หมู ไก่ กุ้ง สารพัดวางอยู่ในจานของอรุณศรี ปรานต์จงใจคีบให้อรุณศรีด้วยความกระตือรือร้น
“นี่เนื้อหมู นุ่มมากเลยนะ ไก่ก็ไม่มีหนัง กุ้งก็สด แอ๊วกินเยอะๆ เลยนะ ถ้าไม่พอปรานต์สั่งมาเพิ่มอีกก็ได้นะ จะเพิ่มเลยมั้ย”
“พอแล้ว นี่ก็จะกินกันไม่หมดอยู่แล้ว” อรุณศรีพูดพลางมองหน้าปรานต์
“แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆถึงได้มาเอาใจแอ๊วแบบนี้ ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า” อรุณศรีอดระแวงไม่ได้
“ไม่มี ปรานต์ไม่เคยทำอะไรผิดอยู่แล้ว แต่ แค่มีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ”
อรุณศรีมองหน้าปรานต์ รอฟังด้วยใจจดจ่อ ปรานต์พูดเสียงอ่อนและเบา
“ปรานต์ขอยืมเงินแอ๊วสัก สี่แสนได้หรือเปล่า” ปรานต์เอ่ยปากเรื่องที่อยากขอความช่วยเหลือ
อรุณศรีตกใจขนาดตะเกียบร่วงจากมือ
“สี่แสน”
ปรานต์รีบอธิบาย
“แอ๊วฟังก่อนนะ คือที่บริษัทเค้าจะระดมทุนเพิ่มคนละห้าแสน ปรานต์มีเงินเก็บอยู่ประมาณแสนนึง ขาดอีกสี่แสน”
อรุณศรีนั่งฟังตาปริบๆ
“จริงๆปรานต์ก็ไม่อยากกวนแอ๊ว มันสุดวิสัยจริงๆ แต่ยืมไม่นานนะ แค่สองสามเดือนพอบริษัทปันเงิน ปรานต์ก็เอามาคืนแล้ว ปันผลครั้งนี้ได้ไม่ต่ำว่าสองล้าน”
“ปรานต์ก็กะว่า ถ้าได้เงินปันผลครั้งนี้ ก็จะเอามาดาวน์บ้าน” ปรานต์จับมืออรุณศรี
“บ้านของเราสองคนไงแอ๊ว” ปรานต์พูดต่อ สร้างความหวัง วาดฝันให้กับอรุณศรีเหมือนเคยทุกครั้ง
อรุณศรีมองหน้าปรานต์อย่างคิดหนัก
อ่านต่อหน้า 2
อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 5/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์