หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 18/2

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 18/2
ภายในเวลาเย็น ที่โรงแรมชานเมือง ธีธัชทิ้งตัวลงนอนบนเสื่อข้างกองถุงยังชีพอย่างเหนื่อยอ่อน หมดสภาพหนุ่มหล่อเจ้าสำอาง
“เฮ่อ !! เสร็จสักที”
ธีธัชเอนนอนอยู่ครู่หนึ่งก็นึกถึงลำเภา ธีธัชพลิกตัวมองหาลำเภาแ พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับถุงอาหารหมาที่วางอยู่ไม่ไกล
ธีธัชเงยหน้ามองเห็นลำเภากำลังแพ็กอาหารหมาใส่ถุง ที่มีกระดาษแปะไว้ว่า “ถุงยังชีพน้องหมา” ธีธัชลุก
ขึ้นแล้วก็ถาม

“ถุงยังชีพน้องหมาเนี่ยนะ”
ลำเภาปรายตามามองธีธัชอย่างติเตียน
“อ่านหนังสือออกนี่..เก่งมาก”
ธีธัชชักสีหน้าทันที
“มันเป็นคำถาม ฉันไม่ได้มาอ่านหนังสือให้ฟัง” ธีธัชทำหน้ากวนใส่ลำเภา
“ถามอีกที.. เธอทำถุงยังชีพให้หมาเนี่ยนะ ธีธัชพูดต่อด้วยหางเสียงสูงเน้นเพื่อให้ลำเภารู้ว่าเป็นคำถาม
ลำเภาวางมือจากการแพ็กถุงยังชีพน้องหมาแล้วก็ตอบ
“ใช่ .. น้ำท่วมคนเดือดร้อน หมาก็เดือดร้อน คนต้องกินข้าว หมาก็ต้องกินเหมือนกัน”
ลำเภาพูดจบหันแพ็กจัดถุงยังชีพน้องหมาต่อ
“แล้วของนี้ก็เป็นเงินส่วนตัวของฉัน และเงินบางส่วนของเป็นต่อกับพอใจ” ลำเภาพูดต่อ
ธีธัชชะงักทันทีเพราะคิดไม่ถึง
“ไอ้สองตัว ที่วิ่งไปมาในบ้านเธอเนี่ยนะ มีเงินกับเค้าด้วยเหรอ”
“ก็เงินค่าอาหารของพวกเค้าไง ฉันคุยกันแล้ว”
ธีธัชอ้าปากหวอเพราะคิดไม่ถึง
“ว่าจะแบ่งเงินค่าอาหารของเดือนนี้ เดือนหน้า รวมไปถึงเงินที่เค้าจะต้องไปตัดขน ไปเสริมสวย มาซื้ออาหารให้เพื่อนที่กำลังลำบาก เป็ฯต่อกับพอใจ เค้าก็ยินดี ฉันก็เลยเอาเงินส่วนของพวกเขา มาซื้ออาหารแล้วก็ยา” ลำเภาทำไปพูดไป ธีธัชพยักหน้านั่งฟังด้วยความรู้สึกเพลิดเพลิน ความน่ารัก ฮาๆ เพี้ยน ๆทำให้ธีธัชอมยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
ลำเภาหันมาเห็นพอดี
“ฟังไปยิ้มไป น่ารักหล่ะสิ๊” ลำเภาเสียงสูง
ลำเภาพูดแทงใจดำเล่นเอาธีธัชชะงักและหุบยิ้ม ธีธัชอ้าปากจะเถียง แต่ลำเภารีบพูดดักคอ
“จะแก้ตัวอะไรก็พูดมาเลย”
ธีธัชอึกอักไม่รู้จะพูดหรือเถียงลำเภาอย่างใด
ทันใดนั้นเสียงรถขบวนของกริชชัยแล่นเข้ามาอย่างคึกคัก ธีธัชเหลือบไปเห็นจึงรีบเบี่ยงประเด็น ลุกพรวดขึ้นอย่างกระตือรือร้นรีบหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันไปหาไอ้กริชดีกว่า คุยกับเธอก็มีแต่เรื่องไร้สาระ”
ลำเภาปรายตามองตามแล้วก็ส่ายหน้า
“เถียงไม่ได้ ก็เดินหนี .. เชอะ”

รถออฟโรดและรถบรรทุกบางส่วนจอดอยู่ที่หน้าโรงแรม บางส่วนเริ่มทยอยเข้ามาจอด พนักงานค่อยๆทยอย เดินลงจากรถ กริชชัยลงจากรถแล้วก็หันมาประกาศบอกพนักงาน ทุกคนรวมทั้งอรุณศรีกับเบญลี่จ่างหันมาฟังกริชชัย
“ทุกคนครับ.. ตอนนี้แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ตอนเย็นผมให้ทางโรงแรมจัดอาหารพิเศษไว้ให้ เราจะทานอาหารด้วยกันที่ห้องอาหารทางด้านโน้นนะครับ ขอบคุณครับ”
พนักงานพยักหน้ารับ แล้วก็แยกย้ายกันเดินไป กริชชัยมองหาอรุณศรี

อรุณศรีกับเบญลี่เดินเหนื่อยมาด้วยกัน อรุณศรียังเครียดเพราะยังมีเรื่องปรานต์อยู่ในหัว เสียงกริชชัยก็ดังขึ้น
“อรุณศรี”
อรุณศรีชะงักหยุดเดินทันที แต่เบญลี่ตาโตวาวตื่นเต้นยิ่งกว่าอรุณศรี กริชชัยเดินเข้ามาหา
“บอสเรียกแอ๊วทำไมเหรอคะ” เบญลี่ถามขึ้น
อรุณศรีมองหน้าเบญลี่ กริชชัยไม่ตอบ แต่มองหน้าเบญลี่แล้วก็ไล่ทางสายตา
สายตาของกริชชัยทำให้เบญลี่รู้ตัว
“เอ่อ..อะไรเอ่ยไม่เกี่ยว แหะๆ เบญลี่ขอตัวไปอาบน้ำ สระผม ก่อนนะคะ เชิญบอสกับแอ๊วคุยกันตามสบาย ไปนะคะ” เบญลี่ยิ้มแหะๆและรีบเดินออกไปทันที
กริชชัยมองหน้าอรุณศรีแล้วก็ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เหนื่อยมั้ย”
อรุณศรียิ้มรับนิดๆตอบเหมือนประชดทั้งที่หน้าตาโทรมมาก
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ”
“โห..เก่งจัง”
“ฉันประชด” อรุณศรีรีบสวนทันที
“ อ้าว” กริชชัยถึงกับหุบยิ้ม
“เหนื่อยค่ะ แต่ก็ไหวอยู่ ฉันเป็นคนใจสู้ค่ะ แค่นี้สบายมาก ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ “
“เอ่อ...ขอบคุณที่ถามนะคะ”
อรุณศรียิ้มจริงใจให้กริชชัย กริชชัยยิ้มรับ นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไป
อรุณศรีเดินจากกริชชัยมาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ไม่ได้สุขมากมาย แต่ก็ทำให้ใจเหี่ยวๆพองขึ้นมาได้เล็กน้อย
กริชชัยยังยืนยิ้มอยู่ที่เดิม ทันใดนั้นเสียงธีธัชก็ดังขึ้น
“ยืนยิ้มอะไรครับทั่นประธาน”
กริชชัยสะดุ้งนิดๆ หันขวับมา เห็นธีธัชยืนกอดอกยิ้มกวนๆอยู่
“ไอ้ธี แกมาได้ไงวะ”
ธีธัชไม่รู้จะตอบยังไงได้แต่ยิ้มเจื่อนกลบเกลื่อนไปก่อน

กริชชัยถอดเสื้อโยนลงบนเตียงภายในห้องพักของโรงแรมชานเมือง พร้อมกับหันหน้ามาถามธีธัชที่เดินตามเข้ามาพอดี
“แกเนี่ยนะ มาช่วยน้ำท่วม” กริชชัยไม่แน่ใจ
“เออดิ ทำไมแกต้องทำเสียงสงสัยขนาดนี้ด้วยวะ ฉันก็มีจิตสาธารณะนะเว้ย วันนี้ฉันนั่งแพ็กของตั้งแต่บ่ายจนของหมดเลยนะ แล้วพรุ่งนี้ฉันก็จะไปแจกของกับแกด้วย”
กริชชัยเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็มองหน้าถามธีธัชตรงๆด้วยความสงสัย
“แกมากับใคร”
ธีธัชถึงกับจุกในลำคอ
“ก็..มากับลูกค้าแกไง พอดีเจอกันโดยบังเอิญฉันก็เลยติดรถเค้ามาด้วย”
กริชชัยมองหน้าธีธัชราวกับจะค้นหาความจริง
“แล้วเภามาด้วยหรือเปล่า”
“ก็มา .. แต่มาแบบบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจจะมาด้วยกัน”
กริชชัยไม่เชื่อ ธีธัชร้อนตัว รีบออกตัวทันที
“จริงจริ๊ง” ธีธัชยังคงใช้เสียงสูงกลบเกลื่อนอีกตามเคย
กริชชัยมองหน้าธีธัชอย่างไม่วางตา ราวกับจะรอความจริงจากปากธีธัช แต่ธีธัชก็เฉไฉไปเรื่อย
“เออ !! ตกลงแกรู้หรือยังว่าไอ้วัชมันไปดูคอนเสิร์ตกับใคร”
“แม่งเปลี่ยนเรื่องไปซะไกลเลย” กริชชัยพึมพำออกมาอย่างรู้ทัน
กริชชัยส่ายหน้าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป ธีธัชยังทำเป็นไก๋ไล่หลังกริชชัยว่า
“ไม่ได้เปลี่ยนเรื่อง..อยากรู้จริงจริ๊ง”
กริชชัยไม่สนใจปิดประตูห้องน้ำใส่หน้าธีธัช ในใจของกริชชัยบอกกับตัวเองว่า “กรูไม่เชื่อมรึง”

ภายในบ้านของนตรนภัส นรีวรรณส่งรูปสุพรรณิการ์ที่อยู่บนจอโทรศัพท์มือถือให้เนตรนภัส ทันทีที่เนตรนภัสเห็นภาพก็กรีดแหลมดังออก
“นังฝ้าย”
เนตรนภัสทั้งโกรธ ทั้งช็อก ทั้งแค้น พลางหันมาทางนรีวรรณ
“นุ้ยแน่ใจนะว่าวัชไปดูคอนเสิร์ตกับมันจริงๆ”
นรีวรรณยืนอยู่ข้างสีรุ้งที่นั่งเครียดอยู่
“จริงค่ะ นุ้ยจำหน้าได้แม่นเป๊ะ คุณแม่ก็ยืนยันได้ว่าเป็นคนเดียวกัน”
เนตรนภัสหันมาถามสีรุ้งด้วยสายตา สีรุ้งพยักหน้ารับ
เนตรนภัสกำโทรศัพท์แน่นด้วยความโกรธ
“อีนังฝ้าย เป็นมันจริงๆ ทำไม..ทำไมไม่มีใครบอกแหนม เพื่อนวัชทุกคนรวมหัวกันปิดเรื่องนี้ คงคิดว่าแหนมไม่มีปัญญารู้ความจริง คอยดูนะแหนมจะโทร.ด่าให้ครบทุกคนเลย”
เนตรนภัสหมดความอดทน ฟิวส์ขาดปาโทรศัพท์ของนรีวรรณลงบนโซฟา นรีวรรณตกใจร้อง “ว้าย” และรีบเอามือไปรับไว้ได้ทัน
เนตรนภัสเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วก็กดหาคนแรก “กริชชัย”

กริชชัยกำลังอาบน้ำอย่างสบายใจ ทันใดนั้นธีธัชก็เปิดประตูพรวดเข้ามา กริชชัยตกใจ
“เฮ้ย ไอ้ธี เปิดเข้ามาทำไมวะ”
ธีธัชวางโทรศัพท์ไว้ที่เคาท์เตอร์หน้ากระจก เสียงสายเข้ายังดังต่อเนื่อง
“แหนมโทร.มาเป็นครั้งที่ 20 แล้ว แกรีบรับเลยก่อนที่จะโทร.มาเป็นครั้งที่ 21”
หลังบอกกริชชัยเสร็จ ธีธัชปิดประตูห้องน้ำ กริชชัยหยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งแล้วก็รับโทรศัพท์แหนมด้วยความสงสัย
“สวัสดีครับ”

เนตรนภัสกระแทกเสียงใส่โทรศัพท์
“ทำไมคุณกริชต้องปิดบังแหนมด้วย แหนมเสียใจมาก เสียแรงที่ไว้วางใจ เห็นว่าเป็นผู้เป็นคนมากที่สุดในบรรดาเพื่อนของวัช แต่สุดท้ายก็ห่วยเหมือนกันหมด”
“เดี๋ยวๆ แหนมพูดอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
เนตรนภัสยังส่งเสียงอาละวาดไม่เลิก สีรุ้งกับนรีวรรณนั่งอยู่ข้างๆเนตรนภัสคอยเป็นกองเชียร์
“ไม่ต้องพูดคำว่า “ไม่รู้เรื่อง” เพราะแหนมไม่เชื่ออีกแล้ว”
กริชชัยจับต้นชนปลายไม่ถูก ธีธัชยืนเงี่ยหูรอฟังอยู่ใกล้ชิด กริชชัยเดินคุยไปหยิบเสื้อผ้าไป
“ก็ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ แหนมพูดเรื่องอะไรอยู่”
เนตรนภัสพูดด้วยความแค้น
“วัชไปดูคอนเสิร์ตกับนังฝ้าย !! เพื่อนบ้านจอมอ่อยของคุณกริช”
“ไอ้วัชเนี่ยนะไปดูคอนเสิร์ตกับคุณฝ้าย” กริชชัยแปลกใจ ธีธัชตาวาวขึ้นทันที
“ผมไม่รู้จริงๆ เพิ่งได้ยินจากแหนมนี่แหละ”
เนตรนภัสส่ายหน้า
“แหนมไม่เชื่อพวกคุณอีกแล้ว พวกคุณทุกคนรวมหัวกันหลอกแหนม”
กริชชัยพยายามจะอธิบาย ธีธัชครุ่นคิดตามไม่อยากจะเชื่อ
“ฝากคุณกริชไปบอกนังนั่นด้วยนะ อย่ามายุ่งกับวัช”
กริชชัยสะดุ้งเฮือก
“ถ้ามันไม่หยุด แล้วคิดจะมาแย่งกันหน้าด้านๆแบบนี้ แหนมเอามันตายแน่ “
เนตรนภัสวางสายด้วยความแค้น
นรีวรรณซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเริ่มหนักใจ
“พี่แหนมเอาถึงตายเลยเหรอ เลิกกับพี่วัชแล้วปล่อยเค้าไป ไม่ง่ายกว่าเหรอ”
“ไม่มีทาง !! ถ้าฉันยอมปล่อยวัชไปให้มัน เท่ากับฉันยอมแพ้ คนอย่างเนตรนภัสไม่เคยแพ้ใคร นี่แค่เตือน ถ้ามันยังไม่ยอมหยุดยุ่งกับวัช ฉันจะเป็นคนหยุดมันเอง”
เนตรนภัสพูดจบก็เดินกระแทกส้นรองเท้าออกไป
สีรุ้งนั่งเครียดจนหน้ามืด
“นุ้ย...ส่งยาดมมาให้แม่หน่อยสิลูก ... แม่จะเป็นลม ...เฮ่อ”

ธีธัชทุบมือลงบนโต๊ะ
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยจริง ไอ้วัชมันทำแบบนี้ได้ยังไง”
กริชชัยแต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาธีธัชพร้อมเสียงสนับสนุนอย่างเห็นด้วย
“ใช่ ฉันก็สงสัย ไอ้วัชมันไปดูคอนเสิร์ตกับคุณฝ้ายได้ยังไง”
“เปล่า ฉันไม่ได้สงสัยเรื่องนั้น” ธีธัชบอก
“อ้าว..”
“ฉันสงสัยว่า “ทำไมไอ้วัชมันไม่บอกเรา” ธีธัชพูดหน้าเครียด
กริชชัยผงะหลิ่วตามาทางธีธัช โธ่..ธีธัชยังไม่รู้ตัว
“มันปิดบังเราได้ยังไง ตั้งแต่คบกันมา มันไม่เคยมีความลับ แต่ครั้งนี้มัน “ไม่บอก” มันต้องมีอะไรมากกว่าดูคอนเสิร์ตแน่ๆ แกว่าจริงป่ะ”
ธีธัชหันมาเพื่อหาเสียงสนับสนุนจากกริชชัย แต่กริชชัยหายตัวไปแล้ว
“อ้าวเฮ้ย...”
กริชชัยยืนอยู่ที่ประตูกำลังจะออกไป
“ไอ้กริช แกจะไปไหน” ธีธัชถามขึ้น
“ฉันจะหาทางติดต่อกับคุณฝ้ายให้เค้ารู้ตัว ส่วนแกรีบติดต่อไอ้วัชบอกมันด้วยว่าแหนมรู้เรื่องแล้ว ... ถ้าไม่อยากให้คุณฝ้ายเดือดร้อนรีบไปเคลียร์ด่วน”
“โอเค”
ธีธัชรับคำ สองหนุ่มก็แยกย้ายกันไปคนละทาง กริชชัยรีบเดินออกไป ส่วนธีธัชก็เดินมาอีกทางหยิบ
โทรศัพท์โทร.หาวัชระ

ในห้องอาหารของโรงแรมชานเมือง อรุณศรีกับเบญลี่นั่งกินข้าวกันอยู่กับพนักงานในบริเวณโต๊ะยาวในห้องอาหารที่ทางโรงแรมจัดไว้อย่างดี แต่ละคนกินไปพูดคุยกันไปอย่างสนุกสนาน
กริชชัยเดินพรวดๆ เข้ามาในห้องอาหารเดินพุ่งมาที่อรุณศรีทันที
“อรุณศรี”
อรุณศรีหันมาด้วยความแปลกใจ ทุกคนบนโต๊ะอาหารเงียบกริบลงชั่วคราว ต่างหันมาทางกริชชัยและอรุณศรี
กริชชัยพูดเสียงจริงจัง
“ขอเชิญข้างนอกสักครู่ ผมมีธุระจะคุยด้วย”
“ค่ะ” อรุณศรีแปลกใจ
กริชชัยเดินนำออกไป พนักงานคนอื่นรวมทั้งเบญลี่มองมาที่อรุณศรีด้วยความสนใจ เมื่ออรุณศรีหันมา เบญลี่และพนักงานคนอื่นก็รีบก้มหน้ากินข้าวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กริชชัยเดินมาหยุดยืนอยู่ที่มุมหนึ่งหน้าโรงแรม อรุณศรีเดินตามมาติดๆ
“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ”
“เรื่องคุณฝ้าย”
อรุณศรีขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
“รู้หรือเปล่าว่า วัชกับคุณฝ้ายไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน” กริชชัยถามอรุณศรี
“ทราบค่ะ ฝ้ายบอกฉันแล้ว มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
“มี..” กริชชัยหน้าหน้าเครียดขึ้นมาทันที กริชชัยเล่าต่อไป
“ตอนนี้แหนมรู้เรื่องแล้ว เค้าโทร.มาหาผม ให้ผมไปบอกคุณฝ้ายให้เลิกยุ่งกับไอ้วัช และเค้าก็คิดว่าผมรู้เห็นเป็นใจและ รวมหัวกันปิดบัง”
อรุณศรีถึงกับหน้าเสีย
“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เพื่อนฉันทำให้คุณต้องเดือดร้อน”
“ไม่ใช่เพื่อนคุณคนเดียว เพื่อนผมก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน” กริชชัยตอบแบบลูกผู้ชาย

ภายในห้องอาหารของโรงแรม ลำเภาเดินเข้ามามองหาและไม่เห็นกริชชัย เห็นแต่เบญลี่ที่นั่งกินข้าวอยู่กับพนักงาน ลำเภาเดินมาหาเบญลี่
“คุณเบญลี่คะ .. คุณกริชยังไม่มาทานข้าวเหรอคะ”
เบญลี่ตาวาว เปิดฉากเรื่องคันปากทันที
ไมาแล้วค่า.... มาแล้วไปแล้ว”
“ไปไหนคะ” ลำเภาขมวดคิ้วสงสัย
“ไปกับแอ๊วค่ะ” เบญลี่พูดด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบกับลำเภา ลำเภาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ...

กริชชัยและอรุณศรียังคุยกันที่เดิม
“ที่ผมมาบอกเพราะอยากให้คุณเตือนคุณฝ้ายให้ระวังตัว แหนมเป็นคนไม่ยอมใคร ผมเป็นห่วงว่า เค้าอาจจะทำอะไรที่เราคิดไม่ถึง”
“ได้ค่ะ ฉันจะรีบบอกฝ้าย ฉันคิดว่า.. ทางที่ดีฝ้ายควรจะไปขอโทษคุณแหนม และบอกตามตรงว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวล คุณแหนมจะได้ไม่ต้องคิดมาก”
กริชชัยมองอรุณศรีแล้วยิ้มนิดๆ อรุณศรีแปลกใจ
“คุณยิ้มอะไร”
“ยิ้มที่คุณเป็นห่วงความรู้สึกของแหนม มันทำให้ผมดีใจว่า ผมมองคุณไม่ผิด”
อรุณศรีก้มหน้าด้วยความเขินอาย กริชชัยยิ้มถูกใจ บรรยากาศดูสวยงามมีความสุข
ทันใดนั้นเสียงปรานต์ก็โพล่งขึ้น
“มีความสุขกันมากนักใช่มั้ย”
อรุณศรีกับกริชชัยหุบยิ้มแบบฉับพลันและหันมาตามเสียง ปรานต์ยืนหน้าเครียดพร้อมจะมีเรื่อง
“ปรานต์ ...... มาได้ยังไง” อรุณศรีถามด้วยความแปลกใจ
“ทำไมจะมาไม่ได้ ถ้าปรานต์ไม่แอบตามมา คงไม่ได้เห็นว่ามีความสุขกับ “ชู้” มากแค่ไหน” ปรานต์พูดสวนทันที
“ปรานต์มากไปแล้วนะ”
กริชชัยใจเต้นระทึกด้วยความโกรธกับคำพูดของปรานต์ แต่ยังรักษาอารมณ์ไว้อย่างมีสติ
ปรานต์หันขวับมาทางกริชชัย
“ฉันจะบอกให้นะ เงินแกอาจจะทำให้แอ๊วใจอ่อน”
อรุณศรีชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ
“แต่มันไม่ทำให้ฉันยอมแพ้ ต่อให้รวยล้นฟ้า แกก็ไม่มีวันแย่งแอ๊วไปจากฉันได้ คนอย่างแกถ้าไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ก็อย่าคิดเลยว่าจะแอ๊วจะสนใจ” ปรานต์พูดต่อ
กริชชัยยืนกำหมัดแน่น พยายามใช้ขันติเพื่อระงับความโกรธ อรุณศรีตวาดใส่หน้าปรานต์อย่างเหลืออด
“หยุดพูด แล้วก็กลับไปได้แล้ว ก่อนที่แอ๊วจะเรียกคนอื่นมาลากปรานต์ออกไป”
ปรานต์หันมาทางอรุณศรี
“ไม่ต้องไล่ ปรานต์ก็ไปแน่.. แต่แอ๊วต้อง กลับไปปรานต์ด้วย” ปรานต์พูดพลางเดินปรี่เข้ามาหาอรุณศรี
ปรานต์เข้ามากระชากแขนอรุณศรีอย่างแรง อรุณศรีถึงกับเซไปตามแรงดึง
“โอ้ย...”
ปรานต์ลากอรุณศรีถูลู่ถูกังไปอย่างน่าสงสาร
“ปรานต์ปล่อยนะ แอ๊วไม่กลับ”
“ต้องกลับ” ปรานต์กระชากอีกที
“โอ้ย...”

ลำเภานั่งกินข้าวกับเบญลี่ สองคนเริ่มสังเกตเห็นว่าพนักงานชะเง้อชะแง้มองออกไปที่หน้าต่าง ลำเภาถาม
ขึ้น
“มีอะไร”
“ มีคนได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันอยู่ที่สวนค่ะ” เบญลี่หันมาบอกลำเภา
ลำเภาขมวดคิ้วเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่าง

กริชชัยทนไม่ได้ พูดขึ้นด้วยความโกรธ
ปล่อยอรุณศรีเดี๋ยวนี้” กริชชัยบอก
ปรานต์หันขวับมา
“กูไม่ปล่อย” ปรานต์บอก
ปรานต์ตะโกนกลับพร้อมกับกระชากอรุณศรีมาอย่างแรงด้วยความโกรธ ร่างอรุณศรีเซตามแรงดึงจนเสีย
หลัก หัวไปฟาดเข้ากับต้นไม้เต็มแรง
“โอ้ย”
ปรานต์ตกใจเผลอปล่อยมือจากอรุณศรีทันที บริเวณหัวของอรุณศรีมีเลือดไหลออกมา ปรานต์ตกใจ
“แอ๊ว” ปรานต์กำลังจะเข้าไปดู
กริชชัยพุ่งเข้ามาที่อรุณศรีก่อนปรานต์ กริชชัยประคองอรุณศรีไว้ด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
“อรุณศรี...เป็นอะไรหรือเปล่า..อรุณศรี”
อรุณศรีมองหน้ากริชชัยแล้วส่ายหน้าแต่ยังยังมีสติ
“แค่มึนๆ” อรุณศรีพูดขณะที่มือยังกุมอยู่ที่หัว
“เดี๋ยวผมพาเข้าไปข้างใน” กริชชัยบอก
กริชชัยประคองอรุณศรีลุกขึ้น อรุณศรีก็ลุกตามแต่โดยดี ปรานต์เห็นแล้วทนภาพบาดตาไม่ได้ถึงกับสติแตกในทันที
“กูไม่ให้ไป”
-ปรานต์พุ่งเข้ามากะใส่กริชชัยเต็มที่ แต่กริชชัยหันมาทันและใช้ความเร็ว ยื่นขาออกมาสกัดขาปรานต์ไว้ ปรานต์โดนขัดขาถึงกับเซไปข้างๆ !! พอตั้งหลักได้ก็หันมาเหวี่ยงหมัดเข้าที่หน้ากริชชัย กริชชัยรีบดันอรุณศรีหลบ
และสวนกลับไปอย่างเร็ว หมัดของกริชชัยสวนโดนเข้าหน้าปรานต์เต็มๆ ปรานต์ถึงกับหน้าหงาย
“โอ้ย” ปรานต์ร้องลั่น
ปรานต์ไม่ยอมเหวี่ยงหมัดเข้าหน้ากริชชัยหนึ่งไปทีหนึ่ง อรุณศรีถึงกับหน้าเสีย กริชชัยหันกลับมามองหน้าปรานต์ ปรานต์ยิ้มกวนด้วยความสะใจ กริชชัยตัดสินใจพุ่งเข้าใส่และอัดเป็นชุดแบบไม่ยั้ง จนปรานต์ร่วงทรุดลงกับพื้นไปต่อหน้า

ลำเภากับเบญลี่เดินออกจากห้องอาหารเพื่อมาดูว่าอะไรเกิดขึ้น เบญลี่ตกใจที่เห็นเหตุการณ์ที่กำลังชุลมุนกันอยู่ที่สวนถึงกับตกใจ
“นั่นมันแฟนแอ๊วนี่คะคุณเภา”
ลำเภารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นรีบสั่งเบญลี่ทันที
“ไปตามรปภ.มา เภาจะไปช่วยคุณกริชเอง “
“ค่ะ”
เบญลี่ซอยเท้ารีบวิ่งไปตามรปภ. ทันที ลำเภาเดินไปหากริชชัย พนักงานบางคนเดินออกตามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เบญลี่ตะโกนบอกพนักงาน

“ใครก็ได้ รีบตามรปภ.มาเร็ว”

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 18/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์