หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 19/2

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 19/2
มือถือธีธัชดังขึ้นอีก คราวนี้ธีธัชเริ่มรู้สึกตัว ควานมือไปหยิบมาดูชื่อแล้วก็กดรับ

“ไงครับทั่น”
กริชชัยเดินคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องตัวเอง
“ตกลงแกคุยเรื่องคุณฝ้ายกับไอ้วัชหรือยัง มันว่าไงบ้าง”
ธีธัชพูดด้วยความงัวเงีย
“มันก็บอกว่าจะไปหาคุณฝ้าย”
กริชชัยชักสีหน้าทันที

“แล้วมันจะไปหาคุณฝ้ายทำไม ทำไมมันไม่ไปหาแหนม ไอ้วัชนี่มันจะแก้ปัญหา หรือมันจะยิ่งสร้างปัญหาวะเนี่ย”
ธีธัชยังไม่รู้สึกร้อนหนาว พูดด้วยอารมณ์สบายๆไม่รู้ทุกข์ร้อน
“เอาน่า..ปัญหาของมัน เดี๋ยวมันก็จัดการเอง “
กริชชัยส่ายหน้า
“ฉันก็ไม่อยากยุ่ง แต่เมื่อกี้แหนมมาหาฉันที่คอนโด อยากรู้ให้ได้ว่าคุณฝ้ายอยู่ห้องไหน ฉันไม่บอก ก็จะบุกไปลุยที่ร้าน .. แกรีบบอกไอ้วัชให้มันไปเคลียร์กับแหนมเดี๋ยวนี้เลย อย่าปล่อยให้ผู้หญิงต้องทะเลาะกันเอง”
กริชชัยพูดอย่างมีเหตุผล ธีธัชรับปากตามสไตล์
“โอเคค้าบ ทั่นประธาน เดี๋ยวผมติดต่อให้ ว่าแต่ทำไมทั่นไม่ติดต่อมันเองค้าบ”
“มันเปลี่ยนเบอร์หนีแหนมจนเละเทะไปหมดแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันใช้เบอร์ไหน มีแกตามมันทันอยู่คนเดียว แกก็ติดต่อมันแล้วกัน” กริชชัยบ่น
“โอเค..จัดไป” ธีธัชว่า
กริชชัยกดวางสายด้วยความเหนื่อยใจ

ธีธัชจำใจลุกขึ้นจากที่นอนแล้วก็ไล่กดโทร.หาวัชระ หน้าจอขึ้นชื่อ วัช 1 / วัช 2 / วัช 3 / วัช 4 / วัช 5 / วัช 6 / วัช 7 / วัช 8 ธีธัชไล่กดทีละเบอร์..ทีละเบอร์ ไม่ติดสักเบอร์จนธีธัชเริ่มบ่น
“โทร. 8 เบอร์ไม่ติดสักเบอร์ หรือว่ามันเปลี่ยนเบอร์ใหม่”
ธีธัชคิด...แล้วก็นึกถึงวิธีที่จะติดต่อวัชระได้ ธีธัชยิ้มกรุ่มกริ่ม แล้วก็กดโทร.ออกทันที

มือถือลำเภาดังขึ้น ขณะที่กำลังนั่งดูละครอยู่ มีเป็นต่อกับำอใจนั่งขนาบสองข้างดูละครอยู่ด้วยกัน ลำเภาหยิบโทรศัพท์มาดูชื่อ แล้วก็กดรับ
“ให้เวลาหนึ่งนาที รีบพูดธุระมา ละครกำลังสนุก”
ธีธัชลุกขากเตียงมายืนคุยโทรศัพท์ด้วยความกระตือรือร้น แอบตื่นเต้นนิดๆ โดยไม่รู้ตัว
“ดูอยู่กับใคร”
“อยากรู้จริงๆเหรอ” ลำเภาพูดพลางคอดเล่นเกมต่อทันที
ธีธัชทำฟอร์มไม่อยากรู้ทันที
“ก็ไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่ .. ถามไปงั้น ตามมารยาท”
ลำเภาเบ้ปากหมั่นไส้
“เพิ่งรู้ว่าเป็นคนมีมารยาทกับเค้าด้วย .. ตกลงโทร.มาเรื่องอะไรเนี่ย จะครบนาทีแล้วนะ”
ธีธัชเล่นฟอร์มกวนลำเภาต่อ
“ตกลงดูละครอยู่กับใครล่ะ ยังไม่ตอบเลย”
ลำเภาตอบด้วยความรำคาญ
“ดูอยู่กับหมา เป็นต่อกับพอใจนั่งประกบอยู่เนี่ย ถามวุ่นวายจริงๆ นี่ถ้าไม่ได้เป็นแฟนกันวางไปแล้วนะ”
ธีธัชเผลออมยิ้มนิดๆ โล่งใจที่ลำเภาดูละครกับหมาไม่ใช่หนุ่มๆที่ไหน ธีธัชกระชุ่มกระชวยขึ้นทันทีที่ได้ยินคำว่าแฟน
“หมดเวลาหนึ่งนาที..แค่นี้นะ”
“เดี๋ยวๆ ฉันจะโทร.มาถามว่า ไอ้วัชมันอยู่กับเธอหรือเปล่า” ธีธัชรีบสวนทันที
ลำเภาตอบเสียงนิ่ง
“ไม่อยู่”
“แล้วรู้หรือเปล่าว่ามันอยู่ไหน”
“ไม่รู้ .. ไปฆ่าตัวตายแล้วมั้ง เจอกี่ทีก็เอาแต่กลุ้มใจเรื่องแต่งงาน แค่นี้นะ..ฉันจะดูละครต่อแล้ว”
ธีธัชแอบเสียดายนิดๆเพราะยังอยากคุยกับลำเภาต่อ ลำเภาพูดแทงใจดำ
“แล้วทีหลัง ถ้าอยากโทร.หา ก็ไม่ต้องเอาเรื่องคุณวัชมาอ้าง โดนจับได้..แล้วจะหน้าแตก”
ลำเภาวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่มุมปาก
ธีธัชยังไม่ยอมรับหัวใจของตัวเอง
“ใครอยากโทร.หาเธอหะ ยัยหนู...”
ธีธัชยังพูโม่ทันจบ เสียง ตื้ดๆจากมือถือก็ดังขึ้นอีก ธีธัชทำท่าจะโทร.กลับไปอีก แต่ก็ชะงักมือไว้ ไม่โทร.
“โทร.ไปเดี๋ยวจะหาว่าอยากคุยด้วย โธ่ ใครอยากคุยกับเธอ”
ธีธัชทำบ่นคุยกับโทรศัพท์มือถือที่เป็นรูปหน้าลำเภา
“ยังจะมายิ้มอีก..โธ่ ! ยัยเด็กบ๊อง”
ธีธัชด่าจบ แล้วก็แอบอมยิ้มนิดๆ

ดนตรีสดบนเวทีที่ร้านสาดสุรา กำลังเล่นเพลง “เข้ากันดี” ของ สครัปป์
ฉันไม่เคยเจอใคร ไม่ขวาไม่ซ้าย
ไม่สมบูรณ์ไป ไม่มองแง่ร้ายหรือเอาแต่ใจ
แต่มีอะไรไม่ธรรมดา โว้..

ผู้คนในร้านกำลังทะยอยกลับกันแล้ว กรกนกประจำอยู่หน้าเคาท์เตอร์พลางมองไปรอบๆ ร้านแล้วเปรยขึ้น
“วันนี้ไม่เห็นคุณฝ้ายลงมาตรวจร้าน..เป็นอะไรหรือเปล่า”

เพลงสุนทราภรณ์ยังดังคลออยู่ วัชระซึ่งเมาน้อยกว่านั่งอยู่ข้างๆพยายามจะเดาเพลงต่อ วัชระเขย่าเข่าสุพรรณิการ์ซึ่ง เมาคอพับ คออ่อน นอนอยู่บนโซฟา
“เพลง อารายหว่า.... คุณ..จำได้หรือเปล่า คุณ...นี่...คุณ..”
“คุณ....หลับได้ไง ยังเล่นไม่จบเลย..เหลืออีกตั้ง หลายเพลง .. ตื่นมาต่อก่อน”
สุพรรณิการ์เมาง่วงหงุดหงิด
“ไม่เล่นแล้ว..ง่วง” สุพรรณิการ์เสียงเมาอ้อแอ้
“อ้าว...ง่วงก็ไปนอนสิ”
“ก็นอนอยู่นี่ไงเล่า วุ้ย เซ้าซี้จริงๆ”
“ก็ไปนอนให้มันดีๆ นอนแบบนี้เดี๋ยวก็เมื่อยตายหรอก”
“เออน่า...ฉานนอนด้าย” สุพรรณิการ์เมาหลับไปในทันที
“อ้าวเฮ้ย..คุณ..ไปนอนดีๆสิ”
สุพรรณิการ์เมาหลับไปแล้ว วัชระส่ายหน้า แล้วก็มองไปรอบๆ ด้วยความเมา วัชระเห็นเตียงตั้งอยู่
ไม่ไกล วัชระหันกลับมามองสุพรรณิการ์นอนคอพับหมดสภาพแล้วก็ส่ายหน้า
“ขอโทษนะ”
วัชระอุ้มสุพรรณิการ์ขึ้นอย่างยากลำบาก
“หนักเหมือนกันวุ้ย” วัชระบ่นอุบ
“ทำอาราย” สุพรรณิการ์เมาหงุดหงิด
“จะพาไปนอนให้มันดีๆ”
“ไม่ปาย..ปล่อย ยุ่งจริงๆเล้ย” สุพรรณิการ์พูดพลางดื้นไปมา
“เฮ้ย อย่าดิ้นสิคุณ”
สุพรรณิการ์ยังคงดิ้นไม่หยุด
“ก็ปล่อยสิเว้ย”
สุพรรณิการ์ดิ้นจนวัชระเสียหลักล้มลงไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่
“เฮ้ย”
วัชระล้มลงบนเตียง สุพรรณิการ์ล้มทับข้างบน หัวของสุพรรณิการ์โขลกเข้ากับหัวของวัชระอย่างแรง จนวัชระต้องร้องลั่น “โอ้ย” … สุพรรณิการ์กลับไม่รู้ตัวใดๆ หัวพับลงที่ซอกคอวัชระ วัชระถึงกับเสียวสะท้านเล็กๆตามประสาผู้ชาย วัชระร้องเรียก
“คุณ..คุณ”
สุพรรณิการ์ยังคงหลับผลอย นอนทับอยู่บนตัววัชระ วัชระหน้าแดงกล่ำ ร้อนผ่าวไปทั่วร่าง เลือดสูฉีดดีผิดปกติ
โดยเฉพาะอวัยวะบางส่วนของร่างกาย
วัชระค่อยๆขยับตัวดันสุพรรณิการ์ออกจากการล้มทับ สุพรรณิการ์นอนหงายหมดสภาพ ไร้สติเพราะความ
เมา วัชระค่อยๆก้มหน้ามามองสุพรรณิการ์อย่างพิจารณา
ใบหน้าสวยคมดูมีเสน่ห์แม้ในยามหลับ วัชระมองแล้วเคลิ้มๆ ค่อยๆบรรจงก้มลงจูบอย่างแผ่วเบา...สุพรรณิการ์ลืมตาขึ้นด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มพอกัน สุพรรณิการ์เหนี่ยวคอวัชระไว้แล้วก็หอมแก้มหนึ่งที วัชระยิ่งเตลิดเปิดเปิงเลื่อนจากหอมแก้มมาเป็นจูบที่ริม ฝีปากแล้วก็เลยเถิดไปอีก
เปลวเทียนไขรูปทรงสวยที่ข้างเตียงสั่นวูบไหวไปมา เสมือนอารมณ์ที่กำลังหวั่นไหวอย่างแรงของทั้งคู่

กรกนกเดินมาหยุดที่ประตูห้องทำงานของสุพรรณิการ์ กำลังจะยกมือเคาะ ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นวัชระกำลังอยู่ในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มกับสุพรรรฺการ์อยู่เนื่องจากประตูปิเค่เง้มไว้ กรกนกตกใจ ใจหายวาบ ตัวชา และรีบเหวี่ยงตังวหลบเข้าข้างประตูทันที กรกนกหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจรีบเดินออกมาด้วยความตกใจ

แขกร้านสาดสถราในค่ำคืนนี้กลับหมดแล้ว เด็กในร้านกำลังทำความสะอาด กรกนกเดินหน้าตื่นๆเข้ามา แล้วก็รีบหาที่นั่ง ใจยังเต้นแรง ด้วยความตกใจ แคชเชียร์เดินมาหากรกนก
“คุณฝ้ายอยู่ข้างบนหรือเปล่าพี่กร หนูจะขึ้นไปเคลียร์บัญชี”
กรกนกรีบบอก
“ไม่เป็นไร..เคลียร์กับพี่ เดี๋ยวพี่เคลียร์กับคุณฝ้ายเอง แล้วสั่งเด็กคนอื่น ห้ามขึ้นไปที่ห้องคุณฝ้ายเด็ดขาด”
แคชเชียร์ทำหน้างงๆ กรกนกรีบบอก
“คือ..คุณฝ้ายเค้าไม่สบาย เค้าอยากพักผ่อน ไม่อยากให้คนกวน”
แคชเชียร์พยักหน้า
“ค่ะพี่ เดี๋ยวหนูบอกคนอื่นให้ นี่เงินขายวันนี้นะคะ” แคชเชียร์วางเงินไว้ที่โต๊ะข้างๆ กรกนกพยักหน้ารับทราบ แคชเชียร์เดินไป... กรกนกยังนั่งอึ้งๆ อยู่ที่เดิม รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขัดๆอยู่ในความคิด และความรู้สึก กรกนกคิดหนักก่อนที่ไฟในร้านค่อยๆดับลง..ดับลง..ดับลงทีละดวง..ร้านที่เคยคึกคักสว่างไสวค่อยๆ เงียบเหงาลง

เด็กๆ พนักงานร้านสาดสุราทยอยกลับบ้านกันจนหมด กรกนกเดินรั้งท้ายออกมาเป็นคนสุดท้าย กรกนกหันมาล็อคร้าน และเหลือบขึ้นไปมองที่ห้องทำงานของสุพรรณิการ์ที่ชั้นบนซึ่งปิดไฟมืด กรกนกเดินมาที่หน้าร้านพลางคิดแล้วค่อยๆทรุดนั่งลงตรงมุมหนึ่ง คิดถึงเรื่องราวต่างๆ
สุพรรณิการ์บอกว่าไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันจริงๆ แต่ไม่มีอะไร เช่นเดียวกับธีธัชที่บอกว่าไม่มีอะไรกับลำเภา ภาพของวัชระที่กำลังฟีทเจอริ่งกับสุพรรณิการ์ และตอนที่ธีธัชคุยโทรศัพท์อย่างแฮปปี้ ตอนไปส่งลำเภาที่บ้าน ตอนที่ธีธํชนอนใส่เสื้อที่ไปช่วยเหลือน้ำท่วม รวมถึงรูปของลำเภาในโทรศัพท์ กรกนก คิด และตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง...ด้วยแววตาที่เด็ดเดี่ยว
กรกนกกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนถึงเช้า เจ้าหน้าที่ของกทม. กำลังทำความสะอาดถนน
กรกนกเองกำลังคิดที่จะทำความสะอาดให้กับชีวิตตัวเอง!!!

ธีธัชในชุดหล่อเดินออกมาจากห้องนอน เพื่อเตรียมตัว และทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา ก็ต้องตกใจเพราะกรกนกกำลังจะไขประตูห้องเข้ามาพอดี ต่างคนต่างตกใจ
“อ้าว”
“อุ๊ย”
กรกนกมองมาทางธีธัชแล้วก็ถามด้วยความแปลกใจ
“ธีจะไปไหนแต่เช้าคะ”
ธีธัชอึกอัก
“คือ..อ้อ..คืองี้..แหนมน่ะสิ โทร.จิกๆๆ ให้ผมไปตามหาไอ้วัชให้ได้ ผมก็เลยว่าจะไปตามหามันที่บ้านยัยเด็กบ๊องสักหน่อย”
กรกนกชะงัก เบือนหน้าหนีแล้วเดินเข้ามาในห้อง ธีธัชยังแสดงไปตามบทต่อไป
“ที่จริงผมก็ไม่อยากไปหรอก”
“ไม่อยากไป ก็ไม่ต้องไป” กรกนกสวนเพื่อลองใจ
ธีธัชสะอึกทันที
“ก็..มันไม่ได้น่ะสิ ทั้งแหนม ทั้งกริช ด่าผมเละแน่ ถ้าตามหาตัวไอ้วัชมันไม่เจอ”
กรกนกเบือนหน้าหนีอีกครั้ง
“ผมรีบไป รีบกลับนะ”
ธีธัชกำลังจะหันหลังเดินออกไป กรกนกพูดดักขึ้น
“คุณไม่คิดจะถามสักคำเหรอคะ ว่าเมื่อคืนกรหายไปไหนมา”
ธีธัหันมาตีหน้าซื่อ
“เออ..นั่นสิ.. เมื่อคืนกรไม่ได้กลับมานอนนี่ .. แล้วกรไปไหนมาเหรอ”
“ช่างเถอะค่ะ..ในเมื่อมันไม่เคยสำคัญ ก็ปล่อยให้มันไม่สำคัญต่อไป”
“อย่าบอกนะว่างอน” ธีธัชหลิ่วตามอง
“ไม่ได้งอน แต่ปลง” กรกนกตอบสียงแข็ง
ธีธัชรู้สึกเหมือนโดนด่า
“ถ้าธีอยากจะตามหาคุณวัช ไม่ต้องไปที่บ้านลำเภาหรอกค่ะ เพราะคุณวัชไม่ได้อยู่ที่นั่น”
ธีธัชขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“กรพูดยังกะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
กรกนกตอบผ่านทางใบหน้าว่า “เออ”

เช้าวันเดียวกัน วัชระยังนอนอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน หลับตาพริ้มอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง ทันใดนั้นก็มีเสียงสุพรรณิการ์ดังสนั่นหวั่นไหว
“ไอ้หื่น ตายซะเถอะ”
วัชระงัวเงียลืมตาขึ้นแล้วก็หันไปที่ต้นเสียง แล้วก็ร้องขึ้นทันที
“เฮ้ย”
สุพรรณิการ์อยู่ในชุดกระโจมอกด้วยผ้าคลุมเตียง ในมือถือเก้าอี้ที่พร้อมทุ่มลงบนเตียงพร้อมส่งเสียง
ด้วยความกราดเกรี้ยว
“แก...ตาย”
เก้าอี้ในมือสุพรรณิการ์ลอยละลิ่วมาที่วัชระ “เอ้ย” วัชระใช้สัญชาตญาณการเป็นตำรวจรีบกระโดดหลบวูบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าเสื้อกางเกงที่วางอยู่หัวเตียงติดมือมาด้วย วัชระม้วนตัวหลบวูบเข้าที่หลังตู้ เก้าอี้ตกกระทบไปที่เตียงเสียงดัง
สุพรรณิการ์ยังไม่หายโกรธ หันไปคว้าของแถวนั้นมาอีก ปาไป ด่าไป ด้วยความแค้น
“หลบทำไมหะ ไอ้ผู้ชายมักง่าย ไอ้ตัวฉวยโอกาส ไอ้สิ้นคิด ไอ้..ไอ้..โฮ้ย ไอ้เลว !! แกล่วงละเมิดทางเพศฉัน ไอ้ไม่มีสติ”
สุพรรณิการ์ตะโกนสุดเสียงด้วยความแค้น
วัชระโผล่มาจากหลังตู้ ใส่กางเกงเรียบร้อย แต่ยังติดกระดุมเสื้อไม่เสร็จ
“เฮ้ย ฉันไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอนะ เธอสมยอมต่างหาก ฉันไม่ได้ใช้กำลังแม้แต่นิดเดียว”
เสียงกรี๊ดสุพรรณิการ์ดังลั่น
“ไม่ได้สมยอม แต่ฉันเมา และ แกก็ฉวยโอกาสตอนฉันเมา!! ฉันอุตส่าห์รักษาพรหมจรรย์มาอย่างดี” ทำไม...ทำไมทำแบบนี้กับฉัน ทำไม...หะ...ทำไม” สุพรรณิการ์เริ่มน้ำตาซึม
สุพรรณิการ์ตะโกนสุดเสียงก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่ง ทั้งเสียใจ ทั้งช็อก ทั้งสับสน วุ่นวายในใจไปหมด
วัชระมองสุพรรณิการ์ด้วยความเห็นใจ วัชระเดินเข้ามาสุพรรณิการ์
“ฝ้าย”
“ออกไป” สุพรรณิการ์เสียงแข็ง
วัชระชะงักเท้า
“ฝ้าย....ผม”
“ฉัน-บอก-ให้- ออกไป” สุพรรณิการ์ย้ำเสียงอย่างดุ
“ผมขอโทษ คุณจะด่า จะประจาน หรือจะแจ้งความจับผมก็ได้ ผมยอมรับทุกข้อหา แต่เมื่อคืน..ที่ผมทำ..เพราะผมคิดว่า ความต้องการของเราสองคนเหมือนกัน”
“พอได้แล้ว ฉันไม่อยากฟัง”
“คุณไม่อยากฟัง แต่ผมอยากพูด” วัชระพูดสวนขึ้น
สุพรรณิการ์มองหน้าวัชระ ทั้งแค้น ทั้งเสียใจ
“ผมมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับคุณนะฝ้าย ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่มารู้ตัวอีกที .. คุณก็กลายเป็นผู้หญิงที่ผมคิดถึง”
สุพรรณิการ์น้ำตาจะไหล แต่พยายามกลั้นไว้ ทำเข้มแข็ง หันหน้าหนี ไม่กล้าสบตา
“ผมขอย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้ทำเพราะเมา และผมไม่ได้คิดจะฉวยโอกาส ตอนคุณเมา คุณเป็นคนพิเศษของผมนะฝ้าย”
“แต่นายมีแฟนแล้ว และกำลังจะแต่งงาน” สุพรรณิการ์พูดเสียงเข้ม
วัชระหน้าเสีย..แววความกังวลวูบกลับเข้ามาที่ใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“คุณก็รู้ว่าผมไม่อยากแต่งงานกับแหนม”
“แต่เค้ายังอยากแต่งกับนาย”
วัชระนิ่งพูดไม่ออก
“ออกไปได้แล้ว ฉันอยากอยู่คนเดียว”
“ฝ้าย” วัชระเสียงอ้อน
สุพรรณิการ์เสียงแข็ง พร้อมทำหน้าเบื่อหน่าย
“ออกไป”
วัชระหน้าจ๋อย..สุพรรณิการ์หันหน้าหนี ไม่ยอมมองหน้า วัชระจำต้องยอมรับและเดินคอตกมาที่ประตู สุพรรณิการ์นั่งเครียดอยู่ที่เดิม ไม่หันหน้ามามองวัชระแม้แต่นิดเดียว วัชระคิด..แล้วก็หันมาพูดทิ้งท้าย
“ฝ้าย..ผมจะทำให้คุณเห็น ว่าคุณเป็นคนพิเศษสำหรับผมจริงๆ”
วัชระเดินออกจากห้องไป สุพรรณิการ์นั่งเม้มปากแน่นไม่อยากจะเชื่อ วัชระเริ่มคิดหนักที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหัวใจของตัวเองแล้ว

สุพรรณิการ์ยังนั่งสับสนอยู่ที่เดิม..คิดไม่ออกว่าต้องทำยังไงต่อพลางเหลือบไปเห็นขวดเตกิล่าที่วาง
อยู่ ถึงกับอารมณ์ขึ้นทันที สุพรรณิการ์พุ่งเข้าไปคว้าขวดเหล้าโยนทิ้งลงถังขยะ
“ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย”
สุพรรณิการ์ทรุดตัวลงนั่งมองไปรอบๆของห้องที่เละเทะ แต่ร่องรอยของความสุขเมื่อคืนยังคงอยู่ สุพรรณิการ์นึกถึงตอนวัชระจูบ ความเมามายทำให้เธอเหนี่ยวคอวัชระมาหอมแก้มก่อนจะเลยเถิด คำพูดของวัชระเมื่อสักครู่แวบเข้ามาในหัว
“ผมมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับคุณนะฝ้าย ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่มารู้ตัวอีกที... คุณก็กลายเป็นผู้หญิงที่ผม... ผมขอย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้ทำเพราะเมา และผมไม่ได้คิดจะฉวยโอกาส ตอนคุณเมา คุณเป็นคนพิเศษของผมนะฝ้าย”
สุพรรณิการ์อมยิ้มนิดๆ แบบไม่รู้ตัว แล้วก็ชะงัก
“นี่เรากำลังมีความสุขเหรอเนี่ย... ซวยแล้วไอ้ฝ้าย”

สุพรรณิการ์รำพึงออกมาอย่างหน้าเสีย.... ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไนต่อไป

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 19/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์