หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 22/3

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 22/3
“ใช่..ฉันนัดกับคุณฝ้ายไว้ที่ร้าน จะปรึกษาเรื่องขออรุณศรีแต่งงาน ฉันอยากจะเซอร์ไพร์เค้า ไม่อยากขอแบบทื่อๆ เกือบถึงเวลานัดแล้ว ฉันไปก่อนนะ คุณฝ้ายรออยู่”
กริชชัยพูดจบก็เดินไปเลย ปล่อยให้วัชระกับธีธัชช็อกอยู่ในห้อง
“ไอ้กริช รอฉันด้วย แกปรึกษาฝ้าย แต่ไม่ปรึกษาฉันได้ไง ฉันไปด้วย” วัชระร้องตามทันทีเมื่อรู้สึกตัว
วัชระรีบลุกขึ้นเดินกระเผลกตามกริชชัยไป
“ใช่ ! เรื่องใหญ่ขนาดนี้..ฉันจะพลาดได้ยังไง ไอ้กริช ฉันไปด้วย”
ธีธัชรีบวิ่งพรวดนำหน้าวัชระไป
“อ้าว เฮ้ย ไอ้กริช ไอ้ธี.. รอผู้ป่วยด้วย กรรมจริงๆกู”

บ่ายคล้อยเย็นก่อนที่ธนาคารจะปิด ปรานต์นั่งรออยู่ในรถ เกียวเดินออกมาจากธนาคารพร้อมกับซองเงินในมือ ปรานต์ยิ้มกริ่ม เกียวเปิดประตูรถเข้ามา รีบหุบยิ้มทันที เปลี่ยนสีหน้าเป็นความเกรงใจ
เกียวยื่นซองให้ปรานต์
“สี่แสน รีบเอาไปใช้หนี้เดี๋ยวนี้! วันนี้! และจบไปเลยนะ เข้าใจหรือเปล่า”
“ครับพี่ ผมเป็นคนรักษาคำพูดอยู่แล้ว พี่ก็รู้ว่าผมไม่เคยหลอกพี่ มีอะไร เราก็พูดกันตรงๆ” ปรานต์รับซองมาและสร้างภาพตอแหลต่อไป
เกียวมองปรานต์เหมือนจะเชื่อ
“ก็ดี พี่ไม่ชอบคนโกหก ชีวิตพี่มีอย่างเดียวที่ยอมไม่ได้ คือ การโดนหลอก เลวซึ่งๆ หน้าแค่ไหนรับได้ แต่ถ้ามาเลวลับหลัง...พี่รับไม่ได้”
ปรานต์ยิ้มเนียนรับ
“พี่ไม่ต้องห่วง..คนอย่างผม ดีทั้งต่อหน้า และลับหลังอยู่แล้วขอบคุณครับพี่” ปรานต์หอมแก้มเกียวหนึ่งฟอด
“พี่จะกลับไปรอที่คอนโด... เรียบร้อยแล้วเจอกัน”
“ครับ” ปรานต์ยิ้มกว้าง
เกียวยิ้มรับ แล้วก็ลงจากรถไป ปรานต์ขับรถออกไปทันที เกียวยืนมองจนรถเคลื่อนไปสักพักก็รีบวิ่งไปที่รถตัวเองที่จอดอยู่ข้างๆ แล้วก็ขับตามไปอย่างเร็ว

ระหว่างที่ปรานต์ขับรถอยู่ได้หันมามองซองเงินแล้วก็ยิ้มกริ่มพลางคิด
“นังไม้กระดาน... แกได้อึ้งแน่”
ปรานต์คิดถึงฝ้ายแล้วยิ้มเยาะเย้ย อย่างสะใจ

คืนเดียวกันรถกริชชัยแล่นเข้ามาจอดที่หน้าร้านสาดสุรา กริชชัย ลงจากรถ พร้อมด้วยธีธัชและ วัชระกระเผลกๆลงมาเป็นคนสุดท้าย กริชชัยกับธีธัชเดินนำไปอย่างรวดเร็ว วัชระตะโกนขึ้น
“รอด้วยสิเว้ย”
กริชชัยหันมาทว่าไม่ได้รอวัชระ หากแต่หันมากดรีโมทล็อครถ แล้วหันกลับไปเดินต่อ วัชระเห็นแล้วอึ้ง
“ใจว่ะเพื่อน”
วัชระส่ายหน้าแล้วก็กระเผลกตามไป
รถปรานต์แล่นเข้ามา ปรานต์ปราดสายตาไปเห็นกริชชัยกำลังจะเดินเข้าไปในร้านก็ชะงัก
“ไอ้กริชชัย .. มันมาทำไมของมัน”
ปรานต์มองตามด้วยความแค้นและรีบปาดรถเข้าไปจอดทันที รถของเกียวค่อยๆขับตามเข้ามาจอดเฝ้าสังเกตการณ์ เห็นปรานต์รีบเดินถือถุงเงินเข้าไปในร้าน
เกียวคิดพลางมองไปที่ชื่อร้าน
“ทำไมมาที่นี่ สาดสุรา คุ้นๆ”
เกียวหันไปหยิบแฟ้มประวัติของอรุณศรี ที่นักสืบส่งมาให้มาดู ไล่อ่านแล้วก็เจอ
“เป็นร้านของเพื่อนสนิท สงสัยจะเป็นเจ้าหนี้”
เกียวคิด ยังพอจะเชื่อใจปรานต์อยู่บ้าง คิดว่าน่าจะเอาเงินมาให้จริง

ภายในร้านสาดสุรา ผู้คนยังไม่หนาตามาก กริชชัยเดินพรวดเข้ามา ธีธัชตามมาเป็นคนที่สอง ทั้งสองคนมองหาสุพรรณิการ์ กรกนกเดินมาต้อนรับ
“คุณฝ้ายรออยู่ที่ระเบียงด้านหลังค่ะ”
ธีธัชยิ้มกว้าง
“กร..เป็นไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”
กรกนกยังไม่ทันจะตอบ โอบบุญก็เดินเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่มในมือ โอบบุญพูดกับกรกนกอย่าง
สนิทสนม
“กรจ๋า..โต๊ะไหนจ๊ะ”
ธีธัชสะอึกนิดๆ มองหน้าโอบบุญ “กรจ๋า?” โอบบุญหันมาเห็นกริชชัย กริชชัยยกมือไหว้
“สวัสดีครับ”
“สวัสดี จะมาคุยกับฝ้ายเรื่องนั้นใช่มั้ย”
โอบบุญส่งยิ้มแบบ.. “รู้กัน” ให้กริชชัย กริชชัยยิ้มตอบเขินๆ ธีธัชมองโอบบุญและกริชชัยด้วยความงงงวยสงสัย
“ครับ”
“ตามสบายนะ จะวางแผนอะไรกันก็เชิญ ผมขอเป็นกองเชียร์อยู่ตรงนี้แล้วกัน จะได้ช่วยกรดูร้านด้วย ผมรีบไปเสิร์ฟก่อนนะ เดี๋ยวผู้จัดการดุ” โอบบุญหันมาทางกรกนกยิ้มแซวๆ
โอบบุญถือถาดเดินไป กรกนกยิ้มตามนิดๆ ธีธัชเหวอ กรกนกหันมา
“กรขอไปทำงานก่อนนะคะ”
กรกนกเหมือนจะนึกได้ถึงคำถามของธีธัชเมื่อครู่
“อ้อ..ที่ถามเมื่อกี้ กรสบายดีค่ะ ขอบคุณที่ถามนะคะ”
ธีธัชอ้าปากจะชวนคุยต่อ แต่กรกนกไม่สนใจ เดินไปทำงานต่อทันที กริชชัยกำลังจะเดินไปอีกคน ธีธัชคว้าตัวไว้
“ไอ้กริช.. คนเมื่อกี้ใครวะ ทำไมแกรู้จักด้วย แล้วเค้าเป็นอะไรกับกร”
“พี่โอบ เป็นพี่ชายอรุณศรี แล้วก็คงจะกำลังเป็นแฟนกับคุณกรมั้ง” กริชชัยตอบนิ่งๆฃ
ธีธัชอึ้งไป กริชชัยมองหน้าแล้วพูดดักคอ
“หึงเหรอ ฉันจะไปฟ้องเภา”
ธีธัชสะดุ้งโหยงขึ้นทันที
“ไอ้บ้า เล่นของสูงนะเนี่ย ไม่ได้หึงเว้ย แค่แปลกใจ”
“แล้วไป..ฉันไปคุยกับคุณฝ้ายก่อนนะ”
กริชชัยพูดจบแล้วรีบเดินออกไป ธีธัชยังยืนอยู่ที่เดิม ขณะที่ปรานต์เดินพรวดพราดเข้ามาในร้าน มองซ้ายมองขวา เห็นกริชชัยกำลังเดินเลี่ยงไปที่ระเบียง ปรานต์รีบเดินตามไป

ธีธัชยืนดูโอบบุญช่วยกรกนกทำงานอย่างขมักเขม้น ทั้งคู่ดูสมกันดี ธีธัชยิ้มๆ ด้วยความพอใจ กรกนกหันมาเห็นธีธัชยิ้มพอดีก็ยิ้มให้ และสะกิดโอบบุญที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับกระซิบกระซาบแนะนำให้รู้จักกับธีธัช
โอบบุญหันมามอง ตอนแรกเหมือนจะดุจนธีธัชหวั่นๆ เพียงครู่เดียวโอบบุญก็ยิ้มอย่างเป็นมิตร ธีธัช
ยิ้มกลับ สถานการณ์ระหว่างคู่นี้ก็ได้รับความคลี่คลายไปได้ด้วยดี ทันใดนั้นเสียงวัชระก็ดังขึ้น
“จะว่าไป..พี่โอบกับคุณกรก็สมกันดี”
ธีธัชชะงัก วัชระยืนอยู่ในตำแหน่งกริชชัย
“เฮ้ย แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วรู้จัก ได้ไง” ธีธัชพูดแล้วพยักเพยิดไปทางโอบบุญ
“ฉันกะเผลกมายืนอยู่ข้างแกตั้งนานแล้ว แกเอาแต่มองสองคนนั้นแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฉันไม่อยากขัดจังหวะ และที่ฉันรู้จักพี่โอบเพราะฝ้ายเล่าให้ฟัง พี่โอบกำลังจีบกรอยู่”
“แกก็รู้เหรอ ... นี่สรุปว่ามีฉันคนเดียวที่ไม่รู้เรื่อง”
“ตอนนี้ก็รู้แล้ว จะโวยทำไมวะ ฉันไปหาฝ้ายกับไอ้กริชก่อนนะ แกจะยืนชื่นชมต่อก็ตามใจ”
“เฮ้ย ฉันไปด้วย”
ธีธัชหันมามองกรกนกและโอบบุญที่กำลังกระหนุงกระหนิงกันอยู่ที่เคาน์เตอร์แล้วก็ยิ้มอีกทีด้วยความ
สบายใจ

ระเบียงหลังร้าน ค่อนข้างเงียบ และเป็นส่วนตัว ปรานต์แอบฟังการสนทนาอยู่ที่มุมที่ปลอดภัย กริชชัยนั่งอยู่กับสุพรรณิการ์ วัชระเดินกะเผลกมา พร้อมกับธีธัช
“ฝ้าย” วัชระเรียก
“มากับเค้าด้วยเหรอ”
“โห..ทักให้มันหวานหน่อยสิจ้ะ คนเค้าคิดถึง จนต้องหอบสังขารมาหา”
วัชระนั่งลงข้างๆ ออดอ้อนสุพรรณิการ์
“เดินมาก็เจ็บแผล เพื่อนก็ไม่รอ ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ ฝ้ายต้องปลอบใจหน่อยนะจ้ะ” วัชระทำเนียนด้วยการจับมือสุพรรณิการ์ ธีธัชกับกริชชัยถึงกับเบ้ปากหมั่นไส้
สุพรรณิการ์มองไปที่มือซึ่งวัชระจับอยู่
“จะปล่อยดีๆ หรือว่าจะให้ฉันเรียกบอดี้การ์ด”
“โห..โหดอ่ะจับมือนิดหน่อยเอง ดุจริง” วัชระรีบปล่อยอย่างนุ่มนวล
“คนเพิ่งรู้จักกัน อยู่ๆมาจับมือได้ยังไง บอกแล้วไง..ถอยไปเริ่มต้นใหม่ อย่ามาทำแกล้งลืม”
วัชระหน้าจ๋อยลงทันที
“ไม่ลืมจ้า..เฮ่อ..อ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ไม่ได้”
“เนียนไม่ขึ้นอ่ะดิ ผู้กองคงต้องเปลี่ยนมุก” ธีธัชกระซิบวัชระกวนๆ
ชระหันมาทำยิ้ม แล้วอ้อมมือมาเขกหัวธีธัชจากด้านหลังแบบไม่ให้ทันตั้งตัว โป้ก
“โอ้ย.. เถียงไม่ได้ ใช้ความรุนแรงนี่หว่” ธีธัชร้อง
วัชระยักไหล่ และยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กริชชัยกับสุพรรณิการ์ส่ายหน้า...ปรานต์หน้าเครียด
“ไอ้ห่าพวกนี้ มันเล่นอะไรของมันวะ ไร้สาระฉิบหาย”

เกียวยังคงนั่งรออยู่ในรถ ดูนาฬิกาด้วยความร้อนใจ
“ทำไมมันนานจัง” เกียวพึมพำ
เกียวหันไปดูที่หน้าร้านอีกที ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ที่ระเบียงหลังร้านสาดสุรา สุพรรณิการ์โพล่งขึ้น
“ฝ้ายว่าเราเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่าค่ะ”
กริชชัยพยักหน้าห็นด้วยแล้วหันมาสั่งทางธีธัชและวัชระ
“เรื่องที่ฉันจะคุยสำคัญมาก แกสองคนห้ามป่วน งานนี้จริงจัง ซีเรียส”
ธีธัชกับวัชระทำท่ารูดซิปปากเงียบกริบ
“คุณฝ้ายครับ..ตามที่ผมเกริ่นทางโทรศัพท์แล้วว่า..ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว และผมมั่นใจว่ามันถึงเวลาสักที...ที่ผมจะขออรุณศรีแต่งงาน”
ปรานต์ขมวดคิ้ว..เครียด..หูผึ่งรีบฟังต่อ
“ฝ้ายดีใจ ที่คุณกริชคบกับแอ๊วด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว ขนาดชื่อมันฝ้ายยังไม่อยากจะพูด วันก่อนโทร.ไปทวงเงินที่มันยืม แล้วบอกให้มันเลิกยุ่งกับแอ๊ว มันยังมีหน้าด่ากลับแล้วก็ไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น โธ่ ...ไอ้ห่วย” สุพรรณิการ์คิดแล้วแค้น
ปรานต์กัดฟันกรอด “อีนังฝ้าย” แล้วก็ฟังต่อด้วยความแค้นเช่นเดียวกัน
“อีกเหตุผลที่ทำให้ผมอยากรีบแต่งงาน ผมอยากดูแลอรุณศรีอย่างเต็มที่ ผมตั้งใจว่าแต่งแล้วจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ ผมคงไม่ขายแล้ว ที่บ้านมีคนรับใช้เก่าแก่ที่ไว้ใจได้อยู่กันหลายคน ถ้าผมไม่อยู่ก็จะมีคนคอยดูแล รับรองว่าปลอดภัย” กริชชัยพูดต่อ
ปรานต์เบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้
“พวกมึงกลัวกูขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ปรานต์พึมพำเบาๆ
สุพรรณิการ์ยิ้มดีใจแทนเพื่อน
“แอ๊วโชคดีแล้วค่ะ ที่จะได้คนดีที่รักจริงมาดูแล ต่อไปนี้แอ๊วคงจะมีความสุขสักที หลังจากตกนรกอยู่ในความทุกข์มานาน”
ปรานต์ที่ยืนแอบฟังอยู่อดคิดไม่ได้ว่า “นรก” ในความหมายของสุพรรณิการ์คงจะหมายถึงตัวเอง
“ผมไม่สนใจว่าอรุณศรีจะเคยผ่านอะไรมาบ้าง ผมรับได้ทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน ทุกข์แค่ไหน แต่นับจากนี้ไป..ผมจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด”
สุพรรณิการ์ยิ้มซาบซึ้งใจ ปรานต์กัดฟันสุดจะแค้น ทั้งอิจฉา ริษยา ปรานต์ทนฟังไม่ได้ กำเงินไว้แน่น ตัดสินใจไม่คืน แล้วรีบเดินออกไปทันที

ปรานต์เดินออกมายังหน้าร้านสาดสุรา รถเกียวยังจอดรออยู่ เกียวมองด้วยความแปลกใจ เพราะปรานต์เดินออกมาพร้อมซองเงิน หน้าตาบึ้งตึง
“ซองเงินนี่..ทำไมยังอยู่”
เกียวเริ่มเกิดคำถามอีกครั้ง ปรานต์รีบขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปอย่างเร็ว จนผิดสังเกต เกียวมองตามด้วยความแปลกใจ
“จะรีบไปไหน”
เกียวรีบออกรถตามปรานต์ออกไปทันที อารมณ์เริ่มกรุ่นๆ และเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

กริชชัยถามสุพรรณิการ์แบบตรงไปตรงมา
“ที่ผมมาวันนี้ จะมาปรึกษาเรื่องขอแต่งงาน ผมอยากทำให้อรุณศรีเค้าประทับใจ และที่สำคัญ..อยากมั่นใจสักนิดว่าเค้า...จะไม่ปฎิเสธ”
กริชชัยพูดอย่างถ่อมตัว ธีธัชและวัชระพยักหน้าเห็นด้วย สุพรรณิการ์รีบเสนอความคิด
“งั้นเดี๋ยวฝ้ายจะลองไปหยั่งเสียงแอ๊วดูให้ดีมั้ยคะ ว่าแอ๊วมันคิดยังไง ถ้ามีแนวโน้มไปทางที่ดี เราค่อยมาคิดวางแผนการขอแต่งงาน”
กริชชัยยิ้มเห็นด้วย
“ขอบคุณครับ”
สุพรรณการ์คิดๆแล้วบอกว่า
“เมื่อกี้แอ๊วเพิ่งโทร.มาบอกว่ากำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้คงใกล้จะถึงแล้ว..ฝ้ายไปหาแอ๊วตอนนี้เลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
สุพรรณิการ์ลุกพรวดพราดขึ้น
“ผมไปด้วยนะ” วัชระลุกตาม
สุพรรณิการ์หันมายิ้มแล้วพูดเสียงเข้ม
“เมื่อกี้บอกว่าเจ็บแผลไม่ใช่เหรอ อยู่เฉยๆรอนิ่งๆอยู่ที่นี่แหละ เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจจ้ะ”
วัชระนั่งลง แล้วพึมพำ
“ดุฉิบเป๋ง”
สุพรรณิการ์หันมาทางกริชชัย
“ได้เรื่องยังไง ฝ้ายจะรีบโทร.มาบอกนะคะ”
“ครับ”
สุพรรณิการ์เดินไปเลย ธีธัชหันมาถามกริชชัย
“เฮ้ย...ถ้าแอ๊วเค้าไม่อยากแต่งกับแก...แกจะทำไงวะ”

กริชชัยเริ่มคิดหนัก
รถใหม่ป้ายแดงคันที่กริชชัยให้อรุณศรีไว้ใช้ แล่นมาจอดเทียบ อรุณศรีนั่งอยู่ในรถ เสียงมือถือดังขึ้น อรุณศรีหยิบมาดู

“ปรานต์”
อรุณศรีคิดแล้วไม่รับ กดสายทิ้งทันที
ปรานต์ขับรถอยู่ถึงกับฉุนขาด
“ไม่ยอมรับสาย มีผู้ชายใหม่แล้วถีบหัวกูส่งเลยนะ”
ปรานต์กดส่งข้อความไปด้วยความแค้น อรุณศรีกำลังจะลงจากรถ เสียงข้อความเข้า อรุณศรีหยิบมาดูเห็นชื่อปรานต์ก็รูสึกเซ็งๆ แล้วตัดสินใจเปิดอ่าน
“อยู่บ้านหรือเปล่า จะเอาเงินไปคืน เรื่องระหว่างเราจะได้จบๆ”
อรุณศรีคิด...แล้วก็ตัดสินใจส่งกลับไป
“อยู่ มาได้เลย”
ปรานต์กดอ่านแล้วก็ยิ้ม ปรานต์เร่งขับรถไปอย่างรวดเร็ว
รถคันที่เกียวขับค่อนข้างทิ้งช่วงห่าง ทันใดนั้นรถปรานต์ก็เลี้ยวหายไป เกียวชะงักกึกแล้วก็จอด..เกียวมองทางซ้ายขวา
“หายไปไหนแล้ว”
เกียวพึมพำ เมื่อเกียวนิ่งมองพิจารณาเส้นทางก็นึกได้ทันที
“นี่มันทางไปบ้านผู้หญิงคนนั้นนี่”
เกียวเริ่มใจเต้นแรงขึ้นวกัดฟันกรอด
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่หรือเปล่า”
เกียวใจเต้นโครมครามแล้วขับรถไปบ้านอรุณศรีทันที

อรุณศรีลงจากรถ กำลังจะเดินเข้าบ้าน มีเสียงข้อความเข้ามาอีก อรุณศรีหยิบมากดอ่าน
“ถึงบ้านยัง กำลังจะไปหา”
อรุณศรียิ้มนิดๆ แล้วกดข้อความตอบกลับไปมือถือของสุพรรณิการ์
“ถึงแล้ว รีบมาเลย ปรานต์กำลังเอาเงินมาคืน”
สุพรรณิการ์ขับรถไปอ่านข้อความไปอย่างงงๆ คิดไม่ถึง
“ไอ้ปรานต์เนี่ยนะ เอาเงินมาคืน มุกไหนวะ”
สุพรรณิการ์นึกสังหรณ์ใจแปลกๆ แล้วก็รีบเร่งเครื่องไปอย่างเร็ว
อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 22/3
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์