หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 22/4

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 22/4
รถของปรานต์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านอรุณศรี อรุณศรียืนรออยู่ภายในรั้ว ปรานต์ลงมาจากรถแล้วก็มองรถป้ายแดงที่จอดอยู่
“รถใคร”
อรุณศรียืนกอดอกแล้วบอกปรานต์
“รถคุณกริชให้มายืมใช้”
“คงจะบริการมันถึงใจมากล่ะสิ มันถึงได้ทุ่มซื้อรถใหม่ป้ายแดงให้”
“รีบเอาเงินมาคืน และกลับไปได้แล้ว”

“อยากได้เงินนักใช่มั้ย อยู่ในรถ ไปหยิบเอาเอง” ปรานต์แค่นหัวเราะ
อรุณศรีคลายมือที่กอดอกอยู่ เริ่มอารมณ์ไม่ดี
“อย่ามาลีลานักได้มั้ย ในเมื่อเกลียดกันแล้ว ไม่อยากเจอกัน ก็รีบๆ ทำธุระให้เรียบร้อย แล้วก็รีบๆ ไปได้แล้ว”
“แอ๊วไล่ปรานต์เหรอ นี่แอ๊วเป็นเอามากขนาดนี้เลยเหรอ ปรานต์เป็นคนนะ คนที่แอ๊วเคยรักจำไม่ได้เหรอ หรือว่าเพราะเงิน มันทำให้แอ๊วลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว” ปรานต์อารมณ์เสีย อรุณศรีส่ายหน้า
“มันไม่ใช่เพราะเงิน แต่มันเป็นเพราะนิสัยเลวๆต่างหาก ที่มันลบ ความทรงจำดีๆ ไปจนหมด”
ปรานต์อึ้งในคำด่าของอรุณศรี และเริ่มบันดาลโทสะ
“เลว กล้าด่าว่าเลวใส่หน้ากันเลยเหรอ ได้...ในเมื่อคิดว่ากูเลว กูก็จะเลวให้ดู”
ปรานต์ตรงพุ่งเข้ากอดอรุณศรีพร้อมกับไซ้ที่ซอกคออย่างรุนแรง อรุณศรีดิ้นอย่างแรง
“ปรานต์จะบ้าเหรอ ปล่อยนะ ปล่อย ปล่อยสิเว้ย”
อรุณศรีดันสุดแรงจนหลุดออกมาจากอ้อมแขนของปรานต์ อรุณศรีตบหน้าปรานต์สองทีอย่างแรง ปรานต์จ้องหน้าอรุณศรีแล้วพูด
“ชอบความรุนแรง...ได้”
ปรานต์ชกเข้าที่ท้องน้อย อรุณศรีร้องด้วยความจุก
“โอ๊ย”
อรุณศรีทรุดตัวฟุบเซ หัวไปชนเข้ากับเหล็กที่รั้วอย่างแรง อรุณศรีวูบสลบไป โทรศัพท์มือถือที่อยู่ใน
กระเป๋ากระโปรงกระเด็นออกไป หล่นอยู่ที่พื้น
ปรานต์ยืนเลิกลักอยู่หนึ่งอึดใจ ปรานต์นึกถึงคำพูดของกริชชัยเมื่อครู่
“ผมไม่สนใจว่าอรุณศรีจะเคยผ่านอะไรมาบ้าง ผมรับได้ทุกอย่าง”
ปรานต์กัดฟันกรอด
“กูอยากรู้นัก...มึงจะรับได้ทุกอย่างจริงหรือเปล่า”
ปรานต์อุ้มร่างไร้สติของอรุณศรีขึ้นไปวางไว้ที่เบาะคนนั่งในรถ แล้วก็รีบปิดประตู รถของเกียวแล่นมาจอดพอดีในช่วงที่ปรานต์กำลังปิดประตูพอดี
เกียวมองเห็นแค่ว่าอรุณศรีนั่งอยู่ในรถ แต่ไม่ทันสังเกตว่าอรุณศรีสลบอยู่ เกียวแค้นใจสุดๆ
ปรานต์ขับรถแล่นออกไป เกียวกัดฟันกรอดด้วยความแค้น แล้วค่อยๆ ขับรถตามไป

รถของปรานต์ขับมาอย่างเร็ว บีบแตรไล่รถคันหน้าที่ขับช้า ความเร็วทำให้มอเตอร์ไซค์แถวนั้นต้องหลบเข้าข้างทางเป็นแถบๆ
สุพรรณิการ์ขับรถจนถึงปากซอยหน้าก่อนเข้าบ้านอรุณศรี รถของปรานต์พรวดออกจากซอยแบบไม่ระวัง ในขณะที่รถสุพรรณิการ์กำลังจะเข้าซอยบ้านไป ความเร็วของรถปรานต์ทำให้สุพรรณิการ์รีบแตะเบรกกระทันหัน พร้อมกดแตรรถดังสนั่น
“เฮ้ย ขับรถภาษาอะไรวะ พรวดพราดออกมาไม่ดูรถเลย ตาบอดปะเนี่ย” สุพรรรณิการ์โวยออกมา
สุพรรณิการ์ด่าไปก็ต้องชะงักเมื่อสายตาพลันไปสะดุดเข้ากับรถที่โผล่ออกมา
“รถไอ้ปรานต์นี่หว่า”
ปรานต์ไม่ได้สนใจใคร ไม่ทันคิดว่าเป็นรถสุพรรณิการ์ จึงรีบพุ่งตัวออกจากซอยด้วยความรีบร้อน สายตาสุพรรณิการ์มองเห็นชัดเจนว่า คนที่นั่งอยู่เบาะหลังคืออรุณศรี
“แอ๊ว”
ปรานต์ขับรถออกไปอย่างเร็ว
“แอ๊วอยู่บนรถไอ้ปรานต์ได้ยังไง ท่าไม่ดีแล้ว” สุพรรณิการ์สังหรณ์ใจ
ทันใดนั้นเอง รถของเกียวก็โผล่พรวดออกมาอีกคันด้วยความเร็วจนเกือบจะชนกันอีกรอบ เกียวบีบแตรสนั่นไม่ยอมเบรก สุพรรณิการ์ต้องเป็นฝ่ายเบรกเสียเอง
“เฮ้ย”
รถเกียวพุ่งออกจากซอยตามปรานต์ไป สุพรรณิการ์ได้แต่ส่ายหน้า
“เฮ้ย คนแถวนี้ขับรถภาษาไรว้า”
สุพรรณิการ์รีบออกรถตามรถปรานต์ไปทันที

กริชชัยคุยโทรศัพท์ด้วยหน้าตาตื่น ที่ด้านนอกร้านสาดสุรา
“ตอนนี้คุณฝ้ายอยู่ที่ไหนแล้วครับ... ครับๆ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่กริชชัยวางสายไป ธีธัชกับวัชระหันมามองกริชชัยด้วยความแปลกใจระคนสงสัย วัชระรีบถาม
“เกิดอะไรขึ้นวะ”
“เรื่องมันยาวเดี๋ยวค่อยเล่า ตอนนี้ฉันต้องรีบไปช่วยอรุณศรีก่อน”
กริชชัยพูดจบก็รีบเดินพรวดพราดออกไปเลย
“เฮ้ย” ธีธัชกับวัชระร้องขึ้นพร้อมกัน
“เอาไงวะ” ธีธัชถาม
“ไป ไอ้กริชรอด้วย” วัชระตะโกนพร้อมกับรีบกระเผลกตามไป
“ไอ้กริช ฉันไปด้วย” ธีธัชกับวัชระตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“มาฉันช่วย” ธีธัชหันมาพยุงกึ่งลากวัชระไปอย่างทุลักทุเล

รถปรานต์ยังขับนำอยู่ด้วยความร้อนรุ่มใจ อรุณศรียังนอนสลบอยู่ ปรานต์ยิ้มร้ายด้วยความสะใจ รถของเกียวขับตามมา สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความโกรธ โทสะ และความหึงหวงที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด เกียวกัดกรามแน่น
“มันจะไปไหนของมัน”
รถฝ้ายตามมาห่างๆ แต่ความเร็วทำให้คลาดกัน สุพรรณิการ์พยายามจะโทร.เข้ามือถืออรุณศรีแต่
ไมมีคนรับ
“ทำไมแอ๊วมันไม่รับวะ”
สุพรรณิการ์ขับตามไปด้วยความเป็นห่วง โทรศัพท์มือถือดังขึ้น สุพรรณิการ์รีบหยิบมาดู ทีแรกนึกว่าอรุณศรีแต่ไม่ใช่
“ตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแล้ว”
วัชระคุยโทรศัพท์ในขณะที่กริชชัยเป็นคนขับและธีธัชนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“พุทธมณฑลแล้ว แล้วฝ้ายอยู่ไหน สถานการณ์เป็นไงบ้างแล้ว “
สุพรรณิการ์ขับรถไปคุยไป
“ไม่ค่อยดี ติดต่อแอ๊วไม่ได้ โทร.ไปไม่ยอมรับ และเมื่อกี้ที่เห็นเหมือนแอ๊วมันนั่งท่าแปลกๆ ไม่รู้ว่ามันโดนโปะยาสลบแล้วลากขึ้นรถหรือเปล่า เพราะปกติมันไม่น่าจะยอมไปด้วย แล้วไอ้ปรานต์มันก็ขับเร็วมากเลย ตามไม่ค่อยทัน ตอนนี้ฉันอยู่ที่บางกรวย รีบตามมาก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน”
“ได้ ฝ้าย ระวังตัวด้วย” วัชระวางสายไป
“ ฝ้ายว่าไงบ้าง” กริชชัยรีบถามทันทีเมื่อวัชระวางสายจากสุพรรณิการ์
“ฝ้ายว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี” วัชระตอบเสียงเครียดๆ
กริชชัยฟังแค่นั้นก็เหยียบรถพุ่งไปอย่างเร็วด้วยความเป็นห่วง วัชระกับธีธัชถึงกับร้องเสียงหลง
“เฮ้ย” วัชระและธีธัชร้องเสียงหลง

ถนนสายเปลี่ยวมุมหนึ่ง รถปรานต์แล่นมาด้วยความเร็ว ห่างออกไปเป็นรถเกียวตามมาไม่ใกล้มาก ถนนหลังรถเกียว..ว่างเปล่า ไม่มีรถสุพรรณิการ์

บนถนนอีกมุมหนึ่งเห็นรถสุพรรณิการ์ขับช้าๆ สุพรรณิการ์เริ่มใจเสียเพ่งมองไปข้างหน้า ไม่เห็นรถปรานต์แล้ว
“มันหายไปไหนแล้ววะเนี่ย..ซวยแล้วทำไงดี” สุพรรณิการ์บ่นกับตัวเอง และรีบโทร.หาวัชระทันที
“วัช...รถไอ้ปรานต์หายไปแล้ว ฝ้ายตามไม่ทัน ทำไงดี”
วัชระคิด
“โอเคฝ้ายใจเย็นๆ จำลักษณะรถกับทะเบียนได้หรือเปล่า โอเคๆ”
วัชระหันไปบอกธีธัชให้หยิบกระดาษปากกา ธีธัชงง
“จะไปหาที่ไหนวะ”
ชั่วอึดใจ ธีธัชก็นึกได้ หยิบมือถือขึ้นมากด
“โอเค บอกมาเลย”
ธีธัชกดข้อความเก็บไว้อย่างชำนาญ
“โอเค..ผมจะลองโทร.ให้เพื่อนสายตรวจเช็กทะเบียนให้ เพื่อจะมีคนเห็น”
วัชระวางสายไปแล้วหันมาทางกริชชัย พร้อมกับหยิบมือถือธีธัชมาดูข้อความที่พิมพ์ไว้
“ฝ้ายตามไม่ทัน รถแฟนเก่าแอ๊วหายไปแล้ว เดี๋ยวฉันจะโทร.ให้เพื่อนช่วยเช็กตามด่านให้”
วัชระรีบกดโทรศัพท์ทันที
“มันจะพาอรุณศรีไปไหน มันพามาแถวนี้ทำไม”
ทันใดนั้นธีธัชก็โพล่งขึ้นอย่างคนชำนาญในศึกรักมาก่อน
“ม่านรูด”
วัชระกดมือถือค้าง กริชชัยปรายตามา ธีธัชพูดต่อ
“แถวนี้มีม่านรูดอยู่ที่นึง เงียบใช้ได้เลย เป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย มีห้องหลายแบบให้เลือก ราคาแพงหน่อย แต่ปลอดภัยสุดๆ”
“แกรู้ได้ไงวะ” กริชชัยถาม
“พาสาวมาบ่อยอ่ะดิ” วัชระแซว
“บ้าเหรอ...ฉันแค่ขับรถผ่าน ไม่เคยเข๊า” ธีธัชเสียงสูง
“ไม่เชื่อ” วัชระและกริชชัยพูดขึ้นพร้อมกัน
ธีธัชสะดุ้งแล้วก็ทำเสียงจริงจัง
“เออๆ ไม่เชื่อก็ตามใจ ตกลงพวกแกจะลองไปดูหรือเปล่าล่ะ มันอยู่ใกล้ๆแถวนี้แหละ ไม่ถึงห้านาทีก็ถึงแล้ว”
ธีธัชทำหงุดหงิดกลบเกลื่อน กริชชัยกับวัชระมองหน้ากันว่าเหมือนจะถามว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี กริชชัยโพล่งขึ้น
“ลองไปดู อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนแกก็โทร.บอกเพื่อนที่ด่านให้เค้าเช็กให้ด้วย”
“ได้” วัชระรีบกดโทร.ออกทันที
ธีธัชรีบบอกทางกริชชัย
“ตรงไป เลี้ยวขวา”
กริชชัยรีบเร่งเครื่องไปอย่างเร็ว

ทันใดนั้นรถของปรานต์ก็เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด เกียวช็อก..มองดูรถปรานต์เลี้ยวเข้าม่านรูดด้วยความโกรธอย่างแรง
“ม่านรูด”
เกียวกัดฟันกรอด แล้วก็หักรถเลี้ยวตามเข้าไปทันที
ในโรงแรมม่านรูด รถของปรานต์แล่นเข้าซองห้องพัก รถเกียวแล่นเข้าทันเห็นพอดี ปรานต์รีบลงจากรถจะวิ่งหาอรุณศรีที่ยังสลบอยู่อีกฝั่ง พนักงานเข้ามาขอเก็บตังค์ก่อน ปรานต์หันรีหันขวางแล้วก็หันไปเปิดประตูรถแล้วหยิบซองเงินของเกียวออกมา ควักให้พนักงานเป็นค่าโรงแรม เกียวเห็นเข้าพอดีถึงกับหน้าตาแดงก่ำด้วยความแค้น น้ำตาแทบร่วง
“มึงเอาเงินกูจ่ายค่าโรงแรมเนี่ยนะ”
เกียวกัดฟันกรอด เจ้าหน้าที่ได้เงินแล้วรีบรูดม่านปิด รถเกียวยังจอดซุ่มอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของโรงแรม เกียวนั่งหน้าเครียด นึกถึงคำพูดหลอกลวงต่างๆนานาๆของปรานต์ ทั้งที่บอกว่าไม่มีอะไรกัน ไม่อยากจะไปหา อรุณศรี
เป็นคนไม่ดี ต่างๆนานาสารพัด รวมถึงภาพที่เกียวกับปรานต์ที่รักกัน ตอนปรานต์ออดอ้อนสารพัด และตอนให้เงิน ทั้งสองแสนและสี่แสน แทรกเข้ามาในความคิด
เกียวปาดน้ำตาที่ซึมออกมาด้วยความเสียใจ แล้วก็เชิดหน้าขึ้น .. ความเสียใจหายไปความโกรธ เกลียด
เข้ามาแทน เกียวหันไปมองที่ลิ้นชักหน้ารถ ด้วยแววตาโหดเหี้ยม
รถกริชชัยแล่นเข้ามา ในโรงแรมม่านรูด วัชระ กริชชัยขณะที่ยังอยู่บนรถมองไปรอบๆแล้วก็คิด
“แล้วจะรู้ได้ยังไงวะ ว่ามันพาอรุณศรีมาที่นี่จริงหรือเปล่า” กริชชัยถาม
“เออนั่นดิ” วัชระสนับสนุน
“ก็วนดูสักรอบ ถ้าไม่มีอะไรน่าสงสัยก็ไปต่อ” ธีธัชเสนอความเห็น
กริชชัยพยักหน้าเห็นด้วย
“ไปทางไหน”
“ไปทางขวา...แถบนั้นจะเงียบหน่อย”
กริชชัยกับวัชระถึงกับปรายตามมองมาที่ธีธัช
“เนี่ยนะ...ไม่เคยมา”
ธีธัชลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่ได้ยิน

ปรานต์เปิดประตูห้องพักในโรงแรมม่านรูดเข้ามา พร้อมกับลากตัวอรุณศรีเข้ามาด้วย อรุณศรีเริ่มสะลึมสะลือ แต่เจ็บหัวมาก ปรานต์ยิ้มร้ายและรีบถอดเสื้อตัวเอง
ปรานต์กำลังจะโถมตัวลงบนตัวอรุณศรี แต่นึกได้ ยันตัวขึ้น และล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เตรียมจะ
ถ่ายคลิป ปรานต์ยิ้มด้วยความสะใจ
เกียวเปิดประตูลงจากรถแล้วก็เดินดิ่งๆไปที่ห้องพักของปรานต์ พร้อมกับกระเป๋าถือ ที่มีปืนซ่อนอยู่ รถกริชชัยแล่นเข้ามาเห็นเกียวพอดี กริชชัยเพ่งมองด้วยความตกใจ
“ฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้”
“ใครวะ”
“แฟนใหม่ของแฟนเก่าอรุณศรี”
วัชระกับธีธัชต้องคิดทวบอีกรอบ
“แฟนใหม่ของแฟนเก่า” วัชระและธีธัชพึมพำแล้วร้องขึ้นมาพร้อมกัน
“เฮ้ย”
“มันพาอรุณศรีมาที่นี่ ชัวร์” กริชชัยฟันธง
กริชชัยรีบพุ่งรถไปทันที
ภายในห้องพักของโรงแรมม่านรูด อรุณศรียังคงนอนสะลึมสะลือ ปรานต์ยืนค่อมเตรียมถ่ายคลิปพร้อมกับเตรียมจะถอดเสื้อผ้าอรุณศรี
“ไอ้บื้อ อย่างแกรอรับของเหลือเดนจากฉันก็แล้วกัน”
ปรานต์ยิ้มอย่างสะใจ อรุณศรีมึนๆ พยายามจะดึงสติคืนกลับมา
เกียวเดินมาหยุดที่หน้าห้องพร้อมกับกระเป๋าถือ..
เกียวถือกระเป๋าหน้าแดงกล่ำไปด้วยความโกรธเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง รถกริชชัยมาจอดเทียบที่ข้างๆรถเกียว กริชชัยรีบลงมา วัชระและธีธัชรีบลงตาม
“แกเห็นหรือเปล่าว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้เดินไปห้องไหน”
“ไม่เห็นว่ะ” ธีธัชบอก
“ฉันจะไปดูทางโน้น แกสองคนไปดูทางนี้” วัชระบอก
กริชชัยกับธีธัชพยักหน้ารับ ทั้งสามคนกระจายกำลังกันออกตามหา เจ้าหน้าที่ม่านรูดเดินมา วัชระโชว์บัตรตำรวจให้ดู เจ้าหน้าเห็นท่าไม่ดี ก็รีบวิ่งหนีหลบไป กริชชัยวิ่งแหวกม่านดูรถข้างในด้วยความร้อนใจ

ขณะนั้นปรานต์ยังคร่อมอยู่บนตัวอรุณศรี ถ่ายคลิปพร้อมกับค่อยๆ ปลดกระดุม เกียวเอื้อมมือมาจับลูกบิด และบิดเพื่อจะเปิด แต่ห้องล็อกอยู่ เกียวควักปืนออกมาจากกระเป๋าถือ และยิงที่ประตูหนึ่งนัดอย่างดัง ปัง!!

ปรานต์ตกใจร้องออกมาอย่างลืมตัว
“เฮ้ย”
ปรานต์หันขวับมาที่ประตูทันที กริชชัยได้ยินเสียงปืนถึงกับหน้าเหวอ
“อรุณศรี”
กริชชัยรีบวิ่งไปที่ห้องต้นเสียงทันที วัชระและธีธัชรีบวิ่งตามไป
ประตูห้องเปิดออกอย่างแรง เกียวเดินเข้ามาพร้อมกับปืนในมือ และใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วย
ความโกรธ ปรานต์เปลือยอก คร่อมอยู่บนตัวอรุณศรี เกียวยกปืนขึ้นเล็งมาที่ปรานต์
ปรานต์ถึงกับหน้าซีดด้วยความตกใจ
“พี่เกียว..ผมอธิบายได้นะพี่..ฟังผมก่อน”
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าโกหก..ฉันไม่ใช่อีโง่ที่จะมาให้ผู้ชายอย่างแกมาหลอก ไอ้ชั่ว” เกียวน้ำตาร่วงทั้งเสียใจ โกรธ และเกลียด
เกียวกดยิงปรานต์อย่างไร้สติ กระสุนพุ่งเข้าที่หน้าอก ปรานต์ร้องลั่น
“อ๊าก”

ร่างของปรานต์กระเด็นไปทรุดลงที่ข้างเตียง
---------จบตอนที่ 22 -------------
อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 22/4
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์