หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23
เกียวเลือดขึ้นหน้าหันกระบอกปืนมาหาอรุณศรีกะจะยิงให้ตายทั้งสองคน อรุณศรียังสะลึมสะลืออยู่อย่างนั้น เกียวกำลังจะเหนี่ยวไก

ทันใดนั้นกริชชัยก็พุ่งเข้าประกบตัวเกียวอย่างแรง ปืนในมือเกียวกระเด็นไป ธีธัชรีบวิ่งเข้าไปเก็บปืน วัชระรีบเข้ามาช่วยกริชชัยรวบตัวเกียวไว้
“ปล่อยฉัน ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อย พวกแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน”
“ฉันดูแลทางนี้เอง”

กริชชัยปล่อยเกียวให้วัชระ วัชระพยายามจะลากตัวเกียวออกไป
“ปล่อยฉัน ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อย ปรานต์ ปรานต์ ทำไมปรานต์ทำกับพี่แบบนี้..ทำไม...ทำมาย” เกียวเสียงลั่นและร้องไห้อย่างเสียสติ
กริชชัยรีบพุ่งไปหาอรุณศรี ในขณะที่ธีธัชเดินมาดูปรานต์ที่นอนอยู่ข้างๆเตียง
“อรุณศรี อรุณศรี อรุณศรี”
อรุณศรีสะลึมสะลือมึนๆ กริชชัยจับหน้า และจับศรีษะถึงได้เห็นว่ามีเลือดไหลซึมๆออกมา
กริชชัยหันมาทางธีธัชที่นั่งอยู่ข้างๆ เตียง ติดกับร่างของปรานต์
“ฉันรีบพาอรุณศรีไปโรงพยาบาลก่อน”
“เออ เรียกรถเก็บศพมาด้วยก็ดี”
กริชชัยตกใจ..เหลือบไปเห็นปรานต์นอนอยู่ ธีธัชส่ายหน้า
“คาที่ว่ะ”
ธีธัชค่อยๆลุกขึ้น และเดินออกไป กริชชัยลุกจากเตียงมายืนข้างๆปรานต์และค่อยๆทรุดตัวลงนั่งและเอื้อมมือมาปิดตาที่เบิกโพลง ก่อนจะลุกขึ้นและอุ้มอรุณศรีเดินออกไป
ปรานต์นอนแน่นิ่ง..จบสิ้นแล้วซึ่งความโลภและความริษยาทั้งปวง

อรุณศรีนอนหลับอยู่บนเตียงในห้องพักคนไข้ของโรงพยาบาล อรุณศรีค่อยๆ ตาลืมขึ้น มองเห็นสุพรรณิการ์และกริชชัยที่ยืนอยู่ข้างเตียง อรุณศรียันตัวขึ้นมองด้วยความงุนงง กริชชัยรีบปรับเบาะให้สูงมารองรับหลังอรุณศรี
“เกิดอะไรขึ้น..มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
สุพรรณิการ์กับกริชชัยมมองหน้ากัน สุพรรณิการ์พยักหน้าเป็นทำนองว่าจะเป็นคนเล่าเอง กริชชัยหันมาทางอรุณศรี
“คุณฝ้ายจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟัง ผมขอตัวไปบอกคุณหมอว่าคุณรู้สึกตัวแล้ว”
กริชชัยเดินออกไป อรุณศรีหันมาทางสุพรรณิการ์ด้วยความงุนงง
“ฝ้าย...มันเกิดอะไรขึ้น”

สุพรรณิการ์เริ่มต้นเล่าเรื่องให้อรุณศรีฟังจนถึงเหตุการณ์สุดท้าย ปากของสุพรรณิการ์ขยับ แต่ไม่มีเสียง
“ปรานต์ตายแล้ว”
อรุณศรีช็อก อึ้ง พูดไม่ออก ก่อนจะค่อยๆ ถอนหายใจออกมาเบาๆ

บริเวณเมรุเผาศพภายในวัดแห่งนั้น อรุณศรี สุพรรณิการ์ กริชชัย และโอบบุญยืนอยู่ที่หน้าเมรุ มีรูปปรานต์วางอยู่ ทุกคนอยู่ในอาการสงบ อรุณศรีเป็นคนแรกทีเดินไปวางดอกไม้จันทน์
“ไปดีนะปรานต์ .. เราไม่มีอะไรติดค้างกัน แอ๊วอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง”
สุพรรณิการ์เดินมาเป็นคนที่สอง
“สี่แสนของฉัน..ฉันยกให้”
ปิดท้ายด้วยโอบบุญ และกริชชัย ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ได้แต่มองอย่างสงบ สำรวม และโล่งใจ
เจ้าหน้าที่ปิดที่วางดอกไม้จันทน์และเผาอย่างรวดเร็ว เรียบง่าย ควันลอยพวยพุ่งจากกล่องเมรุออกมาอย่างช้าๆ...เป็นการจากลาที่เงียบงัน ....

หลายวัดถัดมา ที่บริเวณหน้าวัด สุพรรณิการ์ยืนรอที่รถอยู่กับโอบบุญ อรุณศรีเดินคุยมากับกริชชัย
“ตลอดเวลาที่รู้จักกับปรานต์ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆ เค้าเป็นคนยังไง เค้าพูดอะไรฉันก็เชื่อไปหมด .. แม้แต่วันสุดท้ายที่เค้าบอกว่าจะเอามาคืนฝ้าย ฉันก็ยังเชื่อ ฉันนี่โง่จริงๆ”
“มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ .. ง. งู มักจะมาก่อน ฉ.ฉิ่งเสมอ” กริชชัยปลอบใจ
อรุณศรีหยุดเดินและหันมาถามด้วยความสงสัย
“อะไรคะ ง.งูมาก่อน ฉ.ฉิ่ง”
“คนเราก็ต้อง “โง่” มาก่อน แล้วความ “ฉลาด” จะตามมา” กริชชัยตอบยิ้มๆ
“โห..แอบมีมุกกับด้วยนะคะเนี่ย” อรุณศรีหัวเราะขำ
“ก็จำเค้ามาอีกที” กริชชัยขำตาม
“ฮ่าๆ นึกว่าคิดเอง” อรุณศรีหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม
โอบบุญมองกริชชัยและอรุณศรีที่กำลังคุยกันอย่างอารมณ์ดีแล้วก็ยิ้มตาม สุพรรณิการ์หันมาโอบบุญ
“ฝ้ายว่า..พี่โอบไม่ต้องห่วงแอ๊วแล้วหล่ะค่ะ .. บอกเรื่องนั้นได้เลย”
โอบบุญพยักหน้านิดๆเห็นด้วย
“พี่ตั้งใจว่า..จะบอกวันพรุ่งนี้”
สุพรรณิการ์พยักหน้ารับ
“ไอ้แอ๊วมันคงรับได้อยู่แล้วค่ะ..ไม่ต้องห่วง”
สุพรรณิการ์พูดด้วยความมั่นใจ

วันต่อมา อรุณศรีกับโอบบุญคุยกันอยู่ในบ้าน อรุณศรีถึงกับขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
“พี่โอบจะไปญี่ปุ่น”
โอบบุญตอบไปและเริ่มเก็บของเอาหนังสือทำอาหารใส่กล่อง
“ใช่ ร้านสาขาที่ญี่ปุ่นเค้าขาดเชฟอาหารไทย เจ้านายก็เลยส่งพี่ไปประจำสี่ปี”
อรุณศรีตาโต
“สี่ปี แล้วพี่โอบจะไปเมื่อไหร่”
“จันทร์หน้า”
“จันทร์หน้า นี่มันอีกไม่กี่วันเองนะ”
“ใช่”
“ทำไมมันเร็วนักล่ะ แล้วพี่โอบก็ตัดสินใจไปแบบไม่ปรึกษาน้องเนี่ยนะ”
“ก็น้องไม่ใช่แม่นี่เว้ย แล้วน้องก็โตจนจะมี .. สามี ได้แล้ว ฉันก็เลยไม่มีอะไรต้องห่วง”
“อ้าว ทิ้งกันง่ายๆเนี่ยนะ”
“ไม่ได้ทิ้ง แต่ที่ตัดสินใจไปง่ายๆก็เพราะเห็นว่า.. มีคนที่พร้อมจะดูแลน้องสาวได้เป็นอย่างดี ก็เลยคิดว่า..ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” โอบบุญพูดแล้วยิ้มให้กับอรุณศรี
อรุณศรียังยืนอยู่ที่เดิม..มองดูชั้นหนังสือที่ว่างเปล่า แล้วก็ใจหาย...
“พี่โอบจะไปจริงๆเหรอเนี่ย”
อรุณศรีหน้าจ๋อยๆ

ภายในบ้านเนตรนภัส นรีวรรณอยู่ในชุดราตรีหรู นรีวรรณกึ่งๆ ออกคำสั่ง
“พี่แหนม...ต้องไปกับนุ้ย”
เนตรนภัสยังคงอยู่ในชุดอยู่บ้าน หน้าตาไม่ได้แต่ง
“ปงานผู้ปกครองเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ พี่ไม่อยากไป”
“แต่พี่แหนมไม่ได้ออกจากบ้านมาเป็นเดือนแล้วนะ อยู่แต่ในบ้านจนตัวจะเหลืองหมดแล้ว”
“แล้วงานเลี้ยงผู้ปกครองมันน่าไปตรงไหน น่าเบื่อจะได้ ทำไมไม่ให้คุณแม่ไป”
สีรุ้งเดินเข้ามาในชุดราตรีหรูอีกเช่นกัน
“แม่ก็ต้องไปงานเลี้ยงรุ่นของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ช่วงต้นปีงานสังคมชุกมาก แม่สลับร่างออกงานแทบไม่ทัน แหนมไปแทนแม่หน่อยแล้วกันนะลูกนะ ไปเป็นเพื่อนน้อง เพื่อนน้องๆ แหนมก็รู้จัก จะได้สนุกกับน้องๆไงลูก”
เนตรนภัสคิดหนัก
“ไปเถอะนะพี่แหนม..นุ้ยควงพี่แหนมไปงานต้องมีแต่คนสนใจแน่ๆ เพราะนุ้ยมีพี่สาวสวย ควงไปด้วย น้องก็ภูมิใจ นะๆพี่แหนมนะ แต่งตัวสวยๆแล้วไปกับนุ้ยนะ”
นรีวรรณออดอ้อนอย่างน่ารัก เนตรนภัสมองแล้วก็ใจอ่อน ยิ้มนิดๆ
“ก็ได้..แต่พี่แต่งตัวนานนะ สองชั่วโมงรอได้หรือเปล่า”
“สบายมาก แต่งให้สวยๆเลยนะ นานแค่ไหนก็รอ”
เนตรนภัสลุกขึ้นพลางยิ้มตอบ
“โอเค ได้เวลาสวยแล้ว”
“เย้ๆ พี่แหนมสู้ๆ”
สีรุ้งมองแล้วก็ยิ้มๆตาม
เนตรนภัสกำลังจะลุกเดินออกไปแต่งตัว ได้หันกลับมาพูดกับนรีวรรณอีกครั้ง
“นุ้ย ขอบใจมากนะ”
เนตรนภัสขอบใจจากใจจริง น้ำตาซึมๆด้วยความซึ้งใจ นรีวรรณยิ้มรับ เนตรนภัสเดินออกไป สีรุ้งเดินมาโอบไหล่นรีวรรณ สีรุ้งยิ้มมีความสุข

ในงานเลี้ยงของโรงเรียนอินเตอร์ จัดขึ้นในห้องประชุมเล็กๆ มีเด็กจับกลุ่มคุยกันอยู่หนึ่งกลุ่ม อีกกลุ่มเป็นผู้ปกครองและครูยืนคุยกันอยู่ เนตรนภัสและนรีวรรณยืนอยู่กลางห้อง เนตรนภัสแต่งตัวสวยเก๋
“พี่แหนมรอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวนุ้ยไปสำรวจของกินก่อน”
เนตรนภัสพยักหน้า นรีวรรณรีบเดินไป เนตรนภัสเดินมาที่นั่งที่โต๊ะในมุมหนึ่งที่ค่อนข้างสงบ ไม่วุ่นวาย
เนตรนภัสนั่งมองผู้คนไปรอบๆ หน้าตาเบื่อๆเล็กน้อย สักพัก “มาร์ค” ชาวต่างชาติหน้าตาดี อายุมากกว่าเนตรนภัสบุคลิกดูภูมิฐาน ก็เดินเข้ามาทักทายชวนเนตรนภัสพูดคุย
“เบื่อมั้ยครับ”
เนตรนภัสหันไป แล้วก็ตอบตรงๆ
“นิดหน่อยค่ะ ยังไม่มาก”
“มาเป็นเพื่อนน้องสาวเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“คุณใจดีจัง ทนเบื่อ เพื่อน้องสาว”
“ครั้งแรกในชีวิตเหมือนกันค่ะ เมื่อก่อนเกลียดกันจะตาย ด่ากันทุกวัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนชวนให้ตายก็อย่าหวังเลยว่าจะมาเป็นเพื่อน” เนตรนภัสยิ้ม
มาร์คทำหน้าเหวอ เนตรนภัสหันมาเห็นพอดี
“ขอโทษนะคะที่พูดตรงไปหน่อย แค่ไม่อยากสร้างภาพน่ะค่ะ”
มาร์คคิดแล้วจึงยื่นมือมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“ โอเค๊…ก็ดีครับ ผมชื่อ มาร์ค”
“แหนมค่ะ”
“ผมรู้จัก “แหนม” เปรี้ยวๆ อร่อยดีครับ ผมชอบ”
เนตรนภัสยิ้มรับนิดๆ มาร์คมองเนตรนภัสแล้วก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“ถ้ามีโอกาสเราคงจะได้ไปทานอาหารด้วยกันสักครั้ง นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของผมครับ .. ยินดีที่ได้รู้จักครับ” มาร์คพูดแล้วยื่นนามบัตรให้
เนตรนภัสมองนามบัตรแล้วก็รับไว้ด้วยความแปลกใจ
นรีวรรณรีบวิ่งเข้ามาหาเนตรนภัสพร้อมกับแก้วน้ำในมือ
“พี่แหนมๆ...พี่มาร์คเค้ามาคุยกับพี่แหนมเหรอ”
“นุ้ยรู้จักเค้าด้วยเหรอ”
“รู้จักสิ พี่มาร์คดังจะตาย เป็นพี่ชายของเพื่อนนุ้ยเอง ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยังเก่งอีกต่างหาก สาวๆไฮโซรุมจับตรึม แต่พี่มาร์คไม่ค่อยสนใจ แล้วเมื่อกี้เค้าเข้ามาคุยอะไรกับพี่แหนมมั่ง”
“ก็ให้เบอร์ แล้วก็ชวนไปกินข้าว”
“ถามจริง! แจ๋วอ่ะพี่แหนม พี่มาร์คเค้าไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ เพื่อนนุ้ยบอกผู้หญิงมาอ่อยถึงบ้าน ยังไม่สนเลย แสดงว่าเค้าต้องชอบพี่แหนมจริงๆเลยอ่ะ..โทร.เลยๆๆ คนนี้นุ้ยเชียร์”
เนตรนภัสฟังแล้วก็คิด ก้มลงดูนามบัตร แล้วก็ตัดสินใจเดินไปหามาร์ค นรีวรรณยิ้มกว้าง ร้อง “เยส”

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์