หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23/2

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23/2
มาร์คกำลังคุยกับอาจารย์ในโรงเรียน เนตรนภัสเดินเข้ามาและพูดกับมาร์คอย่างสุภาพ
“ขอโทษนะคะ ขอเวลาสักครู่ได้มั้ยคะ”
มาร์คยิ้มรับ และหันไปขอตัวกับอาจารย์ ก่อนจะหันมาทางเนตรนภัส
เนตรนภัสพูดยิ้มๆตรงๆ

“ฉันขอบคุณที่คุณมีน้ำใจชวนไปทานข้าวด้วยกัน แต่ฉัน คิดว่า..มันจะดีกว่าถ้าคุณเป็นฝ่ายโทร.มาหาเอง ฉันขอคืน และต้องขอโทษด้วยนะคะ” เนตรนภัสพูดพลางคืนนามบัตรให้
“แล้วเบอร์ของคุณคืออะไร”
“ลองใช้ความพยายามหาดูนะคะ ถ้าคุณอยากเจอกับฉันจริงๆ มันคงไม่ยากเกินไปสำหรับคุณ”
เนตรนภัสยิ้มท้าทาย มาร์คยิ้มรับ ชอบใจ
“ได้ครับ..ผมจะลองดู”
“อ้อ..แล้วถ้าเราได้ไปทานข้าวกันจริงๆ ฉันต้องพาน้องสาวกับแม่ฉันไปด้วยนะคะ .. ฉันต้องบอกไว้ก่อน เผื่อคุณจะเปลี่ยนใจ”
เนตรนภัสพูดอย่างสุภาพ มาร์คยิ้มรับและตอบอย่างสุภาพเช่นกัน
“ผมไม่เปลี่ยนใจแน่นอน..และผมจะทำทุกอย่างเพื่อเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น”
เนตรนภัสฟังแล้ยิ้มออกมา ทว่าป็นรอยยิ้มที่สงบ มีสติ และไม่คาดหวัง ชีวิตของเนตรนภัสกำลังจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

เนตรนภัสนึกถึงคำคมของนักเขียนฝรั่งเศส วิคเตอร์ ฮิวโก้
“Le bonheur supr?me de la vie est la conviction d'?tre aim? pour soi-m?me, ou plus exactement, d'?tre aim? en d?pit de soi-m?me."

“ความสุขสูงสุดของชีวิต คือ การได้รับความรัก และการถูกรักโดยไม่มีเงื่อนไข”

บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นวันนั้น ธีธัชนั่งเหงื่อตกจนต้องแอบปาดเหงื่อเป็นระยะอยู่ในบ้านจามจุรี เสียงจามจุรีดังขึ้น
“รอนิดรอหน่อย เหงื่อตกเลยหรือไง”
ธีธัชสะดุ้งโหยง ลุกพรวดขึ้น
“ปละ..ปละ..เปล่าครับ”
จามจุรีเดินมากับลำเภา จามจุรีมองหน้าธีธัช ลำเภารีบแนะนำ
“แม่ฉันเอง”
“สวัสดีครับ” ธีธัชรีบยกมือไหว้ จามจุรีรับไหว้
“แม่คะ..นี่..ธีธัชค่ะ”
“ชื่อเพราะดี แปลว่าอะไร”
จามจุรี กับลำเภา นั่งประจำที่บนโต๊ะอาหาร ธีธัชยังยืนรายงานเหมือนคุยกับครู
“แปลว่า..ผู้มีปัญญาเป็นธงชัยครับ”
“เหรอ..แล้วจริงๆ น่ะ มีมั้ย ปัญญา..สมองน่ะ มีหรือเปล่า”
ธีธัชถึงกับหน้าเสียเล็กน้อย
“ก็...ไม่เยอะมาก แต่ก็พอมีอยู่บ้างครับ” ธีธัชพูดแล้วยิ้มแห้งๆ
ลำเภาพยักหน้าบอกให้นั่ง ธีธัชมองหน้าแล้วก็รีบนั่งลง จามจุรีพยักหน้าให้ลำเภา ตักข้าว ลำเภาหันไปหยิบหม้อข้าวจะมาตัก ธีธัชรีบเสนอตัว
“ผมตักให้เอง”
เสียงจามจุรีแทรกขึ้น
“ไม่ต้อง..เธอเป็นแขกอยู่เฉยๆ ให้เภาเค้าทำ เธอ..ต้องคุยกับฉัน”
ธีธัชรีบหดมือกลับแล้วก็ตอบอย่างเจียมตัว
“ครับ”
ธีธัชทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยม ตัวลีบ ถอดลายเสือไปอย่างราบคาบ ลำเภาตักข้าวไปแอบมองไปแล้วก็อมยิ้มนิดๆ
เป็นต่อกับพอใจนั่งเฝ้าให้กำลังใจอยู่หน้าห้อง มองแล้วก็ส่ายหน้าประมาณว่า “ไม่น่ารอด” เป็นต่อถึงกับเอามือปิดหน้า..ไม่กล้ามองเพราะเรื่องนี้มันหวาดเสียว

ลำเภาตักข้าวใส่จานให้ธีธัช ธีธัชเงยหน้ามองแล้วยิ้มให้
“ขอบใจจ้ะ”
ลำเภายังไม่ทันจะทำอะไร เสียงจามจุรีก็ดังเข้ามา
“พ่อแม่ของเธอเป็นใคร ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน”
ธีธัชสะดุ้งนิดๆ หันมาทางจามจุรี แล้วก็ตอบทีละคำถาม
“คุณพ่อคุณแม่ผมเคยมีร้านขายอะไหล่รถอยู่ในเวิ้ง แถวบ้านหม้อ แต่ตอนนี้ท่านเสียแล้ว ผมก็เลยขายกิจการให้น้าๆที่เค้าอยากทำต่อน่ะครับ”
“ขายทำไม ทำไมไม่ทำต่อ” จามจุรีคุยไปกินไป
ลำเภาหันมามองหน้าจามจุรี แล้วก็หันมาฟังคำตอบจากธีธัช
“คือ..ผมไม่ชอบทำงานค้าขายพวกอะไหล่น่ะครับ”
“แล้วชอบทำงานอะไร ตอนนี้ทำอะไรอยู่”
ธีธัชอึดอัดนิดๆกับคำถามจามจุรี
“คือ .. ตอนนี้ผมก็มีลงทุนทำร้านอาหารกับเพื่อนๆบ้าง แต่งานหลักๆคือ ดูแลพวกอพาร์ทเม้นท์ ห้องพัก คอนโด บ้านเช่า ที่พ่อแม่เคยซื้อไว้น่ะครับ”
“กินสมบัติเก่าของพ่อแม่ว่าอย่างนั้นเถอะ”
ธีธัชสะอึกขณะที่กำลังจะตักอาหารเข้าปาก
“ก็..ทำนองนั้นน่ะครับ”
ธีธัชหน้าจ๋อยอย่างแรงที่หน้าที่การงานไม่น่าอวดเอาซะเลย ลำเภามองด้วยความสงสาร
เป็นต่อกับพอใจถึงกับคอตกเมื่อเห็นธีธัช “โดนชุดใหญ่”

จามจุรีมองหน้าธีธัชแล้วก็ซักต่อ
“เธอนี่..หน้าตาดีนะ”
“ขอบคุ...” ธีธัชยังพูดไม่ทันจบ
“ในชีวิต มีแฟนมากี่คนแล้ว”
ธีธัชสะอึกเพราะนับไม่ถูกเลย ลำเภามองหน้า..
“เยอะจนนับไม่ถูกเลยล่ะสิ”
“ก็.. ทำนองนั้นล่ะครับ” ธีธัชยิ้มแห้งอีกครั้ง
“แล้วคิดยังไง ถึงได้มาคบกับลำเภา”
“คิดอยากจะหยุดน่ะครับ” ธีธัชมองหน้าลำเภาแล้วก็ตอบอย่างจริงใจ
ลำเภาถึงกับอึ้ง..สองคนมองหน้ากัน เหมือนบรรยากาศจะหวาน ทว่าจามจุรีก็โพล่งแทรกขึ้นอีก
“ขี้โม้”
จามจุรีพูดต่อ
“ปากทำเป็นพูดว่าหยุด .. หยุดได้จริงหรือเปล่า ไม่ใช่ง่ายๆนะ”
“เมื่อก่อนใช่ครับ..แต่ตอนนี้ไม่ยากแล้ว”
“มั่นใจ”
“ครับ” ธีธัชตอบอย่างมั่นใจ
“ทำไม”
“ผมชอบของแปลกครับ”
ลำเภาหันขวับมาทางธีธัช
“แปลกๆ อยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อ ผมว่าเภาเนี่ยแปลกสุดแล้ว ผมคงหาแปลกกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ”
“ชมใช่ป่ะเนี่ย” ลำเภาพูด
“ชมจ้ะ” ธีธัชยิ้มทะเล้น
“แล้วไป”
ธีธัชกับลำเภายิ้มให้กัน จามจุรีมองเห็นก็เข้าใจได้ทันทีว่าคงไม่รอดแน่ จามจุรีจึงพูดขึ้น
“ถ้ามั่นใจแบบนั้นก็ฟังเอาไว้ ฉันมีลูกคนเดียว คงไม่ต้องให้บอก..ว่าฉันรักเค้ามากแค่ไหน”
ลำเภามองหน้าจามจุรีด้วยความซาบซึ้ง ธีธัชตั้งใจฟัง
“แค่กินข้าวกันวันเดียวมันยังดูไม่ออกหรอก.. ถ้าคุณจริงใจ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่ถ้าคิดจะมาเล่นๆ ก็ไปซะ มาทางไหน ก็ไปทางนั้น เข้าใจหรือเปล่า”
ลำเภาหันมาทางธีธัช รอฟังคำตอบ
“เข้าใจครับ” ธีธัชตอบอย่างหนักแน่น
ลำเภาอมยิ้มนิดๆ ด้วยความโล่งอก ถ้าจามจุรีพูดแบบนี้แสดงว่าให้โอกาส ธีธัชและลำเภามองตากัน
อย่างมีความสุข

เป็นต่อกับพอใจถอนหายใจเบาๆ แล้วก็หันมาเห่าใส่กันคิกคัก
“ก่อนจะไป..หันไปทักคุณพ่อ ที่โน่นหน่อย” จามจุรีชี้มาที่กล้องวิดีโอที่แอบตั้งไว้ ธีธีชมองตามอย่างงงๆ

“คุณพ่อ” ธีธัชหันมาเห็นกล้องวิดีโอ แล้วถามเภาเบาๆ
“พ่อเธอ..เป็นกล้องวิดีโอเหรอ”
“บ้าเหรอ..พอดีตอนนี้พ่อไปประชุมที่เมืองนอก แม่เค้าก็เลยถ่ายวิดีโอไว้ให้พ่อดูน่ะ”
“ถามจริง”
“ตอบตรง กล้องอยู่ทางโน้น ยิ้มทักทายหน่อย”
จามจุรียิ้มแฉ่ง ลำเภายิ้มตามและโบกมืออีกต่างหาก
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
ธีธัชพึมพำแล้วยิ้มๆขำๆ บ้าจี้ยกมือไหว้ตาม
“สรุป แปลกทั้งบ้าน สวัสดีครับคุณพ่อ”
ทั้งลำเภา ธีธัช และจามจุรี ทักทายโบกมืออย่างสนุกสนาน

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์