หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23/5

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23/5
สุพรรณิการ์นั่งลุ้น ๆ อยู่ในร้าน ในใจยังแอบกังวล และทันใดนั้นเนตรนภัสก็เดินมาหา
“ฉันคุยธุระเรียบร้อยแล้ว”
สุพรรณิการ์หันมา
“เธอทำให้วัชมีความสุขขึ้นมาก..ฉันไม่เห็นเค้ามีความสุขแบบนี้มานานแล้ว”
เนตรนภัสพูดหน้านิ่งๆ สุพรรณิการ์มองหน้าไม่แน่ใจว่าเนตรนภัสมาด้วยอารมณ์ไหน และเนตรนภัสก็ยิ้มออกมา

“ขอให้โชคดี”
สุพรรณิการ์ยิ้มตาม เนตรนภัสพูดจบแล้วก็เดินไป สุพรรณิการ์ยังยืนงงๆอยู่ที่เดิม..สักพักวัชระก็เดินมายืนข้างๆ สุพรรณิการ์หันมามองหน้า..แล้วก็ยิ้ม วัชระถามด้วยความแปลกใจ
“ไม่อยากรู้เหรอว่าแหนมมาคุยอะไร”
“ถ้าอยากเล่า ก็จะฟัง แต่ถ้าไม่อยากเล่า ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันไว้ใจคุณ”
วัชระยิ้มชอบใจ แล้วค่อยๆดึงมือสุพรรณิการ์มากุมไว้อย่างอุ่นใจ ทั้งคู่..อยู่ท่ามกลางผู้คน แสงไฟ และความวุ่นวายในความมืดเป็นความสวยงามที่แทรกอยู่อย่างลงตัว ยิ่งรู้จักสุพรรณิการ์ วัชระยิ่งมั่นใจว่าเค้าเลือกคนไม่ผิด

เช้าวันสองวันต่อมา กรกนกเก็บของใส่กระเป๋า หันมาหยิบพาสปอร์ตเตรียมตัวเดินทาง
ทันใดนั้นธีธัชก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา
“กร”
กรกนกหันมา ธีธัชรีบเดินเข้ามาหา
“ไอ้กริชมันเพิ่งบอกผมเรื่องที่กรจดทะเบียน แล้วก็กำลังจะไปญี่ปุ่น ทำไมกรไม่โทร.บอกผมสักคำ”
“ไม่คิดว่าธีจะสนใจนี่คะ”
“โธ่...เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผมต้องสนใจสิ แล้วนี่ทำไมตัดสินใจรวดเร็วแบบนี้ ท้องเหรอ” ธีธัชพูดพลางยื่นหน้าเข้ามาถาม
“บ้าเหรอ กรยังไม่เคยนอนกับเค้า ธีธัชตัวจริง คิดแต่เรื่องแบบนี้”
“อ้าว...ก็มันจะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ”
“โอบเค้าถูกส่งไปทำงานที่ญี่ปุ่น เอาภรรยาตามไปได้ พอจดทะเบียนปุ๊บ ก็มีคนทำวีซ่าให้ได้เลย กรก็เลยตัดสินใจไปแบบไม่ต้องคิดมาก”
“แล้วงาน แล้วชีวิตที่นี่ กรไม่เสียดายเหรอ”
“ธี มีใครบ้างได้ทุกอย่าง มันก็ต้องสละไปบ้าง”
“เค้าต้องเป็นคนดีมากๆ กรถึงได้ยอมสละมากขนาดนี้”
“เค้าดี...ที่เค้ารักกรมาก เค้าดี..ที่เค้าไม่สนใจอดีตของกร เท่านี้มันก็ดีมากพอแล้วล่ะค่ะ”
ธีธัชมองกรกนกแล้วก็ยิ้มออกมานิดๆ
“ดีใจด้วยนะกร ถ้าคุณคิดดีแล้ว ผมก็ขอให้คุณมีความสุขกับทุกสิ่งที่คุณได้เลือกแล้ว”
“ธีก็เหมือนกัน ขอให้มีความสุขมากๆกับ “คน” ที่ธีได้เลือกแล้ว..โชคดี”
กรกนกยิ้มลา และหันมาลากกระเป๋าไป ธีธัชรีบเข้ามาช่วย
“ผมช่วย”
กรกนกยิ้มและส่งกระเป๋าให้ ทั้งสองคนเดินออกจากห้องไป .ธีธัชยกกระเป๋าไปส่งในฐานะเพื่อนที่แสนดี..

โอบบุญยืนอยู่พร้อมสัมภาระพร้อมโหลดขึ้นเครื่องภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อรุณศรียืนหน้าทำหน้าจ๋อยๆ
“แกอย่าบอกนะว่าจะร้องไห้”
อรุณศรีน้ำตาร่วงทันทีหลังจากโดนทัก โอบบุญรีบดึงน้องสาวเข้ามากอด
“ไอ้บ้า อย่าร้องสิเว้ย เดี๋ยวฉันก็ร้องด้วยเลย ร้องไห้ตอนนี้เดี๋ยวคุณกรมาเห็น เสียแมนหมด”
“โอเค..ไม่ร้องก็ได้” อรุณศรีขำแล้วรีบปาดน้ำตา พยายามยิ้ม
โอบบุญคลายกอด แล้วก็มองหน้าอรุณศรี
“ฉันอยู่ญี่ปุ่น บินแค่หกชั่วโมงก็เจอกันแล้วเร็วกว่าขับรถขึ้นแม่ฮ่องสอนอีก แกจะไปหาฉันเมื่อไหร่ก็ได้ ร้องไห้ทำไมเนี่ย”
“ก็มันใจหายนี่..ต่อไปนี้ ฉันก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีพี่ทำกับข้าวให้กินด้วย”
“ไม่อยากอยู่คนเดียวก็..หาคนมาอยู่ด้วยดิ”
โอบบุญพูดเป็นนัยๆ อรุณศรีมองหน้า ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร
“เออ ตอนนี้เรื่องปรานต์ก็เรียบร้อยไปแล้ว อย่าลืมเอารถไปคืนเจ้านายด้วยล่ะ เกรงใจเค้า” โอบบุญทำเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง
“รู้แล้วน่า..ว่าจะเอาไปคืนวันนี้แหละ ภารกิจสุดท้ายก็ขับรถมาส่งพี่โอบไง ออกจากสนามบินก็ว่าจะไปหาคุณกริช เอารถคืนเลย”
“ดีมาก! ทำถูกต้องแล้ว รีบไปเลยนะ ไม่ต้องแวะที่อื่น” โอบบุญหน้าตาดีใจสุดๆ
“ขนาดนั้นเลย มีอะไรในใจหรือเปล่าเนี่ย”
โอบบุญชะงักรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่มี ก็แค่เป็นห่วงแค่นั้นเอง”
ทันใดนั้นเสียงข้อความเข้ามือถือโอบบุญดังขึ้น โอบบุญรีบหยิบมาอ่าน
โอบบุญเงยหน้าบอกอรุณศรี
“คุณกรมาแล้ว เดี๋ยวพี่ไปรับเค้าก่อนนะ ส่วนเรา..กลับไปได้เลย ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ดูแลเอง”
“อ้าว.ไล่เลยงี้”
“เออดิ หญิงมาแล้ว น้องก็กลับไปได้”
“โห..คนเรา”
“แล้วอย่าลืมรีบเอารถไปคืนเจ้าของเค้าด้วยรู้เปล่า”
“รู้น่า”
“ไปล่ะ” โอบบุญยกมือลาอรุณศรี
อรุณศรียกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะพี่โอบ”
โอบบุญยิ้มรับ แล้วก็รีบเข็นรถไปอย่างรวดเร็ว อรุณศรีมองตามพี่ชาย ใจหายแว่บ โอบบุญแอบหันมามองเห็นว่าอรุณศรีเดินไปแล้ว ก็รีบกดโทรศัทพ์โทร.ออก
“ทุกอย่างเรียบร้อย .. ขอให้โชคดี ผมฝากน้องสาวด้วย”
โอบบุญวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอย่างมีความสุข

เสียงออดดังขึ้นที่หน้าห้องของกริชชัย อรุณศรียืนรออยู่ข้างนอก ในมือถือกุญแจรถเตรียมจะคืน..อรุณศรีเห็นไม่มีเสียงตอบ สักพักก็กดออดอีกที เงียบอีก..
อรุณศรีกำลังจะกดอีกครั้ง แต่เหลือบไปเห็นว่าประตูถูกเปิดค้างไว้อยู่ ขณะนิ่งคิด..จู่ๆก็มีข้อความเข้า อรุณศรีกดอ่าน ข้อความที่มือถือขึ้นว่า “เข้าไปเลย”
อรุณศรีค่อยๆ เปิดประตูเดินเข้ามา..ตกตะลึงไปกับห้องที่เปลี่ยนไป ที่เหมือนกับที่เธอเคยเข้ามาในห้องนี้เมื่อครั้งที่มีปาร์ตี้ บัดนี้ห้องถูกเนรมิตกลายเป็นแกลลอรี่เล็กๆ มีภาพวาดของกริชชัยแสดงโชว์อยู่
รูปทั้งหมดเป็นภาพอรุณศรีในอิริยาบถต่างๆ ที่ถ่ายทอดผ่านมุมมองของกริชชัย เริ่มตั้งแต่เจอกันวันแรกที่เธอวิ่งไล่เก็บภาพวาดของเขาในสวน อรุณศรีเดินเข้ามาดูแล้วถึงกับอึ้งไป ไล่มองไปทีละภาพ
ภาพที่นอรุณศรีวิ่งเก็บภาพ ภาพตอนฝนตก และกริชชัยเข้ามาพร้อมร่ม ภาพเธอกินก๋วยเตี๋ยว
อรุณศรีเดินตามมาดูรูปต่อไป ราวกับโดนสะกด ทุกภาพล้วนมาจากเหตุการณ์จริงๆ จนมาถึงรูปสุดท้ายคือ รูปเธอใส่ชุดสวยและออกงานพร้อมกับเขา ในงานเปิดตัวนาฬิกาเมื่อไม่นาน
ระหว่างที่อรุณศรีตะลึงค้างอยู่ด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้นเสียงกริชชัยก็ดังขึ้น
“ต้องขอโทษด้วย ถ้าบางรูป ผมวาดได้ไม่สวยเท่าตัวจริง”
อรุณศรีค่อยๆหันมา....กริชชัยยืนอย่างหล่ออยู่ข้างหลัง
“เอ่อ..” อรุณศณีอึกอักด้วยความอาย
“ฉันเอากุญแจรถมาคืนค่ะ” อรุณศรีบอกต่อ
“ขอบคุณครับ”
กริชชัยรับกุญแจมาแล้วถามอรุณศรีต่อ
“คุณชอบรูปพวกนี้หรือเปล่า”
“ชอบค่ะ..ชอบมาก.. ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณชอบวาดรูป คุณวาดรูปตอนฉันเก็บภาพที่มันปลิวลงมาจากตึก หรือว่า .. รูปที่ปลิวลงมา”
“ผมเป็นคนวาดเอง”
อรุณศรีร้อง “อ๋อ” ออกมา
“วันนั้นเป็นวันที่ผมเจอคุณครั้งแรก และผมก็ตกหลุมรักคุณตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา” กริชชัยพูดตรงๆ ซื่อๆ
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ “
“ผมว่าอาจจะมากกว่านั้นนิดหน่อย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมอยากอยู่ใกล้ๆคุณ คอยดูแล คอยปกป้อง และทำให้คุณมีความสุข”
อรุณศรียิ่งฟังกริชชัยก็ยิ่งอึ้ง
“คุณคงพอจะรู้ว่าผมเป็นคนทื่อๆ ตรงๆ ประดิษฐ์คำพูดไม่ค่อยเป็น ผมพยายามจะหาคำเก๋ๆ เท่ๆ แล้ว แต่มันไม่มีคำไหนที่มันจะดีไปกว่าคำว่าผมรักคุณ”
อรุณศรีถึงกับน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้ง
“มันเป็นคำที่ปรากฎขึ้นมาในสมอง ทุกครั้งที่คิดถึงคุณ คุณคือผู้หญิงที่ผมอยากดูแลไปตลอดชีวิต ถ้าคุณไม่รังเกียจที่จะมีผมเป็นคนดูแล”
กริชชัยจับมืออรุณศรีและพูดออกมาจากใจ
“แต่งงานกับผมนะ” กริชชัยพูดต่อจนจบประโยค
อรุณศรีน้ำตาซึมๆด้วยความประทับใจ อรุณศรีตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ถ้าคุณคิดว่าฉันมีค่ามากขนาดนั้น...ฉันก็ไม่รังเกียจค่ะ”
“คุณมีค่าสำหรับผมเสมอ” กริชชัยพูดพลางยิ้มกว้างและค่อยๆดึงอรุณศรีเข้ามากอด...สองคนยืนกอดกันอยู่ท่ามกลางภาพชีวิตของอรุณศรีที่กริชชัยใช้ใจวาดขึ้นมามากมาย

และไม่นานหลังจากนั้นภายในคอนโดเดียวกัน ธีธัชกับวัชระถึงกับร้องขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจกับข่าวดีของเพื่อน
“อรุณศรียอมแต่งงาน”
กริชชัยนั่งเลือกแหวนอยู่ ข้างหน้ามีกล่องแหวนวางอยู่ เกือบ 10 กล่อง กริชชัยเงยหน้ามาตอบ
“เออ ฉันกำลังเลือกแหวนแล้วก็เตรียมงาน ป้าจามจุรีหาฤกษ์ให้ได้เดือนหน้า”
สองหนุ่มตกใจหนักขึ้นไปอีก
“เดือนหน้า”
“ทำไมเร็วแบบนี้วะ”
“ไม่กลัวคนอื่นคิดว่าท้องก่อนแต่งเหรอ”
กริชชัยส่ายหน้าในความไร้สาระแล้วก็เลือกแหวนต่อ
“ถ้าฉันจะขอฝ้ายแต่งงานตอนนี้จะทันมั้ยวะ” วัชระโพล่งออกมา
ธีธัชหันขวับมาทางวัชระ
“แล้วทำไมแกต้องแต่งพร้อมไอ้กริชด้วย”
“ก็ฝ้ายกับแอ๊วเค้าเป็นเพื่อนสนิทกัน จิตวิทยาหมู่น่ะ พอเพื่อนแต่ง เค้าอาจจะอยากแต่งด้วย ถ้าฉันขอตอนนี้มีสิทธิ์ตอบตกลงสูงมาก ฉันรีบหาวิธีขอแต่งงานดีกว่า ไอ้กริช ทำไว้ซะหวานเลย น้อยหน้าไม่ได้” วัชระบอก
“ฉันคิดออกแล้ว” ธีธัชเริ่มหวั่นใจและโพล่งออกมา
วัชระกับกริชชัยหันขวับมา
“แกคิดอะไรออก”
“วิธีขอแต่งงานกับเภา”
“เฮ้ย แกเนี่ยนะจะแต่งงานกับเภา” วัชระโพล่งออกมา
“เออดิเว้ย ฉันบอกแล้วว่าฉันจริงจัง แล้วฉันก็เห็นด้วยกับแก เภากับไอ้กริชสนิทกัน เภาเห็นไอ้กริชแต่งงานอาจจะอยากแต่งด้วย ฉันขอตอนนี้ดีที่สุด”
กริชชัยส่ายหน้าอีก
“แกสองคนนี่มันบ้าจริงๆ ลอกกันเห็นๆ”
“เออ แล้วแกจะขอเภายังไง บอกมาดิ เผื่อฉันจะลอกบ้าง” วัชระบอก
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่รับรองว่า....เซอร์ไพรส์”

ธีธัชว่า และเริ่มหัวเราะเจ้าเล่ห์เหมือนลำเภา “หึหึหึ”
เช้าวันต่อมาที่บ้านจามจุรีบรรยากาศแสนสดใส ลำเภายังคงตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวอย่างสบายอารมณ์ ระหว่างแต่งตัวลำเภาจามติดๆ กัน 2 ที

“มีใครนินทาอยู่หรือเปล่าเนี่ย”
ลำเภารู้สึกเหมือนผิดกลิ่น ทำจมูกฟุดฟิด แล้วก็เดินมาที่ระเบียงเพื่อเปิดม่าน ทันใดนั้นเองลำเภาก็ต้องตื่นตะลึงเพราะสนามหน้าบ้านถูกเนรมิตให้กลายเป็นละครสัตว์ขนาดย่อมๆ มีน้องหมาวิ่งเล่นไปมา กระโดดลอดห่วง มีคนแต่งชุดตัวตลกเล่นกับสัตว์ดูบรรยากาศสนุกสนานสุดๆ เสียงดนตรีคาลนิวัล ลำเภามองด้วยความตื่นตะลึง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
ลำเภายิ้มอย่างมีความสุข เดินเข้ามาในสนามที่เต็มไปด้วยน้องหมาที่แต่งตัวแฟนซี ลำเภาเดินมาถามคนที่แต่งตัวชุดตลก
“คุณคะ…นี่มันอะไรกันคะ”
ตัวตลกไม่คุยด้วยเอาแต่เดินหนี ลำเภางงร้อง “อ้าว”
ลำเภาจะเดินไปถามอีกคน ทันใดนั้นดนตรีคาลนิวัลก็หยุด เปลี่ยนแนวเพลง ดนตรีถูกบรรเลงด้วยท่วงทำนองแสนหวานก็ดังขึ้นมาแทน ลำเภาชะงัก บรรดาเหล่าน้องหมาเริ่มมาตั้งแถว..และเปิดตัว เป็นต่อกับพอใจในชุดราตรี และชุดสูทเท่ซะไม่มี ลำเภาหันมาเห็นก็ยิ้มตื่นเต้น
“เป็นต่อ พอใจ”
เป็นต่อกับพอใจเดินเข้ามาหาลำเภา ตัวหนึ่งมีช่อดอกไม้เอามาให้ อีกตัวหนึ่งมีกล่องแหวนมัดไว้ที่หัว
ตัวที่มีดอกไม้เดินมาถึงก็เห่าให้หยิบ ลำเภาหยิบดอกไม้มาดู
ช่อดอกไม้มีการ์ดเขียนไว้ว่า
“แต่งงานกับผมนะเภา ถ้าคุณโอเคหยิบแหวนที่อยู่บนหัวพอใจมาใส่ ผมจะได้รู้ว่าเราใจตรงกัน”
ลำเภายิ้มตื่นเต้น
“ฝีมือนายหมาใหญ่เหรอเนี่ย ทำซะหวานเลี่ยนเลยนะ”
ลำเภาทำเป็นประชด แต่แอบอมยิ้มชอบใจ ลำเภามองหาธีธัช แต่ไม่เห็น

ธีธัชแอบลุ้นอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน จู่ๆจามจุรีก็โผล่มาแล้วก็โพล่งขึ้น
“ระวังจะแห้วนะ ลงทุนไปตั้งเยอะ เสียดายตังค์แย่” จามจุรีบอก
ธีธัชสะอึก หันขวับมาจามจุรี
“โธ่ คุณแม่คร้าบ..ไม่ให้กำลังใจกันเลย”
จามจุรียักไหล่ทำหน้ามึนใส่
“ก็พูดความจริง อารมณ์ลำเภาเหมือนคนธรรมดาซะที่ไหน ชีวิตนี้จะอยากแต่งงานหรือเปล่าหรอก”
จามจุรีพูดจนธีธัชหน้าเสีย ธีธัชรีบหันไปลุ้นต่อ

อ่านสามหนุ่มเนื้อทอง ตอนที่ 23/5
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์