หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านมุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 5/2

อ่านมุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 5/2
แมงมุมขับรถพุ่งมาอย่างเร็วแต่จู่ๆ ก็มีรถจะออกถอยมาขวาง แมงมุมเบรกเอี๊ยด แล้วถอยหลังจะเลี้ยวไปอีกทาง

คมกฤชตามมารีบกระโดดขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่อง ในขณะที่อีกมือหยิบปืนที่อยู่ในรถ
แมงมุมถอยหลังจนเจอทางแยก จึงรีบหักเลี้ยวจะออก แต่รถคมกฤชมาขวางไว้ แมงมุมชักปืนยิง คมกฤชถอยรถหนี แมงมุมมองแล้วพุ่งรถเข้าใส่ทันที

จังหวะนั้นคมกฤชถอยรถเพื่อล่อให้แมงมุมตามมา พอถึงทางแยกคมกฤชก็หยุดรถ แมงมุมพุ่งรถตามมา
คมกฤชรอจังหวะให้แมงมุมเข้ามาใกล้ แล้วชักปืนยิงออกไปกระสุนโดนไหล่ขวาแมงมุมอย่างจัง จนรถแมงมุมปัดไปกระแทกกรวยกั้นบนถนนแล้วจอดนิ่ง คมกฤชรีบเปิดประตูถือปืนวิ่งลงไปที่รถแมงมุมทันที แต่แมงมุมพุ่งออกจากประตูอีกด้านแล้ววิ่งหนี คมกฤชวิ่งตาม

ยามที่เห็นเหตุการณ์วิ่งมาขวางแมงมุมไว้ แต่ถูกแมงมุมยิงปืนใส่จนยามหนีกระเจิง แมงมุมกระโดดข้ามไม้กั้น โดยที่คมกฤชวิ่งตามไปติดๆ
แมงมุมเปิดประตูขึ้นแท็กซี่ที่วิ่งเข้ามาจอดเอาปืนขู่ บังคับให้แท็กซี่รีบขับออกไป คมกฤชกับยามวิ่งตามมาแต่ไม่ทันแล้ว

ที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์ บรรดาพนักงานในกองบรรณาธิการกำลังวุ่นวายไปหมด สมพลกับบรรพตมีสีหน้าเครียด ในขณะที่รุจานั่งอยู่ที่โต๊ะให้ปากคำกับตำรวจอยู่
บรรพตถามตำรวจเสียงดัง
“จับตัวคนร้ายที่ยิงลูกสาวฉันได้หรือยัง”

ภายในห้องของภูผา แมงมุมกัดผ้าแน่น แผลถูกยิงที่ไหล่ขวามีเลือดไหลทะลัก ขุนพลเอาแอลกอฮอล์ราดลงไปบนแผล แมงมุมตัวสั่นด้วยความแสบแล้วกัดผ้าแน่นขึ้นอีก
บลูถือมีดผ่าตัดอยู่ใกล้ๆ เธอมองแผลแล้วกรีดมีดลงเนื้อ แมงมุมดิ้นพราดปากกัดผ้าแน่น ภูผายืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่
จังหวะหนึ่งบลูหยิบปากคีบล้วงลงไปในแผลที่ถูกยิง แมงมุมดิ้น ขุนพลเอามือกดหัวแมงมุมไว้ไม่ให้ดิ้น ในที่สุดบลูก็คีบกระสุนติดเลือดออกมาทิ้งลงในถาด แมงมุมหายใจแรง
ขุนพลเอายาราดแผล บลูจัดการเย็บอย่างคล่องแคล่ว แมงมุมกัดผ้าแน่นด้วยแววตาเจ็บใจ

ส่วนที่สำนักงานกองบก.นิวส์ไทม์ รุจามองพ่ออยู่โดยมีสมพลนั่งใกล้ๆ คอยเป็นกำลังใจ
“ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องมาทำข่าว” บรรพตสั่งลูกสาว
“พ่อคะ หนูอยากทำงาน หนูไม่กลัว เรายอมแพ้พวกอำนาจเถื่อนไม่ได้นะคะพ่อ เราต้องจับมันมาลงโทษ”
“วันนี้คุณคมกฤชช่วยหนูไว้ได้ แต่คราวหน้าหนูอาจจะไม่มีคนอยู่ข้างๆ” สมพลบอก
“ติดต่อคุณคมกฤชด้วย ว่าฉันอยากขอบใจเค้า” บรรพตหันไปบอกสมพล
“พ่อคะ ขอหนูทำข่าวนี้ต่อเถอะนะคะ”
บรรพตยกมือห้าม
“หยุด พ่อไม่อนุญาต กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ สมพล เรียกหัวหน้าข่าวอาชญากรรมมาประชุมที่ห้องฉัน”
“ครับ นาย”
“พ่อคะ พ่อ”
“พ่อมีลูกสาวคนเดียว”
บรรพตเดินเข้าห้องไปทันที รุจามีสีหน้าผิดหวัง
“อาเข้าใจความมุ่งมั่นของหนู แต่อาก็เข้าใจความรักของพ่อหนูด้วย เพราะอาก็เป็นพ่อคนนึง” สมพลปลอบ
“บก.คะ หนูไม่อยากหนี หนูอยากปิดข่าวนี้ด้วยตัวเอง”
“ใจเย็นๆ รอสักพัก เดี๋ยวอาจะช่วยพูดให้”
พูดจบสมพลก็เดินเข้าไปในห้องบรรพต รุจามองตามอย่างท้อแท้

ณ สะพานกลางกรุงเทพฯ ที่มีไฟติดระยิบระยับ มองไปเห็นวิวอันสวยงามของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน คมกฤชกำลังยืนเครียด โดยมีมุกดาที่มองอย่างรู้อารมณ์พี่ชาย
“พวกมันจะปิดปากรุจา ไม่ได้ขู่ แต่เอาถึงตาย”
“พี่กฤชห่วงรุจาแบบคนรักหรือเปล่า” มุกดาถาม
“เปล่า พี่กำลังคิดว่าคดีอะดอเรลลามันลากคนเข้ามาเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ลองกล้ายิงลูกสาวเจ้าของหนังสือพิมพ์ เรื่องไม่เงียบหายแน่ๆ”

ในห้องของภูผา ภูผาเดินมามองแมงมุมที่กำลังนอนเจ็บโดยมีผ้าพันอยู่ที่ไหล่ขวา ภูผาหันมาเจอบลูที่กำลังพิงประตูมองอยู่
“ตอนนี้แค่เงินไม่พอแล้ว” บลูบอก “เอาพาสปอร์ตมาด้วย เราอยู่ที่นี่ไม่ได้”

ภูผายืนคุยมือถือกับชายลึกลับอยู่ที่ระเบียงคอนโด เขาพูดเสียงเข้มและมีสีหน้าไม่พอใจ
“ผมจะไม่ทำตามแผนอะไรของคุณอีก จนกว่าจะได้เงิน”

ขุนพลส่งยาแก้อักเสบให้แมงมุม แมงมุมโยนยาใส่ปากแล้วพิงหัวนอนลงไปบนตักบลู ภูผาเดินเข้ามา ขุนพลมองแล้วโวยขึ้น
“ไม่จ่ายเหมือนเดิมอีกล่ะสิ สงสัยมันจะรอจนพวกเราตายไปทีละคน”
“ไอ้คนจ้าง มันเป็นใคร ฉันจะเอากระสุนไปฝังในกบาลมัน” บลูโกรธ
“เค้าจ่าย” ภูผาพูดเรียบๆ
แมงมุมลืมตามองทันที ทุกคนมองภูผา
“ค่าจ้างงวดแรก คือราคาเพชรรอบๆ อะดอเรลลา เราแกะไปขายได้เลย”

บ่ายวันใหม่ ภายในห้องโรงแรมเก่าโทรมแห่งหนึ่ง เพชรรอบๆอะดอเรลลานับสิบเม็ดบรรจุอยู่ในกล่อง เสี่ยติ่งกำลังวางให้ลูกค้าผู้หญิง แต่งตัวดีคนหนึ่ง
“ของร้อน ราคาพิเศษ” เสี่ยติ่งบอก
ลูกค้าหญิงหยิบกล้องขึ้นส่อง ตรวจดูเพชร
“เชื่อใจเสี่ยติ่งได้ เดี๋ยวคิดราคากันเอง”
ลูกค้ายังส่องหมุนไปหมุนมาอย่างใจเย็น แต่เสี่ยติ่งลุกลี้ลุกลน ดึงเพชรกลับมาทำท่าจะปิดกระเป๋า
“จะดูอะไรนักหนา คนอื่นรออยู่ ไม่ขายแล้ว”
เสี่ยติ่งลุกขึ้นจะเอาเพชรไป พอเปิดประตู ธีรพัฒน์กับพวกก็เดินเข้ามา
“เฮ้ย โจร” เสี่ยติ่งตะโกนแล้วทำท่าจะสู้ แต่ลูกน้องธีรพัฒน์เข้ามากดเสี่ยติ่งลงกับเตียงแล้วสวมกุญแจมือทันที
ธีรพัฒน์คว้ากระเป๋าในมือเสี่ยติ่งมาเปิดออก หยิบห่อออกมาเทบนเตียง เพชรเม็ดเล็กๆ แวววาวจำนวนมาหล่นเรียงราย

ภายในห้องของภูผา เงินปึกใหญ่ 2 ปึกวางอยู่ แล้วปึกที่ 3 ก็ถูกวางลงตรงหน้าขุนพล
บลู แมงมุม และขุนพลหยิบเงินปึกของตัวเองมา แต่ละคนมีสีหน้าดีใจสุดๆ
“ขนาดเพชรเม็ดเล็กๆ รอบอะดอเรลลา ยังได้ราคาขนาดนี้” ขุนพลพูด
“ถ้าเราขายอะดอเรลลาซะเอง คงรวยเป็นโคตะระเศรษฐี” แมงมุมบอก
“หรือไม่ก็เข้าไปใช้เงินในคุกเร็วขึ้น” บลูขัด
“แหม...ที่รัก ล้อเล่น ขำขำ อย่าดุนักสิจ๊ะ ได้รถใหม่แล้วโว๊ย”
แมงมุมหยิบเงิน แหกปากร้องเพลงแล้วเดินเข้าไปด้านใน
ภูผามองทุกคนอย่างพอใจ แล้วก็เปิดประตูออกไปจากห้อง เหลือขุนพลกับบลู
“ขอไปใช้เงินก่อน” ขุนพลบอกแล้วทำท่าจะเดินไป แต่บลูเข้าไปโอบกอดจากด้านหลัง
“ไม่ฉลองกันหน่อยเหรอ”
ขุนพลหันมามองบลูที่สายตายั่วยวน เขารวบเอวบลูมาแนบตัว
“ที่ไหน เมื่อไหร่ ขุนพลไม่เกี่ยง”
ขุนพลขยี้จูบลงบนปากบลูที่รอรับอยู่แล้ว
ห่างออกไป แมงมุมกำลังแอบมองทั้งสองนัวเนียกันด้วยสายตาอิจฉาขุนพล

คมกฤชมองผ่านกระจกห้องสอบสวนเข้าไป โดยมีธีรพัฒน์ยืนอยู่ข้างเขา
คมกฤชเห็นเสี่ยติ่งนั่งหน้าเครียด กระวนกระวายอยู่ในห้อง
ธีรพัฒน์เล่าให้เพื่อนฟัง
“ไอ้ติ่ง พ่อค้าเพชรเถื่อน มันรับซื้อเพชรรอบๆอะดอเรลลาจากพวกปล้น แล้วก็เอามาปล่อยขายถูกๆให้ลูกค้าที่เป็นสายของเรา”
“แกบอกเรื่องนี้กับคุณเพชรหรือยัง” คมกฤชถาม
“ยัง..ฉันจะเอาไอ้ติ่งเป็นเหยื่อล่อ จับพวกมันทั้งแก๊งค์”
“ฉันไปด้วย” คมกฤชบอก
“ไม่ได้ ไอ้กฤช .. แกไม่ใช่ตำรวจ”
“งั้นแค่บอกฉัน ว่าคืนนี้แกจะไปกินเหล้าที่ไหน แค่นั้น..ตกลงมั้ยเพื่อนรัก”
คมกฤชกับธีรพัฒน์สบตาอย่างรู้กัน

ภายในห้องทำงานของเพชร เพชรกำลังคุยเรื่องออกแบบอยู่กับเจนจบ ชนินทร โดยที่มุกดานั่งอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์
“ฉันอยากให้งานของเรามีคอนเซปต์ใหม่ๆบ้าง เบื่อดีไซน์ใหญ่ๆ “ เพชรบอกเพื่อน
“งั้นลองดูนี่ ดีไซเนอร์ออกแบบไว้” เจนจบเสนอ เขาเปิดแฟ้มงานดีไซน์ เพชรกับชนินทรมองตาม
ทันใดนั้นเสียงเมสเสจของมือถือมุกดาก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง มุกดาเอนตัวมาแล้วยิ้ม
“ของหนูมุกเองค่ะ”
มุกดาเปิดอ่านแล้วหน้าเครียดไปครู่หนึ่ง พอเงยขึ้นมาเจอสายตาชนินทรที่มองจ้องมาเธอก็ทำเป็นลุกขึ้น
“ประชุมเครียดจนคิ้วผูกโบว์แล้ว ทานกาแฟหน่อยมั้ยคะ หนูมุกไปชงให้”

มุกดาหลบมาคุยมือถือที่ทางเดินในสตาร์ไดมอนด์
“พี่กฤช ... ให้มุกไปจับพวกโจรอะดอเรลลาด้วย”
ที่ห้องทำงานของคมกฤช คมกฤชกำลังเช็คปืนและคุยโทรศัพท์โดยใส่สมอล์คทอล์คอยู่กับน้องไปด้วย
“ไม่ต้องหรอก มุก ไอ้ธีมันเอาลูกน้องไปหมด”
มุกดามีสีหน้าร้อนรน
“พี่กฤชก็รู้ พวกมันเก่งทุกคน โอกาสแบบนี้ พลาดไม่ได้อีกแล้ว”
คมกฤชนิ่งคิดสักพัก
“งั้นคืนนี้เจอกัน”
มุกดาตัดสาย แล้วฉีกยิ้มเมื่อหันมาเจอสาลินี
“มาแอบส่งความลับของบริษัทให้ใคร” สาลินีถาม
“เปล่านี่คะ .. หนูมุกมาโทรหาคุณแม่”
“แม่หล่อนเป็นอะไร มีเรื่องสำคัญขนาดไหน ถึงต้องหลบมาคุยลับตาชาวบ้าน”
“คือ..คุณสาลี่อย่าบอกใครนะคะ .. คือ กิ๊กน่ะค่ะ ..หนูมุกมีคนมาจีบ แต่หนูมุกไม่อยากให้พี่เพชรเสียใจ” มุกดาแต่งเรื่อง
สาลินีผลักมุกดาไปชนผนังแล้วชี้หน้า
“คิดจะตบตาฉัน”
“คุณสาลี่ ผีเข้าเหรอคะ” มุกดาทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ใช่..ผีสาวเซ็กซี่ ขยี้ใจชาย .. แต่ตอนนี้ฉันจะขยี้หล่นให้แหลกก่อน เพราะฉันเกลียดหล่อน หล่อนมันไว้ใจไม่ได้”
สาลินีพยายามจะบีบคอมุกดา แต่มุกดาแกล้งก้มหลบแล้วเผ่นออกมาอีกทาง
“หนูมุกกลัวแล้วค่ะ อย่าทำอะไรหนูมุกตาดำๆเลย ช่วยไม่ได้นะคะ ที่พี่เพชรจะไม่รักผู้หญิงนมนำหน้า ปัญญาตามหลัง”
“ฉันนำโด่งทั้งสองอย่างย่ะ ... แกไม่ใช่คู่แข่งฉันเลย นังหนูมุก”
“เหรอคะ หนูมุกคิดว่าคุณสาลี่แอบรักพี่เพชร แล้วไม่สมหวัง เลยเป็นบ้า”
“ฉันบอกให้หยุด ฉันไม่อยากได้ยิน มานี่ เอามือถือมา ฉันต้องรู้ว่าแกคุยกับใคร”
สาลินีจะเข้าไปกระชากมือถือ แต่มุกดาแกล้งปัดมือแล้วตบเข้าหน้าสาลินีอย่างจัง
“แกตบฉันเหรอ”
“เปล่าค่ะ มือไปเอง”
“งั้นมือฉันก็ไปเองบ้าง”
สาลินีกระโจนเข้าไปตบผัวะเข้าที่แก้มมุกดา มุกดาแกล้งทำเป็นปลิวติดผนัง
“ฉันจะสั่งสอนให้รู้ว่าที่นี่ฉันเป็นใคร” สาลินีตวาดเสียงเข้ม
“อย่าค่ะ อย่าทำหนูมุก”
สาลินีตบตีเป็นชุด มุกดาแกล้งล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมทำท่าปัดป้อง
สาลินีตบตีมุกดาที่แกล้งเสียท่าอยู่จนสะใจ แล้วจึงยืนขึ้น จับเสื้อผ้า จับผม
“จำไว้ ..ที่นี่ ฉันคือเบอร์หนึ่ง”
สาลินียิ้มเหยียด แล้วหันขวับมาเจอสายตาพนักงานเป็นสิบที่กำลังมองอยู่

มุกดายืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ภายในห้องทำงานของเพชร โดยมีสาลินียืนอยู่ข้างๆ
เพชรกอดอกมอง โดยที่เจนจบกับชนินทรยืนอยู่ด้านหลัง
“หนูมุกตบสาลี่ก่อนค่ะ ตบซ้ายตบขวา ทุกคนเป็นพยานได้” สาลินีรีบบอก
“ทุกคนเป็นพยานว่าคุณตบ ทำร้ายคุณมุกอยู่ฝ่ายเดียว” เจนจบขัด
“พอเถอะค่ะ” มุกดาแกล้งจับแก้มตัวเอง “หนูมุกไม่อยากให้เป็นข่าวฉาว หนูมุกแคร์สื่อ” มุกดาสะอื้น “ให้มันแล้วๆกันไปนะคะ คนบริษัทเดียวกัน หนูมุกไม่โกรธหรอกค่ะ คุณสาลี่เธอหวังดี ก็แค่กระชากมือถือหนูมุก แล้วก็จิกหัว .. ตบ”
“คุณสาลี่ ... ไปเขียนใบลาพักร้อน” เพชรสั่ง
“แต่สาลินีทำเพราะหวังดีนะคะ คุณชนินทรคะ” สาลินีแก้ตัว เธอมองไปทางชนินทรเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ชนินทรทำเฉยเพราะเห็นว่าช่วยลำบาก
“ความหวังดีต้องมีขอบเขต” เพชรย้ำ “ไปเขียนใบลาพักร้อน”
“สาลี่ถูกใส่ร้าย สาลี่เสียใจ เสียใจที่สุด ... สาลี่เจ็บ เจ็บที่สุด”
สาลินีจ้องมุกดา มุกดาแกล้งร้องไห้ดังกว่า สาลินีจึงสะบัดหน้าเชิดออกไป
เพชรกุมขมับหันมาทางมุกดา
“หนูมุก.. ฉันขอร้อง เรื่องนี้ไม่ต้องรายงานแม่ฉันได้มั้ย”

สาลินีเดินออกมาอย่างเจ็บแค้น เธอหันกลับไปมองด้านใน
“ฉันมันสันดานไม่ดี เจ็บแล้วจำ จำแล้วต้องล้างแค้น เดี๋ยวก็รู้ แกกับฉัน ใครจะปั้นหน้า จริตมารยาเยอะกว่ากัน”
แววตาสาลินีอาฆาตรุนแรง

ภายในห้องทำงานของเพชร มุกดาทำเป็นซับน้ำตาแล้วมองทุกคน
“มุกไม่รายงานคุณป้าก็ได้ค่ะ ถือว่าช่วยพี่เพชรไม่ให้หูชา แต่คราวหน้าพี่เพชรปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายแฟนแบบนี้ไม่ได้แล้วนะคะ”
มุกดาเดินไปหยิบกระเป๋า แล้วทำท่าจะออกจากห้อง
“หนูมุกขอตัวกลับไปหลบเลียแผลใจ”
“คุณมุก ลืมหรือเปล่าครับ” เจนจบทัก
มุกดาหันมา เจนจบพูดต่อ
“วันนี้คุณมุกมีนัดกับเพชร”
เพชรกับมุกดามองหน้ากัน

ที่โรงเรียนสอนเต้นรำ ครูกำลังสอนเพชรกับมุกดาเรียนเต้นรำ เพชรมีสีหน้าเนือยๆ ส่วนมุกดาก็มีสีหน้าเบื่อ
ครูพยายามกระตุ้นให้ทั้งสองคนสนุก พยายามดึงเพชรกับมุกดาเข้าไปชิดกัน แต่เพชรกับมุกดาหันหน้าไปคนละทาง ครูมองอย่างอ่อนใจ
“พักก่อนแล้วกันครับ” ครูบอกแล้วเดินออกไป
เพชรกับมุกดาผละจากกัน มุกดารีบทำท่าจะเดินออกไป
“จะรีบไปไหน” เพชรถาม
“หนูมุก..อยากกลับบ้าน ปวดขาค่ะ ..ปวดมาก”
“นึกว่านัดใครไว้” เพชรดัก
“หึงหนูมุกเหรอคะ”
“ฉันจะทำยังไงให้เธอเลิกหลงตัวเองสักที”
“อิมพอสซิเบิ้ลเลยค่ะ หนูมุกภูมิใจในความสวยของตัวเองมาก”
มุกดายิ้มกว้าง เพชรคอตก
“หนูมุกก็ถามตรงๆนะคะ พี่เพชร มาเรียนเต้นทุกวันเนี่ยะ กะว่าถ้าเจอสาวในฝันคนนั้นแล้วจะเต้นคู่กับเค้าเหรอ”
เพชรอึกอักไม่ยอมตอบ มุกรุกหนัก
“เค้าสวยกว่าหนูมุก”
เพชรยิ้ม “ใช่”
“เร้าใจกว่าหนูมุก”
เพชรยิ้ม “เยอะ”
“หนูมุกโกรธแล้วนะ”
“ดี” เพชรบอก
“ไม่ให้นักสืบตามหา แล้วเอามาแต่งงานด้วยเลยล่ะ” มุกดาประชด
“ถ้าเธอจะคิดโง่ๆ ว่าฉันหลงผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนึงจนมาเสียเวลาเรียนเต้นรำน่ะ ฉันจะบอกว่าเธอคิดผิด ฉันอยากรู้จักผู้หญิงคนนั้นน่ะใช่ ..แต่เหตุผลคือ ผู้หญิงคนนั้นรู้จักโจรที่ปล้นเพชร”
“พี่เพชรแน่ใจได้ไงคะว่าเค้ารู้จัก” มุกดาแกล้งถาม
“ฉันแน่ใจ แล้วถ้าฉันตามผู้หญิงคนนั้นเจอ เราจะตามไปถึงพวกปล้น แล้วฉันก็จะได้เพชรคืน”
“แล้วก้อลงเอยเป็นแฟนกับสาวแทงโก้” มุกดาแกล้งแซว
“ก็ไม่แปลกสำหรับผู้ชายหน้าตาดี เพอร์เฟ็คท์”
“ผู้หญิงไม่ได้หลงที่ความหล่อ รวย ทุกคนหรอกนะคะ”
“อย่างน้อยก็ 99.99 เปอร์เซ็นต์”
“แล้วถ้าสาวในฝันของพี่เพชรคนนั้นเป็น 0.1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ที่ชอบผู้ชายมีสมอง ไม่ดูถูกผู้หญิง แล้วเชิดใส่ความหล่อ ความรวยขึ้นมาล่ะ”
“พูดยังกับเป็นตัวเอง”
เพชรพูดประชดโดยไม่ได้คิดอะไร แต่มุกดาชะงักไปนิด
“ไม่มีผู้หญิงคนไหน ปฏิเสธชีวิตเพียบพร้อม ความสุข เค้าถึงบอกว่าเพชรคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง”
“ความรักต่างหากที่เป็นเครื่องประดับที่สวยที่สุดในชีวิต”
“ไปจำหนังสือเล่มไหนมา”
เพชรกัด มุกดาสะบัดหน้าทำเป็นงอนแล้วเดินหนีไป
“จะไปไหน” เพชรร้องถาม
“กลับบ้านสิคะ”
“ฉันไปส่ง”
มุกดาหันขวับ “ไม่ต้องค่ะ หนูมุกงอนพี่เพชร”
เพชรเดินมาจ้องหน้ามุกดา
“ทุกทีแทบจะเกาะล้อรถฉัน แต่วันนี้ไม่ยอมให้ไปส่ง สงสัยจะมีอะไรปิดๆบังๆ ... แบบที่คุณสาลี่บอก”
มุกดาอึ้ง เพชรมองจ้องอย่างสำรวจ จู่ๆ เสียงมือถือมุกดาก็ดังขึ้น เพชรมอง ส่วนมุกดาไม่กล้ารับสาย

ที่ห้องทำงานคมกฤช คมกฤชกำลังรอให้มุกดารับสาย
“ไม่รับล่ะ มุก..”
คมกฤชรอจนสายตัดไป เขาเลยหยิบปืนมาใส่เอว แล้วคว้าเสื้อสูทเดินออกไป
คมกฤชเปิดประตูออกมาแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรุจายืนรออยู่
“รุจา”

ที่โรงเรียนสอนเต้นรำ มุกดากำกระเป๋าไว้แน่น เพชรมองอย่างสงสัย
“ทำไมไม่กล้ารับสายต่อหน้าฉัน”
“หนูมุกไม่อยากให้พี่เพชรเสียใจ”
“เรื่องอะไรที่ฉันต้องเสียใจ”
“หนูมุก..หนูมุกมีกิ๊ก”
“ข่าวดีที่สุดของฉันเลยนะนั่น”
“เค้าโทรมาขอเจอหนูมุก”
“ไปสิ..ฉันไปส่ง” เพชรอาสา
มุกดาถึงกับพูดไม่ออก
“ฉันอยากเห็นหน้าผู้ชายไม่เพอร์เฟ็คท์ ไม่รวย ไม่หล่อ ไม่ดูถูกผู้หญิง”
เพชรยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่มุกดามองเหมือนอยากจะอัดเขา

ที่หน้าห้องทำงานของคมกฤช คมกฤชมองรุจาที่ยืนหน้าตาซีเรียสอยู่
“ให้ฉันไปด้วยได้มั้ย” รุจาถาม
“ไปไหน ฉันจะกลับบ้าน” คมกฤชโกหกไป
“คุณไม่ได้กลับบ้าน ... คุณกำลังจะไปจับโจรปล้นเพชร”
“เธอรู้ได้ยังไง”
“ฉันเป็นนักข่าวนะคุณ ... ฉันก็มีแหล่งข่าวของฉัน”
รุจามองหน้าคมกฤชแล้วยิ้มอย่างยืดๆ

มุกดาเดินอย่างรวดเร็ว เธอมองซ้ายมองขวาแล้วพยายามเบียดนักเรียนเต้นรำคนอื่นเพื่อแทรกตัวหนี แต่พอเดินไปถึงประตู เพชรที่ดักอยู่ก็เปิดประตูให้ มุกดามองอย่างเจ็บใจ เธอเดินเชิดหน้าจะออกไป แต่เพชรคว้ามือของเธอไว้
“วันนี้ฉันเต็มใจทำอย่างที่แม่สั่งทุกอย่าง ..หนูมุกจะไปไหน ต้องส่งให้ถึงที่”
มุกดามองอย่างอัดอั้น เพชรยิ้มสะใจแล้วกระชากมุกดาออกไปอย่างไม่ปรานี

ที่หน้าห้องทำงานคมกฤช รุจายังมองคมกฤชด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก
“พ่อไม่ให้ฉันเป็นนักข่าว ไม่ให้ฉันยุ่งกับเรื่องนี้อีก แต่ฉันไม่ยอม” รุจาบอก
“พ่อคุณทำถูกแล้ว คุณควรจะเชื่อพ่อ”
“ฉันรู้ว่าฉันเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ แต่ฉันก็อยากทำให้พ่อภูมิใจในตัวฉัน”
“หาวิธีอื่นสิ มีตั้งหลายวิธีที่จะพิสูจน์ตัวเอง แบบไม่ต้องเสี่ยงตาย”
คมกฤชเดินเลยรุจาไป รุจาตะโกน
“ฉันทำได้ ฉันรู้ว่าฉันทำได้”
คมกฤชหันมาเห็นรุจามีแววตาเชื่อมั่นในตัวเอง
“ถึงฉันจะไม่เก่งอะไรเลย แต่ฉันทำได้”
รุจาวิ่งมาตรงหน้าคมกฤช
“ขอโอกาสฉันนะ ขอโอกาสฉันสักครั้ง”
รุจามองคมกฤชอย่างขอร้อง
“แน่ใจนะ ว่าทำได้ทุกอย่าง” คมกฤชถามย้ำ
รุจายิ้มกว้างอย่างดีใจ

ภายในผับแห่งหนึ่งที่เวลานั้นมีโคโยตี้เต้นในลีลาหวือหวาท่ามกลางแสงไฟวูบวาบ เสี่ยติ่งนั่งลงที่เก้าอี้ซึ่งมีสาวๆ ห้อมล้อมรอบกาย เสี่ยติ่งฝืนยิ้ม มองไปยังธีรพัฒน์ที่อยู่ในคราบนักเที่ยวและมีลูกน้องปลอมตัวปนอยู่ประจำตามจุดต่างๆ
“เสี่ยขา วันนี้ไม่เห็นสั่งอะไรเลย...” บริกรสาวคนหนึ่งพูดกับเสี่ยติ่ง “นั่ง” สาวคนนั้นเน้นคำ “..ตัวแข็ง...เลย” จากนั้นสาวๆ เหล่านั้นก็ลูบไล้เนื้อตัวเสี่ยติ่งแล้วพากันหัวเราะ เสี่ยติ่งยิ้มฝืนแห้งๆ แล้วกวักมือเรียกบริกร

เด็กเสิร์ฟรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามารับออเดอร์ พอเข้ามาใกล้ๆ ก็เห็นชัดว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นที่แท้เป็นคมกฤช
“วันนี้กี่ดริ๊งค์ดีครับเสี่ย” คมกฤชถาม
สาวๆ แย่งกันสั่งแทน คมกฤชจดแล้วเดินออกไป
คมกฤชเดินผ่านหน้าเวทีโคโยตี้ เขาเหลือบไปมองรุจาที่อยู่ในชุดโคโยตี้กำลังเต้นโยกไปโยกมาแบบ อายๆ รุจาสบตาคมกฤช ในขณะที่คมกฤชยิ้มให้แล้วขยับปากพูดล้อออกมาโดยไม่มีเสียง
“ทำได้ทุกอย่าง”
รุจาเห็นแล้วรู้สึกฮึดฮัดอย่างไม่ยอมแพ้ จึงเต้นด้วยลีลายั่วยวนร้อนแรงตามอย่างโคโยตี้คนข้างๆ คมกฤชถึงกับมองตาค้าง

ทันใดนั้นเอง ภูผาก็เดินแฝงตัวเข้ามาในเงามืด กวาดสายตามองไปรอบๆ ประหนึ่งเหยี่ยวมองหาเหยื่อ!

อ่านมุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 5/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์