อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7/2
รุ้งระวีอยู่ในชุดนอน ครึ่งนั่ง ครึ่งนอนอยู่บนเตียงโดยมีส้มป่อยบีบนวดให้ จี่หอยกำลังรีดเสื้อที่จะเตรียมใส่ในวันรุ่งขึ้น มะปรางเอานมอุ่นและไข่ลวกเข้ามา
“เมื่อยตรงไหนบอกส้มนะคะ ส้มจะนวดให้สุดฝีมือ” ส้มป่อยถามอย่างเอาใจ
รุ้งระวียิ้มให้อย่างเอ็นดู
“เราใช่ไหม ที่เป็นเด็กในคลิปวิดีโอที่เต้นเพลงของพี่น่ะ”
ส้มป่อยเขิน
“อุ๊ย...คุณรุ้งเห็นด้วยเหรอคะ แหม...ไม่อยากจะทอลค์ ทู มัชเลย”
รุ้งระวีไม่เข้าใจ
“อะไรเหรอ”
“ก็ส้มทั้งซิ้ง ทั้งแดนซ์ เพลงจิ้มแจ่วของคุณรุ้งได้หมดเลยน่ะซีคะ ก็อปมาทุกสเต็ป”
“เป็นแฟนพี่ขนาดนั้นเชียว”
“ค่ะ...ฮิฮิ โตขึ้นส้มจะเป็นนักร้องให้ดังเท่าพี่รุ้งเลย แต่ถ้าไม่ได้เป็นก็ไม่เป็นไร ขอแค่เป็นแค่นางแบบท็อปโมเดล กับแอร์โฮสเตสก็พอ”
จี่หอยมองหมั่นไส้เต็มที
“รุ้งนอนเถอะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้ทั้งวัน นี่...แม่ส้มป่อย กลับไปเป็นท็อปโมเดลที่หลังครัวได้แล้วจ๊ะ อย่ากวนพี่รุ้งเลย”
ส้มป่อยจ๋อยไป
“ก็ได้ค่ะ”
มะปรางวางนมอุ่นและไข่ลวกให้ รุ้งระวีหันไปยิ้มให้สัมป่อย
“ว่างๆเราคุยกันอีกนะ”
“ค่ะ”
ขณะเดียวกันนั้น เสียงขลุ่ยเพลงสะพานรุ้ง ดังหวานแว่วมา
“เสียงขลุ่ยในฝันอีกแล้ว” จี่หอยพูดขึ้น
มะปรางนิ่งฟังก่อนจะบอก
“เพลงสะพานรุ้งด้วยนะคะ”
ส้มป่อยยิ้มแย้ม
“นายทูนเป่าค่ะ นี่แสดงว่าอารมณ์ดี”
รุ้งระวีมองส้มป่อย
“ทำไมรู้ล่ะ”
“ถ้าอารมณ์ดี เสียงขลุ่ยจะหวานสวีท แต่ถ้าเศร้านะคะ ร้องไห้ ครายอิ้งกันทั้งบ้านเลย”
รุ้งระวีลุกจากเตียง หยิบเสื้อคลุมนอนออกไปที่เฉลียงแล้วลงเฉลียงไป มะปรางจะทัก จี่หอยห้ามไว้
“ปล่อยไปเถอะ”
จี่หอยและมะปรางหันมาสะดุ้ง
"ว้าย...ตายแล้ว ยายส้มป่อย” มะปรางร้องลั่น
ส้มป่อยกำลังรับทานทั้งนมและไข่ลวก ปากมัน
“นั่นของพี่รุ้ง หล่อนกินเข้าไปได้ยังไง” จี่หอยโวยวาย
ส้มป่อยยิ้มแหยๆ
“ก็นึกว่าพี่รุ้งไม่ทานแล้วน่ะซีคะ”
“ขอฟาดหน่อยเถอะแม่นี่ แหม...ท็อปโมเดล ที่แท้ ปอบ”
จี่หอยหาของมาฟาด ส้มป่อยคว้าทั้งแก้วนมและไข่ลวก วิ่งตื๋อออกจากห้องไป จี่หอยวิ่งไล่ตาม
รุ้งระวีตรงมาที่เพิงใต้ต้นแสงจันทร์ มองภาพตรงหน้าอย่างตะลึง เมื่อเห็นทูนอินทร์นั่งอยู่ที่เพิง ที่ใบสะท้อนแสงจากพระจันทร์ ส่องสว่างเรืองไปทั่วบริเวณ
ทูนอินทร์เป่าขลุ่ยเพลงสะพานรุ้ง แต่ด้วยอารมณ์ที่อ่อนหวานจนจบท่อน รุ้งระวีปรบมือให้
“เพราะกว่าเมื่อกลางวันอีก”
ทูนอินทร์หันมายิ้มให้
“ขอบคุณครับ”
“แสดงว่าอารมณ์ดี”
“หืมม์... รู้ได้ไงว่าผมอารมณ์ดี”
“ส้มป่อยบอกค่ะ ถ้าหวานแบบนี้แสดงว่าอารมณ์ดี” รุ้งระวีมองไปที่ต้นแสงจันทร์อย่างตื่นตาตื่นใจ “สวยอย่างที่คุณบอกจริงๆ ต้นแสงจันทร์สว่างเรืองไปหมดเลย”
“ครับ...ยิ่งพระจันทร์เต็มดวงอย่างคืนนี้ ทุกอย่างสว่างไสวไปหมด”
ทูนอินทร์ยื่นมือมาให้รุ้งระวีมานั่งข้างๆกัน
“ผมขอโทษเรื่องฟ้าใสด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ...ดูเหมือนเธอยังรักคุณอยู่”
“ไม่หรอกครับ คนอย่างฟ้าใสไม่มีหัวใจที่จะรักใคร นอกจากตัวเองอย่าพูดถึงเขาเลย เสียเวลาเปล่า พูดถึงเรื่องดีๆคืนนี้ดีกว่า”
รุ้งระวีแปลกใจ
“อะไรคะ”
“สิ่งดีๆที่คุณทำให้ผมน่ะซีครับ คุณเป็นแรงบันดาลใจให้ผมกล้าร้องเพลงต่อ หน้าผู้คนได้อีกครั้ง คิดยังไงถึงให้ผมคิดว่าคุณคือยายแหม่มจ๋า”
รุ้งระวีหลบตาลุกแยกไป
“ถ้ายายเด็กแหม่มจ๋าโตขึ้น แล้วรู้ว่าทำร้ายคุณขนาดนี้ เธอต้องรู้สึกผิดแน่ๆ แล้วก็อยากขอโทษคุณอย่างที่ฉันทำแน่นอน แล้ว...คุณยกโทษให้แหม่มจ๋ารึเปล่าคะ”
“ยกโทษให้หมดแล้วครับ”
รุ้งระวีหันมายิ้มกว้าง
“ดีใจที่สุดเลย”
ทูนอินทร์เข้ามาหาเธอมองตานิ่ง
“ขอบคุณครับ ที่มอบสิ่งดีที่สุดให้ผมคืนนี้”
ทูนอินทร์ดึงเธอมากอดไว้ รุ้งระวีซบไหล่ของเขารู้สึกอบอุ่นและมีความสุข ทั้งสองกอดกันอย่างมีความสุขอยู่ใต้แสงเรืองของต้นแสงจันทร์ และพระจันทร์เต็มดวงเหนือขุนเขา
วันรุ่งขึ้น...ลานสนามหน้าเรือนตกแต่งอย่างดี ทั้งดอกไม้และอุปกรณ์ประกอบฉากแบบท้องทุ่งเช่นล้อเกวียน กองฟาง อุปกรณ์ถ่ายทำทั้งกล้อง เครน รางดอลลี ไฟ ถูกจัดวาง เจ้าหน้ากองถ่ายเดินกันขวักไขว่ อินทรเป็นตากล้อง ทูนอินทร์กำกับนั่งดูมอนิเตอร์
อิทธิ เมธนั่งอยู่ข้างหลัง จี่หอย ปราง และผู้ช่วยหน้าผมดูมอนิเตอร์อีกเครื่องใกล้ๆกัน
รุ้งระวีอยู่บริเวณที่จัดไว้เพื่อถ่ายทำมิวสิควิดีโอ สาวๆหางเครื่องใส่ชุดไทย ถือกระด้งฝัดข้าว ซ้อมเต้นกันอย่างพร้อมเพรียง อิทธิมองอย่างชื่นชม
“ที่นี่สวยจริงๆ นะเมธ”
เมธยิ้มรับ
“ครับ...บ้านนายทูนเขา มรดกตกทอดกันมา”
“บรรยากาศเป็นใจอย่างนี้นี่เอง รุ้งถึงได้ติดใจ” อิทธิพูดน้ำเสียงหยันๆ
ทูนอินทร์ได้ยินนิ่งไป พูดทางวอ.ทันที
“พร้อมไหม ถ้าพร้อมนับเลย”
“พร้อมครับ...สี่ สาม สอง...คิวมิวสิค” ผู้ช่วยตะโกนสั่ง
ดนตรีขึ้นทันที
“แอ็คชั่น”
รุ้งระวีเต้นและร้องลิปซิงค์เพลงผู้ชายข้าวจี่ เธอเต้นอย่างพร้อมเพรียงกับสาวหางเครื่อง ทูนอินทร์สั่งกล้อง อินทรนั่งบนเครนที่ยกขึ้นลงถ่ายตามคำสั่ง อิทธิมองภาพของรุ้งรวีอย่างพึงใจ
“รุ้งสวยมาก”
“หอยแต่งให้ค่ะ” จี่หอยพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ท่าเต้นก็สวย” อิทธิชม
จี่หอยหน้าระรื่น
“หอยออกแบบให้ค่ะ”
อิทธิพอใจมาก
“ดังแน่ เพลงนี้”
“หอยก็ว่างั้นค่ะ”
ทูนอินทร์สั่ง
“คัท”
รุ้งระวีและหางเครื่องหยุดเต้น จี่หอยและปรางเข้าช่วยดูแลทันที พาเข้าห้องพัก ทูนอินทร์หันไปบอกอินทร
“ทร...ย้ายกล้อง ย้ายแสง ไปถ่ายอีกมุม”
เจ้าหน้ากองถ่ายพากันปฏิบัติการตามคำสั่ง
รุ้งระวีดื่มน้ำ ช่างเสื้อผ้าหน้าผม ดูแลความงาม จี่หอยและมะปรางกำลังเตรียมเครื่องดื่มและของว่าง อิทธิเข้ามายิ้มให้
“เหนื่อยไหมรุ้ง”
“ไม่ค่ะ อากาศที่นี่สดชื่นดี”
“สวยนะ สงสัยจะต้องขอถ่ายอีกหลายเพลง”
“ดีค่ะ คุณทูนใจดี”
“มาถ่ายอีกเถอะค่ะคุณอิท มีมุมสวยๆ เยอะเลย คุณทูนก็ต้อนรับพวกเราอย่างดี” จี่หอยบอกอย่องยิ้มแย้ม
อิทธิชักอารมณ์ตึงๆ
“ลืมบอกไป ช่วงเย็นผมเรียกแจง ขวัญข้าว กับอาชา มาด้วยนะ”
จี่หอยชะงัก
“อุ๊ย...มาทำอะไรเหรอคะ”
“มาถ่ายรูปทำปฏิทินปีนี้ จะมีถ่ายรูปหมู่ด้วยนะรุ้ง เราจะแต่งไทยประยุกต์กันทั้งหมด”
“ค่ะ”
จี่หอยถอนใจ
“ตายจริง งานเข้าแล้ว แต่ละคนกว่าจะทรงเครื่องเสร็จ หอยกับยายปรางต้องวิ่งขาขวิด จะทันเหรอฮะ”
“ผมเตรียมทีมงานมาเสริมแล้ว ไหนๆที่นี่สวยแถมยังฟรีอีก ต้องถ่ายให้คุ้มจริงไหม”
อิทธิปรายตาไปมอง รุ้งระวีรู้ว่าโดนแขวะ
คำรณขับรถให้จวงใจและจุ๊บแจง ที่นั่งตอนหลังเข้ามาจอดจุดชมวิว มองเห็นทุ่งและเขาสวย รถจอดอยู่สองสามคัน มีหนุ่มสาวมาถ่ายรูปกลุ่มหนึ่ง จวงใจกับจุ๊บแจงลงจากรถ เดินมาที่จุดชมวิว
“พี่จวง ขอถ่ายรูปตรงนี้เลย วิวสวยมาก”
จวงใจมองไปเบื้องหน้า
“โน่นใช่ไหม ไร่อินสรวงน่ะ”
“น่าจะใช่ สวยนะพี่ มาถ่ายรูปก่อน”
คำรณใส่แว่นดำลงจากรถตามมา แล้วถอดแว่นออกหน้าเหี้ยม มองตามไปยังไร่เบื้องหน้า ย่างหมายมาดที่จะได้พบรุ้งระวี
จุ๊บแจงและจวงใจย้ายมาถ่ายอีกมุมหนึ่ง ฟ้าใสใส่แว่นดำ กำลังส่องกล้องไปทางไร่ จวงใจและจุ๊บแจงถ่ายรูปกันง่วน
“น้องแจง ไหน ๆ ก็มาไร่นายทูนแล้ว แจงก็น่าจะใช้ความสาวความสวยของตัวเองสร้างความปั่นป่วนให้กองมิวสิคนังรุ้งมัน”
จุ๊บแจงงงๆ
“ยังไงคะ”
“ก็ให้ท่าให้ทางนายทูนเสียเลยไง” จวงใจยุยง
ฟ่าใสที่หันหลังให้อยู่ ลดกล้องลงเลิกแว่นขึ้น...ขณะที่จุ๊บแจงย้อนถามจวงใจ
“อ้าว พี่จวง บอกว่าให้นายทูนจีบนังรุ้งไม่ใช่เหรอคะ คุณอิทจะได้กลับมาหาแจง”
“เรื่องนั้นมันชัวร์อยู่แล้ว แต่แจงก็แอบจีบนายทูนด้วยไง ถ้านายทูนมันเล่นด้วย นังรุ้งมันประสาทกินแน่ๆดีไหม”
จุ๊บแจงยกมือไหว้
“รักและนับถือพี่จวงมากในความเป็นนางมาร คิดได้ไงคะเรื่องเสี้ยมให้คนตีกันแบบนี้”
“ไม่ต้องคิดค่ะ อยู่ในสายเลือด ฮ่ะฮ่ะ”
จวงใจกับจุ๊บแจงหัวเราะร่าแยกไป ฟ้าใสมองแค้นๆ
“อีจุ๊บแจง แตงร่มใบ เดี๋ยวได้รู้ ใครเป็นนางมารตัวจริง”
ฟ้าใสยิ้มเหี้ยม
จวงใจและจุ๊บแจงกลับมาที่รถ คำรณรออยู่ สองสาวกำลังเดินผ่านหลุมบ่อที่มีน้ำขังอยู่ รถหรูของฟ้าใส แล่นโฉบมาทันทีเหยียบลงที่บ่อ น้ำกระเซ็นเข้าร่างสองสาว
“กรี๊ดดด”
สองสาวเต้นเร่าๆ ฟ้าใสยิ้มร่า รถแล่นไปอย่างเร็ว
“อีชาติไพร่ ใจทราม ขับรถภาษาอะไรของเอ็ง” จวงใจตะโกนด่าไล่หลัง
จุ๊บแจงหน้าเหยเกโกรธมาก
“น้ำครำ เปื้อนชุดแจงหมดเลย ขับตามไปด่ามันไหมพี่”
“ไม่ทันแล้วละ”
คำรณหยิบทิชชู่ส่งให้สองสาว จ๊บแจงขึ้นรถ แล้วเช็ดเนื้อตัว จวงใจส่งทิชชู่ให้คำรณ
“เช็ดให้หน่อย”
คำรณชะงัก จวงใจมองอย่างท้าทาย
“ได้ครับนาย”
คำรณช่วยเช็ดที่แขนและเอว จุ๊บแจงมองอย่างงง ๆ
“พอแล้ว ขอบใจ”
จวงใจยิ้มยั่ว แล้วขึ้นรถไป จุ๊บแจงเหวอเล็กน้อยมองจวงใจทำนองทำไมใฝ่ต่ำ แต่จวงใจกลับยิ้มภูมิใจ คำรณใส่แว่นขึ้นนั่งที่คนขับขับออกไป
กล้องและไฟย้ายมาถ่ายอีกมุมของสนาม เห็นทิวเขาเขียวขจีเบื้องหลัง การถ่ายดำเนินอยู่ รุ้งระวีและหางเครื่องเต้นตามมิวสิค ไปจนจบเพลง
“คัท” ทูนอินทร์ตะโกนสั่ง
อิทธิ จี่หอย มะปราง ปรบมือนำ ทุกคนปรบมือตาม อิทธิเดินไปหารุ้งระวี
“เก่งมากรุ้ง”
“ขอบคุณค่ะ”
แล้วอย่างไม่คาดฝัน อิทธิกอดรุ้งไว้แน่น
“รักที่สุดเลยนะ”
ทูนอินทร์มองนิ่ง รุ้งระวีหันมามองทูนอินทร์ สบตากันแว่บหนึ่ง อิทธิหันไปเรียกทูนอินทร์
“คุณทูน ถ่ายผมกับรุ้งหน่อยซีครับ ไว้เป็นเบื้องหลัง”
อิทธิ ยังกอดรุ้งระวีไม่เลิกทั้งโอบเอวและไหล่ ทั้งๆที่เธอขืนตัวอยู่ตลอด ทูนอินทร์พยายามระงับสติ ถ่ายต่อเนื่อง อิทธิดึงรุ้งระวีมากอดแนบอก
“ยิ้มหน่อยซีรุ้ง ให้รู้ว่าเบื้องหลังเราเป็นคู่ขวัญกัน”
รุ้งระวียิ้มเจื่อนเต็มที ทูนอินทร์ขบกรามแน่น
“พอไหมครับ”
“ขอดูภาพหน่อย”
ทูนอินทร์หันไปหาเมธ
“พี่เมธจัดการที ผมขอตัว”
ทูนอินทร์แยกไป อิทธิยิ้มสะใจ เข้ามาดูภาพที่ถ่าย
“รุ้งขอพักก่อนนะคะ”
รุ้งระวีรีบผละจาก อิทธิ ไปกับจี่หอยและมะปราง เมธหันไปสั่งกองถ่าย
“พักกองทานกลางวันก่อนครับ บ่ายโมงตรงเริ่มงานใหม่”
ทูนอินทร์เดินกลับมาที่บ้าน ด้วยอาการหัวเสียขึ้นเรือนไป โดยไม่เห็นว่ารถของฟ้าใสแล่นมาจอดที่มุมลับตาคน ฟ้าใสลงจากรถ ตรงมาที่บ้านทันที
ทูนเข้ามาในนั่งสงบสติอารมณ์ในห้อง รุ้งระวีตามเข้ามา
“คุณทูน”
“รุ้ง...ถ้านายอิทธิมันล่วงเกินคุณอีก ผมจะไม่อดทนแล้วนะ”
“ใจเย็นค่ะ ฉันว่านาย อิทธิ ทำไปเพื่อยั่วคุณมากกว่า”
ฟ้าใสกรายร่างเข้ามาที่มุมหนึ่งแอบฟังอยู่
“รุ้ง...สัญญากับผมนะ หมดอัลบั้มชุดนี้ อย่าเซ็นสัญญาต่อกับนายอิทธิอีก ต่อสัญญากับผม ผมจะดูแลคุณเอง”
“ค่ะ...ที่ฉันยังทำงานให้เขา ก็เพราะเขาสัญญาเรื่องตามหาแม่ให้เท่านั้นเอง”
“เรื่องแม่ ผมตามหาให้คุณได้แน่นอน ไม่ต้องไปพึ่งนาย อิทธิเลย”
ทูนอินทร์ดึงรุ้งมากอดไว้
“มันแตะต้องตัวคุณมากเท่าไหร่ ผมยิ่งหวงคุณมากเท่านั้น”
“คุณจะดูแลฉันนะคะ”
“ครับ...ทุกวันนับแต่นี้ต่อไป”
ทั้งสองยิ้มให้กัน อินทรเดินเข้ามา แล้วชะงัก ทูนอินทร์และรุ้งระวีรีบแยกจากกันเขินกันไปทั้งคู่
“คุณรุ้งครับ พี่หอยเรียก”
“ค่ะ”
รุ้งระวีออกไป อินทรมองหน้าพี่ชาย
“ยังไงพี่ ความสัมพันธ์พัฒนาไปถึงขั้นกอดกันแล้วเหรอ”
“คนรักกันแล้วนี่หว่า”
ฟ้าใสเม้มปากแน่น
“ยืนยันขนาดนั้นเลยเหรอพี่”
“เห็นนายอิทธิมาล่วงเกินรุ้ง ยิ่งทำให้ฉันแน่ใจตัวเองว่าฉันรักรุ้งรักมากด้วย”
“แต่นายอิทธิ มันทำท่าเป็นเจ้าของรุ้งอยู่นะพี่”
“ก็ต้องเจอกันหน่อย แต่ที่แน่ๆ รุ้งมีใจให้ฉันไม่ใช่มัน แกไปรับหน้าเจ้าอิทธิก่อน ขืนออกไปตอนนี้ฉันชกมันคว่ำแน่”
“ครับ”
อินทรออกไป ทูนอินทร์นั่งถอนใจ ฟ้าใสมองอย่างยินดีที่เห็นเขาอยู่ลำพัง
อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7/2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์