หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7/3

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7/3
อิทธิโวยใส่จุ๊บแจงและจวงใจทันที่พบหน้า
“รีบมาทำไม บอกให้มาบ่ายๆ ไม่ใช่เหรอ”
“แจงอยากมาเช้าๆนี่คะ อยากมาเที่ยวไร่อินสรวง”
จวงใจยิ้มชื่นชม
“แหมสวยจริงๆ สมคำร่ำลือ”
“นังคนที่มาก่อน มันคงสำลักความสวยแทบขาดใจเลยนะ” จุ๊บแจงแดกดัน
จวงใจรับมุขทันที
“คนไหนนะแจง”
“นังฝรั่งกิมจูนั่นไง”
อิทธิชักฉุน

“ไปอยู่ที่ของตัวเองเลยไป อย่ามาเพ่นพ่านให้เสียงานคนอื่น ที่นี่เขาถ่ายมิวสิคไม่ใช่ตลาดสดหรือซ่องโจร”
อิทธิแยกไป จุ๊บแจงหันมาหาจวงใจ
“แหม คุณ อิทธิพูดอย่างกะเราเป็นตัวเสนียด”
จวงใจมองไปที่ตัวบ้าน
“ตัวเสนียดจริงๆ อยู่โน่น นังรุ้งมันแต่งตัวอยู่ในบ้านโน่น ไปสร้างเสนียดให้เกิดขึ้นกับตัวเสนียดของแท้ดีกว่า”
จวงใจพาจุ๊บแจงตรงไปทันที

ทูนอินทร์ยังนั่งทำอารมณ์อยู่ ฟ้าใสกรายเข้ามา เอามือลูบไปบนไหล่ของเขา
“รุ้งเหรอ”
“เปล่า คนรักคนแรกของพี่”
ทูนอินทร์ผลุดลุกขึ้นทันที
“เธอเข้ามาได้ยังไง”
“นักร้องดังเดินกันเต็มบ้าน คนดังอย่างฟ้าใสทำไมจะเข้ามาไม่ได้ อีกอย่างบ้านหลังนี้ฟ้าก็คุ้นเคยอยู่”
ทูนอินทร์จ้องหน้าอย่างเกลียดชัง
“ออกไป นี่ไม่ใช่ที่ของเธออีกแล้ว”
“จะขอเข้ามาดูการถ่ายทำมิวสิคหน่อยไม่ได้เหรอคะ หรือว่าจะสงวนไว้ให้นังลูกครึ่ง รักครั้งใหม่ของคุณคนเดียว”
“ก็ทำนองนั้นละมัง”
ฟ้าใสโกรธ แต่ยิ้มหยัน
“ลำบากนะคะ เพราะรักครั้งนี้ท่าทางอุปสรรคเยอะ เพราะนายอิทธิเจ้าของค่ายก็หมายปองแม่ลูกครึ่งอยู่”
“พอได้แล้ว เรื่องของฉัน เธอไม่เกี่ยว ออกไป”
“ไม่”
ทูนอินทร์เข้ามากระชาก ฟ้าใสร้องเบาๆ แล้วแกล้งทำเป็นล้มดึงร่างของเขาล้มตามไปด้วยบนโซฟายาว ร่างทูนอินทร์ทาบทับอยู่บนร่างของเธอ
“แบบนี้ยังจะไล่ฟ้าได้ลงคออีกเหรอ”
ฟ้าใสโน้มคอของทูนอินทร์ลงมาจะประทับจูบ ทูนอินทร์มองหยัน
“ถนัดนักนะ ที่ทำตัวถูกๆแบบนี้ แต่เจ้าเสี่ยดำรงมันคงชอบละ เพราะถูกสมใจมัน”
ฟ้าใสตบหน้าฉาด ทูนอินทร์ผลุดลุกขึ้นทันที
“สำหรับฉันน่ะ มันใช้ไม่ได้ผลหรอกนะ เพราะเธอมันต่ำเกินไป ไปได้แล้ว”
ทูนอินทร์กระชากร่างฟ้าใสจะพาออกจากห้อง เธอสะบัดออก
“เดี๋ยว...ที่มาวันนี้เพราะเรื่องนี้”
ฟ้าใสหยิบซองเอกสารออกมา เป็นใบสำคัญการหย่า
“ใบหย่าไงคะ ฟ้าเซ็นเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ชื่อของคุณ”
“ดี...จะได้จบเรื่องกันเสียที”
ทูนอินทร์จะคว้ามา แต่ฟ้าใสดึงใบกลับ
“อ๊ะ...อ๊ะ ไม่ใช่เซ็นตอนนี้ค่ะ ขอให้ฟ้าได้ดูการทำงานของคุณก่อนจนกว่าจะพอใจถึงจะให้เซ็น เอาน่าฟ้าจะอยู่เงียบๆ ในบ้านนี่แหละ จะไม่รบกวนคุณแม้แต่นิดเดียว”
ทูนอินทร์สะกดอารมณ์ ฟ้าใสยิ้มอย่างเป็นต่อ

รุ้งระวีอยู่ในชุดใหม่ เป็นชุดไทยงดงาม สำหรับถ่ายทั้งมิวสิคและปฏิทิน จ๋าช่างแต่งหน้ากำลังบรรจงแต่ง มะปรางดูแลเรื่องชุด จี่หอยงงเมื่อจวงใจและจุ๊บแจงมาบอกให้แต่ตัวให้
“อะไรนะ จะแต่งตอนนี้”
“ก็ใช่น่ะซี น้องแจงมาถึงแล้ว แกจะให้รอรึไง”
“ก็ใช่ต้องรอ เพราะตอนนี้ช่างมีชุดเดียว รอบ่ายสองโน่นช่างอีกชุดถึงจะมา”
จุ๊บแจงไม่พอใจ
“ไม่รอจะแต่งตอนนี้ และต้องแต่งกับพี่จ๋าเท่านั้น ไม่แต่งกับช่างมือสอง”
รุ้งระวีลุกขึ้นทันที จวงใจและจุ๊บแจงถอยพรวด
“เชิญค่ะ เชิญแต่งตามสบายเลย”
“อุ๊ย ใจดี ให้พี่จ๋าแต่งให้ฉันก่อนใช่ไหม”
“เปล่า ฉันกับพี่จ๋าจะไปแต่งอีกห้องที่ไม่มีมลพิษรบกวน ส่วนเธอมีเจ๊จวงอยู่แล้วนี่ แต่งกันเองน่าจะได้”
จุ๊บแจงหน้าเหวอก่อนจะโวยวาย
“ให้พี่จวงแต่ง หน้าก็เหมือนงิ้วน่ะซี ดูซี พี่จวงแต่งตัวเองยังเหมือนงิ้วเลย ดูซีเหมือนไหม”
จี่หอย มะปราง จ๋า พูดพร้อมกัน
“เหมือนจ้า”
“ไปค่ะ พี่หอย พี่จ๋า มะปราง”
รุ้งระวีออกจากห้อง จี่หอย มะปราง จ๋าเก็บข้าวของ กลั้นหัวเราะ จวงใจนิ่งงัน จี่หอยเหยียดปากรังเกียจ
“ห้องนี้มันมลพิษจริงๆด้วย แมลงวันหัวเขียวบินว่อนเลย นังจวงแกเก่งจริงๆนะ แต่งตัวเองให้เป็นงิ้ว เอ...แล้วถ้าแต่งงิ้วจะเหมือนอะไรนะ”
จี่หอยทำเป็นคิดๆ จ๋าพูดต่อทันที
“สงสัยจะกระสือค่ะ”
จี่หอย มะปราง จ๋าหัวเราะร่าออกจากห้องไป จวงใจทำท่าจะร้องไห้ จุ๊บแจงมองจวงใจงอนๆ
“พี่จวง ไม่เห็นช่วยแจงเลย”
จวงใจสะอื้น
“ทำไมมาด่ากันเองละคะน้องแจง พี่ พี่เหมือนงิ้วตรงไหนเหรอ”
จุ๊บแจงจ๋อยไป
“แจงขอโทษ แจงไม่ได้ตั้งใจ”
“พี่ออกสวย เหมือนงิ้วตรงไหน ฮือ”
จวงใจหยิบกระจกมาส่องดูหน้าตัวเอง สะอื้นฮักๆ
ทูนอินทร์ปรึกษากับอินทรและเมธเรื่องฟ้าใสอยู้ในบ้าน
“หา ยายฟ้ามืดมันเข้ามาในบ้านเรา” เมธตกใจ
“แอบขึ้นไปอยู่ที่ห้องนั่งเล่นน่ะครับ”
“ไม่ไล่ไปละพี่” อินทรถาม
ทูนอินทร์ส่ายหน้าหนักใจ
“ไล่ก็ไม่ยอมไป”
“แกไม่ไล่ ฉันขึ้นไปไล่เอง”
เมธจะไป ทูนอินทร์ห้ามไว้
“อย่าเพิ่งครับ ปล่อยไว้ก่อน เพราะเธอเอาใบหย่ามาให้ผมเซ็นด้วย เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ทำงานของเราก่อนดีกว่า”
ทูนอินทร์แยกไป เมธถอนหายใจอย่างหนักใจ
“เฮ้ย นางมารเต็มบ้านเลยว่ะ”
อินทรเครียดกังวล
“นั่นซีครับพี่ บ้านอินสรวงท่าจะไม่สงบแล้ว เหมือนสมรภูมิเลย”

รุ้งระวีออกมานั่งสงบสติอารมณ์ที่สวนด้านหลัง จี่หอยตามมา
“เหนื่อยจังเลยพี่หอย”
“อดทนนะรุ้ง เดี๋ยวงานก็เสร็จแล้ว”
“ค่ะ”
จี่หอยกลับไป รุ้งระวีนั่งอยู่ลำพัง คำรณแอบมองอยู่ที่พุ่มไม้ รุ้งระวีรู้สึกเหมือนมีใครแอบมองอยู่ ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงเดินสวบสาบอยู่ในสวน
“ใครน่ะ” เธอมองๆเห็นร่างสูงใหญ่แอบอยู่ในพุ่มไม้ “ใคร”
คำรณก้าวออกมา รุ้งระวีเย็นวาบไปทั้งตัว รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา แต่ไม่แน่ใจ
“ผมหาห้องน้ำอยู่น่ะครับ ไม่ทราบไปทางไหน”
“ที่เรือนเล็ก ด้านนู้น”
“ขอบคุณครับ”
คำรณยิ้มกับตัวเอง เพราะแน่ใจว่าคือรุ้งแน่นอน เขาเดินแยกไป รุ้งมองตามแล้วรีบกลับเข้าเรือน คำรณหันกลับมามอง
“แกแน่ๆนังรุ้ง ในที่สุดฉันก็เจอแกจนได้”

รุ้งระวีนั่งอยู่ในเรือแจวริมฝั่งของบึงบัว ท่ามกลางดอกบัวสวยงาม ทีมงานกองถ่ายอยู่ในน้ำสองสามคน คอยช่วยอยู่ มีดรายไอซ์ทำให้น้ำเป็นควัน รุ้งระวีไม่มั่นใจเท่าไหร่ ขณะที่ทูนอินทร์อยู่บนฝั่งข้างๆเรือ รุ้งระวีนั่งเกรงกลัวๆ
“คุณทูน เรือมันโคลงน่ะค่ะ”
“ต้องนั่งนิ่งๆครับ อย่าเอียงน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง”
“ที่กลัว เพราะรุ้งว่ายน้ำไม่เป็นน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ เด็กผมคอยเซฟให้คุณแล้ว”
ทูนอินทร์แอบจับมือรุ้งระวีไว้
“ไม่ต้องห่วงนะ ผมไม่ให้คุณเป็นอะไรหรอก เชื่อใจผม”
“ค่ะ”
อิทธิพยายามมองว่าทำอะไรกัน ส่วนทางด้านจุ๊บแจงเธอมองอย่างหมั่นไส้
“ดูมัน ออเซาะซีพี่จวง แหมว่ายน้ำไม่เป็น ของจริงน่ะ คงว่ายข้ามโขงไปมาวันละสองสามเที่ยว”
“ไปกลับ ไทยลาวใช่ไหม”
ทั้งสองหัวเราะคิก จี่หอยผ่านมา
“อ้าว ช่างเขาว่างแล้ว ทำไมไม่ไปแต่งตัว”
“ก็อยากดูเขาถ่ายมิวสิค” จุ๊บแจงเถียง
“ไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวเจ๊ขวัญกับนังอาชามันจะมาอีก แต่งไม่ทันพอดี”
“ไปเถอะแจง” จวงใจบอก
จุ๊บแจงตามจี่หอยกลับไปที่เรือน จวงใจมองรุ้งระวีอย่างหมั่นไส้
“ดัดจริต ทำเป็นว่ายน้ำไม่เป็น อย่างนี้มันน่าเจาะเรือให้ล่ม รู้แล้วรู้รอดไปเนอะ”
คำรณยื่นหน้ามากระซิบ
“อยากให้เป็นอย่างนั้นไหมละครับ ผมจัดการให้ได้นะ”
จวงใจหันมามองหน้า คำรณยิ้มให้อย่างเหี้ยมๆ จวงใจตาเป็นประกายวาว
“หมายถึงทำให้เรือล่มน่ะเหรอ”
“ครับ”
“ไม่มีใครสงสัยนะ”
“รับรองครับ นาย”
จวงใจยิ้มพอใจ

รุ้งระวีมองไปที่คำรณกับจวงใจ แล้วหันมาถามทูนอินทร์
“ทูนคะ เห็นผู้ชายที่อยู่กับเจ๊จวงไหม”
ทูนอินทร์หันไปมอง เห็นคำรณกับจวงกำลังปรึกษาแผนร้ายกันอยู่
“ทำไมเหรอครับ”
“เหมือนรุ้งเคยเห็นที่ไหน จำไม่ได้”
“ทำไมถึงคิดว่าเคยเห็นละครับ”
“เห็นทีแรกก็กลัวทันที รุ้งคงรู้จักเขามาก่อนแน่ๆ”
“รุ้งเพิ่งกลับมาเมืองไทยนะ จะรู้จักได้ยังไง”
“นั่นซีคะ หรือรุ้งคิดไปเอง”
“วันนี้มันแต่คนร้ายๆทั้งนั้น รุ้งเลยระแวงไปหมด”
รุ้งระวีพยักหน้าเชื่อ แต่มองไปทางคำรณที่จ้องตรงมา เธอต้องหลบตาทุกที

เพลงมิวสิคขึ้น เรือของรุ้งระวีอยู่กลางสระบัว กล้องของอินทรดอลลีไปข้างสระ รุ้งระวีร้องเพลงคิดฮอดออนไลน์ แล้วเก็บบัวไปด้วย ทูนอินทร์สั่งกล้องแล้วมองจอมอนิเตอร์ อิทธิกับจี่หอย นั่งประจำดูเหมือนเดิม อาชากับขวัญข้าวเข้ามาพร้อมส่งเสียงลั่น
“โอ๊ย ขับหลงไปตั้งไหนๆน่ะครับคุณ อิทธิ”
“ทำไมมันลึกลับนักนะอีไร่บ้าเนี่ย” ขวัญข้าวบ่น
ทูนอินทร์ฉุนกึกมองหน้าสองคน
“คัท! โทษนะครับ ถ้าจะคุยกัน โน่น...ออกไปคุยกันที่ทุ่งเลี้ยงควายโน่น ตรงนี้กำลังคนเขากำลังถ่ายทำ”
ทูนอินทร์ปาของที่อยู่ใกล้ๆ ดังโครมใหญ่ อาชากับ ขวัญข้าวตกใจ
“เฮ้ย ย้ายมอนิเตอร์ไปอยู่ตรงโน้น หนวกหูโว้ย” ทูนอินทร์ไม่พอใจหันไปสั่งลูกน้อง
บรรดาทีมงานรีบย้ายทันที ทูนอินทร์กระทืบเท้าอย่างอารมณ์เสียแยกไป อาชากับขวัญข้าวมองหน้ากัน อิทธิหันไปดุ
“กำลังถ่ายอยู่ เข้ามาได้ไง”
อาชาหน้าจ๋อย
“ไม่ทราบนี่ครับ”
ขวัญข้าวค้อน
“ถ้ารู้คงไม่ส่งเสียงให้โดนด่าหรอก แหม...ด่าเราเป็นวัว เป็นควาย”
จี่หอยถอนใจรีบตัดบท
“ไปแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวต้องลอยเรือกันในสระ ทางนี้เลย เชิญ”
อาชาและขวัญตามจี่หอยไป อิทธิส่ายหน้า มองไปทางรุ้งระวีที่อยู่กลางบึง เห็นรุ้งระวียิ้มให้ทูนอินทร์ที่ย้ายมอนิเตอร์ไปอีกมุม ทูนอินทร์ยิ้มตอบให้กำลังใจ อิทธิยิ่งเครียด

รุ้งระวีอยู่กลางสระ ทีมงานชายมาช่วยอยู่ใกล้ๆ เรือมะปรางยังอยู่ที่ฝั่ง จวงใจและคำรณแอบซุ่มอยู่ ทั้งสองไม่ทันสังเกตว่าฟ้าใสแอบมาเดินเล่นอยู่ในสวน ฟ้าใสรีบหลบหลังต้นไม้ใหญ่ไม่ห่างนักแอบฟัง
“นายจะทำยังไง”
“ผมจะดำลงไป แล้วพลิกเรือไปเลยง่ายดี ไม่มีใครรู้เห็นด้วย”
“แน่นะ ต้องไม่ให้ใครรู้นะ ไม่งั้นฉันกับนายไม่รอด”
“เชื่อผมซีครับ เรื่องอย่างนี้ผมชำนาญ ว่าแต่คุณนายคงไม่เล่นถึงตาย”
“ฉันไม่โหดขนาดนั้น เอาแค่มันตกใจเท่านั้นเอง”
“ดีครับ”
“แสดงว่าทำแบบนี้บ่อย”
“ก็แล้วแต่คนจ้าง”
“งั้นงานนี้ ถ้าสำเร็จ ฉันจ่ายอย่างงาม”
“ได้ครับ จัดการมันตอนนี้เลยไหม”
“อย่าเพิ่ง รอให้ทุกคนพร้อมก่อน”
จวงใจและคำรณหลบมุมไป ฟ้าใสได้ยินทั้งหมด ยิ้มกับตัวเอง
“อ้อ แกมีศัตรูเยอะอยู่เหมือนกันนะนังรุ้งระวี”

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 7/3
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์