หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 8/3

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 8/3
เย็นวันนั้น อินทรช่วยมะปราง ยกกระเป๋าออกมาจากห้องนอนรุ้งระวี
“มะปรางครับ”
“คะ”
“ยังไม่เปลี่ยนใจเรื่องงานใช่ไหมครับ”
“เรื่องเป็นแม่บ้านน่ะเหรอคะ ยังไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะยังสนุกกับงานตรงนี้”
อินทรเซ็ง
“ครับ เฮ้อ งั้นคนทางนี้คงผิดหวังแย่เลย ไม่สงสารเขาบ้างเหรอครับ เขาอยากมีแม่บ้านสักคนไว้...”
“เลี้ยงลูกใช่ไหมคะ” มะปรางต่อทันที
“หา! เลี้ยงลูก” อินทรอึ้ง

“ค่ะ ก็คุณทรพูดถึงพี่หนานใช่ไหมล่ะ เขาเคยพูดอยู่เหมือนกันว่า อยากจ้างแม่บ้านสักคนไว้เลี้ยงเด็ก แต่ปรางไม่สะดวกจริงๆค่ะ ฝากบอกพี่เขาด้วยนะคะ”
มะปรางแยกไป
“โธ่ น้องปราง เท่าไหร่ก็ไม่เก็ต” อินทรถอนใจ

ทูนอินทร์เดินตามหารุ้งระวี พบเธอนั่งอยู่ที่เพิงแสงจันทร์ มองบรรยากาศรอบตัวอย่างอาลัย
“ทุกคนตามหาคุณอยู่น่ะครับ จะกลับกันแล้ว”
“ค่ะ ฉันมาดูทุ่งสวยๆให้เต็มตาก่อนกลับ”
“พูดอย่างกับว่า คุณจะไม่ได้กลับมาอีก”
“กว่าจะกลับมาคงอีกนาน ตอนนี้ฉันต้องเดินสายออกคอนเสิร์ทแล้วละคะ”
“ไปอีสานคราวนี้ ผมจะช่วยคุณตามหาแม่”
“คุณไปกับฉันนะ”
“ครับ”
“แล้วถ้าไม่เจอ หรือแม่จากไปแล้ว”
“อย่าคิดในแง่ร้ายซีครับ เราต้องเจอ และคุณกับแม่ จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
“คุณเชื่ออย่างนั้น ?”
“ผมมักเชื่อในสิ่งดีงามเสมอ มันช่วยให้เรามีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป เพื่อไปยัง...”
ทูนอินทร์มองไปยังท้องฟ้า ที่เรื่อเรืองด้วยแสงยามเย็น เห็นสายรุ้งเล็กที่หลังเขาไกลออกไป
“โน่นไงครับ สุดปลายฟ้าโน่น”
รุ้งระวียิ้ม แล้วร้องเนื้อของเพลงสะพานรุ้ง ออกมา หนึ่งท่อน ทูนอินทร์ร้องต่ออีกท่อนนึง
“ถ้าท้อเมื่อไหร่ ร้องเพลงนี้ไว้นะครับ นี่คือเพลงที่ผมแต่งให้คุณ ทุกครั้งที่คุณท้อ หรือหมดหวัง เพลงนี้จะเป็นกำลังใจให้คุณข้ามสะพานรุ้ง ไปสู่จุดหมายของคุณได้ในที่สุด”
“ขอบคุณค่ะ”
ทูนอินทร์ดึงรุ้งระวีมากอดไว้ เธอทั้งสุขและอบอุ่น โดยไม่รู้ว่าอิทธิเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขามองทูนอินทร์อย่างชิงชัง
วันต่อมา ฟ้าใสในชุดสวยกำลังนั่งเอกเขนกอยู่ที่โซฟายาว ในบริษัทดำรงมิวสิค ขณะที่จ๊ะจ๋านักร้องในค่าย ใส่ชุดเหมือนอยู่บ้านนวดเท้าให้ฟ้าใส พลางถาม

“พี่บุกไปที่ไร่อินสรวงเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะซี มันกำลังถ่ายมิวสิคกันอยู่ พี่เข้าไปป่วนแทบจะเลิกกองไปเลย” ฟ้าใสบอกอย่างสะใจ
“ถามจริงๆ พี่กลับไปหาคุณทูนเขาทำไมอีก พี่เลิกกับเขาแล้วไม่ใช่หรือ”
ฟ้าใสนิ่งไป ความรู้สึกเจ็บปวดแว่บขึ้นมา
“ยังไม่ได้เซ็นทะเบียนหย่า ยังไงก็ถือว่ายังเป็นผัวเมียกันอยู่”
“แล้วเขายังมีใจให้พี่อยู่เหรอ ที่พี่เล่าเหมือนเขากำลังจีบยายฝรั่งอยู่นะ”
“ฉันถึงยอมไม่ได้ไง”
“พี่ระวังนะ เดี๋ยวเสี่ยดำรงรู้เข้า พี่จะซวย”
“ธุรกิจยุ่งขนาดนั้นจะไปรู้ได้ยังไง”
ทันใด ดำรงเข้ามาในห้อง
“น้องฟ้า เสี่ยมาแล้ว”
ฟ้าใสลุกทันที สะบัดเท้าจ๊ะจ๋าถึงกับเซไป
“ป๋าขา ไปสระบุรีสามวัน คิดถึงป๋าที่สุดเลย มา...หอมแก้มหน่อย”
ฟ้าใสหอมแก้มดำรงซ้ายขวา
“ป๋าก็คิดถึงหนู...อ้าว ยายจ๊ะจ๋า ทำอะไรน่ะ” ดำรงถามอย่างแปลกใจ
“ล้างเล็บให้พี่ฟ้า”
“แล้วทำไมแต่งตัว เหมือนคนใช้อย่างนี้”
“ก็....วันนี้ไม่ได้ไปออกงานไหนนี่คะเสี่ย”
“ไม่ใด้ นี่มันที่ทำงาน เราเป็นใคร บอกมา”
“หนู...จ๊ะจ๋า มยุรีนักร้องสังกัดค่ายดำรงมิวสิคค่ะ”
“แล้วแต่งตัวเป็นคนใช้แบบนี้ได้ยังไง ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้ แล้วล้างเท้าให้ชาวบ้านน่ะ เลิกทำได้แล้ว”
“มันอาชีพเก่าหนูนะคะ”
“ก็ให้เลิกได้แล้วไง”
“ค่ะ ค่ะ”
จ๊ะจ๋าบ่นอุบอิบ
“แต่ละชุด ปักเลื่อมทั้งนั้น ยิ่งใส่ยิ่งคัน”
จ๊ะจ๋าเดินออกไป ดำรงหันมายิ้มหวานให้ฟ้าใส
“เดี๋ยวเราไปกินกลางวันข้างนอกกัน”
“ได้ค่ะ ฟ้ามีเรื่องจะคุยกับป๋าหลายเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องคอนเสิร์ทโคราชคราวนี้ ฟ้ามีเรื่องจะขอร้อง”
“เรื่องอะไร”
ฟ้าใสยิ้มอย่างมีแผน

ในห้องประชุมของบริษัท อิทธิ รุ้งระวี และทุกคน นั่งดูมิวสิควิดีโอเพลงผู้ชายข้าวจี่ ที่ถ่ายออกมาสวยมาก
“ขอแสดงความยินดีด้วยรุ้ง เพลงนี้เข้าไปติดห้าอันดับของคลื่นเอเอ็ม เสี่ยวิทยาแล้ว”อิทธิบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
จี่หอย กับปรางปรบมือดีใจแทนรุ้งระวี ขณะที่กลุ่มจุ๊บแจงนั่งเซ็ง
“ให้เรามาดูแค่นี้ใช่ไหมครับ หมดธุระแล้วจะได้กลับ” อาชาทำน้ำเสียงรำคาญเต็มที่
“เชิญ”
ทั้งหมดออกจากห้อง บ่นด่ามิวสิคกันคนละคำสองคำ รุ้งระวีมองตามอย่างเบื่อหน่าย
“ภาพของคุณทูน กับโลเกชันเขาสวยจริงๆนะฮะ” จี่หอยชม
รุ้งระวีพยักหน้าเห็นด้วย
“ค่ะ อย่างนี้น่าจะให้คุณทูนถ่ายมิวสิคของรุ้งทุกเพลงเลยนะคะ”
อิทธิหน้าตึง
“รุ้ง นายทูนคงทำงานให้เราเท่านี้”
“ทำไมคะ”
“ผมจะไม่จ้างนายทูนกับนายเมธแล้ว คิดแพงเกินไป”
“แพงเหรอคะ รุ้งว่าเขาถูกกว่าหลายๆที่ แถมโลเกชันก็ฟรีอีก”
“ยังไงผมก็จะเปลี่ยน จี่หอย มะปราง ออกไปก่อน”
อิทธิบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ทั้งสองรีบออกไป รุ่งระวีถามทันทีที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง
“มีเหตุผลอื่นไหม”
“มี รุ้งมีอะไรกับนายทูนรึเปล่า”
รุ้งระวีอึ้ง พูดไม่ออก
“เห็นท่าทีระหว่างกัน เหมือนมันกำลังจีบคุณอยู่ แล้วคุณก็สนใจมันด้วย”
“นี่คือเหตุผลจริงๆ ใช่ไหมคะ”
“ก็ใช่”
“งั้นรุ้งยืนยันค่ะ เราไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่คุณคิด แต่ยอมรับว่าเขาเป็นคนดี และรุ้งสบายใจที่ได้ทำงานกับเขา”
“ผมจะไม่จ้างมันต่อ งานเบื้องหลังของรุ้ง ผมจะจ้างทีมงานอื่น”
“รุ้งต้องการทำงานกับคุณทูนค่ะ รุ้งต้องการเขา”
“รุ้งมีอะไรกับมันแน่ๆ ใช่ไหม”
“ถ้าคุณไม่จ้าง รุ้งก็คงทำงานให้คุณไม่ได้ เข้าใจนะคะ”
รุ้งระวีมองหน้ายืนยันกับอิทธิ แล้วจะออกจากห้อง
“มีอีกเรื่องค่ะ ไปโคราชคราวนี้ รุ้งจะล่วงหน้าไปก่อนสองวัน”
“ทำไม”
“รุ้งจะไปตามหาแม่ค่ะ”
“บอกแล้วว่าเรื่องแม่ผมจัดการให้”
“คุณได้แค่บอก แต่ไม่เห็นลงมืออะไร ฉันจะตามหาแม่ฉันเอง”
“กับนายทูนใช่ไหม”
“ค่ะ เขาอาสาจะช่วยฉันจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ”
รุ้งระวีออกไป อิทธิปัดของบนโต๊ะกระจาย มือถือดังขึ้น อิทธิกดรับ
“ใครวะ อ้าว เสี่ยดำรงเหรอครับ มีเรื่องจะคุย ได้นัดมาเลยครับ”
อิทธิฟังด้วยความแปลกใจ
อิทธินั่งอยู่ตรงข้ามดำรง ในห้องอาหารหรู ขณะที่ฟ้าใสนั่งอยู่ด้วย
“ไม่ยักรู้ว่าฟ้าใสมาด้วย” อิทธิอึดอัดเล็กน้อย
ดำรงยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
“งานนี้น้องเขาเป็นคนต้นคิด นายตกลงไหมล่ะ ที่เราจะจัดคอนเสิร์ทร่วมกัน แทนที่จะจัดคนละเวลาอย่างที่เคย”
“ทางผู้จัดเขาว่ายังไงละครับ”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เขายิ่งชอบใหญ่ ตัวแม่กับตัวแม่มาปะทะกัน”
อิทธิมองหน้าฟ้าใสอย่างไม่ไว้ใจ
“ถามเหตุผลก่อน ฟ้าใส ทำไมอยากจัดคอนเสิร์ตร่วมกับผม”
ฟ้าใสยิ้ม
“ฟ้าเห็นว่าน้องรุ้งกำลังดัง เพลงผู้ชายข้าวจี่ก็กำลังฮ็อตขึ้นอันดับ ฟ้าก็อยากประชันตัวต่อ ตัวให้รู้กันไปว่าใครจะเหนือกว่าใคร”
“นี่ละครับที่ผมไม่เห็นด้วย รุ้งยังใหม่ ผมไม่ต้องการให้รุ้งไปประชันกับใครทั้งนั้น”
ดำรงลังเล
“เอาไงน้องฟ้า เสี่ย อิทธิเขาไม่เห็นด้วย”
“แหม ฟ้าผิดหวังมากเลย เดี๋ยวนะคะ ขอฟ้าเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวเรามาคุยกันต่อ”
ฟ้าใสพยักหน้าให้อิทธินิดๆ เป็นเชิงให้ตามไป ก่อนจะลุกไป อิทธิมองตาม

อิทธิเดินตามฟ้าใสมาที่มุมปลอดคน
“คิดยังไงอยากจะประชันกับรุ้ง ถ้าเธอคิดจะแกล้งรุ้งบนเวที ฉันไม่ยอมแน่”
ฟ้าใสยักไหล่กวนๆ
“เปล่า ฟ้าแค่อยากต้อนรับน้องใหม่ เข้าวงการเท่านั้น”
“ไม่ตกลง ที่เธอเคยแกล้งจุ๊บแจง กับขวัญข้าวบนเวที นั่นก็เหลือจะรับแล้วไง อิจฉารุ้งละซี ที่เขาดังไล่หลังเธอมาแล้ว ทำใจเลยนะ รุ้งจะต้องดังกว่าเธอแน่ๆ” อิทธิยิ้มเยอะ
“เรื่องนั้นฉันไม่สนหรอกค่ะ ดังแล้วก็ดับได้ง่ายๆ เห็นอยู่บ่อยไป แต่ที่เสนอตัวขอร่วมคอนเสิร์ท เพราะฉันอยากจะช่วยสงเคราะห์คุณต่างหาก”
“สงเคราะห์อะไร”
“คุณรักแม่ฝรั่งไม่ใช่เหรอ แล้วรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังถูกสวมเขา”
“ยังไง”
“อดีตสามีฉัน คุณทูน กำลังจีบแม่ฝรั่งอยู่ รู้ใช่ไหม”
“รู้”
“ยังฉลาดอยู่บ้าง ฉันจะสงเคราะห์คุณเรื่องนี้ไง ฉันจะช่วยเป็นกันชนให้ ฉันจะดึงนายทูนให้กลับมาหาฉัน แม่ฝรั่งจะได้กลับไปซบอกคุณ”
“พูดอย่างกับเป็นเรื่องง่ายๆ นายทูนมันคงเหลือเยื่อใยในตัวเธอหรอกนะ”
“เหลือไม่เหลือไม่สำคัญ แต่ถ้าทำให้แม่ฝรั่งเข้าใจผิดว่า ถ่านไฟเก่าของนายทูนมันเกิดคุขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ดีหรอกหรือคะ”
อิทธิยิ้ม
“น่าจะบอกเหตุผลนี้เสียแต่แรก”
ฟ้าใสยิ้มอย่างพอใจ ที่อิทธิยอมรับข้อเสนอของเธอ

หลายวันต่อมา แสงหล้ากำลังคุ้ยขยะ เก็บของไปขาย ได้ยินเสียงเพลงผู้ชายข้าวจี่แว่วมา เธอคุ้นว่าคือเสียงของรุ้งระวี จึงเดินไปตามเสียง เห็นทีวีเปิดอยู่ในเพิงเป็นภาพมิวสิคของรุ้งระวี ที่ทั้งร้อง ทั้งเต้นอยู่ในสนามบ้านอินสรวง
“ลูกแม่ มีเพลงใหม่ออกมาแล้ว เพราะจังเลยลูก”
แสงหล้ามองอย่างดีใจ ดูมิวสิคอย่างเพลิดเพลิน ยิ้มปลื้ม เมื่อเพลงจบลง พิธีกรรายการประกาศ
“และนั่นคือเพลงใหม่ล่าสุดของสาวลูกครึ่งของเรา ผู้ชายข้าวจี่ รุ้งระวี ศรีแอลเอครับ และท่านผู้ฟังอย่าลืม วันที่ 12 ตุลานี้ น้องรุ้งระวีจะมาให้เราได้ชมตัวจริง เสียงจริง กับคอนเสิร์ตระเบิดความมันส์ของเหล่าศิลปิน หลายค่าย หลายคณะ ทั้งอิทธิซาวนด์ พบรุ้งระวี ขวัญข้าว จุ๊บแจง อาชา และค่ายดำรงมิวสิค พี สะเดิด ฟ้าใส ใจสะออน จ๊ะจ๋า มยุรี ประชันกันคับคั่ง งานนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด”
“รุ้ง ลูกจะมาหาแม่ที่นี่แล้ว เราจะได้พบกันแล้ว”
แสงหล้ายิ้มทั้งน้ำตา

แสงหล้ากลับไปที่ตึกร้างที่เธอพักอยู่ โดยขึ้นไปบนชั้นสองของตัวตึก แล้วเข้าไปที่ซอกหนึ่งที่เก็บสัมภาระของตัวเองเอาไว้ มีมุ้งเก่าๆ ขาดๆ ม้วนอยู่ที่ผนัง แสงหล้าเปิดกล่องออก รูปภาพเก่าคร่ำ สีซีดจาง กลายเป็นสีแดงเกือบหมดวางอยู่ จึงหยิบรูปออกมาดู เป็นภาพรุ้งระวีวัยเด็ก 3-4 ภาพ และภาพตัวเองสมัยยังสาวสวย
“แม่จะได้เจอลูกแล้ว ต่อไปนี้แม่จะเก็บเงินเพื่อไปดูหนูในคอนเสิร์ท แ ม่จะไม่เอาเงินไปซื้อเหล้ามากินอีกแล้ว”
แสงหล้าเหลือบไปเห็นขวดเหล้าที่ยังมีเหล้าเหลืออยู่เกือบครึ่งขวด จึงหยิบขวดเหล้าแล้วปาทิ้งไปยังกองขยะ แล้วค้นเงินในกระป๋องที่สนิมขึ้นเขรอะ เห็นเศษเงินและเหรียญจำนวนหนึ่ง
“เกือบร้อย หามาอีกสามร้อยก็จะครบ”
แสงหล้ายิ้มกับตัวเอง

วันต่อมา รุ้งระวีในชุดสวย ใส่แว่นดำ และโพกผ้า ปิดบังใบหน้าพอประมาณ ลงมาจากห้องที่พักในโรงแรมกลางโคราช ทูนอินทร์นั่งรออยู่ที่กลางโถง
“โอ้โฮ มิดชิดขนาดนี้เชียวเหรอครับ”
“ค่ะ ไม่อยากให้ใครจำฉันได้”
“รูปล่ะครับ”
“เตรียมไว้พร้อมแล้วค่ะ”
ทูนอินทร์รับรูปแสงหล้ามาดู
“ครับ งั้นก็พร้อมเดินทาง”
“ค่ะ เฮ้อ ตื่นเต้นจัง ได้กลับมาโคราช ถิ่นเดิมของฉันอีกครั้ง”
“อ๊ะ เดี๋ยวครับ”
“ทำไมคะ”
“อย่าทำหน้าเคร่งขนาดนั้นซีครับ กลับมาถิ่นเดิมทั้งที และจะได้เจอคุณแม่แล้ว ต้องทำหน้าให้สดชื่นเข้าไว้”
รุ้งระวียิ้มแก้มปริ
“แบบนี้นะคะ”
“นั่นแหละ แหม นับวันผมก็ยิ่งคิดว่าคุณคือเด็กผีนั่นเข้าทุกที” ทูนอินทร์มองอย่างสังเกต
“ว้าย เด็กผีที่ไหน”
“อ้อ หมายถึง เด็กแหม่มจ๋าน่ะครับ ยิ้มแก้มยุ้ยเหมือนกันเลย”
“แสดงว่าในใจคุณ ก็คงต้องชอบเด็กแหม่มจ๋าอยู่บ้างละ ใช่ไหม”
“ที่จริงเด็กนั่นก็หน้าตาน่ารักดี แล้ว เออ ทีแรก ที่ผมเข้าไปแนะนำตัวน่ะ ผมกะจะเข้าไปจีบนะ”
“เหรอคะ แน่ะ ชอบเขาละซี”
“ก็นิดหน่อย ถ้าไม่แกล้งผมนะ จีบเป็นแฟนแล้ว”
“เจ้าชู้มาตั้งแต่เด็กเลยนะคุณ”
“ผมเป็นคนใจอ่อน กับความน่ารักน่ะครับ”
รุ้งระวีส่ายหน้าขำๆ
“ไปครับ แล้วตั้งความหวังไว้ว่า วันนี้เราจะต้องตามหาแม่เราให้เจอ”
“ค่ะ ฉันต้องเจอแม่ฉันให้ได้”
ทูนอินทร์กางแขนให้รุ้งระวีควง แล้วเดินอย่างองอาจไปด้วยกัน

ที่ร้านเสื้อผ้าหรู ฟ้าใสเลือกเสื้อผ้าอยู่ โดยมีจ๊ะจ๋าถือถุงข้าวของที่ฟ้าใสซื้อก่อนหน้านี้ จนเต็ม 2 มือ ช่วยดูของอยู่ข้าง ๆ
“พี่ฟ้า ชุดนี้เหมาะสำหรับเปิดตัวพี่ที่โคราชเลย สวยแซ่บ”
จ๊ะจ๋าหยิบชุดปักเลื่อมดูราคาถูกออกมาให้ดู
“ยายจ๋า ไม่ต้องเสนอเลยนะ รสนิยมแกน่ะ ต่ำยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน นี่ ของฉันมันต้องชุดนี้ ถึงจะสมฐานะ ลูกทุ่งสาวเบอร์หนึ่ง”
ฟ้าใสหยิบชุดราคาแพง มีขนมิงค์รอบคอ ขึ้นมาทาบร่าง ดูกระจกอย่างชื่นชม
“โอย ไม่ร้อนแย่เหรอพี่ เหงื่อออกแล้วคันนะ”
“ร้อนก็ต้องทน เพราะสวย”
เสียงหัวเราะแว่วมาจากด้านในของร้าน ฟ้าใสชำเลืองไปเห็นคุณนายสามนาง แต่งหรูเต็มที่พร้อมเครื่องเพชรพราว กำลังมาเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เฉลาภรรยาของดำรง โดดเด่นกว่าใคร
“นังแก่ มาเพ่นพ่านแถวนี้ได้ยังไง”
ฟ้าใสจะตรงเข้าไปหา จ๊ะจ๋ารั้งไว้
“เดี๋ยวพี่ฟ้า นั่นเถ้าเกเนี้ยเสี่ยดำรงนะ พี่จะทำอะไร”
“เข้าไปทักมันน่ะซี เห็นสร้อยเพชรที่มันใส่อยู่ไหม”
“เห็น ใหญ่เบ้งเลย”
“นั่นแหละที่ป๋าซื้อจะให้ฉัน ตอนที่ฉันทำยอดขายได้อันดับหนึ่ง แต่นังแก่มันฉกไปเป็นของมัน”
“แล้วพี่จะทำไร”
“ก็ไปทวงของของฉันคืนมาน่ะซี”
ฟ้าใสตรงเข้าไปหาเฉลา จ๊ะจ๋ายกมือไหว้ท่วมหัว
“เพี้ยง อย่าให้เป็นเรื่องเลยนะ”

จบตอนที่ 8

อ่านต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 8/3
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์