หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 1

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 1

ท่ามกลางตึกสูงกลางใจกลางเมืองกรุงเทพฯ แสงแดดยามเช้าส่องมากระทบกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ซึ่งมีป้ายติดอยู่บนกระเป๋าสำหรับเดิน สักพักเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น


ธาวินเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์มือถือซึ่งวางคู่กับแหวนประจำตระกูลซึ่งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ธาวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ฮัลโหล...”
บริเวณล็อบบี้โรงแรมด้านล่าง ปรารภทนายความวัยกลางคนกำลังเดินพูดกับโทรศัพท์อยู่
“สวัสดีครับ คุณภูบดีใช่มั้ยครับ”
บนห้องพักในโรงแรม ธาวินยังนอนพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ใช่ ผมเอง”
“ผมทนายปรารภนะครับ ที่เรานัดกันไว้”
“ครับ”
“ตอนนี้ผมมาถึงแล้ว รออยู่ลอบบี้ข้างล่างครับ”
ได้ยินดังนั้น ธาวินก็เด้งตัวตื่นขึ้นจากเตียงทันทีด้วยความตกใจ หน้าตาของธาวินยังมีหนวดเครารกอยู่แต่ดูเท่ห์ บนหัวมีบราเซียของผู้หญิงติดอยู่
“ห๊า! อยู่ข้างล่างแล้วเหรอครับ” ธาวินเสียงสูง
“จะให้ผมขึ้นไปหาที่ห้องมั้ยครับ”
ธาวินหันมองสาวสวยผมบลอนซ์ที่นอนอยู่ข้างๆ แล้วบอก
“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมลงไป”
ธาวินปิดโทรศัพท์ทันทีก่อนจะก้มไปกระซิบข้างหูสาวสวยเป็นภาษาอังกฤษ
“DARING . THE TIME IS OVER . YOU HAVE TO GO NOW”
วินจุ๊บที่แก้มหนึ่งทีแล้วแล้วรีบลุกจากเตียง สาวฝรั่งคนสวยงัวเงียลุกขึ้นมามองตามด้วยสายตางงๆ

ภายในห้องน้ำ วินกำลังอาบน้ำอยู่ใต้ฝักใบอย่างเร่งรีบ แล้วรีบโกนหนวดเครา ให้ใบหน้าสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา

ธาวิน หนุ่มหล่อ มาดดีเลือกที่จะสวมสูทลำลองเพื่อพบกับปรารภ และธาวินไม่ลืมที่จะคว้าแหวนประจำตระกูลมาสวม ลองกับทุกนิ้วแต่ใส่ไม่เข้าสักนิ้ว สุดท้ายมาลงเอยที่นิ้วก้อย ธาวินยกนิ้วขึ้นมองแหวนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

ในเวลาเดียวกัน … ที่คฤหาสถ์หลังใหญ่โตโอ่อ่า อาณาเขตกว้างขวาง บุญทันในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ราคาถูกสะพายเป้โทรมๆใบหนึ่งมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านที่มีป้ายชื่อสีทองเขียนว่า “วริทธิวรนันท์” บุญทันยืนมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าเห็นแววตาครุ่นคิดกับเรื่องราวในใจ

นึกย้อนถึงเสียงลึกลับของชายคนหนึ่งที่โทรศัพท์เข้าหาในช่วงเวลากลางคืนเมื่อไม่นานนี้
“ถ้าแกไม่อยากตาย อย่ากลับมาเมืองไทย”

บุญทันยืนมองบ้านตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ต้นหอมสาวใช้วัยรุ่นของบ้านเดินเออกมาหา
“นายบุญทัน ใช่มั้ย”
“ใช่ครับ”
ทันทีที่ต้นหอมเห็นหน้าบุญทันเท่านั้นก็ทำเป็นสะดุ้ง สะดีดสะดิ้งที่เห็นผู้ชายหน้าตาดี
“อุ๊ย ...”
“ผมมาพบคุณนภา” บุญทันพูดเสียงขรึม
“มาทางนี้เลยจ้ะ พี่รูปหล่อ คุณนภารออยู่”
ต้นหอมเดินนำ บุญทันขยับเป้ขึ้นไหล่แล้วเดินตามไปทันที

บุญทันกวาดสายตามองสำรวจทั่วบ้าน ต้นหอมนำบุญทันเดินเข้าไปในห้องอาหารเพื่อพบนภาหญิงวัยห้าสิบ ที่มีท่าทางเจ้าระเบียบนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
“นายบุญทันมาแล้วค่ะ คุณนภา” ต้นหอมบอก
บุญทันยกมือไหว้นภา
“สวัสดีครับ”
“เธอรู้นะว่าหน้าที่ประจำของเธอก็คือขับรถให้คุณปู่และนอกเหนือจากนั้นถ้ามีเวลาว่างก็ช่วยล้างรถ ทำสวน พรวนดินด้วย เข้าใจนะ” นภาบอก
“ครับ”
“สำหรับเงินเดือนชั้นให้แปดพัน มีที่พักและอาหารให้สามมื้อ”
“ครับ”
“มีอะไรสงสัยมั้ย”
“ไม่มีครับ”
นภาหันไปสั่งต้นหอม
“ต้นหอมพานายบุญทันไปที่บ้านพักคนงาน”
“ค่ะ”
ต้นหอมพยักหน้าให้บุญทันเดินตามไป ก่อนที่บุญทันจะเดินออกไป ปารมีลูกสาวของนภาเดินสวนเข้ามาพอดี บุญทันเหลือบมองก่อนเดินตามต้นหอมออกไป
“ใครหรือคะแม่”
“คนขับรถคนใหม่ของคุณปู่น่ะลูก”
“ไว้ใจได้รึเปล่าคะ”
“สมัยนี้บอกไม่ได้หรอกลูกว่า ใครไว้ใจได้หรือไม่ได้ มันต้องอยู่กันไปก่อนถึงจะรู้ว่าไว้ใจได้แค่ไหน”
ที่ด้านนอก ระหว่างที่บุญทันเดินตามต้นหอมออกมาได้ลอบมองกลับไปในบ้านอีกครั้ง เห็นนภากับปารมีคุยกันอยู่ บุญทันมองแล้วก็หันกลับเพื่อเดินตามต้นหอมออกไป

ภายในโรงแรม ประตูลิฟท์เปิดออก ธาวินเดินเข้ามาในล็อบบี้เพื่อมองหาปรารภซึ่งนั่งรออยู่มุมหนึ่ง ปรารภมองมาที่ธาวินทั้งสองสบตากัน ปรารภลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาหา
“ขอโทษครับ คุณภูบดีรึเปล่าครับ”
“ใช่ครับ คุณคงเป็น ...”
“ผมปรารภ ทนายของคุณท่าน”
ธาวินยกมือไหว้
“สวัสดีครับ คุณลุงปรารภ ขอโทษทีนะครับที่ตื่นสายไปหน่อย มันเจ็ทแลคน่ะครับ นอนผิดเวลาเลยงง”
“ไม่เป็นไรครับ ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยครับ”
“ขอบคุณครับ”
ปรารภและธาวินเดินมานั่งลงที่เก้าอี้
“ไม่น่าเชื่อนะครับว่า คุณภูจะโตเป็นหนุ่มขนาดนี้ ผมจำได้ว่าเคยไปพบคุณพ่อคุณแม่คุณที่อเมริกาครั้งนึง ตอนนั้นคุณภูแค่ขวบเดียวเอง”
“ครับ” ธาวินฝืนยิ้มตอบสั้นๆ
“น่าเสียดายนะครับคุณพ่อคุณแม่คุณไม่น่าอายุสั้น เลยไม่ได้กลับมาพบคุณท่าน”
“ครับ ถ้าพ่อกับแม่ยังอยู่ท่านก็คงคิดถึงคุณปู่เหมือนกัน”
“แล้วนี่คุณภูจะเข้าไปพบคุณท่านวันนี้เลยมั้ยครับ”
“ผมขอเวลาซักสองสามวันได้มั้ยครับ พอดีผมมีธุระที่ต้องเคลียร์นิดหน่อย”
ปรารภยิ้ม
“ได้ครับ เอาเวลาที่คุณภูสะดวก นี่ถ้าคุณท่านรู้ว่าคุณภูอยู่เมืองไทยแล้ว ท่านต้องดีใจแน่ เดี๋ยววันนี้ผมจะเข้าไปบอกท่าน เอาล่ะครับ ผมไม่รบกวนเวลาคุณภูแล้ว”
ธาวินยกมือไหว้
“สวัสดีครับ”
- ปรารภชะงักทันทีเมื่อมองแหวนที่นิ้วก้อยของธาวินขณะยกมือไหว้
“ผมดีใจนะครับที่แหวนประจำตระกูลยังอยู่ที่คุณ”
“ครับ เป็นแหวนแต่งงานที่คุณพ่อให้คุณแม่ครับ”
“รักษาให้ดีนะครับ มันเป็นแหวนสำคัญที่จะใช้ยืนยันว่าคุณเป็นทายาทของวริทธิวรนันท์”
“ครับ”
หลังปรารภเดินออกไป ธาวินยกแหวนในมือขึ้นมองแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

โต๊ะอาหารในโรงแรม ธาวินนั่งจิบกาแฟแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมากด
ภายในห้องพักของบุญทัน โทรศัพท์มือถือวางอยู่บนเตียง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น บุญทันมองไปที่จอเห็นชื่อวิน บุญทันรีบกดรับทันที
“ฮัลโหล”
“เป็นไง เรียบร้อยมั้ย” ธาวินถาม
“อืมม์ ชั้นเข้ามาอยู่ในบ้านวริทธิวรนันท์แล้ว แล้วแกล่ะ” บุญทันว่า
“อีกสองวันชั้นถึงจะเข้าไป”
“ดีแล้ว ก่อนแกเข้ามาชั้นว่าเราควรจะเจอกันก่อนนะ จะได้วางแผนให้รัดกุม”
“ดี ชั้นเห็นด้วย”
“งั้นบ่าย ๆ ชั้นจะไปหาแก วันนี้ชั้นยังไม่เริ่มงาน”
“โอเค เดี๋ยวเจอกัน ระวังตัวด้วยล่ะ”
“อืมม์”
บุญทันปิดโทรศัพท์ทันที
ธาวินกดปิดโทรศัพท์ สไลด์หน้าจอiPhoneเปิดหาข่าวที่จะอ่าน จังหวะนั้น ...ใครคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม ธาวินเงยหน้าขึ้นมองสาวสวยที่สวมแว่นตาดำซึ่งเพิ่งเข้ามานั่ง ธาวินมองจ้อง แต่หญิงสาวนั่งตีหน้าตายทำเหมือนไม่เห็นธาวิน
“เอ่อ ขอโทษนะครับ โต๊ะนี้มีคนนั่งอยู่แล้ว”
ผู้หญิงแปลกหน้านึกว่าธาวินพนักงาน
“ชั้นรู้ไม่ต้องบอกหรอก โต๊ะชั้นเอง เมื่อกี้ชั้นแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือผมจะบอกว่าคุณนั่งผิดโต๊ะ”
“จะผิดได้ยังไงก็โต๊ะที่สามริมหน้าต่าง อาหารที่ชั้นสั่งก็ยังอยู่บนโต๊ะ”
สาวคนนั้นเอื้อมมือคลำไปบนโต๊ะพบว่า ไม่มีจานอาหารก็เริ่มหน้าเสีย ธาวินมองด้วยความสงสัย
“นี่ คุณแกล้งฉันเหรอ เอาอาหารของฉันไปไว้ไหน”
ธาวินพยายามจ้องมองให้ผ่านแว่นดำ
“ผมจะแกล้งคุณทำไม ผมนั่งของผมอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว”
ธาวินนึกว่า สาวแปลกหน้าคนนี้มาอ่อยแขก
“แต่ถ้าคุณอยากนั่งด้วย ผมก็ไม่รังเกียจ”
“จะบ้าเหรอ เอ๊ะ คุณบอกว่าโต๊ะคุณ นี่คุณไม่ใช่พนักงานเสริฟหรอกเหรอ”
“คุณตาบอดหรือครับ มองยังไง ถึงเห็นว่าผมเป็นพนักงานเสริฟ”
สาวแปลกหน้าเสียงสั่น
“เอ่อ ขอโทษค่ะ ชั้น .. ชั้นมองไม่เห็น”
สาวแปลกหน้ารีบลุกขึ้นแล้วหยิบไม้เท้าแบบพับสำหรับคนตาบอดออกมาจะเดินหนี ธาวินตกใจรีบลุกเดินเข้ามาขวางไว้
“เดี๋ยวสิครับ นี่คุณตาบอดจริงๆหรือ”
“แล้วคุณคิดว่าชั้นแกล้งหรือ”
“ผมขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าคุณ”
สาวแปลกหน้าบีบเสียงเศร้าทำเหมือนจะร้องไห้
“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ เป็นความผิดของชั้นเองที่ตาบอด ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
สาวแปลกหน้าเดินหนีทันที ธาวินเดินตาม
“เดี๋ยวครับคุณ”
“มีอะไรอีกคะ”
“แล้วนี่คุณจะไปไหนครับ ผมเดินไปส่งดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชั้นพักอยู่แถวนี้ ชั้นไปเองดีกว่า”
“ให้ผมเดินไปส่งดีกว่าครับ มาครับ เกาะแขนผม”
“เอ่อ ...”
“ผมเคยเป็นอาสาสมัครดูแลคนตาบอดครับ คุณไว้ใจผมได้มาครับ”
ธาวินคว้ามือสาวแปลกหน้าให้เกาะแขน

“ขอบคุณค่ะ”
สาวแปลกหน้าเดินเกาะแขนธาวินเดินออกไปที่ทางเดินริมถนน


“ชั้นนะเคยถูกแกล้งให้ยืนคุยกับเสาไฟฟ้าอยู่ตั้งนาน กว่าจะรู้ตัวก็อายคนอื่นเค้าแทบแย่”
“จริงหรือครับ มีคนแกล้งคุณแบบนั้นด้วยหรือ”
“ก็จริงสิคะ คิดว่าชั้นโกหกหรือ”
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครแกล้งผู้หญิงสวยๆอย่างคุณได้ลงคอ”
“น้อยไปล่ะสิ ชั้นถูกแกล้งตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
“นี่คุณตาบอดตั้งแต่เกิดเลยหรือครับ”
“ใช่”
“มิน่าคุณถึงเป็นคนแบบนี้”
“แบบนี้น่ะแบบไหน พูดให้ดีนะ”
“ก็แบบ ไม่ไว้ใจคนอื่นไง”
สาวแปลกหน้าทำงอน
“ไม่ต้องส่งแล้ว ฉันไปต่อเองได้ ขอบคุณนะคะ”
สาวแปลกหน้าหยุดเดินปล่อยมือจากแขนธาวินแล้วก้าวลงจะข้ามถนน
ทันใดมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“ระวัง!” ธาวินร้องขึ้น
มอเตอร์ไซค์เบรกเสียงลั่น ธาวินพุ่งไปรวบตัวกอดสาวแปลกหน้าเอาไว้ได้ทัน ทั้งสองล้มลงกับพื้น
เจ๊อ้อยซึ่งขี่มอเตอร์ไซด์ทำเป็นตะโกนด่าโวยวาย
“ตาบอดรึไง! ข้ามถนนไม่ดูรถรา อยากตายนักใช่มั้ย”
ตาลทำเป็นตกใจ
“เอ่อ ขอโทษค่ะ”
“คุณนั่นแหละขี่รถอย่างนี้ได้ไง ไม่ดูคน ถ้าชนขึ้นมาคุณก็ผิดเต็มๆ ผมว่าคุยกับตำรวจดี
กว่านะ” ธาวินว่า
ธาวินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นกดเบอร์ เจ๊อ้อยเห็นท่าไม่ดีจึงรีบขี่มอเตอร์ไซด์หนีหายไป ธาวินก้มเก็บไม้เท้าที่หล่นอยู่ให้สาวแปลกหน้า
“คุณเป็นยังไงบ้าง”
ธาวินเหลือบไปเห็นรอยถลอก
“คุณมีแผล”
สาวแปลกหน้าคลำที่แผลแล้วบอก
“ อุ๊ย จริงด้วย ตายแล้วชั้นเป็นเบาหวานด้วย หมอบอกอย่าให้เป็นแผล ชั้นต้องรีบล้างแผลก่อน”
“งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปโรงพยาบาล”
“แค่แผลนิดหน่อยไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอกค่ะ ชั้นแค่รบกวนคุณช่วยทำแผลให้หน่อยได้มั้ยคะ”
“ได้สิครับ ได้ เดี๋ยวผมทำให้คุณเอง เอาอย่างนี้ผมพักอยู่โรงแรมนี้ ไปที่ห้องผมแล้วกันนะครับ”
“ได้ค่ะ”
“มาครับ”
ตาลเกาะแขนธาวินเดินตามไปทันที

ประตูห้องพักในโรงแรมถูกเปิดออก ธาวินประคองสาวแปลกหน้าเข้าไป อีกมือหนึ่งมือถือกล่องปฐมพยาบาลขนาดเล็กเข้ามาด้วย ธาวินพาตาลเข้ามานั่งที่เก้าอี้
“คุณนั่งตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมล้างมือก่อน”
ธาวินเดินเข้าไปในห้องน้ำ สาวแปลกหน้ามองตาม เมื่อเห็นธาวินลับสายตาก็ถอดแว่น ความจริง... เธอไม่ได้ตาบอด สาวแปลกหน้ามองสำรวจทั่วห้องยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ภายในห้องน้ำ ขณะที่ธาวินกำลังล้างมืออยู่ที่อ่างก็พูดพึมพำว่า
“เสียดายไม่น่าตาบอดเลยสวยซะด้วย”
ธาวินดึงกระดาษเช็ดมือแล้วเดินออก สาวแปลกหน้านั่งใส่แว่นดำอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม
“มาครับ”
ธาวินลงมานั่งแล้วเปิดกระเป๋าปฐมพยาบาล หยิบแอลกอฮอล์ออกมาเทใส่สำลี
“มันจะแสบหน่อยนะครับ”
“ค่ะ”
วินเช็ดแผลให้ สาวแปลกหน้าเหลือบมองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“อุ๊ย”
“ผมเป่าให้ครับ...ดีขึ้นมั้ยครับ”
“ค่ะ”
ธาวินหันไปหยิบยาแดง
“นี่คุณพักอยู่คนเดียวเหรอคะ”
“ครับ ผมเพิ่งมาจากต่างประเทศ”
“ประเทศอะไรหรือคะ”
“อเมริกาครับ”
“มาเที่ยวหรือคะ”
“ครับ เที่ยวด้วยมาหาครอบครัวด้วย”
ธาวินใส่ยาเสร็จและปิดพลาสเตอร์ให้
“โอเค เรียบร้อยแล้วครับ”
สาวแปลกหน้ายกมือไหว้ ธาวินจับมือไว้
“ขอบคุณคุณมากนะคะ ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ”
ธาวินจ้องหน้าสาวตรงหน้า
“ทำไมคุณเงียบไปล่ะคะ”
“รู้มั้ยครับว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
วินถอดแว่นตาของสาวแปลกหน้าออก เธอทำเป็นตาบอดมองนิ่งไปเบื้องหน้า
“คุณอย่าหลอกให้ชั้นดีใจเลยค่ะ”
“ผมพูดจริงนะครับ ตาคุณสวยมาก จมูก ปากคุณก็สวย คุณสวยจนผม ...”
ธาวินเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้มองจ้อง สาวแปลกหน้าเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าวินช้าๆแล้วพลางลูบจากตาผ่านจมูกเรื่อยมาถึงริมฝีปาก
“คุณก็เป็นผู้ชายที่หล่อมากค่ะ”
“จริงรึเปล่าครับ”
“จริงค่ะ”
วินเคลื่อนหน้าเข้ามาจะจูบ อยู่ๆก็หมดสติดับวูบไป สาวแปลกหน้าลุกขึ้นมองแล้วว่า
“ไอ้ผู้ชายชีกอ หนอย .. คิดว่าเราตาบอดจริงกะจะลวนลามเรางั้นหรือ”
สาวแปลกหน้าค้นตามตัววิน หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เห็นเงินเป็นปึกก้หยิบไป พร้อมๆกับกวาดทรัพย์สินบนโต๊ะเช่น ไอแพด กล้องถ่ายรูปใส่กระเป๋า จากนั้นก็เดินเข้ามาถอดนาฬิกา แหวนจากนิ้วของธาวิน โยนใส่กระเป๋า
ทันใดนั้น เสียงมือถือของสาวแปลกหน้าก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
บริเวณตรอกหลังโรงแรม เจ๊อ้อยรออยู่มุมหนึ่งพูดโทรศัพท์
“ว่าไงไอ้ตาล”
“เรียบร้อยแล้วแม่ ไปเดี๋ยวนี้”
ตาล หรือ ชื่อจริงว่า ญาดาสาวนักต้มตุ๋นวิ่งออกไป ขณะที่ธาวินนอนไม่ได้สติ สลบอยู่คาห้อง
ญาดาวิ่งออกมาจากตรอกหลังโรงแรม เจ๊อ้อยสตาร์ทมอเตอร์ไซค์รออยู่ เจ๊อ้อยส่งหมวกกันน๊อคให้ ญาดารับมาใส่แล้วโดดขึ้นรถ เจ๊อ้อยขับออกไปในทันที

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 1
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th