อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 13
บุญทันมองหน้า มณทกานต์จ้องหน้ากลับอย่างเอาเรื่อง“ก็ได้ครับ”
บุญทันเดินตามมณทกานต์ไป ญาดาโผล่หน้าออกมามองสังเกต
บริเวณหน้าบ้าน มณทกานต์เดินนำเข้ามาชี้กระถางต้นไม้ให้บุญทัน
“นายเอากระถางนี้ย้ายให้หน่อย”
“ย้ายไปไหนครับ”
“นู่น”
บุญทันยกกระถางไปวางตรงที่เมย์ชี้ บุญทันวางเสร็จก็หันไปบอก
“แค่นี้นะครับ”
“เดี๋ยว ชั้นว่ามุมนี้ไม่ดี นายยกไปไว้ตรงนู้นซิ”
บุญทันถอนใจก่อนยกกระถางขึ้นเดินไปยังจุดที่มณทกานต์บอกใหม่ ครั้นบุญทันก้มจะวางกระถางลง
“เอ๊ะ ตรงนั้นก็ไม่ดีไหนลองตรงนั้นซิ”
บุญทันชะงักมองจ้องหน้ามณทกานต์
“มองอะไร ยกมาสิ”
บุญทันยกกระถางไปวาง มณทกานต์มองแล้วก็ส่ายหน้าอีก
“ไม่ดี เอากลับมาไว้ที่เดิมซิ”
บุญทันพยายามควบคุมความไม่พอใจยกกระถางกลับมาวางที่เดิม มณทกานต์มองอย่างลังเล
“เอ๊ะ หรือว่า”
บุญทันหมดความอดทนเดินเข้ามาหา มณทกานต์ชะงักถอย แม้จะเริ่มกลัวแต่ก็ยังปากเก่ง
“นี่นายจะทำอะไร”
บุญทันไม่ตอบเดินเข้ามาใกล้ มณทกานต์ถอยไปจนมุม บุญทันยืนจ้องหน้าจนมณทกานต์เริ่มประหม่า บุญทันก้มหน้าเข้าไปหาจนใกล้เหมือนจะจูบ
ญาดาที่แอบมองอยู่โผล่หน้าออกมาจากหลังพุ่มไม้ เห็นบุญทันทำท่าเหมือนจะจูบมณทกานต์ ญาดาชะเง้อมองเผลอคิดไปก่อน
“นี่นายบุญทันจะทำอะไรน้องเมย์ อย่าบอกนะว่าจะจูบน้องเมย์”
บุญทันมองจ้อง มณทกานต์อึ้ง หวั่นไหววาบหวิวนึกว่าจะถูกจูบ แต่ไม่ใช่...
“ผมจะถามว่าคุณเมย์อยากให้ผมย้ายกระถางไปไว้ตรงไหนอีก”
“เอ่อ ไม่ต้องแล้ว ตรงนั้นก็โอเคแล้ว”
มณทกานต์หลบสายตาบุญทันที่มองอย่างโมโหแล้วเดินลิ่วกลับไป มณทกานต์มองตามถอนใจเฮือก
“นึกว่าจะทำอะไรเรา ตกใจหมด”
ทันทีที่เห็นบุญทันเดินมาตามทาง ญาดาก็รีบหลบ แต่บุญทันเรู้ว่าญาดาซ่อนตัวหลบอยู่หลังพุ่มไม้
“คุณตาลมีอะไรกับผมรึเปล่า”
ญาดาสะดุ้งแต่ยังไม่ยอมออกมาจากหลังพุ่มไม้
“ผมเห็นคุณแอบมองผมตั้งแต่อยู่ที่โรงจอดรถแล้ว”
ญาดาตกใจที่บุญทันจับได้ แกล้งทำเก๊กเนียนโผล่หน้าออกมาจากหลังพุ่มไม้แล้วว่า
“นายบ้ารึเปล่า ชั้นจะแอบมองนายทำไม”
“ผมจะไปทราบหรือครับ ถ้าคุณตาลไม่ได้แอบมองผมแล้วคุณมายืนทำอะไรตรงนี้”
“ชั้นก็ออกมาเดินเล่นดูต้นไม้ใบหญ้า แล้วบังเอิญเห็นนายจะทำมิดีมิร้ายน้องเมย์ ชั้นก็เลยแอบดูเพราะถ้าน้องเมย์ร้องขอความช่วยเหลือ ชั้นจะได้เข้าไปช่วย”
“ผมเป็นแค่คนขับรถ ผมคงไม่กล้าทำอะไรโง่ๆแบบนั้นหรอกครับ”
“อ้อ ใช่สิ ชั้นลืมไปว่านายไม่ได้ชอบผู้หญิง”
“คุณพูดเรื่องอะไร”
“อย่าคิดว่าชั้นไม่รู้นะว่านายคิดอะไรกับคุณภู”
บุญทันยืนงง ญาดายิ้มเยาะแล้วเดินออก บุญทันมองตามด้วยสายตาสงสัย
“เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ”
ญาดาหันกลับมาหยุดมองอย่างไม่ไว้ใจ
“สงสัยจะเป็นเสือไบ ชอบทั้งหญิงทั้งชาย”
ญาดาจะขยับเดินก็ชะงักเมื่อเจอกับนภากับปารมีเดินเลี้ยวมาพอดี
“สวัสดีค่ะคุณป้านภา”
นภาเมินหน้าไม่รับไว้
“แม่คะ พี่ตาลเค้าทักนะ” ปารมีบอก
“อืมม์ สวัสดี”
นภารับคำอย่างเสียไม่ได้แล้วเดินผละไป
“ขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะคะพี่ตาล แกอารมณ์ไม่ค่อยปกติน่ะค่ะ นี่ปากำลังจะพาไปหาหมอ”
“คุณป้าเป็นอะไรหรือคะ”
“เป็นโรคซึมเศร้าน่ะค่ะต้องพบหมอทุกเดือน ขอตัวนะคะ”
“ค่ะ”
ญาดามองตามปารมีและนภาที่เดินออกไป
“ฮึ เป็นโรคซึมเศร้าแต่ดึกๆลุกขึ้นมาขโมยของ”
ญาดาส่ายหน้าแล้วก็ชะงักที่เห็นอนุทินยืนมองยิ้มให้อยู่ใกล้ๆ
“สวัสดีครับ น้องตาล”
ญาดาแปลกใจกับท่าทีของอนุทิน
“หวัดดีค่ะ คุณเอ”
“เรียกผมพี่เอก็ได้นะครับ เพราะที่จริงน้องตาลก็มีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้ผม”
“ค่ะ พี่เอ”
“เมื่อกี้พี่ขึ้นไปทานอาหารเช้ากับคุณปู่นึกว่าจะเจอน้องตาลซะอีก”
“อ๋อ ตาลทานกาแฟไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ พี่เอมีอะไรกับตาลรึเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่อยากทำความรู้จักกับน้องสะใภ้คนใหม่”
อนุทินจ้องหน้าจนญาดายิ้มเขิน
“นายภูนี่ตาคมนะ เลือกเมียได้สวยน่ารัก”
“ขอบคุณค่ะ”
“เป็นไงครับ ชอบบ้านวริทธิวรนันท์มั้ย”
“ชอบค่ะ แต่ที่นี่ใหญ่จังตาลยังเดินไม่ทั่วเลย”
“วันไหนว่างๆไปกินกาแฟบ้านพี่บ้างก็ได้นะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ธาวินเดินเข้ามาเห็นอนุทินยืนคุยอยู่กับญาดาพอดี
“ตาล ...มาอยู่นี่เอง พี่เดินหาซะทั่ว”
“ตาลคุยกับพี่เอน่ะค่ะคุณภู”
อนุทินจงใจแตะแขนญาดาให้ธาวินเห็น
“ แล้ววันหลังคุยกันใหม่นะน้องตาล”
“ค่ะ”
ธาวินมองอย่างไม่พอใจ
“คุยอะไรกันหรือ”
“ก็เรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ตลกนะคะอยู่ดีๆวันนี้คุณเอก็พูดดีกับตาลแถมยังชวนตาลไปกินกาแฟที่บ้านด้วย”
“แต่ผมไม่ชอบนะ”
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็ที่เค้าทำสนิทสนมแตะตัวแตะแขนตาลน่ะ”
“เค้าคงเห็นตาลเป็นน้องมากกว่าค่ะ”
“ผมไม่เชื่อ แล้วผมก็ไม่อยากให้ตาลสนิทสนมกับเค้านะ ตาลเป็นเมียผมนะ ผมบอกตามตรงว่าผมหึง”
ธาวินมองจ้องหน้า ญาดาหลบตาเขินกับคำพูดจริงจังของธาวิน
“ค่ะ ตาลจะอยู่ห่างๆเค้า”
“ดีมากจ้ะ”
ธาวินจะจุ๊บแก้ม ญาดายกมือบังอย่างรู้ทัน
“ห้ามค่ะ”
ธาวินมองตามแล้วส่ายหน้ากับท่าทีของญาดา อนุทินยืนมองยิ้มอย่างหวังร้ายอยู่ด้านหลัง
ภายในห้องตรวจของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หมอกำลังส่องไฟฉายตรวจลูกตานภาทั้งซ้ายและขวา ทั้งนภายังอ้าปากให้หมอส่องไฟดู
“โอเคครับ ช่วงนี้คุณนภานอนหลับสนิทมั้ยครับ”
“หลับๆตื่นๆน่ะค่ะ บางคืนก็ไม่หลับเลย”
“ทำไมล่ะครับ หมอเคยบอกแล้วไงถ้านอนไม่หลับให้ทานยาที่หมอให้ไป”
“ดิชั้นกลัวว่าถ้าหลับไปแล้วจะฝันร้าย”
“ฝันอะไรครับ เล่าให้หมอฟังได้มั้ย”
“มีคนพยายามทำร้ายชั้นกับลูก แล้วชั้นก็ ...”
นภาหยุดอยู่แค่นั้น ไม่กล้าเล่าต่อ
“แล้วยังไงครับ”
“แล้วชั้นก็ฆ่ามัน เลือดเต็มไปหมดเลยค่ะ มันน่ากลัวมากเลยค่ะหมอเหมือนมันเกิดขึ้นจริงๆ” พูดจบนภาก็ร้องไห้
“เอาล่ะครับ คุณนภาไม่ต้องกลัว มันเป็นแค่ความฝัน ไม่มีใครทำร้ายคุณนภาได้หรอก”
นภายังมีแววตาตื่นตระหนกแม้ว่าหมอจะปลอบแล้วก็ตาม
“เชื่อหมอนะครับ มันเป็นแค่ความกลัวฝังใจคุณนภาเท่านั้นเอง หมออยากให้คุณนภาทานยาที่หมอให้ไปให้ครบ เพราะถ้าคุณนภาทานบ้างไม่ทานบ้าง การรักษาก็จะไม่ดีขึ้นนะครับ เข้าใจมั้ยครับ”
นภาพยักหน้ารับ
“ดีมากครับ”
ทางเดินในโรงพยาบาล หมอกำลังเดินคุยมากับปารมี
“หมอว่าคุณปารมีคงต้องอยู่ใกล้ชิดคุณนภาให้มากกว่านี้นะครับ พยายามให้แกทานยาให้ครบตามที่หมอสั่ง”
“คุณแม่เริ่มผิดปกติอีกแล้วใช่มั้ยคะ”
“ครับ แกบอกหมอว่าแกฝันร้ายบ่อย ๆ”
“ทำไมแม่ถึงฝันร้ายอยู่เรื่อยๆคะหมอ”
“แกคงมีเรื่องที่กลัวฝังใจน่ะครับ หมอพยายามถามแกว่าเป็นเรื่องอะไร แต่แกก็ไม่ยอมเล่าให้ฟัง คุณปารมีพอจะบอกหมอได้มั้ยครับว่าคุณนภาแกมีเรื่องอะไร”
ปารมีปกปิดทันที
“เอ่อ ปาก็ไม่ทราบค่ะ บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่พ่อกับแม่เลิกกันน่ะค่ะ”
หมอพยักหน้ารับรู้
“ยังไงคุณปารมีก็ใกล้ชิดแกหน่อยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
ปารมีนึกถึงแม่แล้วก็ถอนใจ
ในเวลาต่อมา ปารมีกับนภากลับเข้ามาในบ้าน นภาวางของลง ปารมีเดินไปเทน้ำให้
“น้ำค่ะแม่”
“ขอบใจลูก”
“แม่ต้องพยายามลืมเรื่องในอดีตนะคะ ถ้าแม่ไม่ลืมแม่ก็จะเจ็บปวดอยู่อย่างนี้”
“แม่ลืมไม่ได้หรอกลูก พวกมันโหดร้ายกับแม่แค่ไหนลูกไม่รู้หรอก”
นภาน้ำตาไหล
ในอดีต ภายในห้องพักในเวลากลางคืน นภานอนหลับอยู่ในห้อง ประตูห้องถูกงัดเปิดเข้ามา ชายฉกรรจ์ 2 คนเดินย่องเข้ามาที่ห้องและเดินตรงไปที่เตียง นภาในวัย 30 ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง ชายทั้ง 2 คนยิ้มให้กัน นภาลืมตาตื่นมองอย่างตกใจ
“นี่พวกแกเป็นใคร ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
ชายคนแรกปิดปากนภา ชายอีกคนตรงเข้ามากระชากเสื้อ นภาทั้งดิ้นทั้งถีบ ชายคนที่สองต่อยท้องนภาจนตัวงอทรุดสลบไป แล้วแสยะยิ้มพลางปลดกางเกงของตัวเองออก ก้าวขึ้นเตียง มือลูบไล้แล้วจับที่ใบหน้าของนภาพร้อมกับกระชากเสื้อของนภาออกจนเปลือยเปล่า
นภานึกถึงครั้งใดก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ถ้าไม่เป็นเพราะพวกมัน ชีวิตของแม่กับลูกก็จะไม่เป็นแบบนี้เพราะพวกมัน พวกมันทำลายชีวิตเรา พวกมันทำลายชีวิตเรา”
ปารมีกอดแม่ด้วยความสงสาร
“แม่คะ มันจบไปแล้วค่ะ จะไม่มีใครทำอะไรแม่ได้อีก หนูสัญญาหนูจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายแม่อีก”
นภาร้องสะอื้นในอ้อมกอดปารมี
วันรุ่งขึ้นตอนกลางวัน ภายในบ่อน เจ๊อ้อยถือถาดเครื่องดื่มเข้ามาบริการให้ลูกค้าที่กำลังแทงรูเล็ตที่โต๊ะ
“เป๊ปซี่ของเฮียโต น้ำส้มของเจ๊ศรี น้ำแดงของต้อยติ่งได้แล้วจ้ะ”
“ขอบใจ เจ๊อ้อย” ลูกค้าบอก
“ขอโอวัลตินเย็นแก้วนะเจ๊อ้อย” ลูกค้าอีกคนสั่ง
“ได้ เดี๋ยวเอามาให้นะ”
เจ๊อ้อยหยุดยืนดูคนแทงรูเล็ตแล้วลุ้นเชียร์ไปกับลูกค้าคนอื่นด้วย ลูกรูเล็ตลงรู คนแทงถูกเฮ คนแทงผิดบ่นพรึม เจ๊อ้อยมองอย่างคันมืออยากเล่นบ้าง ถือถาดกาแฟเดินไปห้องเฮียเสก เคาะประตูเปิดเข้าไป
ภายในห้อง เฮียเสกกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เจ๊อ้อยเปิดเข้ามา
“กาแฟได้แล้วจ้ะเฮียเสก”
“ขอบใจ”
“นี่เฮียเสก ไหนๆชั้นก็ถูกจับเป็นตัวประกันไว้ที่นี่แล้ว ให้ชั้นยืมเงินทำทุนซักก้อนได้มั้ย เผื่อชั้นเล่นได้ ชั้นจะได้เอาเงินมาปลดหนี้ตัวเอง”
“ไหนบอกว่าลูกสาวกำลังหาเงินมาช่วยไง”
“ไอ้ตาลมันก็หาอยู่ทางนึง ส่วนชั้นอยู่ทางนี้ ชั้นก็ไม่อยากอยู่เฉย ๆนะเฮียเสก ชั้นขอยืมซักห้าหมื่นก็ได้ ชั้นว่าวันนี้ชั้นดวงเฮง ต้องเล่นได้แหง ๆ”
เฮียเสกส่ายหน้าแล้วบอก
“ไม่ ชั้นว่าเจ๊อ้อยอยู่เฉยๆคอยเสริฟน้ำล้างแก้วน่ะดีแล้ว อย่าเพิ่มหนี้อีกเลย”
“แต่ชั้นว่า ...”
“ไปสั่งข้าวกระเพราให้จาน”
“แหม เฮียเสก ไม่เห็นใจกันบ้างเลยหรือ”
เสกมองหน้าเจ๊อ้อยเขม็ง
“อยากเจ็บตัวหรือไง ออกไป”
เสกตวาด เจ๊อ้อยคว้าถาดเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย เสกมองตามแล้วส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์
ที่มุมหนึ่งของบ่อน เจ๊อ้อยกดโทรศัพท์ หาญาดาที่แอบพูดโทรศัพท์อยู่ในห้องน้ำในห้องภูบดี
“ฮัลโหล”
“นี่แม่เองนะไอ้ตาล”
“แม่เป็นไงบ้าง พวกมันทำอะไรแม่รึเปล่า”
“ตอนนี้ยัง แต่ต่อไปก็ไม่แน่ เมื่อไหร่เอ็งจะหาเงินมาไถ่ตัวแม่ออกไปได้ซะที นี่แม่ต้องเสริฟข้าวเสริฟน้ำล้างแก้วล้างจานขัดดอกให้มันจนมือเปื่อยหมดแล้วนะ”
“อดทนหน่อยนะแม่ หนูก็พยายามหาเงินอยู่ แต่มันยังไม่มีจังหวะ”
“จังหวะอะไรวะ แล้วเอ็งไปหาเงินที่ไหน”
“แม่อย่าเพิ่งรู้เลย เอาเป็นว่าแม่อดทนไปก่อนนะ ถ้าได้เงินเมื่อไหร่ หนูจะรีบไปไถ่ตัวแม่ทันที”
“เออ เออ แต่เอ็งก็สบายดีใช่มั้ย”
ญาดาน้ำตาคลอ
“สบายดีจ้ะ หนูคิดถึงแม่นะ”
“เออ แม่ก็คิดถึงเอ็ง แม่ขอโทษนะที่ทำให้เอ็งลำบาก แม่สัญญา ถ้าแม่ออกไปได้ แม่จะเลิกเข้าบ่อนเด็ดขาด”
“จ้ะแม่ ดูแลตัวเองดีๆนะ”
“เออ เอ็งก็เหมือนกัน ดูแลตัวเองนะลูก”
“จ้ะ”
ทั้งญาดาและเจ๊อ้อยต่างน้ำตาไหลด้วยความเป็นห่วงและคิดถึงกัน
“ทำยังไงเราถึงจะขโมยเงินไปช่วยแม่ได้นะ”
อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 13
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th