หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 7

่อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 7

ตาลอึ้งไปในทันที
“มันจะดีหรือคะ ตาลว่าตาลไม่ต้องไปหรอกมั้ง”
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับคุณท่านใจดี แต่ที่ผมอยากให้ปิดเรื่องนี้ไว้เพราะไม่อยากให้คุณท่านไม่
สบายใจ ท่านไม่เคยเจอคุณภูเลย พอจะได้เจอกันก็ดันเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นมาอีก”
“คุณปรารภหมายความว่ายังไงคะ ไม่เคยเจอกันเลย”

“อ๋อ ก็คุณภูวดลพ่อของคุณภูนะครับ ท่านทะเลาะกับคุณท่านแล้วก็หนีไปอยู่อเมริกาจนกระทั่งแต่งงานมีลูก แล้วไม่เคยกลับมาเมืองไทยอีกเลย”



“เอ่อ แล้วพ่อแม่คุณภูล่ะคะ”
“ท่านเสียนานแล้วครับ คุณภูไม่ได้เล่าให้คุณตาลฟังหรือ”
“ก็เล่านิดๆหน่อยๆน่ะค่ะ อย่างที่บอกตาลไม่เคยคุยเรื่องฐานะหรือว่าเรื่องครอบครัวของภู แค่รู้ว่าเรารักกันก็พอแล้ว”
“ผมดีใจกับคุณภูด้วยที่เจอผู้หญิงน่ารักอย่างคุณตาล”
ญาดาฝืนยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปครับ”
ปรารภเดินนำไปญาดาไปพร้อมกับเปิดประตูให้ ญาดาจำใจเดินตามออกไป



ในเวลาต่อมา รถของปรารถแล่นมาจอดหน้าโรงพยาบาล
“ผมส่งคุณตาลตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะกลับไปรายงานให้คุณท่านทราบเรื่องที่คุณภูได้รับอุบัติเหตุ แล้วพรุ่งนี้ผมจะมารับ”
“ค่ะ ตาลกับพี่ภูจะรอ”
ญาดาลงจากรถ ขณะที่ปรารภขับรถออกไป ญาดามองตามอย่างยิ้มกระหยิ่ม
“ขืนชั้นรอก็โง่สิ”
ญาดาตัดสินใจเดินออกไปอีกทาง


ญาดาตัดสินใจกลับมาที่บ้าน
“แม่ หนูมาแล้ว มีอะไรกินบ้าง หิวจัง แม่”
ญาดาเดินดูจนทั่วบ้านก็ไม่เจอเจ๊อ้อย
“ไหนบอกว่าอยู่บ้าน”
ญาดาเดินไปเปิดตู้เย็นหาของกิน ทันใดนั้น เสียงมือถือก็ดังขึ้น
“นี่แม่อยู่ไหนเนี่ย”
เจ๊อ้อยถูกเฮียเสกควบคุมตัวมาที่บ่อน
“ช่วยแม่ด้วยไอ้ตาล”
“มีเรื่องอะไรแม่”
เสกกระชากมือถือมาจากเจ๊อ้อยไปพูดแทนทันที
“ถ้าแกไม่อยากให้แม่ตายหาเงินมาไถ่ตัวมันคืนไป”
“แกจับแม่ชั้นไปทำไม”
“ยังมีหน้ามาถามอีกหรือ แกกับแม่เข้ามาขโมยของแถมยังเผาบ่อนชั้น ชั้นไม่ฆ่าตัดคอแม่แกก็บุญแล้ว”
“แล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่”
“สิบล้าน”
“หา.. สิบล้าน ชั้นจะไปเอาที่ไหนมาให้ ไม่มีหรอก”
“ถ้าแกไม่มีเงินมาให้ชั้น แม่แกตายแน่ นอกซะจากว่า แกจะมาทำงานรับแขกวีไอพีให้ชั้น แล้วก็หักหนี้กันไปไม่เกินห้าปีก็คงหมด”
เสียงเจ๊อ้อยตะโกนเข้ามาในสาย
“อย่านะลูก ปล่อยให้แม่ตาย อย่าขายตัวให้มัน”
“ชั้นให้เวลาสองเดือน ถ้าเกินจากนั้นชั้นจะส่งแม่เธอไปขายชายแดน”
เสกวางสายไปทันทีพร้อมๆกับโยนมือถือคืนให้เจ๊อ้อย
ญาดาถึงกับเครียดแล้วอึ้งไป
“แม่ โอ๊ย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย นี่ชั้นจะไปหาเงินจากไหนตั้งสิบล้าน”
ในเวลากลางวัน ภายในห้องทำงานของปรารภ ในตึกใหญ่บ้านวริทธิวรนันท์ ต้นหอมเอากาแฟวางให้พิพัฒน์กับปรารภ

“แล้วหลานชั้นเป็นอะไรรึเปล่า” พิพัฒน์ถามขึ้น
“ไม่ครับ ตอนนี้คุณภูปลอดภัยดีแล้ว หมอให้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล พรุ่งนี้ผมจะพาคุณภูมาหาท่าน”
“แล้วมันไปทำอีท่าไหนถึงโดนจี้”
“เห็นภรรยาแกบอกว่าเดินเล่นกันอยู่น่ะครับ”
“นี่เจ้าภูมันมีเมียแล้วหรือ”
“ครับ”
“ไม่เห็นคุณเล่าให้ชั้นฟังเลย”
“ผมเองก็เพิ่งทราบครับ เพิ่งเจอหน้าเธอเมื่อคืนนี้”
“แล้วหน้าตาเป็นยังไง สวยมั้ย”
“ก็น่ารักดีนะครับ ชื่อคุณตาล”
พิพัฒน์พยักหน้ารับรู้

บริเวณหน้าโรงพยาบาลในเวลาเดียวกัน ญาดาในเสื้อผ้าชุดใหม่ถือเป้ใส่เสื้อผ้าสะพายเข้ามามองอย่างลังเลและหยุดคิด นึกถึงคำพูดของปรารภที่บอกว่า
“คุณปรารภหมายความว่าคุณภูเป็นทายาทเศรษฐีร้อยล้านเหรอคะ” ญาดาถาม
“ไม่ใช่ครับ ต้องบอกว่าเศรษฐีพันล้านถึงจะถูก”
แล้วก็อดคิดต่อเรื่องที่หมอบอกว่า
“กรณีของคุณภู หมอคิดว่าแกคงจะจำเหตุการณ์ก่อนที่จะสลบไปไม่ได้เลย รวมทั้งความเป็นมาใน
อดีตของตัวเองด้วย”
“จริงเหรอคะ แล้วคุณภูจะหายมั้ยคะ จะจำความได้เมื่อไหร่คะ”
“หมอเองก็ให้คำตอบไม่ได้ บางเคสก็หายเร็ว แต่บางเคสก็อาจจะนาน หรือไม่ก็ไม่สามารถจำอดีต
ได้อีกเลย”
ญาดาตัดสินใจเด็ดขาด
“เอาวะ ... ไหนๆเราก็สวมรอยเป็นเมียเค้าแล้ว ... เราอาจโชคดีได้เงินไปช่วยแม่”
ญาดาตัดสินใจเดินเข้าไปในโรงพยาบาลทันที

ภายในห้องพักฟื้น ญาดาเปิดประตูเข้ามา ธาวินยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง
“ไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะดวงซวย อยู่ๆก็กลายเป็นคนความจำเสื่อมไปได้” ญาดาว่า
ญาดาก้มหน้าลงไปมองหน้าธาวินในระยะใกล้ ธาวินลืมตาโพลงขึ้นทันที เล่นเอาญาดาสะดุ้งถอยออกไปไกลเตียงทันที
“ว้าย”
“คุณ...”
ธาวินจ้องมอง ญาดายิ้มหวานให้
“ตื่นแล้วหรือคะ”
“ผมจำคุณได้แล้ว”
ญาดาตกใจหน้าเสียทันที
“ ว่าไงนะจำชั้นได้หรือ”
“ใช่ เมื่อเช้าคุณบอกว่าคุณเป็นเมียผมไม่ใช่หรือ”
ญาดาลอบถอนใจอย่างโล่งอก
“ใช่ค่ะ ตาลเป็นเมียคุณ แล้วคุณจำอะไรได้อีกมั้ยคะ ไหนลองนึกซิ”
ธาวินพยายามนึกไม่นึกไม่ออกจนต้องยกมือขึ้นกุมหัว
“โอ๊ย ผมนึกอะไรไม่ออกเลย หัวผมมันว่างเปล่าไปหมด”
ญาดายิ้มอย่างพอใจ
“นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึกหรอกค่ะทำใจให้สบาย หมอบอกว่าคุณความจำเสื่อม “
“หา ความจำเสื่อม ผมความจำเสื่อมงั้นเหรอ”
ญาดายิ้มพยักหน้าให้ความมั่นใจ

หลังสนทนา ญาดาส่งแก้วน้ำให้ธาวินดื่ม ส่วนธาวินเอื้อมมือไปปรับเตียงเพื่อนั่งคุย ญาดาคุยต่อ
“คุณชื่อภูบดี วริทธิวรนันท์ค่ะ เพิ่งกลับจากอเมริกาเพื่อมาหาคุณปู่ที่เมืองไทย แต่เผอิญถูกทำร้ายซะก่อนเลยต้องมานอนอยู่ที่นี่”
“แล้วผมรู้จักกับคุณได้ยังไง”
“เราเจอกันบนเครื่องบินค่ะ คุณน่ะแอบมองตาลตลอดเวลาเลย แล้วก็เข้ามาแนะนำตัวขอคุยกับตาล”
ธาวินมองญาดาที่พูดเจื้อยแจ้วดูสดใส
“จากนั้นเราสองคนก็คุยกันถูกคอมากเพราะชอบอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน”
ญาดาส่งยิ้มสวยให้ ธาวินมองอย่างประทับใจ
“แสดงว่าผมต้องหลงรักคุณตั้งแต่แรกเห็น”
ญาดาแกล้งทำเขินอายให้สมบทบาท
“ เรื่องนั้นตาลก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่หลังจากลงเครื่อง คุณก็ขอนัดเดทตาลแล้วพอผ่านคืนเดทไป คุณก็ขอตาลแต่งงานแล้วก็มอบแหวนวงนี้ให้”
“ผมดีใจจังเลยที่มีเมียสวยอย่างคุณ แต่ผมก็ยังจำคุณไม่ได้อยู่ดี ผมขอโทษนะ”
ธาวินกุมมือญาดาไว้ ญาดากุมมือตอบเป็นการปลอบใจ
“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ ตาลจะอยู่ใกล้ๆคุณ คอยช่วยฟื้นความทรงจำให้คุณค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ คุณดีกับผมจังเลย”
“แต่ตาลขอร้องได้มั้ยคะ คุณอย่าเรียกตาลว่าคุณ มันดูห่างเหินยังไงไม่รู้ เรียกตาลเหมือนอย่างที่เคยเรียกได้มั้ยคะ”
“จ้ะ ตาล”
ธาวินชะโงกหน้าเข้ามาหอมแก้ม ญาดาสะดุ้งตกใจและรีบผละออก
“อุ๊ย...”
ธาวินยิ้มซื่อ
“แก้มเมียผมหอมจัง”
ญาดาฝืนยิ้มให้
“เอ่อ เดี๋ยวตาลจะลงไปทานข้าวคุณภูเอาอะไรมั้ยคะ”
“ไม่จ้ะ กลับมาเร็วๆนะ ผมอยากอยู่กับตาลตลอดเวลา”
“ค่ะ”
ญาดาเดินออกไป ธาวินมองตามด้วยรอยยิ้มแล้วพูดกับตัวเอง
“นับว่าเรายังโชคดีนะที่ความจำเสื่อมแล้วเมียยังไม่ทิ้งไป”

ทางเดินที่หน้าห้อง ญาดาเดินเลี้ยวออกมาเช็ดแล้วรีบเช็ดแก้มที่ถูกหอมอย่างโมโห
“ไอ้นี่ ขนาดความจำเสื่อมยังชีกอเหมือนเดิม”

บริเวณสวนทางเดินใกล้บ้าน มณทกานต์ออกมาเดินเล่น ปารมีเดินเลี้ยวออกมาพบกันพอดี ทั้งสองต่างชะงัก ปารมีแสร้งยิ้มทัก
“หวัดดีค่ะน้องเมย์”
“ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องทักชั้นหรอกนะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ ยังไงเราก็เป็นญาติกันนะคะ”
“ชั้นไม่เคยนับญาติกับเธอ”
“ปาถามหน่อยได้มั้ยคะว่าทำไม น้องเมย์ถึงไม่ชอบปา”
“ชั้นว่าเธอน่าจะรู้ตัวดีนะ”
มณทกานต์หันจะเดินหนีเพราะไม่อยากพูดด้วย แต่ปารมีไม่ยอมเดินมาขวางหน้าเหมือนจะเอาเรื่อง
“แต่ปาไม่รู้ค่ะ บอกหน่อยได้มั้ยคะ” ปารมีคาดคั้น
“ได้”
มณทกานต์จ้องหน้าปารมีแล้วบอก
“ชั้นว่าเธอเฟกแล้วก็สตอเบอรี่มากกกก”
ปารมีกำมือแน่นมองมณทกานต์ด้วยความโกรธ
“กำมือทำไม อยากตบปากชั้นหรือ” มณทกานต์ถาม
ปารมีมองจ้องมณทกานต์ไม่วางสายตาด้วยความโกรธ มณทกานต์ยิ้มเยาะ
“ก็ลองดูสิ ถ้าเธอทำอะไรชั้น เธอกับแม่ได้กระเด็นออกไปจากบ้านคุณปู่แน่”
ปารมีได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเปลี่ยนความรู้สึกอย่างฉับพลันเป็นรอยยิ้มแล้วบอก
“ปาไม่กล้าทำอะไรน้องเมย์หรอกค่ะ ปารู้ค่ะว่าน้องเมย์เป็นหลานรักคุณปู่”
“รู้ไว้ก็ดี”
มณทกานต์เดินสะบัดออกไป ปารมีมองตามด้วยสายตาเกลียดชัง
“นังเมย์ ซักวันแกได้เจอดีแน่”
ปารมีเดินออกไปอีกทาง

ภายในสวนบริเวณบ้านวริทธิวรนันท์ บุญทันกำลังรดน้ำอย่างเหม่อลอย ครุ่นคิดถึงคนร้ายปริศนาที่ฆ่าภาคิน
“แกเข้ามาทำไม ต้องการอะไร”
คนร้ายฟาดไม้กอล์ฟเข้าที่แสกหน้าภาคิน
“อ๊าก!”
บุญทันได้ยินเสียงการต่อสู้ดังออกมาจากโทรศัพท์ก็ตกใจ
“คุณลุง! คุณลุงครับ”
“ถึงแกฆ่าฉันก็ปิดความผิดของแกไม่ได้หรอก”
บุญทันได้ยินเสียงฟาดของไม้กอล์ฟอีกหลายที
“อ๊าก!”
“คุณลุงเกิดอะไรขึ้นครับ คุณลุง!”
ภาคินล้มลงจมกองเลือดพยายามพูดโทรศัพท์
“ระ..วัง ตัว...ปกป้อง..ปู่ด้วย...”
คนร้ายคว้าโทรศัพท์จากภาคินไปพูดกับภูบดี
“ถ้าไม่อยากตาย อย่ากลับมาเมืองไทย”

บุญทันยังคงรดน้ำต้นไม้ด้วยสีหน้าครุ่นคิด แต่ก็ลอบถอนหายใจเบาๆกับตัวเอง มีสายตาใครบางคนแอบมองบุญทันอยู่ทางด้านหลัง ทันทีที่บุญทันรู้สึกตัวก็หันขวับไปทันทีพร้อมๆกับสายยางที่ถืออยู่ฉีดน้ำเข้าหน้ามณทกานต์อย่างเต็ม ๆ
“ว้าย ...”
“ขอโทษครับคุณเมย์ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“บ้าหรือไงเนี่ย ชั้นเปียกหมดเลย เห็นมั้ย”
“ขอโทษจริงๆครับ มาครับ ผมเช็ดให้”
บุญทันจะเข้าไปลูบน้ำที่เปียกบนตัว มณทกานต์ผละถอยหนี
“ไม่ต้อง”
มณทกานต์ถอยหลังออกมาแล้วสะดุดล้ม แต่บุญทันคว้าตัวรับไว้ได้ ทั้งสองหงายลงพื้นพร้อมๆกัน มณทกานต์ทับล้มอยู่บนตัวบุญทันที่กอดไว้ ทั้งสองต่างจ้องกันไปมา
“ปล่อยชั้นนะ คิดจะลวนลามชั้นหรือ”
“เปล่านะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
บุญทันปล่อยมือ มณทกานต์ลุกขึ้นมองด้วยสาตาโกรธขึ้งแล้วเดินออกไปด้วยความโมโห
“นายนี่มันทุเรศจริง ๆ”
บุญทันมองตามแล้วอมยิ้ม
“ตัวนิ่มเหมือนกันแฮะ”
ในเวลากลางคืน ญาดาลากกระเป๋าเดินทางของธาวินเข้ามาในห้องพักฟื้นคนไข้ มีทั้งกระเป๋าใบใหญ่และใบเล็กที่ลอครหัสไว้

“คุณภูจำรหัสกระเป๋าได้มั้ยคะ ตาลพยายามจะเปิดให้แต่ไม่รู้รหัส”
ธาวินเดินมาลูบกระเป๋าด้วยสายตาครุ่นคิด
“รหัสหรือ อืมม์ นึกไม่ออก เอ แต่ผมรู้สึกว่าผมคุ้นกับมันมากเลยนะ แต่นึกไม่ออกเหมือนเห็นอะไรลาง ๆ”
ญาดาตกใจกลัวธาวินจะจำความได้จึงรีบถาม
“หา .. เห็นอะไรลางๆหรือคะ”
“ใช่ ผมว่าถ้าผมพยายามคิดน่าจะนึกออก”
“ถ้างั้นตาลว่าอย่าเพิ่งคิดดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคุณภูจะปวดหัว หมอเค้ายิ่งอยากให้คุณภูพักสมองเยอะๆ ไม่ต้องคิดแล้วนะคะ”
“แต่ผมอยากนึกให้ออก”
“อย่าดื้อสิคะ... เอากระเป๋ามานี่”
ญาดาลากกระเป๋าหลบไป ธาวินเดินเข้ามาหากอดทางด้านหลัง ญาดาถึงกับสะดุ้ง
“อุ๊ย คุณภูทำอะไรคะ”
“ผมอยากกอดเมียผม”
ญาดาเหลือบมองธารินอย่างไม่พอใจ แต่ต้องทำหวานใส่
“ปล่อยตาลเถอะค่ะ เดี๋ยวพยาบาลเข้ามาเห็น อายเค้านะ”
“อายทำไม ผัวกอดเมียไม่ได้หรือ”
ญาดา แกะมือธาวินออก
“คุณภูน่ะติดนิสัยฝรั่ง นี่เมืองไทยนะคะ มาค่ะ ไหนบอกตาลซิว่าจำได้มั้ยถ้าคุณปู่ถามว่าเราเจอกันที่ไหน”
“จำได้ เราเจอกันบนเครื่องตอนผมบินกลับมาเมืองไทย”
“แล้วถ้าคุณปู่ถามว่าทำไมรักตาล”
“ก็เพราะว่าตาลน่ารัก”
ธาวินเคลื่อนหน้ามาจะหอมแก้ม ญาดาเลี่ยงหลบ
“ทำไมตาลต้องหลบด้วย”
“ก็.. ตาลก็เขินนะคะ คุณภูน่ะเดี๋ยวก็หอมเดี๋ยวก็กอด”
“เขินทำไม ก็ตาลบอกว่าเราแต่งงานกันแล้ว เราก็ต้องมีอะไรๆกันแล้วไม่ใช่หรือ”
“เอ่อ...”
“หรือว่าตาลโกหกผม เรายังไม่ได้แต่งงานกัน”
“แต่งแล้วค่ะ แหม แต่ตาลเป็นผู้หญิงนะยังไงตาลก็อาย เอาล่ะค่ะคุณภูนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณลุงปรารภจะมารับแต่เช้านะคะ”
“ก็ได้”
ธาวินหันจะเดินไปที่เตียง ญาดาไม่ทันระวังตัว ธาวินหันกลับมาขโมยหอม ญาดาสะดุ้ง
“คุณภู”
“ผมจะได้หลับฝันดีไง”
ธาวินยิ้มให้ญาดาก่อนจะก้าวขึ้นเตียงนอน ญาดาหันหน้ากลับมาอีกทางแล้วเบ้หน้าอย่างแค้นใจที่ธาวินฉวยโอกาส

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 7
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก
ที่มา manager.co.th