อ่าน มารยาริษยา ตอนที่ 10 วันที่ 5 กรกฎาคม 2555
อามทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งอกหักจากที่หลงรักน้องใบเฟิร์น ทุกอารมณ์ถาโถมมาใส่ฝ้ายที่เป็นตัวการ วันนี้ไปทำงานที่ร้านกาแฟ ก็ไม่มีสมาธิ จนลูกค้าที่มาสั่งกาแฟหงุดหงิดเพราะบ้างก็ทำช้า บ้างก็ทำให้ผิดฝ้ายเห็นแล้วก็รู้สึกผิดมาก พยายามเข้าไปง้อ อาสาจะช่วยเอากาแฟไปส่งลูกค้าให้พลางดึงถาดกาแฟจากมืออาม
“ไม่ต้อง!”
อามเสียงเข้มแล้วดึงถาดกลับไปอย่างแรง ทำให้กาแฟหกใส่ตัวเอง ฝ้ายตกใจรีบขอโทษ ถูกอามตวาดว่า
“ฉันบอกแล้วไง ไม่ต้องยุ่งกับฉัน เข้าใจไหม!” พูดแล้วเดินหนีไป
ลูกค้าในร้านมองอย่างตกใจ เพื่อนของฝ้ายสองคนรีบวิ่งมาหา
“ฝ้าย...แกเป็นอะไรรึเปล่า?”
“ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันเช็ดเอง” ฝ้ายหน้าเจื่อน ก้มเก็บแก้วกาแฟ น้ำตาหยดแหมะๆ
ooooooo
เลิกงาน อามกลับบ้านก่อน แม่ถามว่าทำไมไม่รอกลับพร้อมกับฝ้ายเหมือนทุกวัน อามไม่ตอบไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ครู่หนึ่งฝ้ายเดินเข้ามาหงอยๆ แม่เรียกให้มากินข้าวด้วยกัน แล้วแม่ก็ไปนั่ง ฝ้ายนั่งลง อามเลื่อนจานตัวเองออกแล้วลุกไป แม่ถามว่าจะไปไหน “อามไม่กินครับแม่”
“อ้าว...ทำไมล่ะลูก” แม่ทำหน้างงๆมองไปทางฝ้ายเห็นอารมณ์อึนๆถามว่า “ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ” แม่ถามคนนั้นก็ไม่ตอบ คนนี้ก็นั่งอึนๆ แม่เลยเรียกฝ้ายเชิงถามอีก ฝ้ายเลยต้องบอกว่า
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะน้าอ้อย” แล้วเลื่อนจานอาม เพราะเห็นวางอยู่หมิ่นเหม่” เอ้า...แกกินเถอะฉันยังไม่หิว”
อามพูดอย่างอารมณ์เสียว่า บอกแล้วว่าไม่หิว ไม่ต้องยุ่ง แล้วลุกพรวดขึ้นเฉี่ยวจานที่ฝ้ายยื่นมาจานร่วงตกแตกทุกคนตกใจ ฝ้ายก้มเก็บเศษจาน อามกระชากไปตวาดว่าอย่ามายุ่ง จนเศษจานบาดมือฝ้าย
“อาม จะมากไปแล้วนะ ฝ้ายมันทำอะไรให้โกรธนักหนา ถึงได้ทำกันขนาดนี้” แม่เอ็ดอาม ฝ้ายรีบบอกว่าไม่เป็นไรตนผิดเอง แม่หันไปสั่งอาม “ขอโทษฝ้ายเดี๋ยวนี้! แม่บอกให้ขอโทษฝ้ายเดี๋ยวนี้”
อามไม่สนใจ เดินขึ้นข้างบนไปเลย แม่รีบหันมาดูฝ้าย บอกให้ตามมาจะทำแผลให้ เดินไปบ่นไปว่า
“อามนี่ไม่ไหวจริงๆเลย...”
ด้วยความเป็นห่วงอาม ฝ้ายเอาข้าวไปวางไว้ที่หน้าห้องอาม ครู่หนึ่งอามมาเคาะประตูห้องฝ้ายเอาข้าวมาคืนบอกว่าให้เลิกยุ่งกับตนเสียที ฝ้ายยังเป็นห่วง บอกว่าตนรู้ว่าเขาโกรธ แต่เขายังไม่ได้กินข้าวเลย พูดอย่างรู้ผิดว่า
“ฉันขอโทษนะอาม ตลอดเวลาที่ฉันหลอกแก ฉันก็เสียใจเหมือนกัน” อามต่อว่าฝ้ายว่า ที่ผ่านมามีอะไรตนก็ปรึกษากับฝ้ายทุกเรื่อง ทำไมถึงทำกับตนได้ขนาดนี้
“ฉันไม่เคยเห็นแกเป็นตัวตลกนะอาม” ฝ้ายบอกและยอมรับว่าที่ตนทำเพราะตนชอบเขา อยากให้เขาพูดดีด้วย อยากให้เขาสนใจตนบ้าง โผเข้าขอโทษอีก ถูกอามผลักกระเด็นออกมาถามว่าจะให้ตนเชื่อหรือ ตะคอกใส่หน้าว่า
“ฉันไม่เชื่อ คนอย่างแกมันน่าเกลียดทั้งหน้าตา ทั้งจิตใจ ฉันไม่มีวันรักแก ฉันเกลียดแก! ได้ยินไหมฉันเกลียดแก!!”
อามสะบัดออกไปอย่างแรง ฝ้ายร้องไห้โฮออกมา...ร้องไห้อย่างไม่เคยร้องมาก่อนเลยในชีวิต...
ooooooo
วันนี้ เป็นวันที่เพียงดาวจะไปงานแถลงข่าวของพี่ณัฐ เธออดตื่นเต้นไม่ได้ แต้วบอกว่าวันนี้เธอจะต้องถูกจัดหนักแน่ อู๋บอกว่าไม่ต้องห่วง ตนจะเป็นไม้กันหมาให้เอง ใครพูดอะไรไม่เข้าท่าตนจะด่าให้เอง
“ผมขอโทษนะครับคุณดาว วันสำคัญของคุณดาวแท้ๆผมกลับไปให้กำลังใจคุณดาวไม่ได้” โอมเอ่ยอย่างไม่สบายใจ
“ไม่เป็นไรหรอกโอม ฉันก็ฝากขอโทษแม่โอมด้วยนะที่ฉันไปด้วยไม่ได้ เอาไว้ฉันจะหาโอกาสไปเยี่ยม” โอมรับคำยิ้มๆ “รีบไปกันเถอะค่ะพี่แต้ว พี่อู๋ ดาวไม่อยากให้สาย” เพียงดาวหันไปเร่ง แล้วทั้งสามก็พากันเดินออกไป
ทันใดนั้นเอง มือถือของโอมก็ดังขึ้น หน้าเขาเจื่อนลงเมื่อฟังปลายสาย
“ดีนี่จัดกระเป๋าเสร็จแล้วนะคะ รีบๆมารับนะคะ ดีนี่คิดถึงหัวหินจะแย่แล้ว”
“ผมต้องกลับไปเคลียร์งาน แล้วก็แวะเก็บกระเป๋าที่บ้านก่อน รอสักพักนะครับ”
“เร็วๆนะคะ ดีนี่ไม่ชอบรอนาน” เธอพูดอย่างเป็นต่อ ส่วนโอมก็ได้แต่ถอนใจเซ็งๆ
ooooooo
ที่ห้องแถลงข่าวในโรงแรมหรู มีป้ายงาน “NUTTA Lunch party 2012” มีนายแบบใส่ชุดสีขาว มีรอยคนเซ็นอวยพรอยู่บนชุดพร้อยไปหมด อุ้ม พิธีกร Runway Chanel เซ็นอวยพรที่ชุดของนายแบบ แล้วหันมองกล้อง เอ่ยเสียงแจ่มใส
“ไม่ต้องตกใจนะคะ อุ้มไม่ได้มือบอนมาเขียนเสื้อผ้าใครเล่น นี่เป็นบอร์ดเขียนคำอวยพรของพี่ณัฐเขาค่ะ เพราะตอนนี้ อุ้มอยู่ที่งาน Nutta Lunch Party งานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการของพี่ณัฐเขาค่ะ วันนี้ นอกจากเราจะได้ดูผลงานหรูๆเลิศๆ ที่ผ่านมาของพี่ณัฐแล้ว พี่ณัฐยังจะมาไขข้อข้องใจทุกอย่าง รวมถึงเปิดตัวนางแบบปริศนาที่จะได้เดินชุดฟินาเล่ของพี่ณัฐด้วยค่ะ”
เสียงดนตรีบนเวทีดังขึ้น นางแบบแต่งตัวหรูหราเดินฝ่าแขกที่มาในงานขึ้นเวที เสียงปรบมือกึกก้อง นางแบบเดินเข้าไปหลังเวที ไฟบนเวทีดับ นักข่าวพากันซุบซิบว่า นางแบบที่จะเดินชุดฟินาเล่ของพี่ณัฐมาแล้ว จะใช่ดีนี่หรือเปล่า อีกคนบอกว่าไม่ใช่ เพราะตนเช็กแล้ว วันนี้ดีนี่มีคิวถ่ายละคร
ไฟบนเวทีสว่างจ้าขึ้น พี่ณัฐกับเพียงดาวยืนให้นักข่าวถ่ายรูปอยู่ นักข่าวคนหนึ่งถามพี่ณัฐว่า ให้เพียงดาวมาเดินแบบให้ไม่กลัวเสียภาพลักษณ์แบรนด์หรือ
“เสียยังไงหรือคะ ถ้าเป็นเรื่องข่าว ฉันขอบอกว่าตราบใดที่ดาวสามารถพรีเซนต์เสื้อผ้าได้อย่างที่ฉันต้องการ ชีวิตส่วนตัวเขาจะเป็นยังไง ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ แล้วนอกจากดาวจะเดินฟินาเล่ให้ฉันแล้ว ดาวยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้เสื้อผ้าคอลเลกชั่นใหม่ให้ฉันด้วยค่ะ”
เสียงนักข่าวฮือฮากัน แล้วอีกคนก็ถามว่า “แล้วคุณดาวรู้สึกยังไงที่ได้กลับมาเดินแบบอีกครั้ง”
“ต้องขอบคุณพี่ณัฐค่ะที่ไว้ใจดาว ดาวจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พี่ณัฐไว้ใจค่ะ”
“คุณดาวครับ ในลิสต์รายชื่อนางแบบที่จะเดินให้คุณณัฐมีดีนี่อยู่ด้วย แล้วแน่ใจหรือครับว่าจะไม่มีปัญหากันอีก”
“แน่ใจค่ะ ที่ผ่านมาดาวยอมรับว่าดาวทำพลาดมาหลายอย่าง แต่ถ้าดาวทำลายโอกาสครั้งนี้อีก ดาวก็คงโง่มากแล้วล่ะค่ะ” เพียงดาวตอบอย่างมั่นใจ แล้วยิ้มโพสท่าให้นักข่าวถ่ายรูปอย่างมืออาชีพ
ooooooo
ที่กองถ่ายละคร ป้ากบแค้นใจมากกับการเปิดแถลงข่าวเปิดตัวเพียงดาวเดินชุดฟินาเล่และเป็นพรีเซนเตอร์ในคอลเลกชั่นของพี่ณัฐ แล้วก็ยิ่งวุ่นวายใจเมื่อนิคผู้จัดการของน้องดิวมาทักว่าทำไมยังอยู่ ป้ากบบอกว่าวันนี้ดีนี่มีถ่ายกับน้องดิว
นิคยิ้มเยาะๆ บอกว่าดีนี่โทร.มาขอลาป่วยตั้งนานแล้ว ตอนนี้กองถ่ายกำลังเคลียร์คิวถ่ายใหม่อยู่ ป้ากบเหวอพึมพำงงๆ ว่าทำไมไม่เห็นดีนี่โทร.บอก
“เขาไม่อยากคุยกับกบรึเปล่า” พูดแล้วนิคทำทีชะงักรีบแก้ว่า “พูดเล่นจ้ะ อย่าไปเครียด ดีนี่เขาคงติดต่อกบไม่ได้น่ะจ้ะ” พูดแล้วเดินลอยชายไป ป้ากบยืนอึ้ง...งง
แต่คนระดับป้ากบไม่มีวันยอมแพ้ ขับรถลิ่วไปที่คอนโดฯของดีนี่ทันที
เป็นเวลาที่ดีนี่กำลังรอโอมอยู่ ป้ากบโทร.เข้ามือถือ เธอกดทิ้งแล้วโทร.หาโอม ถามว่าอยู่ไหนแล้ว โอมบอกว่ากำลังเติมน้ำมันอยู่จะรีบไปเดี๋ยวนี้
ที่ลานจอดรถร้านอาหารข้างปั๊มที่โอมมาเติมน้ำมันนี่เอง เพียงดาวพาแต้วกับอู๋มาทานข้าว อู๋เหลือบเห็นรถโอมจอดเติมน้ำมันอยู่ ชี้ให้ดูแล้วปฏิเสธเองว่าโอมไปภูเก็ตจะมาเติมน้ำมันแถวนี้ได้ยังไง สงสัยรถจะคล้ายกันเท่านั้น บอกเพียงดาวว่าอย่าคิดมากเลย แต้วก็ย้ำว่า เธอต้องเชื่อใจโอมนะ เพียงดาวพยายามยิ้มตอบรับ “ค่ะ”
แต่พอแยกกัน เพียงดาวก็ขับรถตามรถคันนั้นไป พอเห็นป้ายทะเบียนชัดๆ ว่าเป็นรถของโอม เธอก็เครียดขึ้นทันทีพยายามขับตามไป แต่เพราะรถมากและถูกแซงบ้างเบียดบ้าง เลยตามไม่ทัน
ooooooo
อ่าน มารยาริษยา ตอนที่ 10 วันที่ 5 กรกฎาคม 2555
โดย บทประพันธ์ พุมเรียง จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 5 โดย ผอูน-พรดี จันทรศิริที่มา ไทยรัฐออนไลน์