หน้าเว็บ

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 26

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 26

มณทกานต์เดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วมองช็อคโกแลตที่อยู่ในมือแล้วอมยิ้มให้กับตัวเอง
“รู้ซะด้วยว่าเราชอบกินยี่ห้อนี้”
มณทกานต์หยิบช็อคโกแลตเข้าปากอีกเม็ด
“ไม่ต้อง ส่วนเค้กนี่เธอเอามาชั้นจะเอาไปให้คุณลุงเอง”
“เอ่อ”
“เธอเป็นคุณนายเมียเจ้าของบ้านนะ ไม่ได้เป็นสาวใช้”

นภาจิกเตือน ญาดาจำใจส่งถาดให้ นภารับแล้วเดินไปยังตึกใหญ่ทันที ญาดามองตามด้วยสายตาเซ็งๆ
“นึกว่าเราไม่รู้ทันหรือ จะขโมยซีนเราน่ะสิ”
แล้วญาดาก็เดินหันหลังกลับไป

ภายในห้องทำงาน พิพัฒน์นั่งคุยอยู่กับปรารภ
“ไม่น่าเชื่อนะครับว่าคุณตาลแกจะมีประวัติแบบนี้” ปรารภว่า
“ก็นั่นน่ะสิ ตอนที่สารวัตรสมยศบอก ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน แต่เจ้าภูเค้ายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือทำไมมันถึงไม่เล่าเรื่องนี้ให้เราฟังตั้งแต่แรก”
“คุณภูแกคงจะกลัวว่าคุณท่านรับไม่ได้มั้งครับ ถ้าอยู่ๆแกมาถึงแล้วบอกท่านว่ามีภรรยาเป็นสิบแปดมงกุฎ”
“อืมม์ ก็อาจจะจริง เพราะถ้าผมไม่ได้รู้จัก ไม่ได้เห็นนิสัยใจคอของหนูตาลเค้าก่อนล่ะก็ ผมอาจจะทำใจยอมรับเค้าเป็นสะใภ้ได้ลำบาก”
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น นภาเปิดเข้ามา
“กาแฟค่ะ คุณลุง”
“อ้าว เด็กไปไหนกันหมด ทำไมต้องมาเสิร์ฟเอง”
“พอดี นภาว่างน่ะค่ะ”
“สวัสดีครับคุณนภา” ปรารภบอก
“สวัสดีค่ะ คุณปรารภ รับกาแฟเพิ่มมั้ยคะ”
“ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ”
“เออ นภา ช่วยให้ใครไปตามหนูตาลมาพบชั้นหน่อย” พิพัฒน์บอก
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“จะคุยธุระกับเค้าหน่อย”
“ค่ะ”
นภาเดินออกไปแล้วปิดประตูลง พิพัฒน์หันมาบอกปรารภ
“พรุ่งนี้ช่วยโอนเงินค่าสินสอดให้หนูตาลหน่อยนะ”
“ได้ครับ”

ภายในห้องอาหารบ้านของบ้านพิพัฒน์ ญาดากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับธาวิน
“แล้วคุณภูจะกลับมากี่โมงคะ ... ค่ะ ... ได้ค่ะ รีบกลับนะคะ...ค่ะ”
ญาดาวางสายโทรศัพท์แล้วหันไปเห็นนภายืนฟังอยู่ด้านหลัง
“อุ๊ย ... คุณป้านภา”
“คุณลุงให้เธอไปพบ”
นภาพูดน้ำเสียงเรียบแล้วเดินออกไป ญาดามองตามแล้วพึมพำ
“ยัยป้านี่ชอบมาเงียบๆให้เราตกใจ”

ญาดาเดินมาเคาะประตูห้องทำงานของพิพัฒน์ก่อนจะเปิดแล้วปิดลง นภาเดินเข้ามาหยุดมองอย่างสนใจ ญาดาเดินเข้ามาในห้อง
“สวัสดีค่ะคุณปรารภ”
“หวัดดีครับ” ปรารภทัก
“คุณปู่เรียกตาลหรือคะ”
“ใช่ นั่งก่อนสิ พรุ่งนี้ปู่จะให้คุณปรารภโอนเงินค่าสินสอดทั้งหมดให้หนู”
ญาดาคิดไม่ถึง แล้วพูดขึ้นอย่างตกใจ
“หมายถึงเงินสิบห้าล้านน่ะหรือคะ”
“ถูกต้อง เดี๋ยวหนูเอาเลขที่บัญชีให้คุณปรารภซะ แล้วก็เอาเงินไปไถ่ตัวแม่ออกมาให้เรียบร้อย”
ญาดามีสีหน้าอึ้งไปทันที
“นี่คุณปู่ให้หนูจริงๆหรือคะ” ญาดาถามด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่แน่ใจ
“จริงสิ เห็นปู่เป็นคนแก่ขี้โกหกไปได้”
“ไม่ใช่ค่ะ คือหนู หนูไม่อยากเชื่อว่าคุณปู่จะให้เงินหนูจริงๆ ทั้งที่คุณปู่ก็รู้ว่าหนูโกหก”
“แต่ที่คุณต้องโกหกเพราะต้องการเอาเงินไปช่วยคุณแม่ไม่ใช่หรือครับ” ปรารภถาม
“ค่ะ”
“นั่นล่ะ ปู่ถึงให้หนู ไปเอาเลขที่บัญชีมาให้คุณปรารภเค้าซะ เค้าจะได้จัดการให้” พิพัฒน์บอก
ญาดาร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจแล้วก้มลงกราบพิพัฒน์
“ขอบพระคุณนะคะคุณปู่ คุณปู่มีพระคุณกับชีวิตหนู ถ้ามีอะไรที่หนูจะทำให้คุณปู่ได้ขอให้คุณปู่บอกนะคะ”
ญาดาหันไปไหว้ปรารภอีกคน
“ขอบคุณนะคะคุณปรารภ”
พิพัฒน์กับปรารภยิ้มให้ญาดา
นภาซึ่งยืนฟังเรื่องทั้งหมดอยู่หน้าห้องทำงานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ญาดาเปิดประตูห้องออกมาเห็นนภายืนอยู่ก็ตกใจเล็กน้อย นภามองญาดาด้วยแววตาเกลียดชังแล้วเดินออกไปทันที
“อย่าบอกนะว่ายัยคุณป้ามาแอบฟังที่เราคุยกับคุณปู่”
ญาดามองตามอย่างเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจนภา

นภาเดินเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง สมองเครียดจนต้องหยิบยาระงับประสาทที่วางอยู่บนโต๊ะมาใส่ปากแล้วดื่มน้ำก่อนจะนั่งลงตรงโต๊ะอาหาร นภาหายใจแรงด้วยความโกรธและริษยา ปารมีเดินลงมาจากชั้นบนพอดี
“อ้าว แม่ หนูนึกว่าแม่อยู่ที่ตึกใหญ่ซะอีก”
“แม่เพิ่งกลับมา” นภาบอก
ปารมีมองหน้านภาที่เครียดขึงอยู่จึงถามขึ้น
“มีอะไรรึเปล่าแม่”
“ลูกรู้มั้ย คุณปู่ให้เงินนังตาลสิบห้าล้าน”
“แล้วแม่รู้ได้ไงคะ”
“แม่ได้ยินคุณปู่บอก หึ คุณปู่ไม่ยุติธรรมจริง ๆ เราสองแม่ลูกอยู่รับใช้มาเกือบยี่สิบปีไม่เคยได้อะไรเลย นอกจากเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ แต่นังผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ไม่ถึงเดือนคุณปู่ก็หลงมัน แม่จะไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว”
นภาลุกขึ้น ปารมีคว้าแขนไว้ทันที
“เดี๋ยวค่ะแม่ แม่คิดจะทำอะไรคะ”
“แม่จะไปพูดกับคุณปู่ ขอให้ท่านแบ่งสมบัติให้เราแล้วเราจะไปจากที่นี่”
“แม่คะ แม่ลืมไปแล้วหรือว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า เราเป็นแค่ผู้อาศัยนะคะ คุณปู่ไม่มีทางให้อะไรเราหรอกค่ะ”
“แต่เราจะปล่อยให้ ...”
“แม่ไม่ต้องตื่นเต้นตกใจเรื่องเมียพี่ภูหรอกค่ะ เค้าจะอยู่กับเราไม่นานหรอก”
“ลูกหมายความว่ายังไง”
“เอาไว้วันนึงแม่ก็จะรู้เอง เชื่อหนูนะคะ แม่อยู่เฉยๆแล้วทุกอย่างจะดีเอง”
นภามองหน้า ปารมียิ้มให้แล้วเดินสวยออกไป นภามองตามอย่างไม่เข้าใจความหมาย
“ยัยปากำลังคิดจะทำอะไร”

ภายในห้องนอนของภูบดีในเวลากลางคืน ธาวินเดินออกจากห้องน้ำ เห็นญาดานั่งเอกเขนกสบายๆอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา
“อ้าว ทำไมตาลไม่นอนบนเตียง” ธาวินถาม
“ตาลเสียสละให้คุณภูค่ะ คุณภูจะได้ไม่ต้องปวดหลังอีกต่อไป”
“ไม่ต้องหรอก ตาลนอนบนเตียงเถอะ ผมนอนโซฟาได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตาลนอนตรงนี้ได้เชิญคุณภูเลยค่ะ”
ธาวินมองอย่างแปลกใจ
“ตาลอยากตอบแทนที่คุณภูดีกับตาลน่ะค่ะ”
“ถ้าอยากตอบแทน ผมว่าตาลขึ้นมานอนบนเตียงกับผมดีกว่านะ”
“เอ่อ ...” ญาดาอ้ำอึ้ง
ธาวินยกมือให้สัญญา
“ผมให้สัญญาผมจะไม่ทำอะไรตาล ด้วยเกียรติของผู้ชายสมองเสื่อม”
“จริงนะคะ ห้ามคุณภูแตะเนื้อหรือโดนตัวตาลเด็ดขาด”
“จริง”
“ก็ได้ค่ะ”
ญาดาหอบหมอนผ้าห่มขึ้นมาบนเตียงแล้วเอาหมอนข้างมากั้นกลางก่อนจะล้มตัวลงนอน ธาวินมองอมยิ้มแล้วเดินขึ้นเตียงเอื้อมมือจะปิดไฟหัวเตียง
“ห้ามปิดไฟค่ะ”
“แต่ผมนอนไม่หลับหรอกนะถ้าไม่ปิดไฟ”
“ถ้าคุณภูปิด ตาลจะกลับไปนอนที่โซฟา”
“เอา เอาก็ได้”
ธาวินล้มตัวนอนเห็นญาดานอนตะแคงหันหลังให้แล้วเหลือบตาเหล่มองธาวินก่อนจะอมยิ้มหลับตา
ฝ่ายธาวินเหลือบมองญาดาแล้วนึกถึงเรื่องที่พูดกับบุญทัน
“แกจะบ้าหรือ ชั้นจะไปชอบเค้าได้ยังไง เค้ามอมยาแล้วก็รูดทรัพย์ชั้นนะโว้ย แถมยังมาหลอกว่าเป็นเมียชั้นอีก”
ธาวินยังคงมองญาดาอยู่ จู่ๆ ญาดาลืมตาก็ลุกขึ้นนั่งแล้วถาม
“เออ คุณภูคะ”
“หือ”
“วันนี้ที่คุณภูออกไปกับบุญทันได้เรื่องอะไรบ้างมั้ยคะ”
ธาวินงงๆแล้วถามขึ้น
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่ตาลสงสัยว่าเค้าจะเป็นคนวางแผนอุ้มตาลกับคุณเมย์ไปที่ห้องเค้าไงคะ”
“อ๋อ ผมว่าคงไม่ใช่หรอก เพราะเท่าที่คุยดู บุญทันก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”
“แต่ถ้าไม่ใช่บุญทันแล้วจะเป็นใครล่ะคะที่อุ้มตาลไป”
ธาวินมองหน้าญาดาแล้วนึกถึงคำพูดของบุญทัน
“แกบอกชั้นเองว่าเค้าเป็นสิบแปดมงกุฎ บางทีเค้าอาจจะสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเรียกร้องอะไรจากแกก็ได้”
ญาดาเห็นสายตาที่มองจ้องมาก็ชะงักแล้วถาม
“คุณภูจ้องตาลทำไมคะ”
“อ๋อ ผมกำลังคิดว่านั่นสินะ ใครกันที่เป็นคนวางแผนเรื่องนี้ ผมก็พยายามคิดแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก”
ธาวินถอนหายใจหน้าเครียด

“ถ้าคิดไม่ออกก็อย่าเพิ่งคิดเลยค่ะ ตาลไม่อยากให้คุณภูเครียด เดี๋ยวจะปวดหัวอีก”
ญาดามองธาวินอย่างห่วงใยแล้วรวบรวมความกล้าชะโงกไปหอมแก้มธาวิน เล่นเอาธาวินสะดุ้งเพราะไม่ทันตั้งตัว
“ฝันดีนะคะ”
ญาดายิ้มให้อย่างเขิน ๆแล้วล้มตัวนอนหันหลังให้ ธาวินมองญาดาอย่างลังเลและสับสนในใจตัวเองว่ารักญาดาหรือไม่อย่างไร

นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว มณทกานต์กดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยแล้วถอนหายใจอย่างเซ็งกับชีวิตตัวเอง

สุดท้ายมณทกานต์ตัดสินใจกดรีโมทปิดทีวีแล้วเดินลุกไปปิดไฟที่ผนังทั้งห้องมืดสนิทลงทันที อาการคิดไม่ตกทำให้มณทกานต์ไม่ได้ล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่กลับเดินไปที่หน้าต่างทอดสายตามองเหม่อลอย แต่เมื่อมองลงไปเบื้องล่างก็ชะงักเพราะเห็นอนุทินกำลังเดินออกจากบ้านไป
“นั่นพี่เอจะไปไหน นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ”
มณทกานต์มองตามด้วยแววตาสงสัยแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจ
“ตามไปดูดีกว่าเรา”
มณทกานต์คว้าเสื้อกันหนาวบางๆใส่คลุมเดินออกจากบ้านตามไป

มณทกานต์มองกวาดตาหาอนุทินแต่ไม่เห็นใคร
“ไปไหนแล้ว เร็วจัง”
มณทกานต์ชะเง้อมองหา ที่ด้านหลังมีใครบางคนเดินตามอยู่แล้วเอื้อมมือมาปิดปากมณทกานต์จากด้านหลัง มณทกานต์สะดุ้งเฮือกหันกลับไปมอง ที่แท้เป็นบุญทันนั่นเอง
“อย่าส่งเสียงครับ ดูอะไรนู่น” บุญทันกระซิบบอก
มณทกานต์มองตามสายตาบุญทันเห็นอนุทินยืนอยู่กับใครบางคนในมุมลับตา
“เข้าไปดูใกล้ๆมั้ยครับ” บุญทันถาม
มณทกานต์พยักหน้า บุญทันปล่อยมือที่ปิดปาก ทั้งสองเดินย่องแอบเข้าไปใกล้จนเห็นว่าอนุทินยืนอยู่กับปารมี
“นั่นมันยัยปารมีนี่”
“ใช่ครับ”
มณทกานต์มองอย่างสงสัยว่า ปารมีกับอนุทินมาทำอะไร ทั้งคู่เห็นว่าทั้งคู่คุยกันอยู่ แต่ไม่ได้ยินเสียงว่าคุยอะไรกัน
ปารมีพูดกับอนุทิน
“ปาเคยบอกแล้วไงคะว่าอย่าโทรหาปาดึกๆแบบนี้”
“พี่ขอโทษ พี่แค่อยากเจอปา โทรหาตอนกลางวันปาก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่ว่าง”
มณทกานต์มองหน้าบุญทันอย่างงุนงงสงสัยว่าทั้งสองคนพูดเรื่องอะไรกัน
“เค้าพูดเรื่องอะไร”
บุญทันส่ายหน้าแล้วบอก
“ไม่รู้”
บุญทันกับมณทกานต์หันกลับไปมอง
“ก็ปาไม่ว่างจริงๆนี่คะ”
“ไม่เอาน่า อย่าโกรธพี่เลยนะ”
อนุทินจับมือปารมีที่เมินหน้าทำงอน อนุทินยกมือปารมีขึ้นมาจูบเบาๆแล้วบอก
“ปาก็รู้ว่าพี่รักปาแค่ไหน”
อนุทินเคลื่อนหน้าเข้าไปจูบปารมี
มณทกานต์มองตะลึงไม่คาดฝันพลาง ขยับถอยตัวออกจนเท้าไปเหยียบกิ่งไม้ดังแกรก ทั้งอนุทินกับปารมีชะงักไปชั่วครู่ หันมองมาทางต้นเสียง บุญทันไหวตัวรีบดึงมณทกานต์หลบลงหลังพุ่มไม้ทันที อนุทินเดินเข้ามาใกล้พุ่มไม้แล้วมอง แต่ไม่เห็นใคร อนุทินเดินกลับไปหาปารมี
“ไม่มีใคร กิ่งไม้คงตกลงมา”
“งั้นปาเข้าบ้านก่อนนะคะ” ปารมีบอก
“ไม่โกรธพี่แล้วนะ”
“ค่ะ ไม่โกรธก็ได้”
ปารมีหอมแก้มแล้วเดินกลับบ้านไป อนุทินยิ้มอย่างพอใจเดินกลับไปอีกทาง เมื่อผ่านมาที่พุ่มไม้เดิม หลังพุ่มไม้ไม่มีบุญทันและมณทกานต์

ที่อีกมุมหนึ่ง บุญทันกอดมณทกานต์หลบอยู่อีกมุม มณทกานต์ถอนใจอย่างโล่งอกและเริ่มรู้สึกตัวว่า บุญทันสวมกอดอยู่
“ปล่อยชั้นได้แล้ว”
“ขอโทษครับ”
“นี่พี่เอกับยัยปารมีรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ผมก็ไม่ทราบครับ เพิ่งทราบพร้อมคุณเมย์นี่แหละครับ”
มณทกานต์มองบุญทันอย่างสงสัยแล้วถาม
“แล้วนายมาทำอะไรดึกๆแบบนี้”
“อ๋อ ผมนอนไม่หลับน่ะครับ ก็เลยจะไปหยิบหนังสืออ่านเล่นในรถ แล้วคุณเมย์ล่ะครับลงมาทำอะไรดึกๆ”
“ชั้นก็นอนไม่หลับเหมือนกัน”
“คิดเรื่องของเราอยู่หรือครับ”
“เปล่า ชั้นไม่ได้คิดเรื่องนาย”
มณทกานต์หันหลังจะเดินกลับบ้าน แต่บุญทันคว้าแขนไว้
“เดี๋ยวครับคุณเมย์”
มณทกานต์ชะงักมองหน้าบุญทันและมองมือที่บุญทันจับอยู่
“มีอะไร”
“คุณเมย์รังเกียจที่ผมฐานะต่ำต้อยกว่าใช่มั้ยครับ”
“เปล่า ชั้นไม่ได้คิดเรื่องนั้น”
“ถ้าคุณเมย์ไม่ได้คิดเรื่องนั้นทำไมถึงไม่ตอบแต่งงานกับผม”
มณทกานต์แกะมือที่บุญทันจับอยู่ออก
“ชั้นจะแต่งกับนายได้ยังไง ในเมื่อชั้นไม่ได้รักนายหรือนายจะบอกว่านายรักชั้น”
“ใช่ครับ ผมรักคุณ”
มณทกานต์ได้ยินดังนั้นก็อึ้งตะลึงอย่างคิดไม่ถึง
“ผมไม่รู้ว่าผมเริ่มรักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมรู้ว่าทุกครั้งที่เห็นคุณร้องไห้ ผมอยากจะเป็นคนที่เช็ดน้ำตาให้คุณ”
มณทกานต์ใจเต้นแรงมองบุญทันที่ยืนจ้องหน้าอยู่ บุญทันเดินเข้ามาหา มณทกานต์ยกมือตบหน้าบุญทัน
“อย่ามาพูดจาภาษาน้ำเน่ากับชั้น ชั้นไม่ชอบ”
มณทกานต์สะบัดหน้าเดินออกไป บุญทันอึ้งแล้วจับแก้มตัวเองถอนหายใจ
“เฮ้อ เธอคงไม่ชอบเราจริง ๆ”
บุญทันมองตามมณทกานต์อีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านพักคนงาน

มณทกานต์เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงที่เตียงด้วยใจที่ยังเต้นแรง
“บ้า จะมารักเราได้ยังไง เราทั้งด่าทั้งตบตั้งหลายครั้ง สงสัยจะเจอคนบ้าแล้วเรา”
มณทกานต์นึกถึงหน้าบุญทันแล้วยิ้มขำ ภายในใจของมณทกานต์นั้นชอบบุญทันอยู่แต่ทำปากแข็งไปอย่างนั้นเอง

เช้าวันต่อมา ญาดานั่งกินอาหารเช้าอยู่กับพิพัฒน์
“คุณปรารภเค้าจะโอนเงินให้หนูสายๆ เมื่อได้เงินแล้วก็รีบเอาไปใช้หนี้ซะ” พิพัฒน์บอก
“ค่ะคุณปู่”
“แล้วหนูก็ต้องบอกให้แม่เข้าใจนะว่า เค้าต้องเลิกเล่นการพนัน เพราะถ้าเค้ายังไม่เลิกจะไม่มีใครช่วยเค้าแล้วนะ”
“ค่ะ คุณปู่ หนูตั้งใจว่าจะให้แม่กลับไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดค่ะ”
“ที่ไหน”
“เชียงใหม่ค่ะ หนูตั้งใจว่าจะเอาเงินที่เหลือไปเปิดร้านขายของชำให้แม่”
“อืมม์ ดี”
ธาวินเดินเข้ามามาในชุดสูท ญาดามองอย่างแปลกใจแล้วถาม
“คุณภูจะไปไหนหรือคะ แต่งตัวซะเต็มยศ”
“นี่ยังไม่ได้บอกเมียหรือเจ้าภูว่าจะไปทำงาน” พิพัฒน์ถาม
“ไปทำงานที่บริษัทน่ะหรือคะ”
“ใช่ ผมเห็นว่าอีกตั้งสองอาทิตย์กว่าจะถึงวันแต่งงานก็เลยไม่อยากอยู่เฉยๆ”
“ทำไมไม่เห็นเล่าให้ตาลฟังเลยว่าจะไปทำงาน”
ญาดาตัดพ้อ พิพัฒน์หัวเราะ
“เห็นมั้ย ปู่บอกแล้วว่าเมียแกจะงอน ง้อกันเองนะ”
พิพัฒน์ลุกเดินออกไปปล่อยให้ธาวินกับญาดาอยู่กันตามลำพัง ญาดาทำนิ่งเฉยเมย
“ผมว่าจะบอกตาลตั้งแต่เมื่อคืน พอดีผมลืม”
“แต่ตาลไม่อยากให้ไปเลย”
“ทำไม”
“ก็คุณภูความจำเสื่อมอยู่นะคะ ตาลกลัวว่าคุณภูไปพูดหรือทำอะไรผิด คนเค้าจะจับได้น่ะสิคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง คุณปรารภเค้าอยู่กับผม”
“หรือว่าให้ตาลไปด้วยดีมั้ยคะ” ญาดาว่า
“อย่าเลย ตาลอยู่บ้านน่ะแหละดีแล้ว”
“แต่ตาลเป็นห่วงคุณภูนะคะ”
“เอาเถอะน่า ผมเอาตัวรอดได้ ผมไปก่อนนะ”
“แล้วไม่ทานอะไรก่อนหรือคะ”
“ไม่ล่ะ”
ธาวินทำท่าจะขยับไป ญาดาเรียก
“เดี๋ยวค่ะคุณภู”
ธาวินชะงักหันกลับมา ญาดาลุกขึ้นหอมแก้ม
“เลิกงานแล้วรีบกลับบ้านนะคะ”
ธาวินมองอย่างแปลกใจ ญาดายิ้มให้
“จ้ะ”
ธาวินยิ้มให้ญาดาแล้วเดินออกไป ญาดามองตาม ธาวินหันกลับมามองอีกครั้ง ญาดาโบกมือให้

ธาวินเดินยิ้มคนเดียวออกมาที่หน้าบ้าน บุญทันยืนมองอย่างแปลกใจรออยู่ที่ข้างรถ
“เป็นอะไรวะ ยิ้มแต่เช้า”
“เอ้า ก็คนมันอารมณ์ดี ยิ้มไม่ได้หรือ เปิดประตู”
บุญทันเปิดประตูรถให้ธาวินเดินขึ้นรถก่อนจะขับรถออกจากบ้านไป

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 26

ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th