อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 27
บุญทันเปิดประตูรถให้ธาวินเดินขึ้นรถก่อนจะขับรถออกจากบ้านไปรถแล่นมาจอดหน้าบริษัทวรารมย์เมื่อเวลากลางวัน บุญทันเปิดประตูให้ ธาวินก้าวลงมา แล้วเดินเข้าไปหาปรารภที่ยืนรออยู่
“สวัสดีครับคุณภู” ปรารถทักทาย
ธาวินยกมือไหว้
“สวัสดีครับคุณปรารภ”
“คุณท่านเพิ่งโทรบอกผมเมื่อเช้านี้ว่า คุณภูจะมาทำงาน ผมเลยสั่งให้คนเตรียมต้อนรับไม่ทัน”
“ไม่ต้องหรอกครับวุ่นวายเปล่า ๆ”
“เชิญทางนี้เลยครับ”
ปรารภเดินนำธาวินไปที่ลิฟต์ของบริษัท เอนกยืนมองจากด้านบนลงมาสีหน้ากังวล
เมื่อลิฟต์เปิดออก ปรารภนำธาวิน เดินไปตามทางเดินของบริษัทพลางอธิบาย
“บริษัทเรามีธุรกิจที่ลงทุนอยู่หลายประเภทครับ ทั้งสนามกอล์ฟ โรงแรมและคอนโดมิเนียม และตอนนี้เราก็กำลังมีโครงการขยายตลาดคอนโดออกไปตามต่างจังหวัด”
“เห็นคุณปู่บอกว่าจะให้ผมมาดูแลฝ่ายบริหาร”
“ใช่ครับ”
“แล้วตอนนี้ใครดูแลอยู่ครับ”
“คุณเอครับ”
“ถ้าพี่เอดูแลอยู่ ผมว่าผมไปทำแผนกอื่นดีกว่ามั้ยครับ”
“ไม่ได้ครับเป็นคำสั่งของคุณท่าน คุณท่านจะให้คุณเอย้ายไปแผนกการตลาดครับ”
“แต่มันจะดีหรือครับ ผมเพิ่งมา”
“คุณภูไม่ต้องกังวลครับ คุณเป็นทายาทเพียงคนเดียว วันนึงบริษัทนี้ก็ต้องเป็นของคุณ”
ปรารภเดินมาถึงห้อง เลขาหน้าห้องลุกขึ้นยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ”
“นี่คุณป้อม จะเป็นเลขาให้คุณ” ปรารภแนะนำ
“สวัสดีครับ”
สายตาของใครคนหนึ่งแอบมองมาที่ธาวินที่กำลังทักทายเลขา เลขาลุกขึ้นเปิดประตูห้องให้ ปรารภเดินนำธาวินเข้าไป
อนุทินยืนมองอยู่มุมหนึ่งด้วยแววตาไม่พอใจ
ภายในห้องทำงานของภูบดี ในบริษัทวรารมย์ ปรารภเดินนำเข้ามา
“คุณภูใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงานนะครับ เดิมเป็นห้องของคุณภาคิน ถ้าคุณภูอยากจะตกแต่งหรือรีโนเวทใหม่ก็บอกนะครับ”
“ไม่ต้องหรอกครับ นี่ก็โอเคแล้ว”
“สำหรับเอกสารที่คุณภูควรจะรู้ก่อนในเบื้องต้น ผมเอาวางไว้ให้บนโต๊ะแล้ว มีข้อมูลบางส่วนอยู่ในคอม คุณภูเรียกมาดูได้เลย”
“ครับ อ้อ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“เชิญครับ”
“ตอนที่คุณลุงภาคินตาย ทำไมตำรวจถึงสรุปว่าคุณลุงฆ่าตัวตายล่ะครับ”
“อ๋อ ตำรวจพบสารเสพติดในเลือดคุณภาคินครับ”
“แล้วคุณปรารภเชื่อมั้ยครับว่าคุณลุงภาคินจะโดดตึกตาย”
“มันก็ห้าสิบ ห้าสิบนะครับเป็นไปได้เท่าๆกัน”
“ขอบคุณครับ ผมไม่รบกวนแล้ว เดี๋ยวผมจะอ่านเอกสารเลย”
“ครับ อ้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้เค้าเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อจะได้แนะนำคุณภูให้ทุกคนได้รู้จัก”
“ขอบคุณครับ”
ปรารภเดินออกจากห้องไป ป้อมเดินเอากาแฟเข้ามาให้ธาวิน
“ช่วยให้ใครไปตามคนขับรถผมขึ้นมาหน่อยนะครับ เค้าชื่อบุญทัน”
“ได้ค่ะ”
ป้อมเดินออกไป ธาวินมองเอกสารบนโต๊ะและเริ่มเปิดอ่าน
ในเวลาต่อมา บุญทันก้าวออกมาจากลิฟต์และเดินไปตามจนมาหยุดหน้าห้องบอกเลขา
“ผมเป็นคนขับรถคุณภูบดีครับ”
“เข้าไปได้เลย”
บุญทันเปิดประตูเข้าไป
ภายในห้องทำงาน บุญทันกับธาวินนั่งเปิดอ่านเอกสารจำนวนมาก
ในเวลาเดียวกัน ภายในบ่อน กระเป๋าใส่เงินถูกเปิดออก ธนบัตรหลายปึกถูกวางซ้อนเรียงกันเป็นระเบียบอยู่ข้างใน เสกหยิบเงินออกมาดู ญาดาพูดขึ้น
“ทั้งหมดสิบล้าน จะนับดูก่อนก็ได้นะ”
เสกวางเงินกลับเข้าที่แล้วบอก
“เธอนี่หาเงินเก่งนะ สนใจมาทำงานกับชั้นมั้ย”
“ไม่ ชั้นไม่ทำงานสกปรกแล้วแม่ชั้นอยู่ไหน” ญาดาถาม
ลูกน้องเสกเปิดประตูพาเจ๊อ้อยเดินเข้ามา ญาดาหันไปมอง
“แม่”
“ไอ้ตาล”
ญาดากับเจ๊อ้อยโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ
“แม่เป็นไงบ้าง”
“แม่สบายดี นี่เอ็งเอาเงินมาไถ่ตัวแม่แล้วใช่มั้ย”
“ใช่จ้ะ นี่ไงเงินสิบล้าน”
เจ๊อ้อยมองเงินตาโตลุกวาว
“โอ้โห เงินสิบล้านนี่มันเยอะขนาดนี้เลยหรือ”
“ไปกันได้แล้วแม่”
ญาดาคว้ามือเจ๊อ้อย
“เดี๋ยวสิ จะรีบร้อนไปไหน อยู่เล่นซักตาสองตาก่อนสิ เผื่อจะมีดวงนะ”
เสกส่งเงินให้อ้อยปึกหนึ่งแล้วบอก
“เอา เจ๊อ้อย ชั้นให้เจ๊ยืมแสนนึง”
“จริงหรือ”
เจ๊อ้อยรีบยื่นมือจะรับแต่ญาดาตีมือจนเจ๊อ้อยสะดุ้ง
“แม่ แม่สัญญากับหนูแล้วนะว่าแม่จะไม่เล่นอีก”
“โทษทีลูก แม่ลืมไป”
เจ้อ้อยหันไปเล่นงานเสก
“นี่เฮียเสกอย่ามาทำลองใจชั้นนะ ชั้นเลิกเด็ดขาดแล้ว”
เจ๊อ้อยหันไปดึงมือญาดาแล้วบอก
“ไปลูก”
ญาดากับเจ๊อ้อยเดินออกไปจากห้อง เสกหยิบเงินขึ้นมาดูแล้วพูดขึ้น
“ขอให้มันจริงเถอะ”
ภายในร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าเวลาต่อมา เจ๊อ้อยถามญาดาก่อนจะตักอาหารเข้าปาก
“หมายความว่าเอ็งไปเป็นเมียไอ้เศรษฐีนั่นหรือ”
“ก็แค่เมียปลอมๆน่ะแม่ โชคดีที่เค้าความจำเสื่อม หนูก็เลยมั่วสวมรอยซะเลย”
“แล้วเอ็งมีอะไรกับมันรึเปล่า”
“ไม่มี แม่ไม่ต้องห่วง เค้าไม่ได้แอ้มหนูหรอก”
“แหม เอ็งนี่มันเก่งแถมฉลาดเหมือนแม่จริงๆ”
ว่าแล้วเจ๊อ้อยก็กำลังจิ้มอาหารเข้าปากแต่คิดได้ก็ชะงัก
“เอ๊ะเดี๋ยวก่อน แต่เมื่อกี้ที่เอ็งเล่า เอ็งบอกว่าเจ้าคุณปู่ให้มาสิบห้าล้านไม่ใช่หรือ”
“ไม่ใช่เจ้าคุณปู่แม่ คุณปู่เฉย ๆ” ญาดาบอก
“เออ นั่นแหละ แล้วอีกห้าล้านอยู่ไหน”
“ก็อยู่ในสมุดธนาคารหนูน่ะสิ”
“แม่หวังว่าเอ็งจะแบ่งให้แม่ใช้บ้างนะ”
“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วล่ะ แต่หนูจะไม่ให้แม่เป็นเงินนะ”
“อย่าบอกนะว่าจะให้แม่เป็นคูปองน่ะ แม่จะเอาไปใช้ได้ยังไง”
“แม่นี่ ฟังให้จบก่อนได้มั้ย อย่าเพิ่งขัด หนูจะเอาเงินส่วนนึงไปลงทุนเปิดร้านขายของชำให้แม่ที่เชียงใหม่”
“เอ็งจะให้แม่ไปขายของหรือ”
“ใช่ แล้วแม่ก็เอากำไรที่ได้จากการขายไปหมุนใช้รายวัน”
“เดี๋ยว เดี๋ยว เอ็งพูดเหมือนกับว่าเอ็งจะไม่ไปอยู่กับแม่”
“ก็ใช่สิ หนูจะอยู่กับคุณภูเค้าที่กรุงเทพ”
“คุณภู ผัวกำมะลอของเอ็งน่ะหรือ”
“ใช่”
“เอ็งบ้ารึเปล่า เอ็งจะอยู่กับมันได้ยังไง เอ็งบอกกับแม่อยู่แหม่บๆ เอ็งไปสวมรอยเป็นเมียมัน ถ้าวันนึงมันจำเอ็งได้ มันต้องจับเอ็งส่งตำรวจแน่”
“อาจจะไม่ก็ได้นะแม่ ขนาดคุณภูเค้ารู้จากตำรวจว่าหนูโกหกเรื่องแม่ เค้ายังไม่โกรธหนูเลย”
เจ๊อ้อยมองหน้าญาดา
“ แม่ถามจริงๆเอ็งรักมันใช่มั้ย”
“เปล่า”
“เอ็งอย่ามาโกหกแม่ แม่รู้จักนิสัยเอ็งดี บอกแม่มาตรงๆ”
ญาดานิ่ง เจ๊อ้อยมองจ้องตาอย่างคาดคั้น
“ใช่ หนูรักเค้า เค้าเป็นคนดีนะแม่ เค้าดีกับหนูมาก ตั้งแต่หนูเกิดมาไม่เคยมีใครดีกับหนูเท่านี้มาก่อน”
ญาดาบอกแววตาเป็นประกายอินเลิฟ
“ไอ้ตาล เอ็งฟังแม่นะ ที่ผู้ชายคนนี้มันดีกับเอ็ง เพราะมันคิดว่าเอ็งเป็นเมียเป็นคนรักของมัน แต่เมื่อวันนึงที่มันจำทุกอย่างได้ มันจะเกลียดเอ็งแล้วเอาตำรวจลากคอเอ็งกับแม่เข้าตะราง เข้าใจ รึเปล่า”
“แต่หนูว่าคุณภูเค้าคงไม่ทำอย่างงั้นหรอก เค้าบอกว่าเค้ารักหนู”
“นี่ เอ็งตื่นจากฝัน แล้วมองหน้าแม่ แม่เข้าใจนะว่าเอ็งรักมันแต่เรื่องของเอ็งกับมันเป็นไปไม่ได้หรอก ลืมมันซะแล้วหนีไปกับแม่”
ญาดาอึ้งมองหน้าแม่นิ่ง
ญาดากับแม่เดินออกมาจากร้านอาหารด้วยสีหน้าเศร้า
“เอ็งเข้าใจที่แม่พูดใช่มั้ย” เจ๊อ้อยถามอีก
“เข้าใจ”
“ดีมาก”
“แต่หนูขอไปเก็บของก่อนนะ”
“ของอะไร”
“แหม แม่ หนูก็มีเสื้อผ้าของสำคัญหลายอย่างนะ”
“แต่แม่ว่าเสื้อผ้าอะไรนั่นทิ้งไปเถอะ ไปหาซื้อเอาใหม่ แม่ไม่อยากให้เอ็งย้อนกลับไปแล้ว”
“แต่หนูอยากกลับไปเจอหน้าคุณภูเค้าเป็นครั้งสุดท้าย” ญาดาบอก
เจ๊อ้อยมองอย่างหมั่นไส้
“นั่นไงข้านึกแล้ว ดูเอ็งจะหลงมันเหลือเกินนะ”
“หนูก็แค่รักเค้า นะแม่นะ ขอให้หนูได้เจอเค้าอีกครั้ง”
“เออ เออ งั้นคืนนี้เที่ยงคืน แม่จะเอารถตู้ไปรับเอ็ง”
“จ้ะ เดี๋ยวหนูจะเขียนแผนที่ให้”
เจ๊อ้อยพยักหน้ารับรู้ เมื่อทั้งสองเดินจากไป ปื๊ดลูกน้องสารวัตรสมยศเดินซึ่งเดินประกบมองตามแล้วหยิบโทรศัพท์กด
“สารวัตรหรือครับ ผมเจอตัวเจ๊อ้อยกับลูกสาวครับ”
ภายในอพาร์ทเมนท์ สารวัตรสมยศกำลังพูดโทรศัพท์กับปื๊ด
“ที่ไหน ดี งั้นแกตามไปนะ ชั้นต้องการตัวลูกสาว ถ้าจับตัวได้ล็อกไว้ให้ชั้น”
“ได้ครับ”
ปื๊ดเดินตามดูอยู่ห่าง ๆเพื่อรอจังหวะอยู่ เจ๊อ้อยกับญาดาเดินมาที่บริเวณร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้า เจ๊อ้อยหยิบเสื้อขึ้นมาทาบตัวเองแล้วถาม
“สวยมั้ยตาล”
“ไม่สวย หนูว่าไม่เหมาะกับแม่”
เจ๊อ้อยเอาเสื้อขึ้นมาทาบอีกตัว
“แล้วตัวนี้ล่ะ”
“น่าจะดีกว่าตัวเมื่อกี้ แม่รอเดี๋ยวนะ หนูขอลองเสื้อแป๊บนึง”
“เออ”
ญาดาเดินเข้าไปในห้องลองเสื้อ เจ๊อ้อยหยิบเสื้อมาทาบตัวมองแล้วหมุนตัวดูกระจก เจ๊อ้อยชะงักไปเมื่อเห็นเงาปื๊ดในกระจก ปื๊ดยืนทำทีเป็นพูดโทรศัพท์
“เอ๊ะ เราเคยเห็นไอ้คนนี้ที่ไหนวะ”
เจ๊อ้อยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองอีกทีแต่ไม่เห็นปื๊ดแล้ว
“สงสัยจะเป็นพวกเล่นในบ่อน”
ญาดากับเจ๊อ้อยถือถุงเสื้อผ้าเดินมาตามทางในห้างสรรพสินค้า ปื๊ดเดินตามมาห่าง ๆ ญาดาหยุดดูของที่หน้าร้านในมุมหนึ่ง
“แม่ ดูนี่สิ สวยมั้ย”
เจ๊อ้อยหยุดมองตามญาดา
“ก็สวยดีนะ”
“แม่รอเดี๋ยวนะหนูจะเข้าไปดูราคาหน่อย”
ญาดาเดินเข้าร้านไป เจ๊อ้อยยืนรออยู่แต่เมื่อหันมองไปทางด้านหลังก็ชะงักเห็นปื๊ดทำทีเป็นยืนดูของที่ร้านถัดไป เจ๊อ้อยรู้สึกถึงลางไม่ดีที่กำลังจะมาเยือน ขณะที่ญาดาเดินกลับมาหาเจ๊อ้อยแล้วบอก
“แพงจังเลย ไปแม่”
ญาดากับเจ๊อ้อยเดินเรื่อยๆ ปื๊ดเดินตาม เจ๊อ้อยพูดเบาๆ
“เอ็งอย่าเพิ่งหันไปมองนะ แม่ว่ามีคนตามเรา”
“ใคร”
“ แม่ว่ามันตามเรามาตั้งแต่ร้านเสื้อ”
“แล้วจะเอาไง”
“เดี๋ยวเราแยกกัน ถ้ามันตามแม่เอ็งก็ประกบหลังมัน แต่ถ้ามันตามเอ็ง แม่จะประกบหลังให้”
“โอเค”
ญาดากับเจ๊อ้อยเดินไปถึงทางแยก ทั้งสองแยกกันไปซ้ายขวา ปื๊ดเดินเลี้ยวตามญาดาไป เจ๊อ้อยหันกลับไปมองเห็นปื๊ดเดินตามญาดา เจ๊อ้อยพยักหน้ากับตัวเองอย่างมั่นใจว่าปื๊ดกำลังสะกดรอยตามแน่
ญาดารู้ตัวว่า ปื๊ดตามหลังมาก็เดินเลี้ยวไปทางบันไดหนีไฟ
ปื๊ดเดินเลี้ยวตามมาแล้วเปิดประตูหนีไฟ แต่ไม่เห็นญาดาเพราะแอบอยู่หลังประตู เมื่อปื๊ดเผลอตัว ญาดาก็โผล่เอารองเท้าส้นสูงตบหน้าปื๊ดจนหน้าสะบัดไป ญาดาถาม
“แกตามชั้นมาทำไม”
ปื๊ดดึงมีดสปริงออกมา ตาลชะงักผงะถอย
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปกับชั้นซะดีๆ”
“แกต้องการอะไรจะเอาเงินหรือ” ญาดาถาม
“อยู่เฉยๆยกมือขึ้น” ปื้ดบอก
“ชั้นไม่กลัวแกหรอกนะ เข้ามาสิ”
ญาดาทำใจดีสู้เสือยกรองเท้าสองข้างขึ้นกะเขวี้ยงใส่ ปื๊ดยืนจดๆจ้องๆลังเลอยู่ เจ๊อ้อยย่องลงมาจากบันไดหนีไฟชั้นบนพร้อมไม้ถูพื้นแม่บ้าน เจ๊อ้อยฟาดไม้เข้าที่มือปื๊ดจนมีดหล่น ญาดาได้จังหวะตามเข้าไปตบซ้ำด้วยรองเท้าจนปื๊ดหน้าสะบัด เจ๊อ้อยตีกระหน่ำซ้ำเข้าที่ตัวและหน้าปื๊ดจนต้องปัดป้องเป็นพัลวัน
“นี่แน่ะ เล่นกะใครไม่เล่น ไปเร็วไอ้ตาล” เจ๊อ้อยว่า
ญาดากับเจ๊อ้อยวิ่งหนีไป ปล่อยทิ้งให้ปื๊ดนอนครางอยู่ที่พื้น
สารวัตรสมยศเดินขึ้นบันไดเลื่อนภายในห้างสรรพสินค้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สารวัตรสมยศกดรับ
“ฮัลโหล นี่ชั้นอยู่ที่ห้างแล้ว แกอยู่ไหนไอ้ปื๊ด”
สารวัตรวัตรสมยศนิ่งฟังไอ้ปื๊ดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น
“หา หนีไปได้”
ปื๊ดนั่งพูดโทรศัพท์ด้วยหน้าตาที่แดงช้ำอยู่ตรงขั้นบันไดหนีไฟ
“ใช่ ครับ มันตีผมจนเละเลย”
“ไอ้บัดซบเอ๊ย แค่ผู้หญิงคนเดียวยังจับไม่ได้”
“ผมขอโทษครับ”
สมยศวางสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“ไอ้โง่เอ๊ย”
ภายในรถแท็กซี่ เจ๊อ้อยกับญาดากำลังคุยกันอยู่
“หนูว่าอย่ากลับไปบ้านเลยแม่ บ้านเราคงไม่ปลอดภัยแล้ว”
“แล้วเอ็งจะให้แม่ไปอยู่ไหน”
“หนูว่าแม่ไปเปิดโรงแรมอยู่ก่อน แล้วคืนนี้ค่อยมารับหนู”
“เออ ก็ได้”
ญาดาบอกโซเฟอร์
“แท๊กซี่ไปโรงแรมสตาร์ พระรามเก้านะ”
“ครับ”
ญาดาถอนหายใจ เจ๊อ้อยนั่งนึกถึงหน้าไอ้ปื๊ดแล้วร้องออกมา
“เฮ้ย แม่นึกออกแล้ว”
“นึกอะไร”
“ไอ้ผู้ชายที่มันตามเอ็งน่ะ แม่จำได้แล้วมันเคยไปที่บ่อนกับตำรวจคนที่แม่เล่าให้ฟังว่ามันจะเอาตัวแม่ออกมา”
“สารวัตรสมยศหรือ”
“แม่ไม่รู้หรอกว่ามันชื่ออะไร แต่เป็นไอ้นี่แน่ ๆ”
“แล้วมันจะมายุ่งกับเราทำไม”
“นี่ไง แม่ถึงบอกให้เอ็งรีบหนีออกมาจากบ้านนั้นซะ อย่ากลับเข้าไปอีก”
“ก็หนูบอกแม่แล้วไงว่าหนูขอเจอคุณภูเค้าเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้หนูก็จะไม่ได้เจอเค้าอีกแล้วนะ”
“เอ็งนี่นะเหมือนแม่สมัยสาวๆไม่มีผิด”
“เหมือนยังไง”
“ก็บ้าผู้ชายน่ะสิ”
“หนูไม่ได้บ้านะแม่ หนูรักเค้าจริงๆ”
“ออ เออไม่ต้องมาพูดหรอก แม่รู้ว่าห้ามเอ็งไม่ได้”
เจ๊อ้อยมองหน้า ญาดายิ้มประจบ
ภายในห้องทำงานของภูบดีในบริษัทวรารมย์ ธาวินกับบุญทันนั่งดูเอกสารอยู่คนละมุม ธาวินบิดตัวด้วยความเมื่อย
“โอ๊ย ทำไมมันเยอะอย่างนี้วะไอ้ภู แกเจออะไรน่าสนใจบ้างมั้ย”
“เจอ”
“อะไร”
“ชั้นว่าระบบบัญชีเหมือนจะมีรอยรั่ว”
“จริงหรือ”
ธาวินลุกแล้วเดินเข้ามาดู
“จริง มีคนแก้บัญชี” บุญทันบอก
“พูดเป็นเล่นน่ะ”
“ชั้นไม่ได้พูดเล่น แกลืมไปแล้วหรือว่าชั้นจบอะไรมา ยอดบัญชีรายจ่ายของปีที่แล้วตัวเลขผิดปกติ”
ธาวินรับสมุดบัญชีไปดูเห็นรายการสรุปยอดบัญชีรับจ่ายย้อนหลังไปห้าปี เห็นตัวเลขปีล่าสุดมีรายจ่ายมากกว่าปีที่ผ่านมา ธาวินถามขึ้น
“แล้วใครคุมเรื่องบัญชี”
“อาเอนก” บุญทันบอก
ธาวินมองสบสายตากับบุญทัน
ภายในห้องทำงานของเอนกในบริษัทวรารมย์ เอนกนั่งเหม่อคิดถึงเรื่องที่โกงเงินบริษัทและกลัวว่าภูบดีจะจับได้ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา” เอนกบอก
เลขาเอาเอกสารเข้ามาให้
“มีเอกสารที่คุณเอนกต้องเซ็นอนุมัติให้ฝ่ายโยธาค่ะ”
“อืมม์ เอาวางไว้ เดี๋ยวผมเซ็นให้”
เลขาวางเอกสารแล้วเดินออกไป เอนกหยิบเอกสารมาดูแล้วนึกถึงเรื่องภาคิน
อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 27
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิมละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th