หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 28

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 28

เลขาวางเอกสารแล้วเดินออกไป เอนกหยิบเอกสารมาดูแล้วนึกถึงเรื่องภาคิน
วันนั้น … ตอนกลางวัน ภาคินยื่นสมุดบัญชีให้เอนก
“ชั้นว่านายเอาบัญชีกลับไปดูใหม่ เพราะตัวเลขที่ชั้นเห็น ชั้นว่ามันไม่โปร่งใส” ภาคินบอก
“พี่ภาคินพูดแบบนี้หมายความว่าผมทำตัวเลขขึ้นมางั้นหรือ” เอนกถาม

“ชั้นยังไม่ได้พูด ชั้นบอกแค่ว่ามันไม่โปร่งใส นายเอากลับไปดูแล้วทำให้ถูกต้อง ก่อนที่ชั้นจะบอกให้คุณพ่อรู้”
เอนกรับเอกสารแล้วเดินกลับออกไป
เอนกเดินออกจากห้องภาคินมาหยุดที่หน้าห้องแล้วมองบัญชีในมือ
“ทำไงดี ถ้าคุณพ่อรู้ว่าเราโกงบริษัทเราตายแน่”
ภายในห้องนอนของเอนก เสียงมือถือดังขึ้นในความมืด เอนกสะดุ้งตื่นควานคว้าโทรศัพท์ขึ้นรับสายทันที
“ฮัลโหล... ว่าไงนะ”
เสียงปลายสายบอกว่าภาคินกระโดดตึกตาย เอนกถึงกับอึ้งไปแล้วบอก
“จริงหรือ ... โอเคชั้นจะไปดูเดี๋ยวนี้”
เอนกวางสายแล้วพึมพำกับตัวเอง
“พี่ภาคินตาย”
เอนกแอบยิ้มอย่างโล่งอก

ภายในห้องทำงานของ เอนกถอนหายใจดังด้วยความกลัดกลุ้ม เสียงเคาะประตูดังขึ้นพอดี
“เข้ามา”
ธาวินเปิดประตูเข้ามา เอนกชะงักไปเล็กน้อย
“ขอโทษทีครับ คุณอา”
“อ้าว มีอะไรหรือภูบดี”
“คุณปรารภเอาบัญชีสรุปรายได้ประจำปีที่ผ่านมาให้ผมดูครับ”
“อืมม์ ทำไมหรือ” เสียงเอนกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“มันมีบางจุดน่ะครับที่ผมรู้สึกว่าตัวเลขมันแปลกๆ” ธาวินว่า
“แปลกยังไง” เอนกถาม
“เหมือนไม่ใช่ตัวจริงครับ ผมก็เลยอยากได้รายละเอียดจากแผนกบัญชีเพิ่ม”
เอนกพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติแล้วพูดว่า
“ได้สิ ตัวเลขตรงไหนที่หลานข้องใจ เดี๋ยวอาจะให้เค้าหาให้”
“ไม่เป็นไรครับ คุณอาแค่ให้คนที่รับผิดชอบไปพบผมก็พอครับ เดี๋ยวผมจะซักถามเค้าเอง”
“ได้ เดี๋ยวอาจะบอกให้”
เอนกฝืนยิ้ม ธาวินยิ้มรับแล้วบอก
“ขอบคุณครับ”
เอนกมองตามธาวินที่เดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ธาวินออกจากห้องของเอนกก็เจอกับอนุทินเข้าพอดี ธาวินทักทาย
“หวัดดีครับพี่เอ”
“หวัดดี”
อนุทินทักทายตอบเสียงห้วน แล้วมองธาวินที่เดินผ่านไปก่อนจะเปิดเข้าห้องเอนกไป

อนุทินเปิดประตูเข้ามาแล้วถาม
“ไอ้ภูบดีมันมาหาพ่อทำไม”
“เค้ามาถามเรื่องบัญชี”
“มาทำงานวันแรกมันก็เริ่มตรวจสอบพวกเราแล้วหรือครับ”
“เป็นสิทธิ์ของเค้า แล้วนี่แกเตรียมย้ายไปแผนกการตลาดรึยัง” เอนกถาม
“ย้ายแล้วครับ แต่ผมคิดว่าผมอาจจะลาออก” อนุทินว่า
“ไม่เอาน่ะเอ อย่าให้คุณปู่เสียใจ”
“คุณปู่เค้าไม่ได้สนใจผมหรอกครับพ่อ เอาไว้ให้ถึงวันที่ไอ้ภูบดีตายก่อน เค้าอาจจะเห็นคุณค่าผมขึ้นมาบ้างก็ได้”
“อย่าพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินเดี๋ยวจะเดือดร้อน”
“ผมไม่กลัวหรอกครับ ในเมื่อคุณปู่ไม่ยุติธรรมกับเราก็ไม่มีอะไรที่ผมต้องเกรงใจ”
เอนกมองเห็นแววตาและสีหน้าที่ไม่พอใจของอนุทิน ก่อนจะถอนหายใจอย่างแรงด้วยความเครียด

ภายในห้องทำงานของภูบดี สุธีพนักงานฝ่ายบัญชีวัยกลางคนยื่นแฟ้มเอกสารให้ธาวิน
“นี่ครับคุณภูบดี รายละเอียดของบัญชีรายรับรายจ่ายย้อนหลังปีที่ผ่านมา”
“ขอบคุณครับ”
สุธีกำลังจะเดินออกไป ธาวินเรียกขึ้น
“อ้อ เดี๋ยวครับคุณสุธี”
“ครับ”
“ตอนที่คุณลุงภาคินยังอยู่ คุณลุงได้ดูสรุปบัญชีล่าสุดนี่รึยัง”
“ดูแล้วครับ แต่รู้สึกว่าท่านจะให้คุณเอนกเอากลับไปแก้ใหม่”
“แก้ยังไง”
“คือ...” สุธีอ้ำอึ้งไม่กล้าพูด
“พูดมาเถอะ ผมสัญญาผมจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อน”
“คุณภาคินสงสัยว่าตัวเลขในบัญชีมันจะไม่ถูกต้องน่ะครับ”
“หมายความว่าตัวเลขไม่ตรงกับรายรับรายจ่ายที่แท้จริงงั้นหรือ”
“ครับ”
“แล้วบัญชีชุดที่ผมได้อ่านนี่เป็นตัวเลขที่แก้รึยัง”
“ยังครับ บังเอิญคุณภาคินเสียชีวิตไปก่อน แล้วคุณเอนกก็ขึ้นมารักษาการแทนก็เลยไม่ได้แก้ไข แต่คุณภูบดีอย่าบอกคุณเอนกนะครับว่าผมพูดเรื่องนี้ให้ฟัง”
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำให้คุณเดือดร้อนหรอก ขอบใจมาก”
สุธีเดินออกไป ธาวินมองแฟ้มในมือและเริ่มสนใจในตัวเอนก

ภายในรถของบุญทันในเวลาต่อมา
“สรุปว่าอาเอนกโกงเงินบริษัทจริงๆ” บุญทันว่า
“ใช่ สุธีบอกว่าลุงภาคินตายหลังจากที่จับได้ว่าอาเอนกโกงเงิน”
“งั้นเราคงต้องจับตามองอาเอนกเป็นพิเศษ เพราะบางทีเค้าอาจจะมีส่วนรู้เห็นในการตายของลุงภาคิน”
ธาวินพยักหน้า

ในเวลาเย็น เอนกเดินเข้าบ้านแล้วถอดเสื้อสูทออกก่อนจะ เดินไปที่โต๊ะหยิบเหล้าเทใส่แก้วแล้วนั่งดื่มด้วยสีหน้าเครียด
ภาพในอดีตเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง
เอนกอยู่ในห้องทำงานภาคินแล้วพูดขึ้น
“ผมขอร้องล่ะพี่ภาคิน อย่าบอกคุณพ่อเรื่องนี้”
“คงไม่ได้หรอก เพราะเงินที่นายโกงไปไม่ใช่น้อยนะ”
“ผมจะรีบเอามาคืนทั้งหมด”
“ถึงนายเอามาคืน ชั้นก็ต้องรายงานให้คุณพ่อรู้”
“ก็ได้ ถ้าพี่จะตัดอนาคตผม พี่อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน”

เอนกถอนหายใจอย่างเครียดแล้วพึมพำว่า
“นึกว่าเรื่องนี้มันจะจบไปแล้ว ไอ้ภูบดีดันมารื้อฟื้นอีก”
เอนกยกเหล้าดื่ม มณทกานต์เดินลงมาจากชั้นบนพอดี
“อ้าว พ่อ ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วคะ”
เอนกนิ่งไม่ตอบ
“พ่อยังโกรธเมย์อยู่หรือคะ”
“เปล่า พ่อแค่มีเรื่องกลุ้มๆ”
“เรื่องของเมย์รึเปล่า เมย์ขอโทษที่ทำให้พ่อต้องเสียใจ”
“ช่างมันเถอะ พูดไปเราก็เรียกอดีตกลับคืนมาไม่ได้”
“แต่เมย์ไม่ได้มีอะไรกับบุญทันจริงๆนะคะพ่อ”
“จนป่านนี้แกยังไม่ยอมรับความจริงอีกหรือ พ่อว่าแกควรจะเลิกนิสัยแบบนี้ได้แล้วนะ”
“แต่พ่อคะ”
“นี่ เมย์ ตอนนี้พ่อมีเรื่องกลุ้มมากพอแล้ว แกอย่าหาเรื่องให้พ่อปวดหัวอีกเลย จะไปไหนก็ไป”
เมย์มองพ่ออย่างน้อยใจเดินออก เอนกยกเหล้าดื่มหมดแก้วแล้วหยิบเหล้าในขวดมารินเพิ่ม

ภายในห้องนอนของภูบดี ธาวินนั่งอ่านเอกสารที่เอามาจากที่ทำงาน ญาดาเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นสีหน้าธาวินดูคร่ำเคร่ง
“งานยุ่งหรือคะ” ญาดาถามขึ้น
“ใช่ ผมเพิ่งเข้าไปทำวันแรกมันมีเรื่องต้องดูเยอะแยะไปหมด ถ้าตาลง่วงก็นอนก่อนนะ”
“ค่ะ”
ญาดาขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วมองไปที่ธาวินที่ยังค่ำเคร่งกับกองเอกสาร พลางนึกถึงคำพูดของเจ๊อ้อย
“นี่ เอ็งตื่นจากฝัน แล้วมองหน้าแม่ แม่เข้าใจนะว่าเอ็งรักมัน แต่เรื่องของเอ็งกับมันเป็นไปไม่ได้หรอก ลืมมันซะแล้วหนีไปกับแม่”
ธาวินหยิบกาแฟขึ้นดื่มเมื่อเงยหน้าก็เห็นญาดามองอยู่
“มีอะไรรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ตาลนอนก่อนนะคะ”
ญาดาล้มตัวแล้วหันหลังให้ธาวินที่ยังอ่านเอกสารต่อ จนเวลาผ่านไป เมื่อธาวินเริ่มง่วงก็ปิดเอกสารลงและเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวลงนอนและหลับสนิทในทันที
ญาดาในชุดใหม่ย่องออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเป้สะพายใส่ของ ญาดาย่องมาดูธาวินที่หลับสนิทเป็นครั้งสุดท้าย
“ลาก่อนค่ะคุณภู”
ญาดายกมือตัวเองขึ้นแตะจูบแล้วแตะที่แก้มธาวินอย่างอาลัย ญาดามองธาวินอีกครั้งก่อนตัดใจหันเดินออกจากประตูห้องไป ธาวินยังหลับสนิท
ญาดาย่องลงมาจากชั้นบน เห็นในบ้านมืดเงียบ ญาดามองซ้ายขวาก่อนจะเปิดประตูบ้านออกไป

ทางเดินในบ้านที่ด้านหลัง ญาดากำลังคุยโทรศัพท์เสียงเบาๆกับเจ๊อ้อย
“แม่อยู่ไหนแล้ว”
เจ๊อ้อยนั่งอยู่ในรถตู้พูดคุยกับญาดา
“แม่มารออยู่ที่ประตูหลังแล้ว” เจ๊อ้อยบอก
“โอเค หนูกำลังจะออกไป”
ญาดาวางสายแล้วเดินเลี้ยวไปตามทาง
บริเวณระเบียงบ้าน เอนกนั่งดื่มเหล้าอยู่ อนุทินเดินเข้ามาพอดีแล้วถามขึ้น

“พ่อยังไม่นอนอีกหรือครับ”
“อืมม์ แกไปไหนมากลับซะดึก”
“สังสรรค์กับเพื่อนน่ะครับ ผมขอตัวนะครับ”
อนุทินเดินเข้าบ้านไป เอนกกดโทรศัพท์หาลูกน้อง ปลายสายไม่มีใครรับ เอนกวางสาย
อย่างหงุดหงิด ญาดาเดินเลี้ยวผ่านมาทางบ้านเอนกก็ต้องรีบหลบทันที
“ คุณอาเอนกนี่หว่า”
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เอนกกดรับแล้วลุกขึ้นยืนพูด
“ฮัลโหล เออชั้นเอง มีเรื่องจะให้แกช่วยหน่อย”
ญาดาก้มตัวลงมุดต่ำเพื่อจะคลานผ่านไป
“ชั้นต้องการให้แกอุ้มหลานชายชั้นให้หายไปจากเมืองไทย”
ญาดาที่กำลังคลานอยู่ชะงักทันที
“ใช่ ชื่อภูบดี”
ญาดาสะดุ้งแล้วหยุดมองไปที่เอนก
“อย่าให้พลาดนะ เออ เออ”
เอนกวางสายแล้วยกเหล้าขึ้นสาดลงลำคอจนหมด แล้วเดินเข้าบ้านไป ญาดาสีหน้าตกใจเพราะคิดไม่ถึง
“หมายความว่าไง”
โทรศัพท์มือถือญาดาสั่นเข้ามา ตาลกดรับ
“ฮัลโหล”
“อยู่ไหนเนี่ย แม่รอนานแล้วนะ”
“เอ่อ แม่ สงสัยหนูจะไปกับแม่ไม่ได้แล้ว”
“ทำไม” เจ๊อ้อยถาม
“คุณภูกำลังมีอันตราย หนูต้องอยู่กับเค้าก่อน”
“นี่เอ็งจะบ้าหรือ”
“แต่หนูทิ้งเค้าไปตอนนี้ไม่ได้ แม่ไปก่อนนะ ถ้าหนูจัดการทางนี้เรียบร้อยหนูจะตามไป”
“ไอ้ตาล”
“แค่นี้นะแม่”
ญาดาวางสายแล้วสะพายเป้เดินกลับไปที่บ้านของพิพัฒน์
ภายในรถ เจ๊อ้อยบ่นฮุบ
“ตาล ฮึ่ย ไอ้ตาลนี่มันจะบ้าใหญ่แล้ว”
“เอาไงครับ” คนขับถาม
“กลับ”
รถตู้ขับออกไป

ภายในบ้านพิพัฒน์ในเวลาต่อมา ญาดาย่องกลับเข้าบ้าน มองซ้ายขวาเห็นไม่มีใคร สายตาใครคนหนึ่งมองลงมาห็นญาดากำลังย่องขึ้นบันได และแล้วญาดาก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นธาวินยืนรออยู่
“คุณภู”
“ไปไหนมา”
“เอ่อ ตาล ตาลออกไปเดินเล่นน่ะค่ะ”
“เดินเล่นในชุดนี้น่ะหรือ” ธาวินถาม
ญาดาสะดุ้งเหลือบมองตัวเองแล้วยิ้มกลบเกลื่อน
“คือ ตาลบอกความจริงก็ได้ค่ะ เพื่อนตาลเค้าชวนไปเต้นระบำน่ะค่ะ แต่ตาลเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว”
“แล้วทำไมไม่บอกผมตรงๆ ต้องแอบหนีมาตอนผมหลับ”
“ก็ .ตาลกลัวว่าคุณภูจะไม่ให้ไปนี่คะ”
“แล้วนั่นอะไร”
ธาวินชี้ไปที่เป้
“อ๋อ เมื่อกลางวันตาลซื้อของมาน่ะค่ะ เลยฝากไว้ที่ห้องต้นหอม”
ธาวินจ้องหน้าด้วยสายตาคาดคั้นแล้วถามตรงๆ
“นี่ตาลไม่ได้คิดจะหนีผมใช่มั้ย”
“เปล่าค่ะ ตาลจะหนีคุณภูไปไหนล่ะคะ ตาลเป็นเมียคุณภูนะ ไปนอนต่อเถอะค่ะ”
ญาดาเข้ามาเกาะแขน ธาวินมองอย่างไม่เชื่อใจ ญาดาหอมแก้มเอาใจ
“ไปค่ะ”
ญาดายิ้มแล้วดึงแขนของธาวินเข้าไปในห้องนอน
บนเตียงนอน ธาวินและญาดานอนหันหลังให้กัน ธาวินนอนลืมตาคิดถึงเรื่องเมื่อครู่
“ไปไหนมา”
“เอ่อตาล ตาลออกไปเดินเล่นน่ะค่ะ”
ธาวินเหลือบมองญาดาอย่างไม่ไว้ใจ
ญาดานอนลืมตาคิดเรื่องเอนก
“ชั้นอยากให้แกอุ้มหลานชั้นให้หายไปจากเมืองไทย ใช่ ชื่อภูบดี”
ญาดาถอนหายใจเบาๆก่อนจะขยับตัวหันมาเล่าเรื่องให้ธาวินฟัง
“คุณภูคะ คุณภูหลับรึยัง”
ธาวินชะงักแกล้งหลับตาไม่ตอบ ญาดาชะโงกมอง เห็นธาวินหลับก็ถอนหายใจเบาๆแล้วล้มตัวลงนอนลืมตาสีหน้าเครียด

เช้าวันรุ่งขึ้น ธาวินเดินจ๊อกกิ้งผ่านมาทางบ้านพักคนงาน ธาวินมองซ้ายขวาไม่เห็นใครก็เปิดประตูเข้าไปในห้องบุญทันทันที ธาวินนั่งตรงข้ามกับบุญทัน
“แกคิดว่าเธอจะหนีหรือ” บุญทันถามขึ้น
“ตอนแรกชั้นก็คิดอย่างงั้น แต่ทำไมอยู่ๆเธอถึงเปลี่ยนใจกลับมาก็ไม่รู้”
“ชั้นว่าเค้าคงตัดใจจากแกไม่ได้มากกว่า ถ้าเป็นแบบนี้แกยิ่งต้องระวังตัว”
“ทำไม”
“อ้าว ก็แสดงว่าเค้าตั้งใจจะจับแกจริงจังน่ะสิ”
“ชั้นว่าแกมองตาลเค้าแง่ร้ายเกินไป”
“แล้วแกว่าเค้ามีมุมไหนที่เรามองแง่ดีได้บ้าง ชั้นบอกตามตรงเลยนะ แกควรจะหาทางเลิกกับเค้าซะ”
เสียงเคาะประตูดังพร้อมๆกับสียงของมณทกานต์
“บุญทัน”
บุญทันกับธาวินสะดุ้ง
“น้องเมย์ แกไปแอบในห้องน้ำก่อน” บุญทันบอก
ธาวินรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ บุญทันเปิดประตู เห็นเมย์ยืนอยู่หน้าห้อง
“ชั้นได้ยินเสียงเหมือนนายคุยกับใคร”
“อ๋อ ผมฟังวิทยุน่ะครับ คุณเมย์มีอะไรหรือครับ”
“ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย”
มณทกานต์เดินเข้ามาในห้อง บุญทันเดินตามเข้ามา
“มีอะไรครับ”
“ชั้นจะแต่งงานกับนาย” มณทกานต์บอก
บุญทันสีหน้าอึ้งไปทันที
“ชั้นมาคิดดูแล้วเรื่องมันจะได้จบซะที”
ธาวินซึ่งหลบแอบอยู่ในห้องน้ำชะเง้อฟังจนเผลอก้าวเท้าเตะกระป๋องดังโครม !
มณทกานต์กับบุญทันชะงักกึกไปทันที
“ใครอยู่ในห้องน้ำ” มณทกานต์ถาม
“ไม่มีหรอกครับ สงสัยจะเป็นแมว”
มณทกานต์จะเดินไปดู แต่บุญทันขวางไว้แล้วบอก
“ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ”
“ถอยไป”
ในห้องน้ำ ธาวินมองซ้ายขวาหาทางหนีแต่ไม่มี
“เชื่อผมสิครับว่าไม่มีอะไร”
มณทกานต์ไม่เชื่อจะเดินไปที่ห้องน้ำ บุญทันรีบแก้สถานการณ์ดึงตัวมณทกานต์เข้ามาจูบ ธาวินแง้มประตูออกมาแอบดูก็เห็นบุญทันจูบมณทกานต์อยู่ ธาวินอมยิ้ม
มณทกานต์ได้สติผลักบุญทันออกแล้วต่อว่าทันที
“ไอ้บ้า ไอ้คนฉวยโอกาสนายนี่มันเลวจริง ๆ”
มณทกานต์เดินสะบัดหน้าออกจากห้องบุญทันไป บุญทันมองตามแล้วถอนหายใจ ธาวินเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอก
“แกนี่มันร้ายไม่เบานะ ไอ้ภู เห็นทำขรึมๆ”
“นี่ ไอ้วินที่ชั้นต้องทำแบบนี้เพราะชั้นไม่อยากให้น้องเมย์เค้าเจอแกหรอกนะ”
“จริงอ้ะ”
“ก็จริงสิ”
“แต่ชั้นว่าเมื่อกี้ถ้าไม่มีชั้นอยู่ด้วย แกคงจะ...” ธาวินพูดค้างไว้
“ชัทอัพ ชั้นไม่เหมือนแกที่บ้าผู้หญิง เอาล่ะ แกไปได้แล้ว”
บุญทันเดินออกไปที่หน้าประตูเพื่อมองลู่ทาง...ฉลุย ไม่เห็นใครในบริเวณนั้น
“ไม่มีใครแล้ว”
ธาวินเดินออกทำจ๊วบปากจุ๊บล้อเลียนใส่บุญทัน บุญทันผงะ
“ไอ้บ้านี่”
ธาวินเดินหัวเราะออกไป บุญทันมองตามแล้วส่ายหน้า
“ไอ้วินนะไอ้วิน น้องเมย์เลยโกรธเราไปอีก”

มณทกานต์เดินเข้ามาในบ้านมด้วยสีหน้าบึ้งตึง เจอกับอนุทินที่กำลังดื่มกาแฟ อนุทินมองน้องสาวแล้วถาม
“ไปไหนมาแต่เช้า”
“เดินเล่น”
“แล้วตกลงแกกับไอ้บุญทันจะแต่งกันเมื่อไหร่”
“พี่เอจะสนใจทำไม”
“ถ้าแกไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกับชั้น ชั้นคงไม่สน”
“งั้นพี่ก็คิดว่าชั้นเป็นคนอื่นแล้วกัน เพราะชั้นยังไม่ยุ่งเรื่องของพี่กับนังปารมีเลย”
“แกพูดเรื่องอะไร”
“ชั้นรู้นะว่าพี่แอบมีอะไรกับมัน”
“แล้วทำไม ชั้นไม่ได้เอาคนใช้มาเป็นเมียซะหน่อย อย่างน้อยปารมีเค้าก็ไม่ใฝ่ต่ำเหมือนแก”
มณทกานต์มองด้วยสายตาโกรธแล้วพูดประชด
“ใช่ ชั้นใฝ่ต่ำ ชั้นก็จะคอยดูว่านังปารมีมันจะดีกับพี่แค่ไหน”
มณทกานต์เดินสะบัดหน้าขึ้นชั้นบนไป
“หือ นังนี่”
อนุทินมองตามมณทกานต์ คิดว่า ถ้าไม่ใช่น้องสาวจะตบสักฉาด

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 28

ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th