อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 35
ต้นหอมเดินออกไป เจ๊อ้อยหยิบไม้กวาดออกมากวาดมองบ้านอย่างสำรวจเมื่อนึกถึงคำพูดของต้นหอมชะงัก
“หรือว่าในห้องมีอะไรซ่อนอยู่ ถึงไม่ให้คนเข้าไป”
เจ๊อ้อยมองซ้ายขวาเห็นว่าไม่มีใครก็ย่องขึ้นไป
เจ๊อ้อยขยับลูกบิดประตูห้องนภาไปมา แต่ห้องล็อก
“ล็อกซะด้วยแสดงว่าต้องมีของสำคัญจริง ๆ”
เจ๊อ้อยมองซ้ายขวาหาอุปกรณ์งัดแงะแต่ไม่เจออะไรที่พอจะใช้สอยได้ เมื่อนึกได้จึงดึงกิ๊บดำที่ติดผมออกมา เจ๊อ้อยเอากิ๊บออกมาง้างแล้วเสียบเข้าไปเพื่อเขี่ยปลดล็อกลูกบิด
ที่ชั้นล่าง นภาเดินเข้าบ้านมาพอดี และร้องเรียก
“ต้นหอม”
เจ๊อ้อยกำลังเขี่ยตัวล็อกประตูพอได้ยินเสียงนภาก็สะดุ้งสุดตัวแล้วตอบ
“ขา ...”
เจ๊อ้อยรีบวิ่งลงบันไดมาเจอกับสายตานภาที่กำลังมองอยู่
“ขึ้นไปทำอะไรข้างบน” นภาถาม
“พอดีอ้อยปวดท้องฉี่น่ะค่ะ” เจ๊อ้อยรีบแก้ตัว
“ทีหลังปวดฉี่ก็กลับไปฉี่ที่บ้านคนงาน บ้านชั้นไม่ใช่ส้วมคนใช้”
“ขอโทษค่ะ”
“แล้วนี่ต้นหอมไปไหน” นภาถาม
“ต้นหอมไปตึกใหญ่ค่ะ อีกชั่วโมงนึงจะกลับมาตรวจงานค่ะ”
“งั้นเธอก็รีบทำ อย่าชักช้า”
“ค่ะ”
เจ๊อ้อยหยิบไม้กวาดออกมากวาดบ้าน นภาเดินขึ้นไปชั้นบนไป เจ๊อ้อยหันมองตามหลังอย่างเสียดายพลางบ่น
“อีกนิดเดียวจะเปิดได้อยู่แล้ว”
ภายในร้านกาแฟเวลากลางวัน บุญทันวางแก้วกาแฟลงแล้วถามธาวินอย่างสงสัย
“เอาแม่เข้ามาอยู่ในบ้านหรือ” บุญทันถาม
“อืมม์ ไม่รู้ว่าเค้าคิดทำอะไร”
“แต่ชั้นว่ามาถึงขนาดนี้แล้ว เค้าคงไม่คิดร้ายกับแกแล้วล่ะ บางทีแม่เค้าอาจจะไม่มีที่ไป”
“ก็เป็นไปได้” ธาวินบอก
“แล้วแกคิดจะบอกความจริงเค้าเมื่อไหร่ว่าแกจำอะไรได้หมดแล้ว”
“ก็กะว่าจะบอกหลังแต่งงาน” ธาวินบอก
“อ๋อ นี่แกหวังจะให้ส่งตัวเข้าหอก่อนใช่มั้ย เค้าจะได้หนีไม่รอด”
“แกนี่รู้ทันชั้นตลอดเลยนะ”
“ถ้าชั้นไม่รู้ทันแก ชั้นจะเป็นเพื่อนรักแกได้หรือ”
“แล้วชั้นก็คิดว่าหลังแต่งงาน เราควรจะเปิดเผยความจริงให้คุณปู่รู้ได้แล้วนะว่าแกคือใคร เพราะตอนนี้ทุกอย่างก็จบแล้ว”
บุญทันยกกาแฟขึ้นจิบด้วยแววตาครุ่นคิดก่อนจะเปรยขึ้น
“หวังว่าอาเอนกจะเป็นฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าลุงภาคินนะ”
“ทำไมแกพูดอย่างงั้น”
“ไม่รู้สิ ชั้นมาคิดๆดู ชั้นว่าถ้าอาเอนกเป็นคนฆ่าลุงภาคินจริง เค้าไม่น่าใจเสาะคิดฆ่าตัวตาย”
“ชั้นว่าแกคิดมากไป เชื่อชั้นทุกอย่างมันจบแล้ว” ธาวินบอก
บุญทันมองหน้าธาวินที่พยักหน้ายกแก้วกาแฟให้ บุญทันพยายามทำใจที่จะเชื่อ
ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องพักชั่วคราวกึ่งโรงแรม ปารมีเดินเข้ามา
“เมื่อคืนเรายังพูดกันไม่จบนะพี่เอเรื่องมรดกคุณปู่”
อนุทินนั่งอยู่บนเตียงแล้วพูดขึ้น
“ก็อย่างที่บอก พี่มาคิดดูแล้วพี่ไม่อยากเสี่ยงติดคุก”
“แต่พี่เอบอกว่าจะไม่ยอมให้คุณลุงเอนกตายฟรีไงคะ”
“พี่ก็พูดขู่ไอ้ภูบดีไปงั้นแหละ”
ปารมีมองหน้าอนุทินอย่างไม่พอใจ
“พูดขู่หรือคะ”
“ใช่ เมื่อวานคุณปรารภเอาหลักฐานที่พ่อยักยอกเงินบริษัทมาให้พี่ดู โชคดีนะที่พี่ไม่รู้เห็นอะไรด้วยไม่งั้นตอนนี้พี่ไปนอนในคุกแล้ว”
“หมายความว่าพี่เอจะยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้หรือคะ” ปารมีน้ำเสียงผิดหวังปนโกรธ
“ก็ต้องเป็นอย่างงั้น เพราะพี่ไม่อยากติดคุก”
“ปาไม่คิดเลยนะว่าพี่เอจะเป็นคนขี้ขลาดแบบนี้ เสียแรงที่ปารักและคิดที่จะฝากชีวิตไว้ พี่เอไม่ได้รักปาเลยพี่เอรักแต่ตัวเอง”
อนุทินรีบแก้ตัว
“ไม่ใช่นะปา พี่รักปา แต่พี่ไม่อยากมีจุดจบเหมือนพ่อ”
“ถ้างั้นเราก็จบกันแค่นี้”
ปารมีบอกแล้วทำท่าจะหันเดินออกไปทันทีแต่แนุทินคว้ามือไว้
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะปา พี่รักปานะ”
“ถ้าพี่เอรักปา พี่เอก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อปาสิคะ”
“แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่ง่ายนะ ถ้าเราถูกจับ...”
“พี่เอก็พูดแต่กลัวถูกจับ ถูกจับ ถ้าเราวางแผนให้ดี เราก็ไม่มีทางโดนจับหรอกค่ะ”
อนุทินมองหน้า ปารมีทำน้ำเสียงอ้อน
“นะคะพี่เอ ถ้าพี่เอรักปา พี่เอต้องทำเพื่ออนาคตของเรา”
อนุทินมองอย่างลังเล
“แต่ถ้าพี่เอไม่ทำเราก็จบกันแค่นี้” ปารมีบอก
ปารมียื่นคำขาดแล้วมจ้องหน้าอนุทินรอคำตอบ
อนุทินถอนใจยาวตัดสินใจแล้วถาม
“แล้วปาจะให้พี่ทำยังไง”
ปารมียิ้มแล้วบอก
“มันต้องอย่างนี้สิคะถึงจะเรียกว่ารักกันจริง”
ปารมีเข้ามาจูบแก้มอนุทินตอบแทน
ญาดาเปิดประตูออกมาจากห้องนอนในเวลากลางคืน เหลียวมองซ้ายขวาไม่เห็นใครก็ย่องลงบันไดไปทันที ญาดาได้ยินเสียงเจ๊อ้อยฮึมฮัมเพลง ญาดาชะงักแล้วเดินไปตามเสียงกวาดสายตามองหา แต่ไม่เจอ
เสียงเพลงเงียบไป ญาดาเดินเข้าไปในครัว เจ๊อ้อยโผล่มาด้านหลังเอาไม้ขนไก่ตีก้นญาดา
“จะเอาอะไรคะคุณตาล”
ญาดาสะดุ้งหันมาเห็นแม่ยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง
“แม่ นี่แม่เข้ามาทำอะไรที่นี่” ญาดาถาม
“ก็บอกแล้วว่ามาทำงาน”
“ไม่จริง คนอย่างแม่ไม่มีทางมาทำงานบ้านแบบนี้หรอกบอกหนูมาซะดีๆว่าแม่มีแผนอะไร”
“เอ๊ะ นังนี่ เห็นแม่เป็นคนยังไง ที่แม่เข้ามาที่นี่ก็เพราะว่าแม่เป็นห่วงเอ็งนะ กลัวว่าเอ็งจะมีอันตราย เห็นมั้ยเพราะเอ็งไม่บอกความจริงแม่ว่าว่าเกิดอะไรขึ้นเอ็งถึงโดนยิง”
“ไม่เกี่ยวหรอกแม่ หนูว่าแม่ออกไปเถอะอย่าอยู่ที่นี่เลย เพราะถ้าใครรู้เข้าว่าแม่เป็นแม่หนู หนูจะเดือดร้อนนะ”
“ก็ถ้าเราไม่บอกใครมันจะรู้ แล้วไอ้คุณภูพระสวามีของเอ็งมันก็สมองเสื่อมมันจำแม่ไม่ได้”
“หนูขอร้องล่ะแม่ อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งไปกว่านี้เลย”
“ก็ได้ แม่จะไปแต่เอ็งต้องไปกับแม่”
“หนูยังไปตอนนี้ไม่ได้ ขอเวลาหนูหน่อย”
“งั้นแม่ก็ไม่ไปให้เวลาแม่หน่อย”
“แม่ ทำไมแม่ดื้ออย่างนี้ล่ะ”
“ก็แล้วทำไมเอ็งดื้อไม่ยอมไปกับแม่”
ญาดาอึ้งไปไม่ตอบมองได้แต่มองหน้า เจ๊อ้อยมองกลับอย่างท้าทาย
“ว่าไง”
ธาวินเดินเข้ามาในห้องครัวพอดีก็ชะงัก
“อ้าว ตาลมาอยู่นี่เอง ผมเดินหาซะทั่วเลย จะเอาอะไรทำไมไม่บอกลงมาทำไม”
“พอดีตาลอยากทานผลไม้น่ะค่ะ ในตู้เย็นมีอะไรบ้างจ๊ะน้าอ้อย”
“เดี๋ยวอ้อยดูให้ค่ะ”
เจ๊อ้อยหันไปเปิดตู้เย็น ธาวินลอบมองเจ๊อ้อยกับญาดาที่หันมายิ้มให้
“มีองุ่นค่ะ คุณตาลรับมั้ยคะ”
“ก็ได้จ้ะ”
“เดี๋ยวอ้อยใส่จานให้นะคะ”
“งั้นเดี๋ยวน้าอ้อยเอาไปให้ที่ห้องนะ” ธาวินบอก
“ได้ค่ะ”
ธาวินหันมาโอบเอวตาล
“ไปจ้ะ เอ๊ะ หรือว่าจะให้ผมอุ้ม” ธาวินถาม
“ไม่ต้องอุ้มแล้วค่ะ ตาลบอกว่าตาลเดินได้ ไปเถอะค่ะ”
ธาวินโอบเอวตาลเดินออกไป เจ๊อ้อยมองตามอย่างหมั่นไส้
“ไอ้คุณภูนี่ท่าทางจะเป็นพวกปากว่ามือถึง ป่านนี้ลูกสาวเราคงช้ำไปหมดทั้งตัวแล้ว”
บนโต๊ะอาหารในบ้านพิพัฒน์ เวลากลางคืน ต้นหอมตักข้าวใส่จานให้พิพัฒน์แล้วเดินมาตักให้ญาดากับธาวิน
“เออ เจ้าภู หลานบอกหนูตาลรึยังว่าปู่จะขอเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน” พิพัฒน์พูดขึ้น
“ยังไม่ได้บอกเลยครับคุณปู่ ผมมัวแต่ยุ่งเรื่องงานเลยลืม”
“ก็ดีเหมือนกันนะคะคุณปู่ ตาลก็กำลังคิดจะบอกคุณปู่อยู่เหมือนกันว่าที่บ้านเรามีเรื่องวุ่นๆหลายเรื่อง เลื่อนไปก่อนก็ดี”
“แต่ปู่ก็จะเลื่อนไปอีกแค่เดือนเดียวนะ ปู่จะรอให้หนูหายดีแล้วจะได้แต่งพร้อมกันทีเดียวสองคู่เลย”
“แล้วใครอีกคู่ครับ” ธาวินถาม
“ยัยเมย์กับบุญทัน”
“น้องเมย์ยอมแต่งหรือคะ” ญาดาถาม
“เห็นบุญทันบอกว่ายอมแล้ว” พิพัฒน์บอก
“งั้นก็ดีสิครับ แต่งพร้อมกันสองคู่เลย อ้อ ผมว่าจะเสนอคุณปู่ให้บุญทันไปทำงานที่บริษัทกับผมดีมั้ยครับ” ธาวินเสนอความเห็น
“ทำงานหรือคะ บุญทันเค้าเป็นแค่คนขับรถ เค้าจะไปทำอะไรที่บริษัทได้คะ” ญาดาว่า
“เห็นมันบอกว่ามันจบวุฒิม.6 ผมก็เลยคิดว่าจะให้มันไปลงเรียนนอกเวลาแล้วมาฝึกงานที่บริษัท” ธาวินบอก
“ปู่ว่าเป็นความคิดที่ดีนะ พอมันแต่งงานกับยัยเมย์คนจะได้ไม่ดูถูกมัน”
“งั้นผมจะให้มันมาเป็นเลขาส่วนตัวผมเลยดีมั้ยครับ” ธาวินบอก
“เลขาหรือคะ” ญาดาถาม
“บุญทันมันจะได้คอยเตือนผมไงผมว่าต้องไปไหนทำอะไรบ้าง”
“ดี ปู่เห็นด้วยให้มันมาเรียนรู้งานจากแก วันนึงมันจะได้ช่วยงานแกได้”
ธาวินพยักหน้ารับคำ ญาดาเหลือบมองธาวินกับพิพัฒน์อย่างไม่ค่อยเห็นด้วย
ในห้องนอนของภูบดี ญาดานั่งเปิดหนังสืออ่านเล่นอยู่ ธาวินอาบน้ำเสร็จเดินออกจากห้องน้ำมานั่งที่เตียง ญาดาถามขึ้น
“ทำไมคุณภูถึงไว้วางใจในตัวบุญทันถึงขั้นจะเอามาทำงานใกล้ตัว”
ธาวินชะงักไปกับคำถาม
“ อ้าว ก็มันไม่ได้เป็นเกย์แล้ว ผมก็ไม่กลัวมัน” ธาวินพูดเฉไฉ
“ไม่ใช่ค่ะ ตาลหมายถึงว่าแน่ใจหรือว่าเค้าเป็นคนดีไว้ใจได้”
ธาวินแอบยิ้มขำ
“ตาลสงสัยอะไรในตัวมัน”
“ไม่รู้สิคะ แต่ตาลมีเซ้นท์ว่านายบุญทันเนี่ยไม่ค่อยปกติเหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่”
“ไม่หรอก บุญทันมันเป็นคนดีไม่มีอะไร”
ญาดามองหน้าธาวินอย่างสงสัย
“คุณภูพูดเหมือนรู้จักกับเค้ามานาน”
“ไม่ใช่ ผมหมายถึงว่าถ้ามันไม่ใช่คนดีคุณปู่จะยกยัยเมย์ให้หรือ แถมยังวางอนาคตให้มันด้วย นี่ ผมว่าอย่าพูดเรื่องบุญทันเลย มาพูดเรื่องเราดีกว่า”
“เรื่องอะไรคะ”
“คืนนี้ให้ผมนอนกอดตาลได้มั้ย”
“ไม่ได้ค่ะ”
“แค่กอดอย่างเดียว ผมสัญญาผมจะไม่ทำอะไรตาล”
“โนเวย์ค่ะ แล้วตาลก็จะบอกคุณภูว่าคืนนี้คุณภูต้องกลับไปนอนที่โซฟา”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“ตาลป่วยอยู่นะคะ ตาลต้องการพื้นที่ที่นอนสบาย ถ้าคุณภูนอนด้วยมันจะเบียดกันค่ะ”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ค่ะ”
“ก็ได้ แต่ถ้าตาลหายดีแล้วต้องให้ผมกลับมานอนบนเตียงนะ”
“ค่ะ”
“งั้นก่อนนอนให้ผมกู๊ดไนท์คิสได้มั้ย”
ญาดาทำหน้าเขินปากแข็งบอก
“โน”
“แค่คิสเบาๆ นะ”
ธาวินส่งสายตามองอย่างเจ้าชู้อ้อน ญาดามองเขิน
“ก็ได้ แต่ให้ตาลหลับตาก่อนนะ”
ญาดาหลับตา ธาวินเคลื่อนหน้าเข้ามาจะจูบ
เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ ญาดากับธาวินชะงักในทันที ญาดาลืมตา ธาวินมีสีหน้าหงุดหงิด โมโหแล้วพูด
“หือ ใครนะ มันช่างรู้จังหวะจริงๆ”
ธาวินจะจูบอีก เสียงเคาะประตูดังซ้ำ
“ไปเปิดประตูก่อนค่ะ” ญาดาบอก
ธาวินถอนหายใจอย่างเซ็งๆเดินไปเปิดประตู ปารมียืนอยู่ที่หน้าห้อง
“อ้าว ปา”
“พี่ตาลหลับรึยังคะ”
“ยังหรอก เข้ามาสิ”
ปารมีเดินเข้ามาหาญาดา
“อ้าว คุณปา” ญาดาทักทาย
“พอดีพรุ่งนี้เป็นวันหยุดลองวีคเอนด์น่ะค่ะ ปาเห็นว่าพี่ตาลเพิ่งหายป่วยก็เลยจะมาถามว่าอยากไปพักฟื้นที่ทะเลบ้างมั้ยคะ”
ญาดากับธาวินมองหน้ากันอย่างงงๆ ที่อยู่ๆปารมีก็มาชวนไปทะเล ปารมีชูกิฟท์วอยเชอร์ให้ดู
“ปามีกิฟท์วอเชอร์ที่พักฟรีที่หัวหินค่ะ ถ้าไปปาจะได้จองให้” ปารมีบอก
“คุณภูว่าไงคะ”
“ก็ดีเหมือนกันนะ ตาลจะได้พักผ่อน” ธาวินว่า
“งั้นปาจองที่พักให้เลยนะคะ สามคืน”
“แล้วคุณปาไปด้วยกันมั้ยคะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ปาต้องอยู่ดูแลคุณแม่ โอเคค่ะ ปาไม่กวนแล้ว”
ปารมีลุกเดินออกไป ธาวินกับญาดามองตาม
“คุณปาเค้าน่ารักนะคะ ดี๊ดีกับตาล”
“อืม” เสียงธาวินรับคำอย่างเสียไม่ได้เพราะยังติดใจเรื่องที่ปารมีเคยมาหาในห้อง
“เหมือนคุณภูไม่เห็นด้วยกับที่ตาลพูด”
“อ๋อ เปล่า ดี ปาเค้าน่ารัก มา ผมยังไม่ได้กู๊ดไนท์คิสเลย”
“หมดสิทธิ์แล้วค่ะ”
“อ้าว ทำไมงั้นล่ะ”
“หมดเวลาค่ะ กู๊ดไนท์”
ญาดาแตะปากตัวเองส่งให้ธาวินแทนจูบแล้วล้มตัวนอนดึงผ้าห่มคลุมโปง ธาวินมองส่ายหน้าแล้วยิ้ม
“ตาลนี่ลูกเล่นเยอะนะ”
ธาวินเดินไปปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน
อนุทินเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านในเวลากลางคืนด้วยสีหน้าเครียดเมื่อนึกถึงคำพูดของปารมี
“ถ้าพี่เอรักปา พี่เอต้องทำเพื่ออนาคตของเรา”
อนุทินถอนหายใจ เสียงโทรศัพท์มือถือดัง อนุทินมองเบอร์แล้วกดรับทันที
“ฮัลโหล”
ภายในห้องนอน ปารมีกำลังพูดโทรศัพท์อยู่
“จัดการได้เลยพี่เอ คอนเฟิร์ม”
“อืมม์”
อนุทินปิดโทรศัพท์แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มย้อมใจก่อนจะเดินออกจากบ้าน มณทกานต์แอบมองอนุทินอยู่มุมหนึ่งอย่างสงสัยแล้วสะกดรอยเดินตามไป
อนุทินเดินเข้าไปในโรงรถ มณทกานต์แอบมองจากด้านนอก เห็นอนุทินเปิดฝากกระโปรงรถคันที่ธาวินใช้ประจำ มณทกานต์พยายามเพ่งมองแต่ไม่เห็นว่าอนุทินทำอะไร จากนั้นไม่นาน อนุทินก็ปิดฝากระโปรงรถแล้วเดินออกไป
อนุทินเดินออกมา มณทกานต์รีบหลบจนฝ่ายหนึ่งเดินผ่านไป มณทกานต์เดินเข้าไปในโรงรถ กวาดสายตามองไม่เห็นอะไรผิดสังเกต มณทกานต์เดินไปรอบๆก็ไม่พบเจออะไรจนมณทกานต์นึกสงสัย
“พี่เอมาทำอะไร”
เช้าวันใหม่ ที่โต๊ะอาหารในบ้าน พิพัฒน์ ธาวินและญาดากำลังกินอาหารกันอยู่
“ก็ดี ไปพักผ่อนซะบ้าง ตั้งแต่กลับมาแกยังไม่ได้ไปไหนเลยนี่แล้วจะไปกันกี่วัน” พิพัฒน์พูดขึ้น
“คงซักสามสี่วันน่ะครับ” ธาวินบอก
“ไปหลายๆวันก็ได้ ไม่ต้องห่วงปู่”
เจ๊อ้อยเอาอาหารเช้าไข่ดาวแฮมเข้ามาเสิร์ฟ ญาดาเหลือบสายตามอง เจ๊อ้อยยิ้มให้ ธาวินลอบมองทั้งสองคน เจ๊อ้อยเดินกลับเข้าไปในครัว ญาดามองตาม ธาวินแกล้งถาม
“ตาลจะเอาอะไรรึเปล่า”
“ว่าจะขอน้ำส้มน่ะค่ะ”
“เดี๋ยวผมไปเอาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตาลไปเอาเอง คุณปู่รับน้ำส้มมั้ยคะ”
“ไม่ล่ะ”
ญาดาลุกเดินเข้าไปในครัว ธาวินมองตามแต่ไม่ได้สงสัยอะไรมาก
ญาดาเดินเข้ามาในครัวแล้วเปิดตู้เย็นหยิบน้ำส้มเทใส่แก้ว กระซิบบอกเจ๊อ้อย
“หนูจะไม่อยู่สามสี่วันแม่อย่าก่อเรื่องนะ”
“ไปไหน”
“หัวหิน”
“ไปทำไม แม่บอกแล้วไงว่าให้หนีไปกับแม่”
“ก็บอกแล้วว่าขอเวลาหน่อย”
“แม่ว่าเอ็งจะหลงผู้ชายมากไปแล้วนะ”
“หนูไม่ได้หลง หนูบอกแล้วไงว่าหนูรักเค้า”
ธาวินเดินเข้ามาพอดีแล้วเรียก
“ตาล”
ญาดาสะดุ้งเล็กน้อยแล้วร้องตอบ
“ขา ...”
“ขอน้ำส้มให้ผมด้วยนะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวตาลเอาออกไปให้”
ธาวินมองหน้าเจ๊อ้อยที่ส่งยิ้มให้ ธาวินหันเดินออกไปแล้วหันกลับมาแกล้งถาม
“เอ๊ะ ผมเคยเจอน้าอ้อยที่ไหนมาก่อนรึเปล่า”
ทั้งญาดากับเจ๊อ้อยสะดุ้งขึ้นพร้อมกัน
“อุ๊ย ไม่เคยเจอหรอกค่ะ อ้อยเพิ่งมาจากต่างจังหวัด”
“หรือ แต่ผมว่าน้าอ้อยเนี่ยหน้าคุ้นๆมากเลยนะ”
ธาวินเพ่งมองจ้อง เจ๊อ้อยหลบสายตา ญาดารีบตัดบททันที
“ไม่คุ้นหรอกค่ะคุณภู ไปค่ะ ไปทานอาหารต่อเถอะจะได้รีบไปหัวหินกัน”
ญาดารีบดันให้ธาวินเดินออกจากห้องครัวไป
ญาดาหันกลับมาส่ายหน้าอย่างตำหนิว่าไม่ควรมาที่นี่ เจ๊อ้อยมองตามญาดาที่เดินออกไป
“หรือมันจะจำเราได้จริงๆ”
เจ๊อ้อยเอาผมมาปิดหน้าเพื่อแก้เครียด
บริเวณหน้าบ้านพิพัฒน์ในเวลาต่อมา ญาดากับธาวินเดินออกมาขึ้นรถ บุญทันขับออกไป
อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 35
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิมละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th