หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 37

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 37

มณทกานต์นั่งกวาดสายตาไปรอบตัว เหม่อลอยนั่งคิดเรื่องอนุทินที่คิดฆ่าภูบดีก็รู้สึกเสียใจ อนุทินเดินเข้าบ้านมาพอดี มณทกานต์เรียกไว้
“พี่เอ”
อนุทินหันมามองแล้วถาม
“มีอะไร”
มณทกานต์ลุกขึ้นยืนแล้วมองหน้า อนุทินรู้สึกแปลกใจกับท่าที
“แกเป็นอะไรมายืนจ้องหน้าชั้น จะพูดอะไรก็พูด”

“เมื่อคืนพี่เอไปทำอะไรที่โรงรถ”
อนุทินอึ้งไปชั่วครู่แล้วรีบกลบเกลื่อน
“แกพูดเรื่องอะไรของแก”
“พี่เอเป็นคนตัดสายเบรกรถพี่ภูใช่มั้ย”
“แกจะบ้าหรือ อยู่ๆมาพูดเรื่องอะไรกับชั้นเนี่ย ชั้นไม่รู้เรื่อง”
อนุทินรีบตัดไปด้วยการเดินจากไป แต่มณทกานต์ขวางไว้
“ไม่จริง เมย์รู้ว่าพี่เอเป็นคนทำ เพราะเมื่อคืนเมย์เห็นพี่เอเข้าไปในโรงรถยอมรับมาซะดีๆว่าพี่เอเป็นคนตัดสายเบรกรถพี่ภู”
อนุทินมองหน้ามณทกานต์ด้วยแววตาและสีหน้าโกรธที่รู้ความลับนี้
“แล้วทำไม ถ้าชั้นทำมันเกี่ยวอะไรกับแก”
มณทกานต์ตะลึง
“นี่พี่เอ ตั้งใจฆ่าพี่ภูจริงๆหรือ”
“แล้วแกจะบอกตำรวจหรือว่าบอกคุณปู่รึเปล่าล่ะ ว่าชั้นทำ”
“ทำไมพี่เอทำแบบนี้ พี่ภูพี่ตาลบุญทันเค้าไปทำอะไรให้”
“ทำสิ เพราะถ้าไม่มีไอ้ภูบดีพ่อเราก็ไม่ตาย สมบัติทั้งหมดก็ต้องเป็นของเรา”
“ชั้นไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นคนใจคอโหดร้ายแบบนี้”
“ที่ชั้นทำก็เพื่อแกกับชั้นนะ แกคิดดูให้ดี ถ้าไม่มีมันซะคน แกกับชั้นก็จะได้สมบัติของคุณปู่คนล่ะครึ่ง”
“ไม่จริง พี่เอทำเพื่อตัวเอง ชั้นไม่ได้อยากได้สมบัตินั่น ชั้นจะบอกคุณปู่ว่าพี่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
อนุทินกระชากแขนมณทกานต์ที่กำลังจะเดินไป
“อย่านะเมย์ แกอยากเห็นพี่มีจุดจบหมือนพ่อหรือไง”
มณทกานต์อึ้งมองจ้องหน้าอนุทิน
“ ถ้าแกรักพี่แกต้องไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”
“แต่ที่พี่ทำมันผิดนะ”
“ก็ได้ ถ้าแกอยากเห็นพี่ตายเหมือนพ่อ แกก็ไปบอกคุณปู่เลย”
อนุทินปล่อยแขน มณทกานต์มองอนุทินแล้วน้ำตาไหล
“ไปสิ แล้วก็กลับมารับศพพี่ด้วยแล้วกัน”
อนุทินมองหน้ามณทกานต์อย่างซื้อใจ มณทกานต์ส่ายหน้าแล้วร้องไห้สะอื้น
“ทำไมพี่ทำแบบนี้ ชั้นเกลียดพี่ ชั้นเกลียดพี่”
มณทกานต์วิ่งร้องไห้โฮวิ่งขึ้นชั้นบนไป อนุทินมองมณทกานต์แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก
บริเวณบ้านพักคนงานในเวลากลางคืน บุญทันนั่งอยู่บนเตียงครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงปริศนาในสายโทรศัพท์
“ถ้าแกไม่อยากตาย อย่ากลับมาเมืองไทย”
เสียงภาคินที่สั่งไว้
“ระวังตัว ปกป้อง ปู่ด้วย”
บริเวณริมถนน บุญทันยืนอยู่กับช่างซ่อมรถ ช่างซ่อมรถหยิบสายเบรกที่ขาดขึ้นมาดูแล้วบอก
“มีคนตัดสายเบรกแน่นอนครับ เพราะนี่ไม่ใช่สภาพเสื่อมจากการใช้รถ”
บุญทันมีข้อสรุปกับตัวเอง และพยายามคิด
“แสดงว่าคนที่ฆ่าลุงภาคินต้องไม่ใช่อาเอนก คนร้ายต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ ใครกันนะที่เป็นฆาตกร”
บุญทันยังมีสีหน้านั่งครุ่นคิดอยู่

เช้าวันใหม่ ภายในห้องนอน ปารมีกดโทรศัพท์และรอสัญญาณปลายสาย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สารวัตรสมยศอยู่ที่สถานีตำรวจเดินไปกดรับสาย
“คิดถึงผมแต่เช้าหรือไง ดาร์ลิ้ง”
“ชั้นอยากรู้ว่าคุณยังจะทำงานให้ชั้นอยู่รึเปล่า” ปารมีถาม
“ทำสิจ๊ะ ทำไมถามอย่างงั้นล่ะ ตอนนี้ผมเตรียมแผนเรียบร้อยหมดแล้ว ตั้งใจจะโทรบอกคุณอยู่พอดี”
“งั้นว่ามาเลย แผนคุณเป็นยังไง”
ปารมีไม่ทันสังเกต นภาเปิดประตูอย่างเงียบๆเข้ามายืนฟังอยู่
สมยศบอกปารมีมาตามสายว่า
“เอาไว้ออกมาคุยกันข้างนอกได้มั้ย”
“ได้ งั้นวันนี้เจอกัน”
“วันนี้คงไม่ได้เพราะผมมีงานยุ่งทั้งวัน เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ดีกว่า”
“คุณนี่มันเรื่องเยอะจริง ๆ คิดว่าชั้นต้องพึ่งใช่มั้ย ถึงเล่นตัว”
“คุณนี่คิดมากอีกแล้ว ผมมีงานจริง ๆ พรุ่งนี้เที่ยงเจอกัน”
“ก็ได้ หวังว่าแผนของคุณจะเพอร์เฟคนะ”
นภาเงี่ยหูฟังอย่างสงสัย
“รับรองมรดกพันล้านต้องเป็นของเราสองคนแน่”
ปารมีวางโทรศัพท์แล้วหันมาเห็นนภายืนอยู่ในห้องก็สะดุ้ง
“อ้าว แม่ เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อนล่ะคะ”
“ลูกคุยกับใคร” ปารมีถาม
“เพื่อนน่ะค่ะ”
“แต่แม่ได้ยินลูกพูดว่ามีแผน ลูกพูดเรื่องอะไร”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ เพื่อนปาเค้าวางแผนจะทำประกันชีวิตน่ะค่ะ”
“ลูกไม่ได้คิดที่จะทำอะไรไม่ดีใช่มั้ย” นภาถามย้ำ
“ทำไมแม่ถามอย่างงั้นล่ะคะ”
“แม่ไม่อยากให้ลูกคิดทำอะไรผิดๆ เพราะที่ผ่านมาแม่เองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรนัก แม่ไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่ทุกข์ตรมเหมือนกับแม่”
“ค่ะ แม่ไม่ต้องห่วง ปาจะไม่ทำให้ชีวิตตัวเองต้องเจ็บปวดแน่” ปารมีบอก
นภาพยักหน้าอย่างพอใจ
“แล้วที่เมื่อวานลูกบอกแม่ว่าจะมีข่าวดี ข่าวดีอะไรบอกได้รึยัง”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ปาคิดว่าปาจะถูกหวยแต่ไม่ถูก”
“โธ่เอ๊ย แม่ก็นึกว่าเรื่องอะไร”
“ปาขอตัวอาบน้ำก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
ปารมีวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป นภาเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ของปารมีมาดูเบอร์ล่าสุด ปารมีใช้รหัสเบอร์ของสมยศว่า SY นภาสงสัยในใจมีคำถาม
“ใคร”

ภายในห้องนอนส่วนตัว นภาเดินเข้ามาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นกดเบอร์ด้วยความอยากรู้สารวัตรสมยศนั่งทำงานอยู่ เสียงมือถือดังขึ้น สารวัตรมองดู แม้จะเป็นเบอร์ไม่คุ้นเคยแต่กดรับ
“ฮัลโหล”
“ขอโทษค่ะนั่นเบอร์ใครไม่ทราบคะ”
“ผมสารวัตรสมยศครับ”
นภาชะงักไปเล็กน้อย
“ขอโทษค่ะ ต่อผิดค่ะ นี่ยัยปาไปเป็นเพื่อนกับสารวัตรสมยศตั้งแต่เมื่อไหร่”
นภาวางสายไปด้วยความแปลกใจ

ภายในโรงครัว มะยมถือกล่องกับข้าวเดินเข้ามาที่ครัว
“อ้าว มะยม เอากับข้าวกลับมาทำไม” ต้นหอมถาม
“เมื่อคืนคุณเมย์กับคุณเอไม่ได้กินข้าว”
“ทำไมล่ะ ออกไปทานข้างนอกหรือ”
“คุณเอน่ะออกไปตอนมืด แต่คุณเมย์ไม่กินอะไรเลยแล้วก็ไม่ออกมาจากห้องตั้งแต่เย็น ปกติเช้านี้ต้องลงมากินกาแฟ แต่วันนี้ก็ไม่ลงมา” มะยมว่า
“ฆ่าตัวตายอีกรึเปล่า” ต้นหอมถาม
“เอ็งนี่ปากเสียจริงๆ แล้วเอ็งไปเรียกรึยัง”
“เรียกแล้วแต่แกบอกว่าไม่หิว” มะยมบอก
บุญทันเดินเข้ามาพอดี
“งั้นก็ให้พี่บุญทันไปดูสิ” ต้นหอมบอก
“จับกลุ่มเม้าท์อะไรกันแต่เช้า” บุญทันถาม
“เม้าท์อะไรล่ะ กำลังพูดเรื่องคุณหนูเมย์ เอ็งไปดูหน่อยซิ มะยมมันบอกว่าไม่กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเย็น”
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
“ไม่รู้ว่าทะเลาะกับคุณเอรึเปล่าเพราะเมื่อวานตอนบ่ายหนูไม่อยู่บ้าน เมื่อคืนคุณเอก็ไม่กลับบ้านด้วย” มะยมบอก
“เดี๋ยวชั้นไปดูเอง”
บุญทันเดินออกไป
“สงสารคุณเมย์นะ แกคงยังไม่หายเสียใจเรื่องคุณเอนก” มะยมพูด
“แต่ชั้นอิจฉาคุณเมย์มากกว่า ทำไมน้อถึงไม่มีใครมารักชั้นเหมือนพี่ทันรักคุณเมย์บ้าง”
มะยมกับป้านวลมองหน้ากันแล้วส่ายหน้า

บุญทันเดินขึ้นบันไดมาเคาะประตูห้องมณทกานต์ที่กำลังนั่งเหม่อลอยคิดถึงเรื่องที่เอนกและอนุทินที่ต้องการฆ่าภูบดีอยู่ในห้อง
เสียงมณทกานต์ดังขึ้น
“มีอะไรอีกมะยมก็บอกว่าไม่กินไง”
“ผมบุญทันครับคุณเมย์ คุณเมย์ไม่สบายรึเปล่า เปิดประตูออกมาคุยกับผมหน่อยได้มั้ยครับ”
เมื่อมณทกานต์ได้ยินเสียงบุญทันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจกับเรื่องของเอนกและอนุทิน
“ชั้นไม่มีอะไรจะคุย นายกลับไปเถอะ”
“โกรธอะไรผมหรือครับ” บุญทันถาม
“เปล่า ไม่มีอะไร ชั้นไม่อยากคุยกับใคร”
“ถ้างั้นก็ออกมาทานอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“บอกว่าไม่กินไงจะไปไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับชั้น” มณทกานต์น้ำเสียงหงุดหงิดรำคาญ
“คุณเมย์”
บุญทันเคาะประตูเรียกอีก มณทกานต์เดินมาเปิดประตูออกมาอย่างรำคาญ
“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง”
“รู้เรื่องครับแต่ผมเป็นห่วงคุณ”
“ชั้นไม่ได้เป็นอะไร แค่อยากอยู่คนเดียว”
“นั่นแหละครับที่ผมเป็นห่วง”
“นายไม่ต้องมาห่วงชั้น ชั้นไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่นายคิดกลับไปเถอะ”
มณทกานต์จะดึงประตูปิดแต่บุญทันเอามือดันไว้
“เดี๋ยว คุณเมย์”
“ชั้นบอกให้กลับไป”
“คุณเมย์ เรากำลังจะแต่งงานกันนะ คุณเป็นอะไรทำไมไม่บอกผม”
มณทกานต์มองหน้าบุญทันแล้วจะร้องไห้
“ชั้นไม่แต่งกับนายแล้ว นายกลับไปซะ”
มณทกานต์ผลักบุญทันแล้วดึงกระชากประตูปิด บุญทันเคาะประตูเรียกซ้ำ
“คุณเมย์ ผมว่าเราต้องคุยกันนะ คุณเมย์”
มณทกานต์ยืนพิงประตูร้องไห้
“ชั้นบอกให้กลับไป อย่ามายุ่งกับชั้น ฮือ ฮือ ฮือ”
มณทกานต์รูดตัวลงพิงประตูแล้วร้องไห้
บุญทันอดแปลกใจไม่ได้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

มณทกานต์เดินเข้ามาในห้องน้ำ มองกระจกแล้วน้ำตาไหลรินพลางนึกถึงเรื่องราวที่ตำรวจเข้ามาที่บ้านแล้วบอก
“คุณเอนกสั่งฆ่าคุณภูบดี”
“อะไรนะ สั่งฆ่าพี่ภู”
และคำพูดของอนุทินที่ยอมรับ
“นี่พี่เอ ตั้งใจฆ่าพี่ภูจริงๆหรือ”
“แล้วแกจะบอกตำรวจหรือบอกคุณปู่รึเปล่าล่ะว่าชั้นทำ”
“ทำไมพี่เอทำแบบนี้ พี่ภูพี่ตาลบุญทันเค้าไปทำอะไรให้”
“ทำสิ เพราะถ้าไม่มีไอ้ภูบดีพ่อเราก็ไม่ตาย สมบัติทั้งหมดก็ต้องเป็นของเรา”
“ชั้นไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นคนใจคอโหดร้ายแบบนี้”
มณทกานต์เจ็บปวดรวดร้าวใจเกินกว่าจะรับเรื่องใดๆได้อีกต่อไปจึงฉวยหยิบคัตเตอร์ขึ้นรีดใบมีดขึ้นมาดู
“เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง ในเมื่อพ่อก็ฆ่าคน พี่ก็ฆ่าคน เราจะมองหน้าใครได้ยังไง”
บริเวณหน้าประตูห้อง บุญทันตัดสินใจกระแทกประตูห้องเข้ามา
ภายในห้องน้ำ มณทกานต์ยกมีดคัตเตอร์ขึ้นจะปาดคอตัวเอง บุญทันวิ่งพรวดเข้ามาเห็นพอดี
“คุณเมย์”
บุญทันกระโดดคว้ามือ มณทกานต์สะบัดมือ คัตเตอร์ปาดเข้าที่แขนบุญทัน
“โอ๊ย”
“ออกไปซะอย่ามายุ่งกับชั้น”
“ผมไม่ไป นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงคิดฆ่าตัวตายขึ้นมาอีก”
“ชั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”
“ไม่เอาน่ะ คุณเมย์ เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไง แล้วคุณก็ตกลงจะแต่งงานกับผม เราจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน คุณไม่ต้องสนใจพี่ชายคุณอีก”
“ไม่ ชั้นไม่แต่งกับนาย ครอบครัวชั้นเป็นคนไม่ดี นายไปซะอย่ามายุ่งกับชั้นเลย ชั้นไม่ดีพอสำหรับนาย ไปสิ ออกไป”

“ผมบอกแล้วไงว่าผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมรักคุณ ผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายตัวเองอีก ขอคัตเตอร์ให้ผม”
บุญทันเดินเข้ามาหา มณทกานต์ส่ายหน้าร้องไห้บอก
“ไม่ อย่าเข้ามานะ ถ้านายเข้ามาชั้นจะปาดคอตัวเองเดี๋ยวนี้”
“ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ คุณไม่รักผมเลยหรือ ไม่คิดบ้างหรือว่าผมจะเสียใจแค่ไหนถ้าคุณเป็นอะไรไป”
มณทกานต์ร้องไห้อย่างอัดอั้นตันใจ บุญทันบอก
“ขอคัตเตอร์ให้ผมเถอะนะ อย่าทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้เลย”
มณทกานต์ร้องไห้สะอึกสะอื้นลดมือลง บุญทันเดินเข้ามาดึงคัตเตอร์ออกจากมือแล้วดึงมณทกานต์เข้ามากอดไว้แน่น

ที่บริเวณริมทะเลหน้าชายหาดโรงแรมที่พัก คลื่นชายหาดวิ่งไล่กระทบฝั่ง ธาวินนอนอยู่บนเตียงผ้าใบด้วยสีหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องที่บุญทันโทรศัพท์มาบอกว่า
“ช่างที่ซ่อมรถบอกว่ามีคนตัดสายเบรกจริง ๆ”
ตอนที่บุญทันโทร.มา ธาวินอยู่ในชุดเสื้อคลุมกำลังพูดโทรศัพท์อยู่ในห้องน้ำในห้องพักของโรงแรมริมทะเล
“หมายความว่ามีคนต้องการให้เราตายงั้นหรือ”
“ใช่ คนร้ายต้องอยู่ในบ้าน”
“แล้วอาเอนกล่ะ”
“ชั้นคิดว่าอาเอนกไม่ใช่คนร้ายที่ฆ่าลุงภาคินหรอก” บุญทันบอก

ธาวินบนเตียงผ้าใบริมทะเลถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเครียด
“ใครกันนะที่อยากให้เราตาย”
ญาดาเดินถือมะพร้าวสองลูกที่เฉาะแล้วเข้ามานั่งลงที่เตียงผ้าใบข้างๆ
“มะพร้าวน้ำหอมค่ะ หวานเจี๊ยบเลย”
“ขอบใจจ้ะ”
ธาวินรับมะพร้าวไปดูดน้ำด้วยแววตายังครุ่นคิดกับเรื่องที่คุยกับบุญทัน ญาดาเหลือบมองอย่างสงสัย

“คิดเรื่องที่รถเบรกแตกหรือคะ” ญาดาถาม
“อ๋อ เปล่าจ้ะ กำลังคิดว่าเย็นนี้เราจะไปทานอะไรกันดี”
“คุณภูอย่ามาโกหก ตาลรู้ว่าคุณภูกำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น”
ญาดามองอย่างจับผิด
“ก็คิดนิดหน่อยน่ะ ผมกำลังสงสัยว่ารถมันเป็นอะไร”
“แล้วบุญทันยังไม่โทรมาบอกอีกหรือคะว่าช่างเค้าว่าไง”
“ยังเลยจ้ะ ตอนนี้เค้าเอารถเข้าศูนย์ อีกสองสามวันคงรู้”
“ตาลถามหน่อยสิคะ คุณภูกับบุญทันไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแน่หรือคะ”
“ผมจะไปรู้จักมันได้ไง ผมเพิ่งมาจากอเมริกานะ”
ญาดาจ้องหน้าจับผิด ธาวินขำกลบเกลื่อน
“จ้องผมทำไม”
“ก็ดูว่าคุณภูพูดจริงรึเปล่า”
“จริง ผมไม่เคยรู้จักมันหรือถ้าผมรู้จักมันผมก็จำมันไม่ได้อยู่ดี ลืมไปแล้วหรือว่าผมสมองเสื่อม”
“อืมม์ ก็จริงของคุณภู”
ขณะนั้น ฝรั่งชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาทัก
“เฮ้ วิน”
ธาวินหันไปมองแล้วยิ้มอย่างดีใจ
“เฮ้ ไซม่อน ชารอน”
ไซม่อนเข้ามากอดธาวิน ญาดามองอย่างงงๆ ธาวินผละจากไซม่อนเข้าไปกอดชารอน
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอกันที่นี่” ไซม่อนบอก
“ผมกลับมาเยี่ยมบ้านน่ะ”
ธาวินหันมามองญาดาแล้วแนะนำ
“นี่ภรรยาผม ตาล”
ชารอนยื่นมือให้ญาดาจับ
“ดีใจที่ได้รู้จักค่ะ” ชารอนบอก
ญาดายิ้มให้ ไซม่อนจับมือญาดา
“มาอยู่เมืองไทยกี่วัน” ธาวินถาม
“สามวีค แต่อยู่หัวหินสามวัน พรุ่งนี้จะไปเชียงใหม่” ไซม่อนบอก
“งั้นเย็นนี้กินข้าวกันมั้ย” ธาวินถาม

“ได้เลย ที่ไหนดี” ไซม่อนถาม
“ร้านอาหารโรงแรมแล้วกัน”
“โอเค งั้นทุ่มนึงเจอกัน”
ชารอนหันมาบอกญาดา
“แล้วเจอกัน”
ไซม่อนกับชารอนเดินออก ญาดามองอย่างสงสัย
“ใครหรือคะ”
“เพื่อนผมที่อเมริกาเค้ามาเที่ยวเมืองไทย” ธาวินบอก
“ตาลได้ยินเค้าเรียกคุณว่าวิน”
ธาวินชะงักแล้วบอก
“อ๋อ เป็นนิคเนมผมที่เพื่อนๆชอบเรียกกันน่ะ”
ญาดาพยักหน้ารับรู้แบบไม่ได้ติดใจอะไร ธาวินยิ้มให้แล้วบอก
“เย็นนี้ตาลต้องไปด้วยนะ”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวผมลงเล่นน้ำหน่อยดีกว่า มาทะเลทั้งที ตาลลงมั้ย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
ธาวินถอดเสื้อแล้วเดินลงไปที่ชายหาด ญาดามองตามก็ชะงัก เอะใจ และใจหายวาบ
“เอ๊ะ .ทำไมคุณภูถึงจำเพื่อนได้ หรือว่าเค้าจำทุกอย่างได้แล้ว”
ญาดานึกถึงภาพที่ธาวินกอดกับไซม่อนแล้วหันมากอดชารอน
“ใช่ เค้าต้องจำทุกอย่างได้แน่ๆ”
ญาดาเห็นธาวินเดินลงทะเล ญาดารีบลุกขึ้นจากเตียงผ้าใบทันที
“อยู่ไม่ได้แล้วเรา”
ญาดาลุกเดินออกไปอย่างเร็ว

ธาวินมองจากชายหาดไปที่เตียงผ้าใบ ไม่มีญาดานั่งอยู่
“อ้าว ตาลไปไหนแล้ว”
ธาวินมองหาอยู่ครู่หนึ่งก็นึกขึ้นได้
“ใครหรือคะ”

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 37

ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th