หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 42

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 42

“ตาลอยู่ไหน นี่จะได้เวลาไปงานศพแล้วนะ”
“ค่ะค่ะ เดี๋ยวตาลจะขึ้นไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้”
นภายืนมองปารมีมัดมือ มัดเท้าศพของเจ๊อ้อยแล้วลากศพใส่กระเป๋าอย่างจิตตก เมื่อปารมีรูดซิปปิดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็หันมาบอกนภา

“เรียบร้อย เดี๋ยวคืนนี้ปาจะเอาไปทิ้งในแม่น้ำเอง”
“ปา”
“คะ”
“ลูกไม่ได้ตั้งใจฆ่านังอ้อยใช่มั้ย” นภาถาม
“เปล่าค่ะ ปาตั้งใจ”
นภาจับตัวปารมี
“ไม่จริง ลูกของแม่ไม่ใช่คนอำมหิตเลือดเย็นแบบนี้ บอกแม่สิว่าลูกไม่ได้ตั้งใจ ลูกไม่ได้คิดที่จะฆ่ามัน บอกแม่สิปา”
“แม่คะ หนูจะไม่โกหกแม่อีกต่อไปแล้ว หนูจะบอกให้แม่รู้ว่า หนูจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเราหนูจะฆ่าทุกคนที่มันคิดขวางทางเรา”
นภาตะลึงนิ่งอึ้ง
“ ไม่ ไม่จริง ลูกของชั้นไม่ใช่คนใจร้าย ลูกของชั้นเป็นคนดี แกไม่ใช่ลูกชั้น”
“แม่ แม่ต้องสงบสติอารมณ์นะ”
“ไม่ แกไม่ใช่ลูกชั้น แกไม่ใช่ลูกชั้น”
นภาหวีดร้องดึงทึ้งผมตัวเองอาการประสาทกำเริบ ปารมีเข้าไปยื้อยุด
ต้นหอมได้ยินเสียงกรีดร้องก็วิ่งเข้ามาในบ้านนภาแล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน ต้นหอมเคาะประตูห้อง ปารมีเปิดออกมา เสียงนภาร้องไห้สะอื้น
“มีอะไร”
“หนูได้ยินเสียงคุณนภาร้อง เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไร แม่เค้าลืมกินยา แกกลับไปได้แล้ว”
“หนูจะมาทำบ้านแทนน้าอ้อยน่ะค่ะ ไม่รู้แกหายไปไหน”
“ไม่ต้องทำ วันนี้แม่ชั้นไม่ค่อยสบาย กลับไปก่อน”
“ค่ะ”
ปารมีปิดประตูลงอย่างเดิม ต้นหอมมองแวบหนึ่งแล้วก็เดินกลับไป
ภายในห้อง นภายังนั่งร้องไห้พึมพำ
“แกไม่ใช่ลูกชั้น แกมันอำมหิต แกไม่ใช่ลูกชั้น .. ฮือ ฮือ”
ปารมีมองแม่แล้วส่ายหน้าก่อนจะลากกระเป๋าใส่ศพออกไปจากห้องไปปล่อยให้นภาร้องไห้อยู่คนเดียว
ภายในศาลาสวดศพ ธาวิน ญาดา มณทกานต์ บุญทันนั่งฟังพระสวดอยู่ ส่วนแขกเหรื่อนั่งอยู่ด้านหลังถัดไป ญาดานั่งครุ่นคิดถึงแม่อย่างเป็นกังวล
“เอ๊ะ นังนี่ เห็นแม่เป็นคนยังไง ที่แม่เข้ามาที่นี่ก็เพราะว่าแม่เป็นห่วงเอ็งนะ กลัวว่าเอ็งจะมีอันตราย เห็นมั้ยเพราะเอ็งไม่บอกความจริงแม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเอ็งถึงโดนยิง”
“หนูขอร้องล่ะแม่อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งไปกว่านี้เลย”
“ก็ได้ แม่จะไป แต่เอ็งต้องไปกับแม่”
“หนูยังไปตอนนี้ไม่ได้ ขอเวลาหนูหน่อย”
“งั้นแม่ก็ไม่ไป ให้เวลาแม่หน่อย”
ญาดายิ่งคิดก็ยิ่งกังวลได้แต่ถอนใจ ธาวินเหลือบมองอย่างสังเกตแล้วกระซิบถาม
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
ญาดาฝืนยิ้ม ธาวินพยักหน้ารับรู้
มณทกานต์มองรูปอนุทินแล้วน้ำตาไหลริน บุญทันเหลือบมองก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งให้
“ขอบคุณ”
บุญทันมองอย่างห่วงใย
พระสวดเสร็จไปหนึ่งจบ ญาดากระซิบบอกธาวิน
“ตาลไปเข้าห้องน้ำนะคะ”
“ผมไปเป็นเพื่อนมั้ย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
ญาดาลุกเดินออกไป ธาวินมองตามแล้วหันกลับมาฟังพระสวดต่อ
มีสายตาของใครบางคนมองตามญาดาไป
ญาดาเดินออกมากดโทรศัพท์หาเจ๊อ้อยแต่ไม่มีสัญญาณเหมือนเดิม ญาดาเลี้ยวเข้าห้องน้ำไป ใครคนนั้นเดินตามหลังมาแล้วหยุดรออยู่
พระเริ่มสวดจบที่สองบนศาลา
ญาดาเดินออกจากห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์ออกมากดหาแม่อีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนเดิม
“หรือว่าแม่จะเป็นอะไร”
ญาดาเดินเลี้ยวออกมาก็ชะงัก คนร้ายคนหนึ่งก้าวออกมาขวางทางแล้วจ้องมองเขม็ง ญาดาขยับถอยหลัง คนร้ายอีกคนก้าวมาทางด้านหลังแล้วเอาผ้าโปะยาสลบปิดเข้าที่จมูกญาดาที่พยายามดิ้นสู้อยู่ครู่หนึ่งก่อนหมดสติไป คนร้ายพยุงญาดาออกไป

ภายในศาลา เจ้าหน้าที่เดินแจกกาแฟให้ธาวินกับมณทกานต์และบุญทัน
“ทำไมตาลไปห้องน้ำนานจัง” ธาวินพูดขึ้น
“เดี๋ยวเมย์ไปดูให้ค่ะ เมย์จะไปเข้าห้องน้ำด้วย”
บุญทันมองตามมณทกานต์ที่เดินออกไป
“ท่าทางน้องเมย์จะเข้มแข็งขึ้นกว่าตอนที่พ่อตายนะ” ธาวินบอก
“ก็คงทำใจได้เยอะแล้ว”
“ชีวิตคนเรามันเอาแน่ไม่ได้จริงๆนะ เพิ่งเห็นหน้ากันแท้ๆบทจะตายก็ตายง่ายๆ”
“เค้าถึงบอกว่าอย่าประมาทกับชีวิตไง” บุญทันว่า
ธาวินพยักหน้าอย่างเห็นด้วยยกกาแฟขึ้นดื่ม
มณทกานต์เดินเลี้ยวมุมตึกเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ คนร้ายที่ยืนดักรออยู่ก็จ่อปืนแล้วบอก
“อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากตาย”
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
คนร้ายอีกคนเข้ามาล็อกตัวไว้แล้วเอาปืนจ่อที่หลัง
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น เดินไป”
คนร้ายทำเนียนด้วยการเอาปืนจ่อที่หลัง อีกมือโอบเอว แม้มณทกานต์จะพยายามมองเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่เดินสวนมา แต่คนร้ายก็กระทุ้งปืนที่หลังมณทกานต์จนสะดุ้งแล้วเตือนว่า
“อยากตายหรือไง เดินไปเฉยๆ”

ธาวินชะเง้อมองจากศาลาไปด้านนอกแล้วหันไปคุยกับบุญทัน
“ทำไมตาลกับน้องเมย์หายไปทั้งคู่เลย”
“นั่นสิ เป็นอะไรรึเปล่า ชั้นว่าไปดูหน่อยดีกว่า” บุญทันว่า
ทั้งธาวินและบุญทันลุกเดินออกไป

บริเวณหน้าห้องน้ำ ธาวินกับบุญทันมองชะเง้อหา
“ตาล น้องเมย์” ธาวินเรียก บุญทันเรียกซ้ำ
“คุณเมย์ คุณตาล”
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องถาม ธาวินถาม
“โทษนะครับในห้องน้ำมีผู้หญิงคนอื่นอยู่มั้ยครับ”
“ไม่มีค่ะ”
ธาวินกับบุญทันมองหน้ากัน
“แล้วเค้าไปไหนกัน” บุญทันว่า
“แกลองโทรหาน้องเมย์ซิ” ธาวินบอก บุญทันกดหามณทกานต์
“ไม่รับว่ะ”
ธาวินกดโทรศัพท์หาญาดา
“ตาลก็ไม่รับเหมือนกัน”
“หรือจะมีอะไรไม่ดี” บุณทันเริ่มรู้สึกผิดสังเกต
“ไม่หรอกน่ะ ชั้นว่าเราแยกกันเดินหาดีกว่า เค้าอาจจะเจอเพื่อนหรือเจอใครก็ได้เลยแวะคุย” ธาวินว่า
บุญทันพยักหน้า ทั้งสองคนเดินแยกกันออกไปคนละทาง
ธาวินเดินออกมาพลางกวาดตามองรอบบริเวณวัดไม่เห็นใคร คนร้ายคนหนึ่งถือปืนจ่อธาวินพร้อมขมขู่

“อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากตาย”
“ใจเย็นลูกพี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน” ธาวินบอก
คนร้ายอีกคนเดินถือปืนเข้ามาปิดทางแล้วสั่งพร้อมกับเอาปืนจ่อ
“เอามือไว้บนหัว”
“นี่จะปล้นผมหรือ” ธาวินถาม
“กูบอกให้เอามือไว้บนหัว” คนร้ายคนแรกบอก
“ครับ ๆ”
ธาวินยกมือวางบนหัว คนร้ายอีกคนเข้ามาค้นตามตัวแล้วหันไปบอกคนร้ายคนแรก
“ไม่มีอะไร”
คนร้ายคนแรกสั่ง
“เอาตัวมันไป”
คนร้ายคนที่สองจับมือธาวินจะบิดไพล่หลัง ธาวินสะบัดศอกกระแทกใส่หน้าคนร้ายจนเสียหลัก
คนร้ายคนแรกยกปืนยิง ธาวินกระโดดหลบ คนร้ายไล่ยิง ธาวินวิ่งหนี บุญทันวิ่งโผล่เข้ามาพร้อมปืนยิงใส่จนคนร้ายคนแรกหลบไป คนร้ายอีกคนคว้าปืนจะยิงใส่บุญทัน บุญทันยิงสวน คนร้ายคนที่สองหลบไป ตำรวจ สองนายวิ่งเข้ามาพร้อมอาวุธ คนร้ายคนแรกสั่งอีกคน
“ไปก่อนเร็ว”
ตำรวจวิ่งมาหาบุญทันแล้วบอก
“ทิ้งปืน”
บุญทันยกมือขึ้นพร้อมปืน
“ผมป้องกันตัวเองครับ คนร้ายมันจะยิงเพื่อนผม”
“วางปืนลง” ตำรวจสั่ง
บุญทันวางปืนลงกับพื้น ธาวินวิ่งเข้ามาหาแล้วบอก
“ใช่ครับ คนร้ายมันจะยิงผม รีบตามมันไปเถอะครับ”
ตำรวจคนแรกสั่ง
“ตามคนร้ายไป สั่งสกัดจับด้วยทางนี้ผมจัดการเอง”
ตำรวจคนที่สองวิ่งออกไป
“มีเรื่องอะไรกัน” นายตำรวจถาม
“ผมก็ไม่ทราบครับ ผมออกมาตามหาแฟน อยู่ๆมันก็เอาปืนมาจ่อผม”
“แล้วแฟนคุณอยู่ไหน”
“ผมยังไม่เจอเธอเลย” ธาวินบอก
บุญทันมองหน้าธาวินรูสึกถึงกลิ่นอายเลือดอีกครั้ง

สารวัตรสมยศนั่งภายในรถตู้ มองญาดาและมณทกานต์นอนสลบไม่ได้สติแล้วกดโทรศัพท์หาปารมีทันที
“ว่าไง” ปารมีพูดขึ้น
“ผมได้ตัวผู้หญิงสองคนแล้ว แต่ไอ้ภูบดีมันรอดไปได้”
“ไม่เป็นไร ไอ้ภูบดีไว้จัดการทีหลังได้ นังผู้หญิงสองคนนั่นชั้นยกให้คุณ หลังจากได้เงินค่าไถ่แล้ว ฆ่ามันทิ้งซะ”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
สารวัตรสมยศกดวางสายไป ปารมียิ้มกระหยิ่ม นภาในชุดนอนที่ยืนฟังอยู่ทางด้านหลัง ปารมีหันขวับมา
“แม่”
“แกคิดจะทำอะไร ผู้หญิงสองคนหมายถึงใคร”
“แม่ไม่ต้องรู้หรอก”
“ไม่นะปา ชั้นไม่ยอมให้แกทำเรื่องเลวๆแบบนี้ บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้ว่าแกสั่งให้ใครไปฆ่าใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับภูบดี”
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับแม่นะคะ”
“เกี่ยวสิเพราะชั้นเป็นแม่แก แกต้องบอกชั้นมาเดี๋ยวนี้ว่าแกคิดจะทำอะไร”
“ก็ได้ค่ะ ถ้าแม่อยากรู้ หนูสั่งให้คนไปฆ่านังตาลกับนังเมย์”
“อะไรนะ”
“แล้วหนูก็จะฆ่าไอ้ภูบดีด้วย”
นภาตบปารมี
“นี่แกบ้าใหญ่แล้ว แกรู้ตัวรึเปล่าว่าแกพูดอะไร”
“หนูไม่ได้บ้าหรอกค่ะแม่ แม่บอกหนูเองไม่ใช่หรือคะว่า สมบัติทุกอย่างของคุณปู่มันควรจะเป็นของเรา ถ้าไม่มีไอ้ภูบดีซักคน หนูก็จะได้ครอบครองบ้านวริทธิวรนันท์”
“ชั้นก็แค่พูดบ่นไปตามประสา ไม่ได้คิดที่จะให้แกไปฆ่าใคร”
“แต่แม่พูดกรอกหูหนูทุกวันตั้งแต่หนูยังเด็ก จนหนูจำได้ขึ้นใจว่าบ้านวริทธิวรนันท์จะต้องเป็นของเรา สมบัติทุกชิ้นจะต้องเป็นของหนู แม่จำไม่ได้หรือคะ”
ปารมีย้อนนภาจนอึ้งและสลดไปเพราะรู้สึกผิด
“แม่ไม่ได้ตั้งใจ แม่ขอโทษ ที่แม่พูดไปก็เพราะน้อยใจชีวิตตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลูกผูกใจเจ็บใคร อย่าทำแบบนี้เลยนะลูก ยุติทุกอย่างซะ”
“ไม่ค่ะ หนูเดินหน้ามาไกลแล้ว หนูจะไม่มีวันถอยหลัง”
“ปารมี แม่ขอร้อง อย่าถลำลึกไปกว่านี้เลย ถ้าตำรวจจับได้ลูกจะต้องติดคุกไปจนวันตายนะ”
“ไม่ค่ะ ตำรวจไม่มีทางจับหนูได้หรอก ถ้าแม่ไม่บอก”
“ปารมี”
“ที่หนูทำทุกอย่างก็เพื่อเราสองคนนะคะแม่ หนูเบื่อเต็มทีแล้วที่ต้องก้มหัวทำตัวลีบต่อหน้าทุกคน ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวพราะเราเป็นแค่ผู้อาศัย ถ้าไม่มีไอ้ภูบดีกับเมียมันแล้วก็นังเมย์ บ้านวริทธิวรนันท์ก็จะเป็นของเรา มันจะเป็นของเรานะแม่”
นภาน้ำตาไหลรินมองปารมีอย่างเสียใจแล้วคว้ามือปารมี
“ไม่นะปา แม่จะไม่ยอมให้ลูกทำผิดอีกแล้ว แค่ลูกฆ่านังอ้อยหัวใจแม่ก็แทบแตกสลาย อย่าทำเรื่องเลวร้ายอีกเลยนะลูก แม่ขอร้อง นะลูกนะ หยุดทุกอย่างแค่นี้ แล้วเราไปบอกคุณปู่ว่าเราทำอะไรลงไป”
ปารมีแกะมือนภาออก
“นี่แม่พูดอะไรของแม่ หนูฆ่านังอ้อยก็เพื่อแม่ หนูทำทุกอย่างเพื่อชดเชยชีวิตที่ขาดไปของแม่ หนูกำลังทำความฝันของแม่ให้เป็นความจริง”
“แต่แม่ไม่ต้องการ แม่ไม่อยากได้มันแล้ว แม่อยากได้ลูกของแม่คืนมา แม่อยากได้ลูกที่น่ารัก ลูกสาวที่เป็นคนดีของแม่คืนมา” นภาพูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
ปารมีจับตัวแม่เพื่อเรียกสติ
“แม่คะ แม่ต้องตื่นได้แล้วล่ะค่ะเพราะลูกสาวคนนั้นไม่เคยมีอยู่จริง”
นภาน้ำตาไหลรินมองหน้าปารมีที่แววตานิ่ง ปารมีปล่อยแขนนภาแล้วเดินออก นภาทรุดลงร้องไห้สะอื้นปานขาดใจ ปารมีบอกตัวเอง
“ไม่มีใครมาหยุดยั้งชั้นได้ ทุกอย่างต้องเป็นของชั้น”

ยามเช้าที่บ้านวริทธิวรนันท์ พิพัฒน์นั่งตกตะลึงกับเรื่องของญาดากับมณทกานต์
“ว่าไงนะ หนูตาลกับยัยเมย์หายไปงั้นหรือ”
“ครับ” ธาวินขานรับ
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อวานตอนงานศพครับ” ธาวินบอก
“แล้วทำไมไม่มีใครบอกชั้น”
“พวกเราไม่อยากให้ท่านตกใจครับก็เลยให้ตำรวจออกติดตาม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เบาะแสอะไร” บุญทันบอก
พิพัฒน์หันมองหน้าบุญทัน
“ดี มีอะไรจะปิดบังก็ปิดให้หมดนะ”
บุญทันชะงักมองหน้าธาวิน
“คุณปู่หมายถึงอะไรครับ” ธาวินถาม
“ก็แกสองคนมีอะไรปิดบังชั้นล่ะ”
ธาวินกับบุญทันมองหน้ากันไม่แน่ใจว่าพิพัฒน์รู้เรื่องการสลับตัว ปรารถเข้ามาพอดี
“สวัสดีครับท่าน”
“ปรารภ นี่คุณรู้เรื่องกับเค้ารึยังว่าหนูตาลกับยัยเมย์หายไป”
“ผมทราบแล้วครับ”
“สรุปว่ามีชั้นคนเดียวที่เป็นตาแก่นอนหลับอยู่ในบ้านไม่รู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย”
“ไม่ใช่ครับคุณปู่ อย่างที่บุญทันบอก เราไม่อยากให้คุณปู่ตกใจ” ธาวินบอก
“แล้วไง ตอนนี้ชั้นไม่ตกใจเลยหรือ ที่พวกแกยังหาตัวหนูตาลกับยัยเมย์ไม่เจอ”
“ผมว่าท่านใจเย็นก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้ตำรวจกำลังออกตามหาข่าวอยู่” ปรารภว่า
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ทุกคนชะงัก ธาวินลุกไปรับ
“ฮัลโหล”
เสียงสารวัตรสมยศพูดโทรศัพท์
“บอกคุณพิพัฒน์ว่าถ้าไม่อยากให้หลานสาวกับหลานสะใภ้ตายเตรียมเงินไว้ยี่สิบล้าน”
“นั่นแกเป็นใคร” ธาวินถาม
“แล้วชั้นจะติดต่อกลับมาอีกที จำไว้นะถ้าเรื่องถึงตำรวจนังสองคนนี่ตายแน่”
พูดแล้วสารวัตรสมยศก็วางสายไปทันที
ทุกคนมองจ้องมาที่ธาวินเป็นตาเดียว
“ใครโทรมา” พิพัฒน์ถามขึ้น
“มันบอกว่ามันจับตัวตาลกับน้องเมย์ไป ให้เราเตรียมเงินให้มันยี่สิบล้าน”
ทุกคนอึ้ง ธาวินกับบุญทันมองสบตากัน

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 42

ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด
เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์
ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3
ที่มา manager.co.th