หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่าน ธรณีนี่นี้ใครครอง ตอนที่ 9 วันที่ 11 กรกฎาคม 2555

อ่าน ธรณีนี่นี้ใครครอง ตอนที่ 9 วันที่ 11 กรกฎาคม 2555

“ไม่ได้สิจ๊ะ หนูณีเป็นคนพิเศษของพ่อเวเขานี่ ยังไงเขาก็ต้องหาของที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดให้หนูณีจ้ะ กว่าจะได้สร้อยมุกเซาท์ซีเส้นนี้มา พี่เขาพาป้าเดินเสียทั่วเมืองเชียงใหม่ ความพยายามเป็นเลิศจริงๆ ลูกคนนี้...สวมสร้อยให้น้องสิจ๊ะตาเว”

วิไลลักษณ์ชงเองชมเอง จนเหมือนทั้งสองมีอะไรเป็นทางการกันแล้ว เวทางค์รับลูกจากแม่จัดแจงเอาสร้อยสวมให้ดรุณี เป็นจังหวะที่อาทิจถือตะกร้าผักสลัดเข้ามาเห็นพอดี เขาชะงัก มองตะกร้าผักในมือแล้วหันหลังเดินออกไป

น้าแก้วกำลังเอาน้ำเข้ามาพอดี อาทิจเลยฝากผักกับน้าแก้ว บอกว่าตัดผักมาให้คุณย่าแต่เห็นท่านมีแขกฝากน้าแก้วเอาให้ท่านด้วย

วิยะดากับวิไลลักษณ์ดูเวทางค์สวมสร้อยให้ดรุณีแล้วพากันกรี๊ดกร๊าดว่าบรรยากาศเหมือนงานหมั้นเลย แค่นั้นไม่พอ วิไลลักษณ์ยังหันไปถามคุณย่าว่าคิดเหมือนตนไหม คุณย่าบอกว่าคิดเหมือนกัน วิไลลักษณ์ยิ้มแก้มแทบปริ แต่พอฟังประโยคต่อไปก็หน้าหุบ เมื่อคุณย่าพูดต่อว่า

“คิดว่า... เราแม่ลูกฟุ้งซ่านมากไปรึเปล่า หายากินหน่อยดีไหม”

ดรุณีเห็นน้าแก้วเอาตะกร้าผักมาวางก็ชมว่าผักงามมาก น่ากินจัง น้าแก้วบอกว่าอาทิจตัดมา คุณย่าถามว่าแล้วเจ้าตัวอยู่ไหนล่ะ น้าแก้วบอกว่าออกไปเมื่อกี้นี้เอง เห็นบอกว่าไม่อยากรบกวนคุณย่า ดรุณีมองแวบไปที่นอกห้องทันที แต่ไม่เห็นเขาแล้ว

ที่บ้านพักไพฑูร ทองประศรีถูกตุ๊ยุให้ไปแสดงตัวประกาศให้ใครๆรู้ว่าตัวเองเป็นเมียอาทิจ ทองประศรีบอกว่าเขาไม่ได้เชิญ ตุ๊ทำตาโตบอกว่า เขาไม่เชิญเราก็เชิญตัวเองสิ ทองประศรีกลัวๆกล้าๆแต่บ้ายุ เลยไป

ooooooo

ค่ำแล้ว ที่ลานจัดเลี้ยงคนงาน เวทางค์ย่างบาร์บีคิวจานใหญ่มาให้คุณย่า ดรุณีกับวิยะดานั่งอยู่ด้วยกัน ครู่หนึ่ง อาทิจ เกร็ง และสามเกลอก็มาถึง วิยะดาดี๊ด๊าส่งเสียงเรียกอาทิจไปที่โต๊ะ พอเขามาถึงเธอก็เอาเสื้อแจ็กเก็ตให้ บอกว่าตนไปทัวร์ยุโรปกับคุณแม่ ซื้อมาฝากเขา

อาทิจขอบคุณแต่ไม่ขอรับไว้เพราะมันแพงเกินไป วิยะดาอ้อนว่า ตนซื้อมาแล้วก็ต้องรับ ไม่อย่างนั้นคนให้น้อยใจแย่ ทำให้อาทิจต้องรับไว้ เธอจัดแจงใส่ให้เขา ชมว่าใส่แล้วหล่อมาก บอกให้ใส่ไว้ตลอดงานเลย ห้ามถอด ถ้าถอดมีงอน

น้าแก้วบอกให้อาทิจนั่งด้วยกัน อาทิจขอไปนั่งกับพวกคนงานดีกว่า เขามองแวบไปทางดรุณีอีกครั้ง แล้วเดินไปหาสามเกลอที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่ที่เตาบาร์บีคิว

สามเกลอชมว่าใส่เสื้อหล่อมาก ถามว่าใครซื้อให้ แล้วถามต่อทันทีว่าทำไมไม่นั่งกับดรุณี

“เขาคงอยากอยู่กับแฟนเขา เราเข้าไปก็เกะกะเขาเปล่าๆ” อาทิจตอบขรึมๆ อึ่งกับพันมองไปเห็นเวทางค์ นั่งอยู่กับดรุณีก็ร้องพร้อมกันว่าไม่ใช่ แล้วไล่ให้อาทิจไปนั่งที่นั่น อาทิจไม่ยอมไป ต๊อดเลยส่งสัญญาณให้เกร็งเริ่มแผนการที่นัดกันไว้

เกร็งขึ้นไปเป็นตัวแทนคนงานแสดงความยินดีที่ดรุณีสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แล้วให้อาทิจมาเป่าแคนเพื่อแสดงความรักที่มีต่อดรุณี อาทิจถูกมัดมือชกจำต้องขึ้นไปเป่าแคน เขาเป่าสนุกขึ้นเรื่อยๆ ต๊อดเห็นว่าบรรยากาศขึ้นแล้วก็ไปแย่งแคนจากอาทิจไปเป่าและให้อาทิจไปโค้งดรุณีเปิดฟลอร์เพื่อคนอื่นๆจะได้ออกมาเต้นกันบ้าง

เสียงเชียร์เสียงยุดังเป็นจังหวะ จนอาทิจต้องลุกไปโค้งดรุณีออกไปเซิ้งกัน วิยะดาบอกดรุณีว่าเดี๋ยวตนขอแตะมือต่อ

ขณะบรรยากาศกำลังสนุกสนานนั่นเอง ทองประศรีกับตุ๊และไพฑูรก็มาถึง ตุ๊ยุทองประศรีให้ไปชิงอาทิจ มาเต้นกับตัวเอง ทองประศรีเต้นเข้าไปเบียดวิยะดา ถูกวิยะดากระแทกกระเด็นออกมา ทองประศรีพุ่งเข้าไปจะเล่นงานวิยะดา พลันก็ทำท่าพะอืดพะอมแล้วอ้วกพุ่งใส่วิยะดา เวทางค์เข้ามาเอาเรื่อง ก็ได้เรื่องสมใจ ถูกทองประศรีอ้วกใส่ไปอีกคน

วงแตกทันที อาทิจไล่ทองประศรีว่ามาทางไหนไปทางนั้นเลย ตุ๊เห็นท่าไม่ดีเลยลากทองประศรีออกจากงานไป

ส่วนวิยะดากับเวทางค์ก็รีบกลับบ้านไปล้างอ้วก ตัวเองก็เหม็นจนเกือบอ้วกไปด้วย

ไพฑูรกับตุ๊นึกว่าทองประศรีไปแอบกรึ๊บที่ไหนมาจนอ้วก ถามไปถามมาเลยรู้ว่าทองประศรีแพ้ท้อง!

ooooooo

อาทิจแสดงความรับผิดชอบทองประศรีที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียตนมาก่อเหตุ คุณย่า น้าแก้วและดรุณีบอกว่าทุกคนเข้าใจเขา แล้วคุณย่าก็เอาซองที่ค่อนข้างหนาให้อาทิจ บอกว่าเป็นเงินเดือนของเขา ย่าให้เดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ส่วนโอทีไม่ได้ให้ แต่จะให้เป็นผลกำไรที่ได้จากการขายผลผลิตในส่วนที่อาทิจทำไว้แทน ถามว่าพอใจไหม

อาทิจก้มกราบแทบเท้าคุณย่า บอกว่าเกิดมาตนยังไม่เคยจับเงินหมื่นเลย พรุ่งนี้ตนจะไปดูอะไหล่ปั๊มน้ำในเมือง และจะเอาเงินที่ได้นี้ฝากไปให้ที่บ้านด้วย คุณย่าถามว่าแบ่งให้เท่าไร เขาตอบทันทีว่า

“ให้หมดเลยครับ น้องๆที่บ้านไม่ได้กินอิ่มนอนหลับเหมือนผม เงินเดือนผมคงจะทำให้คุณพ่อคุณแม่กับน้องๆสบายขึ้นบ้าง”

คุณย่าลูบหัวอาทิจอย่างเมตตา อวยพรให้จำเริญๆ

ถามว่าแวะเข้าเมืองแล้วไปไกลกว่านั้นได้ไหม อาทิจบอกว่าได้ ถามว่าคุณย่าจะให้ไปไหนหรือ

“ไปส่งแม่ณีที่กรุงเทพฯน่ะพ่อ”

อาทิจหันมองดรุณีทันที รู้สึกใจหายวาบ เมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้เธอก็จะไปแล้ว...

ระหว่างเดินออกมาที่หน้าบ้านด้วยกันนั้น อาทิจเอ่ยขึ้นว่า เธอน่าจะเอารถไปใช้ที่กรุงเทพฯด้วย ดรุณี

หันขวับพูดอย่างระแวงว่า ถ้าเขาไม่อยากไปตนจะให้คุณย่าเปลี่ยนเป็นเกร็งหรือใครก็ได้ไปส่งแทน อาทิจตอบทันทีว่าอยากไป เพราะจะได้แวะไปหาลูกค้าที่สั่งผักกับผลไม้จากเราด้วย

ดรุณีเล่นแง่อีกว่า ถ้าไม่มีเรื่องงานเขาคงไม่เสียเวลาไปใช่ไหม

“การไปส่งคุณณีและดูแลให้ถึงที่ ไม่ได้ทำให้

ผมเสียเวลา มีอย่างอื่นที่ทำให้ผมเสียเวลามากกว่านี้” ดรุณีถามว่าอะไร “อย่างเช่น นั่งคิดทั้งวันว่าจะพูดแสดงความยินดีกับคุณณีว่ายังไงดี”

ดรุณีหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา อ้อมแอ้มว่าพรุ่งนี้มีเวลานั่งรถไปด้วยกันทั้งวัน คืนนี้ไปคิดก่อนก็ได้ พรุ่งนี้อยากบอกตอนไหนก็บอก พูดแล้วตัดบทกลบความเขินว่า ไปนอนเสียพรุ่งนี้ต้องขับรถทั้งวัน

หนุ่มสาวแยกไปกันละทางด้วยความรู้สึกเคอะเขิน ร้อนผ่าวๆ ซาบซ่าในอารมณ์...

ooooooo

รุ่งขึ้น อาทิจเตรียมตัวเตรียมใจมาทั้งคืนว่าวันนี้ไปส่งดรุณีและจะได้แสดงความยินดีที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้

แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า เวทางค์กับวิยะดาจะเดินทางกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯเหมือนกัน วิไลลักษณ์พาลูกมารับดรุณีแต่เช้า

คุณย่ากำลังมาส่งดรุณีที่หน้าบ้าน อาทิจยืนอยู่ข้างรถพร้อมออกเดินทางแล้ว ทั้งหมดชะงักเมื่อวิไล–ลักษณ์ลงจากรถหรูมาบอกคุณย่าว่า

“ตาเวกับยายวิจะไปกรุงเทพฯวันนี้ เลยแวะมารับยายณีไปส่งที่คอนโดฯน่ะค่ะ จะได้รู้จักที่พักกันไว้ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือดูแลกันได้”

“ไม่เป็นไรมั้งแม่วิไล แม่ให้พ่ออาทิจไปส่งยายณี เพราะพ่ออาทิจต้องลงไปทำธุระให้แม่อยู่แล้ว”

วิไลลักษณ์บอกว่าให้เวทางค์ไปส่งดีกว่า อยู่ทางโน้นจะได้คอยรับส่งดรุณีไปมหาวิทยาลัยด้วย แล้วจัดแจงให้เวทางค์เอากระเป๋าของดรุณีไปที่รถเลย คุณย่าเลยต้องให้ดรุณีไปกับเวทางค์

อาทิจยืนเก้อ แสนเสียดายที่อุตส่าห์คิดคำอวยพรทั้งคืนแต่ไม่มีโอกาสได้บอกเธอ...

แต่เหมือนโชคช่วย เมื่อาทิจไปที่ธนาคารระหว่างทางเจอดรุณีเพราะเวทางค์ลืมของไว้ที่ร้านตัดเสื้อผ้าแถวนั้น อาทิจจึงได้อวยพรเธอด้วยคำพูดที่เรียบเรียงมาทั้งคืนว่า

“ผมยินดีด้วยนะครับคุณณี คุณเก่งมาก ผมรู้ว่าคุณย่าภูมิใจในตัวคุณมากแค่ไหน”

เป็นคำอวยพรที่สมใจดรุณีมาก เพราะเขายอมรับแล้วว่าตนเก่ง เธอยิ้มเต็มหน้าด้วยความภูมิใจ...

ooooooo

อ่าน ธรณีนี่นี้ใครครอง ตอนที่ 9 วันที่ 11 กรกฎาคม 2555

บทประพันธ์โดย กาญจนา นาคนันทน์
บทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย ปารดา กันตพัฒนกุล
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์