หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 2 วันที่ 27 ก.ย. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 2 วันที่ 27 ก.ย. 56

ฝ่ายหมอวรวรรธและณัฐเดช เชื่อว่าจากรอยเขี้ยวที่คอพิมพิลาสแสดงว่าเธอถูกงูเห่าหรืองูจงอางกัดตาย แต่จนบัดนี้ยังหาหลักฐานไม่ได้ ณัฐเดชเชื่อว่าสถานที่ปิดแบบนี้งูคงเลื้อยเข้ามาเองไม่ได้นอกจากมีคนจูงมากัดผู้ตายแล้วก็จูงงูออกไป จึงเชื่อกันว่า นี่เป็นคดีฆาตกรรม

“จูงงูเนี่ยนะ...งูนะครับไม่ใช่สุนัข” หมอวรวรรธรับมุกแกล้งดักคอณัฐเดช ถูกผู้การปรามว่า

“อย่าแกล้งโง่สิหมอ กรุณาช่วยไปหาให้เจอได้ไหม ว่ามีใครเลี้ยงงูเห่าหรืองูจงอางเพื่อการแสดงโชว์หรือเลี้ยงไว้ดูเล่นก็ได้ ช่วยไปหากันมาให้ได้เร็วๆหน่อย หาเจอกี่เจ้าก็เอามาสอบปากคำให้หมด เฮ้อ...หัวช้ากันจริ๊ง!”


พูดจบผู้การเดินเข้าห้องไปเลย หมอวรวรรธกับณัฐเดชตามเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามผู้การ ก็ได้รับคำสั่งใหม่ว่า

“วันนี้ที่บ้านคุณพิมพิลาสจะมีการเปิดพินัยกรรม ซึ่งผู้ที่มีสิทธิรับมรดกต้องมากันครบถึงจะเปิดพินัยกรรมฉบับนี้ได้ คนแรกคือลูกชายคนโตของคุณพิมพิลาสชื่อกำธรเสียชีวิตไปนานแล้ว ต่อมาคนที่สองลูกชายคนเล็กชื่อเกรียงไกร ที่...คุณพิมพิลาส ไล่ออกจากบ้านเพราะไม่ชอบลูกสะใภ้ต่างชาติและไม่มีใครได้ข่าวเขาอีกเลย”

ณัฐเดชนึกขึ้นได้ถามว่า “เพราะฉะนั้น มรดกก็น่าจะตกเป็นของคนที่มีสิทธิ์คนสุดท้ายคือคุณอติเทพ สามีคนปัจจุบันที่มีอายุคราวลูก”

ผู้การถามว่าแน่ใจหรือว่าเหลืออติเทพคนเดียวที่มีสิทธิรับมรดกพันล้านนี้ หมอวรวรรธถามว่าหรือผู้การรู้อะไรมา? กลับถูกผู้การย้อนถาม “พวกคุณบอกว่าคดีนี้น่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่าการถูกงูกัดธรรมดาไม่ใช่หรือ”

“ผู้การถึงอยากให้ผมทั้งสองคนไปร่วมสังเกตการณ์การเปิดพินัยกรรมนี้ เพราะเราอาจจะได้เบาะแสหรือหลักฐานอะไรเพิ่มเติมแบบคาดไม่ถึงใช่ไหมครับ” ณัฐเดชเดาใจผู้การ แต่พอมองไปรอคำตอบ ก็พบว่าผู้การกำลังพยายามเพ่งกระแสจิตเพื่อให้ของบนโต๊ะลอยขึ้นมา ทำเอาทั้งสองนั่งทำหน้าหมดแรงกัน...

ooooooo

วันนี้...กรรณา กรรัมภา สุคนธรสและก๊องพากันไปหาบ้านแผนยุทธ ไปตามบ้านเลขที่ พบเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ก๊องถามว่าเรามาผิดบ้านหรือเปล่า

เมื่อเช็กสถานที่และบ้านเลขที่แล้วไม่ผิด มองไล่ลงมาจากป้าย “บ้าน ณ เวียงทับ” จึงมั่นใจว่า มาถูกบ้านแล้ว

ประตูมหึมาเปิดออกโดยอัตโนมัติด้วยรีโมต กรรัมภาขับรถเข้าไปกลัวๆกล้าๆพอถึงตัวคฤหาสน์ก๊องลงไปกดออด ครู่หนึ่ง มูมู่ สาวใช้ในชุดดำแง้มประตูออกมา แสยะยิ้ม ต้อนรับ กรรณาบอกว่า

“พวกเรานัดกับด็อกเตอร์แผนยุทธเอาไว้ค่ะ!”

“เชิญค่าคุณ...” มูมู่ยืนโค้งก้มหัวผายมือให้อย่างอ่อนช้อยแสดงถึงได้รับการอบรมวิชาชีพมาอย่างดี เมื่อพาเข้าไปในห้องรับแขกแล้ว มูมู่บอกว่า “เชิญพวกคุณนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณผู้ชายก็จะลงมา”

กรรณาแปลกใจที่ไม่ได้ยินเสียงวิญญาณอะไรเลย สุคนธรสก็ไม่ได้กลิ่นสาบของวิญญาณเลยเช่นกัน

สามสาวมองสำรวจ เจอรูปพิมอรสวยสง่าที่ติดอยู่กลางบ้าน กรรณาเอ่ยกับเพื่อนๆว่า

“ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นเมียตาด็อกเตอร์นะ สวยสง่า ผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วมาก”


“อีตาด็อกเตอร์ดูไม่สมกะเขาเลยแฮะ” กรรณาเปรียบเทียบ สุคนธรสบอกว่า

“เขาคงมีอะไรดีบ้างล่ะ ถึงทำให้ผู้หญิงสวยขนาดนี้ตามหึงหวงแม้จะตายไปแล้วก็ตาม”

ระหว่างนั้นก๊องอยู่ไม่สุขเดินสำรวจขึ้นไปถึงชั้นบน แล้วก็ตกใจกลิ้งตกบันไดลงมาเมื่อเจอกับจารุณีสาวใหญ่ในชุดดำอุ้มแมวดำในมือออกมาถามว่า “แกเป็นใคร เข้ามาในบ้านนี้ทำไม!” ทุกคนตกใจนิ่งงัน “ฉันถามว่าเข้ามาในบ้านนี้ทำไม ฉันรัก ฉันหวง ฉันเป็นคนดูแลบ้านหลังนี้”

จารุณีประกาศลั่น แมวดำในมือแยกเขี้ยวใส่ก๊องราวกับจะกระโจนเข้าขย้ำคอ!

ooooooo

มิรันตีเดินหน้าสั่งคนงานเองตามใจชอบ วันนี้ก็สั่งตัดต้นไม้ใหญ่ จนติณห์กับญาณินต้องมาสั่งไม่ให้คนงานตัดต้นไม้ใหญ่ไม่ว่าต้นไหน ญาณินก็กำชับคนงานไม่ต้องทำอะไรที่ไม่ได้อยู่ในแปลนแต่แรก

ไม่เพียงเท่านั้น มิรันตียังประกาศสมัครบรรดาสาวๆมาแคสติ้งเพื่อคัดเข้าทำงานสปา คุณหลวงมองอย่างคับอกคับใจ พอเห็นญาณินก็บ่นให้ฟังว่า รับไม่ได้ที่มิรันตีทำราวกับเรือนไทยของตนเป็นสำนักโคมเขียว

แนวคิดของมิรันตีกับติณห์และญาณินต่างกันสุดขั้ว มิรันตีต้องการปรับเรือนไทยให้เป็นโมเดิร์นสปา แต่ติณห์กับญาณินต้องการทำเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของตระกูล และที่สำคัญนี่เป็นบ้านของแกรนด์ปา

มิรันตีอ้างว่าตนไม่ได้ทำอะไรเสียหาย รูปคุณตาก็ยังอยู่ที่เดิม ทั้งยังอ้างว่า “ที่สำคัญแกรนด์ปาของแก เป็นคนที่ชอบเรื่องพรรค์นี้อย่างมาก ท่านเจ้าชู้ มีเมียน้อยนับไม่ถ้วน เห็นสาวๆเป็นไม่ได้ ชีวิตของท่านที่จบลงอย่างที่แกเล่า ก็เพราะหลงผู้หญิงไม่ใช่หรือ คุณยายของแกถึงต้องเผ่นไงล่ะ เพราะทนคุณตาไม่ได้” มิรันตีใส่เป็นชุด ทำเอาคุณหลวงที่ฟังอยู่น้ำตาไหลพราก ครวญว่า

“แกเลือกจำแต่เรื่องเลวๆของฉัน แต่ความดีที่ฉันเคยทำ แกเลือกที่จะลืม”

ญาณินปลอบคุณหลวงอย่าคิดมาก มิรันตีแว้ดใส่ว่าแกล้งพูดกับผีเพื่อขู่ตนหรือ ญาณินสวนไปอย่างไม่เกรงใจว่าตนไม่ได้เล่นบทอะไร ตนทำทุกอย่างเพื่อรีสอร์ต เพื่อคุณหลวง โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ติณห์ช่วยยืนยันว่าแกรนด์ปามีจริง มิรันตีท้าให้พิสูจน์ ญาณินเห็นคุณหลวงเดินไปนั่งร้องไห้ที่มุมหนึ่ง อึดใจเดียวมิรันตีก็ปวดท้องอย่างแรง

ติณห์รีบพามิรันตีกลับบ้าน แต่พอกลับไปไม่นานมิรันตีก็หายปวดท้องเป็นปลิดทิ้ง เบญจาถามญาณินว่าคุณตาของติณห์มีจริงหรือว่าทำหลอกมิรันตี ญาณินจึงเล่าความจริงให้ฟังว่าตนกับเพื่อนๆมีซิกซ์เซ้นส์จริงๆ และตนก็คุยกับคุณหลวงในรูปที่เรือนไทยได้จริง พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เบญจาจึงเสนอให้พิสูจน์ แต่ตนไม่อยากเห็นผีไม่ต้องเรียกผีมาพิสูจน์ก็ได้

“ผีเขาไม่ไปไหนมาไหนแบบไม่มีเหตุผลหรอกจ้ะ แล้วผีก็ไม่ได้มีพิษภัยเท่าคนหรอกนะ คนสิหลอกคน ทำร้ายคน ผีน่ะพูดแต่ความจริงนะ”

“เหรอคะ” เบญจาทำตาโตทึ่ง

ooooooo

ที่คฤหาสน์พิมพิลาส การเปิดพินัยกรรมเริ่มขึ้นเมื่อปาร์คจุนจีเดินทางมาถึงพร้อมลีจองกุ๊กผู้จัดการส่วนตัว

ทนายสมชาติแนะนำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแก่หมอวรวรรธและณัฐเดช รวมทั้งอติเทพสามีต่างวัยของพิมพิลาสที่ยังหนุ่มหล่ออยู่ในวัยเดียวกับหมอวรวรรธและณัฐเดช

จุนจีหรือที่ทนายสมชาติเรียกว่าคุณจักร เขามาอย่างไว้ตัว มองทุกคนอย่างห่างเหิน พอเห็นคฤหาสน์เขาก็นึกถึงอดีตที่เจ็บปวด เวลานั้นเขาเพิ่งมีอายุ 7-8 ขวบ กลับมาพร้อมเกรียงไกรผู้เป็นพ่อและคองลีซองผู้เป็นแม่ แต่ถูกพิมพิลาสออกมาไล่

“แกมันลูกเนรคุณ แกรักนังเมียเกาหลีนี่มากกว่าฉัน ก็หอบลูกหอบเมียแกไปอยู่ที่อื่น แล้วฉันจะไม่ให้แกเลยสักสตางค์แดงเดียว ไปเลย! ไสหัวไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ฉันเกลียดพวกแก!”

จนวันนี้...ภาพและเสียงขับไล่ไสส่งของพิมพิลาสยังเหมือนสดๆที่บาดลึกเจ็บร้าวอยู่ในความจำของจุนจี!
ก่อนเปิดพินัยกรรม ทนายสมชาติให้จุนจีตรวจพินัยกรรมที่แปลเป็นภาษาเกาหลีก่อน จุนจีตอบทันทีว่า

“ไม่ต้อง!! ผมไม่สนใจ ผมไม่ได้ต้องการอะไรจากผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าเงินทอง ที่ดิน บ้านช่อง ใครอยากได้ก็เอาไปให้หมด ผมมาแค่เพื่อทำให้ทุกอย่างมันจบ ผมจะได้ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกับคนในบ้านหลังนี้อีก!”

ทนายสมชาติพยายามหว่านล้อมให้จุนจีลืมเรื่องในอดีตเสีย เขาสวนทันควันว่า คิดว่าที่พ่อแม่ตนถูกเฉดหัวไม่สำคัญอย่างนั้นหรือ แล้วตัดบทจะทำอะไรก็รีบทำ ตนจะได้กลับไปพักผ่อนเสียที

เมื่อทนายสมชาติอ่านพินัยกรรมเสร็จ จุนจีลุกขึ้นจะกลับทันที พิมพิลาสที่มาฟังการอ่านพินัยกรรมรีบเข้าขวางเกิดลมพัดจนเสื้อผ้าและผมของจุนจีปลิวสะบัด พลันเสียงพิสมรก็ดังขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ดิฉันคัดค้านค่ะ! ดิฉันขอคัดค้าน เพราะการตายของคุณผู้หญิงไม่ใช่อุบัติเหตุค่ะ มีคนตั้งใจฆ่าท่าน!”

หมอวรวรรธและณัฐเดชสนใจจี๋ และเป็นครั้งแรกที่ทำให้จุนจีขมวดคิ้วมองพิสมรอย่างสนใจ

ooooooo

ที่บ้าน ณ เวียงทับ กรรณา สุคนธรส กรรัมภา และก๊อง ต้องเผชิญหน้ากับจารุณีที่วางอำนาจบาตรใหญ่ราวกับเป็นเจ้าของบ้าน จนเมื่ออติเทพลงมาเขาบอกสามสาวว่า จารุณีเป็นแม่บ้านแต่อยู่นานจนเผลอคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 2 วันที่ 27 ก.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ