หน้าเว็บ

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 The Sixth Sense 2 ตอนที่ 2 วันที่ 26 ก.ย. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 The Sixth Sense 2

ตอนที่ 2 วันที่ 26 ก.ย. 56
มิรันตีบอกว่าเรื่องนั้นไม่มีปัญหาแต่ให้ญาณินที่เป็นคนนอกออกไปก่อน ตนมีเรื่องส่วนตัวในครอบครัวที่ต้องคุยกัน พอติณห์บอกว่า “แม่ครับญาณินไม่ใช่คนนอกนะ ครับ เรา...จะแต่งงานกัน” เท่านั้น มิรันตีก็หน้าตึงทันที

มิรันตีถามถึงทองที่คุณหลวงซ่อนไว้ พอสมชาติบอกว่าอยู่ที่ธนาคารก็เตือนให้ระวังจะถูกคนหยิบฉวยเอาไป ติณห์ถามว่ารีสอร์ตตนเป็นอย่างไรบ้าง อวดว่าญาณินเป็นคนออกแบบ และคุมงานก่อสร้างทั้งหมด มิรันตีก็เบ้หน้าว่า

“มิน่า ถึงเหมือนโรงเรียนอนุบาล”

ญาณินหน้าชาเหมือนถูกตบ ไม่เพียงเท่านั้น มิรันตียังถามเธอว่าพ่อแม่ไม่มีหรือถึงได้มาอยู่ที่นี่


หาเรื่องด่าว่าถ้าเป็นลูกสาวตนทำตัวแบบนี้ตนไม่ยอมปล่อยไว้เด็ดขาดเดี๋ยวคนอื่นจะดูถูกเอา ญาณินหน้าชาเป็นครั้งที่สอง ติณห์เห็นบรรยากาศไม่ดีจึงชวนแม่ไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ส่วนญาณินก็ต้องไปคุมงานต่อ

“ใบฝากทองอยู่ที่ไหน ฉันต้องการดูเดี๋ยวนี้” มิรันตีหันไปรุกทนายสมชาติต่อ ทนายอึกอักรับคำไม่เต็มเสียงแล้วรีบเดินออกไป คุณหลวงมองดูเหตุการณ์แล้วพึมพำหนักใจ...

“คราวที่แล้วปัญหามันยังอยู่ภายนอกบ้าน แต่คราวนี้มันเข้ามาอยู่ในบ้านเลย”

ooooooo

ติณห์ตามออกมาขอโทษญาณินแทนมิรันตีแก้ต่างให้ว่าแม่ตนเป็นคนแบบนี้แต่ที่จริงใจดีมาก ถ้าแม่รู้จักเธอจะต้องรักเธอเหมือนที่ตนรัก ญาณินบอกให้เขาไปดูแลมิรันตีเสีย ตนจะไปทำงานต่อ

มิรันตีระแวงว่าถ้าญาณินแต่งงานจดทะเบียนกับติณห์แล้วจะมาแย่งสมบัติ จึงหาทางกีดกันกระทั่งพูดกับติณห์ว่า

“ลูกไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้หญิงหรอก แต่ไม่ต้องห่วง แม่มาแล้ว แม่จะปกป้องลูกและทรัพย์สมบัติของเราเอง”

ญาณินไปดูงานที่รีสอร์ตเธอหงุดหงิดที่คนงานไม่ทำงานตามแปลนจนติณห์ต้องคอยปลอบให้ใจเย็นๆ แต่แล้วก็ยิ่งหงุดหงิดเมื่อกุมาริกามาตามให้ไปที่เรือนไทยเจอมิรันตีกำลังสั่งคนงานให้รื้อ งัด ซ่อมเรือนไทยจะดัดแปลงทำเป็นสปานวดแผนไทย สร้างเป็นห้องอบซาวน่าสมุนไพรไทย

ระหว่างนั้นคุณหลวงเต้นเร่าๆ ให้ญาณินช่วยบอกมิรันตีให้หยุดทำลายเรือนไทยของตน ติณห์เห็นคุณหลวงไม่สบายใจจึงเข้าไปพูดกับมิรันตีโดยมีทนายสมชาติช่วยพูดด้วยว่า ทำแบบนี้คุณหลวงท่านไม่ยอมแน่ๆ มิรันตีหัวเราะเยาะว่าพ่อตายไปนานแล้ว ญาณินตัดสินใจช่วยพูดว่า คุณหลวงอยากเก็บที่นี่ไว้ให้ประชาชนได้ชม

“มีเรื่องอะไรที่แม่ไม่รู้หรือเปล่าติณห์” มิรันตีมองญาณินขวับ ถามติณห์อย่างแปลกใจ

“คืออย่างนี้ครับมัม คุณญาณินเธอมีซิกซ์เซ้นส์สามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณแกรนด์ปาได้ แล้วตอนนี้แกรนด์ปาก็อยู่แถวนี้ด้วย”

ทนายสมชาติช่วยยืนยันอีกคน ถูกมิรันตีด่าว่าทนายเป็นผู้ใหญ่แล้วมาทำเพี้ยนเดี๋ยวจับส่งโรงพยาบาลบ้าเสียเลย

ส่วนมิรันตีก็ยิ่งสงสัย ระแวงว่าญาณินมีแผนมาแย่งสมบัติ ทนายสมชาติก็คงสมรู้ร่วมคิดกับญาณินหลอกจนติณห์เชื่อว่าคุณหลวงมีตัวตน สัญญากับติณห์ว่าจะไม่ทิ้งให้เขาอยู่กับสมบัติมากมายแบบนี้อีกแล้ว ทำเอาติณห์เซ็งพูดไม่ออก

ระหว่างนั้นคุณหลวงพยายามให้ญาณินช่วย ญาณินบอกว่าตนเป็นคนนอกคงช่วยอะไรไม่ได้ มิรันตีมองญาณินอย่างจับผิด ชี้ให้ติณห์ดูว่า

“ดูมันพูดคนเดียว ลูกเชื่อหรือว่ามันพูดกับผีได้ถ้ามันไม่บ้ามันก็เล่นละครหลอกลูกอยู่”

ติณห์กลุ้ม บอกญาณินว่าทางเดียวที่จะทำให้มิรันตีเชื่อเรื่องคุณหลวงคือเธอต้องทำให้แม่เห็นคุณหลวงกับตาตัวเอง หรือติดต่อกันได้ ญาณินขอเวลาคิดหน่อย ติณห์กอดญาณินอย่างมีความหวัง

ooooooo

พงอินทร์ น้องชายของพิมอร ภรรยาสาวสวยนักธุรกิจร้านขายอัญมณีในห้างหรูกลางกรุงที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในรถที่ขับตกคลอง ไม่เชื่อว่าพี่สาวเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ จึงมาหาณัฐเดชและหมอวรวรรธเพื่อขอรื้อฟื้นคดี

เขาไปตามหารถของพิมอรจนเจอในอู่แห่งหนึ่ง รถยังอยู่ในสภาพเดิมจึงถ่ายรูปไว้ จะขอซื้อซากรถจากเจ้าของอู่ กลับถูกไล่ตะเพิดเพราะดูสภาพเขาแล้วคิดว่ามาดูลาดเลาขโมยรถ ขู่ว่าอย่าคิดจะมาขโมยไม่อย่างนั้น คราวหน้าโดนแน่

“โธ่เว้ย! ไอ้พวกดูถูกคน ดูคนจากภายนอก ไอ้พวก วัตถุนิยม ไอ้ทาสทางอาณานิคม...แล้วเราจะเอาไงดี”

พงอินทร์ด่าแล้วคิดหาทางจะเอารถออกมาให้ได้

ooooooo

ปาร์คจุนจีมาถึงเมืองไทยแล้ว แฟนคลับพากันไปต้อนรับคับคั่ง หลายคนคลั่งไคล้ถึงกับร้องไห้ หนึ่งในนั้นคือกรรัมภา เธอลากสุคนธรสกับไตรรัตน์ไปด้วย เพื่อให้ช่วยถ่ายรูป

กรรัมภาไปรับจุนจีที่สนามบิน ตามไปถึงโรงแรม เหน็ดเหนื่อยจนเป็นลม ไตรรัตน์กับสุคนธรสต้องดูแลวุ่นวาย

จุนจีมีอคติกับพิมพิลาสผู้เป็นย่าจนกลายเป็นเกลียดทุกอย่างที่เป็นไทย แม้แต่อาหารก็ปฏิเสธ ให้ลีจองกุ๊กผู้จัดการส่วนตัวสั่งทางโรงแรมและทุกร้านที่ตนจะไปกินว่าห้ามเสิร์ฟอาหารไทยเด็ดขาด!

ทนายสมชาติ ไปดักพบจุนจีในงานแถลงข่าวละครฟอร์มยักษ์ “มายาร้อยใจ” เมื่อมีโอกาสได้ใกล้ก็รีบบอก

“ผมชื่อทนายสมชาติ เป็นทนายความประจำตัวของคุณพิมพิลาสคุณย่าคุณครับ”

จุนจีหันมองชะงัก และเมื่อพากันไปนั่งคุยในห้องพักโดยมีลีจองกุ๊กอยู่ด้วย ทนายสมชาติบอกว่า พรุ่งนี้จะมีการเปิดพินัยกรรมของพิมพิลาส พ่อเขาคงแจ้งเรื่องการเปิดพินัยกรรมแก่เขาแล้วใช่ไหม จุนจีตอบอย่างเย็นชาว่า “ไม่สนใจ”

ทนายสมชาติพยายามหว่านล้อมให้เขาไปในวันเปิดพินัยกรรมก็ได้รับคำตอบว่า “ผมไม่ไป” ลีจองกุ๊กถามทนายสมชาติว่าถ้าจุนจีไม่ไปล่ะ?

“คงไม่ได้หรอกครับ พินัยกรรมระบุว่าญาติที่มีสิทธิในมรดกต้องมาให้ครบจึงจะเปิดพินัยกรรมได้ และคุณก็เป็นหลานคนเดียวของคุณพิมพิลาส”
จุนจีนิ่งฟังหน้าเครียด พอเข้าห้องน้ำก็บ่นไม่พอใจ “อุตส่าห์ตายไปแล้ว ยังมายุ่งกันอีกทำไม!”

สิ้นเสียงบ่นกระจกห้องน้ำแตกเพล้ง ก๊อกน้ำเปิดเองพุ่งซู่จนเต็มอ่าง จุนจีตกใจแต่ไม่คิดว่าเป็นเรื่องผี

ooooooo

ฝ่ายญาณินกลุ้มใจเรื่องมิรันตีที่เข้ามาวุ่นวายกับงานและความรักของตนกับติณห์ ขับรถกลับที่พักอย่างหงุดหงิดจนเฉี่ยวเบญจาที่กำลังจะข้ามถนนล้มหมดสติ เธอรีบพาส่งโรงพยาบาล แต่พอเบญจาฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนความจำเสื่อมจำไม่ได้แม้แต่ว่าตัวเองเป็นใคร ญาณินจึงพาไปอยู่ที่รีสอร์ตเพื่อดูแลรักษาจนกว่าเบญจาจะหาย

แต่เรื่องนี้ กุมาริกาติดใจสงสัยไม่หายว่า ทำไมอยู่ดีๆ เบญจาจึงเดินออกมาให้รถชน ทั้งยังดูท่าทางแปลกๆด้วย

เมื่อพาเบญจาไปที่รีสอร์ต ถูกมิรันตีมาแว้ดใส่ว่าแม่คนเห็นผีพาใครมาอีกแล้ว พอติณห์บอกว่าญาณินขับรถเฉี่ยวเบญจาเลยพามาพักที่นี่เพราะเธอจำอะไรไม่ได้ กลับบ้านไม่ถูก มิรันตีจำต้องยอม แต่ให้ไปพักด้วยกันกับญาณิน

มิรันตีพาติณห์ไปดูรูปครอบครัว เป็นรูปที่ถ่ายตอนติณห์ยังเด็กมาก แล้วก็บีบน้ำตารำพึงรำพันว่าถ้าตนไม่มีติณห์คงฆ่าตัวตายแน่ แต่ถ้าติณห์ไม่มีตนก็ยังมีญาณิน

“ไม่หรอกครับมัม อย่าคิดอย่างนั้น ผมจะไปเห็นคนอื่นดีกว่าแม่ตัวเองได้ยังไงกันล่ะครับ” ติณห์ปลอบใจ มิรันตีกอดติณห์ย้ำทันทีว่า พูดจริงนะ ลูกไม่มีวันทิ้งแม่นะ

คุณหลวงนั่งฟังอยู่ถึงกับตบเข่าฉาดว่า “เสร็จกัน! เข้าทางมัน!!”

ฝ่ายญาณินพาเบญจาไปที่เรือนรับรอง เห็นเสื้อผ้าที่เบญจาเอาออกจากกระเป๋าก็ชมว่าสวยดี กุมาริกาก็

พึมพำว่าเสื้อผ้าราคาแพงแสดงว่ามาจากบ้านมีฐานะดี

เบญจาทำหน้าซื่อตาใสอ้อนจนญาณินทั้งรักและสงสาร ญาณินตั้งชื่อให้ แต่ชื่ออะไรเธอก็ไม่ชอบ ญาณินจึงบอกว่ารอเพื่อนๆ กลับมาค่อยตั้ง พอรู้ว่ากลุ่มญาณินมีอยู่ด้วยกัน 5 คน เบญจาบอกว่าตนชอบเลข 5 ญาณินจึงตั้งชื่อให้ว่า “เบญจา”

ooooooo

ที่คฤหาสน์ของพิมพิลาส...พิสมรเลขาของเธอฝันว่า ขณะกำลังเก็บของบนโต๊ะในห้องทำงานของพิมพิลาสนั้น ถูกเธอมาตวัดเล็บจิกที่แก้มพูดอย่างอาฆาตว่า

“ฉันต้องการความยุติธรรม!!”

พอสะดุ้งตื่น พิสมรตกใจเหงื่อแตกพลั่ก รีบไปส่องกระจกดู เห็นที่แก้มมีรอยเล็บข่วนเลือดไหลซิบๆ ก็ตะลึงงัน

ฝ่ายหมอวรวรรธและณัฐเดช เชื่อว่าจากรอยเขี้ยวที่คอพิมพิลาสแสดงว่าเธอถูกงูเห่าหรืองูจงอางกัดตาย แต่จนบัดนี้ยังหาหลักฐานไม่ได้ ณัฐเดชเชื่อว่าสถานที่ปิดแบบนี้งูคงเลื้อยเข้ามาเองไม่ได้นอกจากมีคนจูงมากัดผู้ตายแล้วก็จูงงูออกไป จึงเชื่อกันว่า นี่เป็นคดีฆาตกรรม

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 The Sixth Sense 2 ตอนที่ 2 วันที่ 26 ก.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ