หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 2-3 วันที่ 28 ก.ย. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 The Sixth Sense 2 ตอนที่ 2

ที่บ้าน ณ เวียงทับ กรรณา สุคนธรส กรรัมภา และก๊อง ต้องเผชิญหน้ากับจารุณีที่วางอำนาจบาตรใหญ่ราวกับเป็นเจ้าของบ้าน จนเมื่ออติเทพลงมาเขาบอกสามสาวว่า จารุณีเป็นแม่บ้านแต่อยู่นานจนเผลอคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง
เพราะแผนยุทธไม่บอกความจริง ทำให้สามสาวเชื่อว่าผีช่อฟ้าคือผีพิมอร กรรัมภาถามแผนยุทธว่า

“คุณเคยได้ยินภรรยาคุณ...กับ...แม่บ้านจารุณี มีปากเสียงอะไรกันบ้างไหมคะ”

แผนยุทธยอมรับว่ามีบ้าง โดยเฉพาะระยะหลัง ก๊องรำคาญที่แผนยุทธลีลามากเลยยุสุคนธรสให้คุณพิมอรเข้าสิงร่างเสียเลย ใครอยากรู้อะไรก็ถามตามสบาย กรรัมภากับกรรณาหันมองสุคนธรสทันที เจ้าตัวโวยลั่น


“ไม่เอ๊า...ฉันไม่ยอม!!”

แต่สุดท้ายสุคนธรสก็ยอมเพื่องาน เธอใส่ชุดของพิมอรเพื่อวิญญาณจะได้คิดว่าเป็นตัวเอง จุดธูปเชิญวิญญาณของพิมอรเข้าร่างตน แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุคนธรสจึงให้กรรณาฟังดูว่าวิญญาณนั้นยังอยู่แถวนี้หรือเปล่า

ปรากฏว่าเรียกผิดตัว เพราะผีที่อาละวาดอยู่นั้นคือช่อเพชร ไม่ใช่พิมอร สุคนธรสตัดสินใจบอกกล่าวว่า

“คุณผีคะ คุณแรงนักเหรอ ได้ข่าวว่าปากจัดนักถ้าอยู่แถวนี้ มา! คุณมาสื่อสารกับเพื่อนๆผ่านตัวฉันนี่เลย” แล้วพนมมือว่าคาถาบางอย่าง อึดใจเดียวก็เหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งกระแทกเข้าหน้าผากจนหงายล้มลงไปนอนแน่นิ่ง ทุกคนตกใจมาก

ที่แท้ผีช่อเพชรเข้าสิงแล้ว เธออาละวาดด่าทอว่าพวกสาวๆมายุ่งกับสามีตน กรรณาถามว่าใครเป็นคนฆ่าคุณผู้หญิง

“นังทรยศที่ไอ้หัวงูมันไปมีความสัมพันธ์ด้วยน่ะสิ”

จารุณีโผล่พรวดมาด่าพวกสามสาวว่าเป็นแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋น ตวาดว่า เอาชุดของพิมอรมาใส่ทำไม ใครอนุญาต แผนยุทธถูกด่าก็อับอาย หาว่าพวกกรรัมภาเป็นพวกหลอกลวง ผีที่เข้าสิงไม่ใช่เมียตน ช่อเพชรที่เข้าสิงสุคนธรสอยู่หวีดร้องขึ้น

“ฉันนี่เหรอไม่ใช่เมียคุณ ถ้างั้นใคร ใครเป็นเมียคุณ ใคร! อีหน้าไหนในห้องนี้!!” ผีช่อเพชรกระโดดบีบคอกรรณาจนไอแค่กๆ กรรัมภากับก๊องเข้าช่วยก็ถูกผีช่อเพชรหันมาบีบคอกรรัมภาแทน ก๊องรีบดึงสุคนธรสออกแต่ถูกเหวี่ยงกระเด็น แผนยุทธจะย่องหนี ช่อเพชรเห็น กรรณาฉวยจังหวะนั้นหยิบของมีอาคมพุ่งเข้าคล้องคอสุคนธรสจากด้านหลังทันที

ผีช่อเพชรที่สิงร่างสุคนธรสร้องโหยหวน ครู่เดียวสุคนธรสก็อ่อนยวบหงายหลัง ดีที่กรรณาประคองไว้ทัน

ooooooo

ที่คฤหาสน์พิมพิลาส วิญญาณพิมพิลาสชมพิสมรที่ฮึดขึ้นมาประกาศว่าคุณหญิงของตนถูกฆาตกรรม และให้บอกจักรหรือจุนจี ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนด้วย

พิสมรถูกอติเทพด่าว่าพูดอะไร ไม่มีหลักฐาน พิสมรยืนยันว่า รู้แต่ว่ามีคนเอางูเข้ามาปล่อยฆ่าคุณท่านในเรือนกล้วยไม้ อติเทพตวาดว่า โกหกสร้างเรื่องแบบนี้ต้องการอะไร

“ดิฉันไม่ได้โกหก ดิฉันพูดความจริง ไม่เชื่อถามวิญญาณคุณท่านสิ ท่านยังอยู่ตรงนี้ดิฉันรู้สึกได้” พิสมรท้า

ทนายสมชาติก็เตือนพิสมรว่าถ้าไม่มีหลักฐานก็ถอยไปเสียเพราะตัวเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสมบัติทั้งหมดนี้

พิสมรยืนยันว่าคุณท่านมาเข้าฝันตนว่าพินัยกรรมระบุไว้ว่าทุกอย่างจะมีผลก็ต่อเมื่อผู้รับพินัยกรรมทั้งสองฝ่ายยินยอมรับเงื่อนไขทั้งหมด หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยอมรับหรือคัดค้านต้องมีการสอบสวนก่อน

แต่จุนจีไปแล้ว ทนายสมชาติรีบตามไปเรียกจุนจี เขาตอบสวนมาอย่างไม่แยแสว่า

“เอาละเชิญ...เชิญเถียงกันให้พอ ผมจะกลับแล้ว!”

วิญญาณพิมพิลาสตามขอร้องให้จุนจีช่วยตนด้วย พลังแค้นของพิมพิลาสและสายเลือดเดียวกันทำให้จุนจีรับรู้ได้ถึงความพยายามของพิมพิลาส เขาเกิดมึนหัว เวียนหัว แต่ก็ยืนกรานไม่ยอมรับรู้อะไรเกี่ยวกับพินัยกรรมและชะตากรรมของย่าจนพิมพิลาสตามด่า

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้หยุดไอ้หลานใจดำ ฉันถูกฆาตกรรม แกต้องช่วยฉัน ได้ยินไหม แกต้องช่วยฉัน!!”

อารมณ์รุนแรงของพิมพิลาสทำให้จุนจีปวดหัวจนร้องลั่น หมอวรวรรธและณัฐเดชที่คลุกคลีเกี่ยวข้องกับผีและวิญญาณมานานดูออกว่าต้องเกี่ยวกับวิญญาณแน่ๆ จุนจีปวดหัวรุนแรงจนในที่สุดหมดสติ ลีจองกุ๊กต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล

ระหว่างที่จุนจียังไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น พิมพิลาสยังตามไปเข้าฝันขอร้องให้ช่วยตนด้วย บอกว่าตนเห็นรองเท้าฆาตกรที่ยืนซ่อนดูตนตายอยู่ในนั้นด้วย แต่จุนจียังแค้นไม่หาย ปฏิเสธว่า “ไม่ช่วย!”

กรรัมภาคลั่งไคล้จุนจี จนปลอมตัวเป็นพยาบาลแอบเอาตุ๊กตาหมีไปให้เขาพร้อมกับเอาหน้าแนบหน้าเขาใช้มือถือถ่ายรูปไว้ เป็นความสุขที่สุดในชีวิตของเธอที่ได้อยู่ใกล้ชิดขวัญใจตัวเองขนาดนี้

ณัฐเดชช่วยเฝ้าจุนจีให้ลีจองกุ๊ก จนเช้าวันใหม่ลีจองกุ๊กกลับมา ณัฐเดชบอกว่าหมออนุญาตให้จุนจีออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว จุนจีดีใจมาก ลีจองกุ๊กถามจุนจีว่า แล้วเสียงที่เขาได้ยินก้องในหูจนกะโหลกจะแตกจะอธิบายว่าอย่างไร

จุนจีอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าเพราะตนอยู่กับเสียงที่ดังหลายๆเดซิเบลทำให้ได้รับคลื่นเสียงถี่ๆหูเลยเพี้ยนหวีดขึ้นมาเอง แต่ลีจองกุ๊กเชื่อว่าเขาโดนของ จุนจีไม่เชื่อเรื่องนี้บอกว่าถ้าลีจองกุ๊กไม่หยุดพูดเรื่องไสยศาสตร์ไร้สาระต่อไปตนจะเรียกเขาว่าไอ้กุ๊กไก่ พูดอย่างเห็นเป็นเรื่องขำว่า “ไสยศาสตร์มีจริงที่ไหน อย่ามาเพ้อเจ้อ” แล้วทำเสียงเรียกไก่ กุ๊กๆๆๆ ล้อลีจองกุ๊ก

“ตามใจ! เกิดนายถูกผีเข้าขึ้นมาอย่ามาง้อฉันแล้วกัน” ลีจองกุ๊กตัดบทแล้วเลิกพูดเรื่องนี้เลย

ณัฐเดชเห็นทั้งสองโต้เถียงหยอกล้อกันจึงค่อยๆหลบออกจากห้องไป ลีจองกุ๊กจัดข้าวของให้จุนจีเตรียมกลับ เห็นตุ๊กตาหมีใส่ถุงมือที่กรรัมภาวางไว้ข้างหมอนจึงจับโยนให้จุนจี พอจุนจีรับตุ๊กตาหมีก็แว่บๆขึ้นมาคลับคล้าย คลับคลาว่าเมื่อคืนตนเจออะไรมาบ้าง...นึกเห็นภาพกรรัมภาประคองหน้าเขาแต่กลายเป็นหน้าพิมพิลาส จุนจีโยนตุ๊กตาหมีทิ้งอย่างสยอง!

ooooooo

ญาณินคิดหนักที่ถูกมิรันตีกีดขวางความรักของตนกับติณห์ เธอจึงไปนั่งสมาธิที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะเชื่อว่า เมื่อสติมาปัญญาจะเกิด ติณห์อยากนั่งสมาธิเป็นเพื่อนแต่ทำไม่สำเร็จ

ติณห์กลับไปหายากันยุงที่บ้านเพื่อเอามาจุดให้ญาณิน เบญจาเลียบเคียงถามว่าญาณินคงมีเรื่องทุกข์ใจจึงนั่งสมาธิ

“เรื่องแม่พี่มันหนักหนามากจริงๆแต่พี่รู้ว่าญาณินเขาเข้าใจและจะต้องหาทางผ่านมันไปจนได้” หลังจากที่เขานั่งสมาธิเสร็จ เบญจาจึงขอไปเป็นกำลังใจให้ญาณินด้วย

คุณหลวงเห็นทั้งสองสนิทสนมกันก็บ่นกับกุมาริกาว่ามันชักจะยังไงๆเสียแล้ว

ทั้งสองปูเสื่ออยู่เป็นเพื่อนญาณิน จนเมื่อเธอลืมตาขึ้น เบญจากับติณห์วิ่งเข้าไปหา ติณห์ถามว่าเป็นยังไงบ้าง

“ติณห์...ฉันคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงถึงจะเอาชนะใจแม่ของคุณได้”

ติณห์พยายามถามว่าจะทำอย่างไร ญาณินบอกว่าเขาไม่ต้องทำอะไร ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันแล้วบอกให้เขาไปพักผ่อนที่บ้านเสียเพราะป่านนี้แม่เขาคงรออยู่ เบญจาแอบบอกติณห์ว่าตนจะเป็นสายลับให้ถ้าได้ข้อมูลแล้วจะรีบโทร.รายงาน

คุณหลวงกับกุมาริกาตามมาส่งญาณินด้วย พอติณห์แยกไปคุณหลวงก็แยกจากกุมาริกาไป กุมาริกาถามว่าจะไปไหน

“ไปทำจิตภาวนา...ต้องจัดระเบียบจิตด่วน ฟุ้งซ่าน ปั่นป่วน เตลิดกระเจิดกระเจิง เกินจะทนไหวแล้ว”

“เห็นไหมล่ะ...ถ้าไม่เกิดความทุกข์ ก็ไม่หันหาธรรมกัน” กุมาริกาแก่แดด

ooooooo

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 The Sixth Sense 2 ตอนที่ 3


ณัฐเดชออกจากห้องจุนจีไป ยังไม่ถึงลานจอดรถ ก็ได้รับโทรศัพท์จากจ่าตำรวจนายหนึ่งแจ้งว่าสุพิชชา อดีตคนรักกำลังจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย

สารวัตรหนุ่มผู้ยังรักฝังใจเป็นห่วงอดีตคนรักแทบจะคุมสติไม่อยู่ รีบขับรถไปยังที่เกิดเหตุ เห็นสุพิชชายืนอยู่บนสะพานทำท่าน่าหวาดเสียว เขาตะโกนเรียก สุดเสียง

“พีชระวัง! จับไว้นะพีช จับไว้ให้้แน่นๆ อย่าโดดลง มานะ ได้ยินไหม อย่าปล่อยมือ!!”

สุพิชชาท่าทางเหมือนสติเลื่อนลอย เธอมอง หาพูดเหม่อๆ

“พี่ณัฐ...จริงๆ เหรอ... ไม่จริง ไม่! พี่ณัฐไม่มีวันมา หรอก พี่ณัฐไม่อยากเจอหน้าพีช พี่ณัฐเกลียดพีช พี่ณัฐเกลียดผู้หญิงหลายใจคนนี้”

“พี่ไม่เคยเกลียดพีช ได้ยินไหม ไม่เคยแม้แต่จะคิด ต่อให้พีชทำร้ายหัวใจพี่มากแค่ไหน พี่ก็จะไม่มีวันเกลียดพีช”

สุพิชชาเหมือนจะสงบลง ณัฐเดชค่อยๆ เดินไปหา พอได้จังหวะก็ถลาเข้าไปกอดเธอไว้แน่นตำรวจที่อยู่ใกล้ๆ วิ่งเข้ามาช่วยรับทั้งคู่ไว้

เมื่อพาเธอไปโรงพยาบาล ณัฐเดชเฝ้าอยู่ในห้องพิเศษมองหน้าอดีตคนรัก คิดอะไรหลายอย่างในใจ จนเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอถามงงๆว่า ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ ทำเหมือนจำอะไรไม่ได้เลย จนณัฐเดชให้คิดทบทวนว่าครั้งสุดท้ายเธอทำอะไร อยู่ที่ไหน เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเล่าขำๆ เหมือนไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ณัฐเดชเอาขวดยานอนหลับเล็กๆ ในกระเป๋าถือเธอออกมาบอกว่าเจอในกระเป๋า ถามว่ากินไปกี่เม็ด เธอเกรี้ยวกราดขึ้นมาถามว่ามายุ่งอะไรกับตน เอาคืนมา!

“พีชเป็นเจ้าของโรงพยาบาล คุณพ่อก็เป็นหมอ พีชน่าจะรู้ว่ายาพวกนี้มันอันตราย”

“พีชไม่มีคุณพ่อแล้ว พี่หยุดพูดถึงท่านเสียทีได้ไหม ตอนนี้พีชไม่มีใครทั้งนั้น พีชต้องแข็งแกร่ง พีชต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองตน...คือที่พึ่งแห่งตน คนอื่น...ไม่เกี่ยว เข้าใจนะคะ ว่าคนอื่นไม่เกี่ยว!!” เธอพูดระบายความอัดอั้นและร้องไห้อย่างหนัก ทำให้ณัฐเดชยิ่งสงสารเห็นใจ

ณัฐเดชพยายามเตือนเธอที่หวังพึ่งยาอันตรายพวกนี้ ถูกเธอย้อนประชดว่า แล้วเขาจะเดือดร้อนอะไรในเมื่อตอนนี้เราต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

“พีชคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันเป็นพี่น้องกันไม่ได้เหรอ”

“พีชไม่ต้องการเพื่อน ส่วนพี่ณัฐ ก็มีน้องเป็นของตัวเองอยู่แล้ว” พูดแล้วพลิกตัวหันหลังให้

แต่พอณัฐเดชเดินออกไปอย่างเจ็บปวดเท่านั้น สุพิชชาก็หันกลับมามองยิ้มร้ายอย่างสมใจกับแผนแก้แค้นที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ooooooo

วันและเวลาเดียวกันนั้น...

หมอวรวรรธวางมือจากงานในห้องแล็บ ออกจากห้องมาถอดเสื้อกาวน์แขวน ดูนาฬิกาบ่นๆ

“ป่านนี้คุณเนตรยังไม่มาอีก เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า” สิ้นเสียงบ่นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หมอวรวรรธคิดว่าคนรักมาแล้ว แต่พอเปิดประตูออกไปกลายเป็นพงอินทร์ หมอบอกว่าตนเลิกงานพอดีมีหลักฐานอะไรมาให้หรือ

พงอินทร์จะมาชวนหมอวรวรรธไปดูหลักฐานรถที่พิมอรขับตกคลองพลางเอารูปในมือถือที่ถ่ายมาให้ดูแต่หมอ ติดนัดแล้ว บอกว่าเป็นนัดสำคัญกับชีวิตตนมากด้วย เมื่อเห็นพงอินทร์ผิดหวัง หมอเสียงอ่อนลงว่า

“ผมขอโทษจริงๆ คุณโจ้ วันนี้ไม่ได้จริงๆไว้วันอื่น นะครับหรือไม่คุณก็โทร.ไปขอให้สารวัตรณัฐเดชช่วยแทน”

นัดสำคัญของหมอวรวรรธคือนัดกับเนตรสิตางศุ์จะพาเธอไปชายทะเลเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของหมอ

เนตรสิตางศุ์มาถึงก็พูดหยอกเขาว่ามาสายอีกแล้วแต่คงไม่ว่าอะไรหรอกเนอะๆ หมอพูดหน้าขรึมว่ามาช้าไป 35 นาที 11 วินาที เนตรสิตางศุ์หันมองเห็นเขายืนกอดอกทำหน้างอนๆ ก็เข้าไปเขี่ยแก้มแหย่แต่หมอไม่หายงอน เธอเลยเอาอมยิ้มมาอม แล้วซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เขาไป

มาสายทำให้งอนแล้วยังแกล้งทำเป็นจำไม่ได้อีกว่าวันนี้เป็นวันอะไร หมอวรวรรธเลยยิ่งงอน จนเมื่อเนตรสิตางศุ์เอาการ์ดที่วาดเองเป็นรูปการ์ตูนหมอกับตัวเองมาให้พร้อมคำอวยพรหวานๆ อ้อนๆ ว่า

“ขอให้หมอไม่เจ็บไม่ไข้ การงานก้าวหน้า และ...มีเนตรอยู่ในใจคนเดียว” หมอก็ยิ้มออก หันกอดคนรักไว้แนบแน่นกระซิบบอก “ผมจะแน่วแน่และมั่นคงกับความรักของเราตลอดไป”

ooooooo

วันนี้ติณห์ดีใจมากที่มีเอเจนซี่ติดต่อเข้ามาใช้บริการของรีสอร์ต

ทนายสมชาติที่เอาเช็คค่าแรงของบริษัทซิกซ์เซ้นส์ มาให้เซ็นดีใจกับข่าวนี้ด้วย เมื่อติณห์เซ็นเช็คแล้วก็รีบจะเอาไปให้ญาณิน พอเปิดประตูห้องออกมาเจอมิรันตีเข้าพอดี มิรันตีคว้าเช็คจากทนายสมชาติไปดูพอเห็น สั่งจ่ายให้ญาณินก็ชักสีหน้าไม่พอใจ ถือเช็คเดินนำไป หาญาณินทันที

แต่ญาณินที่ผ่านการนั่งสมาธิมาแล้ว เธอทักทายมิรันตีอย่างอ่อนน้อมด้วยสีหน้าแววตาเป็นมิตร แม้จะถูกมิรันตี ตีรวนด่าว่าต่างๆ นานา เธอก็ใจเย็น เตือนตัวเองในใจตลอดเวลา...

“ไม่โกรธ...ไม่โกรธ...มองเขาด้วยความเมตตา...เราต้องไม่โกรธ”

มิรันตีปาเช็คลงพื้น เบญจาจึงก้มลงจะเก็บ ถูกมิรันตีตวาด “ใครใช้ให้หล่อนหยิบ นังเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า!” ทำให้เบญจาชะงัก

ขณะนั้น...มีแมลงวันอาคมตัวหนึี่งบินวนเหนือหัวมิรันตี พอเธออ้าปากด่า แมลงวันอาคมก็บินเข้าปากทันที มิรันตีทำเสียง “อ็อก!” เอามือกุมคอ รู้สึกแสบร้อนไปทั้งคอจนไอไม่หยุด ญาณินรีบเข้ามาดูแล เอาน้ำให้ดื่ม มิรันตีเห็นในแก้วน้ำมีเส้นผมและฟันตกใจปาทิ้งทันที ด่าญาณินว่านังโรคจิต เอาอะไรมาให้กิน แล้วเดินกุมคอไอค่อกแค่กไป

ติณห์มาถึงพอดี ญาณินบอกว่าท่าทางคุณแม่เขาจะไม่สบายพลางเดินตามไปดู ปรากฏว่ามิรันตีหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ยังด่าญาณินว่าเอาสารพิษมาพ่นใส่คอตนไล่ไปให้พ้น แต่พอด่าญาณินเสร็จก็เกิดปวดท้องจนตัวงอ

คุณหลวงจับตาดูอยู่ถามกุมาริกาว่า “นังมิรันตีสำออยอะไรอีกละนั่น”

“ไม่ใช่แล้วนะคะคุณตา แบบนี้มันของจริงแล้วค่ะ” กุมาริกามองอาการปวดท้องบิดไปมาของมิรันตี เชื่อว่าเป็นอาการของเลือดจะไปลมจะมา พอเสกคาถาลมก็พุ่งเข้าไปกระแทกตัวมิรันตีทำให้ยิ่งเจ็บปวดทุรนทุราย

ที่แท้มิรันตีถูกของที่แมลงวันอาคมนำเข้าไปในท้อง ร้องอย่างเจ็บปวดว่าเหมือนมีอะไรแหลมๆทิ่มไส้ไปมา

อยู่ในท้อง แล้วก็เกิดเหตุที่ทำให้ทุกคนตะลึงงัน เมื่อมีตะปูตัวงอๆ โผล่ตุงใต้ผิวหนังบริเวณลำคอมิรันตี ญาณินรู้ว่ามิรันตีเจอคุณไสยเข้าแล้ว

“อะไร...ที่คอฉันมีอะไร...กรี๊ดดดด” มิรันตีกุมคอตัวเองตกใจกรีดร้องจนหมดสติไป

มิรันตีถูกอุ้มไปนอนที่โซฟา พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็โทษว่าญาณินเป็นคนทำให้ตนเป็นแบบนี้

ooooooo

ญาณินพยายามติดต่อสุคนธรสให้มาช่วยมิรันตี แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะสุคนธรสกำลังถูกไตรรัตน์ตื๊อไปออกเดตช็อปปิ้งใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานกัน แต่ยังไม่ทันออก เคธี่ก็พาทิพย์แม่ที่เพิ่งกลับเมืองไทยเอากระเป๋าแบรนด์เนม 5 ใบมาจำนำเจ๊หญิงแม่ของไตรรัตน์เพื่อเอาเงิน 5 ล้านไปจ่ายค่ามัดจำที่ ที่เชียงใหม่

ไตรรัตน์เพิ่งได้รับสายจากญาณินเขาเอาโทรศัพท์มาให้ เร่งสุคนธรสให้รีบไปคุยเผื่อเพื่อนมีธุระด่วน

สุคนธรสรับโทรศัพท์ออกไปคุยนอกห้อง เธอตกใจเมื่อญาณินบอกว่าแม่ของติณห์โดนของ

“ก็ปวดท้องลงไปนอนตัวบิด ร้องโวยวายว่ามีอะไรแหลมๆแทงไส้ ฉันก็เลยแตะที่ตัวท่านแล้วลองแผ่เมตตาไล่ของออกจากตัวท่านดู ปรากฏว่ามีตะปูโผล่มาจากไหนไม่รู้ มาตุงอยู่ที่ต้นคอท่าน” ญาณินเล่าอย่างเร็ว ถามว่าจะให้ดึงตะปูออกไหม

สุคนธรสห้ามญาณินแตะต้องเด็ดขาด เพราะอาจเป็นตะปูตอกฝาโลงหรือหน้าผากศพมาก่อน ขืนไปดึงมันจะยิ่งวิ่งทิ่มแทงตับไตไส้พุง เชื่อว่าคงไม่ใช่มีแค่ตัวเดียวอาจมีเป็นกำมือเลยทีเดียว ญาณินขอให้เธอรีบมาช่วยเอาออกให้ที สุคนธรสบอกว่ากว่าตนจะไปถึงเมืองกาญจน์แม่ติณห์อาจทนไม่ได้แล้ว บอกญาณินว่า

“เจ๊นั่นแหละที่จะต้องเป็นคนทำพิธีเอาตะปูออกจากตัวแม่นายติณห์” แล้วเธอก็แนะนำให้ทำตามขั้นตอน หากมีปัญหาให้รีบ โทร.หาตน และ “ถ้าได้ตะปูออกจากตัวคุณมิรันตีแล้ว ห่อผ้ายันต์ไว้ แล้วรีบเอามาให้ฉันทันที”

ญาณินฟังคำแนะนำแล้วรีบกลับไปทำตามขั้นตอนทันที

มิรันตีไม่ยอมให้ความร่วมมือทั้งดิ้นทั้งด่าทั้งร้องโวยวาย ติณห์กับเบญจาต้องช่วยกันจับมิรันตีข่มให้นอนนิ่งๆ แต่ปากก็ยังโวยวาย คุณหลวงจึงให้กุมาริกาไปปิดปากไว้ ส่วนคุณหลวงคอยดูและช่วยญาณินอยู่ใกล้ๆ ญาณินบอกคุณหลวงว่า

“ทันทีที่เห็นตะปูมันขยับ คุณหลวงเอาดอกบัวนี่นาบไว้ แล้วมันจะหลุดออกมาเลย คุณหลวงเป็นพ่อ พ่อย่อมมีบารมีพอที่จะช่วยลูก แต่ระวังห้ามใครแตะต้องเด็ดขาด เพราะจะโดนอาคมมันเข้าตัว ต้องเอาผ้ายันต์ห่อตะปูเหล่านี้ไว้เท่านั้นและห้ามตกพื้นเด็ดขาด”

“ปกติฉันเป็นคนเห็นเลือดไม่ได้ แต่เอาวะ...วันนี้เป็นไงเป็นกัน” คุณหลวงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว หยิบดอกบัวขึ้นเตรียมพร้อม

บรรดาพวกที่มาช่วยญาณินต่างตกใจตาเหลือกเมื่ออยู่ๆดอกบัวก็ลอยขึ้นมาเอง เบญจาทำเป็นตกใจอ้าปากค้าง

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 2-3 วันที่ 28 ก.ย. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ระยะเวลาออกอากาศตอนแรกเริ่มวันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556
ที่มา ไทยรัฐ