หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 4 วันที่ 30 ก.ย. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 4 วันที่ 30 ก.ย. 56

ระหว่างที่มีเรื่องวุ่นๆที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์นั้น กุ-มาริกาแวบไปที่คอนโดของอรวี เลขาของสมชาย ทนายความของพิมอร วันนี้อติเทพมาอยู่ที่คอนโดด้วย

ระหว่างอติเทพเข้าห้องน้ำ มือถือเขาดังขึ้น เธอรับสาย ปรากฏว่าเป็นสายจากเจ้าหนี้ โทร.มาทวงหนี้ พออติเทพออกมาเห็น เขากระชากมือถือไป ขู่ว่าทีหลังอย่ารับสายของตนอีกและห้ามบอกเรื่องนี้แก่ใครเด็ดขาด หากอยากช่วยตนก็ให้เอาเอกสารพินัยกรรมไปให้จุนจีเซ็น แล้วมรดกทั้งหมดของพิมพิลาสก็จะตกเป็นของตน เมื่อตนใช้หนี้หมดเราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย อรวีรับปากกลัวๆว่าจะรีบทำให้เร็วที่สุด

กุมาริกา รับรู้ปัญหาด้วยความสงสารอรวีแต่ก็คิด ปลงๆ ให้สบายใจว่า สัตว์โลกทั้งหลายย่อมมีกรรมเป็น ของตน


อติเทพพาอรวีไปที่คฤหาสน์ของพิมพิลาส มีกุมาริกาแอบตามไปด้วย ไปถึงเจอพิสมรยืนหน้าบึ้งรออยู่บอกว่าวันนี้มีโทรศัพท์ถึงเขาหลายสาย แต่ธุระเดียวกันทั้งหมด อติเทพรู้ว่าเรื่องอะไร ตัดบทถามว่าทนายสมชายมาหรือยัง

พิสมรที่เชื่อว่าอติเทพเป็นฆาตกรฆ่าพิมพิลาส พยายามที่จะแฉและลากฆาตกรมาลงโทษ แต่ไม่มีใครเชื่อ

อติเทพเข้าไปพบทนายสมชายขอให้เบิกเงินของพิมพิลาสมาให้ตนสองล้าน ทนายสมชายบอกว่าตนทำไม่ได้เพราะต้องทำตามพินัยกรรมที่ผู้ตายระบุไว้ทุกอย่าง อติเทพอ้างว่าจุนจีบอกแล้วว่าไม่ต้องการสมบัติแม้แต่สลึงเดียว ฉะนั้นทุกอย่างต้องตกเป็นของตน

“ถ้าอย่างนั้น ผมก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องยากอะไรที่คุณจะเอาเอกสารไปให้คุณจุนจีเซ็นยอมรับตามที่ระบุในพินัยกรรมไม่ใช่เหรอครับ”

อติเทพหัวเสียด่าพิมพิลาสว่าตายไปแล้วยังไม่วายสร้างเรื่องยุ่งยากอีก พิสมรเข้ามาถามว่าเพราะต้องการทรัพย์สมบัติใช่ไหมเขาจึงยอมแต่งงานกับคุณท่านของตน ถูกอติเทพขู่ให้หุบปากมิฉะนั้นจะไล่ออก ถ้าไม่หยุดอีกจะฆ่าให้ดู!

พิสมรไม่แยแสยังเดินหน้าแฉ จะกระชากฆาตกรมาลงโทษให้ได้ โทร.เข้ามือถือลีจองกุ๊กขอคุยกับจุนจีบอกว่าจะบอกจักรให้รู้ว่าใครฆ่าคุณย่าของเขา ถูกลีจองกุ๊กปฏิเสธอ้างว่าจุนจีกำลังซ้อมเต้นอยู่ พิสมรจึงขอทราบสถานที่ถ่ายละครแล้วออกไปเรียกแท็กซี่ทันที

“จะไปไหน” อติเทพที่จับตาดูอยู่ตะคอกถาม แต่พิสมรไม่บอกเพราะเขาไม่ใช่เจ้านายตน อติเทพมองตามรถแท็กซี่ที่พิสมรนั่งไปด้วยแววตาเพชฌฆาต!

ooooooo

ห้าสาวหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้มิรันตีถูกของอีก จึงให้ทั้งทรายเสกโรยรอบบ้านไม่ให้สิ่งเลวร้ายผ่านเข้าไปได้ ให้ทั้งชอล์กสายสิญจน์อันเป็นนวัตกรรมกันคุณไสยใหม่จากหลวงลุง

สุคนธรสให้เบี้ยแก้ไว้พกติดตัวถ้าโดนใครกระทำใส่ก็จะแก้ไขและรักษาให้หายคลายจางลงได้ ส่วนอาหารเนตรสิตางศุ์ให้ชาสมุนไพรผ่านการปลุกเสกจากหลวงลุงชงดื่มล้างพิษคุณไสยต่างๆ

“เอาเป็นว่า...คราวนี้ผมจะลองใช้ของพวกนี้ดูก่อน ถ้าได้ผลก็แล้วไป แต่ถ้ายังไงคงต้องรบกวนทุกคนนะครับ”

ติณห์พูดอย่างมีความหวังว่าสิ่งที่พวกห้าสาวให้นี้จะช่วยแม่ตนได้

กรรณากับก๊องได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปทำงานที่บ้าน ณ เวียงทับ ในฐานะผู้ตรวจสอบบัญชีบริษัทของแผนยุทธ ทั้งสองถูกจารุณีแม่บ้านที่ทำตัวเหมือนเจ้าของบ้านต้อนรับอย่างรังเกียจ จัดห้องนอนที่มีเตียงเดี่ยวให้ ก๊องถามว่าแล้วจะให้ตนนอนที่ไหน?

“ใครเขาจะให้พวกคุณนอนห้องเดียวกัน เจ้าของบ้านหลังนี้เป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่เคยประพฤติตัวเสื่อมเสีย โดยเฉพาะเรื่องอย่างว่า เพราะฉะนั้น ในหนึ่งห้องนอน จะต้องมีแค่หนึ่งเพศเท่านั้น ห้ามปะปน ห้ามมั่วสุม ห้ามส่งเสียงดัง”

จารุณีจ้องหน้าก๊องอย่างดุดันจนก๊องสยอง มูมู่เข้ามาเชิญก๊องไปอยู่ห้องฝั่งตรงข้าม ก๊องรีบเดินตามไป จารุณีหันมาจ้องกรรณาเขม็ง แววตาชิงชัง ดูถูก จนกรรณานึกอยากทดสอบอะไรบางอย่าง แกล้งถามว่า คุณพิมอรไปสบายแล้ว เหลือแต่คุณผู้ชาย ถึงจะรักภรรยาแค่ไหนก็น่าจะมีสิทธิ์ได้มีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขกับใครสักคน...

จารุณีปรี๊ดแตกโกรธเหมือนงูถูกตีขนดหาง พุ่งจับแขนกรรณาบีบอย่างแรง แผดเสียงกรี๊ดๆ ๆสั่งให้หยุดความคิดนี้

“สกปรก!! ไร้ศีลธรรม!!! เธอไม่มีสิทธิในตัวเขา ไม่มีแม้แต่นิดเดียว!!!! อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอแตะต้องคุณผู้ชายของฉัน ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันใจร้าย!” จารุณีด่าและปรามอย่างดุร้ายแล้วสะบัดออกไป

กรรณามึน ที่จารุณีโกรธจนเกินเหตุ ก๊องเองก็ตกใจวิ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตรงเข้าจับแขนกรรณา เห็นแขนถูกบีบจนเป็นรอยนิ้วมือก็ยิ่งตกใจ กรรณามองตามจารุณีไปอย่างสงสัยมาก มูมู่โผล่มายืนที่ประตู มองเธอด้วยสายตาเห็นใจสงสาร พอเห็นกรรณามองมาก็รีบหลบตามจารุณีไป

“ท่าทางเราจะมีปัญหากับทุกคนในบ้านนี้ไม่จบไม่สิ้นแน่” ก๊องเปรย แววตากังวล

ooooooo

ติณห์ ไตรรัตน์ หมอวรวรรธ และณัฐเดช สี่หนุ่มที่เป็นทั้งเพื่อนและกำลังจะเป็นญาติ นั่งจิบน้ำชาคุยแลกเปลี่ยนเรื่องชีวิตรักของแต่ละคนกันอยู่ที่บริษัทซิกซ์ เซ้นส์

ติณห์หนักใจเรื่องแกรนด์ปากับแม่ที่ขัดแย้งกันเรื่องเรือนไทย แต่ที่หนักใจกว่านั้นคือ เรื่องมิรันตีไม่ชอบหน้าญาณิน ซ้ำหาว่าถูกญาณินแกล้งทำให้ปวดท้องแทบเอาชีวิตไม่รอด ดังนั้นเขาจึงต้องรู้ให้ได้เร็วที่สุดว่าคนที่ทำแม่ตนนั้นเป็นใคร

ไตรรัตน์ มีเรื่องน้ำท่วมปากที่แต่งงานกับสุคนธรสเกือบสี่เดือนแล้วแต่ยังไม่ได้แอ้ม เธอเลย จำต้องทำเป็นหน้าชื่นอกตรมบอกว่า “ชีวิตแต่งงานนี่มันดีจริงๆ ใครไม่ลองไม่รู้”

หมอวรวรรธฟังแล้วอยากแต่งบ้าง หันไปขอความเห็นณัฐเดชพี่ชายที่หวงน้องสาวราวไข่ในหินว่าอีกสักสองปีตนจะเป็นผู้ใหญ่พอหรือยัง

แต่ ณัฐเดชที่นั่งเหม่อมองไปข้างหน้า บางทีก็ถอนใจหนักๆ บางทีก็ยิ้มตาเชื่อม บางทีก็หัวเราะแล้วทำหน้าเศร้า ไม่ได้ฟังใครพูดอะไรเลย พอทุกคนเรียกดังๆ ก็สะดุ้งบอกว่า “เอาไงเอากัน พวกแกว่าไงฉันเอาด้วย”

พอพรรคพวกรุมกันให้เล่าบ้างก็ปฏิเสธวุ่นวายแถมพาลเว่อร์ว่า

“ไม่มีเว้ย...บอกว่าไม่มี้...ไม่มี...มองทำไม มองมากเดี๋ยวโดนเตะเรียงตัวจนได้”

ooooooo

พอ ไตรรัตน์กลับถึงบ้าน ก็ถูกเสี่ยจำเริญกับเจ๊หญิงพ่อกับแม่และอาม่าอาอี๊ รุมกันทวงถามว่าแต่งงานมา 4 เดือนแล้วทำไมยังไม่มีวี่แววจะมีหลานให้อุ้ม
ไตรรัตน์น้ำท่วมปากอีกตามเคย ถูกอาม่าหาว่า บ่มิไก๊ ทุกคนพากันมองว่าเขาบ่มิไก๊ ไตรรัตน์เลยจำต้อง บอกว่า

“ป๊า ม้า อาม่า อาอี๊ จะน้ำยา น้ำพริก น้ำเงี้ยว ผมมีครบ แต่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังเข้าใจไหมครับ”

“ม้าจะไม่ยอมให้ลื้อย่ำยีเกียรติของตระกูลเราอีกต่อไป อาเฮียช่วยตี๋น้อยด้วยนะ” เจ๊หญิงสั่งเสี่ยจำเริญ

คืนนี้ เสี่ยจึงเอายาโป๊ขวดหนึ่งให้ไตรรัตน์บอกว่าเป็นยาบำรุงกำลังสูตรจากจีน สูตรเดียวในเอเชียให้ดื่มเสียแล้วกลับไปหาหนูรสเลย เจ๊หญิงรับรองสรรพคุณว่า “ใช้ได้ดีเลยล่ะ ดีมาก ดีสุดๆ”

ไตรรัตน์ถูกคุมให้ดื่ม ระหว่างนั้นเสี่ยก็บรรยายสรรพคุณให้ฟังว่ายานี้จะทำให้เขาได้ทั้งลูกและ คะแนนนิยมจากเมียแน่ๆ พอดูอีกทีไตรรัตน์ดื่มยาโป๊หมดขวดไปแล้ว เสี่ยตกใจโวยลั่น

“ไอ๊หยา! อั้วบอกว่าแค่จิบเดียวพอ ลื้อดื่มหมดทำไม!”

ไตรรัตน์ พูดอย่างคะนองว่าไหนๆก็ดื่มแล้วเอา ให้มันสุดๆไปเลย พลันก็ทำหน้าตื่นบอกว่าเลือดลมสูบฉีดแล้ว ยาออกฤทธิ์เร็วมาก แล้วขอตัวรีบวิ่งอ้าวร้องหาสุคนธรสลั่นบ้าน พวกป๊า ม้า อาม่าและอาอี๊ยิ้มกันตาหยีมีความหวังจะได้อุ้มหลานอุ้มเหลนกันก็คราวนี้ แหละ!

พอวิ่งเข้าห้อง ไตรรัตน์ไปเร่งสุคนธรสที่หน้า ห้องน้ำโอดครวญว่าทนไม่ไหวแล้ว...ทนไม่ไหวแล้ว... ตะโกนน่าสงสาร “คุณอย่าแกล้งให้ผมทรมานได้ไหม ออกมา ...ออกมา...ถ้าไม่ออกผมจะพังประตูเข้าไปนะ!”

พอสุคนธรสเปิดประตู ไตรรัตน์ก็สวนพรวดเข้าไปปิดประตูล็อก ครู่เดียวก็มีเสียงชักโครกดังออกมา

สุคนธรสถอนใจอย่างโล่งอกที่รอดตัวไปได้ อีกวัน...

พวกเสี่ย เจ๊หญิง อาอี๊ที่มาแอบฟังเสียงอยู่หน้าห้อง เห็นข้างในเงียบก็ดีใจกันว่าคราวนี้ได้อุ้มหลานแน่แล้ว

ooooooo

ที่บ้าน ณ เวียงทับ กรรณาพยายามทบทวนข้อมูลให้ก๊องฟังเพื่อจะได้ทำงานประสานกันได้ดีว่า

“ข้อมูล ที่เรามีตอนนี้ก็คือ วิญญาณที่ตามด็อกเตอร์แผนยุทธ ไม่ใช่คุณพิมอร เป็นผู้หญิงปากจัดสักคน และเท่าที่ฟังคำด่าของเธอ เธอจะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับด็อกเตอร์แผนยุทธแน่ แต่ด็อกเตอร์กลับบอกว่าไม่รู้จัก อันนี้คือประเด็นที่น่าสงสัยมาก ส่วนเรื่องการเสียชีวิตของคุณพิมอรว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม อันนี้เป็นประเด็นรอง และคนที่ น่าสงสัยที่สุดตอนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก...”

กรรณาเล่าอย่างตั้งใจมาก แต่ก๊องกลับสนใจเรื่องอื่นจนกรรณาบอกก๊องช่วยทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อย ตนอยากรีบปิดเคสนี้ให้เร็วที่สุดจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในบ้านนี้นาน

พลัน ทั้งสองก็สะดุ้งรีบพากันหลบเมื่อเห็นจารุณีเดินมาไล่ล็อกประตูทีละห้องแล้ว ลงไปข้างล่าง กรรณาจึงค่อยๆ ออกจากที่ซ่อน ส่วนตรงที่ก๊องซ่อนอยู่มีเก้าอี้โบราณตัวหนึ่ง จู่ๆ มันก็โยกเอง ก๊องผงะจ้ำอ้าวออกไปบอกกรรณา ไม่ทันไรก็มีเสียงเปียโนโบราณดังขึ้นมองไปที่เปียโนมันดังและขยับได้เหมือน มีคนกดอยู่!

“พี่กรรณ ทำอะไรสักอย่างสิ” ก๊องขนลุกไปทั้งตัว

“พวกเขา ก็แค่วิญญาณที่ยึดติดอยู่กับสิ่งของ ของเขา จิตสุดท้ายที่ไม่ปล่อยวาง คิดแต่ ของฉัน ตัวฉัน อยู่อย่างนี้ส่งผลให้วิญญาณไม่สามารถจากไปไหนได้”
ก๊อ งไม่อยากฟังอะไรแล้ว ยิ่งเมื่อมีน้ำหนองจากศพหญิงสาวที่ห้อยตัวอยู่กับโคมไฟระย้าหยดลงมาโดนตัว ต่างก็โกยแน่บแบบตัวใครตัวมันไปคนละทาง
กรรณาวิ่งมาหยุดที่หน้ารูปพิมอร เธอหยุดมอง ใบหน้าสวย...เศร้านั้น พึมพำ

“คุณพิมอร...คุณเป็นคนสวยมากเลย ดูเป็นภรรยาที่ประเสริฐ สมบูรณ์แบบ คุณน่าจะได้มีชีวิตครอบครัวที่ดี”

พลัน กรรณาก็ได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กแว่วมา เธอเดินตามเสียงเพลงนั้นไป ผ่านสวน ผ่านดงไม้ ไปจนถึงบ้านไม้หลังหนึ่ง บรรยากาศวังเวง เธอสงสัยว่าเป็นบ้านใคร แต่ได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กดังออกมาจากบ้านนี้

“วิญญาณที่ร้องเพลง มาที่บ้านหลังนี้ ทำไม...ที่นี่บ้านใคร?” ตัดสินใจผลักประตู เสียงเพลงกล่อมเด็กหยุดทันที! กรรณาฮึดขึ้นมาตัดสินใจ “เอาวะ เจอผีมาเกือบทุกยี่ห้อแล้ว คราวนี้จะเจออะไรอีก อยากจะรู้นักฮึ่ม!”

พอ ผลักประตูเข้าไปยืนกลางบ้าน มองไปรอบห้องที่ประดับด้วยหน้ากากผีต่างๆ และหัวสัตว์ปลอมมากมาย แต่บ้านสะอาดเรียบร้อยเป็นระเบียบ เหมือนมีคนอยู่

จู่ๆ มีเสียงเพลงดังขึ้นอีกเหมือนนำให้เธอไปพบรูปของพิมอรที่ถ่ายคู่กับพงอินทร์ ในวัยหนุ่ม กรรณามองผ่านไปเพราะจำพงอินทร์ไม่ได้ ดูไปอีก เจอรูปถ่ายหมู่นักเรียนทั้งชายหญิงชั้นประถมต้นสมัยที่เธอเรียน

“เฮ้ย ทำไมมีรูปนี้อยู่ที่นี่ด้วย”

ความ ทรงจำในวัยเด็กกลับมาทันที ด.ช.พงอินทร์เพื่อนร่วมชั้นคนนี้นี่เอง ที่เป็นตัวการเล่าให้เพื่อนๆฟังเรื่องเธอได้ยินเสียงผีมีอยู่ทั่วไปหมด จนเพื่อนๆ มองเธอเป็นตัวประหลาด ชอบคุยกับผี เวลานั้นพงอินทร์ถามเพื่อนๆ ว่า “นี่พวกนายเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ฉันคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อ ใครเชื่อยัยบ๊องนั่นก็บ้าแล้ว”

ครั้งนั้น ด.ช.พงอินทร์เลยถูก ด.ญ.กรรณา ซัดหมัด ใส่จนหน้าหงาย

ooooooo

พงอินทร์กลับมาเจอกรรณาอยู่ในบ้าน เขาพุ่งเข้าจับ คิดว่าเป็นขโมย กรรณาต่อสู้เอาหัวกระแทกจมูกเขาจนเลือดกำเดาออก

กรรณา วิ่งหนีออกจากห้อง พงอินทร์ไล่ตามเลยถูกเธอคว้าแจกันฟาดใส่หน้าจนล้มทั้งยืน พอลุกขึ้นมาเธอก็หายไปแล้ว กรรณาวิ่งไปที่บ้าน ณ เวียงทับ พงอินทร์ตามไปจับตัวไว้ได้ โชคดีที่แผนยุทธกลับมาเจอพอดี เขาสั่ง

“ทำอะไรน่ะ...ปล่อยคุณกรรณเดี๋ยวนี้นะนายโจ้! อย่าเสียมารยาทกับเธอ นี่คือคุณกรรณาแขกของฉัน”

นี่เอง ทำให้ทั้งพงอินทร์และกรรณาต่างชะงักกับชื่อที่ได้ยิน แต่พงอินทร์ไม่ติดใจเขาระแวงว่ากรรณาเป็นผู้หญิงคนใหม่ของแผนยุทธ จนแผนยุทธต้องชี้แจงว่า

“คุณกรรณ เป็นที่ปรึกษาด้านบัญชีส่วนตัวของผม นอกจากนี้ นายไม่ต้องมาวุ่นวายรับรู้อะไรอีก ไปครับ อย่าไปสนใจเลยครับคุณกรรณา เข้าบ้านกันเถอะ”
พงอินทร์มองตามทั้งสองพึมพำอย่างแค้นใจ...

“หึ...พี่ พิมตายไม่ถึงเดือนก็คิดจะเอาเมียใหม่เข้าบ้านแล้วเหรอ ไอ้พี่เขยหน้าหื่น ฝันไปเถอะ ฉันจะฉีกหน้ากากแกออกมาให้ได้...ไอ้ฆาตกร!”

พงอินทร์ติดใจ เรื่องกรรณา รีบกลับไปที่บ้านตัวเอง หยิบรูปที่กรรณาดูเมื่อครู่นี้ขึ้นจ้องที่หน้ากรรณา จำได้ทันทีว่านี่คือกรรณาแว่วเสียงผีนั่นเอง พึมพำอย่างหงุดหงิดว่า “ดันมายุ่งอะไรกับนายแผนยุทธ?!”

กรรณาเดินไปนั่งหงุดหงิดที่ห้องรับแขก แผนยุทธแอบดูกิริยางอนๆ ของเธอตาเป็นมัน เดินหน้าเครียดเข้าไปตำหนิพงอินทร์ให้ฟังว่า ไร้มารยาท แต่ตนก็ไล่เขาออกจากบ้านไม่ได้ เพราะตนรักพิมอรมากจึงต้องอดทน พูดอย่างสะเทือนใจว่า

“พิมอรกับพงอินทร์ มีกันอยู่สองพี่น้องเท่านั้น ผมคือส่วนเกิน ที่มาแย่งความรักพี่สาวเขาไป ไอ้เจ้าเด็กติสต์รับประทานนั่นมันก็เลยอิจฉาผมมาตลอดๆๆ”

“ใช่ค่ะ นายโจ้มันขี้อิจฉาจริงๆ”

“พิมอรเขารักมันน่ะครับ” แผนยุทธทำเนียนร้องไห้ออกมา “แต่มันก็ร้ายใส่พิมอร ทั้งหนีไปไกลๆ ทีละนานๆ แกล้งให้พิมอรไม่สบายใจ บางทีก็ทำเย็นชา ประชดประชัน ไม่ยอมพูดด้วย พิมอรต้องเสียน้ำตาเพราะน้องคนนี้มามาก ตอนนี้ผมมันเหลือตัวคนเดียว...”

กรรณาปลอบใจว่าไม่ต้องกังวลอย่างน้อยพวกตนก็อยู่ช่วยเขา แผนยุทธทำตาละห้อยอ้อนถามว่าเธอจะอยู่นานแค่ไหนกัน

“อยู่ จนกว่าจะแก้ปัญหาให้คุณสำเร็จน่ะค่ะ” แผนยุทธถามว่าแล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะ “ต้องสำเร็จสิคะ พวกเราทำสำเร็จมาทุกครั้ง ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะยากอะไร”

แผนยุทธถามวัดใจว่าต่อให้พงอินทร์กวนประสาทอย่างไรเธอก็จะไม่ถอดใจใช่ไหม เธอบอกว่าถ้าเขาท้าทายแบบนั้นตนจะสั่งสอนให้หลาบจำไปเลย

“สัญญา นะครับ” แผนยุทธแบมือออกมา กรรณาเผลอเอามือวางในมือเขารับสัญญา เขาจับมือเธอเขย่า “ดีใจที่สุดเลยครับ ชื่นใจมากๆเลย” พูดแล้วยกมือขึ้นจูบอย่างเร็วจนกรรณาตั้งตัวไม่ทัน เธอตกใจดึงมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อยยังคงจูบๆๆที่หลังมือไม่หยุด

พอดีก๊อ งเดินมา กรรณากระชากมือออกอย่างแรงจนแผนยุทธแทบคะมำ เธอกระโดดกอดก๊อง แกล้งทำเป็นหิวขนมชวนก๊องออกไปซื้อขนมปากซอยกินกัน แล้วลากก๊องที่ยังงงๆ ออกไป

แต่แผนยุทธไม่งง มองตามอย่างรู้ทัน

ooooooo

เช้านี้ ญาณินขับรถเข้ามาจอดที่บ้านพักติณห์เงียบเชียบ ป้าออออกมาบอกว่าทางสะดวก ไม่มีใครอยู่ ทั้งสองจึงช่วยกันถือถุงกระสอบลายสวยใบโตลงจากรถอย่างระแวดระวัง

แล้ว ทั้งสามก็แยกย้ายกันเร่งมือทำงานตามแผนทันที ติณห์เอาทรายไปโรย พนมมืออ่านคาถาที่จดมา ป้าออเอาผ้ายันต์ไปแปะตามมุมลับต่างๆตามตัวบ้าน ญาณินเอาชอล์กไปว่าคาถาแล้วขีดรอบบ้าน กระบวนการป้องกันคุณไสยดำเนินไปอย่างเร็ว

แต่พอสายๆ มิรันตีก็มาดึงผ้ายันต์ออกกองที่พื้นเป็นสิบผืน สายสิญจน์อีกกองโต โวยวายว่า

“ใคร หน้าไหนเอาของบ้าๆปัญญาอ่อนพวกนี้มาทำรกบ้านฉัน ต้องเป็นพวกนังแม่มดหมอผีสิบแปดมงกุฎหวังจะมาหลอกขายของให้คนดีๆเขาหลงงมงาย ล่ะสิ อยากจะได้นักใช่ไหม ทรัพย์สินของคนอื่นน่ะ”

ติณห์ขอให้ใจเย็นๆ เพราะของพวกนี้จะช่วยปกป้องแม่ เลยถูกด่าว่าบ้าไปอีกคนแล้วหรือ ด่าญาณินว่าแม่มดจอมเสี้ยมไล่ให้ไปไกลๆอย่ามายุ่งกับครอบครัวตน

“พวกเรา ไม่มีใครคิดร้ายกับคุณแม่ เราเห็นว่าคุณแม่อาจตกเป็นเป้าของมือที่สามที่ไม่หวังดี...ที่เขาใช้วิชามาร มากลั่นแกล้งทำร้ายคุณแม่ พวกเราก็แค่อยากช่วยป้องกัน”

ญาณินพยายาม ชี้แจง ติณห์เข้ามาช่วย บอกมิรันตีว่าตนเคยเจอควายธนูจะเอาชีวิต โดนทำเสน่ห์ยาแฝดจนเป็นบ้าเกือบตาย ก็ได้ญาณินและทุกคนช่วยไว้ ถูกมิรันตีหาว่าเขาบ้าไปแล้ว พอดีเบญจาโผล่มาสอดรู้สอดเห็น มิรันตีจึงใช้ให้เอาผ้ายันต์กับสายสิญจน์ไปทิ้งถังขยะเสีย ป้าออมองหน้าญาณินเชิงถามเธอ ให้นิ่งเสีย เรื่องจะได้จบๆไป

ooooooo

วัน นี้ หมอวรวรรธกับเนตรสิตางศุ์ช่วยกันทำอาหารรอกินพร้อมณัฐเดช เธอห้ามหมอแตะต้องทุกอย่างจนกว่าพี่ชายจะมาลงมือก่อน เพราะกลัวพี่ชายจะน้อยใจ

แต่รอแล้วรอเล่าจนเลยเวลานัดไปแล้วณัฐเดชก็ยังไม่มาทั้งที่ปกติเขาเป็นคนตรงต่อเวลา พอหมอวรวรรธบ่นหิว เธอขอให้รออีกสิบห้านาที พูดอย่างเกรงใจหมอว่า

“อดทนนิดนึงนะคะ ไม่งั้น ถ้าพี่ณัฐมาถึงเห็นเรากินกันไปก่อนไม่รอ เดี๋ยวพี่ณัฐจะแอบเคือง นะคะ...นะคะ”

หมอ วรวรรธบอกว่าปกติณัฐเดชไม่เคยผิดเวลา ถามว่าหรือเราจะโทร.ถาม เนตรสิตางศุ์รีบห้ามกลัวพี่ชาย จะหาว่าเราจิกเขา ให้อดทนรออีกนิดถ้าไม่มีอะไรเดี๋ยวเขาคงโทร.มาเอง

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 4 วันที่ 30 ก.ย. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ระยะเวลาออกอากาศตอนแรกเริ่มวันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556
ที่มา ไทยรัฐ