หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 10-11 วันที่ 16 ต.ค. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 10

“ผมปลอดภัยดี ญาณิน...แต่ไม่รู้ว่าศัตรูของเราเป็นคนเหมือนเราหรือเป็นอะไร มันต้องการอะไร มันมีความสามารถทำเรื่องเหนือธรรมชาติที่เราเดาไม่ได้เลย”

ญาณินถามว่าเขากลัวหรือ ติณห์ยอมรับว่ากลัวแต่ตนทิ้งแม่ไม่ได้

“เราจะไม่ทิ้งกันค่ะ จะไม่มีใครทิ้งใครทั้งนั้น ณินก็จะสู้ไปกับคุณ แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ข้างๆคุณ แต่คุณก็รู้ใช่ไหมว่า จิตใจฉันจะมาช่วยคุณเสมอ...ระวังตัวด้วยนะคะ ฉันต้องไปแล้ว คุณต้องเข้มแข็งนะติณห์...คุณจะหลงรักเบญจาหรือเปล่า?”

ติณห์ตัดพ้อว่าอย่าถามแบบนี้อีก ไม่ใช่ตนต้องเข้มแข็ง เธอเองก็ต้องเข้มแข็งและเชื่อใจตนด้วย

“ขอโทษค่ะขอโทษ ค่ะฉันจะเชื่อใจคุณ ฉันรู้ว่าคุณต้องเสี่ยงอันตราย อยู่ใต้สภาวะกดดันแค่ไหน”


ติณห์ขอกำลังใจ ญาณินบอก “สู้ๆค่ะ ไฟติ้ง” ติณห์ตอบอย่างเข้มแข็งว่า “ไฟติ้ง!!” แล้วโผเข้ากอดกันทั้งที่สัมผัสกันไม่ได้...เป็นได้แค่ความรู้สึกว่าได้กอด เท่านั้น แต่ต่างก็ได้กำลังใจ มีความสุขแล้ว...

ooooooo

คืนนี้ กรรณานอนอย่างมีความสุขเมื่อคิดถึงที่พงอินทร์บอกว่าขอให้พิมอรคุ้มครองคนที่ตนรักด้วย ทั้งยังได้รับโทรศัพท์จากพงอินทร์โทร.มาออดอ้อนหลายครั้ง

ขณะกำลังจะหลับ มีเสียงโทร.เข้ามาอีก เธอยิ้มลุกขึ้นรับสายคิดว่าเป็นพงอินทร์โทร.มาอีก แต่แล้วก็ตกใจผงะเมื่อเสียงปลายสายเป็นผู้หญิงพูดข่มขู่อาฆาตว่า

“ฮิๆๆเตรียมตัวไว้ให้ดี ฉันจะเอา...แก...ลงนรก!!”

ส่วนปาร์คจุนจีกลับมาเล่นละครต่อ กรรัมภาไปหาเขาขณะถ่ายละครในโรงแรมหรู เจอซองซูจึงยืนคุยกัน จุนจีเห็นกรรัมภาคุยกับซองซูอย่างสนิทสนมก็หึง บ่นอย่างหงุดหงิด

“สั่งให้มาหาเรา แต่กลับไปคุยกับคนอื่น เสียแรงที่อุตส่าห์...หึ!”

พอดีกรรัมภาหันไปเห็นจุนจี เธอผละจากซองซูวิ่งไปหาทันที ซองซูบ่นอย่างเจ็บใจว่า

“โธ่เว้ย...ไอ้ซุปเปอร์สตาร์หน้าเก๊ก แกจะโชคดีไปถึงไหนวะ ทั้งงาน ทั้งผู้หญิงแย่งซองซูสุดหล่อไปหมด! แล้วนี่เมื่อไหร่จะได้ถ่ายเสียทีเนี่ย มาตั้งแต่ไก่โห่มีแค่สองฉาก โธ่เว้ย...ซองซู เห็นทีกลับเกาหลีหนนี้ ต้องไปโมหน้าใหม่เอาให้หล่อกว่าไอ้จุนจีเลย!”

เวลาเดียวกันนี้ อรวีขับรถมาหาจุนจีมีกุมาริกาแอบนั่งรถมาด้วย เธอนั่งบ่นว่ามาหาจุนจีทีไรใจคอไม่ดีทุกที แต่เอาเถอะ เพื่ออติเทพ ยอมทนให้จุนจีโขกสับอีกสักครั้งจะเป็นไรไป

อรวีจอดรถแล้วหันไปหยิบกระเป๋าและซองเอกสาร ปรากฏว่ากุมาริกาหายไปแล้ว

จุนจีกำลังถ่ายทำละครอยู่ เขาต้องเข้าฉากรักกับเป้ย แต่ขณะกำลังจะจูบเป้ยนั้น จุนจีชะงักหน้าถอดสี เมื่อเห็นกุมาริกาขี่หลังเป้ยอยู่ ซ้ำยังทำหน้าทะเล้นหลอกเขาอยู่ไปมา

“อ้าวเฮ้ย...ทำไมไม่จูบสักที ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ อย่างกับเห็นผี คัท!” ผู้กำกับบ่น ตะโกนถาม “เป็นอะไรไปจุนจี เมื่อกี๊อารมณ์เป๊ะแล้ว ทำไมไม่เล่นต่อ”

“นั่นซิจุนจี...ทำไมไม่จูบล่ะคะ เป้ยหลับตารอตั้งนาน”

“ผม...ผม...ผมเห็นผีเด็ก!!”

กรรัมภาได้ยิน เธอถอดถุงมือจับไปที่บ่าจุนจี แล้วเธอก็เห็นกุมาริกากำลังขี่หลังเป้ยแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกจุนจีอยู่ เธอสั่งให้หยุดเดี๋ยวนี้ สั่งกุมาริกาให้ตามตนมา ถามว่ามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง กุมาริกาทำหน้าจ๋อยบอกว่าอยากมาเจอดารา กรรัมภาดุว่ามาทำให้ชื่อเสียงจุนจีเสียหมด ปรามว่าวันนี้จะปล่อยไปก่อน ต่อไปอย่าทำอีกไม่อย่างนั้นเจอเจ๊แซ่บเอาแน่

ooooooo

เมื่อพักการถ่ายทำ จุนจีเดินหัวเสียมาหาอรวีที่นั่งรออยู่พร้อมซองเอกสาร พอเจอหน้า เขาก็ใส่ไม่ยั้ง...

“ที่ผมพูดไปทั้งหมด ไม่เข้าใจกันรึไง ยังจะมาหาผมอีก ผมได้หลักฐานแน่นอนเมื่อไหร่ ผมแจ้งตำรวจจับพวกคุณแน่!” ลีจองกุ๊กกับกรรัมภาเห็นอรวีหน้าเสียน่าสงสาร บอกจุนจีว่าดูหน้าอรวีแล้ว เธอเองคงไม่อยากมาหรอก

จุนจีถามสวนว่า“รู้ได้ไง! คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ บางคนอาจจะพร้อมที่จะฆ่าคนทั้งๆที่ร้องไห้อยู่ก็ได้”

“ถ้าคุณไม่อยากเห็นหน้าฉันมาเกะกะคุณอีก ก็ช่วยเซ็นเอกสารยอมรับพินัยกรรมอีกใบให้ครบซีคะ ฉันสัญญาค่ะ ว่าจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย นะคะ...ช่วยเซ็นให้ครบเสียที” อรวีอ้อนวอนน่าสงสาร

“ผม-ไม่-เซ็น” จุนจีตะโกนใส่

อรวีร้องไห้โฮ ระบายความอัดอั้นทั้งน้ำตา “ทำไมคุณถึงดื้ออย่างนี้! รู้ไหมว่าฉันอึดอัดใจแค่ไหนที่ต้องมาเจอหน้าให้คุณด่าคุณไล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” จุนจีบอกว่า เพราะเธอทำผิดรวมหัวกันฆ่าคุณย่าตน “หา! อย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ฉันไม่ได้ทำ”

จุนจีโต้ว่าถ้าเธอไม่ได้ทำก็ต้องรู้เห็นแน่ๆ เพราะเธอเป็นคนเอากุญแจเซฟของคุณย่ามาให้ แต่พอตนเปิดพบแต่สร้อยเพชรปลอม คาดคั้นดุดันว่า “คุณสารภาพมาเสียดีๆ ใครเป็นคนไปเปิดตู้เซฟแล้วขโมยสร้อยเพชรคุณย่าผมไป คุณ!หรือใคร? บอกมา!”

อรวียืนยันว่าตนไม่รู้เรื่อง เธอร้องไห้อย่างหนัก จนลีจองกุ๊กกับกรรัมภาเห็นท่าไม่ดี ไปช่วยดึงจุนจีออก เตือนสติเขาว่าที่นี่มีนักข่าวเต็มไปหมด โวยวายแบบนี้เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ แต่จุนจีของขึ้นเสียแล้ว เขาไม่ยอมปล่อยแขนอรวี กรรัมภาจึงเข้าไปแกะมือเขาออกจากแขนอรวี
สัมผัสนี้เอง! ทำให้กรรัมภาเห็นภาพในอดีต...

...ที่บ้านไม้หลังซอมซ่อ มีเด็กหญิงคนหนึ่งสวมชุดนักเรียนเก่าๆ นั่งร้องไห้ที่แคร่ไม้ผุๆหน้าบ้าน พอเงยหน้าขึ้นเป็นหน้าเด็กหญิงผมยาวปล่อยรุงรัง ใบหน้าซีดขาว หน้าเหมือนกุมาริกาไม่มีผิด! เด็กคนนั้นกำลังร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน น้ำตาไหลนองแก้ม...ปากก็พร่ำเรียก...“แม่จ๋า...ฮือๆๆ”

กรรัมภายืนอึ้งตะลึงงัน!

อรวีก้มเก็บเอกสารที่ถูกจุนจีปาทิ้งแล้วรีบออกไป ลีจองกุ๊กตามไปขอโทษแทนจุนจี ถูกจุนจีตะโกนถามว่าไปขอโทษทำไมพวกเขาเป็นคนฆ่าย่าตน!

พอจุนจีหันกลับมาเห็นกรรัมภายังยืนตะลึงอยู่ เขารีบไปจับไหล่เขย่าเรียก

“เป็นอะไรไปคุณแก้ม!”

กรรัมภารู้สึกตัวกะพริบตาถี่ๆ หลุดจากภาพที่เห็น เล่าเสียงเหมือนละเมอว่า...

“เมื่อกี๊ตอนที่จับตัวคุณอรวี ฉันเห็นภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าเหมือนผีเด็ก เอ๊ย...โกลเด้นเบบี้ที่คุณเห็นขี่หลังคุณเป้ยเมื่อกี๊ อย่างกับเป็นคนคนเดียวกันเลย”

“อ้าว...แล้วไงครับ วิญญาณผีเด็กที่เพื่อนคุณเลี้ยงไว้มาเกี่ยวอะไรกับเลขาทนายของคุณย่าผมล่ะ?” จุนจีถามงงๆ

ooooooo

เมื่อกลับมาเล่าให้สมาชิกในซิกซ์เซ้นส์ฟัง สุคนธรสบอกว่ามันคนละเรื่องกัน กุมาริกาจะไปเกี่ยวกับอรวีได้อย่างไร

จุนจีที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็สงสัย ถามว่าอรวีกับเด็กผีที่พวกเธอเลี้ยงไว้มันเกี่ยวกับการตายของคุณย่าตนหรือเปล่า สุคนธรสตอบทันทีว่าโกลเด้นเบบี้ของตนไม่เกี่ยว กรรัมภาก็ยังยืนยันว่าตนเห็นภาพนั้นชัดมาก เด็กหญิงคนนั้นหน้าเหมือนโกลเด้นเบบี้อย่างกับแกะ

เนตรสิตางศุ์บอกว่าภาพที่กรรัมภาเห็นไม่เคยพลาดสักครั้ง เด็กคนนั้นอาจเป็นโกลเด้นเบบี้ก็ได้ สุคนธรสยังยืนกรานว่าไม่ใช่แน่

“ถ้าอย่างนั้น เด็กผู้หญิงคนนั้นที่คุณแก้มเห็นจากคุณอรวีเป็นใครล่ะครับ” จุนจีสนใจขึ้นมา เป็นคำถามที่ทุกคนตอบไม่ได้ ครู่เดียวหมอวรวรรธโพล่งออกมาว่า ถ้าอย่างนั้นเราต้องสืบเรื่องนี้จากศพ เนตรสิตางศุ์ถามว่าศพใคร?

“ก็ศพโกลเด้นเบบี้น่ะซีครับ ผมก็อยากรู้มานานแล้วว่ากำเนิดของโกลเด้นเบบี้เป็นยังไง” หมอเอ่ย

สุคนธรสติงว่าศพของกุมาริกาไม่มีเพราะหลวงปู่ทำพิธีแล้ว ญาณินถามว่าปกติพวกกุมารทองต้องมีศพเด็กก่อนไม่ใช่หรือ สุคนธรสคิดทบทวนแล้วตอบอย่างมั่นใจว่า

“ไม่ใช่...เพราะโกลเด้นเบบี้ ไม่ใช่กุมารทองแบบเก่าๆแบบนั้น กำเนิดโกลเด้นเบบี้ มันนานมากแล้วตอนนั้นฉันยังเด็กๆเพิ่งเรียนวิชากับพระอาจารย์ปู่ พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่ากุมาริกาตัวนี้เป็นวิญญาณของเด็กที่ตายหลังจากคลอดออกมาไม่นาน...”

สุคนธรสเล่าย้อนหลังไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน... มีแม่วัยสาวคนหนึ่งที่ยากจน ทรุดโทรมและหมดแรงเพราะเพิ่งคลอดลูกมาใหม่ๆพนมมือหน้าศพทารกแรกเกิดห่ออยู่ในผ้าขนหนูเก่าๆ เมื่อหลวงปู่เดินอุ้มบาตรมา แม่วัยสาวพนมมือเอ่ย

“ลูกสาวของอิฉันมันบุญน้อยค่ะหลวงพ่อ เกิดออกมาดูโลกไม่ทันได้ลืมตาก็ตายเสียแล้ว อิฉันมันจน อยากจะทำศพให้ลูกก็ไม่มีเงิน จะฝังศพทิ้งไว้หลังบ้านเหมือนหมูเหมือนหมาก็สงสารมันเหลือเกิน หลวงพ่อช่วยเมตตามันด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

หลวงพ่อส่งบาตรให้เด็กวัดถือแล้วเปิดผ้าคลุมหน้าทารกออก เห็นหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู หลวงพ่อหลับตาเพ่งกรรมฐานอย่างเกจิผู้แก่กล้าวิชา ครู่เดียวก็ลืมตาขึ้นบอกแม่เด็กว่า

“ไม่ต้องห่วงนะโยม อาตมาจะช่วยทำพิธีจัดการศพลูกของโยมให้เอง”

สุคนธรสเล่าต่อว่า “หลังจากพระอาจารย์ปู่เพ่งกรรมฐานแล้วเห็นว่า วิญญาณของเด็กคนนี้ยังไม่ถึงเวลาไปเกิด จึงได้ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณดวงนี้มาสถิตอยู่ในรูปหล่อกุมารทองเนื้อเรซิน กุมาริกาตนนี้ไม่เหมือนกุมารทองตนอื่นๆที่มักมาจากเดรัจฉานวิชา นำเด็กที่ตายท้องกลมมาทำพิธีย่างให้แห้งแล้วลงรักปิดทองปลุกเสกตามตำรา แต่สำหรับเจ้ากุมาริกาหรือโกลเด้นเบบี้ของพวกเรานั้น เกิดจากไสยขาว”

เมื่อพระอาจารย์ทำพิธีเสร็จ วิญญาณดวงน้อยก็ลอยเข้าไปที่รูปหล่อกุมาริกา พริบตานั้น รูปหล่อก็ขยับ แล้วตีลังกากลับหัวเท้าชี้ฟ้าอย่างซุกซนขี้เล่นหัวเราะคิกคักทักทายเด็กๆเสียงใส...พระอาจารย์ลืมตาขึ้นมองไปที่รูปหล่อใบหน้าฉาบยิ้ม...

ฟังสุคนธรสแล้ว หมอบอกว่าก่อนตายกุมาริกาต้องมีพ่อแม่พี่น้องเหมือนพวกเราทุกคน สุคนธรสบอกว่ามี แต่ตอนที่ตนขอกุมาริกามาช่วยงาน หลวงลุงไม่ทันได้เล่าว่าพ่อแม่กุมาริกาเป็นใครอยู่ที่ไหน เนตรสิตางศุ์เสนอให้ถามเจ้าตัวดู ญาณินเห็นด้วย บ่นว่าแต่พักนี้ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเลย

แต่พอสุคนธรสพนมมือท่องคาถาเรียก กุมาริกาไม่มา เธอสงสัยว่า กุมาริกาหายไปไหน?

ooooooo

ที่แท้กุมาริกาตามอรวีกลับไปที่คอนโด เล่าให้อติเทพฟังเรื่องเพชรปลอมในตู้เซฟ ถามว่าเขาทำใช่หรือไม่ ทำทำไม!

อติเทพตกใจพาลโมโหอรวีไล่ตะเพิดเธอออกจากห้อง ทั้งที่เป็นห้องของเธอ อรวีกลัวจนร้องไห้วิ่งหนีออกไป

“ไอ้ผู้ชายเลว รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ หนูเกลียดดดด!” สิ้นเสียงกุมาริกา ข้าวของในห้องก็พุ่งเข้าใส่อติเทพจนต้องหลบไปอยู่หลังโซฟา แล้วค่อยๆโผล่หัวขึ้นดูอย่างมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้น?

ส่วนกุมาริกาแอบขึ้นรถอรวีไป เห็นเธอขับรถเร็วอย่างขาดสติ ก็เตือนว่าระวังอันตราย อรวีได้ยินถามว่าใครพูด กุมาริกาพูดอีกว่า “หนูรู้ว่าพี่กำลังเสียใจ แต่ถ้าพี่จะทำอะไรตัวเอง หนูไม่ยอมเด็ดขาด” อรวีถามอีกว่าใครพูด! กุมาริกาบอกว่า “พี่คาดเข็มขัดเสียก่อนเถอะนะ แล้วหนูจะบอก”

อรวีเบรกรถเอี๊ยด...ก้มมองตัวเอง เห็นเข็มขัดนิรภัยดึงมาคาดให้ตน แต่ไม่เห็นว่าใครทำ เธอตกใจ

“ไม่ต้องตกใจ หนูเป็นคนคาดเข็มขัดให้พี่เอง”

อรวีหันมองเบาะหลัง เห็นกุมาริกาค่อยๆโผล่ให้เห็น เธอกรีดร้องสุดเสียง...

ooooooo

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 11

วันนี้ ระหว่างที่เบญจามาช่วยมิรันตีตรวจซุ้มจัดเลี้ยงอยู่นั้น เธอพยายามกรีดนิ้วหมายให้มิรันตีได้เห็นแหวนที่ติณห์ให้ มิรันตีไม่ทันเห็น แต่ทนายสมชาติที่สังเกตอยู่ทักขึ้นว่า

“แหวนใหม่เหรอครับ เห็นหนูเบญจาดูปลาบปลื้มตลอดเวลา”

“แหวนพี่ติณห์ให้เบญจาเมื่อวานค่ะ” เธอแกล้งตอบเสียงดังให้มิรันตีได้ยิน

ได้ผล! มิรันตีหันขวับมองแหวน อุทาน “โอ้มายกู๊ดเนส...นี่ติณห์ขอหนูแต่งงานโดยไม่บอกฉันก่อนได้ยังไงกัน!”

เบญจา รีบแก้ว่าติณห์ยังไม่ได้ขอแต่งงานแต่เป็นแหวนที่ติณห์สวมจับจองไว้เป็นรัก เดียวของติณห์ มิรันตียิ่งสงสัย ถามว่ามีอย่างนี้ด้วยหรือ อยู่ๆก็เอาแหวนมาให้แต่ไม่ขอแต่งงาน พึมพำ “มันจะมาไม้ไหนหรือเปล่า?”

ติณ ห์ได้ยินถึงกับเซ็ง กลัวจะระแวงกันจนแผนตนเสีย เลยรีบเข้าไปโอบเอวเบญจาทำเป็นบ่นว่ามิรันตีใช้งานเบญจาหนักเกินไปจนน้อง หน้าซีดเหน็ดเหนื่อยมาก บอกว่าแม่ควรให้เบญจาพักได้แล้ว ว่าแล้วตระกองกอดพาเบญจาออกไปเลย

มิรันตีมองตามพึมพำพอใจ “เบญจานี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ แป๊บเดียวเท่านั้น ตาติณห์ติดหนึบไม่ยอมให้อยู่ห่างเลย”

ทนายสมชาติบ่นว่าเห็นอย่างนี้แล้วอดสงสารญาณินไม่ได้ ถูกมิรันตีตวาดให้หุบปากห้ามเอ่ยชื่อญาณินให้ได้ยินอีก

“เยส มาดาม” ทนายสมชาติยิ้มแหยๆ

“นังญาณิน...ถ้าฉันยังไม่ตาย อย่าหวังเลยว่าแกจะได้รักกับลูกชายฉัน” มิรันตีจิกตาร้าย

ooooooo

ด้วยความเป็นห่วงติณห์ ญาณินจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านกำนันพงษ์สถานที่สงบเงียบ เพื่อถอดจิตไปดูแลติณห์ให้ใกล้ชิด โดยมีป้าออมาเป็นเพื่อน

ป้าออไม่สบายใจที่มาอยู่บ้านกำนันพงษ์ ญาณิน บอกว่ากำนันพงษ์อนุญาตแล้วและตนก็นัดพบกับกำนันที่นี่ด้วย

“หา! แต่กำนันพงษ์อยู่ในคุกไม่ใช่เหรอคะ”

“ใช่ ค่ะ...เอาน่าป้าออ อย่าลืมสิคะ เขาก็เคยเรียนวิชาอาคมขั้นสูงมา ถึงเลิกเรื่องไสยศาสตร์ไปแล้ว แต่ความสามารถในการปฏิบัติจิตก็ยังมีอยู่”

เมื่อคนเฝ้าบ้านมาเปิดประตูรับทั้งสองเข้าไปในบ้านแล้ว ญาณินหาที่เหมาะๆนั่งขัดสมาธิทันที ป้าออถามว่าจะลุยเลยหรือ ไม่พักผ่อนเลยหรือ

“ป้า ไม่ต้องห่วงณินหรอกค่ะ เราหาคำตอบได้เร็วเท่าไหร่ คุณติณห์ คุณหลวง เพื่อนๆณิน รวมทั้งป้า ก็จะพ้นภัยจากเบญจาได้เร็วเท่านั้น เพราะณินเชื่อว่า ถึงเราจะออกจากที่นั่นแล้ว แต่เบญจาก็ไม่มีทางเอาพวกเราไว้” ป้าออตกใจถามว่า เบญจาต้องการอะไรแน่ “ตัวตนที่แท้จริงของเบญจาเท่านั้น ที่จะตอบคำถามทุกอย่างให้เราได้”

พูดแล้วญาณินหลับตาเข้าสู่สมาธิ ถอดจิตโปร่งใสออกจากร่าง...

ooooooo

ติณห์หลอกล่อเบญจาไปปูเสื่อนอนเล่นที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาหวานเสียจนเบญจาเคลิ้ม

เวลา เดียวกัน ญาณินถอดจิตมาที่รีสอร์ต เห็นติณห์หวานกับเบญจามากก็อดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ จนคุณหลวงมาเร่งให้รีบไปทำงาน ทั้งสองจึงรีบไปที่ห้องพักของเบญจา ลงมือค้นหากระเป๋าใบนั้นของเบญจาทันที

ส่วนมิรันตีกับทนายสมชาติยังมา ดูแลควบคุมการเตรียมสถานที่จัดเลี้ยงอยู่ มิรันตีรู้สึกว่ามีสายตาใครบางคนแอบดูตนอยู่ แต่พอมองไปก็ไม่เห็นอะไร จึงให้ทนายสมชาติไปดูให้ แต่ทนายสมชาติก็ไม่พบอะไรผิดสังเกต

แต่ที่มุมไกล มีใครคนหนึ่งท่าทางโทรมๆ เดินอยู่แว้บๆ...

เบญจา กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับติณห์ เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูป กดแชะขณะอิงแอบแนบชิดกระทั่งจุ๊บกันอยู่ แล้วเปิดดูอย่างหลงใหล พลันก็ตกใจเมื่อเห็นชายโทรมๆ คนหนึ่งติดอยู่ในรูปด้วย เบญจาตกใจกลัวติณห์เห็น ทำทีมีโทร.เข้าแต่สัญญาณไม่ดี ลุกเดินไปคุยห่างออกไป

ติณห์โล่งอกที่เบญจาลุกออกไป แต่ใจกลับเป็นห่วงญาณินภาวนาขอให้เธอทำงานได้ทันเวลา

ญาณินกับคุณหลวงกำลังเร่งมือค้นหากระเป๋าใบนั้นของเบญจา แต่หาอย่างไรก็ไม่เจอ คุณหลวงฉุกคิดได้ว่าหาด้วยตาไม่เห็นก็คงต้องใช้ไหวพริบ สะกิดให้ญาณินคิดได้ว่า

“ใช่...เบญจามีวิชาอาคม ถ้าในกระเป๋านั่นมีความลับของเขาซ่อนอยู่ เขาต้องเก็บมันไว้แบบผีบังตา หนูขอใช้วิธีผีหาผีแบบขั้นพื้นฐานก่อนนะ” ว่าแล้วญาณินโก้งโค้งมองลอดหว่างขาตัวเอง

“ได้ผล! เธอเห็นผีตายโหงสาวตัวหนึ่งนั่งโอบกระเป๋าใบนั้นอยู่ที่มุมห้อง เธอตกใจเด้งหงายหลัง บอกคุณหลวงว่า

“กระเป๋า อยู่ตรงนั้น แต่มีผีตายโหงเฝ้าอยู่ ท่าทางมันเฮี้ยนมาก...แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูมีคาถาสะกดวิญญาณขั้นสูงที่ยัยรสสอนให้ติดตัวเอาไว้ใช้”

คุณหลวงเร่งให้รีบจัดการเลย ญาณินยืนพนมมือเริ่มสวดคาถาสะกดวิญญาณทันที

ooooooo

เบญจา เดินห่างออกไปจนลับตาคนแล้วจึงลดมือถือที่แกล้งทำเป็นมีคนโทร.เข้าลง ทันใดชายโทรมๆ คนนั้นก็มายืนอยู่ข้างหลังเธอแล้ว เบญจาหันขวับพึมพำตกใจ

“ในที่สุด...คุณก็มา!” ชายคนนั้นหัวเราะน่ากลัว เดินเข้ามาจ้องหน้าเบญจา สมคิดนั่นเอง!

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 10-11 วันที่ 16 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ