สุพิชชารุกไปอีกก้าว เข้าไปทำอาหารที่บ้านณัฐเดช อ้างว่าเพื่อแบ่งเบาภาระของเนตรสิตางศุ์
เนตรสิตางศุ์ทนไม่ได้ที่ณัฐเดชให้สุพิชชาเข้ามาวุ่นวายในบ้าน ซํ้ายังคลอเคลียนัวเนียกับณัฐเดช จนเนตรสิตางศุ์กลายเป็นส่วนเกินไป แต่เพราะณัฐเดชให้ท้ายสุพิชชา เนตรสิตางศุ์จึงจำต้องนั่งทานอาหารที่สุพิชชาทำ แต่เธอถูกเบียดกระเด็นจากที่นั่งประจำของตัวเอง และสุพิชชาเข้านั่งคู่กับณัฐเดชแทน!
หมอวรวรรธจะมาทานอาหารด้วยตามนัด เนตร-สิตางศุ์ชวนออกไปทานข้างนอกกันดีกว่า ถูกทั้งณัฐเดชและสุพิชชาชวนแกมบังคับให้ทานเสียด้วยกัน หมอวรวรรธจึงจำต้องนั่งลงอีกคน
สุพิชชาทำทีวานหมอให้ไปช่วยทุบนํ้าแข็งในห้องครัว ระหว่างนั้นก็เข้านัวเนียอ่อยหมายให้ณัฐเดชไม่พอใจ และห้ามมาเจอเนตรสิตางศุ์อีก และถ้าเนตรสิตางศุ์ รู้เธอก็จะไม่เชื่อใจหมออีกต่อไป
หมอวรวรรธรู้ทันพยายามจะเบี่ยงตัวออก ก็พอดีเนตรสิตางศุ์ไม่พอใจณัฐเดชที่ตำหนิตนว่าเอาแต่ใจนิสัยเสียจะให้สุพิชชามาดัดนิสัยและจัดระเบียบบ้านใหม่
“เนตรไม่ทาน”
“ยัยเนตร!!” เดี๋ยวนี้ฤทธิ์มากขึ้นเยอะ พี่ขอโทษด้วยนะคะพีช” ณัฐเดชดุน้องเอาใจแฟน
สุพิชชากระหยิ่มที่ณัฐเดชอยู่ข้างตน มองเนตร-สิตางศุ์อย่างสะใจ!
ooooooo
ที่รีสอร์ต...ติณห์โยนกระเป๋าใส่รถจะออกไปจากรีสอร์ต มิรันตีมาขวางไม่ยอมให้ไป ถามว่าจะไปง้อยัยยิปซีใช่ไหม
“มัม...มัมห้ามผมไม่ได้หรอกครับ” ติณห์ไม่ฟังเสียง มิรันตียื้อยุดติณห์และเรียกทนายสมชาติให้มาช่วยอีกคน พลันก็เกิดลมแรงฟ้าแลบกลุ่มเมฆเคลื่อนมาอย่างเร็ว ทุกคนแปลกใจกับปรากฏการณ์ฉับพลันนั้น พริบตานั้นเกิดฟ้าผ่าเปรี้ยง! ทุกคนตกใจ ติณห์อาศัยจังหวะนั้นขึ้นรถจะขับออกไป แต่สตาร์ตรถไม่ติด เครื่องรวนไปหมด
ติณห์มองไปนอกรถเห็นหมอกเมฆมืดไปหมด มิรันตีกับทนายสมชาติก็หายไปแล้ว แต่กลับเห็นเบญจาเยื้องย่างเข้ามาอย่างยั่วยวน ติณห์มองตะลึงหลงใหลในทันที โผเข้ากอดพรํ่าบอกอย่างคลั่งไคล้เหมือนโดนของ
“เบญจา...พี่รักเบญจา...รักมาก...ชีวิตพี่ขาดเบญจาไม่ได้...” พลางดึงเบญจาเข้าไปกอด...จูบอย่างดูดดื่ม ปรากฏการณ์นี้ทำให้คุณหลวงกับกุมาริกามึน
ถามกันว่า ทำไมมันกลับตาลปัตรแบบนี้...เขาไปรักกันตอนไหน??
วันต่อมา ติณห์พาเบญจาขี่ม้าตัวเดียวกันนั่งโอบพาเธอชมวิวหยอกล้อหัวเราะกันอย่างมีความสุข มิรันตีรีบเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปพูดกับทนาย
สมชาติอย่างสมใจว่า สองคนนี้เหมาะสมกัน น่ารักมาก ทนายสมชาติพึมพำว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดูแปลกๆ
คุณหลวงที่ดูอยู่ เชื่อว่าติณห์จะไม่มีวันรักใครนอกจากญาณิน กุมาริกาโกรธ ตะโกนอย่างขัดใจว่า
“หนูเกลียดพี่ติณห์” แล้วก็ฉุกคิดว่าติณห์เคยหลงเพนนีแบบนี้ กุมาริการ้อง “เฮ้ย!! ใช่! อาการหลงหัวปักหัวปํา อย่างนี้มันเหมือนตอนที่พี่ติณห์ถูกยัยเพนนีทำเสน่ห์!”
สองตาหลานมองหน้ากันตาโตเมื่อนึกถึงเรื่องติณห์ถูกทำเสน่ห์อีก!!
ooooooo
ญาณินเป็นห่วงติณห์ยกมือถือจะโทร.หาเขา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจไม่โทร. กรรณาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงติณห์ เพราะติณห์เป็นคนดีและเขาก็รักเธอมาก ที่สำคัญเธอก็สอนติณห์นั่งสมาธิแล้วด้วย
“ใช่ สมาธิจะทำให้เขามีสติมีปัญญาที่จะช่วยคุ้มครองเขา” ญาณินมั่นใจขึ้น
ฝ่ายติณห์แสดงความคลั่งไคล้ใหลหลงเบญจาจนคุณหลวงกับกุมาริกาเชื่อว่าติณห์ถูกทำเสน่ห์แน่ๆ
“ไอ้ติณห์...มีสติหน่อย เอ็งปฏิบัติสมาธิจนสื่อสารกับข้าได้แล้ว กะอีแค่เสน่ห์มนต์ดำชั้นต่ำ เอ็งต้องเอาชนะมันได้สิ” คุณหลวงพยายามเตือนสติติณห์
เบญจาเข้าครัวกับติณห์นัวเนียกันทำอาหารจนเสร็จ เบญจาบอกให้ติณห์ไปตามมิรันตีมาทานข้าวด้วยกัน ติณห์รีบออกไป แต่พอเดินไปถึงหลังบ้าน ติณห์ก็แอบโทร.หาญาณิน
ญาณินดีใจมากที่ได้รับโทรศัพท์จากติณห์ เธอตกใจเมื่อเขาบอกว่าถูกเบญจาทำเสน่ห์ใส่ แต่ก็พูดให้เธอสบายใจว่า
“ต้องขอบคุณผ้ายันต์ของคุณรสที่ช่วยคุ้มครองผม แต่ก็ไม่รู้จะรอดไปได้อีกนานแค่ไหน” ติณห์แกล้งยั่ว ญาณินขอให้เขาอดทนเล่นละครต่อไปอย่าให้เบญจาจับได้และที่สำคัญ อย่าอินมากไป! “ผมทำไม่ได้หรอก เว้นแต่คุณจะลงของให้ผมเพิ่ม...รักผมไหม?”
ติณห์อ้อนจนญาณินตอบว่ารัก พอดีมีสายเข้าเธอจึงขอวางสายก่อน ย้ำให้เขาดูแลตัวเองดีๆ
วางสายแล้วติณห์ยังยิ้มค้าง ต้องพยายามอยู่อึดใจจึงทำหน้าเป็นปกติ เดินกลับเข้าไปหาเบญจา
ooooooo
เป็นสายจากสุคนธรสที่ส่งรูปผ้ายันต์ที่ได้จากประตูห้องโบตั๋นมาให้ญาณินดู บอกว่ามันคล้ายกับผ้ายันต์ที่ญาณินถ่ายรูปมาจากสปาของมิรันตี
สุคนธรสบอกว่าผ้ายันต์ที่ตนเจอนั้นเป็นฝีมือของหมอสมคิด และเวลานี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าหมอสมคิดหายไปไหน ชีวิตเป็นอย่างไร ย้ำว่า “โลกของไสยศาสตร์อะไรๆมันก็เป็น ไปได้ทั้งนั้น!” แต่ญาณินก็ยังเชื่อว่านั่นเป็นฝีมือของเบญจา
“จะเป็นเบญจาหรือหมาแมวที่ไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ฉันแน่ใจมากก็คือ มันมีอาคมระดับเดียวกันกับหมอสมคิด แกต้องระวังตัวให้มากๆ เลยนะ” สุคนธสเตือน
“ฉันไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก แต่ติณห์น่ะสิ” ญาณินตอบแววตาเป็นกังวล
ติณห์ยังทำเป็นคลั่งไคล้ใหลหลงเบญจา บอกเบญจาให้ไปอาบน้ำเดี๋ยวจะพาไปเดินเล่นกันริมน้ำตก พอเบญจาไปอาบน้ำติณห์ลงรีบไปค้นกระเป๋าของเธอเพื่อหาหลักฐาน แต่ไม่ทันไรเบญจาก็ใส่เสื้อคลุมออกมาสั่งอย่างไม่พอใจว่า
“วางกระเป๋าหนูลงเดี๋ยวนี้นะพี่ติณห์” ติณห์ตัดสินใจไม่วาง ถือกระเป๋าจะเดินออกไป เบญจาทำปากขมุบขมิบ พริบตาเดียวประตูห้องปิดปังลงกลอนกริ๊ก! เบญจาถามอย่างเป็นต่อว่า “พี่คิดจะทำอะไรคะ”
ติณห์ยังดื้อแพ่งไม่ยอมวางกระเป๋าทำเป็นหึงว่าเบญจาซ่อนรูปผู้ชายไว้ในกระเป๋าจึงหวงไม่ยอมให้ตนดู รำพันว่าชีวิตตนขาดเธอไม่ได้ ใครที่มายุ่งกับเธอมันต้องตาย แต่เพราะเกรงว่าดื้อแพ่งต่อไปเบญจาจะจับได้ ติณห์จึงทำเป็นยอมคืนกระเป๋าให้ เบญจาปรามว่า “ทีหลังอย่ายุ่งกับกระเป๋าของหนูอีก”
ติณห์เข้ากอดเบญจาไว้ พอดีมิรันตีโผล่มาเห็นดีใจดี๊ด๊าว่าสองคนรักกันแล้ว บ่นตัวเองว่าไม่น่ามาขัดจังหวะเลย แล้วรีบถอยกลับไป ส่วนติณห์กับเบญจาผละจากกันเขินๆ
ติณห์ถอนใจโล่งอก ที่กอดนี้กอดเดียว ทำให้คนตายใจได้ถึงสองคน
ooooooo
จุนจีกับกรรัมภายังเดินหน้าสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับ การตายของพิมพิลาส โดยเอาเครื่องเพชรของเธอไปให้ร้านที่ผลิตเครื่องเพชรเหล่านั้นดู เจ้าของร้านเอาเครื่องเพชรไปพลิกดูอย่างละเอียดแล้วปฏิเสธว่า เพชรพวกนี้ไม่ได้ผลิตที่ร้านตน
จุนจีเอาใบเสร็จมายืนยัน เจ้าของร้านรับว่าพิมพิลาสซื้อเครื่องเพชรจากร้านตนไปจริงและเป็นของแท้ แต่ที่เอามานี้เป็นของปลอมทั้งหมด กรรัมภาจึงขอดูของจริง
เมื่อได้สัมผัสเครื่องเพชรชุดจริง กรรัมภาก็เบิกตา
กว้าง จุนจีถามว่าเห็นอะไรบ้าง...เธอตกใจมากแทบวิ่งออกจากร้าน จุนจีรีบตามมาถามว่าเธอเห็นอะไรบ้าง?
“ย่าของคุณ รักสร้อยเพชรชุดนั้นมาก เพราะนาย
อติเทพซื้อให้ด้วยเงินคุณย่าคุณ แต่นายอติเทพร้อนเงินคุณพิมพิลาสไม่ยอมเซ็นเช็คให้ นายอติเทพเลยเอาปืนขู่...”
จุนจีสรุปทันทีว่าอติเทพเป็นฆาตกรฆ่าคุณย่า
กรรัมภาติงว่าอย่าเพิ่งสรุป จุนจียืนยันว่า ที่อติเทพทำเพชร ปลอมขึ้นมาเพื่อสับเปลี่ยนของจริง ถามเธอว่าคนที่กล้าเอาปืนขู่กรรโชกทรัพย์ทำไมมันจะไม่กล้าฆ่าคน
“แต่ภาพสุดท้ายที่คุณย่าคุณเห็นก่อนสิ้นใจ ท่านบอกว่ามีผู้หญิสวมรองเท้าคัทชูสีแดงยืนมองท่านสิ้นลมต่อหน้าต่อตา แล้วมันจะเป็นนายอติเทพได้ยังไง” กรรัมภาบอกว่าตนเห็นแต่ภาพไม่รู้เหตุผลของภาพที่เกิดขึ้น ย้ำว่า “บางทีอาจจะมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่เห็นก็ได้”
จุนจียังตะแบงว่าคนที่ฆ่าคุณย่าต้องเป็นอติเทพ
กรรัมภาด่าว่าคิดอะไรตื้นๆตอกย้ำกับเขาว่า
“ภาพที่คุณย่านายเห็นต้องเป็นความจริง ฆาตกรเป็นผู้หญิง ส่วนนายอติเทพอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”
จุนจียังไม่เชื่อ จะไปแจ้งความ กรรัมภาหว่านล้อมว่าเราต่างมั่นใจสิ่งที่ตัวเองคาดคิด เสนอให้มาหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์กัน ท้าเดิมพันว่า “หาหลักฐานให้ได้ ใครถูกคนนั้นชนะ ใครผิดก็ต้องเต้นควีโยมีดีไหม”
“ตกลง!!” จุนจีรับคำท้าอย่างมั่นใจในความเชื่อของตัวเอง
อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 10 วันที่ 14 ต.ค. 56
บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ