อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 16 วันที่ 29 ต.ค. 56
กรรณาสวนไปว่า “ฉันไม่กลัว” ก็ถูกน้ำหนึ่งเสียงดังใส่ว่าตนกลัว เพราะช่อเพชรเคยขู่เอาชีวิตตน และถ้ารู้ว่าตนช่วยเหลือพวกเธอ ตนอาจเจอแบบที่พงอินทร์เจอก็ได้ พูดแล้วโวยวาย “ฉันกลัว...ฉันไม่อยากตาย”กรรณาเสนอให้ไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยดูแล น้ำหนึ่งถามว่าใครจะดูแลตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้ววิ่งร้องไห้ออกไป พงอินทร์ตามไปปลอบ กรรณามองตามทั้งสองไปฮึดฮัดๆ
พงอินทร์ตามไปคุย น้ำหนึ่งหันกลับมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “โจ้...หนึ่งขอโทษ เมื่อกี๊หนึ่งคิดถึงตัวเองมากไปหน่อย หนึ่งรู้ว่าโจ้รักพี่สาวมาก หนึ่งจะช่วยให้ถึงที่สุด อะไรที่หนึ่งทำได้หนึ่งจะทำ”
“หนึ่งพูดจริงเหรอ” พงอินทร์ดีใจที่ยังไม่ทันพูดอะไรน้ำหนึ่งก็เป็นฝ่ายเสนอตัว
“เริ่มพรุ่งนี้นะ ดูสภาพผมวันนี้ คิดว่าต้องมีคนดูแลผมก่อน”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน แต่พอใบหน้าพ้นสายตาพงอินทร์ยิ้มหวานของน้ำหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นยิ้มร้ายทันที!
ooooooo
มิรันตีถูกพาไปที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ในสภาพหมดสติ แต่พอรู้สึกตัวขึ้นมาเธอก็อาละวาดจะออกไปหา รอบบี้ คิดส์ให้ได้ ด่าติณห์ว่าขัดขวางความรักของตน เพราะตนกำลังจะแต่งงานกับรอบบี้ คิดส์อยู่แล้ว
“ตั้งสติดีๆค่ะ แล้วคุณจะเห็นว่าสิ่งที่คุณรู้สึกมันเป็นแค่มายา ไม่ใช่ความจริง” ญาณินติง กลับถูกด่าหาว่าชีวิตตนพังพินาศเพราะเธอ
มิรันตีวิ่งพล่านจะไปหาสมคิดให้ได้ บอกณัฐเดชขอแจ้งความถูกลักพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยว บอกณัฐเดชต้องพาตนออกไปจากที่นี่ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็แย่งมือถือของก๊องวิ่งเข้าห้องน้ำโทร.หาสมคิดแต่โทร.ไม่ติด ซ้ำถูกคุณหลวงเปิดฝักบัวใส่จนเปียกปอนต้องออกจากห้องน้ำ
ในที่สุดมิรันตีก็ถูกติณห์พาไปอยู่ในห้องหนึ่งที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ให้ก๊องเฝ้าไว้ มิรันตีพูดอย่างไม่ยอมแพ้ว่าขังตนได้แต่ตัวแต่ขังใจไม่ได้ ตนจะอยู่ที่นี่เพื่อดูความพินาศของญาณิน ทุกคนฟังแล้วเซ็ง
หลังจากนั้น ติณห์ ญาณิน เนตรสิตางศุ์ หมอวรวรรธ ณัฐเดชและป้าออ ก็ออกไปนั่งหารือกันที่ใต้ต้นไม้ ณัฐเดชเชื่อว่าการที่เบญจาเข้ามาในชีวิตพวกญาณินไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนตรสิตางศุ์ถามว่าหมอสมคิดส่งเธอมาเพื่ออะไร? หมอบอกว่าเพื่อแก้แค้น ซึ่งติณห์ก็เชื่อเช่นนั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเราเจอศึกหนักอีกแล้วสิคะ” ป้าออวิตก
“หนักมากด้วย...เพราะนังเบญจามันเหมือนหนูเนตร ได้ยินเหมือนหนูกรรณา แล้วยังมีอาคมเหมือนหนูรส นี่ถ้ามันมีเซ้นส์ด้านสัมผัส ได้กลิ่นหรือถอดจิตได้เท่ากับว่า มันคนเดียวมีครบทุกอย่างที่พวกหนูทั้งห้าคนมี” คุณหลวงชี้ให้เห็นอันตรายของเบญจา
เหตุการณ์ที่ใต้ต้นไม้นี้ เบญจาที่นั่งอยู่ในรถกับสมคิดโดยมีกรกฎเป็นคนขับ รับรู้ทั้งหมด ความแค้นติณห์ระอุอยู่ในอก ดวงตาเธอกลายเป็นสีขาว สมคิดเห็นอาการ ของเบญจาก็ยิ้มพอใจ
เมื่อคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตึงเครียด หมอ วรวรรธกับติณห์เสนอให้พวกเราทุกคนต้องรวมตัวกันไว้อย่าให้ใครอยู่ตามลำพัง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทางทำอะไรเบญจาได้
“พวกเราใจเย็นก่อนนะ อย่าเพิ่งกังวลไปเกินกว่าเหตุ ที่นี่มีผ้ายันต์และสายสิญจน์ของแม่หมอสุคนธรส คุ้มกันอยู่ ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในบริษัท พวกมันทำอะไรเราไม่ได้แน่” ญาณินเอ่ย
แต่ญาณินพูดไม่ทันขาดคำ ติณห์ก็ผงะอึ้งเมื่อมองไปนอกรั้วเห็นเบญจายืนอยู่ ครั้นเพ่งมองก็ไม่เห็นแล้ว อึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงเบญจามาเรียกอยู่ข้างหู พอติณห์
บอกทุกคนตึงเครียดทันที
ไม่ทันหายเครียดเรื่องเสียงเบญจา ทุกคนก็ตกใจเมื่อมีเสียงมิรันตีอาละวาดกับก๊องที่เฝ้าอยู่ เมื่อวิ่งไปดูเห็นมิรันตีถือมีดคมกริบในมือต่างชะงักระวังตัว มิรันตีบอกว่าตนไม่ทำอะไรใครแต่จะฆ่าตัวตายถ้าติณห์ไม่สั่งให้ทุกคนถอยไป ทำให้ทุกคนต้องถอยเปิดทางให้ แต่พอมิรันตีเดินไปเกือบถึงประตูก็ถูกคุณหลวงจับมือตรึงไว้ ณัฐเดชถือจังหวะนั้นเข้าชาร์จทันที
ทันใดนั้น เสียงรถหวอตำรวจก็แว่วเข้ามา ป้าออทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ถามอย่างว้าวุ้นใจว่า
“มันอะไรกันนักหนาวะ เอ๊ย...คะ เนี่ย?!”
ooooooo
รถตำรวจแล่นเข้ามาจอดหน้าบริษัท ผู้การก้าวลงจากรถนำเจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคเข้าไปในบริษัท ผู้การแจ้งแก่ณัฐเดชและหมอวรวรรธที่ออกมารับหน้าถามว่า
มีคนแจ้งว่าบริษัทนี้จดทะเบียนเป็นบริษัทอินทีเรียร์ดีไซน์บังหน้าแต่ที่แท้เปิดเป็นสำนักปราบผี หลอกหากินกับ ความเชื่อความงมงายของประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวย ความสะดวก ผู้การให้ตำรวจแสดงหมายค้นแล้วเข้าไป ตรวจข้างในเลย
ญาณินพยายามชี้แจงทัดทานแต่ในที่สุดก็ถูกตำรวจยึดทุกสิ่งทุกอย่างไปแม้กระทั่งมือถือที่เธอถ่ายรูปตำรวจยึดของไว้เป็นหลักฐานก็ถูกยึดไปอ้างว่า ในมือถือนี้อาจมีข้อมูลสำคัญขอเอาไปตรวจด้วย!
มิรันตีฉวยโอกาสนี้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือว่าตนถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว
ญาณินประกาศห้ามแจ้งเจ้าหน้าที่ขนอะไรออกไปเด็ดขาด ถามเจ้าหน้าที่ว่าบอกได้ไหมว่าคนที่ร้องเรียนว่าพวกตนต้มตุ๋นชาวบ้านนั้นเป็นใคร ถ้าบอกไม่ได้ก็ห้ามขนอะไรออกไปเด็ดขาด
“ผมเป็นคนร้องเรียนเจ้าหน้าที่เอง” แผนยุทธปรากฏตัวออกมาอย่างเอาเรื่องทวงถามและกล่าวหาว่า “พวกคุณบอกผมว่าสามารถช่วยปลดปล่อยวิญญาณภรรยาของผมได้ รับเงินผมไปแล้ว แต่ไม่เห็นพวกคุณจะทำอะไร นอกจากอ้างว่าซับซ้อน ผลาญเวลา ผลาญเงินของผมไปวันๆ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย มันก็ชัดเจนว่าพวกคุณกำลังทำอะไรอยู่”
ขณะนั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็เอาสายสิญจน์ ผ้ายันต์และหุ่นกุมารทองที่ยึดได้มาให้ดู ผู้การถือว่านี่เป็นหลักฐานสำคัญเอาหลักฐานต่างๆ มาวางเรียงไว้เต็มโต๊ะไปหมด
ทันใดนั้น มิรันตีวิ่งพรวดเข้ามาฟ้องผู้การว่า ตนถูกพวกนี้ลักพาตัวมากักขังหน่วงเหนี่ยว ยุให้จับพวกญาณินไปให้หมดเพราะพวกนี้อ้างเอาเรื่องการตบแต่งรีสอร์ตมาหลอกลูกชายตนให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเหมือนโดนของ
“เห็นไหม ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ทีนี้ยังหาว่าผมใส่ร้ายพวกคุณอีกได้ไหมครับ” แผนยุทธได้ทีเยาะเย้ยพวกญาณิน ถูกกระหน่ำรอบด้านขนาดนี้ ญาณินถึงกับเถียงไม่ออก
เหตุการณ์วุ่นวายสับสนยิ่งขึ้น เมื่อกรรณาพาน้ำหนึ่งและพงอินทร์มาที่บริษัทเจอตำรวจกำลังยึดข้าวของในบริษัท เธอปราดเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น แผนยุทธเห็นกรรณาก็พรวดออกมาชี้ตัวให้ตำรวจจับ อ้างว่าเธอเข้าไปในบ้านตนหลอกตนและตอนนี้ก็กำลังหลอกน้องเมียตน เป็นพวก 18 มงกุฎชัดๆ ให้ตำรวจรวบตัวไปให้หมดเลย
พงอินทร์ลงจากรถมีน้ำหนึ่งตามมาด้วย พอแผนยุทธเห็นก็ชี้ว่านี่คือน้องเมียตนที่บัดนี้ถูกล้างสมองเพื่อยุแหย่ให้แตกแยกกับตนจะได้หลอกเอาเงินมรดกที่เขาจะได้รับไป
แผนยุทธด่าและกล่าวหาห้าสาวซิกซ์เซ้นส์เสียจนพงอินทร์ทนไม่ได้ตรงเข้าชกหน้าแต่เพราะเจ็บแผล พอแผนยุทธเบี่ยงตัวหลบ พงอินทร์ก็ถลำหน้าคว่ำไปกองกับพื้น ผู้การเห็นความวุ่นวายเลยเชิญทุกคนไปให้การที่โรงพัก
แผนยุทธเดินเลี่ยงไปพบสมคิดกับเบญจาในรถที่จอดซุ่มอยู่ เพียงสบตาเบญจาแผนยุทธก็ถูกอาคม พูดยกย่องสมคิดและเบญจาว่าปรารถนาดีต่อตนทุกสิ่งอย่างที่ทำเป็นความคิดของตนเอง จะลืมให้หมดว่าได้เจอทั้งสองคน สมคิดฟังแล้วพอใจมาก ชมเบญจาว่าเยี่ยมมาก เบญจาจิกตาแค้นไปที่ติณห์ สมคิดเตือนสติว่า
“ยังไม่ใช่ตอนนี้!!! เก็บความแค้นเอาไว้ พอถึงเวลาพ่อจะให้เอ็งคิดบัญชีกับไอ้ติณห์อย่างสาสมแน่”
ooooooo
พวกญาณินมองสภาพบริษัทที่ถูกรื้อค้นจนยับเยินทั้งสลดทั้งเจ็บแค้น สุคนธรสโกรธมากประกาศ จะเสกตะปูเข้าท้องตำรวจ จนไตรรัตน์ต้องเข้าโอบปลอบใจว่า
“ใจเย็นๆ คุณรส ไม่มีปัญหาไหนแก้ไม่ได้ สิบทางตันต้องมีหนึ่งทางออก...นะครับ...”
ลีจองกุ๊กเห็นสภาพไม่ดีเร่งจุนจีให้รีบกลับ จุนจีไม่ยอมกลับ บอกว่าจะไม่ทิ้งกรรัมภาเอาตัวรอดเด็ดขาด
“เชื่อเถอะ ถ้าจะช่วยคุณแก้ม ก็ต้องช่วยแบบซุปตาร์ มันยังมีวิธีอื่นอีกมาก แต่ตอนนี้ขึ้นรถเถอะ”
ลีจองกุ๊กผลักจุนจีขึ้นรถขับออกไปเลย กรรัมภามองตามไปอย่างเจ็บปวด
ที่โรงพัก แผนยุทธชี้ที่ 5 สาวฟ้องผู้การว่าพวกนี้หลอกลวงต้มตุ๋นตน หลอกว่ามีวิญญาณผีตามรังควาน ทำให้ตนหลงเชื่อจ้างพวกเธอมาไล่ผี ถูกกรรณาเอาความ จริงมาแฉว่าเขาถูกผีรังควานจนไม่ได้นอนจึงไปหาพวกตนให้มาช่วยไล่ผี แผนยุทธไม่ยอมรับ พงอินทร์เลยแฉว่า แผนยุทธสร้างเรื่องผีขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาฆ่าพี่สาวตน
แผนยุทธหาว่าพงอินทร์บ้าไปแล้ว พงอินทร์พุ่งเข้าไปจะชก ถูกณัฐเดชรั้งตัวไว้ ผู้การจึงรวบรัดตัดบทว่า
“ไม่ต้องเถียงกัน ฟังผม! เรามีหลักฐานที่ตรวจยึดค้นได้จากบริษัทของพวกคุณครบ นอกจากนี้พวกคุณยังมีข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว แถมคุณยังทำร้ายร่างกายคู่กรณีอีก เพราะฉะนั้นผมคงต้องเชิญพวกคุณเข้าไปอยู่ในคุกอย่างจนใจ ทั้งๆ ที่กลัวว่าผิวสวยๆอาจต้องถูกเหลือบริ้นไรและยุงเต๊าะ!”
5 สาวและ 6 หนุ่ม พากันโวยวายจนฟังไม่ได้ศัพท์ ผู้การจอมเพี้ยนเอาทิชชูอุดหูหัวเราะร่าว่า พูดไปเถอะ ตนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
กุมาริกาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าห้องสอบสวนอย่างกระวนกระวายใจ พลันก็ดีใจเมื่อเห็นเจ๊หญิงสะพายกระเป๋าเดินมาที่โรงพัก เจ๊หญิงหอบโฉนดที่ดินมา 18 แปลง ล้วนเป็นที่ดินในทำเลทอง ยังมีสมุดบัญชีเงินฝากประจำอีก 30 บัญชีมาประกันตัวทุกคนออกไป
ผู้การจึงให้ทุกคนไปถ่ายรูปในฐานะผู้ต้องสงสัยแล้วให้ประกันตัวออกไป
สุคนธรสขอบคุณเจ๊หญิงที่มาประกันตัวเพราะไม่อย่างนั้น คืนนี้ทุกคนคงต้องนอนตบยุงกันในคุกเป็นแน่ พวก 5 สาวก็ยกมือไหว้ขอบคุณเจ๊หญิง เจ๊หญิงพูดอย่างรู้ไส้รู้พุงหมอผีสมคิดดีว่า
“ในฐานะอดีตสาวกหมอสมคิดผู้หลงผิด ฉันเห็นความแสบของมันมาเยอะ ฉันกล้าฟันธงได้เลยว่า ไอ้หมอสมคิดมันต้องคิดการใหญ่กว่านี้” ไตรรัตน์พูดแทรกว่า เช่นตั้งสำนักใหม่? “ใช่...ปล่อยผีมาไล่ฆ่าพวกเรา ไอ้หมอสมคิดมันไม่ธรรมดา มันทำได้หมดแหละ”
ทุกคนเป็นกังวลขึ้นมาอีก โดยเฉพาะญาณินคิดที่จะต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว
ระหว่างนั้นติณห์เห็นทนายสมชาติมาเดินกระวนกระวายอยู่แถวนั้น จึงลุกเดินไปหา ปรากฏว่าทนายสมชาติได้รับมอบหมายจากมิรันตีให้ฟ้องพวกญาณิน ทนายสมชาติพูดออกตัวว่าเมื่อก่อนตนหลงผิดมองติณห์กับพวกญาณินในแง่ร้าย แต่ตอนนี้ตนตาสว่างรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้ว แต่เพราะเป็นทนายของมิรันตีจึงต้องทำตามหน้าที่
ติณห์ถามว่าแล้วอยู่ๆเขารู้ขึ้นมาได้ยังไง
“ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร รู้แต่ว่าป่านนี้คุณมิรันตีคงรู้ความจริงเหมือนผม”
ที่แท้คือ...มิรันตีอาศัยความชุลมุนหลบออกจากบริษัทซิกซ์เซ้นส์ไปนั่งร้องไห้คร่ำครวญถึงรอบบี้ คิดส์ อยู่ที่สวนสาธารณะ รอทนายสมชาติที่โทร.ตามให้มาหา
สมชาติขับรถตามเจอมิรันตีรีบลงไปหา ไม่ทันถามไถ่อะไรกัน มิรันตีก็ไปขึ้นรถขับออกไปทันที บ่ายหน้าไปรีสอร์ตหมายได้เจอหวานใจรอบบี้ คิดส์
แต่พอไปถึง ที่นั่นกลายเป็นรีสอร์ตร้าง คุณหลวงที่ตามไปด้วยบอกมิรันตีว่า สิ่งสวยงามที่เธอเคยเห็นที่รีสอร์ตนั้นเป็นแค่ภาพลวงตาที่เบญจาใช้อาคมสร้างขึ้นมาหลอกตาเท่านั้น
มิรันตีเข่าอ่อนทรุดนั่งอย่างหมดแรงอยู่ในรีสอร์ตที่บัดนี้เงียบและรกเหมือนป่าช้า...
ooooooo
ผ่านเหตุการณ์วุ่นวาย สับสน เฉียดตาย ร้ายแรงนี้แล้ว ณัฐเดชกับหมอวรวรรธถูกผู้การสั่งพักงาน หมอวรวรรธถามว่าพวกตนทำผิดอะไร สั่งพักงานอย่างนี้ หมายความว่าอย่างไร
“ก็หมายความว่า 1 เดือนต่อจากนี้ พวกคุณไม่ได้เป็นตำรวจอีกต่อไป ดังนั้น ทุกอย่างที่พวกคุณทำก็ไม่ต้องรายงานผม พวกคุณอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจ ชอบไง ส่วนผมก็จะคอยติดตามดูพวกคุณอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ” พูดแล้วผู้การหลิ่วตาให้
พอออกจากห้องผู้การแล้ว หมอวรวรรธบ่นว่า “ผมตามท่านผู้การไม่เคยทันเลย”
“ได้เวลาลุยแบบนอกกรอบได้แล้ว ไอ้หมอวรรธ ไสยศาสตร์ที่ไร้ข้อจำกัด ก็ต้องเจอกับตำรวจไร้ข้อจำกัดไงล่ะ”
ส่วนที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ ญาณินเดินนำทุกคนมานั่ง คุยกันเป็นการส่วนตัว ทุกคนคาดหมายว่าเจ๊จะมีแผนลุย แต่ที่แท้ญาณินเสนอเรื่องที่ทำให้ทุกคนตกใจว่า
“ฉันอยากให้เราปิดบริษัทนี้ไปก่อน แล้วเราแยกย้ายไปตั้งหลักกันสักพัก แยกกันเราอาจจะรอด แต่ถ้าเรายังรวมตัวอยู่ด้วยกัน อาจจะตกเป็นเป้าของหมอสมคิดหมดทั้ง 5 คน”
เนตรสิตางศุ์ร้องไห้ก่อนเพื่อน ญาณินบอกว่า “แค่แยกกันชั่วคราวเท่านั้น บอกแล้วไงว่าแค่ตั้งหลัก พวกเราทั้ง 5 คนยังคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ เมื่อเราพร้อม เราจะต้องได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีก”
5 สาวกอดกันร้องไห้ แต่ในที่สุดต่างก็แยกย้ายกันไปตามทางของตน
ญาณินกับติณห์อยู่ที่บริษัท สุคนธรสไปกับไตรรัตน์ หมอวรวรรธพาเนตรสิตางศุ์ไปส่งที่บ้าน พงอินทร์พากรรณากับก๊องไปอยู่บ้านเวียงทับ กรรณาโวยวายว่าทำไมไม่พาตนกลับบ้าน พงอินทร์จึงบอกความจริงกับเธอว่า
“จะกลับได้ยังไง ในเมื่อผมโทร.ไปเช็กมาแล้ว น้ากุ้งนางไม่อยู่ ต้องไปเป็นหัวหน้าทีมอบรมพยาบาลอาสาที่ขอนแก่นตั้งสองอาทิตย์”
กรรณาโวยว่ารู้ได้ไงว่าแม่ตนทำอะไรอยู่ที่ไหน พงอินทร์พูดอย่างกระหยิ่มว่า
“แถมยังรู้นะว่าน้ากุ้งนางแม่คุณไม่เคยเชื่อว่าคุณได้ยินเสียงผี แล้วถ้าน้ากุ้งนางรู้เข้าว่าบริษัทซิกซ์เซ้นส์ ของคุณและเพื่อนโดนฟ้องว่าต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน ล่ะก็...มันจะเกิดอะไรขึ้นน้า...”
พงอินทร์รวบรัดว่าเธอกับก๊องอยู่บ้านตนนี่แหละปลอดภัยที่สุด ถามว่าเคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด กรรณาทำท่าจะเถียง อีก ก๊องรีบกระซิบบอกว่า
“พี่กรรณาตอบตกลงไปก่อนเถอะ ป้ากุ้งนางแม่พี่ไม่อยู่บ้านด้วย ถ้าเขากลับมาแล้วค่อยว่ากันใหม่”กรรณาเลยนิ่งไป
ooooooo
เมื่อกลับถึงบ้าน เนตรสิตางศุ์ลงมือทำอาหารให้ณัฐเดชกับหมอวรวรรธทานอย่างภูมิอกภูมิใจตามเคย
แต่คราวนี้เนตรสิตางศุ์ต้องเสียใจอย่างที่สุด เมื่อสุพิชชามาพูดความจริงว่า อาหารที่เธอทำนั้นทุกคนต้องกล้ำกลืนกินกันตลอดมา ตำหนิทั้งณัฐเดชและหมอวรวรรธว่าทำไมไม่พูดความจริงให้เนตรสิตางศุ์รู้
ทั้งณัฐเดชและหมอวรวรรธตกใจที่สุพิชชาพูดความจริงออกมา ณัฐเดชพยายามจะให้เธอหยุด แต่เธอกลับยิ่งพูด...
“ทำไมคนที่จริงใจต่อกันไม่เตือนกันบ้าง น้องเนตรเธอควรจะรู้ตัวสักทีว่า อาหารที่เธอทำมันรสชาติสยดสยองมากเมนูปัญญาอ่อนพวกนี้ ใครทำกัน พี่ณัฐฝืนใจกินแล้วแอบไปอ้วกทิ้งมากี่ปีกี่ชาติแล้ว”
หมอวรวรรธขอร้องณัฐเดชให้พาสุพิชชาออกไปก่อน สุพิชชายิ่งฉุน จ้องหน้าหมอบอกว่า ตนไม่ได้พาล มันคือความจริง “ทุกคนในที่นี้มีใครกล้าพูดไหมล่ะว่าชอบกินอาหารฝีมือยัยเนตร อยากกินทุกวันเลย...นี่ต่างหากความจริง”
เนตรสิตางศุ์ถามณัฐเดชว่าจริงหรือ ณัฐเดชอึกอัก สุพิชชาได้ทียิ่งรุก
“เลิกปกป้องน้องแบบผิดๆเถอะ ยัยเนตรจะได้โตและเลิกใช้ความง้องแง้งปัญญาอ่อนเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นเสียที”
ทั้งณัฐเดชและหมอวรวรรธต่างอ้ำอึ้ง เนตรสิตางศุ์ รู้ว่านั่นคือความจริง เดินหนีไปอย่างผิดหวัง เสียใจ ณัฐเดชกับหมอต่างรีบตามไป สุพิชชามองตามทั้งสามไปอย่างสะใจ
เนตรสิตางศุ์เข้าครัวไปเอาเครื่องครัวทิ้งถังขยะ ตัดพ้อต่อว่าณัฐเดชว่าโกหกตนตั้งแต่วันแรกที่ตนเริ่มทำอาหารเลยใช่ไหม ณัฐเดชจึงเล่าความตั้งใจแต่แรกให้ฟังว่า
เพราะเนตรสิตางศุ์เอาแต่เก็บตัวไม่ไปไหน ตนอยากให้น้องมีชีวิตที่เป็นปกติมีความภูมิใจในตัวเองบ้าง และพอดีน้องหัดทำอาหาร จึงให้กำลังใจเพื่อให้น้องออกไปเรียนทำอาหาร ยอมรับว่า...
“ตอนนี้เราก็รู้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องทำอาหารแล้ว หาอย่างอื่นทำแทนแล้วกัน”
อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 16 วันที่ 29 ต.ค. 56
บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ