หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 7 วันที่ 6 ต.ค. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 7 วันที่ 6 ต.ค. 56

พงอินทร์ตามมาได้ยินพอดี ถามกรรณาว่าด่าตนว่าเป็นนักเลงอันธพาลเลยหรือ ก๊องฉวยโอกาสหลบเข้าห้อง กรรณาจะตามไปเล่นงานต่อ ถูกพงอินทร์ขวางไว้ เธอเลยเดินไปอีกทาง เขาก็ยังตามไปก่อกวน บอกว่าถ้าจะด่าก๊องมาด่าตนดีกว่า แล้วขอโทษประชดที่ส่งเสียงดังขัดจังหวะของเธอกับแผนยุทธ

กรรณาชี้แจงว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด พูดอย่างไม่แคร์ว่า เขาจะคิดอย่างไรตนไม่จำเป็นต้องอธิบาย แต่ถ้ายังห่วงใยสวัสดิภาพดั้งจมูกตัวเองก็รีบกลับไปเสีย ต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องมาระรานกัน พูดแล้วเดินไปเลย


“คงต้องทนรำคาญนานหน่อยนะคุณ บอลฤดูกาลนี้เพิ่งเริ่มต้น คุณยังได้เห็นหน้าผมไปอีกนานแน่” พงอินทร์ตะโกนตามหลังเหมือนประกาศสงครามกันกลางบ้าน

ooooooo

ที่บ้านไตรรัตน์...สุคนธรสเรียกกุมาริกาให้มาช่วยสืบว่าวิญญาณที่อยู่ในห้องนั้นเป็นใคร พอกุมาริกาเดินทะลุกำแพงเข้าไปในห้องก็ถูกโบตั๋นไล่ตะเพิด

กุมาริกาทำเป็นยิ้มร่าอารมณ์ดีชวนโบตั๋นคุย โบตั๋นไม่เล่นด้วย พอมองออกไปนอกห้องเห็นสุคนธรสเดินไปเดินมาอยู่ก็พูดอย่างไม่พอใจ “เธออีกแล้ว!” กุมาริกาบอกว่าพวกเรามาดี ถ้าเธอมีปัญหาอะไรให้พี่รสช่วยได้ ผลคือ ถูกไล่ตะเพิดให้ออกไปจากห้อง พลังเสียงที่ตะโกนใส่ทำให้กุมาริกากระเด็นไปติดกำแพง

กระนั้นกุมาริกาก็ยังอดทนพยายามญาติดีด้วย ทั้งพูดหวานทั้งทำตลกแต่โบตั๋นไม่ขำด้วย ซ้ำเมื่อกุมาริกา
บอกว่าตนชื่อโกลเด้นเบบี้ น้องชื่ออะไร โบตั๋นตะคอกว่า “ไม่บอก เพราะพี่ไตรเคยสอนว่าไม่ให้บอกชื่อกับคนแปลกหน้า”

“พี่ไตร? พี่ไตรเป็นอะไรกับน้องเหรอ”

“พี่ไตรสอนด้วยว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า เธอออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้”

ไม่ว่าจะถูกด่าถูกไล่ตะเพิดอย่างไร กุมาริกาก็อดทนยอมทุกอย่างเพื่อจะผูกมิตรกับโบตั๋นให้ได้ แต่สุดท้ายก็ถอดใจออกไปในสภาพหน้าเปื้อนสี ผมหลุดลุ่ย ยืนเบะร้องไห้อยู่หน้าสุคนธรสที่คอยฟังผลงานอยู่หน้าห้อง

ooooooo

ก๊องไปปั๊มกุญแจของจารุณีมาให้กรรณาทั้งหมด ก๊องปรารภอย่างหนักใจว่าถ้าพงอินทร์ยังตามกรรณาอยู่อย่างนี้เราคงทำงานยาก กรรณาจึงให้ก๊องไปหลอกล่อพงอินทร์ไม่ให้มายุ่งกับตน

ก๊องอ้อนพงอินทร์ให้สอนเดาะบอลให้ กรรณาจึงแว่บไปที่ครัว เห็นจารุณีอยู่ที่นั่น แต่ก็หนักใจว่าตัวเองคนเดียวจะทำอย่างไรดี เพื่อหลอกล่อดึงจารุณีให้ไปสนใจเรื่องอื่น กรรณาวางแผนให้เพื่อนๆ มีไตรรัตน์ร่วมก๊วนด้วย ปลอมตัวเป็นพนักงานทำความสะอาดมาที่บ้าน ณ เวียงทับ เสนอให้ทดลองใช้บริการฟรี ทีแรกจารุณีก็ไม่ยอมรับ แต่พอถูกหลอกล่อว่านอกจากทำความสะอาดแล้วยังจะแถมติดจานดาวเทียมฟรี ดูซีรีส์เกาหลีได้มากกว่าสามสิบช่อง จารุณีก็หูผึ่ง พาทั้งหมดเดินเข้าบ้าน

“ทางสะดวก ปลอดโปร่งแล้วเรา ฮ่าๆๆ” กรรณาดีใจวิ่งไปทางหลังบ้านทันที

กรรณารีบเอากุญแจไขเข้าบ้าน ตรงไปดึงกล่องจากใต้เตียงมาไขกุญแจ เธอสะดุ้งเมื่อสุคนธรสกับกรรัมภามาสมทบ
กรรณาถามว่า “แล้วคุณแม่บ้านกับมูมู่ล่ะ?”

“ไม่ต้องห่วง คุณไตรรัตน์กับยัยเนตรจัดการอยู่ ส่วนยัยมูมู่พวกฉันหลอกให้ออกไปซื้อของนอกบ้านแล้ว อย่ามัวแต่ถามรีบๆเข้า เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแผนแตกหมด”

แต่พอดึงกล่องใต้เตียงออกมาไขกุญแจดู ทุกคน ตะลึงพรึงเพริด เพราะภายในกล่องเต็มไปด้วยแผ่นซีรีส์เกาหลี!

“อุตส่าห์ลงทุนสืบขนาดนี้ กลับเจอแต่ละครเกาหลี...ไม่ได้อะไรเลย” กรรณาเซ็ง

“งั้นฉันว่าเรารีบออกจากห้องกันก่อนความจะแตกนะ” สุคนธรสเสนอ แต่พอเปิดประตูทุกคนก็ผงะหน้าซีดเผือดเพราะเจอพงอินทร์ยืนจังก้าขวางอยู่เต็มประตู ซ้ำยังตะโกน “ขโมย!!”

“พวกฉันไม่ได้ขโมย” กรรณาชี้แจงปากคอสั่น

“แล้วเข้าไปทำไม อย่าบอกนะว่าคุณเป็นนักสืบบ้าๆบอๆอะไรก็ไม่รู้” พูดแล้วจ้องหน้าสามสาวอย่างคาดคั้น

ooooooo

เวลาเดียวกันนี้ จุนจีและซองซูกำลังอยู่ในสตูดิโอถ่ายรายการวาไรตี้ มีพิธีกร ทีมงาน และแฟนคลับมากันเต็มห้อง

หลังจากคั่นรายการด้วยภาพจากฉากละคร “มายาร้อยใจ” ที่มีทั้งจุนจี ซองซูและเป้ยปะทะคารมกันแล้ว พิธีกรก็เริ่มรายการต่อจากเบรกที่แล้ว ถามทั้งสองว่า ถ้าพูดถึงเมืองไทยคิดถึงอะไรก่อน

ซองซูตอบตัดหน้าจุนจีว่าคิดถึงอาหารไทย ส่วนจุนจีตอบหน้านิ่งๆว่าคิดถึงทะเล พิธีกรถามจุนจีว่า

“ถ้ามีคนถามคุณว่าให้อยู่เมืองไทยตลอดไป คุณจะตอบว่าอะไรครับ”

ภาพพิมพิลาสแว่บเข้ามาในความคิดจุนจีทันที เขาบอกว่าไม่กล้าปฏิเสธ “แต่...ผมเป็นคนเกาหลี ครอบครัวผมอยู่เกาหลี ถ้าผมอยู่ที่นี่ผมคงดูแลท่านลำบาก ถ้าเป็นไป ได้ผมจะมาเที่ยวเมืองไทยให้บ่อยที่สุดครับ” จุนจีตอบอย่างรักษามารยาทที่สุด ลีจองกุ๊กที่ฟังอยู่อย่างใจคอไม่ดี ได้ยินแล้วถึงกับถอนใจโล่งอก

“มาถึงคำถามที่สาวๆอยากรู้ คุณสองคนคิดยังไงกับผู้หญิงไทยครับ” สิ้นเสียงพิธีกร เสียงสาวๆในห้องก็กรี๊ดกันสนั่น และยิ่งกรี๊ดลั่นเมื่อซองซูตอบว่า ถ้าเป็นไปได้ตนอยากมีแฟนเป็นคนไทย พิธีกรหันมาถามจุนจีบ้าง

“ผู้หญิงไทย...” พริบตานั้นมีมือซีดๆของพิมพิลาสโผล่จากข้างหลังมาบีบจิกเล็บลงที่คอจนจุนจีพูดไม่ออก แต่ก็พยายามพูดต่อว่า “ผมคิดว่าผู้หญิงไทยยิ้ม...ก้าบๆๆ” เสียงเขาแหบเป็นเป็ดไปทันที ทุกคนหัวเราะขำกลิ้งคิดว่าเขาเล่นมุก พิธีกรพยายามถามย้ำอีก จุนจีพูดไม่ออกชี้ที่คอตัวเองทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก

ที่ด้านหลังของจุนจี พิมพิลาสในชุดแดงกำลังจิกเล็บบีบคอเขาอย่างแรง!

เมื่อกลับมาที่ห้องพักนักแสดงในสตูดิโอ หมอมาตรวจคอจุนจีปรากฏว่าไม่เป็นอะไร ลีจองกุ๊กพูดอย่างไม่พอใจว่า

“เสียงจุนจีกลายเป็นเป็ด แต่พอหมอมาก็หาย มันจะปกติได้ยังไงครับ หมอเช็กไม่ละเอียดหรือเปล่าครับ”

หมอยืนยันว่าเช็กดีแล้ว เสนอให้จุนจีไปเช็กที่โรงพยาบาลอีกทีก็แล้วกันที่นั่นอาจเช็กได้ดีกว่านี้ แล้วพากันออกไป

“ฉันรู้ว่านายเป็นอะไร” ลีจองกุ๊กกระซิบทันที จุนจีถลึงตาปรามว่าอย่าโยง! แล้วไปวอร์มร่างกายเตรียม พร้อมขึ้นโชว์ ลีจองกุ๊กยังพยายามบอกว่า “จุนจี นายจะดื้อไปถึงไหน นายก็พอเห็นอยู่แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายมันไม่ใช่เรื่องปกติ”

“หาหมอคนไหนที่เก่งกว่านี้ให้ฉันด้วย ถ้าหาไม่ได้ ฉันจะบินกลับไปหาที่เกาหลี”

“หมอที่ไหนก็ช่วยแกไม่ได้หรอก นอกจากหมอผี!” ลีจองกุ๊กโพล่งออกไปอย่างหงุดหงิด พอจุนจีมองหน้า เขาลดเสียงลงชี้แจงว่า “ฉันบอกนายตรงๆ เลยก็ได้ตอนนี้คนในกองถ่ายเขาลือกันให้แซดว่านายโดนผีเข้า รู้ตัวบ้างไหม”

“ไม่ใช่! ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผีทั้งนั้น”

“ไม่เกี่ยวได้ยังไง ตั้งแต่เรามาเมืองไทยก็เกิดเรื่องพิลึกเยอะแยะ จุนจี...ฉันรู้ว่านายก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาย นายอย่าปฏิเสธความจริงเลย ย่านายต้องการความช่วยเหลือ เราไปให้คนที่เขาช่วยเราได้ ช่วยเราเถอะ อย่างเช่น...บริษัทซิกซ์เซ้นส์”

“ไม่!! ฉันจะไม่ไปเจอยัยแฟนคลับสตอล์กเก้อร์ โรคจิตนั่นเด็ดขาด!”

“แล้วนายมีทางเลือกอื่นเหรอวะ”

“มี!” ลีจองกุ๊กถามว่าอะไร “รีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับเกาหลีบ้านฉันให้เร็วที่สุด” พูดแล้วเดินออกไปเลย

“ย่านายคงยอมให้เสร็จง่ายๆหรอก” ลีจองกุ๊กพูดอย่างหนักใจ

ที่ข้างหลังลีจองกุ๊ก พิมพิลาสที่ยืนฟังอยู่ตลอดเวลา เดินผ่านไปไม่มีใครเห็น...

เมื่อได้เวลาโชว์ ปาร์คจุนจีปรากฏตัวบนเวทีท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างคลั่งไคล้ของแฟนคลับ

ลีจองกุ๊กยืนลุ้นอยู่ข้างเวที ภาวนาขอให้คุณย่าอย่าเพิ่งทำอะไรตอนนี้เลย ขอให้ถือเสียว่าเห็นแก่หลาน...

ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่พอเพลงโซโล่ถึงจังหวะที่จุนจีต้องร้องท่อนแรก พอจุนจีร้องท่อนแรกก็ร้องซ้ำเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง นักดนตรีพยายามย้อนกลับไปมาเพื่อให้จุนจีร้องต่อ แต่เขาก็ยังร้องเป็นแผ่นเสียงตกร่องอยู่อย่างนั้น!

จุนจีพยายามร้องต่อแต่บังคับเสียงตัวเองไม่ได้ พิธีกรตกใจสั่งให้หยุด ปรากฏว่าหน้าจอมอมิเตอร์ทั้ง 3 จอดับไล่กันฟึ่บ...ฟึ่บ...ฟึ่บ... ทั้งสามจอดำสนิท! ลีจองกุ๊กรีบเข้าไปหาจุนจี แต่พอเอ่ยว่า “นายว่า...” เท่านั้น จุนจี ก็ขัดขึ้นทันทีว่า

“ไม่ใช่! มันเป็นแอ็กซิเดนท์ อย่าโยง!”

ขณะทุกคนกำลังงุนงงกับปรากฏการณ์น่าสะพรึง กลัวนั่นเอง มอมิเตอร์จอแรกก็ติดขึ้นเองทั้งที่ทีมงานถอดปลั๊กแล้ว บนจอที่มีเส้นซ่าๆนั้น ปรากฏใบหน้าพิมพิลาสแว้บขึ้นชัดบ้างหายบ้าง พิมพิลาสพยายามพูดอะไรแต่เสียงซ่ากลบหมด ใบหน้าเธอก็บิดเบี้ยวไปตามภาพของทีวีที่ล้มสลับซ่า

“ผีหลอก!!” ทีมงานแตกฮือ จุนจี ซองซูและลีจองกุ๊กวิ่งมาที่หน้าจอ เห็นหน้าพิมพิลาสถึงกับผงะพิมพิลาสพยายามพูดแม้จะเป็นคำขาดๆแต่ในที่สุดเธอก็สามารถพูดออกมาได้ว่า

“ฉันต้องการความยุติธรรม!” ทำเอาทีมงานวิ่งหนีแตกกันกระเจิง

ooooooo

ที่ห้องจารุณี...สามสาวผงะเมื่อเปิดประตูออกมาเจอพงอินทร์ยืนจังก้าขวางประตู เขายิ้มเยาะพูดเย้ยว่า

“ผีหลอกอีกแล้ว ปัญญาอ่อนมาก คุณเชื่อจริงหรือแกล้งเชื่อเพื่อหวังอย่างอื่น”

“ที่พวกเราเชื่อ เพราะพวกเราใช้สัมผัสพิเศษ ดูแล้ว คุณแผนยุทธมีผีตามอยู่จริงๆฉันได้กลิ่นวิญญาณหึงหวงตามคุณแผนยุทธ” สุคนธรสพยายามชี้แจง

“วันนั้น ฉันจับรถพี่สาวคุณ ฉันเห็นการตายของพี่สาวคุณไม่ใช่อุบัติเหตุ” กรรัมภาย้ำพงอินทร์เห็นเป็นเรื่องตลก แล้วเขาก็ต้องหันมาสนใจฟัง เมื่อกรรณาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า

“สิ่งที่พวกเราทำอยู่ก็เพราะอยากจะหาตัวฆาตกรที่ฆ่าคุณพิมอร นายจะจับพวกฉันส่งตำรวจก็ได้ถ้านายคิดว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครเพื่อหาความยุติธรรมให้พี่สาวนาย”

ขณะนั้นเอง เนตรสิตางศุ์วิ่งเข้ามาถามว่าพบหลักฐานอะไรไหม พงอินทร์มองขวับจำได้ว่าเป็นคนรักของหมอวรวรรธ ไตรรัตน์ก็แนะนำตัวเองว่าเป็นลูกชายเจ้าของตลาดหญิงจำเริญ เป็นสามีของสุคนธรส และขอเอานามสกุลของตนเป็นประกันเพื่อยืนยันว่าทุกอย่างเป็นความจริง

คำยืนยันจากทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้พงอินทร์นิ่งไป ปากคอที่เราะร้ายก็กลายเป็นใบ้กินสนิท!

ooooooo

จารุณีที่ฟังเนตรสิตางศุ์บรรยายสูตรอาหารอร่อยแล้วหิวจนเป็นลม ก๊องต้องเอายาดมมารอที่จมูก เห็นยังนอนหลับตาพริ้มก็รีบโทร.หากรรณา

“พี่ๆเป็นไงบ้าง เจออะไรในห้องคุณแม่บ้านไหม?”

พอหันกลับมาเห็นจารุณีลุกฟึ่บจ้องหน้าถามว่า กรรณาไปค้นอะไรในห้องตน จับไหล่ก๊องเขย่าถามจนก๊องต้องบอกว่า กรรณาสงสัยว่าเธอเป็นฆาตกรฆ่าพิมอร

“นายก็สงสัยด้วยใช่ไหม หน้าอย่างฉันนี่เหี้ยมโหดขนาดเป็นฆาตกรฆ่าคุณผู้หญิงได้รึไง!”

ก๊องบอกว่าตนไม่ได้สงสัยแต่เป็นลูกน้องเขา ลูกพี่ว่ายังไงก็ต้องว่าตาม อีกอย่างมันยังเป็นแค่ข้อสันนิษฐานยังไม่ใช่ข้อสรุป จารุณีถามว่าอะไรทำให้มีข้อสันนิษฐานอย่างนั้น!

“เอ่อ...คือ พี่กรรเคยเห็นคุณแม่บ้านแอบออกมาจากห้องคุณพิมอร ท่าทางลับๆล่อๆ”

“อยากรู้นักใช่ไหม...ว่าฉันเข้าไปทำไม...มา!” จารุณีพาก๊องไปที่ห้องนอนพิมอร ชี้ไปที่กำแพง มีโทรทัศน์โฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ ข้างฝาติดโปสเตอร์ซีรีส์เกาหลีและพระเอกเกาหลีเต็มพรืด หนึ่งในนั้นมีปาร์คจุนจีด้วย แล้วเธอก็เล่าว่า...

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 7 วันที่ 6 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ระยะเวลาออกอากาศตอนแรกเริ่มวันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556
ที่มา ไทยรัฐ