หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 7 วันที่ 7 ต.ค. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 7 วันที่ 7 ต.ค. 56

“อยากรู้นักใช่ไหม...ว่าฉันเข้าไปทำไม...มา!” จารุณีพาก๊องไปที่ห้องนอนพิมอร ชี้ไปที่กำแพง มีโทรทัศน์โฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ ข้างฝาติดโปสเตอร์ซีรีส์เกาหลีและพระเอกเกาหลีเต็มพรืด หนึ่งในนั้นมีปาร์คจุนจีด้วย แล้วเธอก็เล่าว่า...

“ทุกคืน ฉันจะต้องเอาซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ๆมา อัพเดทให้คุณผู้หญิงดู เราสองคนโตมาด้วยกัน มีนิสัย เหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือติดละคร ดูละครหลังข่าวด้วย กันทุกวัน เราทะเลาะกันตลอด เพราะคุณพิมอรชอบนางเอก แต่ฉันเชียร์นางร้าย”

จารุณีเล่าว่า ดูละครกับพิมอรด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 15 หัวเราะร้องไห้กับละครมาด้วยกัน จนพิมอรพูดในคืนหนึ่งว่า


“สัญญานะว่าถ้าเราคนใดคนหนึ่งเกิดเป็นอะไรขึ้นมา คนที่เหลือต้องมาเปิดซีรีส์เกาหลีให้ดูเหมือนเดิมนะ”

“ค่ะ...คุณพิม...สัญญา”

จารุณีเล่าไปร้องไห้ไปว่า เมื่อพิมอรจากไปแล้ว ตนก็ต้องทำตามสัญญา เอาละครเกาหลีมาเปิดให้ดูบางทีก็นั่งดูด้วยกัน ทำให้ตนรู้สึกว่าพิมอรยังไม่ได้จากไปไหน ก๊องถามหยั่งเชิงว่า ดูท่าทางสองคนผูกพันกันมาก

“เราโตมาด้วยกันนี่ เราเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนพี่น้อง ถึงคุณพิมจะมีชีวิตที่ดีกว่าฉัน แต่ฉันก็ไม่เคยอิจฉา โดยเฉพาะเรื่องที่คุณพิมได้แต่งงาน ฉันยังเป็นสาวโสด” ปากบอกว่าไม่เสียใจ แต่เสียงเล่าสะอื้นเบาๆ

ก๊องถามว่า แล้วทำไมเธอต้องขู่กรรณาด้วยว่า ถ้ามายุ่งกับแผนยุทธจะมีจุดจบเหมือนพิมอร เธอพูดเหมือนพิมอรไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุ?

จารุณีบอกว่า ตนเชื่อว่าพิมอรคิดสั้น เพราะดูระยะ หลังดูเธอเครียดๆ ตนรู้ว่าเธอเครียดเรื่องความเจ้าชู้ของ แผนยุทธ

พูดแล้วมองหน้าก๊องตาเชื่อมบอกว่า ถ้าเจอคน แบบนี้ตนขออยู่เป็นโสดดีกว่า แต่ตนก็เชื่อว่าสักวันต้องเจอคนดีๆ ที่เป็นคู่ของตนจริงๆ มองหน้าก๊องพูดเคลิ้มว่า “แม้ว่าเขาจะเกิดมาช้าไปหน่อยก็ตาม”

ก๊องเสียววาบ! หาทางที่จะออกจากห้องนี้ อ้างว่า เกรงใจพิมอร แต่จารุณีตกสู่ภวังค์เสียแล้ว ไม่ยอมให้ ก๊องออกไป ทั้งยังแสดงอาการกระสันจนก๊องต้องหาทาง เอาตัวรอด

แต่ในภาวะที่คับขันนี่เอง ก๊องเจอสมุดบันทึกปกสีแดงเล่มหนึ่งวางคว่ำอยู่ในซอก ก๊องหยิบดูถึงกับขนลุกเพราะในหน้าแรก มีลายมือของพิมอรเซ็นกำกับอยู่!

ooooooo

กลับมาถึงบริษัทซิกซ์เซ้นส์กันอย่างโล่งใจที่มีไตรรัตน์ไปด้วย ทำให้พงอินทร์เชื่อว่าพวกกรรณาไม่ได้เป็นขโมย แต่นั่งกันไม่ทันหายตื่นเต้น ก็มีเสียงกระดิ่งหน้าบ้านดังขึ้น

ก๊องวิ่งไปเห็นเป็นลีจองกุ๊กกับปาร์คจุนจีก็ชะงักกึก จำต้องพาเข้าบริษัททั้งที่ปิดแล้ว

ลีจองกุ๊กพาจุนจีมาขอให้ช่วยจุนจีด้วยเพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปจุนจีทำงานไม่ได้แน่

กรรณาเล่นแง่ว่าเจ้าตัวเขาต้องการให้ช่วยหรือเปล่า ลีจองกุ๊กเสนอจะจ่ายค่าเหนื่อยให้เพิ่มอีกสามเท่า ก๊อง จอมงกเสนอเป็นสี่เท่า ลีจองกุ๊กตกลงทันที แต่กรรณามีข้อแม้เพิ่มว่า เรื่องนี้ต้องให้เจ้าตัวจุนจีไปเจรจากับ กรรัมภาเอง ถ้ากรรัมภาโอเคพวกตนก็โอเคด้วย แต่ถ้าเพื่อนไม่ พวกตนก็ไม่

แม้จุนจีจะเซ็งมากแต่ก็ไม่มีทางเลือก จำต้องไปคุยกับคู่ปรับเก่า กรรัมภาเล่นตัวจะไม่คุยด้วย จุนจีเสนอข้อแลกเปลี่ยน

“คุณช่วยผมเรื่องคุณย่า ผมไม่แจ้งความจับเรื่องอาการโรคจิตของคุณ”

กรรัมภาโต้ว่าเขาต่างหากที่เป็นโรคจิต หลอกด่าว่า พ่อแม่เขาก็ดี๊ดี ถ้าเขาได้ความเป็นสุภาพบุรุษจากคุณอาเกรียงไกรเพิ่มขึ้นอีกนิดก็คงจะดี จุนจีหาว่าเธอเอาชื่อพ่อมาล้อ อย่างเธอไม่มีทางรู้จักพ่อตนแน่

“ฉันไม่รู้จัก แต่พ่อฉันรู้จัก ไม่ได้อวดนะ แค่จะบอกว่าพ่อฉันเป็นไฮโซเจ้าของบริษัทนำเข้าสินค้าเครื่องสำอาง พูดชื่อปุ๊บคุณจะต้องร้องอ๋อ ส่วนพ่อคุณก็เป็นอดีตลูกไฮโซเหมือนกันอย่าบอกนะว่าไม่รู้”

“ไม่รู้”

“แต่ฉันรู้! พ่อฉันเล่าให้ฟังว่าพ่อแม่คุณเป็นคนดี บูชาความรัก ไม่เห็นแก่เงินทองลาภยศ ฉันก็เลยเดาว่าคุณต้องเป็นคนดี แถมคุณยังสู้ชีวิต จากเด็กลูกครึ่งไทยเกาหลีไก่กามาเป็นซุปเปอร์สตาร์ฉันถึงถวายหัวเป็นแฟนคลับคุณ เพราะฉันชื่นชมในความขยัน อดทน ไม่ได้กรี๊ดแค่หน้าตา เพราะนั้นอย่ามาว่าฉันเป็นโรคจิตอีก”

จุนจีอึ้งที่กรรัมภารู้เรื่องของตนลึกขนาดนี้ ยอมที่จะไม่ว่าเธอเป็นโรคจิตอีก แต่อยากรู้ว่าคุณย่าตามรังควานตนทำไม กรรัมภาเล่นแง่ บอกว่าต้องไหว้ก่อนถึงจะยอมทำให้ จุนจีไหว้ทันทีอย่างหมดพิษสง

ooooooo

เมื่อกรรัมภาตกลงที่จะทำงานให้จุนจี เพื่อนๆทุกคนจึงตกลงด้วย ทั้งหมดเตรียมทำพิธีกันเดี๋ยวนั้นเลย โดยโทร.ตามสุคนธรสกับไตรรัตน์มาช่วยด้วย

พอเริ่มพิธี วิญญาณพิมพิลาสก็มาทันที เธอมาอย่างรุนแรง กระชากสายสิญจน์ขาด พัดผ้ายันต์ปลิว เจ้าที่เข้าขวางก็ถูกพุ่งชนจนกระเด็น ข้าวของตามทางที่เธอเดินผ่านแตกล้มต้นไม้หักโค่น ทั้งบ้านมีแต่เสียงโวยวาย จนจุนจีถามว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อเข้ามาถึงที่ทำพิธี พิมพิลาสไปยืนอยู่ข้างหลังจุนจี กรรัมภาบอกจุนจีว่าคุณย่ายืนอยู่ข้างหลัง พลันพิมพิลาสก็พูดขึ้น

“ฉันต้องการความยุติธรรม หลานต้องช่วยย่า ย่าถูกฆาตกรรม ได้ยินไหม ย่าถูกฆาตกรรม!”

กรรัมภาเป็นคนถ่ายทอดให้จุนจีฟัง พิมพิลาสยังให้กรรัมภาบอกจุนจีว่า “ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าเขาจะเอาตัวฆาตกรที่ฆ่าฉันมารับโทษ” จุนจีติงว่าคุณย่าถูกงูกัดตายต่างหาก ทำให้พิมพิลาสฉุนพล่านแว่บไปมุมโน้นมุมนี้จนข้าวของแตกเกลื่อน ทำให้บรรดาสาวซิกซ์เซ้นส์ไม่ชอบใจที่มาทำข้าวของเสียหาย

สุคนธรสบอกเพื่อนๆให้จับมือกันและสงบนิ่งหลับตาแผ่เมตตา ครู่หนึ่งพิมพิลาสจึงสงบลง ชุดสีแดงที่ใส่ค่อยๆกลายเป็นสีเทาแทน แล้วเริ่มเล่าถึงวันที่ตนถูกฆาตกรรมว่า

“มีคนจงใจฆ่าฉัน มันจัดฉากหลอกให้ฉันมาถูกงูกัดที่นั่นเวลานั้น ฉันเห็นมัน...ไอ้ฆาตกร มันอยู่ที่นั่น มันยืนมองฉันขาดใจตายต่อหน้าต่อตามัน”

พิมพิลาสยังเล่าถึงความรู้สึกสุดท้ายก่อนสิ้นใจว่า ตนเห็นรองเท้าส้นสูงสีแดงสดก้าวเข้ามา ตนพยายามเงยขึ้นดูเห็นเป็นชุดคลุมโอเวอร์โค้ตแบบผู้หญิง แต่พอจะ มองหน้าเป็นจังหวะที่ผู้หญิงคนนั้นหันหลังเลยเห็นแค่เส้นผมยาวประบ่าเท่านั้น

จุนจีขอให้กรรณาช่วยอธิบายให้ฟัง กรรณาอธิบาย ว่าย่าเขามั่นใจว่าตัวเองถูกฆาตกรรมและย่าเขาอยากให้เขาช่วยสืบเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมาลงโทษให้ได้ จุนจีตัดบทว่าจะให้ผู้จัดการทำบุญไปให้ แล้วต่างคนต่างอยู่ ตนคงทำให้ได้แค่นี้เท่านั้น

พิมพิลาสเสียใจอาละวาดทำก๊อกน้ำฝักบัวใน ห้องน้ำทุกห้องเปิดไหลซู่ซ่า ลีจองกุ๊กกลัวจนทนไม่ไหวจะหนีออกจากบ้าน ถูกเจ้าที่ปิดประตูขังไว้เพื่อให้จุนจีกับกรรัมภาได้คุยกัน

กรรัมภาหว่านล้อมจุนจีให้ตระหนักว่าพิมพิลาสเป็นย่าของเขา จุนจีบอกว่าตนไม่อาจทำดีให้กับคนที่ทำร้ายจิตใจพ่อแม่ตนได้

“สุดท้ายคุณก็ไม่ต่างจากย่าคุณเอง ที่ปล่อยให้ความชิงชังความเห็นแก่ตัวเข้าครอบงำ แล้วอ้างว่าสิ่งที่ตัวเองทำถูกต้องสมควรแล้ว สิ่งที่คนอื่นทำน่ะผิด” จุนจีไม่พอใจถามว่าเธอมีสิทธิ์อะไรมาต่อว่าตน แต่กรรัมภาไม่กลัวพูดแทงใจดำว่า “ลึกๆ คุณก็รู้ว่าวิญญาณคุณย่าตามคุณอยู่แต่คุณเลือกที่จะไม่เชื่อ เพราะคุณเกลียดเขา”

จุนจีนิ่งที่ถูกพูดแทงใจดำ กรรัมภาอ่านใจเขาออก เปรียบเทียบให้ฟังวัดใจเขาว่า

“ถ้าเป็นฉัน ฉันรู้ว่าใครก็ตามไม่ได้ตายธรรมดา แต่ถูกฆาตกรรม ไม่ต้องมารู้จักกันเป็นการส่วนตัว ถ้าฉันช่วยคลี่คลายคดีได้ ฉันก็จะช่วย แต่ผู้หญิงคนนี้ คือคุณย่า แม่ของพ่อคุณเอง จุนจี...อดีตคืออดีต คุณจะอยู่กับความแค้นในอดีตไปเพื่ออะไร สุดท้ายคนที่เป็นทุกข์ก็คือตัวคุณเอง เหมือนที่ย่าคุณเคยเป็นและยังคงเป็นอยู่”

ความตึงเครียดของจุนจีค่อยๆ คลายลง เป็นจังหวะที่ณัฐเดชขับรถเข้ามาพอดีมีหมอวรวรรธนั่งรถมาด้วย ณัฐเดชบอกว่า คุณป๋องผู้กำกับบอกว่าจุนจีอยู่ที่นี่ ตนเป็นพี่ชายของเนตรสิตางศุ์มาเพื่อขอความช่วยเหลือจากน้องๆ ที่ซิกซ์เซ้นส์เพื่อคลี่คลายคดีของคุณย่าเขา หมอวรวรรธเสริมว่า เวลานี้เรามีคดีที่จะแจ้งให้ทราบด้วย

คดีที่ว่านี้คือ การตายของพิสมรแม่บ้านคนสนิทของพิมพิลาส พบตายในรถแท็กซี่ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บแต่มือเกร็งทั้งสองข้าง

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 7 วันที่ 7 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ระยะเวลาออกอากาศตอนแรกเริ่มวันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556
ที่มา ไทยรัฐ