หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 9 วันที่ 12 ต.ค. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 9 วันที่ 12 ต.ค. 56

ญาณินเดินทางกลับคืนนี้เลย ติณห์มาส่ง ประคองมือเธอขึ้นล่ำลา ญาณินเอ่ยอย่างประทับใจว่า

“ขอบคุณที่เชื่อฉัน ติณห์...คุณต้องเชื่อมั่นในความดี ความถูกต้อง อย่ายอมแพ้เป็นอันขาด”

“ดาร์ลิ้ง...ผมจะไม่มีวันยอมแพ้แน่” ติณห์มั่นใจ ญาณินให้กำลังใจให้สู้ๆ ขณะนั้นเอง สุคนธรสเอาตะกรุดสามกษัตริย์มาใส่มือติณห์บอกว่า

“ตะกรุดสามกษัตริย์ เก็บเอาไว้ดีๆเอาห้อยคอหรือคาดเอวก็ได้อย่าให้ห่างตัว แล้วอย่าให้ฝ่ายนั้นเห็นเด็ดขาด คุณจะแคล้วคลาดจากการถูกทำร้ายทางคุณไสยทุกอย่าง”

ติณห์รับตะกรุดขึ้นดู พลันลายอักขระที่จารึกซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นก็ปรากฏวาบเรืองขึ้นแล้วหายไป ติณห์พนมมือจบเอ่ยอย่างศรัทธา


“ตะกรุดครับ ช่วยผมด้วย ผมจะไม่ให้ห่างตัวเลย แต๊งคุณรส ไตรรัตน์ ยูโบธ...อาร์มายแองเจลส์”

มิรันตีเร่งเร้าให้ญาณินรีบไปเสีย ติณห์กอดล่ำลาทุกคนอย่างอาวรณ์ ก่อนญาณินจะออกรถเธอขยิบตาให้ ติณห์ขยิบตาตอบอย่างรู้กัน

เมื่อรถเคลื่อนออกไป ญาณินมองกระจกข้าง เห็นเบญจายืนเกาะแขนติณห์แจ เธอมองอย่างปวดใจ...

ooooooo

คืนนี้ กรรณาได้รับข้อความจากน้ำหนึ่งแจ้งว่า “มีความคืบหน้าเรื่องช่อเพชร ติดต่อกลับด้วยนะคะ ...น้ำหนึ่ง”

กรรณาออกไปพบที่ร้านกาแฟตามนัด แต่เพราะดึกแล้วจึงเหลือเปิดอยู่เพียงร้านเดียว เธอเดินเข้าไปนั่งรอน้ำหนึ่ง ครู่หนึ่งได้ยินเสียงน้ำหนึ่งร้องทักจากโต๊ะข้างๆ กรรณาแปลกใจว่าทำไมตอนที่เข้ามาจึงไม่เห็น แต่ไม่ติดใจสงสัย

น้ำหนึ่งยื่นซองจดหมายให้กรรณาบอกว่าเป็นซองบิลค่าโทรศัพท์ของช่อเพชรตนจัดโต๊ะเจออยู่ในตะกร้าเห็นมีจ่าหน้าซองมีที่อยู่ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์จึงเอามาให้ พอดีเพิ่งเลิกงานจึงเอามาให้ดึกไปหน่อย

“ช่อเพชร อินนาวงษ์” กรรณาอ่านชื่อที่หน้าซอง ถามน้ำหนึ่งว่าเธอบอกพงอินทร์หรือยัง น้ำหนึ่งบอกว่ายังเพราะบอกเธอแล้ว “ขอโทษนะคะทำไมคุณหนึ่งเลือกโทร.หาฉัน แทนที่จะเป็นนายโจ้”

“หนึ่งเห็นว่าคุณกรรณเป็นนักสืบน่ะค่ะ ก็เลยเลือกโทร.หาคุณกรรณ ส่วนรายนั้น” น้ำหนึ่งพูดขำๆ ว่า “หนึ่งไม่อยากคุยต่อความยาวสาวความยืด ไหนๆ ก็จบกันไปแล้ว คุณกรรณอย่าบอกเขานะคะ เดี๋ยวจะพาลมาเคืองหนึ่ง”

ฟังน้ำหนึ่งแล้ว กรรณานิ่งแต่หัวใจเต็มไปด้วยตะกอนขุ่นมัว ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า...ทำไมถึงเกิดความรู้สึกแบบนั้น??

ooooooo

วันรุ่งขึ้น กรรณาถือซองจดหมายนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปที่อยู่ของช่อเพชรตามที่ระบุบนซองจดหมาย

ที่นั่นเป็นคอนโดสูง 20 ชั้น ที่เก่า ทรุดโทรม มีไฟเปิดให้แสงสว่างเพียงสลัวๆ บริเวณโถงลิฟต์ แสดงว่ามีคนอยู่น้อยมาก เมื่อไปในคอนโด มี รปภ.แก่ๆ และวัยรุ่น ในเครื่องแบบคร่ำ หลุดลุ่ย กรรณาจึงเข้าไปได้โดยสะดวก

กรรณากำลังจะเอาไอพอดขึ้นเสียบหู แต่ช้าไปแล้ว เพราะเสียงทุ้มห้าวน่ากลัวของผู้ชายสำเนียงแปร่งหูดังขึ้นพร้อมเสียง ปึง! เหมือนมีใครเอาของหนักกระแทกพื้น

“มันทับที่!”

เสียงนั้นทำให้กรรณาผงะ รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้คอนโดนี้ร้าง เพราะตึกนี้สร้าง “ทับที่” ใครบางคนไว้

“มึงทับที่กู! พวกมันต้องฉิบหาย อยู่ไม่เป็นสุข มันทับที่กู! พวกมันต้องฉิบหาย อยู่ไม่เป็นสุข!” เสียงนั้นพูดอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เจอเหตุการณ์นี้ ทำให้กรรณาคิดจะถอย แต่ช้าไปแล้วเพราะลิฟต์มาถึงพอดี เธอตัดสินใจก้าวเข้าไป พอขึ้นถึงชั้น 12 กรรณารู้สึกวังเวง นึกเสียดายที่ไม่ได้เอาสเปรย์ปราบผีของสุคนธรสมาด้วย

“แต่เอาวะ มาถึงนี่แล้ว เป็นไงเป็นกัน!” กรรณาตัดสินใจเดินหน้า แต่ในความรู้สึกเหมือนมีสายตาลึกลับติดตามการเคลื่อนไหวของตนอยู่ทุกย่างก้าว แต่พอหันมองก็ไม่เห็นอะไร เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดเวลาที่เดินหาห้อง1203

ooooooo

เมื่อเจอห้อง 1203 กรรณาหยุดหน้าห้องเรียกช่อเพชรให้เปิดประตูหน่อยตนมีธุระจะคุยด้วย

เงียบ! แต่เธอรู้สึกมีสายตาติดตามการเคลื่อนไหว กระทั่งได้ยินเสียงคนเดินผ่าน แต่หันมองก็ไม่เจอใครเธอจึงเคาะประตูเรียกอีก ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับเช่นเคย แต่มีคนเปิดประตูห้องตรงข้ามออกมา กรรณาดีใจหันขวับเห็นยายผมขาวโพลนโผล่มาเอ็ด

“มาเคาะอะไรโครมๆ ไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่อง” กรรณาตกใจแทบจะกรี๊ด ก็ถูกดุอีก “ยังจะกรี๊ดอีกเดี๋ยวก็ได้ตื่นกันทั้งตึก เด็กสมัยนี้ไร้มารยาทสิ้นดี”

กรรณาถูกดุด่าตั้งแต่ยายคนนี้โผล่มา เธอทำใจเย็นบอกว่ามาหาคนที่อยู่ห้องตรงข้ามยายรู้จักไหม ยายจ้องหน้า ด่าได้ก็ด่า ด่าไม่ได้ก็ตำหนิ บ่น แต่ก็ทำให้กรรณารู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ห้องตรงข้ามนั้น เป็นเมียน้อยที่ผู้ชายพามาเช่าห้องให้อยู่ และแวะเวียนมาหาชั่วครั้งชั่วคราวแต่เห็นหายไปนานแล้ว คงถูกเฉดหัวทิ้งแล้วกระมัง

“ถ้าหากว่าคุณยายเจอผู้หญิงเจ้าของห้อง ช่วยบอกให้เขาโทร.กลับหาหนูตามเบอร์นี้นะคะ” กรรณาจดเบอร์โทรศัพท์ของตนยื่นให้ ยายคนนั้นปฏิเสธบอกว่าไม่อยากเสวนากับคนคบชู้สู่ชายผิดศีลธรรม ตายเสียดีกว่าแล้วผลุบเข้าห้องไปเลย

กรรณาหันมองห้อง 1203 มองที่ใต้ประตูเห็นเงาคนเดินในห้อง เธอแน่ใจว่ามีคนอยู่ในห้องนั้นแน่ จึงแกล้งพูดดังๆ จงใจให้คนในห้องได้ยินว่า

“ถ้างั้นฝากคุณยายบอกเขาให้หน่อยนะคะ ว่าหนูต้องการคุยกับเขา เรื่องการตายของเมียหลวงของผู้ชายที่มาหาเขาบ่อยๆ น่ะค่ะ ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คุณยายก็บอกให้โทร.กลับหาหนูนะคะ หนูจะทิ้งเบอร์ไว้ให้”

กรรณาสอดกระดาษเข้าใต้ประตูแล้วทำเป็นเดินกลับ แต่เอาหลังแนบประตู มองไปที่ใต้ประตู เห็นกระดาษนั้นยังอยู่ที่เดิม มือถือดังขึ้นเธอตกใจตะปบแล้วเดินห่างออกไปควานมือถือแต่มือไปปัดโดนผ้ายันต์บนแผ่นไม้ร่วงลงมา กรรณาหันขวับเห็นประตูหลังแผ่นไม้ค่อยๆเปิด เอี๊ยดดดดด...

“ว้าย...วายปวงแล้ว” กรรณาตกใจวิ่งเตลิดกลับไป

ที่ใต้ประตูห้อง 1203 แผ่นกระดาษที่กรรณาเสียบไว้ค่อยถูกดึงหายไปในห้อง!!

ooooooo

ที่รีสอร์ตติณห์ หลังจากพวกญาณินไปแล้ว คุณหลวงกับติณห์ที่สัญญาว่าจะดูแลกันเอง วันรุ่งขึ้นก็แอบดูมิรันตีกับเบญจานั่งรถออกไปด้วยกันอย่างไม่สบายใจ

“คนแบบนังมิรันตี ถ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อย่างนี้ต้องปล่อยให้โดนยัยเบญจาหลอกซะให้เข็ด เอาให้หมดตัว” คุณหลวงพูดอย่างมีอารมณ์ พอติณห์ถามว่าเอาจริงหรือ คุณหลวงก็เสียงอ่อยว่า “ข้าพูดเล่น ถึงนังมิรันตีมันจะเกรียนเทพไร้สมองยังไง มันก็เป็นลูกสาวข้าเป็นแม่เอ็ง เราต้องหาทางช่วยให้นังมิรันตีตาสว่างให้ได้นะติณห์”

“แต่ทางเดียวที่จะช่วยมัมคือเราจะต้องรู้ให้ได้ว่าเบญจาเป็นใครกันแน่” ติณห์จับจุดที่จะเจาะปัญหาซึ่งทั้งเขาและคุณหลวงต่างก็รู้ดีว่าไม่ง่ายเลย

ติณห์นึกได้ว่าวันที่พาเบญจาเข้ามาอยู่ที่รีสอร์ตนั้น เธอมีกระเป๋าสะพายติดตัวมาด้วย จึงวางแผนไปค้นหาหลักฐานจากของใช้ส่วนตัวของเธอ แม้ห้องพักของเธอจะไม่ใหญ่แต่ติณห์หาอย่างไรก็ไม่เจอ คุณหลวงทะลุกำแพงเข้ามาถามว่าหาเจอหรือยัง

แต่อึดใจเดียว คุณหลวงก็รับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ บอกติณห์ว่าเดี๋ยวมาแล้วทะลุกำแพงออกไป เห็นเบญจากำลังเดินกลับมา คุณหลวงตกใจทะลุกำแพงกลับเข้าไปบอกติณห์ เขาตกใจเพราะกำลังรื้อของเต็มห้องไปหมด คุณหลวงจะช่วยเก็บแต่จับต้องอะไรก็ทะลุไปหมด ได้แต่คอยช่วยเร่งให้ติณห์เก็บเร็วๆ

เบญจาเข้ามาเห็นติณห์กำลังนั่งทำงานหน้าคอมฯและคุยโทรศัพท์หน้าเครียด เบญจาเดินผ่านทักว่า

“ขยันจังเลยนะคะพี่ติณห์”

“พี่เห็นเราออกไปกับมัมพี่ แล้วทำไม?...”

“อ๋อ...เบญจาลืมของน่ะค่ะ” ตอบแล้วเดินเข้าไปในห้อง อึดใจเดียวก็สะพายกระเป๋าใบที่ติณห์พยายามหาออกมา ติณห์กับคุณหลวงมองตะลึง เบญจาโชว์กระเป๋าบอกว่า “เบญจาลืมกระเป๋าน่ะค่ะเลยกลับมาเอา” แต่พอเดินผ่านทั้งสองออกไป เบญจาก็หัวเราะเยาะ “ฮ่ะๆๆโง่เอ๊ย...”

“ยัยนี่มันแสบจริงๆ” คุณหลวงพึมพำกับติณห์

ooooooo

ที่สถาบันนิติเวช...สุพิชชาที่หวนกลับมาอ่อยณัฐเดชเพื่อแผนการบางอย่างของตน วันนี้มาหาณัฐเดชเพื่อรอไปทานกลางวันด้วยกัน เจอหมอวรวรรธเล่นกีตาร์ร้องเพลงใส่มือถือก็แอบปลื้ม แต่แล้วก็เจ็บปวดเมื่อรู้ว่าคนที่หมอร้องเพลงให้ฟังนั้นไม่ใช่ตนแต่เป็นเนตรสิตางศุ์

ณัฐเดชออกมาเจอสุพิชชาถามว่าทำไมมาเร็ว ตนยังทำงานไม่เสร็จ จู่ๆเธอก็โผเข้ากอดเขาร้องไห้จนทั้งณัฐเดชและหมอตกใจ

หมอวรวรรธรีบบอกว่าตนไม่ทำอะไร เธอเข้ามาตอนไหนตนไม่รู้ด้วยซ้ำไม่เชื่อโทร.ถามเนตรสิตางศุ์ได้เพราะเมื่อกี๊เพิ่งโทร.คุยกันอยู่ สุพิชชามารยาบอกณัฐเดชว่าไม่มีใครทำอะไร แต่ตนอ่านข่าวตำรวจถูกคนร้ายยิงตายแล้วใจไม่ดี ถ้าเกิดตำรวจคนนั้นเป็นเขาตนจะทำอย่างไร ตนอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเขา แล้วร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร

ณัฐเดชหลงเชื่อ ปลื้มจนกอดปลอบ “พีชไม่ต้องกลัว พี่ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก พี่จะอยู่ดูแลพีชไปตลอดนะคะ”

แต่ที่แท้ สุพิชชาร้องไห้เพราะเจ็บแค้นใจที่เห็นหมอร้องเพลงผ่านโทรศัพท์ให้เนตรสิตางศุ์ฟัง แต่เจ้าเล่ห์กลบเกลื่อนว่าร้องไห้เพราะเป็นห่วงณัฐเดช

ณัฐเดชพาซื่อ เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งตรงโต๊ะทำงานของหมอวรวรรธบอกว่าขอทำงานอีกแป๊บเดียวแล้วเราค่อยไปทานข้าวกัน ถามหมอว่าคดีมีอะไรคืบหน้าไหม หมอวรวรรธหยิบแฟ้มบนโต๊ะส่งให้บอกว่า

“ผลชันสูตรศพของคุณพิสมร” พูดพลางเหล่มองสุพิชชา

ณัฐเดชจึงนั่งข้างสุพิชชาเพื่อคุยงานกับหมอวรวรรธที่นั่งอยู่โต๊ะตัวเอง สุพิชชาเกาะแขนเอาหน้าซบคลอเคลียอยู่กับไหล่ณัฐเดช

ระหว่างที่ณัฐเดชคุยงานกับหมอนั้น หมอสะดุ้งก้มมองใต้โต๊ะเห็นเท้าสุพิชชายื่นมาเขี่ยเท้าตนไปมาอย่างให้ท่า พอหมอเงยหน้าก็เห็นสุพิชชาซบไหล่ณัฐเดชอยู่ ณัฐเดชก้มมองบ้างก็ไม่พบอะไรผิดปกติ

ที่แท้ สุพิชชามารยาสาไถย ข้างบนอ้อนออเซาะณัฐเดชแต่ข้างล่างอ่อยหมอวรวรรธ จนหมอทนไม่ได้ขอยืนคุยแทน

ooooooo

กลับจากไปข้างนอกมาด้วยกัน มิรันตีบอกเบญจาว่าขอให้ถือเสียว่าบ้านนี้เป็นบ้านของตัวเอง ตนยกให้ เบญจารีบไหว้ขอบคุณ

เบญจามองไปที่เรือนรับรอง เห็นญาณินกับป้าอออยู่ที่นั่นก็ชี้ให้มิรันตีดู มิรันตีของขึ้นทันทีบอกว่าเดี๋ยวตนจัดการเองแล้วเดินอ้าวไปที่เรือนรับรองทันที ไปเจอมิรันตีกับป้าออกำลังช่วยกันหาของก็ตวาดถาม

“ใครอนุญาตให้พวกหล่อนเข้ามาในบริเวณที่ดินของเรา” ญาณินบอกว่าสมุดออกแบบของตนหายคิดว่าอาจจะลืมไว้เลยกลับมาดู “สตรอเบอร์รี่ได้โล่! ฉันรู้ว่าหล่อนกลับมาที่นี่ทำไม หล่อนไม่ได้ลืมของอะไรทั้งนั้น ฉันไม่โง่หรอก”

ป้าออทนไม่ได้ย้อนถามว่าไม่โง่จริงหรือ เลยได้เรื่อง ถูกมิรันตีตวาดให้เงียบ! ติณห์กับคุณหลวงเข้ามาพอดี ติณห์ถามว่ามีอะไรหรือ เขาดีใจที่เห็นญาณินกลับมาจะเดินไปหา ถูกมิรันตีดึงตัวไว้ด่าญาณินว่า

“นังนี่มันวอน ฉันจะโทร.แจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย”

ติณห์ขอให้ใจเย็นๆ ฟังเหตุผลของญาณินก่อนพอญาณินบอกว่าตนกลับมาหาของ เบญจาก็สอดขึ้นทันทีว่า

“พี่ณินไม่ต้องดูหรอกค่ะ ที่นี่ไม่มีของพี่ณินเหลืออยู่อีกแล้ว”

ป้าออสวนไปว่ามี มีบุญคุณของญาณินที่มีต่อเธอไง! เบญจาทำหน้าซื่อตาใสถามว่าบุญคุณอะไร ตนจำไม่ได้

“นังอสรพิษ” ป้าออด่า มิรันตีสั่งหุบปาก อย่ามาหยาบคายกับคนของตนแล้วก้าว ไปพูดใส่หน้าญาณินว่า อย่าให้ตนต้องเอาน้ำร้อนมาสาด

“ใครแตะต้องคุณหนูดูสิ...เจอฤทธิ์อีออแน่!” ป้าออประกาศ สะอึกเข้ากั้นกลางระหว่างมิรันตีกับญาณินแต่แรงกระแทกถูกมิรันตีเซไป มิรันตีหันมาผลักป้าออกระเด็น เลยพุ่งเข้าตบตีกันนัวเนีย

บรรดาคนที่อยู่รอบข้างช่วยกันแยก ป้าออได้ทีผลักมิรันตีล้มแล้วพุ่งคร่อมบีบคอจนมิรันตีตาเหลือก ร้องให้ติณห์ช่วย ติณห์เข้าไปดึงป้าออเหวี่ยงออกไปกระแทกฝาผนัง ป้าออเจ็บปวดหน้านิ่ว ญาณินมองติณห์ไม่พอใจแล้วรีบไปดูป้าออ

ส่วนคุณหลวงช่วยอะไรใครไม่ได้เพราะจับต้องอะไรก็ไม่ติด คิดสงสารตัวเองว่าแบบนี้แล้วตนจะไปเกิดได้ยังไง!

เหตุการณ์นี้ทำให้ญาณินไม่พอใจ บอกติณห์ว่าเราคงต้องห่างกันสักพักแล้ว ติณห์ตกใจถามว่าทำไม?!

“แม่คุณไม่ชอบฉัน เหตุผลแค่นี้เพียงพอแล้วที่เราจะใช้เวลาคิดกันใหม่ ว่าความสัมพันธ์ของเราควรจะดำเนินต่อไปหรือหยุดมันไว้แค่นี้ ก่อนที่เราจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่คำว่าเพื่อน”

ญาณินประคองป้าออออกไป ติณห์มองอย่างทำใจไม่ได้ ส่วนเบญจายืนอยู่ที่ระเบียงกับมิรันตี สีหน้าเธอเรียบเฉยมองญาณินกับป้าอออย่างไม่เชื่อ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 9 วันที่ 12 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ