หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 21 วันที่ 11 พ.ย. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 21 วันที่ 11 พ.ย. 56

สุคนธรสเข้าไป เห็นน้ำตาโบตั๋นเป็นสายเลือด ถามว่าโบตั๋นเป็นอะไร โบตั๋นบอกว่าตนฝันว่าแขนเลือดออกเมื่อยกแขนให้ดูก็มีรอยกรีดและมีเลือดออกจริง ทั้งสุคนธรสและไตรรัตน์งงว่าโบตั๋นไปโดนอะไรมา

“หนูรู้พี่รส” กุมาริกาเอ่ย แล้วกระซิบบอก สุคนธรสจึงบอกไตรรัตน์ว่าถึงเวลาที่โบตั๋นต้องไปเกิดแล้ว แต่เพราะติดห่วงเรื่องกล่องของขวัญที่ยังหาไม่เจอ ไตรรัตน์สัญญากับโบตั๋นว่าจะช่วยหาของขวัญให้เจอให้ได้

ฝ่ายอาม่าตกใจจนเป็นลม แล้วฝันว่าได้เจออากง อากงมาลาบอกว่าจะไปเกิดแล้วแต่มีของจะให้อาม่า ไม่บอกว่าอะไร บอกแต่ว่าเก็บอยู่ในห้อง สุคนธรสอาสาจะเข้าไปดูเอง อาอี๊จึงเอากุญแจห้องให้


ภายในห้องอากงทุกอย่างยังรักษาสภาพเดิมไว้ สุคนธรสเข้าไปตั้งจิตอธิษฐานว่า

“หากอากงอยากให้ของที่บอกอาม่า ก็ขอให้ชี้ทางด้วยค่ะ”

พอลืมตาก็เห็นฝาตู้บานหนึ่งเปิดอยู่ทั้งที่ตอนเข้ามามันปิดสนิท เมื่อไตรรัตน์ตามเข้ามาจึงให้เขาช่วยอุ้มขึ้นไปดูที่บานตู้ชั้นบน จึงพบกล่องของขวัญที่โบตั๋นเตรียมมอบให้ไตรรัตน์ในวันเกิดแต่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตและอากงนำมาเก็บไว้ในห้อง

“ไปบอกพ่อแม่นายเตรียมจัดวันเกิดให้นาย โบตั๋นจะได้ให้ของขวัญนายตามความตั้งใจเดิมก่อนตาย” สุคนธรสเร่ง

“นี่แปลว่า โบตั๋นจะไปเกิดแล้วหรือ บ้านนี้จะไม่มี วิญญาณโบตั๋นอีกแล้วซิ” กุมาริกาทั้งดีใจและเสียใจที่ต่อไปจะไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกแล้ว ไตรรัตน์เดินออกไปเศร้าๆ สุคนธรสมองตามพึมพำเบาๆ

“ไม่ใช่แค่โบตั๋นที่จะไปจากบ้านหลังนี้ ฉันก็จะไปด้วยเหมือนกัน”

ooooooo

วันนี้ขณะกรรณากำลังนั่งวาดแบบแปลนเบื่อๆ อยู่ที่บริษัทนั้น ก็ได้รับโทรศัพท์จากพงอินทร์ เขาโทร.มาลาเธอบอกว่าจะกลับไปทำงานเดิม จะเข้าป่าไปถ่ายสารคดีสักปีสองปี

“หา!...ไปถ่ายสารคดีอะไรของนายตั้งเป็นปีๆ” กรรณาใจหายทั้งที่เพิ่งเล่นตัวอยู่หยกๆ

“คุณจะอยากรู้ไปทำไม เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องเห็นหน้าผม ไม่ได้ยินเสียงผมสมใจคุณก็แล้วกัน ผมต้องไปแล้ว ลาก่อน” พูดแล้ววางสายเลย กรรณาแทบขาดใจ รีบพูดแต่ไม่ทันแล้ว เลยบ่นคนเดียว...

“คนบ้าเอ๊ย...จะมาลากันทางโทรศัพท์แบบนี้ได้ยังไง ฉันไม่ยอมหรอก” เก็บมือถือแล้วคว้ากระเป๋าจะออกไป แต่พอลุกพรวดขึ้นก็ชนเข้ากับพงอินทร์ที่ยืนติดอยู่ข้างหลังจนตัวเองเซ เขาโอบเอวเธอไว้ถามว่า ไม่ยอมแล้วจะทำอะไร “ก็เบิ๊ดกะโหลกนายน่ะซิ”

กรรณายกมือจะตบหัว ถูกพงอินทร์คว้ามือไปจูบบอกว่าเบิ๊ดกะโหลกไม่เอา แบบนี้ดีกว่า กรรณาเสียท่าทำหน้าไม่ถูกเลยไล่แก้เขิน แต่พอพงอินทร์สะพายเป้เดินไป เธอก็ยืนมองหน้าหงอยใจเหงาบอกไม่ถูก

แต่ไม่ทันได้เศร้า ผู้การเดินสวนพงอินทร์เข้ามาพอดีถามว่าจะไปไหน พงอินทร์มัวแต่เอ้ออ้า กรรณาเลยตอบแทนว่า

“เขาจะไปเข้าป่าน่ะค่ะ อย่าไปสนใจเลย แล้วนี่ผู้การหิ้วพี่ณัฐกับหมอมาทำไมคะ”

“หิ้วมารำวงมังครับ...ฮ่าๆๆ” ผู้การหัวเราะแอ๊บๆ ตามสไตล์ แล้วจึงบอกว่า ชวนมาคุยงาน ตนมีคดีสำคัญให้พวกเธอใช้พลังพิเศษช่วย แล้วผู้การ ณัฐเดช หมอวรวรรธก็เดินเข้าข้างใน พงอินทร์เลยตามเข้าไปด้วย

ooooooo

ผู้การเอาแผ่น DVD ให้ก๊องใส่เครื่อง เปิดออกมาเป็นสารคดีธุรกิจอาหาร ทุกคนดูงงๆว่าผู้การให้ดูทำไม

“นี่แหละคือภาพ DVD ที่ทีมงานเตรียมไว้ฉายในวันนั้น ไม่น่าจะเป็นการสะกดจิตอะไรได้อย่างที่พวกคุณบอก”

หมอวรวรรธเอาหลอดแก้วที่มีของเหลวอยู่ในนั้นออกมาวางบอกว่า

“นี่คือตัวอย่างของเหลวในแก้วที่เสิร์ฟในวันนั้น น่าแปลกที่มันกลายเป็นน้ำธรรมดาไปหมดทุกๆตัวอย่างคนในที่ประชุมวันนี้และเจ้าหน้าที่ที่เก็บตัวอย่างมา บอกตรงกันว่า มันคือยาฆ่าแมลง”

ติณห์บอกว่าของเหลวนั้นเป็นสีดำและเดือดปุดๆ ก๊องติงว่าไม่มียาฆ่าแมลงอะไรที่เป็นสีดำและเดือดปุดๆหรอก

“ทุกคนเหมือนไม่มีสติ ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะยกแก้วน้ำพิษขึ้นดื่มพร้อมกันทั้งห้อง” ญาณินเล่าตามที่ถอดจิตเข้าไปเห็นกับตาในวันนั้น หมอวรวรรธก็ยืนยันว่าตรวจฉี่ทุกคนแล้วก็ไม่พบสารเสพติดหรือของมึนเมาอะไรเลย

“มันต้องไม่ใช่เรื่องวิทยาศาสตร์แน่ๆค่ะ มันต้องเป็นเรื่องไสยศาสตร์เพราะคุณหนูกับคุณติณห์มองเห็นในนิมิตก่อนค่ะ” ป้าออพูดอย่างมีประสบการณ์ แต่ผู้การบอกว่าทุกคนให้การว่าจำอะไรไม่ได้เลยหลังจากดูวีดิโอพรีเซนเทชั่นครู่หนึ่ง

ญาณินเล่าภาพในจอที่ตนได้เห็นในวันนั้นว่า มันเหมือนนกที่มีปีกสีดำบินวนๆเข้าหาศูนย์กลาง พงอินทร์แทรกว่านกสีดำก็ต้องเป็นอีกา พอพูดถึงอีกา ทุกคนก็คุ้นขึ้นมา ติณห์คิดถึงหมอผีสมคิด ญาณินเพ่งไปที่เบญจาทันที

ooooooo

ที่บ้านไตรรัตน์ หลังจากหาของขวัญเจอและจัดงานวันเกิดของไตรรัตน์เพื่อให้โบตั๋นมอบของขวัญ จะได้ไม่มีอะไรติดค้างและได้ไปเกิดใหม่

แต่โบตั๋นก็ยังมีห่วงว่าไตรรัตน์กับสุคนธรสยังพ่อแง่แม่งอนกันไม่เลิก จึงอาศัยงานวันเกิดของไตรรัตน์ที่สุคนธรสอวยพรเขาเป็นคนสุดท้าย ลุ้นให้เธอหอมแก้มเขา

หลังจากโบตั๋นมอบของขวัญที่เป็นรูปครอบครัวใส่ในกรอบสวยงามที่เธอตั้งใจทำเองแล้ว ไตรรัตน์ซึ้งจนน้ำตาคลอถามว่า กรอบรูปนี้โบตั๋นทำเองหรือ

“ค่ะ หนูแอบทำตั้งนานแน่ะ ดีใจที่พี่ชอบนะคะ ถึงแม้หนูจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่หนูอยากเห็นทุกคนที่บ้านอยู่ด้วยกันมีความสุข แม่กับอาอี๊ไม่ทะเลาะกันอีก อาม่าก็ด้วยนะคะ พี่รสกับพี่ไตรก็เหมือนกัน รักกันให้มากๆ แล้วอย่าลืมคิดถึงหนู หนูต้องไปแล้ว ลาก่อนทุกคน...”

โบตั๋นโบกมือลา วิญญาณกลายเป็นดวงจิตสว่างจ้าแล้วลอยขึ้นฟ้าไปราวกับดวงดาว ทุกคนยืนโบกมือและอวยพรจนดวงจิตนั้นลอยเข้าไปรวมกลุ่มกับดวงดาวบนท้องฟ้าส่องแสงระยิบอย่างสวยงาม...

ส่งโบตั๋นแล้ว สุคนธรสก็เก็บกระเป๋าจะไปจากบ้านนี้ตามที่บอกไตรรัตน์ไว้ เธอแปลกใจที่ไตรรัตน์ไม่ห้าม ไม่ได้ขอร้อง แต่กลับบอกว่า “เชิญ...” แล้วเขาจึงพูดว่า

“ไปเถอะ แล้วผมจะรอคุณอยู่ที่นี่ ถ้าผมตายวิญญาณผมก็จะไม่เกิด ผมจะรอ รออย่างมีความหวัง รอให้แม่หมออย่างคุณกลับมาหา กลับมาปลดปล่อยวิญญาณผีที่รักเดียวใจเดียวแต่ไม่สมหวังในรัก”

สุคนธรสถามว่าทำไมต้องพูดถึงความตายด้วย ไตรรัตน์ยิ้มเศร้าๆ ให้เหตุผลว่า เพราะเธอไม่สนใจคน สนใจแต่ผี ถ้าตนตายไปแล้วดุๆหน่อย เฮี้ยนนิดๆ แบบโบตั๋น อาจจะทำให้เธอหันมามองบ้าง

คำเว้าวอน แต่ไม่ง้อของไตรรัตน์ ทำให้สุคนธรสลดท่าทีแข็งกระด้างลง สุดท้ายจากงอนกัน ก็กลายเป็นหยอกล้อหัวเราะกันอย่างร่าเริง...

ooooooo

เมื่อได้รับภารกิจจากผู้การแล้ว พวกญาณินพากันไปที่ตึกออฟฟิศที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ไปถึงเจอภูตอีกาที่เบญจาส่งมาทำซ้ำ หลังจากที่ถูกญาณินกับติณห์ทำลายไปครั้งที่แล้ว

ญาณินถอดจิตขึ้นไปถึงห้องประชุม เห็นภูตอีกาเต็มไปหมด ลงมาบอกพรรคพวกให้รีบไปจากที่นี่กัน

“ที่นี่มีวิญญาณหลายตนมันมารอเพื่อฆ่าคนในบริษัท แต่ตอนนี้มีแต่พวกเรามา มันอาจจะมารุมเล่นงานพวกเราแทน”

“ผมว่า เราพอได้ข้อสรุปแล้วกลับไปกันดีกว่าณิน บางทีถ้าเรานั่งสมาธิกันอีกครั้ง เราอาจจะค้นพบอะไรมากกว่าจะมาสู้กับมันอย่างสะเปะสะปะในตอนนี้”
ติณห์เสนอ

ญาณินเห็นด้วย ทุกคนจึงรีบออกจากห้องไป เมื่อกลับมาถึงบริษัท กรรณาสรุปกับเพื่อนๆว่า

“เบญจากับหมอสมคิดกำลังจะทำเรื่องที่สยดสยองเพิ่มขึ้นจากที่เคยทำมาในอดีต และมีแต่พวกเราที่จะขวางพวกมันได้ เราไม่ควรตั้งรับกันอีกแล้วนะ เราต้องเป็นฝ่ายรุกบ้าง เพราะพวกมันมีอันตรายอยู่ในระดับภัยสังคมเลยล่ะ”

ทุกคนเห็นถึงความจริงจังในการทำงานของกรรณา แต่พอเธอนึกอะไรได้ก็สะดุ้งเฮือก วิ่งไปคว้ารีโมตจากก๊องเปลี่ยนช่องที่ก๊องกำลังดูบอลอยู่ ทุกคนแปลกใจ ต่อมาจึงรู้ว่าเธอตื่นเต้นที่จะดูละครเรื่อง “มายาร้อยใจ” ที่จุนจีแสดงนำและจะออนแอร์เป็นตอนแรกนั่นเอง!

จุนจีเองก็แอบมาดูกับกรรณา แต่พอถึงบทจูบในละคร กรรณาก็หึงขึ้นมา ยิ่งเมื่อเจอเสียงเชียร์ของแฟนคลับในมือถือให้จุนจีกับเป้ยเป็นคู่จิ้นกัน ก็ยิ่งรับไม่ได้ จุนจีพยายามชี้แจงว่านั่นเป็นการแสดงในละคร เธอก็รับไม่ได้ สุดท้ายงอนหนีกลับบ้านไปเลย

เนตรสิตางศุ์ถูกณัฐเดชสั่งห้ามไปงานนี้ เธอจึงทำอาหารให้ทุกคนทานอย่างตั้งใจ ถูกสุพิชชาที่ยัดเยียดตัวเองมาอยู่ที่บ้านด้วย ทำร้ายจิตใจด้วยการซื้ออาหารร้านอร่อยจากข้างนอกมาและจะเอาที่เนตรสิตางศุ์ทำไปเททิ้ง หมอวรวรรธจึงชวนเนตรสิตางศุ์เอาอาหารที่เธอทำไปดินเนอร์กัน ในบรรยากาศแสนโรแมนติก ทำเอาสุพิชชา แค้นแทบกระอักเลือด

ไม่เพียงเท่านั้น สุพิชชายังเข้าไปรื้อข้าวของในห้องนอนของเนตรสิตางศุ์ อ้างว่าช่วยจัดห้องให้ เอารูปที่เนตรสิตางศุุ์ถ่ายคู่กับหมอวรวรรธทิ้งถังขยะ เมื่อเนตรสิตางศุ์เก็บขึ้นมาก็ปัดทิ้งจนกระจกแตกบาดมือตัวเอง พอณัฐเดชเข้ามาดูก็มารยาว่าถูกเนตรสิตางศุ์ทำร้าย ณัฐเดชหูเบาดุเนตรสิตางศุ์ เธอเสียใจน้อยใจจนร้องไห้

แต่ก่อนที่สุพิชชาจะเข้ามา เนตรสิตางศุ์กำลังคุยมือถือกับหมอวรวรรธอยู่ พอสุพิชชาเข้ามาเธอวางมือถือโต้เถียงกับสุพิชชาโดยไม่ได้ปิดเครื่อง ทำให้หมอได้ยินเรื่องราวทั้งหมด หมอได้แต่เป็นห่วงและสงสารเธอจับใจ...

ooooooo

ที่สำนักของหมอผีสมคิด กรกฎยื่นรูปนักธุรกิจใหญ่นายหนึ่งให้เบญจา บอกว่านักธุรกิจรายนี้แอบเป็นชู้กับเมียเจ้าของบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่และยังแอบแทงข้างหลังเจ้านายตัวเองอีกด้วย

เบญจารับรูปไปดู กรกฎพูดต่อว่า “เขาเลยจ้างเราสามสิบล้านสำหรับการทำให้มันหายไปภายใน 12 ชั่วโมง”

หมอผีสมคิดพูดอย่างท้าทายว่าจะรอดูว่าเบญจาจะมีความคิดสร้างสรรค์แปลกๆใหม่ๆ อะไรมานำเสนอบ้าง งานนี้เบญจาจึงให้กรกฎมาร่วมพิธี เธอร่ายมนต์คาถาจนดวงตาของกรกฎปรากฏเปลวไฟลุกโชนและถอดจิตจากร่างไปทำงานตามคำสั่งตน!

นักธุรกิจคนนั้นนั่งรอชู้อยู่ที่ร้านอาหารหรู กรกฎถอดจิตเข้าไปหา เพียงนักธุรกิจเงยหน้าสบตาก็ถูกสะกดจิตทันที ไม่นานนักธุรกิจคนนั้นก็สะดุ้งลุกขึ้นดิ้นทุรนทุรายเพราะภายในร้อนดังไฟสุม ตะโกนขอความช่วยเหลือแล้ววิ่งออกไปนอกร้าน กรกฎแสยะยิ้มสะใจ ไม่นานไฟก็ลุกท่วมนักธุรกิจคนนั้น เขาดิ้นอย่างทรมาน พนักงานช่วยกันเอาน้ำสาดไฟก็ไม่ดับ

เป็นจังหวะที่จุนจีขี่มอเตอร์ไซค์ตามรถกรรัมภามาเจอ เขาถอดเสื้อไปคลุมร่างนักธุรกิจคนนั้น คนอื่นๆก็เข้ามาช่วยกันดับจนไฟมอดลง แต่นักธุรกิจคนนั้นก็อยู่ในสภาพเป็นตายเท่ากันแล้ว!

หนังสือพิมพ์ลงภาพและข่าวที่สยดสยองนั้น สุคนธรสฟันธงว่า นี่คือไฟที่เกิดจากอาคมมนต์ดำ

“พยานในร้านบอกว่า อยู่ๆเขาก็ทำท่าว่าร้อนทั้งๆที่แอร์ในร้านเย็นมาก เหมือนเขาคิดไปเองคนเดียว...หรือโดนสะกดจิต?” ผู้การเล่า

“เป็นไปได้ไหม ที่การสะกดจิตนี้ ทำให้เจ้าตัวเพ่งความรู้สึกไปที่ความร้อนในตัว การเพ่งของตัวเองก็เหมือนจิตของเขากลายเป็นแว่นขยายเลนส์นูนที่ดูดพลังธาตุไฟทั้งหมดในตัวคนมารวมกันอย่างเข้มข้นจนเกิดเป็นไฟสันดาปขึ้น?”

ปัญหามีว่า การสะกดจิตนี้มาจากไหน? จึงเป็นหน้าที่ของพวกณัฐเดชต้องรีบสืบรู้ต่อไป

ooooooo

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 21 วันที่ 11 พ.ย. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ