หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 21 วันที่ 9 พ.ย. 56

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 21 วันที่ 9 พ.ย. 56

“คุณจะทิ้งอรวีไม่ได้ คุณต้องแต่งงานและรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำกับเธอ...” อติเทพไม่แยแส ทนายสมชายถามว่า “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมว่าจะทำอย่างนี้กับพวกเรา ผมทำให้คุณมีทุกอย่างได้ ผมก็ทำให้คุณสูญเสียทุกอย่างได้เหมือนกัน!”
“ออกไป!!” อติเทพไล่ตะเพิด

“คุณรู้ใช่ไหมว่าเราสองคนพ่อลูกจะสามารถทำอะไรที่เป็นคุณเป็นโทษให้คุณได้บ้าง” ถูกตวาดให้เงียบอีก แต่ทนายสมชายหยุดไม่ได้แล้ว พูดต่ออย่างคับแค้นใจว่า “รับรองว่าคุณนึกไม่ถึงหรอกคุณอติเทพ ผมมีทางเลือกให้คุณสองทาง หนึ่งแต่งงานกับอรวี หรือสองเอาเงินมาให้ผมห้าสิบล้าน”

“ฉันไม่เลือกอะไรทั้งนั้น ถ้าแกมีปัญญาทำอะไรฉันก็เอาเลย ไปได้แล้ว ออกไป!!”

“ได้...อรวีไป” ทนายสมชายพาอรวีออกไปด้วยความแค้นแน่นอก!


ooooooo

ทนายสมชายลากอรวีออกจากบ้าน พูดอย่างมุ่งมาดอาฆาตแค้นว่าสิ่งที่ตนลงทุนลงแรงทำไป จะไม่ยอมให้สูญเปล่า

“ไอ้อติเทพ แกต้องเสียใจ!” ทนายสมชายคำราม

เวลาเดียวกัน ที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์บรรยากาศเริ่มครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ไม่ทันไรทุกคนก็ชะงักกับข่าวในทีวี ที่นักข่าวสาวกำลังรายงาน ทุกคนจ้องจอตาแทบไม่กะพริบ

นักข่าวกำลังรายงานอุบัติเหตุลิฟต์ขาดทำให้นายนรินร์ เดชาอุตสาหกรรม ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกซเล้นท์ฟู้ด บริษัทผู้นำด้านส่งออกอาหารรายใหญ่ของประเทศเสียชีวิตคาที่ นักข่าวยังรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ กรรมการบริษัทจะแถลงข่าวให้น้องชายผู้ตายขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่แทน

ทุกคนตะลึงกับข่าวนี้

ญาณินกับติณห์นั่งสมาธิด้วยกันอยู่ในห้องพระ ทั้งสองเห็นภาพเหตุการณ์ฆ่าหมู่ในห้องประชุม เห็นคนใส่สูทตายเกลื่อนในห้องประชุม! ทั้งญาณินและติณห์ลืมตาผงะเฮือกขึ้นทันที! ทั้งสองลุกออกจากห้องพระ ออกมาเห็นทีวีกำลังรายงานภาพนักธุรกิจชายคนเดียวกับที่เห็นในนิมิตเมื่อครู่นอนตายอยู่ อีกทั้งรายงานข่าวว่าในที่ประชุมจะมีการแถลงนโยบายในเวลา17นาฬิกาภาพก็ตรงกับในนิมิตอีก

ญาณินดูนาฬิกาเห็นว่าเหลือเวลาอีกเพียง 30นาทีก็จะถึงเวลาแถลงข่าวแล้ว ติณห์กับญาณินมองหน้าอย่างรู้กันว่าอีกสักครู่จะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองพากันวิ่งออกไปทันที ป้าออถามว่าจะไปไหน ญาณินร้องบอกพลางวิ่งไปว่า

“จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น จะมีคนตาย ฉันต้องรีบไป”

เมื่อไปถึงที่ออฟฟิศหรู ทั้งสองถูกยามกันไว้ไม่ให้ขึ้นไปเพราะไม่มีบัตร ไม่มีเวลาต่อรองอะไรอีกแล้ว ญาณินถอดจิตออกไปทันที ติณห์เห็นกายหยาบของญาณินนิ่งอยู่ก็รู้ว่าเธอเข้าไปแล้ว

ooooooo

ขึ้นไปถึงห้องประชุม บรรดาผู้เข้าประชุมทุกคนมีน้ำสีดำเดือดปุดในแก้ววางอยู่ตรงหน้า ทุกคนจ้องไปในจอตรงหน้าดวงตาเป็นสีดำ ในจอมีอีกาบินวนไปมา

“นี่มันสะกดจิตหมู่นี่นา ฝีมือของใครกัน” จิตญาณินตกใจกับสภาพที่เห็น เธอพยายามบอกให้ผู้ร่วมประชุมอย่าดื่มน้ำสีดำในแก้ว แต่ไม่มีใครได้ยิน ญาณินเพ่งพลังไปที่จอ หน้าจอดับทันที เธอดีใจว่าทำสำเร็จแล้ว แต่พอมองไปอีกที ทุกคนกำลังยกแก้วจะดื่ม! ทั้งนี้เพราะการสะกดจิตยังมีผลอยู่เมื่อเริ่มต้นไปแล้วหยุดไม่ได้

พอดีติณห์วิ่งเข้ามา เธอถามว่าจะทำอย่างไรดีตนปลุกคนพวกนี้ไม่ได้ ติณห์กระโดดไปเปิดเครื่องเสียง เพลงร็อคแผดขึ้นทันที ผู้ร่วมประชุมที่กำลังจะยกแก้วดื่ม สะดุ้งเฮือกเหมือนตื่นจากหลับ ต่างมองน้ำสีดำในแก้วอย่างตกใจ บ้างทำแก้วตกแตกน้ำสีดำหก บ้างบีบแก้วจนแตก บอกกันอย่างตกใจว่า “นี่มันยาฆ่าแมลง!”

“ไชโย รอดแล้ว” จิตญาณินดีใจสุดๆแว้บหายไปทันที ติณห์เองก็รีบถอยแล้ววิ่งออกไปเช่นกัน

จิตญาณินมาเข้ากายหยาบที่มีคนมาห้อมล้อมบางคนเอาพัดโบกให้ พอจิตเข้าร่างทุกคนดีใจว่าเธอฟื้นแล้ว ทั้งสองต่างดีใจที่ช่วยให้ผู้เข้าประชุมรอดตายได้หวุดหวิด ญาณินตั้งข้อสังเกตว่า

“แต่วิธีสะกดจิตหมู่แบบนี้ ใครที่ทำ ทำทำไม เพื่ออะไรกัน” ติณห์บอกว่ามันเป็นอาชญากรรมระดับชาติ ถามญาณินว่าทำไมพระถึงให้เราสองคนเห็นเหตุการณ์นี้ล่วงหน้า ญาณินตอบอย่างอิ่มใจว่า

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้ว่าเราจะช่วยได้ไงคะ”

ooooooo

ที่สำนักใหม่ของหมอผีสมคิด...เบญจากำลังเอาธัญพืชสีดำให้อีกาจิกกิน พลางพูดคุยกับอีกา...

“แกทำไม่สำเร็จเหรอ เพราะอะไรกัน แผงควบคุมการฉายภาพของเราขัดข้องหรือ? ปัญหาทางเทคนิค? หมายความว่าไง? แกรู้ไหม ถ้าเราทำไม่สำเร็จ จะเกิดอะไรขึ้น!”

หมอผีสมคิดเดินเข้ามา ดึงมีดอาคมจากเอวเบญจาขว้างไปปักอีกาตายกลายเป็นควันหายไป ด่าอย่างไม่พอใจว่า

“ไอ้กาผีโง่งี่เง่ามันต้องตายแบบนี้ไง ลูกค้าโทร.มาบอกว่างานผิดพลาด มีคนบุกไปช่วยไอ้พวกโง่พวกนั้น แกรู้ไหมว่ามันเป็นใคร”

เบญจาถามว่าใครทำ ไม่ใช่แผงควบคุมเทคนิคดับกะทันหันหรือ? หมอผีสมคิดบอกให้ดูจากกล้องวงจรปิดของบริษัทเอาเอง แล้วเอามือถือมากดให้ดูคลิป เบญจาเห็นติณห์กับญาณินที่ตึกนั้น เบญจาเครียด สมคิดบัญชาว่า

“แกจะปล่อยให้พวกมันมาทำลายงานอาชีพของเราไม่ได้ เบญจา มันทำลายชีวิตฉัน ทำลายจิตใจแก แล้วแกยังจะมาพ่ายแพ้พวกมันอีกเหรอ เบญจา แกอยากมีจุดจบแบบไอ้ผีอีกานั่นไหมล่ะ!”

ooooooo

ที่คอนโดอรวี...ทนายสมชายกำลังบัญชาให้อรวีโหลดข้อมูล แล้วสั่งให้ส่งออกไปเลย เมื่ออรวีทำเสร็จ ทนายสมชายพูดอย่างสะใจว่า

“ไอ้อติเทพ...มึงเสร็จกู!”

ไม่ถึงอึดใจ ผู้การที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดีอยู่ในรถ ก็ชะงักแปลกใจเมื่อมีเสียงเตือนว่ามีอีเมล์เข้ามาใหม่ ผู้การกดดู หน้าเครียดทันทีที่อ่านหัวข้อ... “หลักฐานฆาตกรรมพิมพิลาส” จึงคลิกเปิดคลิปที่แนบมาด้วย เป็นภาพจากวงจรปิดเห็นว่าอติเทพเป็นคนเอางูมาปล่อยในเรือนกล้วยไม้!

เมื่อนัดพบกับหมอวรวรรธและณัฐเดชที่ร้าน กาแฟ ดูคลิปกันแล้ว ณัฐเดชตั้งข้อสังเกตว่าคลิปนี้มาจากไหน มาทำไมตอนนี้ และใครส่งมา หมอวรวรรธเชื่อว่า “แสดงว่า ใครบางคนที่ส่งคลิปนี้มา ต้องมีเจตนาแอบแฝง”

ผู้การผสมโรงเห็นด้วยกับทั้งสอง แต่พอณัฐเดชถามว่าผู้การสืบหรือยังว่ามันส่งมาจากไหน ผู้การบอกว่า

“อีเมล์ที่ใช้ส่งคลิปนี้ สมัครมาใหม่เพื่อส่งคลิปนี้โดยเฉพาะ ตรวจสอบไอพีแอดเดรสก็พบว่า ถูกส่งมาจากร้านเน็ตแถวมีนบุรี...แต่เป็นร้านเน็ตที่ไม่มีกล้องวงจรปิด เจ้าของร้านจำหน้าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่ได้เลย”

“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนส่งตั้งใจจะใช้ร้านนี้เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้สาวถึงตัว” ณัฐเดชวิเคราะห์

“ใช่ ผมถึงเรียกคุณสองคนมาด่วน เพื่อจะบอกว่า ผมฝากด้วยนะ” พูดแล้วจะลุกไป ก็พอดีมีโทร.เข้ามือถือ “ว่าไง อะไรนะ!! ที่ไหน...ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ณัฐเดชถามว่ามีเรื่องอะไรหรือ “ผู้บริหารบริษัทเอ็กซเล้นท์ฟู้ดโดนคนเอายาพิษมาเสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มในการประชุม โชคดีที่มีคนมาขัดขวาง ไม่งั้นตายกันยกแผงแน่”

พูดขาดคำก็มีเสียงแมสเสจเข้ามาอีกชุด ผู้การกดดูภาพอุทาน “หา...แล้ว...พวกนายทายสิ คนที่เข้าไปขัดขวางและช่วยคนพวกนั้นไว้ได้เป็นใคร” แล้วส่งมือถือให้ณัฐเดชกับหมอวรวรรธดู

ooooooo

หลังจากเป้ยได้ยินทนายสมชายพูดขู่อาฆาตแล้ว เธอต่อว่าอติเทพว่า

“ไหนคุณบอกฉันว่า คุณกับอดีตภรรยาช่วยกันสร้างตัว ทำบริษัทจนร่ำรวยขึ้นมา พอภรรยาตายทุกอย่างเลยตกมาเป็นของคุณคนเดียว...แล้วที่ทนายคนนั้นพูดเป็นทำนองขู่ๆ แบล็กเมล์คุณ...มันคืออะไรคะ” เป้ยต่อว่ารุนแรง

อติเทพให้เธอช่วยหาวิธีจัดการสองพ่อลูกนั้น เธอตกใจบอกว่าถ้ารวยแล้วอยู่สบายตนเอา แต่ถ้ารวยแล้วต้องเจอกับอะไรต่อมิอะไร ตนขอบาย! แล้วเธอก็ขอยุติความสัมพันธ์แค่นี้ อติเทพทวงแหวนคืน เธอบอกว่าแหวนนี่ก็ให้ถือเสียว่าเป็นค่าเสียเวลาของตนแล้วกัน

แต่เป้ยไม่ทันออกจากบ้าน ตำรวจก็เอาหมายจับมาแสดงกับอติเทพเชิญไปให้ปากคำที่โรงพักในข้อหาฆาตกรรมพิมพิลาสและข้อหาปลอมแปลงเอกสาร อติเทพหน้าเสีย และเมื่อตำรวจหันบอกเป้ยว่าเชิญเธอไปด้วย เธอก็ถึงกับหน้าซีดเผือดทันที

ooooooo

ที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ ติณห์ยืนจิบกาแฟคุยกับณัฐเดชสบายๆ

“เรื่องการสะกดจิตหมู่แบบนั้น มันต้องเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติแน่ๆ ฉันกับญาณินได้รับสารจากนิมิตตอนนั่งสมาธิ ถึงไปช่วยทัน เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่ามันคืออะไร แล้วพระเบื้องบนท่านจะให้เราช่วยอีกหรือเปล่า”

ณัฐเดชบอกว่าภารกิจของซิกซ์เซ้นส์กำลังเริ่มอีกแล้ว ติณห์เองก็พูดอย่างภูมิใจว่าตนก็กลายเป็นคนมีเซ้นส์ ไปกับเขาด้วยแล้ว

“โอเค ยินดีต้อนรับสู่ความพิเศษ ภาระอันยิ่งใหญ่ที่อาจนำมาทั้งเรื่องที่ชอบและที่ไม่ชอบ” ณัฐเดชเอ่ยอย่างยินดี

ขณะนั้นเอง หมอวรวรรธเข้ามาอย่างรีบร้อนขอให้ช่วยไปดูเทปวงจรปิดในเรือนกล้วยไม้ของพิมพิลาสเพราะตนดูแล้วมันมีอะไรที่ดูแปลกๆ ณัฐเดชติงว่าเราดูกันดีแล้วว่าไม่ใช่การตัดต่อ แต่เมื่อหมอบอกว่าอยากให้ดู อีกครั้ง ทั้งสามจึงพากันไปที่ห้องปฏิบัติการตรวจคอมพิวเตอร์

จากการดูอย่างละเอียด สังเกตและเปรียบเทียบ ภาพต่อภาพ ทั้งสามพบความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

ประการแรก พบว่าเป็นภาพตัดต่อเพราะเวลาขัดกัน อย่างสิ้นเชิง เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นเวลากลางคืนแต่ภาพอติเทพที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์เป็นภาพที่ถ่ายเวลากลางวัน อีกประการ...คนในภาพไม่ได้มีแค่อติเทพกับพิมพิลาสแต่ยังมีบุคคลที่ 3 ที่มีเงาสะท้อนอยู่ในกระจกนั่นคือทนายสมชาย!

นั่นเป็นหลักฐานที่ยังต้องสาวไปให้ถึงต้นตอ ทั้งสามมองหน้ากันคิดหนัก

ooooooo

จุนจีที่สบายใจขึ้นมากเมื่ออติเทพที่เขาเชื่อว่าเป็นคนฆ่าย่าของเขาถูกจับ พากรรัมภามาที่บ้านพิมพิลาสหมายสารภาพรัก ทั้งสองหยอกล้อกันประสาคนมีใจตรงกัน กรรัมภาหนีจุนจีเข้าไปที่เรือนกล้วยไม้ พลาดเซจะล้มมือไขว่คว้าเลยถูกลวดที่เกี่ยวกระถางกล้วยไม้เกี่ยวถุงมือขาดถูกเนื้อเลือดซิบๆ

กรรัมภาถอดถุงมือดูบาดแผล จุนจีรีบมาดูและจะพาไปฉีดยากันบาดทะยัก กรรัมภาเอื้อมมือที่มีบาดแผลไปหยิบถุงมือ นิ้วสัมผัสถูกพื้นที่เรือนกล้วยไม้ เธอผงะเบิกตาโพลง จนจุนจีตกใจถามว่าเป็นอะไร

“ฉันเห็น...เห็นย่าคุณ!!”

กรรัมภาเล่าเหตุการณ์ที่เห็นจากสัมผัสพิเศษของตัวเองอย่างละเอียด...

วันนั้น พิมพิลาสถือเชิงเทียนเข้ามาที่เรือนกล้วยไม้เพราะรู้สึกว่ามีคนบุกรุกเข้ามาที่นั่น เธอถูกอรวีถือถุงใส่งูเห่ามาปล่อยเพื่อให้กัดและทำเสียงล่อให้พิมพิลาสเดินไปหา ถูกงูเห่าที่ห้อยหัวลงจากต้นไม้ฉกทันที! พิมพิลาสร้องสุดเสียงเชิงเทียนร่วงจากมือ เธอล้มลงทันที

งูเลื้อยหนี ถูกทนายสมชายใส่ถุงมือเอาไม้จับงูเอางูออกไปจากเรือนกล้วยไม้

พิษงูแพร่กระจายไปทั่วตัวพิมพิลาส เธอดิ้นรนอย่างทรมานร่างค่อยๆเป็นอัมพาต เหลือบเห็นอรวีใส่รองเท้าส้นสูงแดงยืนอยู่ ก็พยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่อรวียืนมองอย่างเลือดเย็นจนกระทั่งพิมพิลาสสิ้นใจไปอย่างทรมาน

กรรัมภาหลุดจากภาพเหตุการณ์นั้น ทรุดนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง จุนจีถามเสียงเครียดว่า ฆาตกรไม่ใช่อติเทพแต่เป็นอรวีหรือ? เธอบอกว่าไม่ใช่อรวีคนเดียว คนที่เอางูออกไปคือทนายสมชาย! เธอเร่งให้ต้องรีบไปบอกณัฐเดชว่าเราจับฆาตกรผิดตัว

แต่พอลุกขึ้น ทั้งสองก็ต้องตกใจเมื่อเจออรวีมายืนหน้าเศร้าอยู่ เธอถามน้ำเสียงเย็นเยียบว่า

“ทุกอย่างกำลังจบอยู่แล้ว พวกคุณมารื้อฟื้นมันอีกทำไม”

“มันจบไม่ได้หรอก ถ้าฆาตกรตัวจริงยังลอยนวล วิญญาณของคุณพิมพิลาสก็ยังทนทุกข์ไปผุดไปเกิดไม่ได้”

“คุณฆ่าคุณย่าผม! คุณต้องได้รับโทษ!!” จุนจีโพล่งไปอย่างแค้นใจ อรวีจ่อปืนใส่ทันที จุนจีจึงหว่านล้อมว่า “อย่ายิงนะคุณอรวี คุณอยากให้เรื่องมันร้ายแรงมากกว่าเดิมอีกเหรอ”

“ไม่..แค่ฉันฝังพวกคุณสองคนในเรือนกล้วยไม้นี่เสีย ทุกอย่างก็จบ!”

เมื่ออีกฝ่ายมีทั้งปืนและประกาศจะฝังพวกตนเช่นนี้ ทางเดียวที่เหลือคือต้องสู้ จุนจีใช้ความสามารถพิเศษของตนด้านการแสดงผลักกรรัมภาล้มลงแล้วกระโดดเตะกระถางกล้วยไม้กระแทกใส่อรวี เป็นจังหวะที่อรวีลั่นไกพอดี!

จุนจีพากรรัมภาวิ่งหลบกระสุนหนีออกจากเรือนกล้วยไม้ อรวีตั้งสติได้ไล่ยิงอย่างคลุ้มคลั่ง กรรัมภาถูกยิงที่ไหล่ จุนจีพาวิ่งหนีออกจากเรือนกล้วยไม้ก็มาเจอทนายสมชายถือปืนดักอยู่

“พวกมึงสองคนตาย!” ทนายสมชายจ่อปืนใส่ ถูกจุนจีกำทรายซัดใส่หน้าจนลืมตาไม่ขึ้น จุนจีจึงพากรรัมภาหนีรอดไปได้ อรวีไล่ตามมาเจอทนายสมชายถามเขาว่าสองคนนั้นหนีไปแล้วทำยังไงดี

“อย่าให้มันหนีรอดไปจากบ้านนี้ได้!” ทนายสมชายสั่งเหี้ยม

ooooooo

ลีจองกุ๊กที่รอจุนจีอยู่ในห้องได้ยินเสียงปังๆ เดินออกมาดูว่าใครมาจุดประทัดเล่นแถวนี้ เจอจุนจีพากรรัมภาวิ่งมาพอดี จุนจีตะโกนให้รีบหนี แล้วกระชากลีจองกุ๊กหนีไปอีกฟากของบ้าน

ลีจองกุ๊กเห็นกรรัมภาได้รับบาดเจ็บและจุนจีก็ประคองพาเธอหนีอย่างยอมเอาชีวิตเข้าแลก ตัดสินใจทำหน้าที่ผู้จัดการที่ดี เอาปืนของตนให้จุนจีแล้วตัวเองยอมเป็นเป้าวิ่งล่อ ทนายสมชายเบนเป้าหมายวิ่งขึ้นชั้นบน เจอรูปของพิมพิลาสขนาดมหึมาก็ตกใจผงะถอยหลัง วินาทีนั้นวิญญาณพิมพิลาสเข้าสิงลีจองกุ๊กทันที!

ทนายสมชายรู้ทัน เห็นลีจองกุ๊กวิ่งออกจากซอกหนึ่งก็มั่นใจว่าจุนจีต้องซ่อนตัวอยู่แถวนั้น ร้องท้าให้ออกมาสู้กัน จุนจีบอกให้กรรัมภาหนีไปก่อน ทนายสมชายเห็น กรรัมภาจึงเล็งปืนใส่ จุนจีตัดสินใจยิงสกัดแต่กระสุนหมด จึงพุ่งเข้าตลุมบอน ทนายสมชายบิดมือจะยิงจุนจี ผ่านซอกคอตัวเอง ถูกจุนจีผลักกระเด็นแล้ววิ่งหนี

“โธ่เว้ย...ปัง ๆ ๆ ๆ” ทนายสมชายสบถ ยิงไล่หลังจุนจีไปอย่างบ้าเลือด

ฝ่ายกรรัมภาถูกอรวีไล่ยิง แต่กุมาริกาใช้ฝ่ามือยันกระสุนไว้เพราะไม่อยากให้น้องฆ่าใครอีก

ลีจองกุ๊กที่ถูกวิญญาณพิมพิลาสเข้าสิง วิ่งไปช่วยจุนจีจากการถูกทนายสมชายยิง บอกจุนจีว่า

“ย่าเองจักร ไม่ต้องกลัวหลานรัก ย่าจะปกป้องหลานไม่ให้ไอ้คนชั่วพวกนี้ทำอะไรหลานรักของย่าได้” แล้วหันพูดกับทนายสมชายอย่างอาฆาตพยาบาทที่ตนอุปการะส่งเสียเรียนจบเป็นทนายความแต่จิตใจต่ำช้าละโมบจนฆ่าตน

ลีจองกุ๊กที่ถูกพิมพิลาสเข้าสิง ตรงเข้าบีบคอทนายสมชาย แต่ถูกทนายสมชายยกพระที่ห้อยคอออกมาต้านทำให้วิญญาณพิมพิลาสต้องออกจากร่างลีจองกุ๊ก แล้วพริบตานั้นลีจองกุ๊กก็ร่วงหมดสติกับพื้น จุนจีตกใจถลาเข้าไปหาลีจองกุ๊ก เขาถูกทนายสมชายเอาปืนจ่อหัวทันที!

“อย่า..สมชาย อย่าทำอะไรหลานฉัน” พิมพิลาสอ้อนวอนเพราะถูกพระของทนายสมชายทำให้หมดพลังไปแล้ว

“เพราะมึงตัวเดียวไอ้จุนจี ไม่ยอมเซ็นยอมรับพินัยกรรมเสียที ไม่งั้นกูได้มรดกเสวยสุขไปนานแล้ว เพราะมึงทำให้ไอ้อติเทพมันหักหลัง ทอดทิ้งกูกับลูก เพราะมึงทำให้กูไม่ได้อะไรเลย มึงต้องชดใช้ด้วยชีวิตซุปเปอร์สตาร์ของมึง!!”

เมื่อพิมพิลาสอ้อนวอนไม่เป็นผล ตัดสินใจบอกทนายสมชายว่า จะให้สมบัติที่เขาต้องการ ทนายสมชายหันขวับทันที

“ฉันยังมีสมบัติซ่อนอยู่ในบ้านนี้อีก ฉันจะยกให้แกทั้งหมด เพื่อแลกกับชีวิตหลานชายฉัน”

ooooooo

กุมาริกาพยายามเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมให้อรวีวางปืน น้องอย่าฆ่าใครอีกเลย ถูกอรวีตวาดว่าตนไม่เคยมีพี่สาวเป็นผี ทำให้กรรัมภารู้ว่ากุมาริกาเป็นพี่ของอรวี

อรวีเชื่อว่าเมื่อฆ่ากรรัมภาแล้วก็จะไม่มีใครรู้ว่าตนเป็นคนปล่อยงูเห่ากัดพิมพิลาสตาย อรวียิงใส่กรรัมภาจนหมดแม็ก แต่กุมาริกายื่นสองฝ่ามือไปรับกระสุนไว้เจ็บปวดจนเกร็งไปทั้งตัวน้ำตาไหลอาบแก้ม ปล่อยกระสุนร่วงกราวเกลื่อนพื้น

“พี่เคยสงสารตัวเองที่มีกรรมทำให้ไม่ได้เกิด แต่ตอนนี้พี่สงสารคนที่ได้โอกาสเกิดมาแล้วยังสร้างกรรมเพิ่มอีก”

อรวีสำนึกผิดทิ้งปืนอย่างหมดแรง พอดีณัฐเดชกับหมอวิ่งเข้ามา ณัฐเดชเห็นปืนข้างตัวอรวีก็ตะปบปืนที่เอวตัวเองทันที บอกอรวีว่าให้มอบตัวเสีย ตอนนี้ตำรวจรู้ความจริงหมดแล้ว อย่าคิดต่อสู้เป็นอันขาด สั่งให้ยกมือขึ้น

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 21 วันที่ 9 พ.ย. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ