อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 26 วันที่ 21/4 พ.ย. 56
พงอินทร์ขับรถสบายอารมณ์กรรณาถูกจับมัด โดยขายื่นไปที่นั่งด้านหลัง หัวพักอยู่ที่คอนโซลที่ขามีเชือกอีกเส้นมัดเอาไว้โดยที่ปลายเชือกอ้อมออกไปทางหน้าต่างด้านหลังฝั่งคนขับพันรอบหลังขา แล้วมาเข้าที่หน้าต่างอีกด้าน มัดกรรณาติดรถไปเลยกรรณาดิ้นไม่หลุดสายตาอาฆาต“อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะนายตายแน่ไอ้จิงโจ้ไอ้แมลงทับ”
พงอินทร์ไม่แคร์
ก้องฟ้ายกมือไหว้ท่วมหัว
“สาธุ...ขอให้พี่โจ้ทำสำเร็จด้วยเถอะก๊องจะได้มีพี่เขยเป็นเศรษฐีสบาย”
“แก...พวกเราไม่ได้ใจร้ายกับยัยกรรณมากไปใช่มั้ย” เนตรสิตางศุ์กังวล
สุคนธรสพยักหน้า
“ก็ใจร้ายนะแต่ถ้ามองถึงผลที่จะเกิดขึ้นยัยกรรณจะต้องมาขอบคุณพวกเราด้วยซ้ำ”
“ยัยกรรณน่ะรักนายโจ้มากแต่ปากแข็งก็ต้องเอาแชลงงัด” ญาณินบอก
วรวรรธตัดบท
“อย่าคิดมากเลยครับเราทำดีที่สุดแล้วที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคุณพงษ์อินทร์แล้วว่าจะกำราบพยศคุณกรรณยังไง”
“ถ้าขนาดนี้แล้วยังกำราบไม่อยู่ก็ไม่สมควรมาร่วมใช้นามสกุลเขยบ้านซิกส์เซ้นส์จริงมั้ย” ไตรรัตน์บอก
“เยส ดู้ด” ติณห์แท็กมือกับไตรรัตน์ “วีอาร์แฟมิลี่”
วรวรรธจะแท็กมือด้วยณัฐเดชจับมือวรวรรธกดลง ไม่ให้แท็กกับใคร
“อะแฮ่ม นายแน่ใจแล้วเหรอว่าจะได้ใช้นามสกุลเขยซิกส์เซ้นส์...ใครอนุญาต”
เนตรสิตางศุ์หน้าเหวอ
“อ้าว...”
วรวรรธจ๋อย ณัฐเดชทำท่าหวงก้างอรวรรณหันมามองกรรัมภากำลังนั่งเติมหน้าอยู่
“คุณ.แก้มคะจะแต่งไปอัพคลิปลงยูทู้ปสอนการแต่งหน้าเอ็ฟเฟ็คท์เหรอคะ”
“โหย...ป้าออแรงอ่ะค่ะก็จุนจีกำลังจะมาขอนิดนึงเขาอุตส่าห์หนีจากเกาหลีเพื่อกลับมาหาแก้มเลยนะคะป้าออคิดดูสิพอเขามาถึงหน้าบ้านเจอหน้าแก้มอะไรจะเกิดขึ้น”
กรรัมภาเคลิ้มฝันมโนภาพไป...จุนจีวิ่งมาถึงถนนหน้าบ้านซิกส์เซ้นส์กรรัมภาวิ่งออกมาเจอ ผงะ ดีใจต่างคนต่างมองกัน แล้วเรียกชื่อกันและกันพร้อมกัน
“คุณแก้ม”
“จุนจี”
กรรัมภากับจุนจีต่างวิ่งเข้าหากัน แล้วกรรัมภาก็กระโดดเข้าอ้อมกอดจุนจีกอดแล้วหมุนไปรอบๆ สองคนหัวเราะใกล้ชิด สบตาหวานซึ้งจุนจีโน้มหน้ามาจะจูบ...กรรัมภาเพ้อมากๆ
“แล้วเมื่อไหร่จะมาถึงตอนที่เขาโทรหาแก จนถึงตอนนี้จะชั่วโมงนึงแล้วมั้ง” ญาณินถาม
กรรัมภาชะงัก
“นั่นสิ ทำไมยังไม่มาอีก”
รีสอร์ทติณห์...มิรันตีเห็นข่าวสมคิดในหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเขียนว่า “อดีตหมอผี-มือวางระเบิด-หนีไม่รอด คุกตลอดชีวิต”ติณห์ ญาณิน คุณหลวงอยู่ตรงนั้นด้วยมิรันตีหน้าสลด
“แม่ไม่อยากจะเชื่อ...แม่หลงเชื่อคำพูดของมิสเตอร์ร็อบไอ้หมอสมคิดกับลูกสาวได้ยังไง”
“มันรู้ว่าจุดอ่อนของมัมคืออะไร มันก็เข้ามาทางนั้น” ติณห์บอก
มิรันตีไม่ยอมรับ
“จุดอ่อนอะไร”
คุณหลวงสวนทันที
“จุดอ่อนที่แกบ้าผู้ชายน่ะสิ”
มิรันตีแถไป
“พวกมันเป็นหมอผี มีไสยศาสตร์มันต้องทำเสน่ห์ให้แม่ไร้สติ เห็นผิดเป็นชอบแน่ๆ”
คุณหลวงเบ้หน้า
“แหม ทีอย่างนี้ล่ะเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ขึ้นมาเชียวนะ”
“มัม...มัมน่าจะขอบคุณญาณินหน่อยนะครับ” ติณห์พูดขึ้น
มิรันตีตาโต
“อะไร”
“คุณณินช่วยมัมให้ตาสว่างนะครับ และที่สำคัญ คุณณินไม่เคยถือโทษโกรธเคืองมัมเลย ทั้งๆที่มัมจัดหนักจัดเต็มกับคุณณินตลอด”
“ก็มัมโดนของไม่ใช่ตัวตนจริงๆของมัมซะหน่อยจริงๆมันออกจะมีเมตตา”
“มัม...”ติณห์เสียงเข้ม
มิรันตีอึกอัก ไม่อยากเสียฟอร์มญาณินรีบบอก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะติณห์ แค่คุณแม่เข้าใจว่าณินไม่เคยคิดร้ายกับท่านหรือกับคุณก็พอแล้ว”
ติณห์เหล่มองแม่
“มัม...”
“โอเคๆ...แทงกิ้วขอบคุณที่ช่วยแต่เธอห้ามถือสาฉันนะ ก็ฉันเป็นคนซื่อเป็นฝรั่งไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ก็เลยถูกหลอกง่ายๆคนไม่รู้คือไม่ผิดถูกมั้ย”
คุณหลวงหมั่นไส้
“แหม นังนี่จะไม่ยอมรับผิดเลยใช่มั้ย”
“แล้วถ้าจะให้ดีอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ ฉันอาย”
ญาณินยิ้มรับ
“ค่ะคุณแม่”
“เป็นอันว่า เราเข้าใจกันแล้วนะพอใจหรือยังลูก”
คุณหลวงโผล่มายืนจ้องมิรันตี เอาเรื่อง
“แล้วข้าล่ะนังมิรันตี”
ติณห์ยิ้ม
“ผมพอใจ แต่รู้สึกจะมีใครไม่พอใจมาก และรอให้มัมพูดขอโทษอยู่นะครับ”
“แกรนด์ปาของลูกใช่มั้ยแม่ก็มีเรื่องอยากพูดกับเขาเหมือนกัน”
คุณหลวงแปลกใจติณห์กับญาณินงง
อีกด้านของรีสอร์ท...ติณห์กับญาณินยื่นมือออกมาเพื่อให้มิรันตีจับมิรันตีเข้ามาจับมือติณห์กับญาณินเอาไว้ แล้วหลับตาทุกคนอยู่ในสมาธิมิรันตีที่หลับตาอยู่ สักพัก เสียงคุณหลวงดังเข้ามา
“ลืมตาได้แล้วนังมิรันตี”
มิรันตีลืมตา พบว่าคุณหลวงยืนอยู่ตรงหน้าส่วนติณห์กับญาณินหายไปแล้ว
“คุณพ่อ”
คุณหลวงยื่นมือออกมา มีไม้เรียวโผล่มาที่มือ
“นังลูกไม่รักดี เอ็งจะต้องโดนเฆี่ยน”
มิรันตีตกใจ
“คุณพ่อขา”
มิรันตีน้ำตาไหลโผกอดคุณหลวงด้วยความคิดถึงพ่อคุณหลวงชะงัก
“หนู...ขอโทษ...หนูขอโทษนะคะ คุณพ่อ”
“เอ็งจะกอดข้าทำไม”
คุณหลวงผลักออกมิรันตีทรุดลง กราบเท้า
“หนูขอโทษที่หนู...หนูอกตัญญูหนูเชื่อคนอื่นมากกว่าพ่อตัวเอง”
“เอ็งไม่ต้องมารยา บีบน้ำตาเลย”
“หนูเข้าใจคุณพ่อผิด แล้วยังมาเกลียดคุณพ่อ อับอายที่ต้องใช้นามสกุลพิชัยภักดี ทั้งๆที่หนูควรจะภูมิใจและยืนหยัดต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความดีของคุณพ่อ”
“ใช่...เอ็งมันโง่นังหูเบาเชื่อคนอื่นมากกว่าคนในสายเลือดไม่ใช่แค่กับพ่อแต่กับไอ้ติณห์ ลูกเอ็ง เอ็งก็ไม่เชื่อ”
“หนูผิดไปแล้วค่ะ คุณพ่อ คุณพ่อให้อภัยหนูนะคะ”
“ยังมีหน้ามาขอให้ข้าอภัยอีกเหรอทำบุญก็ไม่เคยทำให้ข้าแถมสะเออะจะมาฮุบเรือนไทยข้าเอาไปทำสปาสกปรก เอ็งย่ำยีข้าขนาดนี้ คิดว่าข้าจะให้อภัยเอ็งเหรอ”
“คุณพ่อขา...”
“ไปเลย เอ็งรีบไสหัวไปเปลี่ยนนามสกุลพิชัยภักดีของข้าคืนมาก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน”
“แล้วคุณพ่อจะให้อภัยหนูใช่มั้ยคะ”
“คิดดูก่อน”
“ขอบคุณนะคะ คุณพ่อ”
มิรันตีกอดคุณหลวงที่ฟอร์มๆทำฮึดฮัด แต่สุดท้ายก็อดที่จะลูบหัวเมตตาลูกไม่ได้
ญาณินกับติณห์เดินคุยกันอย่างสบายใจ “คุณแม่คุณสำนึกแล้วคุณหลวงก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงอีกความผิดที่เคยถูกใส่ร้ายก็คลี่คลายลูกหลานก็เข้าใจท่านจะได้ไปเกิดใหม่ซะที”
“แกรนด์ปาจะไปเกิดใหม่เป็นลูกใคร”
“ใครจะไปรู้ ท่านอาจเกิดมาเป็นลูกคุณก็ได้”
“ลูกผม ก็ลูกคุณด้วยเหมือนกัน”
ญาณินเขิน อึกอัก
“อะไร”
ญาณินเดินแยก ติณห์รีบตามมาประกบ
“รีสอร์ทก็สร้างเสร็จแล้ว มัมก็ยอมรับในตัวคุณแล้ว ผมว่าก็น่าจะถึงเวลาของเราสักที”
“เวลาอะไรคะ”
“แน่ะ อย่ามาทำกระสือ”
ญาณินขำๆ
“ไขสือค่ะ กระสือมันคือผี”
“นั่นแหละๆ” ติณห์ดึงญาณินโอบเข้ามาใกล้ชิด “คุณเคยรับปากว่าจะแต่งงานกับผมแล้วห้ามเปลี่ยนใจไม่อย่างนั้นผมจะจะจูบคุณไม่หยุดเลย”
“อื้ม”
ญาณินทำเป็นลังเล
“คิดเหรอ” ติณห์หอม “ลังเลเหรอ” เขาหอมอีก “ยังจะคิดอีกใช่มั้ย นี่ๆ”
ติณห์พยายามจะหอมซ้ำๆแต่ญาณินเอามือกันเอาไว้ดันไว้ปกป้องตัวเองไม่ให้เสียจูบแบบเล่นๆกัน หัวเราะสนุกสนาน
“โอเคค่ะๆ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
“เกรทคุณรักผมมั้ยครับ”
“รักสิคะ รักมากด้วย”
“ฝรั่งคนนี้จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อคุณนะ”
สองคนกอดกัน หวานชื่น
รถแท็กซี่ของจุนจีเลี้ยวเข้ามาในซอย ปากทางเข้าบริษัทซิกส์เซ้นส์
“เข้าไปเลยพี่ ในสุดเลย”
แต่แล้วอยู่ๆมีมอเตอร์ไซค์พุ่งแซงมาปาดหน้า แล้วจอดขวางถนนรถแท็กซี่จอดเอี๊ยดจุนจีหัวแทบคะมำ มองไปข้างหน้า พบว่าลีจองกุ๊กนั่งมอเตอร์ไซค์วินมาขวางนั่นเอง
“จุนจี...ฉันว่าแล้วว่านายต้องมาที่นี่นายจะทิ้งทุกอย่างเพื่อผู้หญิงไทยคนเดียวเนี่ยนะ นายโง่หรือว่าบ้า หรือทั้งโง่ทั้งบ้า”ลีจองกุ๊กโวยวาย
“นายจะว่าฉันโง่ก็ได้ บ้าก็ได้ แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องการอะไร”
“ทุกวันนี้นายมีทุกอย่างอยู่แล้วจะเอาอะไรล่ะ ชื่อเสียง เงินทอง สังคมหรูหรากังนัมสไตล์ หรือถ้าอยากได้ผู้หญิง ก็บอกสิ จะจัดให้ไม่อั้นเลย”
“ฉันจะเอาชีวิตของฉันคืน”
จุนจีจะไปลีจองกุ๊กขยับขวาง
“ไม่ได้”
“แกเลิกยุ่งกับฉันซะที งานที่ค้างคาอยู่ ฉันก็รับผิดชอบให้หมดแล้ว จะเอาอะไรอีก”
จุนจีผลักออก จะเดินฝ่าไปลีจองกุ๊กกระชากไหล่ไว้
“นายมันเห็นแก่ตัว”
จุนจีชะงัก
“อะไรนะ”
“กว่าบริษัทจะปั้นนายมาขนาดนี้ บริษัทต้องลงทุนไปเท่าไหร่ทีมงานกี่สิบกี่ร้อยคนที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อนายแล้วอยู่ๆนายก็จะล้มโต๊ะ ฉีกสัญญาทิ้ง ไม่เคยคิดถึงคนอื่นเลย”
“ไอ้กุ๊ก ฉันคิดมาตลอดว่าแกเป็นเพื่อน แต่สุดท้าย แกก็ทำทุกอย่างเพื่อบริษัทและตัวแกเอง”
“แล้วที่แกกำลังทำไม่ใช่เพื่อตัวเองเหรอ”
“เออ ฉันจะเห็นแก่ตัว แกจะทำไม”
จุนจีผลักลีจองกุ๊ก แล้วเดินไปเลย
“จุนจีอย่าบังคับให้กุ๊กต้องใช้กำลัง”
จุนจีหันกลับมาขำๆ
“ฮะๆ แกจะชกฉันเหรอ แกแน่ใจแล้วเหรอ ไอ้กุ๊กไก่”
จุนจีหัวเราะเดินไปลีจองกุ๊กอึ้ง
“จุนจี”
ลีจองกุ๊กเดินตามจุนจีมา
“จุนจีจะทิ้งกุ๊กแล้ว ฮือๆ” ลีจองกุ๊กร้องไห้โฮ
จุนจีชะงัก หันกลับมา สงสาร
“แกเป็นบ้าอะไร”
“กุ๊กรู้ว่ากุ๊กห้ามจุนจีไม่ได้ ถึงห้ามได้ กุ๊กก็คงไม่ห้าม กุ๊กเข้าใจจุนจีทุกอย่าง แต่ว่ากุ๊ก...กุ๊กดูแลจุนจีมาตั้งแต่จุนจีเป็นศิลปินฝึกหัด ร้องก็ไม่ได้ เต้นก็ไม่เป็น มันตั้งสิบกว่าปี ห้าพันกว่าวัน ที่กุ๊กอยู่กับจุนจีตลอด แล้วอยู่ๆจุนจีจะเลิกเป็นศิลปิน กุ๊กทำใจไม่ได้”
“ไอ้กุ๊ก เดี๋ยวแกก็ไปเจอเด็กปั้นคนใหม่แกก็จะลืมฉัน”
“ไม่ลืม กุ๊กรักจุนจีเหมือนพี่เหมือนน้อง จุนจีจะอยู่ในใจกุ๊กตลอดไป”
“อย่าเกาหลีให้มากไอ้กุ๊ก...ไทย-เกาหลีใกล้กันแค่นี้แกจะมาหรือฉันจะไปหาแก มันง่ายจะตาย”
“จุนจีก็เหมือนงานศิลปะกุ๊กได้ทุ่มเทพลังในการสร้างสรรค์ไปอย่างเต็มเปี่ยม จนมันเสร็จสมบูรณ์ เป็นงานที่ได้รับการยกย่องระดับโลกแล้ว มันก็ถึงเวลาที่กุ๊กจะต้องเลิกยึดติดกับงานความสำเร็จเก่าๆ แล้วไปสร้างงานใหม่ ที่ไฉไลกว่ากุ๊กเข้าใจแล้วจุนจี”
“บอกแล้วว่าอย่าเกาหลีมาก”
“ก็กุ๊กเป็นเกาหลีอ่ะ”
จุนจีจะไป ลีจองกุ๊กเรียกไว้
“จุนจี...งั้นจุนจีจะว่าอะไรมั้ยถ้ากุ๊กจะขอลบรอยสักชื่อจุนจีออก”
“ตามสบาย”
จุนจีจะไป ลีจองกุ๊กเรียกเอาไว้อีก
“จุนจี...กุ๊กขอกอดจุนจีเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม”
จุนจีตวาด
“ไม่ได้เว้ย”
กรรัมภาวิ่งเข้ามาอย่างรีบเร่งสุดขีด
“จุนจีจะทำอะไรจุนจี...ออกไป”
กรรัมภามาถึงก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมพุ่งเข้าผลักลีจองกุ๊กเต็มแรงจนกระเด็นไป
“กุ๊กยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
กรรัมภาจ้องหน้า
“โกหก”
“หนอย ขโมยงานศิลปะของกุ๊ก แล้วยังมาทำร้ายกุ๊กอีกเหรอ อยากให้กุ๊กยึดคืนไปใช่มั้ย”
คจุนจีตัดบท
“คุณแก้ม ไปเถอะ ไอ้กุ๊กบ้าไปแล้ว”
“เออ กุ๊กบ้าไปแล้ว จะไปไหนก็ไป แฮ่ๆ” ลีจองกุ๊กแยกเขี้ยวใส่
จุนจีคว้ามือกรรัมภาวิ่ง ลีจองกุ๊กโวยวาย
“ไปเลย ไป”
ไตรรัตน์กับสุคนธรสกลับเข้ามาในบ้านเจ๊หญิงกับเสี่ยวิ่งเข้ามา
“อาตี๋น้อย กลับมาแล้ว”เจ๊หญิงดีใจ
อาม่ายิ้มแย้ม
“อาหนูรส”
เสี่ยเข้ามาเรียก
“ตี๋น้อย...มานี่ๆ ป๊ากับม้ามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย”
อาอี๊เรียกสุคนธรส
“หนูรส มาทางนี้ อี๊กับอาม่าก็มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูเหมือนกัน”
เจ๊หญิงกับเสี่ยลากไตรรัตน์แยกออกมาอีกด้านเสี่ยยัดชามยาจีนให้ดื่ม
“เอ้า ดื่มให้หมด”
“ตี๋น้อย...คือ...ม้ากับป๊าไปดูฤกษ์มาเขาบอกว่าสองทุ่มคืนนี้เป็นคืนมหาเฮงเหมาะแก่การปฏิสนธิ”
ไตรรัตน์ ยาแทบพุ่ง
“อะไรนะครับ”
“เด็กที่จะมาเกิดวันนี้จะเป็นมหาบุรุษอภิชาตบุตร ยิ่งกว่าวันเฉลิมอีก”
อีกด้าน...อาอี๊กับอาม่ากำลังเทรนด์สุคนธรสอยู่
อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 26 วันที่ 21/4 พ.ย. 56
บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ